Share

บทที่ 2 บังคับให้แต่งงาน

รับอัดตำลึงมาโดยไม่ถามนางสักคำ และยังคิดที่จะเอาปัญหาทั้งหมดมาลงที่พวกนางอีก

ช่างเป็นการคํานวณที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

แม่เฒ่าเซี่ยงมองมายังซูหวั่นอย่างไม่เชื่อ เพราะปกติแล้วหลานสาวของนางเป็นเด็กที่หัวอ่อนมาโดยตลอด แม้แต่การกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเมื่อวานนี้ก็เพราะถูกบังคับจนไม่มีทางเลือก แต่ไหงวันนี้กลับตะโกนปาวๆอย่างมั่นใจแบบนี้ได้

“เจ้าพูดแบบนี้กับท่านย่าได้ยังไง!”ซูเอ้อหลางยืนอยู่ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยงและจ้องเขม็งมาทางซูหวั่น แทบรอไม่ไหวที่จะกระโจนเข้าไปตบหน้านางสักฉาดสองฉาด

ซูหวั่นมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า“หูหนวกหรือไง ข้าพูดไปแล้วเจ้าไม่ได้ยินงั้นเหรอ?บ้านข้าไม่ได้แตะต้องเงินห้าตำลึงนั้นเลย เงินนั่นก็อยู่ในมือของท่านย่า แล้วทำไมพวกข้าถึงจะต้องใช้คืนด้วยล่ะ?”

ซูเอ้อหลางเป็นคนของบ้านใหญ่ เขามักจะทะเยอทะยานและกดขี่ข่มเหงคนอื่นจนเคยชินแล้ว ซึ่งคิดไม่ถึงเลยว่าซูหวั่นจะกล้าต่อว่าเขาแบบนี้ได้

และเขาก็รีบดึงแขนเสื้อของแม่เฒ่าเซี่ยงทันที แล้วพูดว่า“ท่านย่า ท่านย่าฟังที่นางพูดสิครับ!”

แม่เฒ่าเซี่ยงใบหน้าบูดบึ้ง เพราะเงินนั้นอยู่ที่นางจริงๆ

ซึ่งมันก็เป็นเงินที่นางได้เตรียมไว้เพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของซูเอ้อหลาง และเมื่อเงินเข้าปากไปแล้ว นางจะยอมคืนได้ยังไง!

“หลี่เซียงหรู นี่คือลูกสาวแสนดีที่เจ้าสอนมาอย่างนั้นใช่ไหม!”แม่เฒ่าเซี่ยงไม่ต้องการทะเลาะกับซูหวั่น จึงหันไปต่อว่านางหลี่แทน“พวกเนรคุณ ไม่สำนึกในข้าวแดงแกงร้อนเลยหรือไง แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ให้ความเคารพแบบนี้!”

นี่เป็นการตีวัวกระทบคราดชัดๆ และแน่นอนว่านางหลี่เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าแม่เฒ่าเซี่ยงกำลังต่อว่านางที่สั่งสอนลูกไม่ดีอยู่นั่นเอง

“ท่านแม่ เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของอาหวั่นตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะคะ”

แม่เฒ่าเซี่ยงชักสีหน้า และจ้องมองนางหลี่อย่างดุดัน“ไม่ใช่ความผิดของนาง งั้นก็เป็นความผิดของข้างั้นรึ?ที่ให้นางแต่งออกไปเป็นเพราะข้าหวังดี หรือย่าอย่างข้าจะคิดร้ายกับนางได้หรือไงกัน!”

“มัวเซ่ออะไรกันอยู่ รีบมัดนางแล้วส่งไปที่สกุลเจิ้งสิ!”แม่เฒ่าเซี่ยงกำชับคนของบ้านใหญ่และบ้านสาม

และคนเหล่านั้นก็รีบกระโจนเข้าไปหาซูหวั่นอย่างฮึกโหมในทันที

โดยที่นางหลี่ถูกนางจางสะใภ้ใหญ่และนางหวางสะใภ้สามเข้ามาควบคุมตัวเอาไว้

และนางหวางก็พูดอย่างดีอกดีใจกับความโชคร้ายของคนอื่นไปว่า“พี่รอง ไม่ใช่ว่าข้าจะต่อว่าพี่นะ ถ้าฟังคำของท่านแม่มันก็ไม่เกิดเรื่องเกิดราวขนาดนี้หรอกนะ ยังไงเสียก็แค่ลูกสาวที่ต้องออกเรือนไป พี่จะอะไรกันนักหนา อีกอย่างพี่ก็ยังมีลิ่วหลางอยู่นี่ ขัดใจท่านแม่แล้วพี่จะได้อะไรขึ้นมา?”

“ไม่ใช่ลูกสาวของพวกเจ้านี่ พวกเจ้าก็พูดได้อยู่แล้ว ปล่อยข้านะ!”ดวงตาของนางหลี่แข็งกร้าว และพยายามดิ้นรนที่จะเข้าไปช่วยซูหวั่นให้ได้

แต่ทว่านางหวางและนางจางก็เคยชินกับการทำงานที่หนักอยู่แล้ว อีกทั้งก็ยังแรงเยอะราวกับวัวควาย ซึ่งนางหลี่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย

“เคร้ง!”

ทุกคนตกตะลึง และมองไปทางซูหวั่น

ซึ่งก็พบว่านางกำลังถือมีดทำครัวเอาไว้ และฟันไปที่เขียงอีกครั้ง พร้อมกับพูดด้วยสายตาที่ดุดันออกมาว่า“พวกเจ้าก็ลองเข้ามาสิ!”

ลุงสองคนมองหน้ากัน และคิดว่าซูหวั่นแค่ขู่พวกเขาเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาเลยถือเชือกและเดินเข้าไปหานางเรื่อยๆ

ซูหวั่นถือมีดทำครัวเอาไว้พร้อมกับแกว่งไปมา“มีดมันไม่มีตาหรอกนะ ถ้าฟันไปโดนใครข้าไม่รับผิดชอบด้วย อยู่ห่างๆจากข้า ปล่อยแม่ของข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

แขนเสื้อของลุงใหญ่ซูฉางฝูถูกกรีดเป็นรู และเขาก็ตะลึงงันทันที

ลุงสามซูฉางโซว่ เมื่อเห็นว่าซูหวั่นนั้นเอาจริง ลุงสามซูฉางโซว่ก็รีบกระโจนเข้าไปอย่างร้อนใจและคิดที่จะแย่งมีดเอาไว้

“อย่าเข้ามานะ!”ซูหวั่นตะคอกออกมา ดวงตาส่องประกายความเย็นยะเยือก โดยที่มีดโบกไปโดนแขนของซูฉางโซว่เข้าพอดี

แม้ว่าบาดแผลจะไม่ลึกเท่าไหร่ แต่เลือดกลับทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว

และซูฉางโซว่ก็ตะลึงงัน เพราะคิดไม่ถึงว่าซูหวั่นจะลงมือได้หนักขนาดนี้“อ้าวเฮ้ย คิดจะฆ่ากันเลยเหรอ!”

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ แม่เฒ่าเซี่ยงก็ล้มตัวนั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับก่นด่าออกมาว่า“นี่มันเรื่องอะไรกัน บ้ากันไปแล้ว จะฆ่าแกงกันเลยเหรอ!”

จากนั้นหลี่เจิ้งก็รีบวิ่งเข้ามา โดยมีซูลิ่วหลางที่ยังคงกระหืดกระหอบอยู่ข้างๆ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

เขามีใบหน้าทรงสี่เหลี่ยมที่น่าเกรงขามแม้จะไม่ได้โกรธ จากนั้นเขาก็มองไปยังแม่เฒ่าเซี่ยงแล้วพูดว่า“ท่านป้า บ้านท่านป้าจะเพลาๆลงบ้างไม่ได้เลยหรือไง ทำไมจะต้องทำให้มันวุ่นวายขนาดนี้ด้วย!”

สองวันก่อนซูหวั่นเพิ่งจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ซึ่งก็เป็นหลี่เจิ้งที่ไปตามคนมาช่วยซูหวั่นขึ้นมาได้

และวันนี้ก็ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันอีกแล้ว!

ครัวเรือนในหมู่บ้านซีสุ่ยเกือบจะทั้งหมดต่างก็เป็นญาติพี่น้องกัน ดังนั้นเขาจึงเรียกนางว่าป้าแบบนี้

และก็ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้ของแม่เฒ่าเซี่ยงเท่านั้น ซึ่งน้ำตากลับไม่ได้ไหลออกมาแต่อย่างใด“นังหนูหวั่นกำลังจะฆ่าลุงของตัวเอง เจ้าดูมีดในมือของนางสิ เสื้อผ้าของลุงถูกกรีดไปหมดแล้ว!”

หลี่เจิ้งมองไปรอบๆ และมือของซูฉางโซว่ก็เต็มไปด้วยเลือด

ซูหวั่นถือมีดเอาไว้ในมือ ใบหน้าเล็กๆนั้นเกร็งอย่างเต็มที่ ซึ่งเหมือนกับที่แม่เฒ่าเซี่ยงพูดเอาไว้ยังไงยังงั้น

“ท่านย่าจะมัดข้าแล้วส่งไปยังสกุลเจิ้ง ข้าไม่ยอมหรอกนะ!” ใบหน้าของซูหวั่นที่เพิ่งจะฟื้นตัวยังคงซีดเผือด และเมื่อพูดคำคำนี้ออกมา ขอบตาของนางก็แดงก่ำขึ้นมาทันที

แม่เฒ่าเซี่ยงแข็งคอ แล้วพูดว่า“แต่ไหนแต่ไรมา การตบแต่งก็เป็นสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างพ่อแม่กันอยู่แล้ว แต่นัง...หนูหวั่นทำไมถึงไม่ยอมตกลงล่ะ!”

ซูหวั่นบีบน้ำตาออกมา แล้วพูดว่า“ท่านย่า แล้วท่านย่าเป็นพ่อและแม่ของข้างั้นเหรอ?”

หากไม่ใช่ก็อย่าใช้เหตุผลนี้มาบีบบังคับนาง และต่อให้ใช่ก็ต้องถามนางก่อนไม่ใช่เหรอไง!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status