Share

ตอนที่ 3 ปรับเปลี่ยน

last update Last Updated: 2025-04-18 15:11:25

นางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยขณะตักน้ำ แต่แล้วเสียงไอที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ก็เรียกสติของนางให้กลับมา ซินหลินรีบตักน้ำจนเต็มถัง ก่อนจะเร่งเดินกลับไปในครัวเพื่อเตรียมต้มน้ำ

หลี่เซิงไอจนใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากแห้งผากเพราะไม่ได้รับอาหารและน้ำมาหลายวัน เขาได้ยินเสียงของนางที่พูดขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้อง เขาหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง ท้ายที่สุดแล้ว นางก็ยังเป็นเช่นเดิม...

เป็นนางที่ไม่เคยรักและใส่ใจเขา เป็นหญิงสาวที่เห็นแก่ตัวอยู่เสมอ...

ซินหลินนำถังน้ำกลับเข้ามาในบ้าน ก่อนจะวางไว้หน้าเตาถ่านที่ยังมีไม้แห้งเหลือพอให้ใช้จุดไฟ นางพยายามจุดไฟอย่างชำนาญ แม้ชีวิตก่อนหน้านี้ของนางจะไม่เคยลำบากถึงเพียงนี้ แต่นางก็ไม่ได้อ่อนแอเกินกว่าจะเรียนรู้การทำอาหาร หรือจุดไฟเองได้

เมื่อก่อน ตอนที่ฝึกงาน นางเคยต้องขึ้นเขาไปอยู่ในหมู่บ้านที่ยากจน เพื่อฝึกงานเป็นเวลาหลายเดือน วันเวลาเหล่านั้นทำให้นางได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายที่ไม่มีสอนในห้องเรียน นางรู้สึกขอบคุณประสบการณ์เหล่านั้น ที่ทำให้นางสามารถเอาตัวรอดในที่แห่งนี้ได้

เมื่อน้ำเดือด นางตักน้ำใส่ถ้วย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของหลี่เซิงอีกครั้ง

“ข้าเอาน้ำมาให้ท่าน ท่านคงไม่ว่าอะไรหากข้าจะดูแลท่านบ้าง” นางพูดพร้อมกับวางถ้วยน้ำไว้ข้างตัวเขา

หลี่เซิงมองดูน้ำร้อนที่วางอยู่ตรงหน้า ความกระหายที่กดเก็บไว้ก็แล่นขึ้นมาในทันที เขาละทิฐิที่เคยมีต่อนาง แล้วหยิบถ้วยน้ำขึ้นดื่มจนหมด รู้สึกชุ่มคอขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่หายกระหายเสียทีเดียว

ซินหลินมองสามีที่นางได้มาโดยไม่คาดคิดดื่มน้ำจนหมดถ้วย ก่อนจะเอ่ยถาม “ท่านยังต้องการน้ำอีกหรือไม่”

หลี่เซิงไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่หันหน้าไปมองออกนอกหน้าต่าง

ซินหลินเห็นท่าทางของเขาแล้วก็พอจะเข้าใจว่าเขายังต้องการน้ำ นางยืนอยู่ใกล้กับชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของตน จึงถือโอกาสสำรวจเขาอย่างละเอียด

ชายผู้นี้มีเค้าโครงหน้าที่ดูดี คิ้วเข้มโดดเด่น ดวงตาคมดุดัน และร่างกายสูงใหญ่ แต่บัดนี้ ใบหน้าของเขาซูบผอมแทบติดกระดูก ไม่รู้ว่าเขาอดอาหารมานานเพียงใด…

‘แต่ก็นับว่ายังดี สามีที่ข้าเพิ่งได้มา ดูจะเป็นชายรูปงามและน่าจะฉลาดไม่น้อย’ นางคิดในใจ

หลี่เซิงรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องมอง จึงหันกลับไปมองนาง และบังเอิญสบตากันพอดี

เขาไม่แน่ใจว่าตนคิดไปเองหรือไม่ แต่สายตาของนางดูเปลี่ยนไปจากเดิม รูปร่างหน้าตานางก็ยังเป็นภรรยาของเขา ทว่าความรู้สึกบางอย่างกลับแตกต่างออกไป…

ซินหลินตกใจกับสายตาที่เขาจ้องมองมา นางรีบหยิบถ้วยขึ้นมาแล้วกล่าว “ข้าจะไปเอาน้ำมาให้ท่านเพิ่ม” จากนั้นจึงหลบสายตาเขา แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง

‘เขาจะรู้หรือไม่ว่าข้าไม่ใช่หยางฉิงคนเดิม’ นางคิดอย่างกังวลอยู่ในใจ ตอนที่สบตากับเขา ดูเหมือนว่าเขากำลังสงสัยในท่าทีที่เปลี่ยนไป

นางเลิกคิดฟุ้งซ่าน แล้วตักน้ำที่เหลืออยู่ในหม้อออกมา ขณะเดินออกจากห้องครัว สายตาก็เหลือบไปเห็นถังไม้ขนาดไม่ใหญ่มากที่ถูกทิ้งไว้ นางจึงหาผ้าที่พอใช้ได้และนำน้ำอุ่นเข้าไปในห้องของหลี่เซิง พร้อมกับน้ำดื่ม

หลี่เซิงเห็นนางเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง คิ้วของเขาเลิกขึ้นข้างหนึ่งด้วยความแปลกใจ ในมือนางมีถังน้ำติดมาด้วย นางจะทำอะไรกัน?

“เจ้าเอาถังน้ำเข้ามาทำไม?”

“ข้าอยากจะเช็ดตัวให้ท่าน และจะเอาเสื้อผ้าของท่านไปซัก” นางตอบตามตรง ที่นี่ไม่มีทั้งสบู่และครีมอาบน้ำ นางจึงต้องให้เขาใช้น้ำเปล่าเช็ดตัวไปก่อน

“ไม่ต้อง! ข้าทำเองได้ แค่วางถังน้ำไว้ก็พอ” เขาปฏิเสธทันที ไม่อยากให้นางแตะต้องตัวเขา

นางเห็นว่ามือของเขายังใช้การได้ดี แต่ขาของเขาดูจะบาดเจ็บหนัก ผ้าที่ใช้พันแผลไว้เริ่มส่งกลิ่นเหม็นและมีคราบเลือดติดอยู่ หากมีอุปกรณ์ทำแผลก็คงจะดี นางอยากช่วยรักษาเขา เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ เขาอาจต้องตัดขาทิ้งก็เป็นได้…

“ข้าวางน้ำไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน ท่านมีชุดเปลี่ยนหรือไม่?”

หลี่เซิงไม่ได้ตอบ แต่เหลือบสายตาไปทางถุงผ้าที่วางอยู่ปลายเตียงแทนคำตอบ

ซินหลินมองตามไป ก็พบว่ามีห่อผ้าวางอยู่ตรงนั้น นางเดินเข้าไปหยิบห่อผ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นขึ้นมาเปิดดู พบเสื้อผ้าสีพื้นเรียบง่าย แม้จะดูเก่าแต่ยังใช้งานได้ นางเลือกเสื้อตัวยาวสีน้ำตาล กางเกงสีน้ำตาล และผ้ามัดเอวออกมาวางไว้ใกล้ตัวเขา นางสังเกตว่าชุดที่เขามีอยู่มีเพียงสองชุด รวมกับชุดที่เขาสวมอยู่ก็เป็นเพียงสามชุดเท่านั้น เมื่อล้างตัวเสร็จ นางจะนำเสื้อผ้าเหล่านี้ไปซักทั้งหมด

“ถ้าท่านเช็ดตัวเสร็จแล้ว ก็วางเสื้อผ้าไว้ข้างตัว เดี๋ยวข้าจะเข้ามาเก็บ พร้อมกับเสื้อผ้าที่ท่านใช้แล้ว… อ้อ ข้าอยากดูแผลที่ขาของท่านด้วย” นางรีบบอกเหตุผลก่อนที่เขาจะปฏิเสธ “พอดีข้าเจอท่านหมอหลี่เทา เขาฝากให้ข้าเปิดดูแผลของท่าน และนำอาการไปบอกเขาอีกครั้ง”

หลี่เซิงได้ฟังแล้วก็เงียบไป ไม่ได้ปฏิเสธ นางสังเกตได้ว่าเขารู้จักหมอประจำหมู่บ้านผู้นี้ดี และดูเหมือนจะเชื่อใจเขา

“เจ้าออกไปเถอะ ข้าจะเช็ดตัวแล้ว” เขาพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางหน้าต่าง ซ่อนสีแดงเรื่อบนใบหน้าเอาไว้

‘ชิ หยิ่งเสียจริง กลัวข้าจะเห็นร่างกายของเขาหรืออย่างไร? ข้าเห็นร่างกายของผู้คนมามากแล้ว’ นางบ่นเขาอยู่ในใจ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ปล่อยให้เขาเช็ดตัวเอง

เมื่อออกมาจากห้อง นางกวาดตามองสำรวจรอบ ๆ บ้าน พบว่าบ้านหลังนี้มีสองห้องนอน มีครัวและโต๊ะกินข้าวตั้งอยู่ด้านนอก หากห้องเมื่อครู่เป็นห้องของสามี ห้องที่อยู่ข้างกันก็น่าจะเป็นห้องของเจ้าของร่างนี้

นางเดินเข้าไปในห้องที่เหลือ พบว่าห้องนี้สะอาดกว่าด้านนอกมาก เตียงนอนก็ดูใหญ่กว่าเตียงของสามีเสียอีก ทุกอย่างภายในห้องตกแต่งด้วยสีชมพู และมีตู้ไม้อยู่หนึ่งหลัง เป็นตู้ไม้เก่าขนาดไม่ใหญ่มาก มีสีน้ำตาลที่ดูหมองไปตามกาลเวลา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 102 รักษาสัญญา [จบ]

    วันหนึ่ง นางเดินทอดน่องชมร้านดอกไม้ มีเพียงบ่าวรับใช้หนึ่งคนติดตามมาด้วย ขณะกำลังเพลิดเพลินกับดอกไม้ตรงหน้า นางก็เดินชนใครบางคนเข้าอย่างจังสายตาทั้งคู่สบกันหัวใจของหลี่หยูฟางพลันเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่นางจดจำได้ไม่ลืม เพียงแวบเดียว...นางรู้ทันทีว่าเขาคือใครทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยทัก เขาก็เบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินจากไป‘เขาหนีข้าไปอีกแล้ว...’ นางคิดในใจด้วยความเจ็บปวด คราวนี้นางไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว นางเติบโตพอจะออกเรือนได้ด้วยซ้ำ...ฝ่ายชายหนุ่มเมื่อเหลือบเห็นสีหน้าผิดหวังของหญิงสาว ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ นางโตขึ้นมากจริง ๆ งดงามยิ่งนักผู้ติดตามที่คอยเฝ้าดูอยู่ข้างกายเขา ถึงกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อนายท่านของเขาแย้มยิ้มอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตานั้น ชายหนุ่มจึงหุบยิ้มลงทันที สายตาเหม่อมองเมืองหลวงเบื้องหน้า เมืองที่เขาเคยมาเมื่อห้าปีก่อน บัดนี้เปลี่ยนไปมากจนแทบจำไม่ได้...เว้นเสียแต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของนาง ที่ยังคงติดอยู่ในใจเขาไม่จางหายหลังจากวันนั้น เขาก็หาเรื่องใกล้ชิดนางอยู่หลายครั้ง บ้างแกล้งเดินชน บ้างแกล้งทำของตก เพื่อให้มีโอกาสพูดค

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 101 ส่งถึงฝั่ง

    ด้านหลี่หยูฟาง นางลอบออกมานอกเรือน เดินไปยังจุดที่เคยพบเด็กชายผู้นั้น ตามที่นางสังเกต เด็กคนนั้นน่าจะมีอายุมากกว่านางเล็กน้อย และอาจจะน้อยกว่าพี่ชายของตนอยู่บ้างแต่เมื่อมาถึงจุดเดิม กลับไม่พบร่างของเด็กชายคนนั้นเสียแล้ว...นางถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความเสียดาย แล้วกำลังจะหันหลังกลับทว่าในเงามืดเบื้องหลัง ปรากฏร่างของเด็กชายผู้หนึ่ง ผมยาวสลวยรวบเป็นมวยต่ำด้านหลัง ใบหน้าขาวกระจ่าง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววเจ้าเล่ห์แฝงอยู่เพียงชั่วครู่ เขามองเด็กหญิงวัยสิบขวบตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเฉยเขาเห็นว่านางกำลังมองหาใครบางคนอยู่ และเฝ้ามองนางเงียบ ๆ ไม่เผยตัว จนกระทั่งนางหันหลังกลับ จึงจงใจขยับตัวให้เกิดเสียงเสียงเบา ๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่หยูฟางหันขวับไปมอง และเมื่อพบว่าเป็นคนที่นางกำลังตามหา ดวงตาของนางก็เปล่งประกายทันใด “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย! ข้านึกว่าเจ้ากลับไปเสียแล้ว” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีเด็กชายผู้นั้นกลับไม่ตอบอะไร เพียงจ้องมองนางอย่างนิ่งเงียบเมื่อนางไม่ได้รับคำตอบ สีหน้าของหลี่หยูฟางก็พลันหม่นลงเล็กน้อย นางรู้สึกเสียใจลึก ๆ กับท่าทีเย็นชาของเขา...เมื่อเห็นเขาไม่ตอบ หลี่หยูฟางจึงถ

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 100 เติบโต

    ภายในห้องนอน หยางฉิงหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยล้า โดยมีหลี่เซิงนอนกอดอยู่เคียงข้าง ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันตลอดทั้งคืน จนกระทั่งยามนี้จึงได้หลับพักผ่อนอย่างแท้จริงเมื่อทั้งสองตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว จึงออกมาจากมิติ หลี่เซิงดูสดชื่นกว่าทุกวัน เพราะเมื่อคืนเขาได้เติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไป หยางฉิงมองเขาอย่างหมั่นไส้น้อย ๆ เมื่อออกจากห้อง นางก็พบว่าลูกชายทั้งสองออกจากห้องไปนานแล้ว ตอนนี้พวกเขาโตพอที่จะไม่ติดแม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว...เวลาแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้เข้าสู่ปีที่สอง หยางฉิงตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว ท้องครั้งนี้ของนางไม่ใหญ่เท่าตอนท้องลูกชาย ทำให้นางคิดว่าน่าจะได้ลูกเพียงคนเดียวนางมาพักอยู่ในเรือนที่เมืองหลวง เพราะอย่างน้อยก็สามารถออกมานั่งเฝ้าร้าน ดูแลกิจการหน้าร้านได้บ้าง จึงไม่รู้สึกเบื่อมากนักเมื่อเข้าสู่เดือนที่เก้า หยางฉิงคลอดลูกตามที่คาดหวังไว้ เป็นเด็กหญิงตัวอวบอ้วนน่ารักน่าชัง เด็กน้อยเปรียบเสมือนสีสันใหม่ของครอบครัว หยางฉิงจึงตั้งชื่อให้ลูกสาวว่า ‘หลี่หยูฟาง’ แปลว่า กลิ่นหอมละมุน เพราะนางเกิดมาพร้อมกลิ่นกายหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ ใครเข้าใกล้ก็อดที่จะอยากอุ้มนางไม่

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 99 สั่งสอน (แสดงความรักนิดหน่อย)

    เมื่อชายชรานั่งรถเกวียนมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ก็มีผู้คนออกมาต้อนรับมากมาย พร้อมกับเสียงเรียกขานว่า“เชิญเสด็จพะยะค่ะ ฝ่าบาท!”เสียงเรียกขานเปี่ยมด้วยความยินดีดังขึ้นพร้อมกันเมื่อชายชราได้ยินคำเรียกขานนั้น เขาถึงกับถอนหายใจเบา ๆ ความสนุกตลอดหลายวันที่เขาแอบออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ตนเคยปกป้องดูแล บัดนี้จำต้องวางลงเสียแล้ว...ทางด้าน หยางฉิง นางยืนอยู่ต่อหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งสุขุมเยือกเย็น อีกคนกลับซุกซนเอาเรื่อง นางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้าให้ลูกชายคนโตหยางฉิงเพิ่งได้ฟังเรื่องราวจากท่านตาโจวเล่อ นางหันไปมองหลี่เต๋อชางด้วยแววตาภาคภูมิใจ เขาช่างละม้ายคล้ายสามีของนาง เพียงแต่เงียบขรึมกว่า ต่างจากหลี่เจียเฉิงโดยสิ้นเชิงนางถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ เมื่อคิดว่าลูกชายคนโตแอบออกไปเล่นตอนไหน ถึงกับไปแกล้งลูกของท่านอ๋องสามจนร้องไห้ ดีที่ท่านอ๋องไม่ติดใจเอาความอะไรหยางฉิงปรายตามองหลี่เจียเฉิงด้วยสายตาดุเมื่อหลี่เจียเฉิงเห็นสายตาของมารดา เขาก็หลบตาลงทันที“เจ้ารู้ไหมว่าวันนี้เจ้าทำอะไรผิดไป?” นางถามด้วยน้ำเสียงเข้มได้ยินเช่นนั้น หลี่เจียเฉิงสะด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 98 ชายชรา

    หลี่เจียถิง บุตรชายคนโต เป็นเด็กฉลาด ช่างพูด และกล้าแสดงออก ต่างจากหลี่เต๋อชาง ซึ่งเป็นเด็กช่างสังเกต เงียบขรึม และไม่ค่อยพูดเท่าใดนัก นางให้ลูกทั้งสองทดลองฝึกงานในกิจการของนางทั้งหมด หลี่เจียถิงชอบฝึกฝนในโรงเตี๊ยมและโรงทำน้ำมันพริก ส่วนหลี่เต๋อชางกลับชอบกิจการในเมืองหลวงและโรงเรือนทำยามากกว่า โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพรที่เขาสนใจเป็นพิเศษนางไม่คิดจะบังคับ หากพวกเขาชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด นางก็จะตามใจ ไม่ว่าในอนาคตพวกเขาจะสานต่อกิจการหรือไม่ก็ตาม เพราะตอนนี้พวกเขายังเด็กนัก นางจึงไม่อยากให้ต้องคิดมากเหมือนผู้ใหญ่วันหนึ่ง ขณะที่นางกำลังยุ่งกับการดูแลร้านเทียนเจินถัง นางจึงฝากหลี่เต๋อชางให้อยู่กับท่านตาโจวเฉียวทางด้านโจวเฉียวกำลังนั่งคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาได้ทำงานกับหยางฉิงมาเกือบห้าปีแล้ว เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานที่นี่ ตอนนี้โจวเล่อก็เติบโตพอจะช่วยงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเด็กเรียนดี เขาจึงไม่ค่อยเป็นกังวลนักโจวเฉียวเหลือบมองหลี่เต๋อชาง ซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะคิดเงินด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ เขารู้สึกเอ็นดูเด็กชายผู้นี้เหมือนเป็นหลานแท้ ๆ หลี่เต๋อชางเป็นเด็กฉลาดเกินวัย นั่นทำให้เขาอด

  • ทะลุมิติทั้งทีดันมีสามีเป็นผู้พิการ   ตอนที่ 97 เป็นคนดี?

    เมื่อพูดจบ นางก็เหลือบมองสีหน้าของทั้งสองคนอ๋องสามที่รู้ว่ายาร้าน เทียนเจินถัง เป็นของดีจริง ๆ เคยกลับไปเพื่อซื้อยาเพิ่ม แต่กลับได้รับข่าวว่ายาทั้งหมดถูกขายหมดไปแล้ว ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าอาจารย์ของนางจะส่งยาชนิดใหม่มา เขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้เช่นกัน“ถ้าอาจารย์ของเจ้านำยาเข้ามาขายอีก เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าได้หรือไม่?” เขาถามเสียงเรียบหวังจวิ้นเจี้ยงที่ถูกท่านอ๋องตัดบทไปก็รีบพูดขึ้นทันที “ถ้าเช่นนั้น เจ้าส่งคนมาแจ้งข้าด้วย ข้าเองก็อยากรู้ว่ายาตัวใหม่ของอาจารย์เจ้าจะเป็นยาแบบใดกันแน่”หยางฉิงเห็นความวุ่นวายตรงหน้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ “ท่านทั้งสองวางใจได้เจ้าค่ะ ข้าจะให้คนเข้าไปแจ้งทั้งสองท่านอย่างแน่นอน”เมื่อพูดจบ นางก็แย้มยิ้มออกมา อาจารย์ที่ว่านั้นก็คือตัวนางเอง หากมีเวลาว่างเมื่อใด นางก็จะคิดค้นและปรุงยาขึ้นในเวลานั้น ร้านของนางไม่ได้เป็นร้านขายยาโดยตรง เพียงแต่นำยามาขายเสริม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ร้านของนางเป็นที่อิจฉาของร้านยาดัง ๆ หลายแห่งแล้ว อย่างไรก็ตาม นางยังโชคดีที่มีคนคอยคุ้มกันอย่างดี พวกนั้นจึงไม่กล้าก่อเรื่องกับครอบครัวของนางโดยตรงเมื่อทั้งสองได้รับคำมั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status