Share

บทที่ 6 ลองให้โอกาส

last update Last Updated: 2025-05-17 09:23:19

บทที่ 6 ลองให้โอกาส

ฝั่งด้านซืออี้เขาทั้งโมโหและรู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่แม่ของเขาลำเอียงรักแต่น้องชาย

“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยว่ะ นังจื่อเหยาทำไมถึงรอดมาได้แถมยังทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณแม่ก็อีกคนเข้าข้างแต่ยั่วถงแล้วอย่างนี้จะเอายังไงต่อไปดี”

“พี่ซืออี้เอาแบบนี้มั้ยเดี๋ยวฉันจะเข้าหานังจื่อเหยาเองจะได้รู้ว่ามันแกล้งทำเป็นจำอะไรไม่ได้หรือว่ามันจำเรื่องทุกอย่างไม่ได้จริง ๆ หากมันจำได้ฉันจะจัดการส่งมันไปลงนรกอีกครั้ง หากไม่ทำแบบนั้นมันจะเปิดโปงเราทั้งสองคนนะแล้วแผนการที่เราจะหุบสมบัติทั้งหมดจะได้ล่มกันพอดี”

“จะทำอะไรก็ทำเถอะ ระวังด้วยแล้วกันเธอยิ่งท้องอยู่เฮ้อ แล้ววันนี้ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปเล่นว่ะ หงุดหงิดเป็นบ้าให้ตายสิ” หลันเหย่รักสามีเธอมากและคิดว่าวันหนึ่งยังไงสมบัติทุกอย่างต้องตกเป็นของเธอ จึงเดินไปยกหีบเงินที่เธอเก็บเอาไว้ให้สามีของเธอเผื่อเขาจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

“ฉันพอจะมาเงินเก็บอยู่บ้างพี่เอาไปหมุนก่อนเถอะนะอีกไม่กี่วันเงินกงสีจะออกแล้ว”

“ภรรยาของฉันดีที่หนึ่งเลย ขอบใจเธอมากนะฉันจะเอาเงินนี่ไปต่อทุนหากได้มาจะเอามาคืน ฉันไปก่อนนะอย่าลืมไปทำเรื่องที่เราพูดเมื่อครู่นี่ด้วย” เมื่อได้เงินซืออี้อารมณ์ดีขึ้นมาทันตาจูบลงที่หน้าผากของภรรยาก่อนจะรีบเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปเล่นการพนัน

เพราะความขี้เกียจทำงานหวังรายทางลัดไม่ต้องทำงานแต่มีเงินใช้ซืออี้จึงนำเงินที่มีอยู่ไปเล่นการพนันและตอนนี้เขาติดมากจนคิดว่าเงินกงสีไม่เพียงพอที่เขาจะเอาไปเล่นเสียแล้ว จึงคิดหาหนทางที่จะเอาเงินจากบ้านตัวเองแต่ใครจะคิดวันที่เขาวางแผนกับภรรอยู่นั้น จื่อเหยาได้ปรากฏตัวขึ้นและได้ยินแผนการทั้งหมดเพื่อไม่ให้แผนที่ตนเองวางไว้ไปถึงหูผู้เป็นแม่และน้องชาย ซืออี้จึงข่มขู่แต่ทว่าจื่อเหยามิได้กลัวแม้แต่น้อย ทำให้เขาโมโหพลั้งมือผลักเธอจนตกคลองหลังบ้าน สองสามีภรรยามองหน้ากันด้วยความตกใจแต่เมื่อเห็นว่าร่างของจื่อเหยาไม่โผล่มาเธอคงจะจมน้ำตายไปแล้ว ทั้งสองรีบจชักชวนพากันกลับที่ห้องโดยเร็วก่อนที่สาวใช้ในบ้านจะมาพบเจอ และวางแผนไม่รู้เรื่องที่จื่อเหยาหายตัวพร้อมปิดปากเงียบเรื่องที่พวกเขาเป็นคนฆ่าเธอกับมือตัวเอง

หลันเหย่คิ้วขมวดเข้าหากันพลางครุ่นคิดเธอจะเข้าไปหาน้องสะใภ้อย่างไรไม่ให้เธอระแคะระคาย น้องสะใภ้ยิ่งมีนิสัยโหดเหี้ยมแถมยังเย็นชาเช่นนั้น เธอจึงคิดหาทางที่ดี มิเช่นนั้นอาจจะถูกเธอสงสัยเอาได้หากเธอจำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้ล้วนเป็นการดีต่อเธอและสามี แต่ถ้าเธอแกล้งจำไม่ได้จะทำอย่างไรต่อไป ดังนั้นหลันเหย่ไม่อาจจะบุ่มบ่ามทำอะไรได้ เธอจะค่อย ๆ เข้าไปตีสนิทกับจื่อเหยาดู

ช่วงเย็นมาถึงหลันเหย่เดินลงมาจากห้องเห็นจื่อเหยายืนพูดคุยกับแม่สามี เธอเริ่มไม่พอใจใบหน้าบึ้งตึงแต่ไหนแต่ไรไม่เห็นเธอจะเคยโผล่มาที่ครัวสักครั้ง

'เฮอะ! อยู่ที่นี่ตั้งหลายปีไม่เห็นจะเคยมาที่ครัวสักครั้ง นี่เกิดอะไรขึ้นกันหรือว่าเธอจะจำอะไรไม่ได้จริง ๆ ดีเลยฉันจะได้ตีสนิทเธอเอาไว้ '

"คุณแม่น้องสะใภ้ทำอะไรกินกันหรือกลิ่นหอมฟุ้งไปจนถึงชั้นสอง"

"สะใภ้ใหญ่ลงมาก็ดีแล้ว นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นจะได้กินกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วซืออี้ล่ะสำนึกตัวเองหรือยัง"

"ตอนนี้พี่ซืออี้ไม่อยู่ค่ะออกไปข้างนอกแล้ว เห็นว่านัดกับเพื่อนเอาไว้ฉันรู้ว่าคุณแม่ไม่อยากให้พี่ซืออี้ทำธุรกิจ แต่ว่าเขามีความตั้งใจมากจริง ๆ นะคะ "

"เฮ้อ! นี่ฉันพูดอะไรไม่เคยจะฟังเลยสินะ เอาล่ะในเมื่อไม่อยู่ก็กินกันแต่เรานี่แหละ จริงสิจื่อเหยาแล้วยั่วถงกลับมาหรือยัง"

"ยังไม่เห็นน่าจะยังไม่มา เดี๋ยวฉันขอไปตามเจ้อหยูร์ลงมากินข้าวด้วยกันก่อนป่านนี้คงหิวแล้ว" จื่อเหยาเช็ดมือเมื่อจัดโต๊ะเสร็จเดินหันหลังไปที่ห้องของเจ้อหยูร์ หลันเหย่มองตามมองพูดออกมากับแม่สามี

“คุณแม่ว่าช่วงนี้น้องสะใภ้แปลกไปหรือเปล่าคะ แต่ก่อนแต่ไรเธอไม่เคยมาที่ครัวแลยแถมยังไม่เคยสนใจใยดีเจ้อหยูร์แม้แต่น้อย นี่อะไรกันไปตามเจ้อหยูร์มากินข้าวเพราะกลัวว่าหิว ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ ”

“ว่าแปลกก็แปกลแต่เป็นแบบนี้ฉันก็ว่าดีเหมือนกัน เจ้อหยูร์ได้รับไออุ่นความรักของแม่บ้างใบหน้าของหลายชายฉันจะได้มีรอยยิ้มบ้าง เธอเองก็ไปล้างไม้ล้างมือมากินข้าวกันเถอะ ฉันซื้อยาบำรุงครรภ์มาให้ดื่มให้หมดด้วยล่ะ มันดีต่อลูกในท้องเข้าใจที่ฉันพูดมั้ย ส่วนซืออี้กลับมาเมื่อไหร่ฉันจะคุยกับเขาเองเรื่องธุรกิจที่เขาอยากทำ" แม่สามีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนจะพยักหน้าให้สาวใช้ตักข้าวลงใส่จานให้ทุกคน ไม่นานนักหลี่ยั่วถงก็เดินเข้ามาจากด้านนอก

"วันนี้ทำอะไรหรือครับ กลิ่นโชยออกไปด้านบ้านเลยคงไม่ใช่ว่ากินข้าวเย็นกันไปแล้วหรอกนะครับ"

"ยั่วถงลูกมาพอดี เรายังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลยรีบมานั่งข้าง ๆ แม่นี่"

"ว่าแต่คนอื่นไปไหนกันหมดหรือครับ" ยั่วถงมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครนอกจากคุณแม่และสาวใช้

“หลันเหย่ไปล้างมือในครัวนะ ส่วนจื่อเหยาไปตามเจ้อหยูร์ที่ห้องน่าจะลงมากันแล้วล่ะ นั่นไงมานั่นแล้ว” เอ่ยไม่ทันจบจื่อเหยาเดินลงมาพร้อมกับเจ้อหยูร์ ยั่วถงเผลอยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าตอนนี้ภรรยาของเขาสนใจลูกชายมากกว่าแต่ก่อน 

‘แม้จะรู้ว่าช่วงนี้ตั้งแต่ที่จื่อเหยาฟื้นขึ้นมาจากความตายเธอจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่เป็นแบบนี้ก็ดีไม่น้อยเจ้อหยูร์คงมีความสุขที่แม่ของเขาสนใจ’ ยั่วถงคิดในใจนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ แม่ของเขา

หลังจากที่ทุกคนกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา แม่สามีได้เอ่ยขึ้นมาเรื่องที่ได้ยินมาจากตลาดวันนี้

“จริงสิได้ยินว่าวันนี้ที่ตลาดจะมีงานเชิดสิงโตและมีการจัดงานมากมาย ฉันนะเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพสนับสนุน ยั่วถงพาเจ้อหยูร์กับสะใภ้เล็กออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง ส่วนเธอตอนนี้ท้องอยู่ไม่ต้องออกไปข้างนอกนักเดี๋ยวจะไม่ดีต่อลูกในท้อง ยิ่งคนเยอะยิ่งอันตรายเอาไว้คลอดและหลานของฉันสักหน่อยค่อยออกงานสังคม” หลี่มู่หลานหรือแม่หลี่ได้เอ่ยขึ้นทำให้หลันเหย่ชะงักเล็กน้อยเมื่อครู่เมื่อได้ยินใบหน้าของเธอยิ้มระเรื่อนานมากแล้วที่ไม่ได้เที่ยวงานยิ่งใหญ่แบบนี้ แต่จู่ ๆ กลับถูกแม่สามีสั่งห้ามไม่ให้ออกไปแต่เป็นจื่อเหยาที่ได้ออกไปทำให้เธออิจฉาริษยามากกว่าเดิม

‘ทำไมต้องเอาอกเอาใจ คนนิสัยไม่ดีอย่างนังจื่อเหยาด้วย ไม่เคยเห็นเธอจะออกไปที่ไหนเลยสักครั้งที่ชักชวนคอยดูสิเดี๋ยวเธอต้อง

ตอบว่าไม่ไปแน่นอน’ หลันเหย่คิดในใจก่อนจะตอบแม่หลี่

“ก็ได้ค่ะคุณแม่ แต่อย่าลืมซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากฉันด้วยนะคะ”

“ได้ ว่าแต่ลูกล่ะยั่วถงจะพาเจ้อหยูร์ออกไปเที่ยวมั้ย ”

“ไปสิครับ วันนี้ช่วงเช้าผมได้พูดคุยและชักชวนทั้งสองคนเอาไว้แล้ว เจ้อหยูร์เตรียมตัวรอพ่อแล้วใช่มั้ย” เด็กชายคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้า

“ใช่ครับคุณพ่อ วันนี้ผมนอนกลางวันเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดี คืนนี้จะเที่ยวให้สนุกเลยครับ” 

“ดี ๆ อย่างนั้นหลานต้องกินข้าวเยอะ ๆ ล่ะจะได้มีแรงเดิน แล้วเธอล่ะจื่อเหยาไปด้วยกันมั้ย?”

“รับปากเจ้อหยูร์ไว้แล้วก็คงต้องไป อย่างนั้นขอไปเตรียมตัวก่อนนะคะ” จื่อเหยาลุกขึ้นจากเก้าอี้เพราะเธอลืมไปเลยว่าเมื่อเช้านี้ยั่วถงชวนออกไปเที่ยว

“ฮึ สงสัยพายุฝนจะกระหน่ำลงมา ฉันอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะคะคุณแม่” หลันเหย่ไม่พอใจเล็กน้อยลุกขึ้นพรวดออกจากโต๊ะอาหารกลับไปที่ห้องของตัวเอง ทำไมต้องกลายเป็นเธอที่ถูกทิ้งให้อยู่ในบ้านเพียงคนเดียวสามีก็ออกไปข้างนอก ไหนคืนนี้แม่สามีน้องชายและสะใภ้เล็กจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ยิ่งทำเธอยิ่งไม่ชอบใจจนเจ็บใจแค้น

“ลูกว่าภรรยาของลูกดูเปลี่ยนไปหรือไม่? ” เมื่อทุกคนเดินออกไปหมดแล้วหลี่มู่หลานพูดขึ้นมากับยั่วถง

“บางครั้งเธอก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปทั้งแววตาและน้ำเสียงแต่บางครั้งเธอก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม สงสัยเป็นเพราะเธอฟื้นจากความตายมานะครับ แต่เป็นแบบนี้ผมว่าดีต่อเจ้อหยูร์นะครับคุณแม่ ว่าแต่พี่ซืออี้ไปไหนไม่เห็นมากินข้าวด้วยกันหรือว่าโมโหคุณแม่ตั้งแต่เมื่อเช้านี้”

“เฮ้อ ! แม่ละทุกข์ใจจริง ๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่ชายของแกจะโตสักทีเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่างเดิมทีโรงงานของเราแม่ตั้งใจให้ซืออี้คอยดูแล แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด แม่ไม่สามารถไว้ใจให้ซืออี้ดูแลโรงงานของเราได้เลย เห็นสะใภ้ใหญ่บอกว่าออกไปข้างนอกนัดเพื่อนเอาไว้เรื่องธุรกิจ นะ”

“คุณแม่ลองเชื่อใจพี่ซืออี้ดูอีกสักครั้งนะครับ ลองให้โอกาสพี่อีกรอบไม่แน่รอบนี้พี่อาจจะทำได้ดีเลยก็ได้ พี่คงตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อลูกที่กำลังลืมตานะครับ” ยั่วถงพูดคุยกับแม่พักใหญ่ก่อนจะขอตัวไปพักอีกคน หลี่มู่หลานครุ่นคิดพักใหญ่หรือเธอจะเย็นชาและคาดหวังในตัวลูกชายคนโตมากเกินไป เลยคิดว่าจะลองให้เงินกับซืออี้สักก้อนเพื่อให้เขาลองพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 15 ผีหลอก

    บทที่ 15 ผีหลอกก๊อก ๆ เสียงประตูห้องของคุณแม่หลี่ดังขึ้นพร้อมเสียงของคนที่อยู่ด้านนอก“คุณแม่ครับผมขอเข้าไปในห้องนะครับ”“เข้ามาสิ มาที่นี่คงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วสินะ” แม่หลี่กำลังเก็บสร้อยใส่กล่องไม้ลวดลายสวยงามล็อคกุญแจแน่นหนา“เป็นฝีมือใครครับ”“แม่คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือสะใภ้ใหญ่ตอนแรกแม่ก็เอะใจทำไมเธอถึงได้เจาะจงที่จะให้เข้าไปค้นหาที่ห้องของสะใภ้เล็ก และก็ไปเจอของที่นั่นจริง ๆ แต่เจ้อหยูร์และท่าทีไม่ได้ตกอกตกใจของจื่อเหยาเพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เธอแน่นอน แม่ไม่เข้าใจเลยทำไมสะใภ้ต้องทำแบบนั้นด้วย ตั้งหลายปีที่สะใภ้เล็กมาอยู่ที่นี่ไม่เคยด่าทอทำให้ผิดใจกันเลยไม่ใช่หรือไง”“เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เอาไว้ผมจะจับตาดูพี่สะใภ้กับจื่อเหยา ไม่แน่ทั้งสองต้องมีเรื่องอะไรที่ขัดใจกัน ต่อจากนี้คุณแม่เก็บของมีค่าเอาไว้ให้ดีนะครับ แล้วนี่พี่ซืออี้ยังไม่กลับมาอีกหรือครับ”“นั่นสิ ไปข้างนอกทั้งวันหากว่าพูดเรื่องธุรกิจคงไม่น่าจะยืดยาวขนาดนี้ ไม่แน่ป่านนี้คงจะกลับมาแล้วเราลงไปข้างล่างกันเถอะป่านนี้สะใภ้เล็กกับเจ้อหยูร์คงรอนานแล้ว” ทั้งสองพากันเดินลงไปข้างล่างแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาข

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเอง

    บทที่ 14 สร้อยคงไม่มีเท้าเดินเองแม่หลี่รีบเดินไปหาหลันเหย่ที่อยู่หน้าตู้ผ้าของจื่อเหยาเพื่อไปดูว่าของที่หลันเหย่บอกใช่ของเธอหรือไม่? เมื่ิอเห็นสร้อยที่อยู่ในมือของหลันเหย่ใบหน้าของแม่หลี่พลันเปลี่ยนสี ชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันขวับมามองจื่อเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลัง‘อะไรกันนี่ฉันพลาดตั้งแต่ตอนไหน ทำไมสร้อยของคุณแม่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่าช่วงที่ฉันออกไปซื้อของหรือว่าช่วงที่ฉันนอนกับเจ้อหยูร์เหรอ’“สะใภ้เล็กอธิบายมาสิว่าสร้อยของฉันมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของเธอได้ยังไงกัน”“คุณแม่คะเรื่องสร้อยมาอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าของฉันได้ยังไงฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่เช้ามาฉันออกไปตลาดพึ่งจะได้กลับเข้าห้องเมื่อครู่เพื่ออาบน้ำจะรู้ได้อย่างไรว่าสร้อยคุณแม่มาอยู่ในห้องฉัน เหมือนว่ามีคนจงใจนำมันมาใส่เอาไว้ แล้วทำไมที่อื่นคนอื่นหาไม่เจอแต่พี่สะใภ้มาเจอเข้าเหมือนรู้มาก่อนว่าสร้อยอยู่ตรงไหน ตั้งแต่เดินเข้ามาพี่สะใภ้เดินตรงเข้ามาหาตู้เสื้อผ้าเลย ปกติหากจะเก็บของมีค่าไม่ใช่เก็บไปตรงโต๊ะหัวเตียงหรอกหรือคะ” จื่อเหยาไม่ยอมเป็นแพะรับบาปและยอมอ่อนข้อให้คนอื่นใส่ร้ายแน่นอน ในเมื่อทำกันแบบนี้เธอก็จะร้ายสู้เหมือนกัน“นี่

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 13 รู้ตัวคนทำ

    บทที่ 13 รู้ตัวคนทำแสงสว่างวาบผ่านเข้ามาในม่านหมอก หลินชิงเสียงลืมตาขึ้นมาในความมืดเดินตามแสงสว่างไปอย่างงวยงงเสมือนมีอันใดที่ดึงดูดให้เธอเดินตามแสงนั้นไป'ไม่ใช่ว่าฉันเผลอนอนหลับไปกับเจ้อหยูร์หรอกเหรอ แล้วนี่ที่ไหนกันมืดตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่นใครข้างหน้านั่นคนไม่ใช่เหรอ' ร่างบางคิดในใจเดินไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ๆ เธอกลับเห็นว่านั่นคือจื่อเหยากับชายและหญิงอีกหนึ่งคน เหมือนความฝันของเธอคืนก่อน‘นั่นจื่อเหยานี่น่า เหมือนความฝันครั้งก่อนเลยแล้วอีกสองคนนั่นใครกัน’ เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ครั้งนี้เธอไม่เห็นเหมือนครั้งก่อนแต่เห็นชัดเจนและได้ยินเต็มสองหูว่าทั้งสามที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร"เมื่อกี้เธอได้ยินพวกฉันพูดใช่มั้ย ? เธอแอบตามเรามาเพื่อจะเอาเรื่องที่ฉันกับพี่ซืออี้พูดกันไปบอกคุณแม่กับยั่วถงใช่มั้ย แกมันร้ายนักนะทำเป็นไม่สนใจคนในครอบครัว แต่ก็แอบซุ่มทำอะไรลับหลังคนอื่น ""ฮึ! ถึงฉันไม่สนใจคนในครอบครัวแต่ฉันไม่เคยคิดเรื่องชั่ว ๆ แบบพวกเศษสวะอย่างพวกแกหรอกนะ ขนาดมีแม่ที่แสนดีประเคนทุกอย่างให้แต่กลับคิดจะทำร้ายและจะเอาสมบัติเป็นของตัวเอง ชาติชั่วยิ่งกว่านรกส่งมาเกิดอี

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 12 อิจฉา

    บทที่ 12 อิจฉาจื่อเหย่าไม่อยากโต้ตอบรีบเดินนำหน้ายั่วถงกลับบ้านไปหาเจ้อหยูณ์ เมื่อมาถึงแม่หลี่กับเจ้อหยูร์ต้องแปลกใจที่เห็นทั้งสองมาด้วยกัน“ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะตอนนี้ลูกน่าจะอยู่ที่โรงงานไม่ใช่หรือไง”“ผมพยายามเคลียร์งานแล้วออกมาครับ คิดว่าจะออกมาเลือกซื้อรองเท้าให้จื่อเหยาแต่เมื่อมาตลาดเห็นเธอเลือกซื้อรองเท้าอยู่ก่อนหน้าแล้วเลยกลับมาที่บ้านพร้อมกันครับ” “เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้อหยูร์รอเธอกลับมาอย่างตั้งหน้าตั้งตารอมาแล้วก็รีบพาไปทำเถอะเดี๋ยวจะถึงเวลานอนกลางวันแล้ว” “เจ้อหยูร์เราเข้าไปที่ครัวกันเถอะ ส่วนนี่รองเท้าคุณแม่ค่ะขอบคุณนะคะสวมใส่สบายมากฉันเลยซื้ออีกคู่มาเป็นของฝากให้คุณแม่ด้วย เจ้อหยูร์แม่เองก็มีของฝากมาให้ลูกเหมือนกันชอบมั้ย” จื่อเหยายื่นรองเท้าคืนให้แม่หลี่พร้อมรอเท้าใหม่ที่เธอตั้งใจซื้อมาให้แม่หลี่ก่อนจะยื่นของเล่นกับเจ้อหยูร์ เด็กชายเห็นของเล่นดวงตาเริ่มคลอแดงแต่รอยยิ้มบนใบหน้ายิ้มกว้างกว่าเดิม“คุณแม่ให้ผมจริง ๆ หรือครับ ผมรับมันได้ใช่มั้ย”“แม่ตั้งใจซื้อมาให้ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หรือว่าลูกไม่ชอบ”“ไม่ครับ ผมชอบและชอบมันมาก ๆ เลย ขอบคุณนะครับคุณแม่” เด็กน้อยกระโดดกอดจื่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 11 พลาด

    บทที่ 11 พลาดอากาศเช้าวันนี้ลมพัดเย็นสบายหลังจากที่ฝนตกทั้งคืน จื่อเหยาสวมใส่รองเท้าของแม่หลี่ออกมาพร้อมกับสาวใช้สองคนที่เดินตามหลังอย่างกล้า ๆ กลัวจนทำให้เธออึดอัด"นี่...!! ซุบซิบอะไรกันอย่างคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะ กลัวฉันนักหรือไงฉันไม่จับพวกเธอหักคอหรอกนะ""เอ่อ..ขอโทษด้วยนะคะที่เราสองคนทำให้คุณนายเล็กไม่สบายใจ และอึดอัดแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณนายเล็กออกมาจ่ายตลาดทำให้พวกเราไม่ชินตาต้องขอโทษด้วยนะคะ"จื่อเหยาหยุดเดินทันทีก่อนจะคิดอะไรออกและหันไปถามสาวใช้ทั้งสองที่เดินตามมา"ฉันมีเรื่องอะไรจะถามและมีค่าขนมให้เล็กน้อย พวกเธอจะต้องรับปากว่าไม่ปากโป้งบอกใครว่าฉันพูดคุยกับพวกเธอเรื่องอะไร หากเรื่องที่ฉันถามพวกเธอหลุดออกไปล่ะก็อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปง่าย ๆ " ทั้งสองมองหน้ากันไปมาเริ่มวิตกกังวลในคำถามของจื่อเหยา"พวกฉันสัญญาจะไปปากโป้งพูดออกไปแน่นอกค่ะ แล้วเรื่องที่คุณนายเล็กอยากรู้คือเรื่องอะไรหรือคะ""พอดีช่วงนี้ฉันความทรงจำบางช่วงบางตอนขาดหายไป เลยอยากรู้ว่าก่อนหน้านี้ฉันเคยมีปากเสียงหรือทะเลาะกับใครมั้ย ""คุณนายเล็กไม่เคยทะเลาะกับใครเลยค่ะ จะมีเพียงแค่ความเย็นชาไม่สนใจคนอื่นไม่ว่าคน

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 10  ลงทุน

    บทที่ 10 ลงทุนฝั่งด้านซืออี้กับหลันเหย่มื้อคืนนี้กว่าเขาจะกลับเข้ามาบ้านก็จนจะสว่าง เมื่อตื่นขึ้นมาหลันเหย่พูดคุยหารือเรื่องของจื่อเหยากับสามีของเธอ“พี่ซืออี้มื้อวานนี้ฉันลองเข้าไปพูดคุยกับนังจื่อเหยา แต่ดูเหมือนว่าเธอพูดอะไรแปลก ๆ ออกมาด้วย หรือว่าเธอจะแกล้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าเราเป็นคนที่ผลักเธอตกน้ำ และวางแผนปั่นหัวพวกเรารอวันเอาคืน”“หลันเยว่เธอคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกว่าจื่อเหยาสายตาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน เราอย่าพึ่งด่วนสรุปตีโพยตีพายไปก่อน ต้องรอดูอีกสักนิดหากจื่อเหยาเป็นอย่างที่เธอบอกเราค่อยวางแผนจัดการก็แล้วกัน จริงสิวันนี้เงินกงสีออกนี่น่าเรารีบลงไปด้านล่างกันเถอะ ฉันจะได้มีเงินเอาไปลงทุนสำหรับวันนี้เพื่อเอาคืนเงินที่เสียไปมื้อวาน วันนี้พี่ขอเงินในส่วนของที่รักด้วยได้มั้ย วันนี้พี่มั่นใจยังไงวันนี้ต้องดวงดีแน่ ๆ” ซืออี้ออดอ้อนภรรยาของตัวเองเอาอกเอาใจเพราะเขาเสียจนหมดตัววันนี้จึงคิดจะไปเอาเงินที่เสียไปคืนมา หลันเหย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบกลับซืออี้อย่างเหนื่อยใจ“พี่ซืออี้ ช่วงนี้พี่เล่นหนักมากเลยรู้ตัวหรือเปล่าเงินเก็บของฉัน ฉันก็เอาให้พี่ไปจนหมดอีกไม่กี่เดือนล

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 9 ความฝัน

    บทที่ 9 ความฝันตึกตัก ตึกตัก‘ไม่ว่าจะกี่ปีผู้หญิงคนนี้ยังคงงดงามไม่เปลี่ยน หัวใจฉันเองก็เหมือนกันยังคงเต้นแรงเสมือนครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้เข้าใกล้เธอขนาดนี้แถมครั้งนี้เธอไม่แม้จะต่อว่ากลับกลายเป็นใบหน้าที่เขินอายแดงระเรื่อแทน หรือว่าตอนนี้เธอเริ่มมีใจให้ฉันบ้างแล้ว เวลาที่ฉันรอคอยจะเข้ามาใกล้แล้วสินะหัวใจที่เป็นดั่งหินผาฉันจะทำลายมันเอง’ ยั่วถงมองหญิงสาวในอ้อมกอดหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตักตลอดทาง วันนี้เธอช่างงดงามที่สุดในสายตาของเขาจริง ๆ และเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขาให้เขาได้ใกล้ชิดกับจื่อเหยาและมีเวลาร่วมกัน แม้แต่เจ้อหยูร์ยังเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กับเธอ เขาค่อย ๆ อุ้มเธอวางลงบนเตียงนอนในห้องของเธอร่างเล็กใบหน้าแดงระเรื่อราวมะเขือเทศยังไม่จาง เขายื่นมือไปถอดรองเท้าให้เธออย่างเบามือ“ข้อเท้าคุณบวมแดงมากเลย เดี๋ยวผมจะไปเอายามาให้กินยาแล้วนอนพักเถอะพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้นอย่าเดินมากนักเข้าใจมั้ย” จื่อเหยาทำตัวไม่ถูกตอบเขากลับอย่างขัดเขิน“อะ..อืม…” เขาเดินออกไปจากห้องของเธอเพื่อไปเอายาไม่นานเขากลับเข้ามาพร้อมน้ำเปล่า นั่งลงบนเตียงยื่นยาให้เธอกินก่อนจะลุกเดินออกไป

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 8 ใจสั่น

    บทที่ 8 ใจสั่นเดินเล่นมาได้สักพักเจ้อหยูร์ไม่มีความเหนื่อยเลยสักนิดแต่เป็นจื่อเหยามากกว่าที่เดินแทบขาลาก“เจ้อหยูร์ แม่ขอนั่งตรงนี่สักครู่ได้มั้ย จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดข้อเท้าขึ้นมา” คงเป็นเพราะรองเท้าที่ใส่มาหรือเพราะความคับแคบของรองเท้าทำให้เธอเริ่มเจ็บขึ้นมาและแดงระเรื่อขึ้น“คุณแม่เหนื่อยนั่งพักก่อนก็ได้ครับ โอ๊ะ..นั่นคุณย่า คุณย่าครับผมอยู่ทางนี้ คุณแม่อย่างนั้นผมขอไปเดินเล่นกับคุณย่านะครับ คุณพ่อผมฝากคุณแม่ด้วยนะครับ” เจ้อหยูร์นักวางแผนตัวน้อยขยิบตาให้พ่อ เสมือนส่งสัญญาณยั่วถงยิ้มรับเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกกับจื่อเหยาให้นั่งคอยอยู่ตรงนี้สักครู่“คุณนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ผมจะพาเจ้อหยูร์ไปหาคุณแม่ก่อน กลัวจะวิ่งไปแล้วพลัดหลงได้”“ไปเถอะฉันจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ดีขึ้นแล้วจะเดินตามไป” จื่อเหยาย่อนตัวนั่งลงบนม้านั่ง มองผู้คนเดินเล่นอย่างสนุกสนาน“คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกมานอกบ้านหรือเปล่านะรองเท้าถึงได้คับแบบนี้ เมื่อก่อนเธอใช้ชีวิตที่ผ่านมาแบบไหนกันนะจื่อเหยา น่าเสียดายเวลาจริง ๆ เลย” เธอบ่นพึมพำเมื่อนั่งอยู่คนเดียวเมื่อยั่วถงพาเจ้อหยูร์ไปส่งแม่หลี่ ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมาหาเธอ นั่งลง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80   บทที่ 7 เดินเล่น

    บทที่ 7 เดินเล่นจื่อเหยายืนเลือกเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ไม่นานนักก็ได้ชุดที่ถูกใจ โชคดีที่จื่อเหยาเจ้าของร่างชอบแต่งตัวอยู่แล้วจึงมีทั้งเสื้อผ้าสวยงามและเครื่องประดับอยู่พอสมควร“การแต่งตัวในยุคนี้ก็น่าสนุกดี งานเทศกาลในยุคนี้จะเป็นอย่างไรนะ อย่าว่าแต่เจ้อหยูร์ตื่นเต้นเลย ขนาดฉันยังตื่นเต้นขนาดนี้” จื่อเหยาหยิบต่างหูคู่งามที่เข้ากับชุดมาสวมใส่พร้อมหยิบกระเป๋าถือมาหนึ่งใบและเดินออกไปข้างนอก แม้เธอจะออกไปเที่ยวก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงเรื่องความปลอดภัย เธอนำมีดเล็กสวมปลอกพกพาไปด้วยไม่รู้เลยว่านาทีไหนที่เธอจะถูกพรากลมหายใจไปอีก“แต่งตัวสวยจังเลยนะ ฉันนี่สิต้องนอนทนเหงาอยู่ที่บ้านอยากแต่งตัวสวย ๆ เหมือนน้องสะใภ้จัง” จื่อเหยาตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ เห็นสะใภ้ใหญ่อย่างหลันเหย่มายืนอยู่หน้าห้อง ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวแต่ทำไมต้องนี้สีหน้าถึงเปลี่ยนไปจื่อเหยาเริ่มระวังตัวแต่ก็ทำตัวให้เป็นปกติไม่ให้อีกฝ่ายระแคะระคายได้“พี่สะใภ้ใหญ่อยากแต่งตัวสวยก็แต่งอยู่บ้านก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องอิจฉา มาที่หน้าห้องของฉันมีอะไรกันแน่”“อะไรกันทำไมพูดเย็นชากับฉันแบบนี้ล่ะ น่าน้อย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status