ราชวงศ์ฉิน (秦) มาจากชื่อแคว้นฉินของสกุลอิ๋ง (嬴) เดิมอยู่ในแถบเสฉวนทางตะวันตกของจีน แต่ได้ขยายอำนาจและย้ายศูนย์กลางการปกครองเข้ามายังภูมิภาคกวนจง (關中) หรือภาคกลางของจีนจนรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งสถาปนาจักรวรรดิแห่งแรกขึ้นได้สำเร็จ
สงครามเพื่อรวมชาติของฉิน เป็นชุดสงครามที่เริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาลโดย รัฐฉิน ต่อต้าน อีกหก มหาอำนาจที่เหลืออยู่ในจีน ได้แก่ ฮั่น จ้าว ห ยาน เว่ย ฉู่ และ ฉี ระหว่างปี 247 ถึง 221 ก่อนคริสตกาล ฉินได้พัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งใน เจ็ดรัฐสงคราม ที่ทรงอำนาจที่สุดของจีนที่รวมตัวกันหลังจากการเสื่อมถอยของ ราชวงศ์โจว "ห้ามเข้า!" ทหารรักษาที่พักชั่วคราวของท่านอ๋องหลียกดาบขึ้นเพื่อกันไม่ให้ทหารนายหนึ่งเข้าไปด้านใน "อย่าขวางข้า ถ้ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องทูลให้อ๋องหลีได้รับทราบ" ทหารนายนั้นกล่าวขึ้นเสียงแข็ง ทำให้ทหารอีกสองคนที่ใช้ดาบขวางทางต้องเปิดดาบออกทันที ภายในกระโจมชั่วคราวสำหรับท่านอ๋อง ด้านในกว้างขวาง ท่านอ๋องหลีเป็นผู้บัญชาการทหารหนึ่งในใต้หล้า ออกรบมาเป็นร้อยเป็นพันสนาม เขาชนะทุกศึก ไม่ว่าจะศึกน้อยหรือศึกใหญ่ ศึกนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่กองทัพของดินแดนฮั่นไม่สามารถต้านทานกองทัพของเขาได้ พ่ายแพ้ไปอย่างเสียเกียรติ คืนนี้จะมีการเฉลิมฉลองชัยชนะในการสู้รบ "ท่านอ๋องหลีขอรับ" อ๋องหลีที่กำลังยกจอกเหล้าเข้าปากถึงกับชะงัก ก่อนที่จะมองพลทหารลาดตระเวนที่เข้ามายังที่พักของเขายามวิกาล "เจ้ามีเรื่องอะไร ถึงได้เข้ามาหาข้าในยามนี้"อ๋องหลีถามทหารด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสำราญ แต่ถ้ามีเหตุที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันก็สามารถเข้าพบเขาได้ทันที "ท่านอ๋องหลี ข้าลาดตระเวนอยู่ด้านนอก ข้าเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังตรงมาที่เรา ข้าคิดว่าน่าจะเป็นคนของดินแดนโจวขอรับ" อ๋องหลีวางจอกเหล้าลงที่โต๊ะด้านหน้าของเขา เมื่อได้ยินพลทหารรายงานว่าเจอคนของฝั่งดินแดนโจว "เจ้าคิดว่ามันมีกำลังมากน้อยเพียงใด" อ๋องหลีถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น "เรียนท่านอ๋อง ข้าน้อยคาดการณ์ว่าน่าจะมีประมาณ 2000 คนขอรับ" อ๋องหลีหัวเราะในลำคอทันที มีกำลังพลเพียงแค่หยิบมือกับกล้าเข้ามาหวังจะตีกองกำลังของเขา ช่างน่าขันเสียจริง เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ "สั่งทหารของเราให้วางกำลังให้แน่นหนา ปล่อยให้มันเข้ามา จะได้จู่โจมมันในครั้งเดียว" อ๋องหลีสั่งการทันที อีกไม่กี่วันกองกำลังที่ว่านั่นก็คงจะถึงกองทัพของเขา เขาจะแสดงให้มันดูว่ากองทัพของท่านอ๋องหลีไม่ใช่ธรรมดา "ท่านอ๋องขอรับ เราพบพวกสอดแนมขอรับ" ยังไม่ทันที่พลทหารคนแรกจะเดินออกไปจากกระโจม พลทหารคนที่สองก็เข้ามารายงานว่าเจอพวกสอดแนมหวังเข้ามาสืบข่าวในกองทัพของเขา ทำให้อ๋องหลีถึงกับหน้าตึงทันที ไม่มีใครกล้าล้วงคองูเห่าได้ถึงขนาดนี้ มันช่างกล้าจริงๆ "นำทางข้าไป จับมันได้แล้วหรือไม่" อ๋องหลีกล่าวขึ้นด้วยความโมโห "ไม่ได้จับเลยขอรับ เหมือนมันจะสิ้นสติเพราะอะไรไม่ทราบได้ แต่ข้าน้อยรู้สึกว่า มันแต่งกายดูแปลกๆขอรับ" อ๋องหลีเดินตามพลทหารที่เข้ามารายงานว่าเจอทหารสอดแนมในกองทัพของเขา เขาก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าที่พลทหารบอกว่ามันแต่งกายแปลกๆนั้นเป็นเช่นไร ทันทีที่เดินมาถึง เขามองเห็นเป็นชายร่างเล็ก แต่งกายแปลกประหลาด กำลังถูกทหารของเขาจับขึงไปกับต้นไม้ เพื่อกันไม่ให้หนีรอด "ทำไมมันถึงสิ้นสติ ลองให้ท่านหมอเกอมาดูอาการแล้วหรือยัง" อ๋องหลีถามด้วยความสงสัย อาการแบบนี้มันไม่ธรรมดา การแต่งกายก็ไม่ธรรมดา ไม่รู้ว่าเป็นคนของดินแดนใด เขาไม่สามารถไว้ใจใครได้เลย "ท่านหมอเกอ มาตรวจอาการดูแล้วขอรับ ดูเหมือนว่าจะสิ้นสติธรรมดา แต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ข้าน้อยคิดว่าน่าจะเป็นอันตรายสำหรับกองทัพเราก็เลยมัดติดกับต้นไม้ไว้ก่อนขอรับ" อ๋องหลีมองชายผู้แปลกประหลาด เขาเองก็คิดเหมือนกันว่าชายผู้นี้น่าจะมีอันตราย การผูกไว้แบบนี้ก็ปลอดภัยดี "ให้ทหารของเราเฝ้าไว้ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินอันใดก็ไปตามข้าที่กระโจม" อ๋องหลีกล่าวพร้อมกับหมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที เขาไม่ได้เห็นหน้าตาของชายผู้นั้น เพราะชายผู้นั้นก้มหน้าอยู่ตลอดเวลาด้วยความที่ไม่มีสติ แต่เขาก็ไม่ได้อยากดูหน้าตาของมันหรอก เพราะพรุ่งนี้ก็จะประหารมัน โทษฐานที่มันเป็นคนที่บังอาจบุกเข้ามาในกองทัพของเขา หลังจากที่อ๋องหลีออกไปจากบริเวณนั้น ทหารสองคนยืนเฝ้าคนแปลกหน้าที่จับได้ ตามคำสั่งของท่านอ๋อง พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่ถูกมัดกำลังขยับตัว อาเฟยรู้สึกว่าหัวของเขากำลังหนักอึ้ง เสียงของแม่หายไปแล้ว เขาเดินตามเสียงร้องของแม่มาเรื่อยๆในที่สุดทุกอย่างมันก็มืดลง ความมืดทำให้เขาปวดหัว ตอนนี้เขาพยายามที่จะลืมตาขึ้น จนในที่สุดเขาก็ลืมตาได้ เขามองไปรอบๆ ก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาด ร่างกายเขาขยับไม่ได้ เขาลองมองดูข้างล่างปรากฏว่าร่างกายของเขาถูกมาติดกับต้นไม้ มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆเขาถึงได้ถูกมัดติดกับต้นไม้ แถมยังมีชายสองคนที่แปลกประหลาดยืนห่างออกไป แต่ถ้าเขาดูไม่ผิด ชายสองคนนั้นกำลังหลับอยู่บรรยากาศในจวนอ๋องหลีเงียบสงบ เมื่อเจ้าของจวนอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งอยู่ในห้องด้วยท่าทีนิ่งเงียบ บนเตียงนอนยังคงเป็นว่าที่พระชายาของอ๋องหลี รอคอยการแก้พิษ "อ๋องหลีขอรับ ทหารที่ไปนำยามาถึงแล้วขอรับ"ทันทีที่ได้ยินเสียงทหารของตนรายงานว่าทหารที่ไปนำยามาถึงจวนเรียบร้อยแล้ว อ๋องหลีถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ"ไปตามท่านหมอเกอมา!" อ๋องหลีออกคำสั่งทันที ท่านหมอเกออยู่ดูแลอาเฟยตลอด 2 วันที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับไปพักที่ห้องรับรองที่เขาจัดให้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทันทีที่ท่านหมอเกอมาถึง จัดการผสมยาแล้วจับกรอกเข้าไปในปากของอาเฟยทันที"เป็นยังไงบ้างท่านหมอเกอ คนรักของข้าจะหายหรือไม่""ตอนนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วท่านอ๋อง เราทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว มันก็อยู่ที่ว่าร่างกายของว่าที่พระชายาจะสามารถซึมซับเอาตัวยาเข้าไปรักษาพิษได้มากน้อยแค่ไหน"คำพูดของท่านหมอเกอทำให้อ๋องหลีถึงกับเซ ไม่มีคำยืนยันจากท่านหมอเกอว่าอาเฟยจะฟื้น อ๋องหลีรีบถลาไปที่เตียงนอนพร้อมกับจับมือคนรักขึ้นแนบแก้มทันที"กลับมานะอาเฟย กลับมาหาพี่ พี่รู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนในโลกของพี่ พี่รู้ว่าเจ้าสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ แต่ได้โปรดเถ
"อาเฟยลูก"เสียงนี้อีกแล้ว เสียงที่เหมือนแม่เรียกคำพูดเดิมที่เคยได้ยิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเสียงนี้มันคือเสียงใครกันแน่ คราวที่แล้วเสียงนี้เรียกเขาให้เดินตามไปจนในที่สุดเขาก็หลงเข้าไปในยุคโบราณ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้ว เขายังคงได้ยินเสียงนี้อยู่อีก"อาเฟยลูก"อาเฟยลืมตาขึ้น ก่อนที่จะมองไปรอบๆ "อาเฟย" เสียงเรียกย้ำทำให้อาเฟยหันกลับไปมอง"แม่!" สิ่งที่เขาเห็นนั่นคือแม่ของเขาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก แม่คนเดิมที่ใจดีของเขา"คนดีของแม่ เหนื่อยไหมลูก""ไม่เหนื่อยเลยครับแม่ ผมมีความสุขมากๆเลยที่ได้อยู่กับท่านพี่ แต่ทำไมตอนนี้บรรยากาศมันดูแปลกๆนะครับ มันเกิดอะไรขึ้น""มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอก แม่แค่อยากถามลูก ว่าระหว่างชีวิตในยุคปัจจุบันของลูกกับชีวิตที่กำลังเป็นพระชายาของอ๋องหลี ลูกชอบชีวิตแบบไหน"อาเฟยคิ้วขมวดทันที นั่นสินะ เขาใช้ชีวิตกับอ๋องหลีมาเกือบ 1 ปี จนลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนในยุคปัจจุบันไม่ใช่ยุคอดีต ลืมตัวตนการเป็นอาเฟย ศักดินามนตรี ไปซะสนิทเลย "ทำไมแม่ถามผมแบบนี้ล่ะครับ หรือว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับยุคปัจจุบันแล้วเหรอ" น้ำเสียงที่เศร้าใจของลูกชายทำให้ผู้
ข่าวการแต่งตั้งพระชายาเป็นบุรุษเพศแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรฉิน ข่าวนี้ทำให้ชิงชิงไม่พอใจ นางคิดว่าท่านลุงของนางที่เป็นเสนาบดีจะสามารถช่วยบังคับให้ฮ่องเต้แต่งตั้งนางเป็นพระชายาของอ๋องหลีได้ แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นางต้องการ กลับกลายเป็นตอนนี้มีพระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยเป็นพระชายาอย่างถูกกฎหมาย ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้"พอเถอะนะชิงชิง ลุงพยายามแล้ว แต่ไม่สามารถขัดพระราชโองการของฝ่าบาทได้ ถ้าเรายังคัดค้านอยู่แบบนี้ตระกูลของเราคงไม่พ้นถูกประหารตามพระราชอาญาแน่นอน""แต่ท่านลุงเจ้าคะ ชิงชิงเสียศักดิ์ศรีในจวนอ๋องไปตั้งหลายปี ไม่มีใครอยากร่วมหอลงๆกับชิงชิง ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ล่ะเจ้าคะ"ชิงชิงร้องไห้ด้วยความเสียใจ ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของอ๋องหลี ใช้ชีวิตอยู่ในจวนอ๋องหลีมานานหลายปี คอยปรนนิบัติพัดวีหลีฮูหยินไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่นี่คือสิ่งที่นางได้รับ ความอยุติธรรมที่อ๋องหลีไม่เคยสนใจใยดีกับความดีของนาง"แล้วเจ้าจะให้ลุงทำอย่างไร พระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยก็ออกมาแล้ว ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเราทำก็เท่ากับขัดพระราชโองการเชียวนะ""ก็แล้วถ้าอาเฟยไม่ได้อยู่รับราชองค์การล
อ๋องหลีและอาเฟยยังคงใช้ชีวิตเยี่ยงคนรักในจวนอ๋อง ถึงแม้ข่าวนี้จะกระจายแพร่ไปทั่วแต่มันก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร การรักกับบุรุษเพศด้วยกันมันไม่ได้ถือเป็นการผิดธรรมเนียมประเพณี เพียงแต่มันจะมีกลุ่มคนบางส่วนที่ต่อต้าน ซึ่งเอาเรื่องนี้ขึ้นทูลต่อฮ่องเต้ เพื่อให้ปลดตำแหน่งอ๋องหลีออกจากการเป็นอ๋อง "แล้วท่านพี่จะทำอย่างไรต่อไป" อาเฟยเอ่ยถามคนรัก เขาคิดว่าเรื่องนี้มันน่าจะหลุดไปกับชิงชิงแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะกลัว แถมตอนนี้ใบหน้าของอ๋องหลีก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจต่อราชโองการที่มาถึง"เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องแค่นี้พี่จัดการได้ ตำแหน่งอ๋องหลีของพี่ไม่ได้มาเพราะฝีปาก พี่ได้มาเพราะความสามารถ เพราะการนำทัพที่ตรากตรำสู้เพื่อราชวงศ์ฉินมาหลายปี พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพี่ถูกปลดออกจากการเป็นแม่ทัพและตำแหน่งอ๋องหลี ใครจะเป็นคนนำทัพถ้ามีศึกสงครามเข้ามา""ผมมีแผนแล้วครับ ใช้แผนของผมรับรองว่าไม่มีใครกล้าปลดท่านพี่แน่นอน"อ๋องหลีมองหน้าคนรักก่อนจะยิ้มออกมา เจ้าแสนซนของเขาคงจะคิดเรื่องดีๆออกอีกแล้ว ตั้งแต่ที่อาเฟยมาอยู่กับเขา เขารู้สึกว่ามีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นในชีวิต เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวต่ออุปส
ถึงแม้โทษของหลีฮูหยินจะมีแค่การนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องพระเท่านั้น แต่โทษนั้นมันไม่ได้ครอบคลุมไปสำหรับชิงชิง เมื่อสาวใช้มารายงานว่าท่านอ๋องยกการลงโทษนี้ให้กับอาเฟยทำให้ชิงชิงรู้สึกกลัว"ข้าจะทำเช่นไรดี ถ้าปล่อยให้มันเป็นผู้ลงโทษมันต้องลงโทษข้าจนตายหรือไม่ก็เสียโฉมแน่ๆ ข้าไม่อยากเจอสภาพแบบนั้น""เราต้องหนีเจ้าค่ะคุณหนู ไม่สามารถอยู่จวนอ๋องได้อีกแล้ว ถ้าคุณหนูยังอยู่ที่นี่จะต้องถูกลงโทษจนตายแน่ๆเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้เสนอวิธีรอดแก่ชิงชิง"จะให้ข้าหนีไปที่ไหนเล่า บ้านข้าแตกสาแหลกขาดมาหลายสิบปีแล้ว ข้าถูกท่านย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย มีความหวังที่จะขึ้นเป็นพระชายาของอ๋องหลี ถ้าข้าออกจากจวนข้าก็ไม่มีที่ไปเลย"ชิงชิงคิดหนักทันที การออกจากจวนอ๋องหลีก็เหมือนการให้นางไปตายอยู่ดี สตรีที่ไม่มีวิทยายุทธ ไม่มีผู้ชายคุ้มกะลาหัวจะอยู่ด้านนอกได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลยเช้าวันรุ่งขึ้น อาเฟยมาที่จวนหลังซึ่งเป็นที่พักของหลีฮูหยินและชิงชิง "ข้าแปลกใจนะเนี่ย ข้านึกว่าเจ้าจะหนี แต่ไม่ยักหนีแฮะ แสดงว่ารู้ตัวใช่ไหมว่าวันนี้ข้ามาที่นี่ด้วยเหตุอะไร เจ้ายอมรับโทษของเจ้าแล้วหรือยัง"อาเฟยดัดแปลงประโยคให้ชิ
ทันทีที่ทหารทั้งสองคนตายด้วยความผิดที่ลักพาตัวคนรักของอ๋องหลี ทำให้อาเฟยถึงกับตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาสยดสยองขนาดนี้ ทำให้อ๋องหลีต้องหมุนเอาตัวอาเฟยเข้ามาซบอกเพื่อไม่ให้เห็นภาพตรงหน้า"กลัวก็ไม่ต้องดู พี่ขอโทษนะที่มาช้าจนเกินไป เกือบทำให้เจ้าเป็นอันตราย" "ไม่เป็นไรเลย ผมไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่ผมไม่เข้าใจเลยทำไมพวกเขาจึงต้องจงเกลียดจงชังผมนัก ผมไม่เคยไปทำอะไรให้พวกเขาเลย" "ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว พี่อธิบายทุกอย่างให้กับท่านย่าฟังหมดแล้ว หลังจากกลับไปพี่จะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายา มันจะได้สิ้นเรื่องสิ่งราวไปเสียที""ได้ยังไงล่ะ พระชายาแต่งตั้งผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ผมเป็นผู้ชายจะเป็นพระชายาได้อย่างไร ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีการตัดชายเสื้อ แต่ผมก็คิดว่ามันไม่สมควร""ตัดชายเสื้อหรือ?"อ๋องหลีงงกับคำพูดของอาเฟยจึงเอ่ยถามขึ้น"ที่บ้านผม ถ้ามีบุรุษกับบุรุษรักกัน ชาวจีนจะเรียกกันว่าตัดชายเสื้อ"ถึงแม้จะไม่เข้าใจกับคำพูดของอาเฟยได้สักเท่าไหร่ แต่อ๋องหลีก็เลือกที่จะดึงเอาโจรแคระของเขาเข้าสู่อกกว้างเพื่อปลอบขวัญ"ถึงแม้เจ้าจะได้เป็นพระชายาหรือไม่ก็ตาม แต่เจ