Share

บทที่ 7 ของฝากที่น่าอิจฉา

Auteur: sanvittayam
last update Dernière mise à jour: 2025-08-21 18:16:53

บทที่ 7 ของฝากที่น่าอิจฉา

ฟางเจียวเหมยใช้เวลาอยู่ในตลาดมืดพักใหญ่ เมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านแล้ว และวันนี้เธอก็หาเงินได้หลายร้อยหยวน เลยตั้งใจจะกลับไปทำมื้อเย็นที่อร่อยให้ทุกคนกิน และตั้งใจจะไปชวนพี่ชายของร่างนี้มากินด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าพี่ชายจะไปล่าสัตว์อะไรมาได้  ก็มักจะเอามาแบ่งปันเธอเสมอ

ในขณะที่ปั่นจักรยานกลับบ้าน หญิงสาวก็ใช้สายตาสอดส่องดูสองข้างทาง เผื่อว่าจะมีร้านค้าให้เช่า เพราะเงินไม่กี่ร้อยหยวนที่มีอยู่ตอนนี้

ไม่น่าจะเซ้งร้านหรือว่าซื้ออะไรได้ อย่างน้อยเธอต้องหาเงินเพื่อซื้อตึกสักหลัง เพื่อเปิดร้านอาหารอย่างที่เธอถนัด และตั้งใจว่าจะเปิดร้านขายของให้พี่ชายด้วย เพราะถ้ายังอยู่บ้านฟางที่แม่เลี้ยงจอมวายร้ายคุมทุกอย่างในบ้าน

ชาตินี้พี่ชายของเธอคงลืมตาอ้าปากไม่ได้แน่ ๆ

เมื่อเดินทางมาใกล้หมู่บ้าน ฟางเจียวเหมยจึงหลบเข้าข้างทางเพื่อเก็บจักรยานไว้ในมิติ และเอาของทั้งหมดที่เตรียมไว้ออกมา โดยใส่ตะกร้าแล้วสะพายไว้ข้างหลัง ก่อนจะเดินกลับเข้าหมู่บ้านด้วยท่าทีปกติ

“เจียวเหมย น้องเข้าเมืองมาเหรอ มาเถอะ ส่งตะกร้ามาพี่เดี๋ยวพี่จะช่วยแบกเอง”

ระหว่างทางนั้น เธอกลับได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนที่ฟังแล้วคุ้นหูยิ่งนัก จึงหันไปดูก็พบเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่ง

ซึ่งชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เขาคือ ‘ฟางหลู่เฉิน’ พี่ชายของฟางเจียวเหมยที่กำลังเดินลงมาจากเขานั่นเอง

“อ้าวพี่ใหญ่ วันนี้เลิกงานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่อ่อนโยนหลายส่วน นี่จึงสร้างความแปลกใจให้กับคนเป็นพี่ชายมาก

“อืม วันนี้พี่ทำงานครึ่งวัน ช่วงบ่ายเลยขึ้นเขาเผื่อว่าจะหาอาหารได้บ้าง เอาตะกร้ามาเถอะ พี่จะช่วยแบกไปส่งบ้านเอง” ชายหนุ่มตอบกลับน้องสาวด้วยท่าทียิ้มแย้ม พร้อมกับเดินไปตรงหน้าเพื่อรอรับตะกร้านั้นมา

ฟางเจียวเหมยก็ไม่ขัดความต้องการของพี่ชาย ก่อนจะเอาตะกร้าที่เต็มไปด้วยของกินและของใช้ยื่นส่งให้พี่ชายทันที

“วันนี้พี่ไปกินข้าวกับฉันนะ ฉันซื้อเนื้อมาด้วย”

ระหว่างเดินไปด้วยกัน เธอจึงเอ่ยบอกถึงความต้องการของตนเอง ที่จะชวนพี่ชายไปกินข้าวที่บ้านแม่สามี

“อย่าเลย เจียวเหมยแต่งงานแล้ว พี่จะเข้าไปวุ่นวายมันไม่ดีหรอก ขอบใจมากสำหรับน้ำใจของน้องในครั้งนี้” ฟางลู่เฉินรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากสร้างเรื่องให้กับน้องสาว เนื่องจากรู้ดีว่าบ้านใหญ่หลี่นั้นเป็นอย่างไร

“พี่อย่าคิดมากเลย แม่สามีและเสี่ยวเหลียนไม่เหมือนกับบ้านใหญ่หรอก อีกทั้งพี่และทุกคนในบ้านสามล้วนแต่สนิทและคุ้นเคยกันอยู่แล้ว

อีกอย่างเวลานี้หลานของพี่ก็ตัวโตขึ้นเยอะแล้วนะ ไม่เข้าไปเยี่ยมเยียนหลาน ๆ สักหน่อยเหรอ” หญิงสาวพยายามโน้มน้าวให้พี่ชายไปกินข้าวด้วย เพราะมองจากร่างกายของพี่แล้ว เขาคงไม่ได้กินอิ่มหรือนอนหลับสนิท

สักเท่าไรนัก

ทันทีที่ได้ยินน้องสาวพูดถึงหลานฝาแฝด ใบหน้าของชายหนุ่มจึงยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะพยักหน้าและตอบรับทันที “ตกลง พี่จะไปกินมื้อเย็นกับเจียวเหมยด้วย”

“ดีเลยค่ะ งั้นเรารีบเดินกันเถอะ” ฟางเจียวเหมยยิ้มออกมาเมื่อพี่ชายยอมไปกินข้าวด้วยกัน

จากนั้นสองพี่น้องจึงเดินกลับบ้านหลี่พร้อมกัน แต่ทั้งสองไม่ได้เข้าทางหน้าบ้าน เนื่องจากบ้านสามไม่มีสิทธิ์เข้าออกทางนี้ แต่จะมีประตูหลังที่ติดกับห้องพักของบ้านสาม เลยทำให้ฟางเจียวเหมยและคนบ้านสามเข้าออกทางนี้ทางเดียวเท่านั้น

“เปิดประตูหน่อย ฉันกลับมาแล้ว” ฟางเจียวเหมยเอ่ยเรียกคนในบ้านเมื่อเดินมาถึงแล้ว

ไม่นานหลี่เหว่ยเหลียนก็เดินมาเปิดประตูห้องพร้อมกับอุ้มหลานชายมาด้วย โดยมีหนิงหงชุนอุ้มหลานสาวตามออกมา

“กลับมาแล้วเหรอพี่สะใภ้ เอ๊ะ! พี่หลู่เฉิน” เด็กสาวเอ่ยทักพี่สะใภ้ ทว่าเมื่อเห็นใครมาด้วยจึงเอ่ยเรียกด้วยความคุ้นเคย

“อืม ฉันกลับมาแล้ว วันนี้ให้พี่ใหญ่กินข้าวที่นี่ด้วยนะคะแม่ ฉันซื้ออาหารกลับมาเยอะเลย” ฟางเจียวเหมยตอบกลับ ก่อนจะเอ่ยขอแม่สามีเรื่องที่จะให้พี่ชายนั้นกินข้าวด้วย

“เอาสิ กินหลายคนอร่อยดี” หนิงหงชุนตอบกลับด้วยรอยยิ้มและยินดีที่ฟางหลู่เฉินจะมากินข้าวด้วย เนื่องจากพี่ชายของลูกสะใภ้คนนี้ มักจะนำของป่าติดมือมาให้บ้านสามอยู่เสมอ

“ขอบคุณครับน้าหงชุน” ชายหนุ่มตอบกลับ ก่อนจะมองหลานทั้งสองคนด้วยสายตาที่อ่อนโยน ทว่ายังไม่กล้าเข้าไปขออุ้มเนื่องจากร่างกายตนเองนั้นตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อและฝุ่นนั่นเอง

“จริงสิ ในตลาดมีเสื้อผ้าลดราคาด้วย ฉันเลยซื้อมาเผื่อทุกคน

พี่ใหญ่ด้วยนะ เข้ามาในห้องกันก่อนเถอะ เดี๋ยวบ้านใหญ่โผล่มา”

ฟางเจียวเหมยรีบบอกทุกคน ไม่ใช่ว่าเธอกลัวนะ แต่ไม่อยากรำคาญใจ เพราะเวลานี้เธอยังไม่พร้อมที่จะปะทะ แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อกลิ่นอาหารจานเนื้อลอยโชยตลบอบอวลออกไปจากห้องแคบ ๆ นี้  บ้านใหญ่ต้องกรูกันมาหาเรื่องแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นค่อยปะทะก็ยังไม่สาย อีกอย่างเธอมีเรื่องจะเกริ่นกับแม่สามีและพี่ชายตนเองก่อนด้วย

แม้จะตกใจกับการใช้จ่ายเงินของฟางเจียวเหมย แต่ทั้งสามคนเลือกที่จะไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านสามทันที

เมื่อเข้ามาถึง ฟางเจียวเหมยก็ทยอยเอาของออกมาจากตะกร้า

ซึ่งในนี้มีทั้งอาหารและของใช้ที่เธอเลือกออกมาจากมิติ รวมถึงเสื้อผ้าของทุกคนด้วย

“นี่คือเสื้อผ้าของแม่และเสี่ยวเหมยคนละห้าชุดนะ ไอ้เสื้อผ้าเก่า ๆ นั้นก็ทิ้งไปเสียเถอะนะ ส่วนนี่ก็ของพี่ใหญ่นะ ตอนแรกฉันว่าจะเอาไปให้ในวันพรุ่งนี้ แต่เมื่อมาเจอกันแล้วก็ลองดูว่าใส่ได้ไหม ส่วนนี่ก็ของพี่อี้ข่าย

เมื่อกลับมาจะได้มีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่”

ฟางเจียวเหมยพูดไปก็ส่งเสื้อผ้าให้กับทั้งสามคน และไม่ลืมที่จะเอาของสามีออกมาด้วย ส่วนของลูก ๆ ก็เป็นพวกผ้าอ้อมและเสื้อผ้าเด็กทั่วไป เธอไม่กล้าเอาของดีออกมามากนัก เพราะกลัวว่าคนอื่นจะจับผิดนั่นเอง ดีที่ในห้างสรรพสินค้ามีร้านขายเสื้อผ้าจำพวกย้อนยุคด้วย เลยทำให้เธอกล้าเอาออกมาให้กับทุกคน

“นี่มันสิ้นเปลืองเงินมากนะเจียวเหมย พี่ไม่กล้ารับหรอก ตอนนี้บ้านสามมีเพียงน้องเขยเท่านั้นที่ทำงาน เก็บไว้ให้น้องเขยเถอะ” ฟางหลู่เฉินไม่อยากตำหนิน้องสาวมากนักที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเกินตัวแบบนี้ แต่ก็อดที่จะพูดแบบเลี่ยง ๆ ไม่ได้ เนื่องจากเวลานี้รายได้ของบ้านสามมาจากหลี่อี้ข่ายคนเดียวเท่านั้น

“รับไปเถอะ ฉันตั้งใจซื้อมาให้ทุกคน อีกอย่างฉันยังมีสินเดิมของแม่อยู่ และฉันตั้งใจว่าจะทำการค้า แต่ฉันกลัวว่าหากฉันทำการค้าเองแล้วมีเงิน บ้านใหญ่จะมาฉกชิงไปน่ะสิ เพราะเวลานี้บ้านสามยังไม่ได้แยกบ้านน่ะ” หญิงสาวยังคงอ้างสินเดิมของแม่ และเธอรู้ดีว่าพี่ชายนั้นเห็นกล่องที่เธอเอาออกมาจากบ้านฟางตอนแต่งงาน แต่เขาไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร

“แม่บอกแล้วใช่ไหมเจียวเหมยว่า แม่ไม่ต้องการให้เธอเอาสินเดิมไปขาย” หนิงหงชุนใบหน้าเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาที่ลูกสะใภ้ไม่ยอมฟังเธอในเรื่องนี้

“แม่อย่าคิดมากไปเลย ฉันแค่เอาไปจำนำแล้วซื้อของมาขายในตลาดมืดเท่านั้น เมื่อฉันทำการค้ามีกำไรเยอะ ๆ  ฉันค่อยไปไถ่ถอนมาก็ได้  วันนี้ฉันได้กำไรมาหลายสิบหยวนน่ะเลยแบ่งเงินซื้อข้าวของพวกนี้มา หลังจากนี้ฉันจะเข้าเมืองไปตัดราคาสินค้ามาขายเพื่อเก็งกำไร แบบนี้บ้านใหญ่ก็ไม่มีทางรู้ และเมื่อไรที่ฉันเก็บเงินได้ ฉันอยากเปิดร้านอาหารและร้านค้าค่ะ ตอนนี้พี่อี้ข่ายทำงานคนเดียวอยู่ต่างเมือง เมื่อไหร่ที่เราอยู่ตัวกันแล้ว ฉันจะไปรับสามีกลับมาช่วยกันทำการค้า ส่วนพี่ใหญ่เองก็ควรจะออกจากบ้านหลังนั้นได้แล้ว พี่จะทนไปเพื่ออะไรกัน” ฟางเจียวเหมยพูดถึงแผนการที่เธอตั้งใจจะทำให้ทุกคนได้รับรู้

ทั้งสามคนมองฟางเจียวเหมยคล้ายกับคนเห็นผี เพราะที่ผ่านมาเธอไม่คิดจะทำอะไรเพื่อคนอื่นเลย ทั้งยังมีนิสัยร้ายกาจแล้วก็ไม่คิดที่จะทำงานหรือว่าหาเงินมาจุนเจือครอบครัวแบบนี้ ไม่คิดว่าหลังจากที่ป่วยเพราะจมน้ำหลายวัน ความคิดของเธอจะดีขึ้นจนน่าแปลกใจ แม้จะยังมีนิสัยร้ายกาจอยู่มากก็ตาม!!

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status