หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70 / บทที่ 5 ขออภัยที่ต้องรบกวนยามวิกาล

แชร์

บทที่ 5 ขออภัยที่ต้องรบกวนยามวิกาล

ผู้เขียน: BBNanz
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 16:17:25

ท่ามกลางราตรีอันมืดมิด เสียงฟ้าร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า เม็ดฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย บนเส้นทางสายเปลี่ยวที่ทอดยาวผ่านหมู่บ้านชนบทอันห่างไกล หยางเฟิง หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับหน่วยที่ 13 ผู้มากฝีมือ กำลังก้าวเดินอย่างยากลำบาก เนื้อตัวของชายหนุ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนและเลือด

ใบหน้าคมคาย เผยดวงตาสีดำคมกริบดุจเหยี่ยว และร่างกายกำยำล่ำสันของเขาเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกซุ่มโจมตีของกลุ่มกบฏที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้เมืองจินหลง พวกลูกน้องของเขาถูกศัตรูล้อมกรอบจนต้องแตกหนีเอาตัวรอด ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม หยางเฟิงจึงต้องสละตัวเองเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีไปได้ เขาได้ต่อสู้กับพวกกบฏอย่างดุเดือด แต่ก็ไม่อาจต้านทานกองกำลังที่มากกว่าของพวกมันได้ เขาถูกยิงเข้าที่สีข้างจนเลือดไหลอาบ หยางเฟิงกัดฟันข่มความเจ็บปวด พยายามตะเกียกตะกายหนีออกจากวงล้อมของศัตรู เขาต้องหนีออกไปให้ได้และต้องกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้ทางการได้รับทราบ เขาต้องไม่ยอมให้พวกกบฏลอยนวล

หลังจากฝ่าวงล้อมออกมาหยางเฟิงก็เดินโซซัดโซเซไปตามเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และจะไปทางไหนต่อ เขาได้แต่เดินไปเรื่อยๆ หวังว่าจะพบหมู่บ้านหรือผู้คนบ้าง

หยาดฝนเริ่มหนาเม็ดขึ้นเรื่อย ๆ สายลมพัดกระโชกแรง พันตรีหนุ่มหนาวสั่นและหิวโหย เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และวิงเวียนศีรษะ เขาอยากจะหยุดพัก แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เขาต้องรีบก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสายตาของเขาเหลือบไปเห็นบ้านดินหลังเล็กตั้งอยู่โดดเดี่ยวริมชายป่า

"น่าจะมีคนอาศัยบ้านดินหลังนี้..." ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง ด้วยสัญชาตญาณของสายลับ เขาจึงตัดสินใจเสี่ยงเข้าไปขอความช่วยเหลือ แม้จะไม่รู้ว่าจะพบเจอกับสิ่งใดก็ตาม

หยางเฟิงพยายามรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย เดินโซซัดโซเซไปยังบ้านดินหลังนั้น ก่อนจะใช้มือที่สั่นเทาผลักประตูรั้วไม้เก่าคร่ำคร่าที่ปิดไว้เพียงแค่เขาเขย่าประตูเบาๆ ก็สามารถเปิดเข้าไปในลานบ้านได้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในมุ่งเข้าสู่ตัวบ้าน เสียงฝีเท้าของเขาแผ่วเบาลงเมื่อย่างเดินเข้ามา

"สหาย…ผมต้องขออภัยที่ต้องรบกวนยามวิกาลเช่นนี้" หยางเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขณะพยายามเคาะประตูบ้านดินหลังนั้นอย่างแผ่วเบา

แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ประตูรั้วไม้เก่าผุพังไม่ได้ล็อกไว้อยู่แล้ว หยางเฟิงจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง ภายในบ้านมืดสนิท มีเพียงแสงจากฟ้าแลบเป็นระยะที่สาดส่องให้เห็นข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ หยางเฟิงค่อยๆ เดินสำรวจไปรอบๆ บ้าน เขาได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบาจากห้องหนึ่ง

เขาจึงตัดสินใจเปิดประตูห้องนั้นเข้าไป และพบกับภาพที่ทำให้เขาถึงกับตะลึง

บนเตียงไม้เก่าๆ มีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่ แสงจันทร์ส่องกระทบผิวกายขาวผ่องของเธองดงามราวกับเทพธิดา หยางเฟิงเผลอมองภาพนั้นอยู่นาน เขารู้สึกราวกับเวลาหยุดนิ่ง

"สหาย..." หยางเฟิงเอ่ยเรียกเบาๆ แต่หญิงสาวผู้นั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เขาจึงตัดสินใจเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูหญิงสาวคนนั้นที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงเขาเขย่าตัวเธอเบาๆ

"อื้อ อย่ามากวน คนจะนอน" หลินเสี่ยวเหยาครางอย่างหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่ามีคนมารบกวน ปกติเธอเป็นคนตื่นตัวได้ง่าย แต่วันนี้เนื่องจากเธอทานยาแก้ไข้ไป รวมถึงอาการเป็นไข้ ทำให้เธอรู้สึกง่วงนอนมากเป็นพิเศษ

พันตรีหนุ่มมิได้ใส่ใจเสียงครางประท้วงนั้น เขายังคงจ้องมองใบหน้างดงามราวกับภาพวาดนั้นอย่างไม่วางตา ก่อนจะยื่นมือไปปัดปอยผมที่ปรกหน้าผากมนของเธอออกอย่างแผ่วเบา จนหญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้น

"สหายชายคุณคือใคร" เสียงหวานใสของหลินเสี่ยวเหยาดังขึ้น ทำให้หยางเฟิงสะดุ้งเล็กน้อย เขามองไปยังเจ้าของเสียง พบว่าเธอปรือตาขึ้นแล้ว แต่ยังคงนอนอยู่บนเตียง

"สวัสดีครับผมชื่อ หยางเฟิง" หยางเฟิงตอบตะกุกตะกัก

"นี่คุณ…เข้ามาในบ้านของฉันได้ยังไง?" หลินเสี่ยวเหยาลุกขึ้นจากที่นอน ดวงตาสีน้ำตาลของเธอจ้องมองหยางเฟิง อย่างระแวดระวัง

หยางเฟิงพยายามรวบรวมสติเพื่อตอบคำถามนั้น แต่เขากลับรู้สึกว่าสติของเขากำลังเลือนรางลงไปทุกขณะ

"สหายผม... ถูกยิง" หยางเฟิงพูดได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเขาจะล้มลงไปข้างเตียง หลินเสี่ยวเหยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบพุ่งไปประคองร่างของชายหนุ่มแปลกหน้าไว้

"สหายหยางเฟิง คุณเป็นอะไรไป" หลินเสี่ยวเหยาเขย่าตัวหยางเฟิง แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว

"ไม่นะ..." เธอพึมพำ "นี้คุณถ้าจะตาย ก็ไปตายที่อื่นสิ ทำไมต้องมาตายที่บ้านฉันด้วย"

หลินเสี่ยวเหยาขยุ้มหัวเพื่อตั้งสติ พยายามควบคุมความตื่นตระหนกของตัวเอง แม้ปากจะบ่นออกมาอย่างนั้น แต่หลินเสี่ยวเหยาก็ยังประคองร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บให้นอนลงบนเตียงของเธออย่างเบามือ เธอรู้ดีว่าต้องห้ามเลือดให้เขาโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นเขาอาจจะสิ้นใจได้ทุกเมื่อ

คนร่างบางจึงตัดสินใจถอดเสื้อของชายหนุ่มออก เพื่อที่จะได้เห็นบาดแผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทันทีที่เสื้อถูกดึงออก รอยสักรูปมังกรขนาดใหญ่ที่แผ่นหลังของเขาก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเธอ หลินเสี่ยวเหยาสะดุ้งเล็กน้อย มังกรตัวนี้ดูราวกับมีชีวิต ราวกับกำลังจะพุ่งออกมาจากผิวหนังของเขา

ความทรงจำเกี่ยวกับนิยายที่เธออ่านค่อย ๆ ไหลย้อนกลับมา เธอจำได้ว่าในนิยาย หยางเฟิง ที่เป็นตัวร้ายในนิยายก็มีลายสักรูปมังกรเช่นเดียวกัน หรือว่าเขาจะเป็นตัวร้ายในนิยาย หลินเสี่ยวเหยาคิดอย่างลังเล ว่าจะช่วยคุณตัวร้ายดีหรือไม่

'ถ้าฉันไม่ช่วยเขา หยางเฟิงก็คงตายในบ้านของฉัน'

หลินเสี่ยวเหยาเลยตัดสินใจ เธอจะช่วยหยางเฟิง แม้ว่าเขาจะเป็นตัวร้ายในนิยายก็ตาม ช่วยชีวิตคน... ดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น เธอจะไม่ปล่อยให้เขาตาย แต่ในเวลานี้ เธอไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องอื่นใดอีกแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยชีวิตชายหนุ่ม หลินเสี่ยวเหยานึกถึงประสบการณ์ในชาติที่แล้ว ในวันที่โลกาวินาศ เนื่องจากหมอมีจำนวนจำกัด สมาชิกในทีมของเธอจึงต้องฝึกฝนการรักษาบาดแผลให้กันและกันอยู่เสมอ

หลินเสี่ยวเหยาหยิบขวดยาแก้วใบเล็กออกมาจากมิติ ข้างในบรรจุแคปซูลสีขาวขุ่น บรรจุผงยาสีเหลืองอ่อน นี่คือยาปฏิชีวนะที่ทรงพลังที่สุดในยุคปัจจุบัน ยาชนิดนี้สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ร้ายแรงที่สุดได้ภายในเวลาไม่กี่วัน หากเป็นยุคนี้ ยาปฏิชีวนะยังเป็นสิ่งที่หายากและมีราคาแพงมากเพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

หลังจากนั้น หลินเสี่ยวเหยาก็เริ่มทำความสะอาดบาดแผลของหยางเฟิงอย่างระมัดระวัง เธอใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดคราบเลือดออกอย่างเบามือ ก่อนจะใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบๆ บาดแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค

เธอสำรวจบาดแผลของทหารหนุ่มอย่างละเอียด กระสุนฝังลึกอยู่ในเนื้อ เสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างรุนแรง หัวใจของหลินเสี่ยวเหยาเต้นระรัว เธอไม่เคยทำการผ่าตัดมาก่อน แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

"ขอโทษนะคุณตัวร้าย" หลินเสี่ยวเหยาบ่นพึมพำ ก่อนจะใช้มีดคมกริบขนาดเล็กที่อยู่ในห้างสรรพสินค้านำมาลาดแอลกอฮอล์ก่อนจะกรีดลงบนผิวหนังของชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง เธอพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น กัดฟันข่มความหวาดกลัวที่แล่นขึ้นมาเมื่อเห็นเลือดไหลออกมา

'ยัยบ้าขนาดซอมบี้ยังฆ่ามาแล้วไม่ถ้วน จะมากลัวอะไรกับแค่เห็นเลือด' หลินเสี่ยวเหยาดุหัวเองในใจ

เธอค่อยๆ ตั้งสติ ใช้แหนบคีบกระสุนออกมาจากบาดแผล หยดเหงื่อผุดพรายบนหน้าผาก เธอรีบใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เธอเช็ดทำความสะอาดรอบๆ บาดแผล ก่อนจะเทยาปฏิชีวนะลงไป

หลังจากทำแผลเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอใช้ผ้าพันแผลพันรอบหน้าอกของหยางเฟิงอย่างแน่นหนา หวังว่ายาจะช่วยให้เขาหายดีขึ้น

ความเงียบเข้าปกคลุมห้องพักเล็กๆ แห่งนี้ มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของคุณตัวร้ายที่ดังเป็นระยะ หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้ รู้สึกถึงไออุ่นแผ่วเบาจากร่างกายของคนตรงหน้า

ร่างบางเมื่อเห็นใบหน้าของคุณตัวร้ายเริ่มดีขึ้น เธอก็มานั่งนึกถึงเนื้อหาในนิยาย เธอพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวในนิยายที่เธออ่านกับเหตุการณ์ตรงหน้าให้เข้ากันได้

"หยางเฟิง..." เธอพึมพำชื่อนี้ออกมาเบา ๆ ในนิยายที่เธอเคยอ่าน หยางเฟิงคือพันตรีหนุ่มผู้โหดเหี้ยม ไร้ความปรานี เขาคือศัตรูตัวฉกาจของพระเอกผู้แสนดี

แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่? คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของหลินเสี่ยวเหยา ในนิยายชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับพวกกบฏที่ซุ่มโจมตี และหลินฮวาเป็นคนพบเขาเข้าโดยบังเอิญ และเขาก็ตกหลุมรักหลินฮวาที่ได้ช่วยเหลือเขาไว้ และคอยเป็นขาทองคำ ปกป้องนางเอก หลินเสี่ยวเหยาไม่เข้าใจว่าคุณตัวร้ายว่าโผล่ที่บ้านเธอได้อย่างไรเธอนั่งคิดอยู่นาน แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ ปรากฏ

เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่ด่วนสรุป เธอจะรอให้ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมา แล้วค่อยถามความจริงจากปากของเขาเอง

ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองนาฬิกาที่อยู่ในมิติ ตัวเลขบอกเวลา 02:30 น. หลินเสี่ยวเหยาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ

ก่อนจะเดินมาหยิบหมอนใบเล็ก ผ้าห่มผืนบาง และเสื่อทอมือผืนหนาออกมาจากห้างสรรพสินค้าในมิติของเธอเอง หลินเสี่ยวเหยาค่อยๆ ปูเสื่อลงบนพื้นข้างๆ เตียงไม้ ที่ซึ่งคุณตัวร้ายกำลังนอนหลับสนิทอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูดีขึ้น บาดแผลก็ไม่น่าเป็นห่วง หญิงสาวก็มาจัดแจงวางหมอนและห่มให้ตัวเอง

"เรื่องของคุณตัวร้าย พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน" เสี่ยวเหยาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเสื่อข้างๆ ชายหนุ่ม แม้จะไม่คุ้นเคยกับการนอนบนพื้นแข็งๆ แต่ความง่วงทำให้เธอหลับตาลงได้อย่างง่ายดาย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 71 บทส่งท้าย ค่ำคืนของสองเรา

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมา รถไฟขบวนพิเศษจากเมืองหลวงก็แล่นเข้าสู่สถานีรถไฟเมืองจินหลง หยางกั๋วเฉิงและหลิวซิวหยวน พ่อแม่ของหยางเฟิง ย่างก้าวลงจากรถไฟด้วยสีหน้าที่เปี่ยมสุข ท่ามกลางเสียงต้อนรับของลูกชายและลูกสะใภ้ที่มารอรับอย่างพร้อมหน้า"คุณพ่อ คุณแม่" หยางเฟิงโผเข้ากอดพ่อแม่ด้วยความคิดถึง น้ำตาคลอหน่วย "ผมคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน""ลูกชายแม่" หลิวซิวหยวนลูบหลังลูกชายเบาๆ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"หยางกั๋วเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "เจ้าสามแกโตเป็นหนุ่มแล้วนะ แถมยังจะแต่งงานมีครอบครัวอีกต่างหาก""แล้วนี่หลินเสี่ยวเหยา คู่หมั้นของลูก ใช่ไหม?" หลิวซิวหยวนเอ่ยถามพลางมองไปยังหญิงสาวหน้าหวานที่ยืนข้างๆ ลูกชายด้วยสายตาเอ็นดู"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ หนูชื่อหลินเสี่ยวเหยาค่ะ" หลินเสี่ยวเหยาโค้งคำนับอย่างนอบน้อม"หนูเสี่ยวเหยา ไม่ต้องมากพิธีหรอก" หยางกั๋วเฉิงยิ้มให้หลินเสี่ยวเหยาอย่างเป็นมิตร "พ่อได้ยินเรื่องของลูกจากเจ้าสามมาเยอะพอสมควร พอได้มาเห็นตัวจริงแล้วน่ารักกว่าที่คิดไว้มาก""จริงสิ พี่ชายคนโตของพ่อกับลูกสะใภ้ก็มาด้วยนะ"

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 70 ขอแต่งงาน

    เสียงไซเรนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณโรงแรมหลงหยวนชุน เซียวจิ้งหนานและเจียงเหม่ยหลิงถูกใส่กุญแจมือถูกลากตัวไปขึ้นรถทหาร หยางเฟิงหัวหน้าหน่วยที่ 13 ปาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผาก เขาหันไปสั่งการเจียงเฉินเพื่อนสนิทของเขา"เจียงเฉิน นายรีบพาหลินฮวาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!" หยางเฟิงสั่งการด้วยน้ำเสียงเข้มเจียงเฉินพยักหน้ารับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขารับร่างบอบบางของหลินฮวาที่หมดสติไปจากหัวหน้าหน่วยอย่างระมัดระวัง ใบหน้าซีดเผือดของหลินฮวามีรอยไหม้จากน้ำกรดปรากฏให้เห็นเป็นบาดแผลที่น่ากลัว ใบหน้าของเธอเสียหายไปทั้งใบหน้า เจียงเฉินกัดฟันแน่น เขาอุ้มหลินฮวาขึ้นรถ รีบบึ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลต่างก็กรูเข้ามาช่วยเหลือหลินฮวาอย่างเร่งด่วน พวกเขาเข็นเตียงของหลินฮวาเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจียงเฉินมองตามร่างของหญิงสาวที่หายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน"คุณหมอครับ อาการของเธอจะเป็นยังไงบ้างครับ" เจียงเฉินถามคุณหมอเมื่อเห็นทีมแพทย์ออกจากห้องฉุกเฉินมา"อาการของเธอค่อนข้างสาหัส ของเหลวที่เธอได้รับเข้าไปนั้นเป็นกรดที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ตอนนี้เ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 69 จับกุมตัวสองผัวเมีย

    หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดจากหลี่เหว่ยแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็รีบแจ้งหยางเฟิงถึงแผนที่จะไปช่วยลูกชายของหลี่เหว่ยที่บ้านพักตากอากาศชานเมืองจินหลงทันทีหยางเฟิงแสดงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด "เหยาเหยา เธอแน่ใจนะว่าจะไปเอง? ไม่ให้พี่ไปด้วย"หลินเสี่ยวเหยาส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิง พี่ไปจัดการเรื่องจับกุมเซียวจิ้งหนานเถอะ เรื่องหลี่เหว่ยตงฉันจัดการเองได้" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"แต่ว่า..." หยางเฟิงยังคงลังเล"ไม่มีแต่ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ไม่ต้องห่วง" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มหวานละมุนให้คู่หมั้นหนุ่มหยางเฟิงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเหยาเหยาก็ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรมาที่ค่ายทหารติดต่อพี่ได้ตลอด"หลินเสี่ยวเหยาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ค่ะ...พี่เฟิง งั้นเดี๋ยวฉันขอยืมรถพี่เฟิงหน่อยนะคะ""เหยาเหยาขับรถเป็นด้วยหรือครับ" หยางเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นหลินเสี่ยวเหยาขับรถมาก่อน"ฉันขับรถเป็นค่ะ" หลินเสี่ยวเหยากล่าวอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 68 ใบหน้าเสียโฉม

    แสงอาทิตย์สีทองค่อยๆ ลับหายไปหลังแนวขุนเขา ทิ้งไว้เพียงสีส้มจางๆ ระบายขอบฟ้า แต่แสงนั้นไม่อาจบรรเทาความร้อนรุ่มในใจของเจียงเหม่ยหลิงได้เลยแม้แต่น้อย รถยนต์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองจินหลงในยามพลบค่ำ เธอหันไปสั่งคนสนิทเสียงเข้ม"ไปสืบเรื่องหลินฮวาที่ร้านจินหยวนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"รถยนต์ยังคงแล่นไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและรถลาก เจียงเหม่ยหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยกลับดูหม่นหมองลงในสายตา"นายหญิงครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้เจียงเหม่ยหลิงละสายตาจากภาพด้านนอก"ว่าอย่างไร" เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแววเคร่งขรึม"คุณเซียวได้ไถ่ตัวหลินฮวาจากร้านจินหยวนจริงครับ จากการสืบปากคำเจ้าของร้านทำให้ทราบว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่โรงแรมหลงหยวนชุน" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยรายงานเจียงเหม่ยหลิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความโกรธเกรี้ยวประดุจเปลวไฟลุกโชนขึ้นในอก เธอหวนนึกถึงคำพูดของบรรดาอนุภรรยาของเซียวจิ้งหนานที่คอยพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ชอบโอ้อวดเรื่องสามีให้เธอฟัง แม้จะโกรธเพียงใด แต่เจียงเหม่ยหลิงก็รู้ดีว่าเธอต้องอดทน เธอรู้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 67 หายนะที่กำลังจะมาเยือน

    ไม่ถึงสิบนาที ประตูห้องสอบสวนก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างระหงของหลินเสี่ยวเหยาปรากฏขึ้น เธอเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกมาจากห้อง ทิ้งให้หลี่เหว่ยจมอยู่กับความคิดอันสับสนวุ่นวายเพียงลำพังทันทีที่ก้าวพ้นประตู หลินเสี่ยวเหยาต้องเผชิญหน้ากับบุรุษสองนายที่ยืนรออยู่ หยางเฟิงในชุดทหารที่ดูสง่างามยืนรออยู่เคียงข้างพลตรีเฉินกั๋วชิง ผู้บังคับบัญชาของเขา ดวงตาคมกริบของหยางเฟิงจับจ้องมาที่หลินเสี่ยวเหยาอย่างร้อนรน ความอยากรู้ฉายชัดอยู่ในแววตา"เหยาเหยา เป็นยังไงบ้าง หลี่เหว่ยมันยอมปริปากหรือยัง?" เสียงทุ้มเข้มของพันตรีหนุ่มดังขึ้น ท่ามกลางความเงียบของทางเดินหลินเสี่ยวเหยาหยุดยืนอยู่หน้าหยางเฟิงและพลตรีเฉินกั๋วชิง เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบ "แน่นอนค่ะว่าหลี่เหว่ยสารภาพ" เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหยางเฟิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาและเหว่ยเจี้ยน ต่างก็เค้นสอบสวนหลี่เหว่ยมาตลอดทั้งอาทิตย์ ใช้ทั้งวิธีข่มขู่และทรมานสารพัด แต่หัวหน้ากลุ่มกบฏก็ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแต่หลินเสี่ยวเหยาที่เข้าไปในห้องสืบสวน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในนิยายยุค 70   บทที่ 66 เปิดปากหลี่เหว่ย

    ท้องฟ้าเหนือเมืองจินหลงยังคงมืดครึ้ม แม้แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่จะเริ่มสาดส่อง ทว่าบรรยากาศในเซฟเฮาส์ลับกลับเย็นเยียบราวกับถูกปกคลุมด้วยเงามืดเซียวจิ้งหนานนั่งนิ่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปยังลูกน้องที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าที่ถึงจะมีอายุเยอะแต่ก็ยังคงความหล่อเหลา บัดนี้ใบหน้าเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อทุกสิ่งที่เขาได้วางแผนไว้ล้มเหลวไม่เป็นท่า"นายท่านผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ ผมได้รับรายงานว่าค่ายของพวกกบฏที่เราสนับสนุนถูกทหารบุกโจมตีตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วครับ" เสียงของลูกน้องรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อาวุธและคนของเราถูกจับยึดไปทั้งหมด...""ว่ายังไงนะ!" เสียงทุ้มต่ำของเซียวจิ้งหนานดังก้องไปทั่วห้องทำงานเมื่อได้ยินข่าวร้าย "ค่ายของเราถูกพวกทหารรัฐบาลบุกโจมตีงั้นเหรอ?"แก้วเหล้าคริสตัลที่บรรจุของเหลวสีอำพันล้ำค่าหลุดร่วงจากมือหนา กระทบกับพื้นหินอ่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ของเหลวสีทองอร่ามไหลนองไปทั่วพรมเปอร์เซียราคาแพง"ครับนายท่าน" ลูกน้องคนสนิทก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว "พวกมันบุกเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนของเราเสียชีวิ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status