ชายหนุ่มผู้นั้นแสนจะรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องเป็นที่สุด เพราะว่านางคือดอกฟ้าที่ได้แต่เฝ้ามองความงามห่างๆ ไม่สามารถไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ครอบครองในชาตินี้ได้ แม้ใครจะบอกว่านางเป็นเพียงคุณหนูที่เกิดจากอนุของท่านมหาเสนาบดี ก็แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อบิดาของนางยกให้ เขาก็ตั้งใจว่าจะดูแลให้ดีที่สุด ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
“ฮูหยิน เจ้าตอดรัดข้าแน่นขึ้นขนาดนี้ คงใกล้แล้วเป็นแน่” เขายื่นหน้ามากระซิบข้างหูทั้งที่ส่วนล่างยังขยับอย่างต่อเนื่อง เป็นความสัมพันธ์ที่ร้อนแรง “มาเถิดฮูหยิน เรามาแตกน้ำแรกไปพร้อมๆ กัน ถือว่าข้ามอบให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน แล้วน้ำต่อๆ ไปของคืนนี้ ค่อยมาดูว่าเจ้าจะไหวอีกสักกี่ที...” “พูดบ้าอะไรเนี้ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ ว้าย!” หญิงสาวได้แต่ดิ้นพล่านแต่สู้แรงเขาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่ออีกฝ่ายเริ่มเล่นท่าพิสดาร ทว่ามันกลับทวีความเสียวซ่านมากขึ้นจนสติใกล้ดับ “อ๊า...อ๊า...ข้าจะ...ไม่ไหว จะไม่ไหวแล้ว เสียวเหลือเกิน อ๊า! กรี๊ด!” ซ่า... ซุนซูฮวาไปถึงฝั่งฝันเรียบร้อย ช่องทางรักตอดรัดลำเนื้อที่ยังฝังในกายตน แต่ก็อีกไม่เท่าไรนัก เมื่อชายหนุ่มยึดสะโพกนางแล้วกดกระแทกหนักหน่วงติดต่อกันอีกสี่ห้าที ปึ่ก... พรวด... “อา...” เอ็นเนื้อเกร็งกระตุก หน้าท้องที่ลาดมาจากอกผึ่งผายและเต็มไปด้วยขนอุยดกดำมีอันเกร็งหดตัวเพื่อปลดปล่อย เขาให้ตัวเองแตกข้างในร่องสาวเต็มที่ เมื่อดึงออกในตอนที่สุดกู่ น้ำคาวก็หลั่งทะลักล้นรูสวาทออกมา “ฮูหยิน เจ้างามเหลือเกิน งามที่สุด จนข้าไม่อาจห้ามใจได้เลย...” ได้ยินเสียงชายคนเดิมแว่วๆ เหมือนอยู่ที่ไกล ดังคล้ายในห้วงฝัน แต่ซุนซูฮวาขยับตัวไม่ไหวอีกแล้ว และไม่รับรู้อะไรสักอย่าง สตินางจากนี้ก็เหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่น เดี๋ยวก็ฝันว่าถูกกระแทกกระทั้น สักพักก็เห็นตัวเองกำลังกระเด้งกระเด้า หายไปวูบหนึ่ง ก็เห็นตัวเองร่างโยกคลอนจนพวงเต้าอร่ามกระดอนฟัดกันไปมา กิจกรรมยามค่ำคืนยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายรอบราวกับกินไม่รู้อิ่ม กระทั่งยามเช้าใกล้มาถึง ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยนางลงได้ กระนั้นก็ยังคาท่อนแข็งไว้ในกายนางอย่างโหยหาจนเกือบสว่าง เขาจึงได้ถอนลำออก แล้วค่อยจากไป ซุนซูฮวาวูบหลับไปในตอนนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็คือเที่ยงของอีกวันเลยทีเดียว...หญิงสาวจมสู่นิทรารมณ์อย่างรวดเร็ว...ที่นั่นดูเหมือนเป็นโลกอดีต ทั้งสิ่งปลูกสร้างและผู้คนที่แต่งกายแบบโบราณ ดูเหมือนกำลังมีงานเลี้ยงฉลองบางอย่าง มีเด็กๆ ที่แต่งกายอย่างชนชั้นสูงวิ่งเล่น เด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งมาชนเธอ“ท่านอา ขออภัยเจ้าค่ะ” หนูน้อยเอ่ยคำด้วยเสียงสดใส ซิ่วอิงเห็นใบหน้านั้นแล้วก็รู้สึกเอ็นดู และคิดว่าทำไมหน้าตาเหมือนตนในชาติก่อน “ท่านอา เห็นเด็กผู้ชายตัวสูงเท่าข้าไหมเจ้าคะ ข้ากำลังตามหาเขาอยู่เจ้าค่ะ ข้าจะไปจัดการ...”ซิ่วอิงยังไม่ทันตอบ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกหาเด็กคนนี้“ถิงเอ๋อร์ ไปยืนทำอะไรตรงนั้นจ๊ะลูก มาเข้าร่มได้แล้ว” สตรีที่แต่งกายด้วยแพรพรรณอย่างคนสูงศักดิ์ น้ำเสียงอ่อนหวานทอดอย่างอ่อนโยนเช่นคนได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าใบหน้านั้น...“นั่นมัน! ตัวข้าเองนี่นา!”ซิ่วอิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้เห็นร่างกายของตัวเองยังเคลื่อนไหวได้อยู่ทั้งที่ตนตายไปแล้ว หรือว่าข้างในนั้นจะไม่นางกัน แต่เป็นวิญญาณคนอื่น!“ท่านแม่ ลูกตามหาเพื่อนอยู่เจ้าค่ะ เดี๋ยวลูกเจอแล้วจะกลับมาหาท่านแม่นะเจ้าคะ” หนูน้อยแสบซนมาก วิ่งหนีแม่ไปทางอื่น นี่แสดงว่าเด็กคนนี้คงเป็นลูกที่เกิดจาก
ห้าปีผ่านไป... คุณแม่มือใหม่ที่ท้องใหญ่อุ้ยอ้ายเต็มที เห็นแค่นี้ใครก็รู้ว่าเป็นลูกแฝดแน่ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าเพศอะไร ตอนนี้เพิ่งจะเดินเล่นรอบบ้านเสร็จ ทว่าคุณพ่อมือใหม่เช่นกันที่เพิ่งกลับจากที่ทำงานและดันมาเห็น ก็ให้รถจอดตรงนั้นและลงไปจัดการภรรยาทันที “ท้องแก่ขนาดนี้ ยังจะเดินไปเดินมาอยู่อีก” กู้ซีฮันเข้าไปประคองซิ่วอิงอย่างอ่อนโยน ทั้งสองคนมองกันด้วยสายตาแห่งรัก วันเวลาที่วุ่นวายผ่านไปนานมากแล้ว แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็เลือดตาแทบกระเด็นทั้งคู่ “เข้าบ้านไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่อย่างนั้นจะตีให้ทั้งแม่ทั้งลูก ช่างพากันออกมาซนจริงๆ” “ฉันไปดูงานที่สำนักพิมพ์มา เห็นจางเหว่ยบอกว่ามีต่างชาติมาเสนอเครื่องพิมพ์แบบใหม่ สามารถพิมพ์หนังสือพิมพ์ได้เร็วกว่าเดิมมากนัก”หญิงสาวตอบ หลังเหตุการณ์คืนนั้น จ้าวตงไห่และตู้เหมยอินที่รอดตายจากตึกถูกไฟไหม้จนถล่มได้อย่างน่าเหลือเชื่อก็ถูกจับ ถูกตั้งข้อหามากมายและทั้งคู่ก็ไม่มีปัญญาสู้ในชั้นศาล กว่าจะจบเรื่องพวกนี้และถูกส่งไปอยู่เรือนจำทั้งคู่ก็ใช้เวลาเกือบสองปีเห็นว่าตู้เหมยอินเมื่อแยกเข้าเรือนจำแล้วก็อาการป่วยทรุดหนักลงกว่าเดิม ส่วนจ้าวตงไห่ได้ยินว่าถ
ซิ่วอิงรีบถูเชือกให้เร็วขึ้นเพราะไฟลามมาเร็วขึ้นแล้ว น้ำมันที่ถูกเทเป็นวงกลมตรงตำแหน่งเดิมที่เธออยู่ ตอนนี้มันทำไฟลุกโชติช่วงราวกับมาจากนรก“ขะ...ขาดแล้ว!” ในที่สุดก็สำเร็จ ซิ่วอิงปลดปล่อยตัวเองได้ เธอพยายามจะวิ่งสวนออกไป แต่อยู่ๆ ถูกตู้เหมยอินกระชากกลับ ให้เข้าไปอยู่ในวงล้อมด้วยกัน“แกจะหนีไปไหน ทั้งหมดนี้มันเริ่มต้นเพราะแกคนเดียว เพราะฉะนั้นแกต้องตายไปพร้อมกับฉันด้วย จะได้ไม่ต้องมีใครอยู่เสวยสุขเพียงคนเดียว!”“ใครอยากตายก็เชิญตายไปเลยแต่ฉันจะไม่ยอมตาย!” ซิ่วอิงทั้งทิ่มศอกและแทงเข่า ทั้งสองกลายมาเป็นคู่ต่อสู้กัน ในขณะที่ตงไห่ก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะติดกุญแจมือ “ผีเน่าโลงผุอย่างพวกแกขอให้ได้ตกนรกด้วยกันไปทุกชาติเถอะ ชาติหน้าอย่าได้มาเจอกันอีกเลย!”“กรี๊ด!”ซิ่วอิงสลัดพวกนั้นมาได้และวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต ตอนนี้ไฟไหม้ล้อมไปทั้งโกดังแล้ว ผลของน้ำมันที่ถูกเทไปจนทั่ว“แค่กๆๆ” หญิงสาวเริ่มสำลักควัน พยายามเอามือมาปิดหน้าแต่ก็แสบที่ควันเข้าตาอยู่ดี “แล้วฉันจะหนีไปทางไหนได้ ไม่มีทางออกแล้ว!”“ทางนี้...มาทางนี้” เสียงแปลกๆ ดังมาจากทางหนึ่ง และพอซิ่วอิงหันไป ก็ได้เห็นคนที่เธอเห็นมาแล้วในห้องนอนของ
“ไหนๆ เราก็เป็นสามีภรรยากันมาถึงห้าปี ฉันขอของขวัญชิ้นสุดท้ายจากเธอหน่อยก็แล้วกันนะ ฉันอยากได้แค่ใบมรณะบัตรของเธอน่ะ และจะได้ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งผู้นำกลุ่มเจียงหานของพ่อเธอ...”เชือกเส้นเดิมถูกเอามามัดที่มือของเธอแต่คราวนี้ผูกติดไว้กับลูกบิดประตูตรงนั้นด้วย ตงไห่ถอดเข็มขัดแล้วเอามารัดข้อเท้าหญิงสาวเข้าด้วยกันหลังจากเธอพยายามจะถีบล้วงกระเป๋าหยิบไฟแช็กขึ้นมาพรึ่บ!ไฟแช็กถูกโยนเข้าไปในกองกระดาษของโกดัง เปลวไฟลุกวาบขึ้นมาทันที“ลาก่อนนะภรรยาแสนดีของฉัน ถ้าโชคดีฉันไม่ติดโรค ฉันสัญญาว่าจะมีชีวิตดีๆ แทนเธอ และถึงฉันจะมีเมียใหม่ก็จะไม่มีทางลืมเธอ ส่วนยังเหมยอิน ฉันจะเก็บกวาดให้เรียบร้อย ถือเป็นการปลอบใจเธอก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆ”“พี่! พูดอะไร ที่บอกว่าจะเก็บฉัน” ตู้เหมยอินยังเอาตัวเย่วซินไปไม่ถึงไหน อยู่ๆ ก็หวาดระแวงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล กลัวตงไห่เปลี่ยนใจไม่กำจัดเมียเก่า เลยตั้งใจว่าจะมาดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อน และดันเข้ามาในจังหวะดีๆ “ไหนพี่บอกว่าเราจะร่วมเป็นร่วมตาย พี่จะไม่ทอดทิ้งฉัน พี่บอกว่าถึงฉันจะป่วยพี่ก็ยังจะรักฉัน แต่พี่กลับบอกนังซูฮวาว่าจะเก็บฉัน นี่มันคืออะไร”“เหมยอิน ทำไมยังอยู่ที
“แล้วยังไงอีก” หญิงสาวสวนกลับ เพราะเธอไม่ใช่ซูฮวาตัวจริง แม้จะเสียใจแต่ไม่ได้เจ็บปวดกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน “คิดจะทำให้ฉันสติแตกหรือไง ขอโทษนะ ตอนนี้ไม่มีอะไรทำร้ายฉันได้อีกแล้ว และต่อให้แกพยายามฆ่าฉันแค่ไหน แต่คนที่เพิ่งได้โอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้งฉัน จะไม่มีทางยอมตาย!”เชือกที่มัดข้อมือหลุดออก ซิ่วอิงพุ่งเข้าใส่ตงไห่จนล้มไปทั้งคู่ แกลลอนน้ำมันหลุดมือแล้วสาดจนเปียกไปด้วยกัน“เฮ้ย! นังบ้านี่!”สองคนฟัดกันนัวไปหมดที่พื้น ตงไห่ตบหญิงสาว แต่เธอก็ถีบกลับจนหงายหลัง ชายหนุ่มจึงคว้าได้เชือกมัดมือที่ซิ่วอิงแก้ไข และเอามันมารัดคอเธอแทน“แค่ก...”ภาพความทรงจำที่ฝังอยู่ในวิญญาณหวนกลับมาหา ในชาติที่แล้วบนเกี้ยวเจ้าสาว ซูฮวามองออกไปนอกหน้าต่างเกี้ยวเห็นแสงจันทร์และดวงดาว ไม่ต่างอะไรจากในตอนนี้ที่เธอกำลังตาเหลือกมองขึ้นไปด้านบนที่เป็นช่องแสงของโกดัง“ซิ่วอิง หลังคดีการตายของอนุในจวนข้าจบสิ้นเพราะความช่วยเหลือในการแฝงตัวเป็นสายลับของเจ้า ข้าจะมอบชีวิตที่สงบสุขและร่ำรวยให้เจ้า เจ้าจะได้อยู่ในตระกูลกู้ในฐานะภรรยาคนหนึ่งแต่ไม่ต้องปรนนิบัติข้า ชีวิตเจ้าลำบากมามากก็ควรได้อยู่อย่างมีความสุขเสียที ความจริงข
“ป้าอี้นะเหรอ เขาลากลับบ้านนอกไปแล้ว เมื่อครู่นี่เอง น่าจะสวนกับคุณหนูนะคะ” เยว่ซินตกใจมากที่อยู่ๆ ลูกเลี้ยงก็รีบกลับบ้านมาอย่างร้อนรน “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ ทำไมต้องตามหาตัวป้าอี้กัน” เลขาฯ ฮุ่ยรีบออกไปคุยกับพวกแม่บ้านและคนงานก่อนเป็นอย่างแรก ส่วนซีฮันจับแขนซิ่วอิงไว้ ส่งสายตาห่วงใย “แกคงยังไปไหนได้ไม่ไกลถ้าเพิ่งจะออกไป เดี๋ยวฉันกับเลขาฮุ่ยจะตามหาเอง เธออยู่เป็นเพื่อนคุณอาที่บ้านไปก่อน ตอนนี้อย่าออกไปไหนเด็ดขาด เพราะถึงขนาดวางระเบิดใต้รถได้ ก็คงไม่มีอะไรที่มันจะทำไม่ได้แล้ว...” “ระเบิด!” เยว่ซินตกใจมากเกือบได้เป็นลมอีกรอบ “ทนายซ่านไม่ได้ประสบอุบัติเหตุแต่เป็นโดนระเบิดเหรอคะ นี่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” “คุณอารถคว่ำค่ะ ไม่ได้โดนระเบิด คงเป็นเพราะคุณพ่อคุ้มครองไว้ เพราะอยู่ๆ คุณอาก็รู้สึกแปลกๆ และพบว่าใต้เบาะนั่งมีระเบิดซ่อนอยู่ ก็เลยโยนไปนอกรถค่ะ” ซิ่วอิงอธิบายหวังให้เบาใจ แม้เรื่องที่เล่ามันจะไม่ได้ดูเบาตรงไหนเลย “แต่ก็มีรถมาตามชนจนพลิกคว่ำอีก ดูท่าจะเป็นการจงใจฆ่า พวกมันคงอยากเก็บฉัน และตอนนี้ในเมื่อทำไม่สำเร็จ ฉันก็กลัวว่ามันจะหันมาเล่นงานคุณอาแ