Share

บทที่ 2 ภารกิจสุดท้าย

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-02 12:23:48

บทที่ 2 ภารกิจสุดท้าย

หว่านอันถิงใช้เวลาเตรียมตัวและปรับบุคลิกใหม่ราว ๆ สามวัน เนื่องจากเธอนั้นต้องปลอมเข้าไปเป็นพนักงานเดินเอกสารในบริษัทของมาเฟียหนุ่ม จะได้มีโอกาสเข้านอกออกในหลาย ๆ ห้อง

ในวันนี้หญิงสาวเดินทางมาที่บริษัทแต่เช้า เพราะเธอมีบัตรที่แสดงว่าเธอเป็นคนของที่นี่ ทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยไม่ได้สนใจเธอเท่าไรนัก พอมองไปรอบ ๆ เห็นแม่บ้านกำลังทำความสะอาดอย่างตั้งใจ ก็รีบขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนทันที

แต่ก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม เธอไม่ลืมที่จะแวะไปยังห้องควบคุมระบบต่าง ๆ โชคดีที่พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังดื่มกาแฟ และไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาด้านหลังเขา

หว่านอันถิงใช้จังหวะที่อีกฝ่ายเผลอ สับฝ่ามือลงบนหลังคอจนเขาสลบไป หลังจากนั้นเธอได้หาเชือกมามัดข้อมือเขาไพล่หลัง และไม่ลืมที่จะนำสก๊อตเทปปิดปากชายหนุ่มไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายส่งเสียงดังขณะที่เธอกำลังล้วงข้อมูล

หญิงสาวไล่ปิดระบบกล้องวงจรปิดทุกตัวอย่างชำนาญ ก่อนที่เธอนั้นจะรีบขึ้นไปยังห้องทำงานของมาเฟียหนุ่ม

ชั้นบนค่อนข้างเงียบสงบ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแม่บ้านทำงานอยู่ประปราย เมื่อมองซ้ายมองขวาพอเห็นว่ามีกองเอกสารวางตั้งอยู่ หว่านอันถิงไม่รอช้ารีบยกแฟ้มขึ้นมาถือ ก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังห้องทำงานใหญ่ที่เขียนป้ายไว้ว่าห้องท่านประธาน

“ป้าหวัง รบกวนเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันต้องรีบนำเอกสารที่หนักอึ้งนี้ไปวางให้เจ้านายค่ะ”

หญิงสาวเหลือบมองป้ายชื่อของแม่บ้านคนหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นพลางนิ่วหน้าเล็กน้อย แสร้งทำราวกับว่าเอกสารที่ถืออยู่นั้นหนักมากจนเธอรู้สึกไม่สบายตัว ป้าแม่บ้านที่เห็นว่าหว่านอันถิงเป็นพนักงานเดินเอกสารจึงไม่ได้คิดอะไร รีบไขกุญแจเปิดห้องให้อีกฝ่ายเข้าไปด้านในทันที

“ได้ ๆ รีบเข้าไปเถอะ ดูสิคงหนักแย่” ป้าหวังบอกอย่างใจดี

“ขอบคุณค่ะป้า เดี๋ยวฉันขอจัดเอกสารสักครู่แล้วจะออกไปนะคะ” หว่านอันถิงหันไปยิ้มและขอบคุณ

เมื่อเข้ามาได้แล้วหญิงสาวก็ไม่รอช้า เธอรีบล็อกประตูจากด้านใน ก่อนจะมองสำรวจรอบ ๆ ห้องอย่างระมัดระวัง เธอมองไปยังผนังที่ติดวอลล์เปเปอร์ลายตา ก่อนจะค่อย ๆ คลานเข้าไปและเลื่อนปิดม่านให้ห้องมืดทึบมากที่สุด

แต่จังหวะที่หันกลับมาดวงตาของตำรวจสาวเบิกกว้าง ก่อนจะพูดออกมา

“ซวยแล้ว!!”

หญิงสาวพึมพำเมื่อเห็นแสงสีแดงที่ทะลุออกมาจากผนัง นอกจากกล้องวงจรปิดในห้องนี้ที่เธอปิดระบบหมดแล้ว ยังมีกล้องตัวเล็กซ่อนอยู่ หว่านอันถิงรู้ว่าเธอมีเวลาไม่นานนักที่จะหาหลักฐาน จึงไม่รอช้ารีบเปิดคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทันที

มีโฟลเดอร์งานมากมายในเครื่อง แต่มีเพียงโฟลเดอร์เดียวที่ต้องใช้รหัสผ่าน หญิงสาวพยายามใช้ความคิดว่าเขาใช้รหัสอะไร ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้ว่ามาเฟียหนุ่มเป็นคนขี้ลืม และแน่นอนว่าเขาจะไม่ตั้งรหัสผ่านที่ซับซ้อน แต่ต้องเป็นรหัสที่ตัวเขาสามารถจำได้แม่นยำ

“รหัสแค่หกตัว คนขี้ลืมแบบนั้นคงจะไม่ลืมวันเกิดตัวเอง”

หญิงสาวพึมพำเบา ๆ เธอไม่รอช้ารีบกรอกรหัสโดยอิงกับวันเดือนปีเกิดของมาเฟียหนุ่มทันที แต่กลับพบความผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะตอนนี้เสียงสัญญาณเตือนฉุกเฉินดังไปทั่วทั้งตึก

“ใจเย็นอันถิง ใจเย็น ๆ” หว่านอันถิงบอกกับตัวเองก่อนจะรีบระดมสมองอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะสลับรหัสใหม่

โชคดีที่มาเฟียหนุ่มสลับปีเกิดไปไว้ด้านหน้าต่อท้ายด้วยเดือนและวันเกิด ทำให้หญิงสาวสามารถเข้ารหัสได้ทันที เธอไม่รอช้ารีบอัปโหลดไฟล์เพื่อส่งเข้าอีเมล แต่เพราะเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ทำให้ต้องใช้เวลาส่งนาน และด้วยความรอบคอบ หว่านอันถิงตัดสินใจซ่อนการอัปโหลดไว้  เพราะเธอนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าคนมากมายกำลังเดินตรงมาที่นี่

หญิงสาวมองซ้ายมองขวาแล้วก็กังวลใจเพราะที่นี่ไม่มีทางหนีได้เลย เธอเหลือบมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ภารกิจของเธอถือว่าสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่คิดเสียดายชีวิต แต่อย่างไรงานนี้จะต้องสำเร็จ!!

ประตูถูกผลักเข้ามาในขณะที่หญิงสาวรีบหลบซ่อนตัว เธอกระชับปืนในมือแน่น เมื่อม่านถูกเปิดออกเธอก็ไม่รอช้า รีบเปิดฉากลั่นไกใส่ลูกน้องของมาเฟียหนุ่มทันที

เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ไม่เพียงแต่ร่างชายฉกรรจ์มากมายที่ล้มตายเกลื่อนดั่งใบไม้ร่วงเพราะฝีมือของเธอ แต่หญิงสาวเองก็ถูกยิงเข้าจุดสำคัญเช่นกัน มาเฟียหนุ่มจ้องหว่านอันถิงเขม็งด้วยสายตาดุดัน และภาพสุดท้ายที่เธอเห็นก็คือ เขากำลังหัวเสียอย่างหนักเมื่อรู้ว่าไฟล์ลับถูกส่งถึงสำนักงานตำรวจเรียบร้อยแล้ว

“โธ่เว้ย!” มาเฟียหนุ่มสบถออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

สิ้นเสียงนั้นสติสัมปชัญญะของหญิงสาวก็ดับสิ้นลง พร้อมกับลมหายใจสุดท้ายและวิญญาณที่หลุดลอยไป

หมู่บ้านอี้จิน

แม้ปลาตัวใหญ่จะพยายามสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อดิ้นหนีจากอุ้งมือของหญิงสาว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ขาดใจตายเสียก่อน ถังลู่เหมยใช้สายตาใสซื่อพิจารณาปลาในมือ เมื่อเห็นว่าเจ้าปลาตัวเขื่องแน่นิ่งไปแล้ว เธอจึงได้โยนมันขึ้นไปบนบก ก่อนตะเกียกตะกายปีนตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

“ทำอะไรอยู่น่ะ อาเหมย”

พี่ชายอย่างถังอี้คุณที่เห็นว่าน้องสาวอย่างถังลู่เหมยกำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาจากน้ำก็รีบเข้าไปช่วยดึง เธอทำหน้าเหลอหลาก่อนจะชี้ไปยังปลาตัวใหญ่ที่นอนแน่นิ่งอยู่

หญิงสาวถูกผู้เป็นย่าใช้ให้มาจับปลาโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะว่ายน้ำเป็นหรือไม่ นางสนแค่ว่าถังลู่เหมยจะต้องทำให้ได้ทุกอย่างที่ต้องการ

“หะ หาปลา”

ถังลู่เหมยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก หาใช่เพราะความประหม่า แต่เธอนั้นพูดจาติดอ่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถังลู่เหมยรีบยกปลาใส่ถังไม้ก่อนที่เธอจะหิ้วกลับไปบ้าน

ระหว่างทางผู้คนต่างก็หัวเราะเยาะ หากไร้ซึ่งพี่ชายเดินตามหลังแล้วเธอก็คงจะถูกกลั่นแกล้งรังแกเช่นเดิม แม้จะถูกผู้คนเหล่านั้นทุบตีบ้าง ขว้างปาหินใส่บ้าง แต่หญิงสาวก็ยังส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เธอใสซื่อเกินกว่าที่จะรู้ได้ว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นการประทุษร้าย

แม้บางครั้งจะเจ็บจนทนไม่ไหว แต่เพราะเธอเข้าใจว่าคนเหล่านั้นต้องการเล่นด้วย จึงไม่เคยถือโทษโกรธเคืองเลยสักครั้ง

โดยไม่รู้เลยว่าผู้คนในหมู่บ้านต่างก็รังเกียจเธอ เห็นหญิงสาวเดินตาลอยน้ำลายยืด ก็ต่างรีบตีตัวออกห่าง บางครั้งถึงขั้นใช้ไม้ไล่ตีเธอราวกับหมูกับหมา

“จะไปไหน”

ถังอี้คุณเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าน้องสาวนั้นกำลังเดินออกนอกเส้นทาง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นก่อนที่เธอนั้นจะชี้ไปยังต้นท้อด้านหน้า

“ท้อ อยากกิน”

ถังลู่เหมยพยายามสื่อสารให้ผู้เป็นพี่เข้าใจ พี่ชายที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้ทันที หากเขาไม่ปีนขึ้นไปเก็บผลท้อให้ เธอจะต้องหาวิธีปีนขึ้นไปด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

“รอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่จะไปเก็บให้”

ชายหนุ่มพูดจบก็วางกองฟืนที่หอบไว้ลงบนพื้น ก่อนที่เขานั้นจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ จับยึดกิ่งไม้ไว้และโน้มไปด้านหน้าเพื่อเอื้อมมือเด็ดผลสีชมพูส้มพลางโยนให้น้องสาวรับ

ถังลู่เหมยดีใจกระโดดโลดเต้นอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกัดผลท้อคำใหญ่ ถังอี้คุณที่เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงสาของน้องสาว จนอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้

“รสชาติดีใช่หรือไม่”

หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มสดใสให้พี่ชาย แม้เนื้อตัวจะเปียกปอนจนรู้สึกหนาวเหน็บ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอารมณ์ดีเมื่อได้ลิ้มรสชาติหวานฉ่ำของผลไม้โปรด

เมื่อกินจนพอใจแล้ว ถังลู่เหมยก็ยกถังใส่ปลาก่อนที่เธอนั้นจะเดินย้อนกลับไปอีกทาง

“รอฉันด้วยอาเหมย” ถังอี้คุณที่กระโดดลงมาจากต้นไม้ก็หอบฟื้นขึ้นและเดินตามน้องสาวไป

แม้สติจะไม่สมประกอบ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จดจำเส้นทางได้แม่นยำ พี่ชายเดินตามน้องสาวห่าง ๆ เห็นว่าเธอกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยก็เบาใจลง จากนั้นได้เดินเลี่ยงไปอีกทาง ชายหนุ่มมีงานมากมายที่ยังต้องทำ และอันดับแรกเขาต้องนำฟืนไปเก็บก่อน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์หลังจากวันนั้นนี่ก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว เรื่องที่ช่ายจื่อเฉิงจัดการก็เงียบไปเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจบเรื่องนี้ด้วยวิธีใด และไม่มีใครได้พบเห็นสามแม่ลูกนั้นอีกเลย บ้างก็ว่าปี้เจียวหลานหนีตามใครบางคนไปส่วนทั้งสองคนนั้นก็มีข่าวลือว่าไม่ใช่ลูกของนายท่านช่าย ในวงสังคมต่างพูดถึงเรื่องนี้และมีข่าวลือแตกต่างกันไปคนละแบบ ซึ่งไม่รู้ว่าอันไหนคือเรื่องจริง อันไหนคือเรื่องเท็จ แต่สิ่งที่จริงนั้นคือทั้งสามคนหายไปจากวงสังคมของปักกิ่ง“ความโหดร้ายของช่ายจื่อเฉิงไม่มีใครเทียบได้หรอก สมัยที่เขายังเป็นหนุ่มก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นฝีมือ กว่าเขาจะไต่เต้าขึ้นมาได้จนมีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน” ฉินจิ้งเหยาพูดขึ้นมาท่ามกลางทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง“ช่างมันเถอะค่ะคุณลุง อย่างไรเรื่องราวก็จบลงแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากรับรู้ว่าสามคนแม่ลูกนั่นไปอยู่ที่ไหน ขอแค่ไม่มาวุ่นวายกับพวกเราก็พอแล้วค่ะ”ช่ายเหมยฮวาพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ เธอไม่อยากรับรู้อะไรมากนัก แต่คิดว่าทั้งสามคนคงยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้เธอเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงขอร้องพ่อไปว่าไม่ว่าพ่อจะจัดการสาม

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก

    บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก“พี่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ ลางสังหรณ์มันบอกอะไรแปลก ๆ ทำให้พี่ไม่สบายใจ เลยอยากกลับมาเยี่ยมคุณพ่อ” เธอตอบกลับน้องสะใภ้ไปตามตรงเพราะสายตาซ่อนความกังวลไว้ไม่มิด“อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เดี๋ยวรอพี่หยางกลับมาก่อนค่อยปรึกษากันอีกทีว่าจะทำอย่างไร” ถังลู่เหมยพูดขึ้นและจับมือพี่สะใภ้ไว้เพื่อปลอบโยน จะว่าไปเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้สถานการณ์ในบ้านตระกูลช่ายเลย เพราะไม่เคยสอบถามสามีถึงเรื่องบ้านของพี่สะใภ้ เธอรู้เพียงว่าพี่สะใภ้ใหญ่นั้นไม่ลงรอยกันกับแม่เลี้ยงตนเอง รวมถึงน้องทั้งสองคนที่เกิดจากแม่เลี้ยงด้วย“เรื่องตระกูลช่าย ลุงสืบมาให้เรียบร้อยแล้ว รอหลานมาจัดการด้วยตนเอง แต่ยังไม่มีเวลาที่จะส่งข่าวไป ไม่คิดว่าวันนี้เหมยฮวาจะมาด้วยตนเอง” จังหวะนั้นนายท่านฉินที่เดินลงมาจากชั้นบนก็พูดขึ้น แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่แววตาก็ฉายแววกังวลออกมาเรื่องที่เขาให้คนสืบไว้นั้นจะว่าดีก็ดี จะว่าร้ายก็ร้าย แต่ถึงอย่างไรให้หลานสาวตัดสินใจด้วยตนเองดีกว่า อีกอย่างเขากับน้องเขยก็ไม่ได้สนิทติดเชื้อกันมากนัก จะมาให้เจ้ากี้เจ้าการเรื่องในครอบครัวอีกฝ่ายก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้า

    บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้าหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบนิ่ง แต่ดวงตานั้นกลับแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ พูดจบถังลู่เหมยก็ลุกขึ้น พร้อมกับเชือกที่มัดแขนอยู่ก็หลุดออกอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเดินมายืนประจันหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาว่า “แบบนี้ฉันคงปล่อยให้เธอใช้ชีวิตตามใจชอบอีกไม่ได้แล้วนะ หลี่ซิงหง”“ทะ ทำไมแกไม่ได้ถูกมัดไว้เหรอ” หลี่ซินหงเห็นอย่างนั้นก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือก ก่อนจะมองรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าชายฉกรรจ์ที่คิดว่าเป็นคนของตนเองไปยืนอยู่ด้านหลังของอีกฝ่าย ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอติดกับดักแล้ว ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่เคียดแค้น“แกก็ไม่ใช่คนที่นี่สินะ แกมัน...”คราวนี้ถังลู่เหมยไม่ตอบคำถามนี้ และไม่รออีกฝ่ายพูดจนจบประโยค เธอเลือกที่จะเดินไปใกล้กว่าเดิม ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมว่า “หุบปากของหล่อนให้สนิท ถ้าพูดเรื่องนี้ออกมาแม้แต่คำเดียว วันนั้นจะเป็นวันที่เธอพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะฉันจะตัดลิ้นของเธอออกมาย่างให้หมากิน จำไว้”พูดจบเธอเดินไปหาสามีที่ยืนฟังเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะมีเ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาด

    บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาดถังลู่เหมยและป๋ายหลานกลับบ้านด้วยรถยนต์ของตระกูลฉินเหมือนเดิม แต่ในขณะที่กำลังนั่งรถอยู่นั้น ก็มีรถยนต์ขับตามมาหนึ่งคัน ก่อนที่รถคันนั้นจะขับแซงขึ้นมาและปาดหน้าให้รถที่ถังลู่เหมยนั่งอยู่จอดลงอย่างกะทันหัน“เกิดอะไรขึ้น” ป๋ายหลานถามขึ้นด้วยความตกใจ พร้อมกับกุมมือลูกสะใภ้ไว้แน่น“มีรถมาจอดปาดหน้ารถของเราครับคุณนาย น่าจะเป็นโจรมาปล้น” คนขับรถวัยกลางคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย“ตายแล้ว แล้วเราจะทำยังไงดีละเนี่ย” ป๋ายหลานพูดขึ้นมาอย่างตกใจมากกว่าเดิม แม้ว่าเรื่องนี้ลูกชายกับสะใภ้บอกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นและทั้งสองหาทางแก้ไขไว้แล้วก็ตาม“ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณแม่อยู่ในรถก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง” ถังลู่เหมยบีบมือของแม่สามีเบาๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทีปกติ โดยไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ เลย“ระวังตัวด้วยนะอาเหมย” ป๋ายหลานบอกกับลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง“ค่ะคุณแม่” หญิงสาวรับปากแม่สามี จากนั้นก็พูดกับคนขับรถว่า“ลุงไม่ต้องลงไปหรอกค่ะ ดูแล้วพวกมันมาไม่กี่คนเอง เดี๋ยวฉันจัดการได้ อีกอย่างมีคนของพี่หยางตงแอบติดตามมาด้วย แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็รีบพาคุณแม่ไปยังที่ปลอดภัยห

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 84 ซ้อนแผน

    บทที่ 84 ซ้อนแผน“ได้สิ พี่เคยบอกแล้วว่าหากเหมยฮวาอยากไปเมื่อไร พี่ก็พร้อมจะพาไปเสมอ ถ้าอย่างนั้นเราไปปักกิ่งกันเถอะ พี่เองก็ไม่เคยได้พบพ่อตามาก่อน อย่างน้อยก็ได้ไปยกน้ำชาสักครั้งก็ยังดี” ถังอี้คุนพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนแม้ว่าเขากับภรรยาจะจดทะเบียนและแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว แต่เรื่องที่พบหน้ากับพ่อตานั้น เขายังไม่เคยเจอและไม่เคยยกน้ำชามาก่อน ซึ่งมันก็คงไม่ดีแน่หากใครได้รับรู้เรื่องนี้ ดังนั้นการที่ภรรยาคิดจะเดินทางไปปักกิ่งในครั้งนี้ เขาจึงเห็นว่าสมควรแล้ว“ถ้าลูกทั้งสองคนตั้งใจจะไปปักกิ่ง พ่อกับแม่ก็ตั้งใจจะไปกับลูกด้วย การเอาลูกสาวของเขามาโดยไม่มีการพูดจาสู่ขอกับพ่อของเหมยฮวา พ่อก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ไปครั้งนี้จะได้สู่และให้ทั้งสองคนยกน้ำชาให้ถูกต้อง” ถังเยี่ยพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินความตั้งใจของลูกชายและสะใภ้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ติดอยู่ในใจของเขาและภรรยามาตลอด เขามีลูกสาวก็เข้าใจในเรื่องนี้ดี“อย่างนั้นพวกลูกหลานไปกันเถอะนะ เดี๋ยวแม่กับตาเฒ่าจะเฝ้าบ้านให้เอง” ย่าถังพูดสนับสนุนขึ้นมา เมื่อได้ยินลูกและหลานพูดถึงเรื่องที่จะไปปักกิ่งเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันทั้งหมด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 83 ข่าวสำคัญ

    บทที่ 83 ข่าวสำคัญหลังจากวันนั้น นี่ก็ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้วที่หลี่ซินหงไม่สามารถดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ได้ นั่นก็เพราะว่าถังลู่เหมยนั้นไม่ได้ออกจากบ้านตระกูลฉินอีกเลย เพราะผู้เป็นแม่สามีได้ซื้อของมากมายมาให้เธอจนแทบจะใช้ไม่หมดอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะอยากออกไปหาลู่ทางเพื่อทำการค้าของตนเอง แต่เธอก็ไม่ขัดขืนเพราะไม่อยากทำให้ทุกคนลำบากใจ โดยเฉพาะสามีของเธอทุกวันถังลู่เหมยจะทำอาหารให้ทุกคนในบ้านกิน และนั่งฟังแม่สามีเล่าเรื่องต่างๆ ในปักกิ่งให้ฟัง ป่ายหลานสอนมารยาทการเข้าสังคมให้เธออย่างใส่ใจ ซึ่งถังลู่เหมยก็ไม่ขัดอะไรเพราะเห็นสีหน้าของแม่สามีดูมีความสุขที่ได้สอนและจับเธอแต่งตัว“อาเหมยอีกสามวันจะมีงานสังคม โดยตระกูลฉินเป็นประธาน เธอเตรียมตัวด้วยนะ แม่จะพาอาเหมยออกงานอย่างเป็นทางการ” ป๋ายหลานเดินมาบอกลูกสะใภ้ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องโถง ถึงเรื่องที่ตระกูลฉินจะเป็นประธานในงานเลี้ยงสมาคมการค้าในครั้งนี้ และเธอตั้งใจให้สะใภ้ได้ไปร่วมงานด้วย หลายวันมานี้เธอยอมรับสะใภ้คนนี้ได้อย่างเต็มหัวใจแล้ว ถังลู่เหมยได้ยินอย่างนั้นก็อมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจเพราะนี่คือการยอมรั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status