Share

บทที่ 8 ใจสั่น

last update Last Updated: 2025-05-17 09:24:46

บทที่ 8 ใจสั่น

เดินเล่นมาได้สักพักเจ้อหยูร์ไม่มีความเหนื่อยเลยสักนิดแต่เป็นจื่อเหยามากกว่าที่เดินแทบขาลาก

“เจ้อหยูร์ แม่ขอนั่งตรงนี่สักครู่ได้มั้ย จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดข้อเท้าขึ้นมา” คงเป็นเพราะรองเท้าที่ใส่มาหรือเพราะความคับแคบของรองเท้าทำให้เธอเริ่มเจ็บขึ้นมาและแดงระเรื่อขึ้น

“คุณแม่เหนื่อยนั่งพักก่อนก็ได้ครับ โอ๊ะ..นั่นคุณย่า คุณย่าครับผมอยู่ทางนี้ คุณแม่อย่างนั้นผมขอไปเดินเล่นกับคุณย่านะครับ คุณพ่อผมฝากคุณแม่ด้วยนะครับ” เจ้อหยูร์นักวางแผนตัวน้อยขยิบตาให้พ่อ เสมือนส่งสัญญาณยั่วถงยิ้มรับเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกกับจื่อเหยาให้นั่งคอยอยู่ตรงนี้สักครู่

“คุณนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ผมจะพาเจ้อหยูร์ไปหาคุณแม่ก่อน กลัวจะวิ่งไปแล้วพลัดหลงได้”

“ไปเถอะฉันจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ดีขึ้นแล้วจะเดินตามไป” จื่อเหยาย่อนตัวนั่งลงบนม้านั่ง มองผู้คนเดินเล่นอย่างสนุกสนาน

“คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกมานอกบ้านหรือเปล่านะรองเท้าถึงได้คับแบบนี้ เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไหนกันนะจื่อเหยา น่าเสียดายเวลาจริง ๆ เลย” เธอบ่นพึมพำเมื่อนั่งอยู่คนเดียวเมื่อยั่วถงพาเจ้อหยูร์ไปส่งแม่หลี่ ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมาหาเธอ นั่งลงตรงหน้าก่อนจะถอดรองเท้าของเธอออกเพื่อดูข้อเท้า จนอีกฝ่ายตกใจสะดุ้งเล็กน้อย

“นี่ทำอะไรของคุณปล่อยนะ!!”

“ก็คุณบอกปวดข้อเท้าไม่ใช่หรือไง ขอดูหน่อยนะเป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย ดูสิเท้าแดงหมดแล้ว รองเท้าใส่เที่ยวคู่นี้ซื้อตั้งแต่หลายปีก่อนคงคับแคบทำให้เกิดรอยแดงเพราะรองเท้ากัด เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะไปเลือกซื้อคู่ใหม่ให้คุณแล้วกัน คุณจะเดินเล่นต่อมั้ย ตอนนี้เจ้อหยูร์ไปกับคุณแม่แล้ว คุณแม่จะพาเขาเดินเที่ยวเอง หากคุณไม่ไหวมจะพากลับ”

“ฉันเดินกลับได้ไม่เห็นจะต้องมาใส่ใจเลยเอารองเท้าฉันมา” จื่อเหยายื้อแย่งรองเท้าจากมือของยั่วถงเธอก้มลงมาเล็กน้อยทว่าตอนนั้นข้อเท้าของเธอเจ็บแปลบขึ้นมาทำให้เธอเซถลาลงทับกายของยั่วถง จนทั้งคู่ล้มลงกับพื้นโดยร่างกายของจื่อเหยานอนทับตัวของยั่วถงมือของเธอนาบลงบนอกแกร่งของเขาใบหน้าตื่นตะหนก

“อ๊ายยย!!”

“คุณเป็นอะไรมั้ย ? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ..” เขาเอ่ยปากถามเธอทันทีแทนที่จะโมโหหรือโกรธที่เธอทำให้เขาบาดเจ็บ จื่อเหยาใจสั่นเล็กน้อย รีบลุกขึ้นจากตัวของเขาและตอบเขาอย่างหัวเสีย

“ไม่! ฉันไม่เจ็บถ้าคุณไม่ถอดรองเท้าก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ รีบเอามาสิฉันจะกลับบ้าน” ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อด้วยความเขินอายแต่ที่พูดออกมาแบบนั้นเพื่อปกปิดความรู้สึกเอาไว้ ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้เห็นว่าเธอใจเต้นแรงแค่ไหน

‘ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน ฉันต้องระแวงสิชายคนนี้อาจจะเป็นคนที่ฆ่าภรรยาก็ได้ จะมาใจเต้นแค่เขาหวงใยแค่นี้ไม่สมกับเป็นตัวเองเลยนะ หรือเพราะฉันไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายและถูกถามด้วยความห่วงใยแบบนี้กันนะ แถมสายตาที่เขามองมายังดูเหมือนเป็นห่วงฉันมากจริง ๆ เฮ้อ !’ เธอคิดในใจก่อนจะหยิบรองเท้ามาสวมใส่ ยั่วถงเองก็รีบลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่นก่อนจะเอ่ยถามเธออีกครั้ง

“ก็ได้ ผมผิดเองแต่ว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนจริง ๆ ใช่มั้ยรู้สึกว่าเมื่อครู่นี้ข้อเท้าของเธอจะรับแรงของร่างกายไม่ไหวจนล้มลงทับผม เอาแบบนี้แล้วกันขึ้นหลังฉันมาสิ ฉันจะแบกเธอกลับบ้านเอง” พูดจบยั่วถงหันหลังนั่งลงให้จื่อเหยาขึ้นบนหลังของเขาเพื่อกลับบ้าน

“นี่จะบ้าหรือไง เจ็บแค่นี้ไม่เห็นจะต้องแบกฉันกลับเลย ฉันเดินเองได้ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะคนมองกันหมดแล้ว”

“เฮ้อ …ทำไมคุณถึงได้พูดยากแบบนี้นะ เอาตามที่คุณพูดก็ได้แต่ถ้าล้มมาอย่าหาว่าผมไม่เตือนแล้วกัน”

ตึก ตึก…'ให้ตายสิ ใครมันจะกล้าขึ้นหลังผู้ชายกันเล่าแถมดูชุดที่ฉันใส่มาสิขืนขึ้นหลังเขากระโปรงที่ใส่อยู่เปิดเห็นด้านล่างหรือขาดกันพอดี' จื่อเหยาคิดในใจพลางก้าวเท้าเดินทว่าตอนนั้นเองเธอเริ่มเจ็บแปลบทันทีที่วางน้ำหนักลงที่เท้าข้างขวา

“โอ๊ย!! ทำไมจู่ ๆ ถึงเจ็บมากกว่าเดิมแบบนี้นะ”

“เห็นมั้ยล่ะ บอกแล้วไม่เชื่อทำไมถึงไม่ฟังกันเลยเอาเถอะยังไงคุณก็เกลียดผมอยู่แล้วขอทำตามตัวเองแล้วกัน เพราะว่าไม่ยังไงคุณก็เกลียดผมอยู่ดี” ยั่วถงมองจื่อเหยาที่หัวรั้นปากแข็งทั้ง ๆ ที่ตัวเองเจ็บจนเดินแทบไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากเสียหน้าแต่เมื่อเห็นเธอเจ็บจนออกทางสีหน้าแบบนั้นทำให้เขาตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนพาเธอเดินกลับบ้านโดยไม่สนใจเสียงเล็ก ๆ ของจื่อเหยาที่ต่อว่าเขาไม่หยุดปาก

“ปล่อยนะ! ปล่อยฉันลงนะไม่เห็นจะต้องอุ้มฉันแบบนี้เลย แค่ประคองให้เดินก็ได้แล้วคนอื่นมองมาน่าอายจะตายไป”

“ให้ประคองคุณเดินเมื่อไหร่จะถึงบ้าน อยู่นิ่ง ๆ อีกไม่นานก็ถึงแล้ว ส่วนใครจะมองก็ช่างเขาสิคุณเป็นภรรยาของผมนะไม่ใช่แฟนสาวเสียหน่อยมีอะไรให้เสียหาย ถ้าคุณอายก็ก้มหน้าลงหรือหลับตาเอาไว้ถึงบ้านเดี๋ยวผมจะบอก” จื่อเหยาเขินอายจนใบหน้าแดงระเรื่อ เกิดมาพึ่งจะเคยอยู่บนอ้อมแขนแกร่งของชายหนุ่ม แถมผู้คนในงานต่างมาเป็นตาเดียวกันเธอก้มหน้าทำตามที่เขาบอก ไม่ใช่ว่าอยากทำแต่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลยเพราะเจ็บข้อเท้าจริง ๆ ยอมให้เขาอุ้มเธอจนถึงบ้าน ทว่าตลอดทางกลับบ้านนอกจากลมหายใจที่หอบเหนื่อยของยั่วถงเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตักยิ่งกว่าเธอเสียอีก หรือเป็นเพราะเขาเหนื่อยที่ต้องอุ้มเธอเดินกลับ

‘หัวใจของเขาเต้นแรงเสียจนฉันได้ยินชัดเจน หรือว่าเขาจะตื่นเต้นที่ได้ใกล้ชิดภรรยาตัวเอง แต่คงไม่ใช่หรอกเขาอาจจะเหนื่อยที่จะอุ้มฉันเดินมาล่ะสิไม่ว่า อย่าใจสั่นกับชายคนนี้สิหากเขาเอาเธอไปโยนลงแม่น้ำอีกรอบจะทำยังไงมันใช่เวลามาใจสั่นในเรื่องแค่นี้มั้ย’ เธอเตือนสติตัวเองเมื่อไม่ได้ยินเสียงผู้คนเธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาเห็นใบหน้าของเขาที่แดงก่ำจนถึงใบหูช่างน่าแปลก

“ถึงบ้านแล้วเดี๋ยวผมจะพาคุณไปส่งที่ห้องก็แล้วกันเดินขึ้นบันไดเองคงไม่ไหวแน่ ๆ ” ยั่วถงก้มหน้าลงมาจ้องมองจื่อเหยาจังหวะนั้นสายตาสองคู่ประสานกันความรู้สึกแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นภายในใจของจื่อเหยา เธอรีบหันหนีเขาก่อนจะพยักหน้ารับรู้เรื่องที่เขาบอกเมื่อครู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 15 ผีหลอก

    บทที่ 15 ผีหลอกก๊อก ๆ เสียงประตูห้องของคุณแม่หลี่ดังขึ้นพร้อมเสียงของคนที่อยู่ด้านนอก“คุณแม่ครับผมขอเข้าไปในห้องนะครับ”“เข้ามาสิ มาที่นี่คงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วสินะ” แม่หลี่กำลังเก็บสร้อยใส่กล่องไม้ลวดลายสวยงามล็อคกุญแจแน่นหนา“เป็นฝีมือใครครับ”“แม่คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือสะใภ้ใหญ่ตอนแรกแม่ก็เอะใจทำไมเธอถึงได้เจาะจงที่จะให้เข้าไปค้นหาที่ห้องของสะใภ้เล็ก และก็ไปเจอของที่นั่นจริง ๆ แต่เจ้อหยูร์และท่าทีไม่ได้ตกอกตกใจของจื่อเหยาเพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เธอแน่นอน แม่ไม่เข้าใจเลยทำไมสะใภ้ต้องทำแบบนั้นด้วย ตั้งหลายปีที่สะใภ้เล็กมาอยู่ที่นี่ไม่เคยด่าทอทำให้ผิดใจกันเลยไม่ใช่หรือไง”“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เอาไว้ผมจะจับตาดูพี่สะใภ้กับจื่อเหยา ไม่แน่ทั้งสองต้องมีเรื่องอะไรที่ขัดใจกัน ต่อจากนี้คุณแม่เก็บของมีค่าเอาไว้ให้ดีนะครับ แล้วนี่พี่ซืออี้ยังไม่กลับมาอีกหรือครับ”“นั่นสิ ไปข้างนอกทั้งวันหากว่าพูดเรื่องธุรกิจคงไม่น่าจะยืดยาวขนาดนี้ ไม่แน่ป่านนี้คงจะกลับมาแล้วเราลงไปข้างล่างกันเถอะป่านนี้สะใภ้เล็กกับเจ้อหยูร์คงรอนานแล้ว” ทั้งสองพากันเดินลงไปข้างล่างแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาข

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเอง

    บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเองแม่หลี่รีบเดินไปหาหลันเหย่ที่อยู่หน้าตู้ผ้าของจื่อเหยาเพื่อไปดูว่าของที่หลันเหย่บอกใช่ของเธอหรือไม่? เมื่ิอเห็นสร้อยที่อยู่ในมือของหลันเหย่ใบหน้าของแม่หลี่พลันเปลี่ยนสี ชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันขวับมามองจื่อเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลัง‘อะไรกันนี่ฉันพลาดตั้งแต่ตอนไหน ทำไมสร้อยของคุณแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่าช่วงที่ฉันออกไปซื้อของหรือว่าช่วงที่ฉันนอนกับเจ้อหยูร์เหรอ’“สะใภ้เล็กอธิบายมาสิว่าสร้อยของฉันมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของเธอได้ยังไงกัน”“คุณแม่คะเรื่องสร้อยมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของฉันได้ยังไงฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่เช้ามาฉันออกไปตลาดพึ่งจะได้กลับเข้าห้องเมื่อครู่เพื่ออาบน้ำจะรู้ได้อย่างไรว่าสร้อยคุณแม่มาอยู่ในห้องฉัน เหมือนว่ามีคนจงใจนำมันมาใส่เอาไว้ แล้วทำไมที่อื่นคนอื่นหาไม่เจอแต่พี่สะใภ้มาเจอเข้าเหมือนรู้มาก่อนว่าสร้อยอยู่ตรงไหน ตั้งแต่เดินเข้ามาพี่สะใภ้เดินตรงเข้ามาหาตู้เสื้อผ้าเลย ปกติหากจะเก็บของมีค่าไม่ใช่เก็บไปตรงโต๊ะหัวเตียงหรอกหรือคะ” จื่อเหยาไม่ยอมเป็นแพะรับบาปและยอมอ่อนข้อให้คนอื่นใส่ร้ายแน่นอน ในเมื่อทำกันแบบนี้เธอก็จะร้ายสู้เหมือนกัน“นี่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 13 รู้ตัวคนทำ

    บทที่ 13 รู้ตัวคนทำแสงสว่างวาบผ่านเข้ามาในม่านหมอก หลินชิงเสียงลืมตาขึ้นมาในความมืดเดินตามแสงสว่างไปอย่างงวยงงเสมือนมีอันใดที่ดึงดูดให้เธอเดินตามแสงนั้นไป'ไม่ใช่ว่าฉันเผลอนอนหลับไปกับเจ้อหยูร์หรอกเหรอ แล้วนี่ที่ไหนกันมืดตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่นใครข้างหน้านั่นคนไม่ใช่เหรอ' ร่างบางคิดในใจเดินไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอกลับเห็นว่านั่นคือจื่อเหยากับชายและหญิงอีกหนึ่งคน เหมือนความฝันของเธอคืนก่อน‘นั่นจื่อเหยานี่น่า เหมือนความฝันครั้งก่อนเลยแล้วอีกสองคนนั่นใครกัน’ เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ครั้งนี้เธอไม่เห็นเหมือนครั้งก่อนแต่เห็นชัดเจนและได้ยินเต็มสองหูว่าทั้งสามที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร"เมื่อกี้เธอได้ยินพวกฉันพูดใช่มั้ย ? เธอแอบตามเรามาเพื่อจะเอาเรื่องที่ฉันกับพี่ซืออี้พูดกันไปบอกคุณแม่กับยั่วถงใช่มั้ย แกมันร้ายนักนะทำเป็นไม่สนใจคนในครอบครัว แต่ก็แอบซุ่มทำอะไรลับหลังคนอื่น ""ฮึ! ถึงฉันไม่สนใจคนในครอบครัวแต่ฉันไม่เคยคิดเรื่องชั่ว ๆ แบบพวกเศษสวะอย่างพวกแกหรอกนะ ขนาดมีแม่ที่แสนดีประเคนทุกอย่างให้แต่กลับคิดจะทำร้ายและจะเอาสมบัติเป็นของตัวเอง ชาติชั่วยิ่งกว่านรกส่งมาเกิดอี

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 12 อิจฉา

    บทที่ 12 อิจฉาจื่อเหย่าไม่อยากโต้ตอบรีบเดินนำหน้ายั่วถงกลับบ้านไปหาเจ้อหยูณ์ เมื่อมาถึงแม่หลี่กับเจ้อหยูร์ต้องแปลกใจที่เห็นทั้งสองมาด้วยกัน“ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะตอนนี้ลูกน่าจะอยู่ที่โรงงานไม่ใช่หรือไง”“ผมพยายามเคลียร์งานแล้วออกมาครับ คิดว่าจะออกมาเลือกซื้อรองเท้าให้จื่อเหยาแต่เมื่อมาตลาดเห็นเธอเลือกซื้อรองเท้าอยู่ก่อนหน้าแล้วเลยกลับมาที่บ้านพร้อมกันครับ” “เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้อหยูร์รอเธอกลับมาอย่างตั้งหน้าตั้งตารอมาแล้วก็รีบพาไปทำเถอะเดี๋ยวจะถึงเวลานอนกลางวันแล้ว” “เจ้อหยูร์เราเข้าไปที่ครัวกันเถอะ ส่วนนี่รองเท้าคุณแม่ค่ะขอบคุณนะคะสวมใส่สบายมากฉันเลยซื้ออีกคู่มาเป็นของฝากให้คุณแม่ด้วย เจ้อหยูร์แม่เองก็มีของฝากมาให้ลูกเหมือนกันชอบมั้ย” จื่อเหยายื่นรองเท้าคืนให้แม่หลี่พร้อมรอเท้าใหม่ที่เธอตั้งใจซื้อมาให้แม่หลี่ก่อนจะยื่นของเล่นกับเจ้อหยูร์ เด็กชายเห็นของเล่นดวงตาเริ่มคลอแดงแต่รอยยิ้มบนใบหน้ายิ้มกว้างกว่าเดิม“คุณแม่ให้ผมจริง ๆ หรือครับ ผมรับมันได้ใช่มั้ย”“แม่ตั้งใจซื้อมาให้ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หรือว่าลูกไม่ชอบ”“ไม่ครับ ผมชอบและชอบมันมาก ๆ เลย ขอบคุณนะครับคุณแม่” เด็กน้อยกระโดดกอดจื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 11 พลาด

    บทที่ 11 พลาดอากาศเช้าวันนี้ลมพัดเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกทั้งคืน จื่อเหยาสวมใส่รองเท้าของแม่หลี่ออกมาพร้อมกับสาวใช้สองคนที่เดินตามหลังอย่างกล้า ๆ กลัวจนทำให้เธออึดอัด"นี่...!! ซุบซิบอะไรกันอย่างคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะ กลัวฉันนักหรือไงฉันไม่จับพวกเธอหักคอหรอกนะ""เอ่อ..ขอโทษด้วยนะคะที่เราสองคนทำให้คุณนายเล็กไม่สบายใจ และอึดอัดแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณนายเล็กออกมาจ่ายตลาดทำให้พวกเราไม่ชินตาต้องขอโทษด้วยนะคะ"จื่อเหยาหยุดเดินทันทีก่อนจะคิดอะไรออกและหันไปถามสาวใช้ทั้งสองที่เดินตามมา"ฉันมีเรื่องอะไรจะถามและมีค่าขนมให้เล็กน้อย พวกเธอจะต้องรับปากว่าไม่ปากโป้งบอกใครว่าฉันพูดคุยกับพวกเธอเรื่องอะไร หากเรื่องที่ฉันถามพวกเธอหลุดออกไปล่ะก็อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปง่าย ๆ " ทั้งสองมองหน้ากันไปมาเริ่มวิตกกังวลในคำถามของจื่อเหยา"พวกฉันสัญญาจะไปปากโป้งพูดออกไปแน่นอกค่ะ แล้วเรื่องที่คุณนายเล็กอยากรู้คือเรื่องอะไรหรือคะ""พอดีช่วงนี้ฉันความทรงจำบางช่วงบางตอนขาดหายไป เลยอยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยมีปากเสียงหรือทะเลาะกับใครมั้ย ""คุณนายเล็กไม่เคยทะเลาะกับใครเลยค่ะ จะมีเพียงแค่ความเย็นชาไม่สนใจคนอื่นไม่ว่าคน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 10  ลงทุน

    บทที่ 10 ลงทุนฝั่งด้านซืออี้กับหลันเหย่มื้อคืนนี้กว่าเขาจะกลับเข้ามาบ้านก็จนจะสว่าง เมื่อตื่นขึ้นมาหลันเหย่พูดคุยหารือเรื่องของจื่อเหยากับสามีของเธอ“พี่ซืออี้มื้อวานนี้ฉันลองเข้าไปพูดคุยกับนังจื่อเหยา แต่ดูเหมือนว่าเธอพูดอะไรแปลก ๆ ออกมาด้วย หรือว่าเธอจะแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าเราเป็นคนที่ผลักเธอตกน้ำ และวางแผนปั่นหัวพวกเรารอวันเอาคืน”“หลันเยว่เธอคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกว่าจื่อเหยาสายตาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน เราอย่าพึ่งด่วนสรุปตีโพยตีพายไปก่อน ต้องรอดูอีกสักนิดหากจื่อเหยาเป็นอย่างที่เธอบอกเราค่อยวางแผนจัดการก็แล้วกัน จริงสิวันนี้เงินกงสีออกนี่น่าเรารีบลงไปด้านล่างกันเถอะ ฉันจะได้มีเงินเอาไปลงทุนสำหรับวันนี้เพื่อเอาคืนเงินที่เสียไปมื้อวาน วันนี้พี่ขอเงินในส่วนของที่รักด้วยได้มั้ย วันนี้พี่มั่นใจยังไงวันนี้ต้องดวงดีแน่ ๆ” ซืออี้ออดอ้อนภรรยาของตัวเองเอาอกเอาใจเพราะเขาเสียจนหมดตัววันนี้จึงคิดจะไปเอาเงินที่เสียไปคืนมา หลันเหย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบกลับซืออี้อย่างเหนื่อยใจ“พี่ซืออี้ ช่วงนี้พี่เล่นหนักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่าเงินเก็บของฉัน ฉันก็เอาให้พี่ไปจนหมดอีกไม่กี่เดือนล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 9 ความฝัน

    บทที่ 9 ความฝันตึกตัก ตึกตัก‘ไม่ว่าจะกี่ปีผู้หญิงคนนี้ยังคงงดงามไม่เปลี่ยน หัวใจฉันเองก็เหมือนกันยังคงเต้นแรงเสมือนครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้เข้าใกล้เธอขนาดนี้แถมครั้งนี้เธอไม่แม้จะต่อว่ากลับกลายเป็นใบหน้าที่เขินอายแดงระเรื่อแทน หรือว่าตอนนี้เธอเริ่มมีใจให้ฉันบ้างแล้ว เวลาที่ฉันรอคอยจะเข้ามาใกล้แล้วสินะหัวใจที่เป็นดั่งหินผาฉันจะทำลายมันเอง’ ยั่วถงมองหญิงสาวในอ้อมกอดหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตักตลอดทาง วันนี้เธอช่างงดงามที่สุดในสายตาของเขาจริง ๆ และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขาให้เขาได้ใกล้ชิดกับจื่อเหยาและมีเวลาร่วมกัน แม้แต่เจ้อหยูร์ยังเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กับเธอ เขาค่อย ๆ อุ้มเธอวางลงบนเตียงนอนในห้องของเธอร่างเล็กใบหน้าแดงระเรื่อราวมะเขือเทศยังไม่จาง เขายื่นมือไปถอดรองเท้าให้เธออย่างเบามือ“ข้อเท้าคุณบวมแดงมากเลย เดี๋ยวผมจะไปเอายามาให้กินยาแล้วนอนพักเถอะพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้นอย่าเดินมากนักเข้าใจมั้ย” จื่อเหยาทำตัวไม่ถูกตอบเขากลับอย่างขัดเขิน“อะ..อืม…” เขาเดินออกไปจากห้องของเธอเพื่อไปเอายาไม่นานเขากลับเข้ามาพร้อมน้ำเปล่า นั่งลงบนเตียงยื่นยาให้เธอกินก่อนจะลุกเดินออกไป

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 8 ใจสั่น

    บทที่ 8 ใจสั่นเดินเล่นมาได้สักพักเจ้อหยูร์ไม่มีความเหนื่อยเลยสักนิดแต่เป็นจื่อเหยามากกว่าที่เดินแทบขาลาก“เจ้อหยูร์ แม่ขอนั่งตรงนี่สักครู่ได้มั้ย จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดข้อเท้าขึ้นมา” คงเป็นเพราะรองเท้าที่ใส่มาหรือเพราะความคับแคบของรองเท้าทำให้เธอเริ่มเจ็บขึ้นมาและแดงระเรื่อขึ้น“คุณแม่เหนื่อยนั่งพักก่อนก็ได้ครับ โอ๊ะ..นั่นคุณย่า คุณย่าครับผมอยู่ทางนี้ คุณแม่อย่างนั้นผมขอไปเดินเล่นกับคุณย่านะครับ คุณพ่อผมฝากคุณแม่ด้วยนะครับ” เจ้อหยูร์นักวางแผนตัวน้อยขยิบตาให้พ่อ เสมือนส่งสัญญาณยั่วถงยิ้มรับเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกกับจื่อเหยาให้นั่งคอยอยู่ตรงนี้สักครู่“คุณนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ผมจะพาเจ้อหยูร์ไปหาคุณแม่ก่อน กลัวจะวิ่งไปแล้วพลัดหลงได้”“ไปเถอะฉันจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ดีขึ้นแล้วจะเดินตามไป” จื่อเหยาย่อนตัวนั่งลงบนม้านั่ง มองผู้คนเดินเล่นอย่างสนุกสนาน“คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกมานอกบ้านหรือเปล่านะรองเท้าถึงได้คับแบบนี้ เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไหนกันนะจื่อเหยา น่าเสียดายเวลาจริง ๆ เลย” เธอบ่นพึมพำเมื่อนั่งอยู่คนเดียวเมื่อยั่วถงพาเจ้อหยูร์ไปส่งแม่หลี่ ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมาหาเธอ นั่งลง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 7 เดินเล่น

    บทที่ 7 เดินเล่นจื่อเหยายืนเลือกเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ไม่นานนักก็ได้ชุดที่ถูกใจ โชคดีที่จื่อเหยาเจ้าของร่างชอบแต่งตัวอยู่แล้วจึงมีทั้งเสื้อผ้าสวยงามและเครื่องประดับอยู่พอสมควร“การแต่งตัวในยุคนี้ก็น่าสนุกดี งานเทศกาลในยุคนี้จะเป็นอย่างไรนะ อย่าว่าแต่เจ้อหยูร์ตื่นเต้นเลย ขนาดฉันยังตื่นเต้นขนาดนี้” จื่อเหยาหยิบต่างหูคู่งามที่เข้ากับชุดมาสวมใส่พร้อมหยิบกระเป๋าถือมาหนึ่งใบและเดินออกไปข้างนอก แม้เธอจะออกไปเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงเรื่องความปลอดภัย เธอนำมีดเล็กสวมปลอกพกพาไปด้วยไม่รู้เลยว่านาทีไหนที่เธอจะถูกพรากลมหายใจไปอีก“แต่งตัวสวยจังเลยนะ ฉันนี่สิต้องนอนทนเหงาอยู่ที่บ้านอยากแต่งตัวสวย ๆ เหมือนน้องสะใภ้จัง” จื่อเหยาตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ เห็นสะใภ้ใหญ่อย่างหลันเหย่มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวแต่ทำไมต้องนี้สีหน้าถึงเปลี่ยนไปจื่อเหยาเริ่มระวังตัวแต่ก็ทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้อีกฝ่ายระแคะระคายได้“พี่สะใภ้ใหญ่อยากแต่งตัวสวยก็แต่งอยู่บ้านก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องอิจฉา มาที่หน้าห้องของฉันมีอะไรกันแน่”“อะไรกันทำไมพูดเย็นชากับฉันแบบนี้ล่ะ น่าน้อย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status