อาเฟยรู้สึกถึงอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวทันที เขามองไปรอบๆเหมือนที่แห่งนี้จะเป็นกองโจรอะไรสักอย่าง มันไม่น่าปลอดภัยกับเขา เขาน่าจะถูกโจรจับมาแล้วล่ะ ถ้าจำไม่ผิดก่อนที่จะหมดสติไปเขาอยู่ในห้องวิจัย แสดงว่าพวกโจรกลุ่มนี้จะต้องลักพาตัวเขามาจากในห้องวิจัยแน่นอน อาเฟยพยายามขยับตัว ปรากฏว่าเขาถูกมัด แต่เขาฝึกการต่อสู้มาอย่างช่ำชอง ไม่มีทางที่โจรพวกนี้จะสามารถพันธนาการเขาได้ อาเฟยใช้เวลาไม่นานเชือดก็หลุดออกจากร่างกาย เขาเดินไปใกล้ทหารสองคนที่ยืน ปรากฏว่าหลับอย่างที่เขาคิดจริงๆด้วย เขาจึงรีบเดินหลบเข้าไปดูด้านในด้วยความอยากรู้ เขาเห็นว่าทหารสองคนที่ยืนนั้นแต่งตัวแปลกมาก ใส่ชุดเหมือนทหารโบราณ ไม่เหมือนกองโจรอย่างที่คิดไว้ตอนแรก ความอยากรู้อยากเห็นของนักโบราณคดีกระตุ้นให้อาเฟยเข้าไปในชุมโจรแห่งนั้น
"โอ้โห..?มีทั้งดาบมีทั้งหอกแถมยังมีทหารมากมายก่ายกองแต่งตัวเหมือนชุดคอสเพลย์ ต้องลงทุนเท่าไหร่กันเนี่ย" อาเฟยค่อยๆพาตัวเอง หลบตามมุมต่างๆไม่ให้ใครเห็น ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดึกพอสมควรทำให้คนที่แต่งชุดทหารพวกนี้ส่วนมากนอนหลับ อาเฟยมองเห็นกระโจมที่ใหญ่ที่สุด เขาคิดว่าในนั้นจะต้องมีสิ่งที่เขาอยากรู้แน่ๆ คนกลุ่มนี้อาจจะเป็นนักโบราณคดีมาขุดวัตถุโบราณแต่ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้ ทันทีที่สามารถพาตัวเองเข้ามาอยู่ในกระโจมใหญ่ได้ เขายิ่งแปลกใจมากขึ้นเมื่อในกระโจมใหญ่ มีความอุ่นมากกว่าข้างนอกเยอะมาก แถมด้านในยังถูกจัดตกแต่งไว้อย่างดี ทั้งๆที่มันเป็นเพียงการออกสนามชั่วคราวเท่านั้น [เดี๋ยวกลับไปจะต้องตรวจสอบสักหน่อยนะว่าคนกลุ่มนี้เป็นนักวิจัยกลุ่มไหนใช้ทุนเปลืองมากกกก] อาเฟยคิดในใจ ในขณะที่เดินสำรวจเขาสังเกตดูว่าบนโต๊ะทำงานที่มีของแปลกๆมากมายวางอยู่ หนึ่งในนั้นมีสิ่งที่เขาคุ้นตา นั่นคือหยกสีเขียวที่เขาจับก่อนหมดสติ อาเฟยรีบตรงไปที่หยกนั้นทันที เขาเห็นว่าเป็นหยกก้อนเดียวกันจริงๆ แต่ที่แปลกไปก็คือหยกนี้มีสภาพที่สมบูรณ์มาก มีพู่ห้อยอยู่ หรือว่ามันจะเป็นเพียงของเลียนแบบเท่านั้น "เจ้าเป็นใคร!" เสียงที่ดุดันดังขึ้นทำให้อาเฟยตกใจจนหยกหล่นพื้น "ผม...เอ่อผม" อาเฟยตกใจกับคนที่เดินออกมา เขาไม่คิดว่ากระโจมนี้จะมีห้องที่แบ่งเอาไว้นอนด้วย ชายคนที่ออกมานั้นเหมือนยังอยู่ในชุดนอน แต่เป็นชุดนอนที่แปลกประหลาดอีกนั่นแหละ ชายคนนั้นใส่ชุดนอนด้วยชุดสีขาว ผมยาว เขาพึ่งเคยเห็นว่าผู้ชายผมยาวคนนี้ มีเส้นผมที่สวยมาก หรือว่า..เป็นวิก!? ในขณะที่อาเฟยยังคงยืนพิจารณาชายที่เดินออกมา ทั้งๆที่ใบหน้าของชายผู้นั้นกำลังแสดงอาการโกรธ แต่เขากลับไม่ได้สนใจ เดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อพิจารณา "เดี๋ยวนี้นักโบราณคดีเขาต้องแต่งตัวแบบนี้มาทำงานกันแล้วหรือไง" "เจ้าเป็นโจรเข้ามาขโมยของข้า ช่างไม่เกรงกลัวอำนาจท่านอ๋องอย่างข้าเลยนะ!" อ๋องหลีตวาดด้วยความโกรธเมื่อมีคนบุกรุกเข้ามาจนถึงกระโจมที่พักของเขา [พูดอะไรน่ะ นี่มันภาษาอะไรกัน] อาเฟยคิดในใจ เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเอาแต่มองชายผมยาวที่พูดภาษาแปลกๆ "เจ้าได้ยินสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่ เจ้าคนตัวแคระ!" อ๋องหลีพูดพร้อมกับผลักร่างเล็กให้ก้นจ้ำเบ้าลงไปด้วยความโกรธที่โจรแคระคนนี้ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจของเขา "โจรแคระบ้าบออะไร กล้าดียังไงมาบูลลี่ความสูงของฉัน!" อ๋องหลีฟังสิ่งที่โจรแคระพูดไม่เข้าใจ สายตาของเขามองไปยังโต๊ะทำงานเมื่อเห็นว่าหยกประจำตัวของเขาหายไป ความโกรธพุ่งสูงสุดทันที อ๋องหลีคว้ากริชประจำตัวขึ้นมา ก่อนที่จะใช้จ่อไปที่คอของโจรแคระ "หยกประจำตัวของข้าอยู่ที่ไหน เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้มาขโมยของถึงในกระโจมพักของข้า!" คำพูดของอ๋องหลี ทำให้อาเฟยจำได้ทันทีว่าก่อนหน้าที่ชายคนนี้จะปรากฏตัวเขากำลังถือหยกนั้นอยู่ แล้วหยกร่วงลงจากมือเขา เขารีบก้มลงที่พื้นเพื่อหาหยกชิ้นนั้นทันที "หยกเมื่อกี้เหรอ เหมือนฉันจะทำตกไปตรงไหนเดี๋ยวก่อนนะ" ชายร่างเล็กผละออกจากปลายกริช ด้วยท่าทางเรียบเฉยยิ่งทำให้อ๋องหลีมองด้วยความประหลาดใจ นอกจากจะไม่กลัวเขาแล้ว ยังไม่กลัวต่ออาวุธที่จ่อคออยู่อีกต่างหาก "อยู่ไหนนะ เมื่อกี้หล่นอยู่แถวๆนี้นี่นา" อ๋องหลีมองดูโจรตัวน้อยก้มลงที่พื้นพร้อมกับหาหยกประจำตัวของเขา การแต่งกายของชายผู้นี้แปลกประหลาดตั้งแต่ที่เขาเห็นครั้งแรก ผมสั้นทั้งๆที่บุรุษทุกคนที่อยู่แคว้นนี้จะต้องไว้ผมยาวกันหมด ไม่มีบุรุษใดในโลกนี้ที่ตัดผมสั้น นอกจากนักบวชเท่านั้น แล้วดูจริตจะก้านของชายผู้นี้แล้ว ดูไม่เป็นบุรุษเอาเสียเลย ตัวเล็กแขนเล็กหน้าอกก็ไม่บึกบึนไม่สมชายชาตรี ดูๆแล้วน่าจะไม่ใช่ทหารแน่ๆ น่าจะเป็นชาวบ้านที่ริกล้าเข้ามาขโมยของในกระโจมของเขามากกว่า คนพวกนี้มีโทษสถานเดียวคือตายเท่านั้นบรรยากาศในจวนอ๋องหลีเงียบสงบ เมื่อเจ้าของจวนอยู่ในอาการโศกเศร้า นั่งอยู่ในห้องด้วยท่าทีนิ่งเงียบ บนเตียงนอนยังคงเป็นว่าที่พระชายาของอ๋องหลี รอคอยการแก้พิษ "อ๋องหลีขอรับ ทหารที่ไปนำยามาถึงแล้วขอรับ"ทันทีที่ได้ยินเสียงทหารของตนรายงานว่าทหารที่ไปนำยามาถึงจวนเรียบร้อยแล้ว อ๋องหลีถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ"ไปตามท่านหมอเกอมา!" อ๋องหลีออกคำสั่งทันที ท่านหมอเกออยู่ดูแลอาเฟยตลอด 2 วันที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับไปพักที่ห้องรับรองที่เขาจัดให้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทันทีที่ท่านหมอเกอมาถึง จัดการผสมยาแล้วจับกรอกเข้าไปในปากของอาเฟยทันที"เป็นยังไงบ้างท่านหมอเกอ คนรักของข้าจะหายหรือไม่""ตอนนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วท่านอ๋อง เราทำทุกอย่างเต็มความสามารถแล้ว มันก็อยู่ที่ว่าร่างกายของว่าที่พระชายาจะสามารถซึมซับเอาตัวยาเข้าไปรักษาพิษได้มากน้อยแค่ไหน"คำพูดของท่านหมอเกอทำให้อ๋องหลีถึงกับเซ ไม่มีคำยืนยันจากท่านหมอเกอว่าอาเฟยจะฟื้น อ๋องหลีรีบถลาไปที่เตียงนอนพร้อมกับจับมือคนรักขึ้นแนบแก้มทันที"กลับมานะอาเฟย กลับมาหาพี่ พี่รู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนในโลกของพี่ พี่รู้ว่าเจ้าสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ แต่ได้โปรดเถ
"อาเฟยลูก"เสียงนี้อีกแล้ว เสียงที่เหมือนแม่เรียกคำพูดเดิมที่เคยได้ยิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเสียงนี้มันคือเสียงใครกันแน่ คราวที่แล้วเสียงนี้เรียกเขาให้เดินตามไปจนในที่สุดเขาก็หลงเข้าไปในยุคโบราณ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้ว เขายังคงได้ยินเสียงนี้อยู่อีก"อาเฟยลูก"อาเฟยลืมตาขึ้น ก่อนที่จะมองไปรอบๆ "อาเฟย" เสียงเรียกย้ำทำให้อาเฟยหันกลับไปมอง"แม่!" สิ่งที่เขาเห็นนั่นคือแม่ของเขาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก แม่คนเดิมที่ใจดีของเขา"คนดีของแม่ เหนื่อยไหมลูก""ไม่เหนื่อยเลยครับแม่ ผมมีความสุขมากๆเลยที่ได้อยู่กับท่านพี่ แต่ทำไมตอนนี้บรรยากาศมันดูแปลกๆนะครับ มันเกิดอะไรขึ้น""มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอก แม่แค่อยากถามลูก ว่าระหว่างชีวิตในยุคปัจจุบันของลูกกับชีวิตที่กำลังเป็นพระชายาของอ๋องหลี ลูกชอบชีวิตแบบไหน"อาเฟยคิ้วขมวดทันที นั่นสินะ เขาใช้ชีวิตกับอ๋องหลีมาเกือบ 1 ปี จนลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนในยุคปัจจุบันไม่ใช่ยุคอดีต ลืมตัวตนการเป็นอาเฟย ศักดินามนตรี ไปซะสนิทเลย "ทำไมแม่ถามผมแบบนี้ล่ะครับ หรือว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับยุคปัจจุบันแล้วเหรอ" น้ำเสียงที่เศร้าใจของลูกชายทำให้ผู้
ข่าวการแต่งตั้งพระชายาเป็นบุรุษเพศแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรฉิน ข่าวนี้ทำให้ชิงชิงไม่พอใจ นางคิดว่าท่านลุงของนางที่เป็นเสนาบดีจะสามารถช่วยบังคับให้ฮ่องเต้แต่งตั้งนางเป็นพระชายาของอ๋องหลีได้ แต่ปรากฏว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นางต้องการ กลับกลายเป็นตอนนี้มีพระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยเป็นพระชายาอย่างถูกกฎหมาย ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้"พอเถอะนะชิงชิง ลุงพยายามแล้ว แต่ไม่สามารถขัดพระราชโองการของฝ่าบาทได้ ถ้าเรายังคัดค้านอยู่แบบนี้ตระกูลของเราคงไม่พ้นถูกประหารตามพระราชอาญาแน่นอน""แต่ท่านลุงเจ้าคะ ชิงชิงเสียศักดิ์ศรีในจวนอ๋องไปตั้งหลายปี ไม่มีใครอยากร่วมหอลงๆกับชิงชิง ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ล่ะเจ้าคะ"ชิงชิงร้องไห้ด้วยความเสียใจ ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคู่หมั้นของอ๋องหลี ใช้ชีวิตอยู่ในจวนอ๋องหลีมานานหลายปี คอยปรนนิบัติพัดวีหลีฮูหยินไม่เคยขาดตกบกพร่อง แต่นี่คือสิ่งที่นางได้รับ ความอยุติธรรมที่อ๋องหลีไม่เคยสนใจใยดีกับความดีของนาง"แล้วเจ้าจะให้ลุงทำอย่างไร พระราชโองการแต่งตั้งอาเฟยก็ออกมาแล้ว ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเราทำก็เท่ากับขัดพระราชโองการเชียวนะ""ก็แล้วถ้าอาเฟยไม่ได้อยู่รับราชองค์การล
อ๋องหลีและอาเฟยยังคงใช้ชีวิตเยี่ยงคนรักในจวนอ๋อง ถึงแม้ข่าวนี้จะกระจายแพร่ไปทั่วแต่มันก็ไม่ได้มีผลเสียอะไร การรักกับบุรุษเพศด้วยกันมันไม่ได้ถือเป็นการผิดธรรมเนียมประเพณี เพียงแต่มันจะมีกลุ่มคนบางส่วนที่ต่อต้าน ซึ่งเอาเรื่องนี้ขึ้นทูลต่อฮ่องเต้ เพื่อให้ปลดตำแหน่งอ๋องหลีออกจากการเป็นอ๋อง "แล้วท่านพี่จะทำอย่างไรต่อไป" อาเฟยเอ่ยถามคนรัก เขาคิดว่าเรื่องนี้มันน่าจะหลุดไปกับชิงชิงแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะกลัว แถมตอนนี้ใบหน้าของอ๋องหลีก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจต่อราชโองการที่มาถึง"เจ้าไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องแค่นี้พี่จัดการได้ ตำแหน่งอ๋องหลีของพี่ไม่ได้มาเพราะฝีปาก พี่ได้มาเพราะความสามารถ เพราะการนำทัพที่ตรากตรำสู้เพื่อราชวงศ์ฉินมาหลายปี พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าพี่ถูกปลดออกจากการเป็นแม่ทัพและตำแหน่งอ๋องหลี ใครจะเป็นคนนำทัพถ้ามีศึกสงครามเข้ามา""ผมมีแผนแล้วครับ ใช้แผนของผมรับรองว่าไม่มีใครกล้าปลดท่านพี่แน่นอน"อ๋องหลีมองหน้าคนรักก่อนจะยิ้มออกมา เจ้าแสนซนของเขาคงจะคิดเรื่องดีๆออกอีกแล้ว ตั้งแต่ที่อาเฟยมาอยู่กับเขา เขารู้สึกว่ามีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นในชีวิต เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวต่ออุปส
ถึงแม้โทษของหลีฮูหยินจะมีแค่การนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องพระเท่านั้น แต่โทษนั้นมันไม่ได้ครอบคลุมไปสำหรับชิงชิง เมื่อสาวใช้มารายงานว่าท่านอ๋องยกการลงโทษนี้ให้กับอาเฟยทำให้ชิงชิงรู้สึกกลัว"ข้าจะทำเช่นไรดี ถ้าปล่อยให้มันเป็นผู้ลงโทษมันต้องลงโทษข้าจนตายหรือไม่ก็เสียโฉมแน่ๆ ข้าไม่อยากเจอสภาพแบบนั้น""เราต้องหนีเจ้าค่ะคุณหนู ไม่สามารถอยู่จวนอ๋องได้อีกแล้ว ถ้าคุณหนูยังอยู่ที่นี่จะต้องถูกลงโทษจนตายแน่ๆเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้เสนอวิธีรอดแก่ชิงชิง"จะให้ข้าหนีไปที่ไหนเล่า บ้านข้าแตกสาแหลกขาดมาหลายสิบปีแล้ว ข้าถูกท่านย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย มีความหวังที่จะขึ้นเป็นพระชายาของอ๋องหลี ถ้าข้าออกจากจวนข้าก็ไม่มีที่ไปเลย"ชิงชิงคิดหนักทันที การออกจากจวนอ๋องหลีก็เหมือนการให้นางไปตายอยู่ดี สตรีที่ไม่มีวิทยายุทธ ไม่มีผู้ชายคุ้มกะลาหัวจะอยู่ด้านนอกได้อย่างไร มันเป็นไปไม่ได้เลยเช้าวันรุ่งขึ้น อาเฟยมาที่จวนหลังซึ่งเป็นที่พักของหลีฮูหยินและชิงชิง "ข้าแปลกใจนะเนี่ย ข้านึกว่าเจ้าจะหนี แต่ไม่ยักหนีแฮะ แสดงว่ารู้ตัวใช่ไหมว่าวันนี้ข้ามาที่นี่ด้วยเหตุอะไร เจ้ายอมรับโทษของเจ้าแล้วหรือยัง"อาเฟยดัดแปลงประโยคให้ชิ
ทันทีที่ทหารทั้งสองคนตายด้วยความผิดที่ลักพาตัวคนรักของอ๋องหลี ทำให้อาเฟยถึงกับตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้าต่อตาสยดสยองขนาดนี้ ทำให้อ๋องหลีต้องหมุนเอาตัวอาเฟยเข้ามาซบอกเพื่อไม่ให้เห็นภาพตรงหน้า"กลัวก็ไม่ต้องดู พี่ขอโทษนะที่มาช้าจนเกินไป เกือบทำให้เจ้าเป็นอันตราย" "ไม่เป็นไรเลย ผมไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่ผมไม่เข้าใจเลยทำไมพวกเขาจึงต้องจงเกลียดจงชังผมนัก ผมไม่เคยไปทำอะไรให้พวกเขาเลย" "ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว พี่อธิบายทุกอย่างให้กับท่านย่าฟังหมดแล้ว หลังจากกลับไปพี่จะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายา มันจะได้สิ้นเรื่องสิ่งราวไปเสียที""ได้ยังไงล่ะ พระชายาแต่งตั้งผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ผมเป็นผู้ชายจะเป็นพระชายาได้อย่างไร ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีการตัดชายเสื้อ แต่ผมก็คิดว่ามันไม่สมควร""ตัดชายเสื้อหรือ?"อ๋องหลีงงกับคำพูดของอาเฟยจึงเอ่ยถามขึ้น"ที่บ้านผม ถ้ามีบุรุษกับบุรุษรักกัน ชาวจีนจะเรียกกันว่าตัดชายเสื้อ"ถึงแม้จะไม่เข้าใจกับคำพูดของอาเฟยได้สักเท่าไหร่ แต่อ๋องหลีก็เลือกที่จะดึงเอาโจรแคระของเขาเข้าสู่อกกว้างเพื่อปลอบขวัญ"ถึงแม้เจ้าจะได้เป็นพระชายาหรือไม่ก็ตาม แต่เจ