Share

ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s
ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s
Penulis: sanvittayam

บทที่ 1 หว่านอันถิง

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-02 12:22:42

บทที่ 1 หว่านอันถิง

หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในตึกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง ในขณะที่กำลังเปิดประตูเพื่อเข้ามาในร้านกาแฟ ก็รู้สึกได้ถึงลมหอบใหญ่ที่พัดผ่านร่างไป เธอหันมองรอบกายและรู้สึกประหลาดใจที่จู่ ๆ ก็รู้สึกคล้ายกับว่ามีลมพัดเข้ามาทั้งที่ตอนนี้เธออยู่ในตัวอาคารที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกหนา แต่ก็ไม่คิดอะไรเพราะมีเสียงทักทายเสียขึ้นมาเสียก่อน

“คุณอันถิง สวัสดีค่ะ วันนี้รับอะไรดีคะ”

พนักงานสาวประจำร้านเอ่ยทักทายขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสดใส ในขณะที่กำลังปั๊มฟองนมอย่างขะมักเขม้น

ตำรวจสาวยิ้มหวาน ก่อนจะเงยหน้ามองเมนูและสั่งอเมริกาโน่เหมือนทุกวัน แต่วันนี้แปลกหน่อยก็ตรงที่เธอสั่งแบบใส่น้ำเชื่อม ทั้งที่ปกติแล้วเธอมักจะชื่นชอบรสขมของกาแฟมากกว่า

“วันนี้ฉันขอเป็นอเมริกาโน่เหมือนเดิมนะ แต่ขอเพิ่มเป็นน้ำเชื่อมหนึ่งปั๊ม”

“รับทราบค่ะ” พนักงานสาวตอบรับด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอนั้นจะรับเงินและยื่นใบเสร็จให้กับตำรวจสาว “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจะนำไปเสิร์ฟให้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

หว่านอันถิงพูดจบก็เดินไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกก่อนที่เธอนั้นจะเงยหน้ามองโทรทัศน์ที่กำลังเสนอข่าวเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งถูกตำรวจกวาดล้าง เนื่องจากได้รับเบาะแสจากชาวบ้านใกล้เคียงว่า กลุ่มพี่เลี้ยงได้ใช้เด็กกำพร้าบังหน้าเพื่อเปิดรับเงินบริจาคจากคนที่ใจบุญ แต่ลับหลังกลับลงมือทำร้ายเด็กเหล่านั้นและปล่อยให้หิวโซ มีเด็กหลายคนร่างกายซูบผอมและบางคนถึงกับล้มป่วย ทั้งยังถูกซ่อนไว้ในห้องใต้ดินอับชื้น

ทันทีที่เห็นข่าวแล้วก็อดนึกถึงชีวิตของตัวเองไม่ได้ เธอก็เกิดและเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเช่นกัน ก่อนหน้านี้แม่ของเธอก็เป็นพี่เลี้ยงอยู่ที่นั่น แต่หลังจากคลอดเธอได้ไม่นาน แม่ของเธอก็หนีหายไป จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เหตุผลว่า ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้ตัดสินใจทอดทิ้งเธอไป

หลังจากที่เรียนจบชั้นประถม เธอก็ตัดสินใจสมัครสอบชิงทุนทั้งของรัฐบาลและเอกชน ซึ่งก็ไม่ทำให้ตัวเองผิดหวัง เธอได้รับทุนการศึกษาจากหลายทาง ทำให้ตัดสินใจออกจากบ้านเด็กกำพร้าและมาเช่าหอพักอยู่เพียงลำพัง นอกเหนือจากเงินทุนที่ได้รับจากผู้ใหญ่ใจดี เธอก็ยังขวนขวายหางานพิเศษทำ ยอมแม้กระทั่งทำการบ้านให้เพื่อน ๆ เพื่อแลกเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ

ทั้งที่หว่านอันถิงเป็นตำรวจ แต่โดยปกติแล้วหญิงสาวก็ไม่ค่อยได้เข้าสำนักงานบ่อยนัก เนื่องจากเธอเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนที่ถูกบีบคั้นจากเพื่อนร่วมงาน ให้ออกไปหาหลักฐานข้างนอก ในสังคมที่ผู้คนต่างเห็นแก่ตัว แม้เธอจะเป็นผู้หญิงแต่คนเหล่านั้นก็ไม่เคยปรานี รู้ทั้งรู้ว่าการออกไปสืบข่าวจะต้องพบเจออันตรายมากแค่ไหน แต่พวกเขาที่เป็นผู้ชายก็ไม่ยินดีที่จะเสียสละตัวเอง กลับให้ผู้หญิงอย่างเธอออกหน้าแทน

หลังจากดื่มกาแฟเสร็จแล้ว หญิงสาวก็ขึ้นมาด้านบนเพื่อพบกับหัวหน้างาน ความจริงแล้วเวลานี้เธอมีภารกิจที่ยังคงทำค้างเอาไว้ แต่จู่ ๆ หัวหน้าก็เรียกให้มาหาอย่างกะทันหัน หว่านอันถิงไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตามคำสั่ง โชคดีที่เธอนั้นมีผู้ช่วยหนึ่งคน ทำให้งานยังคงดำเนินต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก

“มาก็ดีแล้ว ฉันมีงานสำคัญจะให้เธอทำ”

ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ก่อนที่เขาจะโยนกระดาษปึกใหญ่มาตรงหน้าหญิงสาวอย่างไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง

หว่านอันถิงที่ชินแล้วกับพฤติกรรมแบบนี้ของเขาจึงไม่ได้ถือสาอะไร มือก็เอื้อมมาหยิบกระดาษปึกนั้นขึ้นมาคลี่ดูทีละแผ่น ก่อนที่เธอจะไหวไหล่และเอ่ยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ฉันไม่ได้อยากรู้ประวัติของคนพวกนี้ เข้าเรื่องเลยดีกว่าว่าจะให้ฉันทำอะไร”

เดิมทีหญิงสาวไม่ค่อยสนใจไยดีใครอยู่แล้วถ้าไม่เกี่ยวกับงาน ประวัติละเอียดที่อีกฝ่ายส่งให้อ่าน เธอเองก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะไล่สายตาดู เพราะคิดว่ามันไม่ได้เป็นประโยชน์ขนาดนั้น มีใครบ้างที่ไม่รู้จักชายหนุ่มในรูป เพียงแต่คนทั่วไปและตำรวจนั้น รู้จักประวัติของเขาในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน

“เธอไม่ควรประมาท เขาไม่ใช่คนที่เธอจะล้วงคอได้ง่าย ๆ” หัวหน้างานพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

หญิงสาวถอนหายใจ ไม่ว่าเธอจะพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานมากแค่ไหน หัวหน้าก็ไม่เคยเชื่อมือเธอสักครั้ง หว่านอันถิงกระแทกตัวนั่งลงที่เก้าอี้ ตอนที่เธอนั้นจะหรี่ตามองโปรเจคเตอร์ที่กำลังฉายให้เห็นถึงประวัติของมาเฟียหนุ่ม

“หัวหน้ากำลังพูดให้ฉันกลัวอยู่นะ คุณควรจะมีศิลปะในการพูดมากกว่านี้ อย่างน้อยก็ช่วยชื่นชมให้ฉันรู้สึกฮึกเหิมบ้าง หรือไม่ก็ด่าเจ้าหมอนั่นว่ากระจอกให้ฉันฟังก็ยังดี” หญิงสาวพูดขึ้นมาด้วยท่าทางเบื่อหน่าย โดยไม่มีวี่แววของความกลัวอย่างที่เธอบอก

ชายวัยกลางคนส่ายหน้า สาเหตุที่เขานั้นไล่หว่านอันถิงไปให้พ้นจากสำนักงาน ก็เพราะรำคาญที่อีกฝ่ายชอบพูดยอกย้อนและกวนประสาทเขาแบบนี้ยังไงล่ะ แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจท่าทางนั้นเลย เธอกลับใช้นิ้วเขี่ยกระดาษเปิดออกด้วยท่าทางเนิบนาบราวกับคนเกียจคร้าน

“กระตือรือร้นหน่อยได้ไหมอันถิง นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ”

หัวหน้างานของเธอพูดขึ้นอีกครั้ง เขาไม่อยากให้หญิงสาวประมาท เพราะรู้ว่ามาเฟียหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา หากเขาไม่เฉลียวฉลาดมากพอ คงไม่ยืนหยัดอยู่ในวงการสีเทามาได้นานหลายปีขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ตำรวจที่จัดการทำอะไรเขาไม่ได้ แม้แต่ศัตรูของเขาเอง ก็ยังหาช่องว่างเพื่อโจมตีอีกฝ่ายไม่ได้เช่นกัน

“ถึงฉันจะเป็นแบบนี้แต่ฉันก็ไม่เคยทำงานพลาดสักครั้ง หรือไม่จริงล่ะคะ”

หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับย้อนถามกลับมา ซึ่งนั่นทำให้อีกฝ่ายถึงกับชะงักเพราะเถียงไม่ออก นั่นก็เพราะว่าหว่านอันถิงเป็นตำรวจที่มีความสามารถ หูตาว่องไว ทั้งทำตัวลื่นไหลและกลมกลืนกับผู้คนได้เป็นอย่างดี เธอจึงมักจะสืบสวนหาหลักฐานและความจริงได้ง่ายกว่าคนอื่น

นี่เป็นเหตุผลที่เขาไว้วางใจให้เธอช่วยทำงานสำคัญให้อยู่บ่อย ๆ

แต่ติดตรงที่หญิงสาวนั้นมักจะล้อเล่นกับทุกเรื่อง ทำให้เขาไม่ค่อยชอบนิสัยของเธอเท่าไรนัก

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะส่งฝ่ายสืบสวนคนใหม่ไปสานต่องานเก่าของเธอเอง ส่วนเธอก็รีบเข้าไปหาหลักฐานที่บริษัทนั้น ฉันเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้แล้ว นี่คือตัวตนของเธอ” หัวหน้าพูดขึ้นมาพร้อมกับส่งเอกสารชุดใหม่ให้หญิงสาว

หว่านอันถิงรับบัตรส่วนตัวที่มีข้อมูลสำคัญที่ระบุตัวตน รวมทั้งบัตรพนักงานบริษัทของตัวเองมา เธอพลิกไปมาก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจเท่าไรนัก

“น่าจะปรึกษาฉันก่อนนะ ฉันไม่ชอบรูปนี้เลย มันไม่สวย”

“เลิกไร้สาระสักที ฟังฉันนะ งานนี้มันไม่ง่ายเหมือนงานที่ผ่านมา เธอห้ามประมาทเด็ดขาด เข้าใจไหม” เขาพูดขึ้นมาในเชิงดุเล็กน้อย แม้จะรำคาญอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้นก็อดเป็นห่วงลูกน้องสาวไม่ได้ งานนี้มันอันตรายเกินกว่าที่เขานั้นจะเข้าไปเสี่ยงด้วยตัวเอง ตัวเขามีลูกและภรรยารออยู่ที่บ้าน แต่หว่านอันถิงตัวคนเดียวไร้ญาติพี่น้อง ฉะนั้นทุกคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรส่งหญิงสาวไป

“ฉันรู้แล้ว หัวหน้าเชื่อมือฉันเถอะ ต่อให้ต้องตายฉันก็จะหาหลักฐานมาให้ได้” หญิงสาวกล่าวก่อนที่เธอนั้นจะเดินออกไป

เขามองตามด้วยความไม่สบายใจและรู้สึกกังวลแปลก ๆ ราวกับว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้พบหน้าหญิงสาว!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์หลังจากวันนั้นนี่ก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว เรื่องที่ช่ายจื่อเฉิงจัดการก็เงียบไปเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจบเรื่องนี้ด้วยวิธีใด และไม่มีใครได้พบเห็นสามแม่ลูกนั้นอีกเลย บ้างก็ว่าปี้เจียวหลานหนีตามใครบางคนไปส่วนทั้งสองคนนั้นก็มีข่าวลือว่าไม่ใช่ลูกของนายท่านช่าย ในวงสังคมต่างพูดถึงเรื่องนี้และมีข่าวลือแตกต่างกันไปคนละแบบ ซึ่งไม่รู้ว่าอันไหนคือเรื่องจริง อันไหนคือเรื่องเท็จ แต่สิ่งที่จริงนั้นคือทั้งสามคนหายไปจากวงสังคมของปักกิ่ง“ความโหดร้ายของช่ายจื่อเฉิงไม่มีใครเทียบได้หรอก สมัยที่เขายังเป็นหนุ่มก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นฝีมือ กว่าเขาจะไต่เต้าขึ้นมาได้จนมีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน” ฉินจิ้งเหยาพูดขึ้นมาท่ามกลางทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง“ช่างมันเถอะค่ะคุณลุง อย่างไรเรื่องราวก็จบลงแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากรับรู้ว่าสามคนแม่ลูกนั่นไปอยู่ที่ไหน ขอแค่ไม่มาวุ่นวายกับพวกเราก็พอแล้วค่ะ”ช่ายเหมยฮวาพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ เธอไม่อยากรับรู้อะไรมากนัก แต่คิดว่าทั้งสามคนคงยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้เธอเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงขอร้องพ่อไปว่าไม่ว่าพ่อจะจัดการสาม

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก

    บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก“พี่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ ลางสังหรณ์มันบอกอะไรแปลก ๆ ทำให้พี่ไม่สบายใจ เลยอยากกลับมาเยี่ยมคุณพ่อ” เธอตอบกลับน้องสะใภ้ไปตามตรงเพราะสายตาซ่อนความกังวลไว้ไม่มิด“อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เดี๋ยวรอพี่หยางกลับมาก่อนค่อยปรึกษากันอีกทีว่าจะทำอย่างไร” ถังลู่เหมยพูดขึ้นและจับมือพี่สะใภ้ไว้เพื่อปลอบโยน จะว่าไปเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้สถานการณ์ในบ้านตระกูลช่ายเลย เพราะไม่เคยสอบถามสามีถึงเรื่องบ้านของพี่สะใภ้ เธอรู้เพียงว่าพี่สะใภ้ใหญ่นั้นไม่ลงรอยกันกับแม่เลี้ยงตนเอง รวมถึงน้องทั้งสองคนที่เกิดจากแม่เลี้ยงด้วย“เรื่องตระกูลช่าย ลุงสืบมาให้เรียบร้อยแล้ว รอหลานมาจัดการด้วยตนเอง แต่ยังไม่มีเวลาที่จะส่งข่าวไป ไม่คิดว่าวันนี้เหมยฮวาจะมาด้วยตนเอง” จังหวะนั้นนายท่านฉินที่เดินลงมาจากชั้นบนก็พูดขึ้น แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่แววตาก็ฉายแววกังวลออกมาเรื่องที่เขาให้คนสืบไว้นั้นจะว่าดีก็ดี จะว่าร้ายก็ร้าย แต่ถึงอย่างไรให้หลานสาวตัดสินใจด้วยตนเองดีกว่า อีกอย่างเขากับน้องเขยก็ไม่ได้สนิทติดเชื้อกันมากนัก จะมาให้เจ้ากี้เจ้าการเรื่องในครอบครัวอีกฝ่ายก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้า

    บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้าหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบนิ่ง แต่ดวงตานั้นกลับแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ พูดจบถังลู่เหมยก็ลุกขึ้น พร้อมกับเชือกที่มัดแขนอยู่ก็หลุดออกอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเดินมายืนประจันหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาว่า “แบบนี้ฉันคงปล่อยให้เธอใช้ชีวิตตามใจชอบอีกไม่ได้แล้วนะ หลี่ซิงหง”“ทะ ทำไมแกไม่ได้ถูกมัดไว้เหรอ” หลี่ซินหงเห็นอย่างนั้นก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือก ก่อนจะมองรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าชายฉกรรจ์ที่คิดว่าเป็นคนของตนเองไปยืนอยู่ด้านหลังของอีกฝ่าย ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอติดกับดักแล้ว ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่เคียดแค้น“แกก็ไม่ใช่คนที่นี่สินะ แกมัน...”คราวนี้ถังลู่เหมยไม่ตอบคำถามนี้ และไม่รออีกฝ่ายพูดจนจบประโยค เธอเลือกที่จะเดินไปใกล้กว่าเดิม ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมว่า “หุบปากของหล่อนให้สนิท ถ้าพูดเรื่องนี้ออกมาแม้แต่คำเดียว วันนั้นจะเป็นวันที่เธอพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะฉันจะตัดลิ้นของเธอออกมาย่างให้หมากิน จำไว้”พูดจบเธอเดินไปหาสามีที่ยืนฟังเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะมีเ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาด

    บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาดถังลู่เหมยและป๋ายหลานกลับบ้านด้วยรถยนต์ของตระกูลฉินเหมือนเดิม แต่ในขณะที่กำลังนั่งรถอยู่นั้น ก็มีรถยนต์ขับตามมาหนึ่งคัน ก่อนที่รถคันนั้นจะขับแซงขึ้นมาและปาดหน้าให้รถที่ถังลู่เหมยนั่งอยู่จอดลงอย่างกะทันหัน“เกิดอะไรขึ้น” ป๋ายหลานถามขึ้นด้วยความตกใจ พร้อมกับกุมมือลูกสะใภ้ไว้แน่น“มีรถมาจอดปาดหน้ารถของเราครับคุณนาย น่าจะเป็นโจรมาปล้น” คนขับรถวัยกลางคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย“ตายแล้ว แล้วเราจะทำยังไงดีละเนี่ย” ป๋ายหลานพูดขึ้นมาอย่างตกใจมากกว่าเดิม แม้ว่าเรื่องนี้ลูกชายกับสะใภ้บอกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นและทั้งสองหาทางแก้ไขไว้แล้วก็ตาม“ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณแม่อยู่ในรถก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง” ถังลู่เหมยบีบมือของแม่สามีเบาๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทีปกติ โดยไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ เลย“ระวังตัวด้วยนะอาเหมย” ป๋ายหลานบอกกับลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง“ค่ะคุณแม่” หญิงสาวรับปากแม่สามี จากนั้นก็พูดกับคนขับรถว่า“ลุงไม่ต้องลงไปหรอกค่ะ ดูแล้วพวกมันมาไม่กี่คนเอง เดี๋ยวฉันจัดการได้ อีกอย่างมีคนของพี่หยางตงแอบติดตามมาด้วย แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็รีบพาคุณแม่ไปยังที่ปลอดภัยห

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 84 ซ้อนแผน

    บทที่ 84 ซ้อนแผน“ได้สิ พี่เคยบอกแล้วว่าหากเหมยฮวาอยากไปเมื่อไร พี่ก็พร้อมจะพาไปเสมอ ถ้าอย่างนั้นเราไปปักกิ่งกันเถอะ พี่เองก็ไม่เคยได้พบพ่อตามาก่อน อย่างน้อยก็ได้ไปยกน้ำชาสักครั้งก็ยังดี” ถังอี้คุนพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนแม้ว่าเขากับภรรยาจะจดทะเบียนและแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว แต่เรื่องที่พบหน้ากับพ่อตานั้น เขายังไม่เคยเจอและไม่เคยยกน้ำชามาก่อน ซึ่งมันก็คงไม่ดีแน่หากใครได้รับรู้เรื่องนี้ ดังนั้นการที่ภรรยาคิดจะเดินทางไปปักกิ่งในครั้งนี้ เขาจึงเห็นว่าสมควรแล้ว“ถ้าลูกทั้งสองคนตั้งใจจะไปปักกิ่ง พ่อกับแม่ก็ตั้งใจจะไปกับลูกด้วย การเอาลูกสาวของเขามาโดยไม่มีการพูดจาสู่ขอกับพ่อของเหมยฮวา พ่อก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ไปครั้งนี้จะได้สู่และให้ทั้งสองคนยกน้ำชาให้ถูกต้อง” ถังเยี่ยพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินความตั้งใจของลูกชายและสะใภ้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ติดอยู่ในใจของเขาและภรรยามาตลอด เขามีลูกสาวก็เข้าใจในเรื่องนี้ดี“อย่างนั้นพวกลูกหลานไปกันเถอะนะ เดี๋ยวแม่กับตาเฒ่าจะเฝ้าบ้านให้เอง” ย่าถังพูดสนับสนุนขึ้นมา เมื่อได้ยินลูกและหลานพูดถึงเรื่องที่จะไปปักกิ่งเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันทั้งหมด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 83 ข่าวสำคัญ

    บทที่ 83 ข่าวสำคัญหลังจากวันนั้น นี่ก็ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้วที่หลี่ซินหงไม่สามารถดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ได้ นั่นก็เพราะว่าถังลู่เหมยนั้นไม่ได้ออกจากบ้านตระกูลฉินอีกเลย เพราะผู้เป็นแม่สามีได้ซื้อของมากมายมาให้เธอจนแทบจะใช้ไม่หมดอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะอยากออกไปหาลู่ทางเพื่อทำการค้าของตนเอง แต่เธอก็ไม่ขัดขืนเพราะไม่อยากทำให้ทุกคนลำบากใจ โดยเฉพาะสามีของเธอทุกวันถังลู่เหมยจะทำอาหารให้ทุกคนในบ้านกิน และนั่งฟังแม่สามีเล่าเรื่องต่างๆ ในปักกิ่งให้ฟัง ป่ายหลานสอนมารยาทการเข้าสังคมให้เธออย่างใส่ใจ ซึ่งถังลู่เหมยก็ไม่ขัดอะไรเพราะเห็นสีหน้าของแม่สามีดูมีความสุขที่ได้สอนและจับเธอแต่งตัว“อาเหมยอีกสามวันจะมีงานสังคม โดยตระกูลฉินเป็นประธาน เธอเตรียมตัวด้วยนะ แม่จะพาอาเหมยออกงานอย่างเป็นทางการ” ป๋ายหลานเดินมาบอกลูกสะใภ้ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องโถง ถึงเรื่องที่ตระกูลฉินจะเป็นประธานในงานเลี้ยงสมาคมการค้าในครั้งนี้ และเธอตั้งใจให้สะใภ้ได้ไปร่วมงานด้วย หลายวันมานี้เธอยอมรับสะใภ้คนนี้ได้อย่างเต็มหัวใจแล้ว ถังลู่เหมยได้ยินอย่างนั้นก็อมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจเพราะนี่คือการยอมรั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status