แชร์

บทที่ 7 เดินเล่น

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-17 09:23:47

บทที่ 7 เดินเล่น

จื่อเหยายืนเลือกเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ไม่นานนักก็ได้ชุดที่ถูกใจ โชคดีที่จื่อเหยาเจ้าของร่างชอบแต่งตัวอยู่แล้วจึงมีทั้งเสื้อผ้าสวยงามและเครื่องประดับอยู่พอสมควร

“การแต่งตัวในยุคนี้ก็น่าสนุกดี งานเทศกาลในยุคนี้จะเป็นอย่างไรนะ อย่าว่าแต่เจ้อหยูร์ตื่นเต้นเลย ขนาดฉันยังตื่นเต้นขนาดนี้” จื่อเหยาหยิบต่างหูคู่งามที่เข้ากับชุดมาสวมใส่พร้อมหยิบกระเป๋าถือมาหนึ่งใบและเดินออกไปข้างนอก แม้เธอจะออกไปเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงเรื่องความปลอดภัย เธอนำมีดเล็กสวมปลอกพกพาไปด้วยไม่รู้เลยว่านาทีไหนที่เธอจะถูกพรากลมหายใจไปอีก

“แต่งตัวสวยจังเลยนะ ฉันนี่สิต้องนอนทนเหงาอยู่ที่บ้านอยากแต่งตัวสวย ๆ เหมือนน้องสะใภ้จัง” จื่อเหยาตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ เห็นสะใภ้ใหญ่อย่างหลันเหย่มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวแต่ทำไมต้องนี้สีหน้าถึงเปลี่ยนไปจื่อเหยาเริ่มระวังตัวแต่ก็ทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้อีกฝ่ายระแคะระคายได้

“พี่สะใภ้ใหญ่อยากแต่งตัวสวยก็แต่งอยู่บ้านก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องอิจฉา มาที่หน้าห้องของฉันมีอะไรกันแน่”

“อะไรกันทำไมพูดเย็นชากับฉันแบบนี้ล่ะ น่าน้อยใจนักฉันแค่อยากมาดูเธอเพราะเป็นห่วงเห็นว่าเธอพึ่งฟื้นจากความตายกลัวว่าเธอจะตายอีกรอบต่างหาก” จื่อเหยาเอะใจในคำพูดของหลันเหย่ทำไมถึงมาพูดกับเธอแบบนี้

“คนอย่างฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก เพราะฉันเป็นคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจะตายง่าย ๆ ได้ยังไง” จื่อเหยาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกทำให้อีกฝ่ายใบหน้าซีดเผือกอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันแค่เป็นห่วงอย่างนั้นขอให้เธอเที่ยวเล่นให้สนุกนะ” เธอรีบพูดและเดินหนี คิ้วของจื่อเหยาขมวดเข้าหากันพร้อมครุ่นคิด

‘ตกใจในคำพูดของฉันจนหน้าถอดสี หรือว่าการตายของจื่อเหยาสะใภ้ใหญ่จะรู้เรื่องกันนะ เอาไว้หลังจากงานเทศกาลฉันจะต้องสืบเรื่องนี้ให้ได้ หากเป็นฝีมือเธอแล้วทำไมเธอต้องลงมือจัดการจื่อเหยาด้วย’

“คิดอะไรอยู่ตอนนี้เจ้อหยูร์กับคุณแม่รออยู่ด้านล่างแล้ว เรารีบออกไปกันเถอะ” ยั่วถงเดินขึ้นมาตามไม่ทันได้เห็นว่าเมื่อครู่นี้จื่อเหยาอยู่กับพี่สะใภ้

"ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย รีบไปกันเถอะฉันไม่อยากให้คนอื่นรอนาน" จื่อเหยาหยุดคิดเรื่องน่าสงสัยเอาไว้ เดินนำหน้ายั่วถงลงไปด้านล่างเห็นเจ้อหยูร์เด็กชายตัวน้อยแต่งตัวน่ารักเสียจนตนเองอยากจะเข้าไปแสดงความรัก แต่ทว่าการที่เธอทำอย่างนั้นอาจจะทำให้คนอื่นสงสัยจึงทำได้เพียงทำหน้านิ่ง ๆ เอ่ยชมอย่างเรียบ ๆ

"เจ้อหยูร์วันนี้แต่งตัวดูดีกว่าทุกวันนะ"

"จริงหรือครับเพราะผมเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีไม่อยากให้คุณแม่อับอายขายหน้าคนอื่นเมื่อเดินข้าง ๆ ผมครับ คุณแม่ชมแบบนี้ผมดีใจสุด ๆ ไปเลย " เด็กชายดวงตาเป็นปนระกายรอยยิ้มสดใสกว่าที่เคยมี

"เอาล่ะ เอาล่ะออกเดินทางกันเถอะเดี๋ยวงานจะเปิดเสียก่อน" แม่หลี่เอ่ยขึ้นพลางเดินนำหน้าทุกคนออกไป ยั่วถงยื่นมือไปจับมือของลูกชายพร้อมหันมายื่นมือจะจับจื่อเหยาอีกข้าง

"ไม่เห็นต้องจับเลย ฉันเดินเองได้ไม่ใช่เด็กเสียหน่อย น่ารำคาญเสียจริงคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันออกจากบ้านหรือไง" จื่อเหยาจิปากก่อนจะเดินตามหลังแม่หลี่ไปโดยไม่สนใจมือของยั่วถงที่ยื่นไปหาเธอแม้แต่น้อย

"เธอกลับมาเป็นคนเดิมแล้วสินะ เจ้อหยูร์ลูกรู้มั้ยการเอาใจลูกยังง่ายกว่าแม่ของลูกร้อยเท่าเลย"

"คุณพ่ออย่าสิ้นหวังนะครับ สักวันผมคิดว่าแม่ต้องเห็นความรักของคุณพ่อที่มีต่อคุณแม่แน่นอน เห็นมั้ยครับทุกวันนี้เหมือนคุณแม่จะเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว วันนี้คุณแม่ยังชมผมอีกด้วย ผมเอาใจช่วยคุณพ่อนะครับ และวันนี้ผมจะช่วยให้คุณแม่กับคุณพ่อได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิมเอง" เจ้อหยูร์สงสารคุณพ่อจับมือของคุณพ่อแน่นพร้อมเอ่ยปลอบใจ ทั้งสองเดินตามหลังจื่อเหยาออกมา

ไม่นานนักทั้งสี่คนได้มาถึงงานเทศกาลแม่หลี่ไปที่หน้าเวทีเป็นเจ้าภาพในการจัดงานพร้อมพวกคนใหญ่คนโต ส่วนยั่วถงพาเจ้อหยูร์ยืนอยู่อีกที่เพื่อรอเวลาที่ประธานเปิดงานเทศกาลในค่ำคืนนี้ โดยมีจื่อเหยายืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อเสียงประธานเปิดงานเสียงพลุได้ดังขึ้นท้องฟ้าที่มืดสนิทเกิดประกายไฟแสนงดงาม ผู้ตนต่างพากันตื่นตาโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น เจ้อหยูร์เองก็ไม่ต่างกันเด็กชายจับมือของจื่อเหยาพร้อมกับยั่วถงคนละข้างพร้อมตะโกนออกมาเสียงดัง

“ว๊าววว วันนี้ท้องฟ้าสวยงามมากจริง ๆ คุณพ่อครับคุณแม่ครับ วันนี้ผมมีความสุขที่สุดเลย” จื่อเหยาก้มหน้ามองเด็กชายอมยิ้มเล็กน้อยเอ็นดูมากจริงๆ

‘จื่อเหยาเธอเห็นมั้ยรอยยิ้มของลูกชายเธอทำให้โลกน่าอยู่และสดใสมากแค่ไหน ’ เธอคิดในใจก่อนจะย่อตัวลงกระซิบข้างหูของเจ้อหยูร์

“วันนี้แม่ก็มีความสุขเช่นเดียวกัน รอยยิ้มของลูกสดใสและงดงามที่สุด” เจ้อหยูร์คลี่ยิ้มเต็มดวงหน้าในใจเต้นแรงแข่งกันเสียงพลุ เขามีความสุขจริง ๆ ที่คุณแม่ทำตามที่พูดเอาไว้และไม่ต่อว่าเขาเหมือนเมื่อก่อน แววตาของคุณแม่ที่มองเขาเต็มไปด้วยแววตาที่อ่อนโยนไม่เย็นชาและเกลียดชังเขาเหมือนเมื่อก่อนแม้แต่น้อย ทว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของยั่วถงจนเขาเอะใจ แม้ว่าจื่อเหยาจะเปลี่ยนไปเขาปฏิบัติต่อเจ้อหยูร์ดีขึ้นแต่ทำไมกับเขาถึงยังคงเป็นเหมือนเช่นเดิม

‘ เธอยังโกรธเกลียดฉันมากเลยสินะ ไม่ว่าจะกี่ปีเธอยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่ยอมใจอ่อนให้ฉันสักนิด ’

“สองแม่ลูกพูดคุยอะไรกันหรือ? ตอนนี้พลุหมดแล้วงานเทสกาลเปิดเป็นทางการแล้ว เราไปเดินเที่ยวงานกันเถอะ” จื่อเหยายืดตัวตรง ก่อนจะตอบเขากลับไป

“ดีเหมือนกันรีบเดินเล่นและรีบกลับกันเถอะฉันไม่ค่อยชอบอยู่ที่คนเยอะ ๆ แล้วคุณแม่ล่ะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ คุณแม่คงอยู่กับเพื่อน ๆ อีกอย่างบ้านเราไม่ได้อยู่ไกลจากนี้คุณแม่เหนื่อยคงจะกลับเองได้” ยั่วถงพูดพร้อมก้าวเท้าเดิน จู่ ๆ เจ้อหยูร์สายตาเหลือบไปเห็นการแสดงข้างหน้ารีบกระตุกมือทั้งสองให้พาไปดู

“ผมอยากดูอันนั้นครับ พาไปดูหน่อยนะ” ทั้งสองตามใจเจ้อหยูร์อยากให้เขามีความสุขพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินไปด้านหน้าโดยมีเจ้อหยูร์อยู่ตรงกลางมือของทั้งสองข้างของเขาถูกคุณแม่กับคุณพ่อคนละข้าง จื่อเหยาเดินไปพลางครุ่นคิด

‘อย่างกับว่าเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบจริงๆ คนอื่นมองมาคงคิดว่าครอบครัวตระกูลหลี่รักใคร่ปรองดอง แต่เอาเถอะฉันเข้ามาอยู่ในร่างของจื่อเหยาและมีชีวิตอยู่อีกครั้ง ฉันจะทำหน้าที่แม่และจะทำให้เจ้อหยูร์มีความสุข อย่างที่ไม่เคยได้รับจากแม่ของเขาเอง’

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 15 ผีหลอก

    บทที่ 15 ผีหลอกก๊อก ๆ เสียงประตูห้องของคุณแม่หลี่ดังขึ้นพร้อมเสียงของคนที่อยู่ด้านนอก“คุณแม่ครับผมขอเข้าไปในห้องนะครับ”“เข้ามาสิ มาที่นี่คงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วสินะ” แม่หลี่กำลังเก็บสร้อยใส่กล่องไม้ลวดลายสวยงามล็อคกุญแจแน่นหนา“เป็นฝีมือใครครับ”“แม่คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือสะใภ้ใหญ่ตอนแรกแม่ก็เอะใจทำไมเธอถึงได้เจาะจงที่จะให้เข้าไปค้นหาที่ห้องของสะใภ้เล็ก และก็ไปเจอของที่นั่นจริง ๆ แต่เจ้อหยูร์และท่าทีไม่ได้ตกอกตกใจของจื่อเหยาเพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เธอแน่นอน แม่ไม่เข้าใจเลยทำไมสะใภ้ต้องทำแบบนั้นด้วย ตั้งหลายปีที่สะใภ้เล็กมาอยู่ที่นี่ไม่เคยด่าทอทำให้ผิดใจกันเลยไม่ใช่หรือไง”“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เอาไว้ผมจะจับตาดูพี่สะใภ้กับจื่อเหยา ไม่แน่ทั้งสองต้องมีเรื่องอะไรที่ขัดใจกัน ต่อจากนี้คุณแม่เก็บของมีค่าเอาไว้ให้ดีนะครับ แล้วนี่พี่ซืออี้ยังไม่กลับมาอีกหรือครับ”“นั่นสิ ไปข้างนอกทั้งวันหากว่าพูดเรื่องธุรกิจคงไม่น่าจะยืดยาวขนาดนี้ ไม่แน่ป่านนี้คงจะกลับมาแล้วเราลงไปข้างล่างกันเถอะป่านนี้สะใภ้เล็กกับเจ้อหยูร์คงรอนานแล้ว” ทั้งสองพากันเดินลงไปข้างล่างแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาข

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเอง

    บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเองแม่หลี่รีบเดินไปหาหลันเหย่ที่อยู่หน้าตู้ผ้าของจื่อเหยาเพื่อไปดูว่าของที่หลันเหย่บอกใช่ของเธอหรือไม่? เมื่ิอเห็นสร้อยที่อยู่ในมือของหลันเหย่ใบหน้าของแม่หลี่พลันเปลี่ยนสี ชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันขวับมามองจื่อเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลัง‘อะไรกันนี่ฉันพลาดตั้งแต่ตอนไหน ทำไมสร้อยของคุณแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่าช่วงที่ฉันออกไปซื้อของหรือว่าช่วงที่ฉันนอนกับเจ้อหยูร์เหรอ’“สะใภ้เล็กอธิบายมาสิว่าสร้อยของฉันมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของเธอได้ยังไงกัน”“คุณแม่คะเรื่องสร้อยมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของฉันได้ยังไงฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่เช้ามาฉันออกไปตลาดพึ่งจะได้กลับเข้าห้องเมื่อครู่เพื่ออาบน้ำจะรู้ได้อย่างไรว่าสร้อยคุณแม่มาอยู่ในห้องฉัน เหมือนว่ามีคนจงใจนำมันมาใส่เอาไว้ แล้วทำไมที่อื่นคนอื่นหาไม่เจอแต่พี่สะใภ้มาเจอเข้าเหมือนรู้มาก่อนว่าสร้อยอยู่ตรงไหน ตั้งแต่เดินเข้ามาพี่สะใภ้เดินตรงเข้ามาหาตู้เสื้อผ้าเลย ปกติหากจะเก็บของมีค่าไม่ใช่เก็บไปตรงโต๊ะหัวเตียงหรอกหรือคะ” จื่อเหยาไม่ยอมเป็นแพะรับบาปและยอมอ่อนข้อให้คนอื่นใส่ร้ายแน่นอน ในเมื่อทำกันแบบนี้เธอก็จะร้ายสู้เหมือนกัน“นี่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 13 รู้ตัวคนทำ

    บทที่ 13 รู้ตัวคนทำแสงสว่างวาบผ่านเข้ามาในม่านหมอก หลินชิงเสียงลืมตาขึ้นมาในความมืดเดินตามแสงสว่างไปอย่างงวยงงเสมือนมีอันใดที่ดึงดูดให้เธอเดินตามแสงนั้นไป'ไม่ใช่ว่าฉันเผลอนอนหลับไปกับเจ้อหยูร์หรอกเหรอ แล้วนี่ที่ไหนกันมืดตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่นใครข้างหน้านั่นคนไม่ใช่เหรอ' ร่างบางคิดในใจเดินไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอกลับเห็นว่านั่นคือจื่อเหยากับชายและหญิงอีกหนึ่งคน เหมือนความฝันของเธอคืนก่อน‘นั่นจื่อเหยานี่น่า เหมือนความฝันครั้งก่อนเลยแล้วอีกสองคนนั่นใครกัน’ เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ครั้งนี้เธอไม่เห็นเหมือนครั้งก่อนแต่เห็นชัดเจนและได้ยินเต็มสองหูว่าทั้งสามที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร"เมื่อกี้เธอได้ยินพวกฉันพูดใช่มั้ย ? เธอแอบตามเรามาเพื่อจะเอาเรื่องที่ฉันกับพี่ซืออี้พูดกันไปบอกคุณแม่กับยั่วถงใช่มั้ย แกมันร้ายนักนะทำเป็นไม่สนใจคนในครอบครัว แต่ก็แอบซุ่มทำอะไรลับหลังคนอื่น ""ฮึ! ถึงฉันไม่สนใจคนในครอบครัวแต่ฉันไม่เคยคิดเรื่องชั่ว ๆ แบบพวกเศษสวะอย่างพวกแกหรอกนะ ขนาดมีแม่ที่แสนดีประเคนทุกอย่างให้แต่กลับคิดจะทำร้ายและจะเอาสมบัติเป็นของตัวเอง ชาติชั่วยิ่งกว่านรกส่งมาเกิดอี

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 12 อิจฉา

    บทที่ 12 อิจฉาจื่อเหย่าไม่อยากโต้ตอบรีบเดินนำหน้ายั่วถงกลับบ้านไปหาเจ้อหยูณ์ เมื่อมาถึงแม่หลี่กับเจ้อหยูร์ต้องแปลกใจที่เห็นทั้งสองมาด้วยกัน“ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะตอนนี้ลูกน่าจะอยู่ที่โรงงานไม่ใช่หรือไง”“ผมพยายามเคลียร์งานแล้วออกมาครับ คิดว่าจะออกมาเลือกซื้อรองเท้าให้จื่อเหยาแต่เมื่อมาตลาดเห็นเธอเลือกซื้อรองเท้าอยู่ก่อนหน้าแล้วเลยกลับมาที่บ้านพร้อมกันครับ” “เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้อหยูร์รอเธอกลับมาอย่างตั้งหน้าตั้งตารอมาแล้วก็รีบพาไปทำเถอะเดี๋ยวจะถึงเวลานอนกลางวันแล้ว” “เจ้อหยูร์เราเข้าไปที่ครัวกันเถอะ ส่วนนี่รองเท้าคุณแม่ค่ะขอบคุณนะคะสวมใส่สบายมากฉันเลยซื้ออีกคู่มาเป็นของฝากให้คุณแม่ด้วย เจ้อหยูร์แม่เองก็มีของฝากมาให้ลูกเหมือนกันชอบมั้ย” จื่อเหยายื่นรองเท้าคืนให้แม่หลี่พร้อมรอเท้าใหม่ที่เธอตั้งใจซื้อมาให้แม่หลี่ก่อนจะยื่นของเล่นกับเจ้อหยูร์ เด็กชายเห็นของเล่นดวงตาเริ่มคลอแดงแต่รอยยิ้มบนใบหน้ายิ้มกว้างกว่าเดิม“คุณแม่ให้ผมจริง ๆ หรือครับ ผมรับมันได้ใช่มั้ย”“แม่ตั้งใจซื้อมาให้ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หรือว่าลูกไม่ชอบ”“ไม่ครับ ผมชอบและชอบมันมาก ๆ เลย ขอบคุณนะครับคุณแม่” เด็กน้อยกระโดดกอดจื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 11 พลาด

    บทที่ 11 พลาดอากาศเช้าวันนี้ลมพัดเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกทั้งคืน จื่อเหยาสวมใส่รองเท้าของแม่หลี่ออกมาพร้อมกับสาวใช้สองคนที่เดินตามหลังอย่างกล้า ๆ กลัวจนทำให้เธออึดอัด"นี่...!! ซุบซิบอะไรกันอย่างคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะ กลัวฉันนักหรือไงฉันไม่จับพวกเธอหักคอหรอกนะ""เอ่อ..ขอโทษด้วยนะคะที่เราสองคนทำให้คุณนายเล็กไม่สบายใจ และอึดอัดแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณนายเล็กออกมาจ่ายตลาดทำให้พวกเราไม่ชินตาต้องขอโทษด้วยนะคะ"จื่อเหยาหยุดเดินทันทีก่อนจะคิดอะไรออกและหันไปถามสาวใช้ทั้งสองที่เดินตามมา"ฉันมีเรื่องอะไรจะถามและมีค่าขนมให้เล็กน้อย พวกเธอจะต้องรับปากว่าไม่ปากโป้งบอกใครว่าฉันพูดคุยกับพวกเธอเรื่องอะไร หากเรื่องที่ฉันถามพวกเธอหลุดออกไปล่ะก็อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปง่าย ๆ " ทั้งสองมองหน้ากันไปมาเริ่มวิตกกังวลในคำถามของจื่อเหยา"พวกฉันสัญญาจะไปปากโป้งพูดออกไปแน่นอกค่ะ แล้วเรื่องที่คุณนายเล็กอยากรู้คือเรื่องอะไรหรือคะ""พอดีช่วงนี้ฉันความทรงจำบางช่วงบางตอนขาดหายไป เลยอยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยมีปากเสียงหรือทะเลาะกับใครมั้ย ""คุณนายเล็กไม่เคยทะเลาะกับใครเลยค่ะ จะมีเพียงแค่ความเย็นชาไม่สนใจคนอื่นไม่ว่าคน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 10  ลงทุน

    บทที่ 10 ลงทุนฝั่งด้านซืออี้กับหลันเหย่มื้อคืนนี้กว่าเขาจะกลับเข้ามาบ้านก็จนจะสว่าง เมื่อตื่นขึ้นมาหลันเหย่พูดคุยหารือเรื่องของจื่อเหยากับสามีของเธอ“พี่ซืออี้มื้อวานนี้ฉันลองเข้าไปพูดคุยกับนังจื่อเหยา แต่ดูเหมือนว่าเธอพูดอะไรแปลก ๆ ออกมาด้วย หรือว่าเธอจะแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าเราเป็นคนที่ผลักเธอตกน้ำ และวางแผนปั่นหัวพวกเรารอวันเอาคืน”“หลันเยว่เธอคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกว่าจื่อเหยาสายตาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน เราอย่าพึ่งด่วนสรุปตีโพยตีพายไปก่อน ต้องรอดูอีกสักนิดหากจื่อเหยาเป็นอย่างที่เธอบอกเราค่อยวางแผนจัดการก็แล้วกัน จริงสิวันนี้เงินกงสีออกนี่น่าเรารีบลงไปด้านล่างกันเถอะ ฉันจะได้มีเงินเอาไปลงทุนสำหรับวันนี้เพื่อเอาคืนเงินที่เสียไปมื้อวาน วันนี้พี่ขอเงินในส่วนของที่รักด้วยได้มั้ย วันนี้พี่มั่นใจยังไงวันนี้ต้องดวงดีแน่ ๆ” ซืออี้ออดอ้อนภรรยาของตัวเองเอาอกเอาใจเพราะเขาเสียจนหมดตัววันนี้จึงคิดจะไปเอาเงินที่เสียไปคืนมา หลันเหย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบกลับซืออี้อย่างเหนื่อยใจ“พี่ซืออี้ ช่วงนี้พี่เล่นหนักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่าเงินเก็บของฉัน ฉันก็เอาให้พี่ไปจนหมดอีกไม่กี่เดือนล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 9 ความฝัน

    บทที่ 9 ความฝันตึกตัก ตึกตัก‘ไม่ว่าจะกี่ปีผู้หญิงคนนี้ยังคงงดงามไม่เปลี่ยน หัวใจฉันเองก็เหมือนกันยังคงเต้นแรงเสมือนครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้เข้าใกล้เธอขนาดนี้แถมครั้งนี้เธอไม่แม้จะต่อว่ากลับกลายเป็นใบหน้าที่เขินอายแดงระเรื่อแทน หรือว่าตอนนี้เธอเริ่มมีใจให้ฉันบ้างแล้ว เวลาที่ฉันรอคอยจะเข้ามาใกล้แล้วสินะหัวใจที่เป็นดั่งหินผาฉันจะทำลายมันเอง’ ยั่วถงมองหญิงสาวในอ้อมกอดหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตักตลอดทาง วันนี้เธอช่างงดงามที่สุดในสายตาของเขาจริง ๆ และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขาให้เขาได้ใกล้ชิดกับจื่อเหยาและมีเวลาร่วมกัน แม้แต่เจ้อหยูร์ยังเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กับเธอ เขาค่อย ๆ อุ้มเธอวางลงบนเตียงนอนในห้องของเธอร่างเล็กใบหน้าแดงระเรื่อราวมะเขือเทศยังไม่จาง เขายื่นมือไปถอดรองเท้าให้เธออย่างเบามือ“ข้อเท้าคุณบวมแดงมากเลย เดี๋ยวผมจะไปเอายามาให้กินยาแล้วนอนพักเถอะพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้นอย่าเดินมากนักเข้าใจมั้ย” จื่อเหยาทำตัวไม่ถูกตอบเขากลับอย่างขัดเขิน“อะ..อืม…” เขาเดินออกไปจากห้องของเธอเพื่อไปเอายาไม่นานเขากลับเข้ามาพร้อมน้ำเปล่า นั่งลงบนเตียงยื่นยาให้เธอกินก่อนจะลุกเดินออกไป

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 8 ใจสั่น

    บทที่ 8 ใจสั่นเดินเล่นมาได้สักพักเจ้อหยูร์ไม่มีความเหนื่อยเลยสักนิดแต่เป็นจื่อเหยามากกว่าที่เดินแทบขาลาก“เจ้อหยูร์ แม่ขอนั่งตรงนี่สักครู่ได้มั้ย จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดข้อเท้าขึ้นมา” คงเป็นเพราะรองเท้าที่ใส่มาหรือเพราะความคับแคบของรองเท้าทำให้เธอเริ่มเจ็บขึ้นมาและแดงระเรื่อขึ้น“คุณแม่เหนื่อยนั่งพักก่อนก็ได้ครับ โอ๊ะ..นั่นคุณย่า คุณย่าครับผมอยู่ทางนี้ คุณแม่อย่างนั้นผมขอไปเดินเล่นกับคุณย่านะครับ คุณพ่อผมฝากคุณแม่ด้วยนะครับ” เจ้อหยูร์นักวางแผนตัวน้อยขยิบตาให้พ่อ เสมือนส่งสัญญาณยั่วถงยิ้มรับเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกกับจื่อเหยาให้นั่งคอยอยู่ตรงนี้สักครู่“คุณนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ผมจะพาเจ้อหยูร์ไปหาคุณแม่ก่อน กลัวจะวิ่งไปแล้วพลัดหลงได้”“ไปเถอะฉันจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ดีขึ้นแล้วจะเดินตามไป” จื่อเหยาย่อนตัวนั่งลงบนม้านั่ง มองผู้คนเดินเล่นอย่างสนุกสนาน“คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกมานอกบ้านหรือเปล่านะรองเท้าถึงได้คับแบบนี้ เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไหนกันนะจื่อเหยา น่าเสียดายเวลาจริง ๆ เลย” เธอบ่นพึมพำเมื่อนั่งอยู่คนเดียวเมื่อยั่วถงพาเจ้อหยูร์ไปส่งแม่หลี่ ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมาหาเธอ นั่งลง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 7 เดินเล่น

    บทที่ 7 เดินเล่นจื่อเหยายืนเลือกเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ไม่นานนักก็ได้ชุดที่ถูกใจ โชคดีที่จื่อเหยาเจ้าของร่างชอบแต่งตัวอยู่แล้วจึงมีทั้งเสื้อผ้าสวยงามและเครื่องประดับอยู่พอสมควร“การแต่งตัวในยุคนี้ก็น่าสนุกดี งานเทศกาลในยุคนี้จะเป็นอย่างไรนะ อย่าว่าแต่เจ้อหยูร์ตื่นเต้นเลย ขนาดฉันยังตื่นเต้นขนาดนี้” จื่อเหยาหยิบต่างหูคู่งามที่เข้ากับชุดมาสวมใส่พร้อมหยิบกระเป๋าถือมาหนึ่งใบและเดินออกไปข้างนอก แม้เธอจะออกไปเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงเรื่องความปลอดภัย เธอนำมีดเล็กสวมปลอกพกพาไปด้วยไม่รู้เลยว่านาทีไหนที่เธอจะถูกพรากลมหายใจไปอีก“แต่งตัวสวยจังเลยนะ ฉันนี่สิต้องนอนทนเหงาอยู่ที่บ้านอยากแต่งตัวสวย ๆ เหมือนน้องสะใภ้จัง” จื่อเหยาตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ เห็นสะใภ้ใหญ่อย่างหลันเหย่มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวแต่ทำไมต้องนี้สีหน้าถึงเปลี่ยนไปจื่อเหยาเริ่มระวังตัวแต่ก็ทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้อีกฝ่ายระแคะระคายได้“พี่สะใภ้ใหญ่อยากแต่งตัวสวยก็แต่งอยู่บ้านก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องอิจฉา มาที่หน้าห้องของฉันมีอะไรกันแน่”“อะไรกันทำไมพูดเย็นชากับฉันแบบนี้ล่ะ น่าน้อย

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status