แชร์

ตอนที่ 4 มิติติดตัว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-18 15:13:51

นางเปิดตู้ไม้ออกดู พบว่าด้านในมีกล่องสองถึงสามกล่องเรียงกันอยู่ ด้านบนกล่องยังมีเสื้อผ้าหลากสีเนื้อดีพับเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ เสื้อผ้าเหล่านี้ล้วนมีสีสดใส ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีชมพูบานเย็น หรือสีส้ม ล้วนเป็นสีที่สะดุดตาทั้งสิ้น แม้แต่ชุดที่นางสวมอยู่ก็เป็นสีแดงไม่ต่างจากตัวที่อยู่ในตู้ แต่ส่วนตัวแล้ว นางชอบเสื้อผ้าสีอ่อนมากกว่า

นางเปิดกล่องที่มีขนาดเท่ากันสองกล่อง พบว่ามีผ้าสีเขียวอ่อน สีชมพูอ่อน และผ้าสีขาวอีกหนึ่งผืน เป็นผ้าฝ้ายเนื้อดี นางหยิบผ้าสีขาวออกมา แล้วเก็บผ้าสีอื่นกลับเข้าที่ตามเดิม ผ้าเหล่านี้ดูดีเกินกว่าที่จะสวมใส่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ มันเหมาะกับการใส่เวลาเข้าเมืองมากกว่า

นางเปิดกล่องอีกใบที่ดูเก่ากว่า ภายในเป็นเสื้อผ้าสีน้ำตาลเนื้อหยาบกว่าชุดอื่น เป็นผ้าป่านที่เหมาะกับการสวมใส่ทำงานโดยเฉพาะ เป็นชุดคลุมแขนยาวตัวยาว พร้อมกระโปรงสีน้ำตาลที่พับไว้อย่างดี นางเลือกหยิบออกมาสองชุด

เมื่อล้วงลึกเข้าไปด้านในของตู้เสื้อผ้า นางพบกล่องไม้ไผ่ขนาดเท่าฝ่ามือ เมื่อนางเปิดมันออกดูก็พบว่า ภายในมีก้อนเงินรวมทั้งหมดสองตำลึงเงินกับห้าก้วน อย่างน้อยก็ยังมีเงินติดตัวบ้าง นางจะได้ซื้อเนื้อสดมาทำอาหาร นางเก็บของทุกอย่างที่ไม่ได้ใช้กลับเข้าตู้ตามเดิม

เมื่อหมดความสนใจกับตู้เสื้อผ้า นางจึงเดินไปที่เตียง เตียงนี้มีเตาติดตั้งอยู่ด้านล่าง ปูทับด้วยผ้าหลายชั้น และชั้นบนสุดเป็นสีชมพู บนเตียงยังมีกระจกรูปทรงกลมขนาดเล็กวางอยู่

‘ตั้งแต่นางทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ข้ายังไม่เคยเห็นหน้าตาของเจ้าของร่างเลย’

นางเดินไปหยิบกระจกขึ้นมา แล้วส่องมองใบหน้าของตนเอง…

ซินหลินส่องกระจกแล้วต้องตกใจ เพราะใบหน้าที่มองเห็นในกระจกนั้นมีใบหน้าขาวกระจ่าง แก้มสีแดงที่ทาเป็นวงกลมตรงแก้มทั้งสองข้าง ส่วนปากของนางก็ยังทาสีแดงอีกด้วย!

หยางฉิงคนเก่าคงจะแต่งหน้าไม่เป็นแน่ นางรับไม่ได้กับหน้าตาของตนเอง ถึงได้เข้าใจแล้วว่าเหตุใดตอนที่เดินเข้าไปหาหลี่เซิงเขาจึงมองหน้าด้วยแววตารังเกียจ

นางไม่สามารถยอมรับสภาพของใบหน้าตนเองได้ จึงเดินออกจากห้องไปยังห้องครัวเพื่อล้างหน้า หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว นางก็เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ใช้ผ้าในห้องนอนเช็ดหน้าที่เปียกให้แห้ง ส่องกระจกดูอีกครั้ง นางก็ต้องทึ่งกับใบหน้าที่มองเห็นอยู่ในกระจก เพราะหน้าตาของนางสวย สวยกว่าตัวนางเมื่อก่อนเสียอีก ตากลมโตหวาน ปากจิ้มลิ้มสีชมพู รับกับแก้มป่อง ๆ ดูน่ารัก หยางฉิงคนเก่าช่างแต่งหน้าปกปิดความงามเสียได้ นางไม่ต้องแต่งแต้มอะไรก็งามล้มเมืองอยู่แล้ว... แต่การสวยเกินไปในยุคนี้ก็คงไม่ดี?

นางสังเกตรูปร่างหน้าตาของตนเอง ก็พบว่าร่างนี้ก็ถือเป็นของดีเหมือนกัน เสียอย่างเดียวชีวิตของนางจนมากไปหน่อย แม้ว่าจะมีความสวย แต่ถ้าปราศจากข้าวกินและเงินใช้ก็คงไม่มีประโยชน์

ในเมื่อนางทะลุมิติมาอยู่ในยุคนี้แล้ว น่าจะมีของช่วยเหลือติดตัวมาบ้าง แต่นี่กลับไม่มีอะไรเลย นางตัดพ้อโชคชะตาของตนเอง อย่างน้อยถ้ามีอุปกรณ์ทำแผลก็คงจะดี จะได้ช่วยรักษาแผลให้หลี่เซิงได้ ถ้าใช้ยาในยุคนี้ เขาก็คงไม่มีวันหายดี

ช่วงเวลาที่ซินหลินถอดถอนหายใจ ก็ทำให้นางนึกถึงของใช้ในคอนโดที่อยู่ในโลกเดิม มีของทุกอย่างรวมอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์กายภาพ ที่นอน อาหาร ยา และอุปกรณ์ทำแผลต่าง ๆ นางคิดถึงจนทำให้น้ำตาไหลซึมออกมาจากหางตา นางหลับตาลงเพื่อทำใจให้เย็นลง เมื่อเปิดตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าตัวนางมาอยู่ในห้องนอนในคอนโดที่เคยพักอยู่ ‘ทำไมข้าถึงมาโผล่ที่นี่ได้?’

ห้องนอนของนางนั้นเป็นห้องนอนแบบง่าย ๆ ห้องสี่เหลี่ยมธรรมดา สีห้องทาเป็นสีขาวเข้ากันกับผ้าปูที่นอน ซินหลินเปิดประตูห้องนอนออกไปดู ก็พบกับอุปกรณ์กายภาพบำบัดที่ใช้ดูแลผู้ป่วย วางอยู่ตามชั้นต่าง ๆ ที่นางใช้ศึกษาเรียนรู้ เดินไปอีกฝั่งด้านขวามือก็เห็นประตู เปิดออกไปก็เป็นห้องครัว มีอุปกรณ์การทำอาหารทุกอย่างอยู่ในนั้น รวมถึงอาหารและของกินมากมายในตู้เย็น

นางอยากเอาไข่และเนื้อหมูที่อยู่ในตู้เย็นออกมาทำอาหารให้หลี่เซิงกิน นึกถึงบ้านที่หลี่เซิงอยู่นั้น ร่างของนางก็กลับออกมาอยู่ข้างนอกในห้องนอนของหลี่เซิงโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ในมือของนางยังคงถือไข่ไก่และเนื้อหมูอยู่

นี่คือของวิเศษติดตัวนางมาใช่ไหม? ถ้ามีของพวกนี้ก็ไม่ต้องอดตายแล้ว นางคิดถึงอุปกรณ์ทำแผลที่อยู่ในคอนโด ซินหลินเริ่มทดลองหายตัวกลับไปที่คอนโด และนางก็กลับมาอยู่ในห้องของคอนโดอีกครั้ง นางรู้สึกดีอย่างมาก ทำให้ความเศร้าใจที่เกิดขึ้นเบาบางลง

ซินหลินเดินไปที่ชั้นที่มีอุปกรณ์ทำแผลและยาหลากหลายชนิด นางเลือกหยิบเอายาที่จำเป็นออกมา ได้แก่ ยาแก้ปวด, ยาแก้อักเสบ และยากินฆ่าเชื้อ นางคิดว่าแผลตรงขาของหลี่เซิงควรได้รับการฆ่าเชื้อด้วยยาก่อนและหยิบเอาอุปกรณ์ทำแผลพร้อมทั้งผ้าพันแผลที่ฆ่าเชื้อแล้ว เมื่อคิดว่านางอยากออกไป ร่างกายของนางก็หายออกมาอยู่ที่เดิม

ตอนนี้ซินหลินเดินกลับเข้าไปในห้องของหลี่เซิงอีกครั้ง “ท่านเช็ดตัวเสร็จหรือยัง?” ซินหลินถามเขาที่หน้าห้อง

“เสร็จแล้ว” หลี่เซิงตอบกลับมานางออกไปไม่ดังมากนัก

นางได้ยินเสียงตอบกลับมา จึงเปิดประตูห้องเข้าไป สายตามองเห็นว่าร่างกายของเขาดูสะอาดขึ้นเล็กน้อย แต่ผมของเขายาวและมันมาก ‘ข้าอยากจับเขาสระผมเสียจริง’ แต่ก็ได้แค่คิด เพราะเขาคงไม่ยอม ซินหลินเดินเข้าไปเก็บกระถางใส่น้ำและผ้าออกมา

“ท่านอยากไปถ่ายหนักหรือถ่ายเบาไหม?” นางไม่รู้ว่าเวลาเขาถ่ายหนักเบาต้องทำอย่างไร

หลี่เซิงได้ยินที่หยางฉิงถาม เขาก็มองนาง เหมือนนางจำไม่ได้ว่าเขาต้องใช้ของอะไรในการดูแลตัวเองบ้าง “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าวางถังไม้ไว้ให้ข้าในห้อง?” แต่ก็ยังดีที่นางยกถังไม้เอาออกไปทิ้งให้เขาทุกวัน ถ้าไม่เช่นนั้นในห้องนี้คงเหม็นไปหมด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 57 รู้สึกผิด

    แม่ทัพหันกลับไป ก่อนจะใช้มีดสั้นขว้างไปยังพุ่มไม้ที่คาดว่ามีมือสังหารซุ่มอยู่หลังจากที่เขาปราบชายชุดดำจนสิ้นชีพ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้น นางรีบปีนลงจากต้นไม้แล้ววิ่งตรงไปยังจุดที่หลี่เซิงตกลงไป แม่ทัพมองดูนางที่กำลังร่ำไห้ราวกับจะขาดใจ พลางรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยชายหนุ่มเอาไว้ได้เขาเดินไปตรวจดูศพของชายชุดดำที่สังหารเมื่อครู่ เห็นรอยเลือดและร่างไร้วิญญาณที่นอนแน่นิ่ง ‘คนผู้นี้คงเป็นคนของฉินอ๋อง’ แม่ทัพกัดฟันแน่น เป็นความผิดของเขาเอง ที่ต้องให้คนอื่นมาปกป้องตน“หลี่เซิง! ท่านอย่าเป็นอะไรนะ ฮือ!” หยางฉิงคุกเข่าร้องไห้อยู่ริมหน้าผา น้ำตาของนางไหลไม่ขาดสาย‘ถ้าไม่มีเขา ข้าก็อยู่บนโลกนี้ไม่ได้…’ ในใจของนางเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด คำว่า ‘จากลา’ ผุดขึ้นมาในหัว นางอยากกระโจนตามเขาลงไปเสียด้วยซ้ำ…แม่ทัพเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวที่ปกปิดใบหน้าไว้ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงรู้สึกผิด“ข้าขอโทษ ที่เป็นต้นเหตุให้คนรักของเจ้าต้องตาย”คำพูดของเขาทำให้หยางฉิงตัวสั่นด้วยความโกรธ นางเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาแดงก่ำ “ท่านอย่ามาพูดเช่นนั้น!” นางกัดฟันกรอด ไม่อาจทนฟังได้ “สามีของข้ายังไม่ตาย

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 56 ไม่คาดคิด

    ทั้งสองฟาดฟันกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพราะหลี่เซิงได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว แรงที่ลงไปในดาบจึงไม่มั่นคง ทำให้การโจมตีพลาดเป้าไปหลายครั้ง พวกเขาผลัดกันรุกผลัดกันรับ สู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครกระทั่งหลี่เซิงเห็นจังหวะเหมาะ เขาจึงฟันดาบไปที่ขาของนักฆ่าทันที!นักฆ่าหลบดาบไม่ทัน จึงถูกฟันเข้าจนเกิดบาดแผล แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือความแสบร้อนบริเวณที่ถูกดาบฟัน ราวกับถูกกัดกร่อนจากบางสิ่ง“เจ้า…ทำอะไรกับข้า!?” เขาก้มลงมองบาดแผลตรงขา ก่อนจะเห็นผงสีแดงติดอยู่หลี่เซิงมองแผลของนักฆ่าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ พลางยิ้มมุมปาก “ไม่รู้สิ…” เขาตอบยั่วอีกฝ่ายอย่างจงใจ‘ต้องถ่วงเวลาอีกสักหน่อย…’นักฆ่าเห็นว่าหลี่เซิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ธรรมดา เขาจึงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ก่อนจะใช้มืออีกข้างหยิบมีดเล็กที่พกติดตัวมา แล้วเหวี่ยงไปทางชายตรงหน้าอย่างรวดเร็ว!หลี่เซิงที่กำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ ไม่ทันสังเกตว่ามีดเล็กพุ่งเข้ามา จึงหลบไม่ทันฉึก!มีดเล่มนั้นปักเข้าที่ขาของเขาทันที!‘มีดนี้มีพิษ!’หลี่เซิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขาข้างที่ถูกมีดปักเริ่มชาและไร้ความรู้สึก เขาจึงจำเป็นต้องใช้ขาอีกข้างพยุงตัวเองเอาไว้นักฆ่าห

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 55 เอาตัวรอด

    เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้ง พระจันทร์ก็เคลื่อนเลยปล่องไปกว่าครึ่งแล้ว‘ข้าต้องรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!’หลังจากเก็บของสำคัญไว้กับตัวเรียบร้อยแล้ว หลี่เซิงก็แอบย่องออกจากห้อง เขาเห็นว่าบริเวณหน้าปากถ้ำ ทหารของฝ่ายตนเริ่มเข้าปะทะกับศัตรูด้านในแล้ว เขาใช้จังหวะที่ผู้คนกำลังสับสน หลบซ่อนตัวออกมาระหว่างทาง แม้เขาจะต้องปะทะกับทหารศัตรูอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือสังหารพวกเขา เพียงแค่จัดการให้ไม่สามารถสู้ต่อได้ ในที่สุด หลี่เซิงก็หลบออกมานอกถ้ำได้อย่างปลอดภัยแต่ทันทีที่เขาก้าวออกมา เขากลับสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนกำลังตามเขามา…“นายท่านขอรับ! มีผู้บุกรุกเข้าไปในถ้ำของเราแล้ว ไม่รู้ว่ามันเอาสิ่งใดออกไปบ้าง ทหารที่เฝ้าประตูถูกฆ่าตายทั้งหมด และตอนนี้คนของท่านแม่ทัพกำลังตรวจค้นและยึดสิ่งของที่เราซ่อนไว้”ชายผู้นั้นรายงานสิ่งที่พบเห็นให้ฉินอ๋องได้รับทราบฉินอ๋องยืนฟังรายงานจากนักฆ่าฝีมือดี พลางจ้องมองไปยังค่ายของตนด้วยสายตาดุดัน เขาสังเกตเห็นเงาคนผู้หนึ่งวิ่งหนีออกมาจากค่าย ดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา“เจ้าตามไปจัดการคนผู้นั้น! มันต้องมีของของข้าแน่ ถ้าหาไม่พบ… ก็ฆ่ามันทิ้ง

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 54 ของสำคัญ

    ทางด้านหลี่เซิง เขาหาจุดหลบซ่อนและนำของบางส่วนที่พกมาเก็บไว้อย่างมิดชิด โดยเหลือไว้เพียงสร้อยคอที่สวมติดตัว กับยาที่หยางฉิงให้มา หลังจากนั้นเขาออกค้นหาถ้ำที่ถูกระบุไว้ในจดหมาย จนกระทั่งพบว่า ปากถ้ำมีทหารยามหลายสิบคนเฝ้าอยู่ เป็นเรื่องยากที่เขาจะบุกเข้าไปเพียงลำพัง จึงตัดสินใจรอจังหวะให้คนของท่านแม่ทัพเข้าปะทะกับพวกมันก่อน จากนั้นจึงใช้โอกาสนั้นแทรกตัวเข้าไป ไม่นานนัก เสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเขา เสียงดาบกระทบกันดังไปทั่วค่าย“มีคนบุกรุก!”เสียงตะโกนแจ้งเตือนดังขึ้นในค่าย ทำให้พวกมันรีบจุดไฟส่องสว่างและกรูกันออกไปเผชิญหน้ากับศัตรู“พวกเจ้าคอยเฝ้าปากถ้ำ ข้าจะไปช่วยพวกที่อยู่ด้านนอก!”ชายที่ดูเหมือนหัวหน้าสั่งการเสร็จ ก็พาคนออกไปครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยต่อสู้ด้านนอกหลี่เซิงเห็นโอกาสดี สายตาเขาเจือความเหี้ยมโหด เขาประทับธนู แล้วยิงลูกศรพุ่งตรงไปยังหน้าอกด้านซ้ายของยามเฝ้าปากถ้ำ สังหารไปสองคนในพริบตาเมื่อพวกยามเห็นพวกพ้องล้มลง หนึ่งในนั้นกำลังจะส่งเสียงเตือน หลี่เซิงไม่รอช้า เขาพุ่งตัวเข้าหาพวกมันอย่างรวดเร็ว ชักมีดออกมาแล้วกรีดผ่านลำคอของทั้งสามคนอย่างแม่นยำ ก่อนที่พวกมันจะได้ทัน

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 53 บุกเข้าถ้ำ

    “ข้าเตรียมอาหารและเงินเล็กน้อยไว้ให้ท่านใช้ในยามจำเป็น นอกจากนี้ อย่าลืมพกยาที่ข้าให้ไปด้วย หากท่านรู้สึกเหนื่อย น้ำในกระบอกนี้เพียงจิบเล็กน้อยก็สามารถช่วยฟื้นฟูกำลังของท่านได้ และนี่คือสร้อยนำโชคที่ข้าทำขึ้นเพื่อท่าน อย่าลืมใส่ติดตัวตลอดเวลา อย่าปล่อยให้ตนเองต้องเผชิญอันตรายลำพัง ท่านอย่าลืมว่าข้ายังรอท่านอยู่ที่บ้าน” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความเป็นห่วงหลี่เซิงรับสร้อยคอจากนาง มันมีลักษณะแปลกตา เป็นลูกกลม ๆ สีแดงที่ด้านในหมุนไปมาอย่างลึกลับ เขานำมันสวมไว้ที่คอ ก่อนพยักหน้ารับคำ “ข้ารู้แล้ว ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย”กล่าวอำลาหยางฉิงเสร็จแล้ว หลี่เซิงจึงก้าวออกจากบ้านไป...ขณะมองตามแผ่นหลังของหลี่เซิงที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หยางฉิงก็ปิดบ้านให้เรียบร้อย นางเตรียมตัวเดินทางเช่นกัน ภายในมิติของนางมีสิ่งของจำเป็นพร้อมสรรพ นางแต่งกายด้วยชุดสีดำ ข้างในเป็นกางเกง ส่วนด้านนอกเป็นกระโปรงที่ช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก เสื้อแขนยาวสีดำเชื่อมต่อกับกระโปรง ทำให้นางคล่องตัวขณะเดินป่า และที่คอของนาง... มีเข็มทิศติดตามอยู่หนึ่งอัน...หยางฉิงรอจนกระทั่งหลี่เซิงเดินลับสายตา ก่อนค่อย ๆ ก้าวตามไปอย่างร

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 52 กล่าวลา

    หยางฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่เซิง จึงเอ่ยถามขึ้น “ท่านเป็นอะไรหรือไม่ เหตุใดจึงดูเศร้าเช่นนี้” นางจ้องเขาด้วยความไม่เข้าใจ“เอาไว้กินข้าวเสร็จก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า” เขาพูดพลางกินข้าวต่อจนหมด วันนี้เขากินน้อยกว่าทุกวันเมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่เซิง หยางฉิงก็รู้สึกใจคอไม่ดี นางกินข้าวไปพลางคิดไปว่าหลี่เซิงต้องการจะบอกอะไรกับนางกันแน่หลังจากนางกินเสร็จ หลี่เซิงจึงเอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้เราไม่ได้เข้าเมืองไปขายของใช่หรือไม่”“ใช่แล้ว พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเรา” นางตอบพร้อมจิบน้ำ “ท่านมีเรื่องอะไรจะบอกข้าหรือไม่” นางถามสิ่งที่ติดค้างในใจ“ข้ามีเรื่องที่ต้องบอกเจ้า พรุ่งนี้ข้าอาจต้องออกไปทำเรื่องบางอย่าง เจ้าอยู่คนเดียวต้องปิดบ้านให้ดี หากข้าไม่ได้กลับมาหลายวัน เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าอาจต้องใช้เวลานานเสียหน่อย” เขาตัดสินใจบอกนางถึงเรื่องที่ต้องขึ้นเขาหยางฉิงที่ได้ฟังทำหน้าตกใจ “ท่านไปทำสิ่งใด บอกข้าได้หรือไม่ แล้วมันอันตรายหรือเปล่า” นางรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลยหลี่เซิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะมองหน้านางด้วยสายตาลึกซึ้ง ราวกับต้องการจดจำภาพของนางให้ได้นานที่สุด “ทั้งอันตรายและไม่อันตราย ถ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status