Share

บทที่ 8 วางแผนจะแยกบ้าน

Auteur: sanvittayam
last update Dernière mise à jour: 2025-08-21 18:17:17

บทที่ 8 วางแผนจะแยกบ้าน

“คิดอย่างที่ถี่ถ้วนแล้วใช่ไหม พี่ขอถามหน่อยสิว่า เจียวเหมยรู้จักพ่อค้าคนกลางได้อย่างไร และขายอะไรถึงได้กำไรมากมายขนาดนั้น”

ฟางลู่เฉินตัดสินใจถามน้องสาวออกไป ที่ถามไม่ใช่เพราะอิจฉาหรือว่าต้องการอะไรของน้อง แต่เพราะเป็นห่วงกลัวว่าน้องสาวจะถูกหลอกนั่นเอง จึงได้ถามออกมาพร้อมกับสีหน้าที่มีความกังวลไม่น้อย

“พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ต่อให้ฉันจะเคยร้ายกาจแต่ตอนนี้ก็เริ่มมีความคิดแล้ว ฉันสงสารพี่อี้ข่ายที่ต้องทำงานคนเดียว อยู่ห่างลูกเมียและครอบครัว เป็นเวลาหลายเดือนถึงจะได้กลับมาบ้านสักครั้ง อีกอย่างนะพี่ ตอนนี้ฉันมีลูกแล้ว ความคิดความอ่านก็ต้องเปลี่ยนไปบ้างล่ะ ฉันขอยังไม่บอกนะคะว่ารู้จักคนกลางได้ยัง ส่วนของที่ขายแล้วได้กำไรเยอะก็เป็นพวกเนื้อ พวกอาหารที่หายาก จึงทำกำไรได้มากแบบนี้” หญิงสาวตอบกลับพี่ชายพร้อมกับยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ โดยไม่ยอมความลับของเธอออกไป 

“งั้นแม่ขอถามได้ไหมว่าเจียวเหมยมีความคิดจะทำอย่างไร เรื่องที่จะให้บ้านใหญ่ยอมแยกบ้านกับเรา” คราวนี้หนิงหงชุนเอ่ยขึ้นมาบ้าง เนื่องจากเธอมองไม่เห็นทางเลยว่าจะสามารถแยกบ้านได้ เพราะที่ผ่านมานั้นเธอและลูกชายเคยพูดกับพ่อและแม่สามีมาหลายครั้งแล้ว

“เดี๋ยวแม่รอดูดีกว่าค่ะ เพราะถ้าฉันบอกแม่ไป ฉันกลัวว่าหากบ้านใหญ่รู้ว่าฉันมีแผนการจะแยกบ้าน พวกเขาจะมาคาดคั้นเอากับแม่น่ะสิ แม่มีหน้าที่เลี้ยงหลานและรอดูการเปลี่ยนแปลงของบ้านเราก็พอแล้ว” ฟางเจียวเหมยพูดขึ้นมา เพราะรู้ดีว่าแม่สามีนั้นขี้กลัวและใจอ่อนแค่ไหน นี่เธอเพิ่งสัมผัสได้ไม่นานนะ

“มีอะไรให้ฉันช่วยบอกได้เลยนะพี่สะใภ้ ฉันเต็มใจช่วยทุกอย่าง” หลี่เหว่ยเหลียนที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็เอ่ยขึ้นมา เธอเองก็อยากช่วยพี่สะใภ้เหมือนกัน

“อืม แล้วฉันจะบอกอีกครั้งก็แล้วกัน แต่ต่อจากนี้ไปทั้งสองคนไม่ต้องไปช่วยงานบ้านใด ๆ ทั้งสิ้นให้กับบ้านใหญ่อีกแล้วนะ หากฉันไม่อยู่บ้านก็ล็อกประตูให้แน่นหนาและไม่ต้องเปิดรับใครก็พอ” หญิงสาวสั่งกำชับน้องสามีเรื่องที่ไม่ต้องไปช่วยงานบ้านใหญ่อีก ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา

“หลังจากนี้ ทั้งแม่ เสี่ยวเหลียนและพี่ใหญ่ให้ใส่ชุดใหม่ที่ฉันซื้อมาให้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเข้าเมืองไปซื้อมาให้อีก เพราะนี่คือหนึ่งในแผนการที่ทำให้บ้านใหญ่ยอมให้เราแยกบ้านแต่โดยดี แต่ปัญหาอาจจะตกมาอยู่ที่พี่ใหญ่ เพราะเมียใหม่พ่อคงหาเรื่องพี่ไม่เว้นวันถ้าเห็นพี่มีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่  ยังไงพี่ก็บอกไปว่าฉันเอาสินเดิมที่แม่ทิ้งไว้ออกมาใช้ก็แล้วกัน พี่ช่วยเล่นละครในเรื่องนี้ได้ไหม เพราะเรื่องที่ฉันแอบทำการค้า ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้แม้กระทั่งพ่อ”

ฟางเจียวเหมยบอกแผนการเบื้องต้นของเธอให้ทั้งสามคนได้รู้ เพราะเธอมั่นใจว่าหากบ้านใหญ่เห็นเธอรวมถึงทุกคนในบ้านสามใส่เสื้อผ้าใหม่และกินดีอยู่ดี อีกทั้งยังลามไปถึงพี่ชายของเธอ คนโลภมากแบบบ้านใหญ่มีหรือไม่หาโอกาสมาค้นเอาของมีค่าไป และเมื่อถึงเวลานั้น ฟางเจียวเหมยคนนี้จะจัดการเพื่อแยกบ้านเอง

“อืม เรื่องนี้พี่จะช่วยเล่นละครให้เอง ขอแค่น้องสาวของพี่พาทุกคนหลุดพ้นจากบ้านใหญ่หลี่ให้ได้ก็พอแล้ว” ฟางหลู่เฉินยินดีที่จะช่วยน้องสาวในเรื่องนี้ ก่อนจะถามถึงอีกเรื่องที่เขายังกังวลใจไม่น้อย “ส่วนเรื่องค้าขายในตลาดมืด เจียวเหมยให้พี่ไปช่วยหรือเปล่า ในนั้นมันอันตรายสำหรับผู้หญิงคนเดียวนะ”

“ไม่ต้องหรอกพี่ ทำงานกินกำไรส่วนต่างแบบนี้ ฉันทำคนเดียวคล่อง ตัวกว่า รอฉันเปิดร้านก่อนแล้วพี่ได้มาช่วยฉันแน่ แต่ก่อนอื่นพี่หาเรื่องแยกตัวออกมาจากบ้านฟางก่อนเถอะ เท่าที่ฉันเห็นพ่อของเราไม่เหมือนเดิมมานานแล้ว สำหรับพ่อ หายใจเข้าออกมีแต่ลู่เจียเม่ยกับลูกสาวของหล่อนเท่านั้น ส่วนเราสองคนพี่น้องไม่ต่างจากคนแปลกหน้าสำหรับพ่อแล้ว พี่ออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมฉันและพวกเราบ้านสามได้หรือเปล่าล่ะ”

“แต่...” ฟางหลู่เฉินเข้าใจสิ่งที่น้องสาวพูด เขาเองก็ไม่มีความผูกพันอะไรกับพ่ออีกแล้ว แต่ยังเกรงใจคนบ้านสาม ซึ่งถ้าเขาแยกตัวออกมาคงจะขออยู่เพียงลำพัง เพราะไม่ต้องการสร้างความลำบากให้น้องสาวกับบ้านสามีนั่นเอง แต่ตอนนี้เขายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะแยกออกไปเช่าบ้าน

หนิงหงชุนคล้ายกับจะเข้าใจในความรู้สึกของคนรุ่นลูก จึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “อย่าคิดมากเลยนะอาเฉิน เมื่อถึงวันนั้นพวกเรามาอยู่ด้วยกันเถอะนะ อย่างไรเธอก็เป็นพี่ชายของลูกสะใภ้น้าอยู่แล้ว เราเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฟางหลู่เฉินจึงมีใบหน้าอบอุ่นและดูอ่อนโยนอย่างห้ามไม่อยู่ ในใจนั้นเชื่อว่าน้องสาวแต่งเข้าบ้านสามคงไม่ลำบากมากนัก ในเมื่อแม่สามีมีจิตใจดีเช่นนี้ “ขอบคุณครับน้าหงชุน”

“วันนี้มีเนื้อมาหลายชิ้น ฉันคิดว่าเราทำสามชั้นตุ๋น เนื้อราดพริก ซุปกระดูกหมูกับหัวไชเท้า และหุงข้าวขาวกินกันดีกว่า แต่ฉันไม่อยากเข้าไปทำในครัวของบ้าน เราก่อไฟทำกันหน้าห้องนี่แหละ อีกทั้งหม้อกระทะบ้านเราก็มีทุกอย่าง ต่อไปนี้ไม่ต้องไปทำที่ครัวใหญ่แล้ว ขาดแต่ฟืน...”

ฟางเจียวเหมยพูดขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุยของทุกคน ส่วนอาหารของลูกนั้นเธอตั้งใจจะทำพรุ่งนี้และคงเป็นอาหารอ่อนก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา ร่างนี้ป้อนเพียงแต่นมให้ลูกเท่านั้นเท่านั้น มีบางครั้งที่เสริมด้วยให้กินน้ำข้าว ซึ่งเธอมองว่าเด็กวัยนี้นั้นควรจะกินอาหารชนิดอื่นได้แล้ว อย่างเช่นข้าวต้มและตับบด ไข่ต้ม รวมถึงผักบดละเอียด

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่จะไปหาฟืนมาให้เอง น้องเตรียมอาหารเถอะ เดี๋ยวพี่มา” ฟางหลู่เฉินได้ยินว่าขาดฟืนก็อาสาจะไปหามาให้ พอพูดจบเขาจึงรีบเดินออกมาจากห้องและมุ่งหน้าไปหาฟื้นมาไว้ให้น้องสาวทันที

“เดี๋ยวแม่ไปช่วยนะ” แม่สามีอย่างหนิงหงชุนก็ไม่นิ่งดูดาย ตั้งใจจะฝากหลานให้ลูกสาวคนเล็กดูแล แล้วจะไปช่วยลูกสะใภ้ทำอาหาร

“ไม่ต้องหรอกแม่ แม่กับเสี่ยวเหลียนดูหลานเถอะ กับข้าวแค่สามอย่างฉันทำเองได้ แต่ถ้าจะให้ดีก็พาหนิงหนิงและอาหมิงออกไปรับลมที่หน้าห้องบ้างดีกว่า อยู่แต่ในนี้น่าจะอุดอู้เกินไป”

หญิงสาวรีบปฏิเสธ เรื่องการทำอาหารสำหรับเธอนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะชาติก่อนเธอเปิดร้านอาหารจะต้องมีฝีมือด้านนี้อยู่แล้ว แต่จะถูกปากของทุกคนไหมนั้นมันอีกเรื่อง เพราะลิ้นรับรสของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เธอบอกว่าอร่อย แต่คนอื่นอาจจะไม่อร่อยก็ได้

“เอาอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวแม่และเสี่ยวเหลียนจะพาหลานออกไปเดินเล่นแถวบ้านก็แล้วกัน” หนิงหงชุนไม่อยากเถียงกับลูกสะใภ้ แม้จะสงสัยอยู่ไม่น้อยก็ตาม เพราะที่ผ่านมาฟางเจียวเหมยไม่เคยลงมือทำอาหารเองเลยสักครั้ง

“พี่สะใภ้ทำอาหารเป็นด้วยหรือคะ เก่งจัง ฉันไม่เคยเห็นพี่ทำอาหารเลย หรืออาจจะเพราะพี่ใหญ่ทำอาหารอร่อยมากพี่เลยไม่ต้องทำ” ส่วน

หลี่เหว่ยเหลียนเลือกที่จะถามออกมาตรง ๆ เพราะเธอเองก็ไม่เคยเห็นพี่สะใภ้ทำอาหารมาก่อน

“ไม่เคยเห็นก็ไม่ใช่ว่าฉันทำไม่เป็นสักหน่อย เดี๋ยวต่อไปจะเห็นอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเห็น” พูดจบเธอก็เดินออกมาจากห้องอีกก่อน ก่อนจะเดินไปที่ห้องเล็กข้าง ๆ ที่เก็บอุปกรณ์ทำครัวของบ้านสามไว้ แล้วทยอยขนวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกมาเพื่อทำอาหารที่หน้าห้อง

หญิงสาวจัดเตรียมวัตถุดิบแต่ละอย่างด้วยความคล่องแคล่วระหว่างรอพี่ชายหาฟื้นมาให้ บ้านนี้ยังขาดอีกอย่างคือที่อาบน้ำ และที่

ล้างจาน แต่ไม่เป็นไร ความลำบากในส่วนนี้อีกไม่นานก็จะหมดปัญหาแล้ว เวลาช่วงนี้ก็ทนไปก่อน เพราะถึงอย่างไรเรื่องอาบน้ำนั้นต้องรอให้บ้านใหญ่และบ้านรองอาบเสร็จก่อนอยู่แล้ว บ้านสามถึงจะได้อาบน้ำชำระร่างกาย

ซึ่งที่สำหรับล้างจานและอุปกรณ์ในการทำครัวเหมือนกัน บ้านสามจะต้องล้างให้บ้านใหญ่ก่อนจะล้างของบ้านตนเอง เนื่องจากที่ผ่านมานั้น แม่สามีของเธอรับผิดชอบหน้าที่ในส่วนนี้และต้องทำงานบ้านรวมถึงทำอาหารให้บ้านใหญ่อยู่แล้ว

ฟางเจียวเหมยยังคงสาละวนกับการเตรียมวัตถุดิบ ไม่นานพี่ชายก็หอบฟืนกองโตเข้ามา

“เอาไว้ใช้สำหรับวันสองวันก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เสร็จจากงานในทุ่งจะรีบไปหาฟืนมาเก็บไว้ให้ ส่วนน้ำสำหรับไว้ใช้ล้างถ้วยชามและอุปกรณ์ครัว วันนี้พี่จะพาไปล้างที่บ่อน้ำของหมู่บ้านก่อน จะมีปัญหาก็คือห้องอาบน้ำ” ชายหนุ่มวางฟืนลงก่อนจะมองพื้นที่โดยรอบและบอกน้องสาวอย่างที่ใจคิด

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status