Share

บทที่ 40 ปกป้องภรรยา

last update Last Updated: 2025-12-21 20:48:25

บทที่ 40 ปกป้องภรรยา 

“ใช่จ้ะ พอดีว่าสามีรักมาก ไม่ต้องการให้ฉันออกมาตากแดดกลัวว่าผิวฉันจะเสีย ถนอมความสวยของภรรยาน่ะ รู้จักบ้างไหม!” 

       ว่านเฟยเฟิ่งตอบประชดกลับไปโดยไม่หันไปมองเสียด้วยซ้ำ เธอเพียงแค่เอากับข้าวออกมาวาง แล้วเริ่มตักข้าวผัดผักดองใส่จานแต่ละคน ผ้าชุบน้ำอีกผืนถูกส่งให้ช่างหู และไม่ลืมเช็ดมือตนเองด้วย

“มาอยู่ชนบทก็อย่ารักสบายให้มันมากนัก” อันเหยียนเค่อตะคอกออกมา

“เก็บไว้ด่ากันหลังกินเสร็จได้ไหม รำคาญ!” เฟยเฟิ่งตวาดกลับก่อนจะหันมาพูดปกติกับสามีและช่างหู “บ้านเหมยหลันมีหอมหมื่นลี้อยู่ เธอแบ่งมาให้ ฉันเลยเอามาแช่น้ำ ทุกคนลองดูค่ะว่าชอบไหม”

“ไม่ต้องไปสนใจคนบ้านนั้นหรอก ถ้าคุณหนูว่านไม่ตอบพวกเขาก็จะเลิกราไปเอง” จื่อหานพูดออกมาพลางตักปลาให้กับเฟยเฟิ่ง

“ฉันไม่ยอมลงให้เหมือนคุณหรอกค่ะ” 

“สามีภรรยาคู่นี้แปลกจริง คุณนั่นคุณนี่ เด็กกว่าจื่อหานตั้งหลายปีทำไมไม่เรียกพี่ นี่ก็เหมือนกันคุณหนูว่าน คุณหนูว่าน นายเป็นคนขับรถของเธอรึไงกัน” ช่างหูถามออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก ไหนคนลือกันว่าสองคนนี้ได้เสียกันแล้ว เหตุใดคำเรียกขานยังห่างเหินเหมือนอยู่กันคนละบ้านอย่างนี้

       ซีจื่อหานและว่านเฟยเฟิ่งไม่ได้ตอบสิ่งใดออกไปเพียงแค่ยิ้มออกไปอย่างโง่งมเท่านั้น ฝ่ายเฟยเฟิ่งคิดว่าเรื่องอะไรจะต้องเรียกขานให้สนิทสนมขึ้น ในเมื่ออีกฝ่ายยังเรียกตนเองอย่างเหินห่างเช่นนี้ ส่วนฝ่ายจื่อหานก็เพียงคิดว่าหากฝ่ายหญิงยังไม่สบายใจมากพอจะเรียกเขาว่าพี่จื่อหานหรือคุณสามี เขาก็คงไม่มีสิทธิ์เรียกเธอด้วยชื่ออื่นเช่นกัน

        เท่านั้นเองบทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นช่างหูที่รับผิดชอบหาเรื่องให้สองหนุ่มสาวได้มีโอกาสโต้ตอบแลกเปลี่ยนความเห็นกัน

       ทางด้านสกุลอันที่เห็นภาพนี้ก็มีความรู้สึกอิจฉาริษยาเกิดขึ้น สองพี่น้องอันรู้สึกไม่ยุติธรรมที่ลูกพี่ลูกน้องของตนนั้นได้แต่งภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยเช่นนั้น แม้จะนิสัยร้ายกาจ แต่หากเป็นคนของพวกเขาสตรีผู้นี้ย่อมไม่กล้าหือ

       อันเหยียนเค่อหันมองซ่งปาเยว่ที่นับวันก็มีแต่โทรมลง ไม่มีความสดใสสวยงามเหมือนก่อนแต่งงานเลยสักนิด ผอมแห้งและคล้ำลงจนเขาแทบจะนอนด้วยไม่ลง

“ดูภรรยาบ้านอื่น เขาดูแลตัวเองให้สวย มีแต่เธอที่ปล่อยให้ตัวเองสภาพเหมือนศพเดินได้” เหยียนเค่อพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

“ขอโทษค่ะพี่เค่อ ฉันจะทำตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ” 

       ซ่งปาเยว่ผู้ที่อยู่มาจนรู้ว่าจะเถียงหรืออธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์จึงรีบขอโทษออกไปให้เรื่องจบ เพราะบ้านอันได้ไถที่นาก่อน ต้นกล้าจึงพร้อมปักดำก่อนคนบ้านเล็กซี หน้าที่ขายของตกเป็นของอันผิงเจินที่อ้างว่าแก่แล้วไม่อาจทำนาได้ ไล่ให้ปาเยว่มาใช้แรงงานกล้าแดดจ้า

       ทว่าการที่ไม่ได้ออกไปขายของก็ไม่ได้หมายความว่า ปาเยว่จะไม่ต้องทำอาหาร เธอยังคงต้องทำอาหารเตรียมให้ผิงเจินไปขาย และยังต้องเป็นคนซักผ้า กวาดถู และทำอาหารให้คนทั้งบ้านเช่นเดิม หากคนผู้หนึ่งจะมีสภาพเหมือนศพเดินได้ก็คงไม่แปลกอันใด

“แล้วดูอาหารที่เตรียมมา ได้เรื่องที่ไหน หมั่นโถวเปล่ากับผักดอง เธอคิดว่าแค่นี้มันพอให้ทุกคนอิ่มท้องรึไง” 

       เหยียนเค่อโยนหมั่นโถวใส่หน้าปาเยว่ จากนั้นก็เดินดุ่มๆ ตรงมากระชากจานข้าวของเฟยเฟิ่งใช้มือหยิบข้าวและกับเข้าปากอย่างมูมมาม

       กลุ่มของเฟยเฟิ่งนิ่งเงียบไปเกือบนาที ก่อนที่เจ้าของจานจะได้สติลุกขึ้นด่า “นายเป็นขอทานรึไง ทำไมมาขโมยข้าวกลางวันคนอื่นเขาแบบนี้!”

“ผู้หญิงคนนี้ปากมากไปแล้ว ขอสักทีเถอะ” 

       เหยียนเค่อที่โกรธจัดเพราะถูกด่าว่าขอทานจับจานหันข้างจนข้าวหกลงพื้น และยกแขนขึ้นเตรียมจะใช้ก้นจานตบลงบนแก้มของเฟยเฟิ่ง แต่โชคยังดีที่จื่อหานลุกขึ้นมาขวางเอาไว้ก่อน จานจึงแค่กระแทกเฉียดคางจื่อหานไป

“ตายแล้ว! คุณซี คางแตกไหมนั่น” 

       เฟยเฟิ่งรีบอ้อมไปดูผู้ที่ลุกขึ้นมาปกป้องตน แต่โชคดีที่ยังไม่ได้เข้าไปใกล้ เพราะในจังหวะต่อมาซีจื่อหานออกหมัดซัดเข้าหน้าอันเหยียนเค่อไปเต็มรัก

       ซ่งปาเยว่ที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้ารีบวิ่งเข้าไปพยายามกั้นกลางระหว่างลูกพี่ลูกน้องต่างสกุลที่กำลังต่อยกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

“พอแล้ว พอก่อน จ้งหม่าหลบไปลูกหลับตาไว้” ปาเยว่สั่งบุตรชาย

“ซีจื่อหานหยุดนะ!” ว่านเฟยเฟิ่งพยายามตะโกนห้ามเพราะดูจากรูปการณ์แล้วสามีเธออาจต่อยคนจนตายได้เลยทีเดียว 

       ว่านเฟยเฟิ่งคิดจะขอให้ช่างหูมาช่วยก็ไม่เห็นเสียแล้วว่าตัวคนไปไหน จึงเข้าไปในตำแหน่งที่ปาเยว่ยืนอยู่ แต่ไม่พยายามแทรกกลาง เฟยเฟิ่งคว้าแขนของจื่อหานมากอดเอาไว้แทน และคล้ายว่าจะได้ผมเพราะซีจื่อหานก้มลงมามองว่าผู้ใดหาญกล้ามากอดเขาไว้ในเวลาเช่นนี้

“พอแล้ว เขาช้ำไปหมดแล้ว เมื่อชนะแล้วก็ต้องรู้จักหยุดนะคะ” เฟยเฟิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดึงให้จื่อหานถอยห่างออกมา

        แต่แล้วคุณหนูว่านก็ถูกอุ้มจนตัวลอยหมุนไปอีกด้าน เพราะอันเหยียนเค่อคิดจะใช้ช่วงทีเผลอตีเฟยเฟิ่งระบายแค้น จื่อหานจึงพลิกตัวใช้หลังรับความเจ็บปวดนั้นแทนภรรยา พร้อมๆ กับที่น้ำถังหนึ่งถูกสาดไปยังเหยียนเค่อและปาเยว่จนเปียกชุ่มไปทั้งตัว

“กรี๊ด!” เสียงร้องเพราะน้ำกระทบผิวดังขึ้นครู่หนึ่ง ตามด้วยเสียงของหนักตกกระทบพื้น จากนั้นก็เงียบหายไป

“ปาเยว่!” เฟยเฟิ่งร้องออกมาไปเห็นว่าสะใภ้บ้านอันล้มลงนั่งกับพื้น โดยที่สามีของนางไม่คิดจะช่วย เฟยเฟิ่งจึงขืนตัวออกจากอ้อมกอดของจื่อหานไปดึงให้คนลุกขึ้นทรงตัวดีๆ

“ถ้ายังคิดทำร้ายภรรยาฉันอีก ฉันไม่เอาแกไว้แน่” ซีจื่อหานชี้หน้าลูกพี่ลูกน้องตน ไม่คิดนับลำดับศักดิ์ให้เสียปากอีกต่อไป

       จื่อหานไปประคองตัวเฟยเฟิ่งให้ออกห่างจากซ่งปาเยว่โดยที่ไม่ลืมพยักหน้าให้ช่างหูที่เป็นผู้เอาถังน้ำมาสาดใส่เหยียนเค่อด้วยความขอบคุณ

“คุณต่อยเขาเพราะจะปกป้องฉันเหรอคะ” เฟยเฟิ่งถามออกไป คิดว่าคงสบโอกาสที่จื่อหานจะได้ระบายความแค้นที่สะสมมานาน ไม่นึกว่าการกระทำนี้เกิดขึ้นเพื่อปกป้องตนเองเป็นสำคัญ

“เป็นหน้าที่ของสามี ใครที่มันไม่ปกป้องภรรยาก็ควรจะละอายใจบ้าง ต่อให้ไม่รักไม่ชอบก็ควรมีความรักศักดิ์ศรี ฉันทนแกมานานเกินไปจนกล้าเกินไปแล้ว” จื่อหานว่ากระทบอันเหยียนเค่อที่ปล่อยคนล้มไปต่อหน้าทั้งที่หากว่าจะคว้าตัวไว้ก็ย่อมไม่เหลือบ่ากว่าแรง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 40 ปกป้องภรรยา

    บทที่ 40 ปกป้องภรรยา“ใช่จ้ะ พอดีว่าสามีรักมาก ไม่ต้องการให้ฉันออกมาตากแดดกลัวว่าผิวฉันจะเสีย ถนอมความสวยของภรรยาน่ะ รู้จักบ้างไหม!”ว่านเฟยเฟิ่งตอบประชดกลับไปโดยไม่หันไปมองเสียด้วยซ้ำ เธอเพียงแค่เอากับข้าวออกมาวาง แล้วเริ่มตักข้าวผัดผักดองใส่จานแต่ละคน ผ้าชุบน้ำอีกผืนถูกส่งให้ช่างหู และไม่ลืมเช็ดมือตนเองด้วย“มาอยู่ชนบทก็อย่ารักสบายให้มันมากนัก” อันเหยียนเค่อตะคอกออกมา“เก็บไว้ด่ากันหลังกินเสร็จได้ไหม รำคาญ!” เฟยเฟิ่งตวาดกลับก่อนจะหันมาพูดปกติกับสามีและช่างหู “บ้านเหมยหลันมีหอมหมื่นลี้อยู่ เธอแบ่งมาให้ ฉันเลยเอามาแช่น้ำ ทุกคนลองดูค่ะว่าชอบไหม”

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามี

    บทที่ 39 เอาอาหารไปส่งสามีสองสัปดาห์ผ่านไปแปลงผักในพื้นที่หลังบ้านเริ่มที่จะเข้าที่แล้ว ช่วงแรกแม้จะทดลองปลูกกันไปแล้ว แต่การจัดสรรพื้นที่ยังไม่ลงตัวจึงทำให้ต้องลดปริมาณผักที่เก็บไปส่งให้ป้าจูด้วย แต่เมื่อตกลงกันกับเด็กๆ เรียบร้อยแล้ว เฟยเฟิ่งก็ให้เด็กทั้งสองเดินหน้าเต็มกำลังหลังบ้านซีไม่มีพื้นที่ส่วนใดที่ไร้ประโยชน์ พื้นที่จุดที่ได้รับเฉพาะแดดเช้าลงผักที่ไม่ต้องการแดดมาก ในโรงเรือนมีเห็ดหลากชนิดให้หมุนเวียนตัดไปกินและขาย เหนือพื้นดินด้านนอกมีราวไม้สำหรับแขวนกระถางปลูกผักเพิ่ม อีกแถวไว้ปลูกกล้วยไม้สวยงามจากในมิติที่เฟยเฟิ่งอ้างว่าพบเจอบนภูเขา หากขยายพันธุ์ให้ดีก็สามารถทำเงินได้ ด้วยผู้คนยังนิยมให้กันเป็นของขวัญนอกจากนั้นแล้วยังมีไก่ที่ซีจื่อซวาน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้าน

    บทที่ 38 หาวิธีคุยกับผีในบ้านว่านเฟยเฟิ่งทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้สามีกังวลใจ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งให้เป็นทุกข์นาน หยิบเห็ดหลินจือที่ทดลองเพาะอย่างลับๆ ออกมาให้จื่อหานดู พร้อมกับถุงใส่สปอร์เห็ดที่เก็บสำเร็จมาแล้วรอบหนึ่งออกมาไว้ข้างกัน“น่ะนี่มัน…?”“เห็ดหลินจือน่ะสิคะ” เฟยเฟิ่งที่เข้าไปปลูกในมิติเมื่อรู้ว่าทำได้ก็คิดจะเอามาขยายให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่เธอเองก็รู้ตัวว่าคงทำเองไม่ไหว จึงคิดจะสอนจื่อหานแล้วยกให้เขาลงแรงไปเสีย“คุณไปเอามาจากไหน”“มีเทพเอามาให้ค่ะ ล้อเล่นค่ะ ก็เก็บมาสิคุณ ฉันตัดใจไม่ขายเพราะจะเอามาทดลองปลูกเลยนะว่าเราเพาะได้ไหม และคำตอบก็คือได้ แต่ว่าฉัน

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน

    บทที่ 37 ปู่ว่านมาถึงบ้าน“อาเฟิ่งคิดอะไรแบบนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก ทุกครั้งที่มีคนหายไปเป็นช่วงที่อาเล็กไปทำงานในเมืองทั้งนั้น อีกอย่างผู้หญิงจะหายไปแค่ช่วงฤดูหนาว ช่วงนี้ทุกคนยังปลอดภัยค่ะ”“หายแค่ฤดูหนาวเท่านั้นเหรอ”เฟยเฟิ่งพึมพำกับตัวเองไม่ได้ฟังพวกผู้ชายถกเถียงกันเรื่องนี้อีก นั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่เฟยเฟิ่งรู้มานั้นไม่ถูกต้อง ฆาตกรคนนั้นเริ่มลงมือแล้ว แต่เมื่อพ้นฤดูหนาวมาแล้วแปลว่าเธอยังคงปลอดภัย นั่นย่อมหมายความว่าก่อนที่ฤดูหนาวถัดไปจะมาถึง เธอจำเป็นจะต้องซื้อบ้านในเมืองให้ได้เพื่อความอยู่รอด!...&nbs

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!

    บทที่ 36 ฉันแต่งงานกับใครกันแน่!ทุกฤดูเพาะปลูกหมู่บ้านจะจัดการประชุมใหญ่ขึ้น เพราะต้องการสร้างความเข้าใจให้ตรงกันทุกครัวเรือน ยิ่งปีนี้ปรับมาทำนาแบบบ้านใครบ้านมันแล้ว ยิ่งต้องคุยให้ชัดเจน แม้จะแจ้งและแบ่งที่ไว้แล้วก็ต้องย้ำอีกครั้งว่านเฟยเฟิ่งไม่ว่าจะเป็นดวงจิตเดิมหรือดวงจิตใหม่ต่างก็ไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ประชุมหมู่บ้านจึงรู้สึกตื่นเต้น ทั้งยังพิถีพิถันเลือกชุดเสมือนว่าจะไปประกวดนางงาม เด็กน้อยทั้งสองก็ถูกเธอจับขัดตัวทำผมให้ดูเหมือนลูกคนมีเงิน จะติดก็แต่เสื้อผ้าที่ดูซีดไปเสียหน่อย“น้าละเลยเรื่องเสื้อผ้าพวกเธอเกินไปแล้วจริงๆ หน้าตาก็ดูดีมีสกุล แต่สีเสื้อซีดยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ได้การ”“เอาไว้จะย้อมสีให้ใหม่ ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาที่เห็นผี   บทที่ 35 ทำไมต้องแกล้งน้าเฟิ่ง

    บทที่ 34 อ่อนแอเกินไป“ที่ระบายอารมณ์เนี่ยนะ คุณจะบ้ารึไงคะ ฉันไม่ใช่คนโรคจิตแบบนั้นนะ ปล่อยข้อมือฉันก่อน”“ก็คุณไง รับไม่ได้ที่ต้องมาชนบทเลยมาลงที่ลูกผม เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ทำจนชินมือเลยล่ะสิ คล่องจริงนะกับการตีลูกคนอื่น”“ตบๆ สองทีแบบนี้มันเจ็บรึไง ตั้งสติก่อนไหมคะ ไหนเรื่องอื่นยังรอฟังได้ ทำไมครั้งนี้ไม่รอถามความจริงจากฉันบ้างเลยคะ” ว่านเฟยเฟิ่งร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความผิดนี้ไม่ใช่เธอก่อ แต่จะพูดอย่างไรว่าวิญญาณในร่างเป็นคนละดวง ใครที่ไหนจะเชื่อเธอกันมือเล็กทั้งสองถูกยกขึ้นปิดหน้าในตอนที่เธอปล่อยโฮออกมา เฟยเฟิ่งพยายามคิดหาเหตุผลว่าควรจะแก้ตัวอย่างไรให้เหมาะสม ซีจื่อหานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้สติ เขาใช้มือหยาบกร้านลูบไปบนหัวเธอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status