“ท่านแม่ ท่านพูดอะไรกัน?”เจี่ยเยว่อิงทำสีหน้าท่าทางเหมือนคนอาบน้ำร้อนมาก่อน เอ่ยว่า “เจ้ายังไม่ได้แต่งงาน ย่อมไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีพอ แต่แม่อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมรู้ความสำคัญของเรื่องนี้ดี”“ก็ยกเรื่องสะใภ้ใหญ่ตระกูลซ่งอย่างลั่วชิงอินเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน ตอนนั้นหมอบอกว่านางไม่อาจมีบุตรได้ แต่ตระกูลซ่งก็ไม่ถือสาอะไร ซ่งเยี่ยนนโจวยังรับปากว่าจะไม่มีวันรับอนุภรรยา อย่างมากก็แค่รับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงเท่านั้น”“ครอบครัวเช่นนี้ หาได้ยากนัก!”“เรื่องนี้ข้าเองก็เคยได้ยินมาก่อน ตอนนั้นผู้คนต่างพาพูดกันว่าคุณชายใหญ่ซ่งและคุณหนูลั่วช่างเป็นคู่ที่รักกันแต่กลับมีอุปสรรคมากมาย โชคดีที่ในที่สุดก็ได้ครองคู่กัน” “ตอนนั้นข้าคิดว่าคุณชายใหญ่ซ่งทำผิดต่อแม่นางลั่ว แต่อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบคนหนึ่ง ได้ยินมาว่าหลังแต่งงานทั้งคู่รักใคร่กันดี ตอนนี้ก็มีลูกแล้วด้วย!”“พระชายาฉู่อ๋องเป็นถึงหมอเทวดา ข้าได้ยินมาว่าเดิมทีลั่วชิงอินก็ร่างกายอ่อนแอ โชคดีที่ได้พระชายาฉู่อ๋อง อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายถึงได้ตั้งครรภ์”เจี่ยเยว่อิงยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตระกูลซ่งคือว่าที่ญาติที่ดีอย่าง
“ตอนนั้นข้าดื่มเหล้ามากไป เจ้าเองก็รู้จักเหล่าหู เขาบอกว่าซื้อเหล้าดีมา ยืนกรานให้ข้านำติดตัวมาสองสามไห” “ข้าลองชิมแล้วก็เห็นว่าเป็นสุราทิพย์อย่างแท้จริง จึงให้คนไปหยิบมา ส่วนข้าก็ออกไปทำธุระส่วนตัว ปรากฏว่าไม่ทันระวังจึงสะดุดล้มตกแม่น้ำเสียได้”ขณะกงชินอ๋องกำลังพูดก็เผยสีหน้าเก้อกระดากอยู่บ้าง “ฮูหยิน ภายภาคหน้าข้าจะให้คนคอยติดตามข้าอย่างแน่นอน”“ถ้าอย่างนั้น เหตุใดคุณชายฉิวคนนั้นจึงไปโผล่อยู่ในจวนท่านลุงหูได้? พวกท่านเชิญเขาไปหรือ?” ฉู่ชิงหลีถามด้วยสีหน้าจริงจัง นางรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แทนที่จะสงสัยว่าคุณชายซ่งช่วยนางเป็นการจัดฉาก นางกลับคิดว่าคุณชายฉิวคนนั้นน่าสงสัยเสียยิ่งกว่า“ข้าถามเหล่าหูแล้ว เขาบอกว่านั่นคือหลานชายของเขา ก่อนหน้านี้รู้จักกันตอนเล่นหมากรุก ชื่นชมเขาอย่างมาก จึงให้พักอยู่ภายในจวนสองสามวัน” “ข้าจึงได้พูดคุยกับเขาอยู่สองสามประโยค พบว่าเป็นคนมีวาจาสุภาพอ่อนโยน มีความรู้ความสามารถ เพียงแต่เพราะเขาเป็นลูกอนุ จึงไม่ค่อยเป็นที่โปรดปรานในจวนหย่งอันโหว” “ครั้งนี้ที่มาพักในจวนเหล่าหู ก็เพราะมีเรื่องขัดแย้งกับบุตรสายตรง”กงชินอ๋องย่อมรู้เรื่องการแก่งแ
เจี่ยเยว่อิงโบกมือ ภายในใจเกิดโทสะคุกรุ่น “ดูสิว่าท่านทำเรื่องอะไรกันแน่! เรื่องใหญ่อย่างการหมั้นหมายนี้ ต่อให้ท่านจะเห็นว่าฝ่ายนั้นเหมาะสม ก็ควรกลับมาปรึกษาพวกเราดี ๆ ก่อน!”“ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า จะปรึกษากันสักคำก็ไม่มี ท่านกลับตัดสินใจหมั้นหมายไปแล้ว ท่านเคยรู้หรือไม่ว่าคุณชายสามซ่งก็เคยช่วยชีวิตชิงหลีของพวกเราไว้ หนำซ้ำยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย!”นางตั้งใจไปสอบถามพวกสาวใช้ จึงได้รู้ว่าชิงหลีเคยถูกดูหมิ่นเพียงใด และคุณชายสามซ่งปกป้องนางเช่นไรผู้ที่ทั้งซื่อสัตย์และจริงใจเช่นนี้ ถึงจะปกป้องชิงหลีอย่างจริงใจ!“ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ? ใช่หรือไม่ว่าเจ้าเด็กนั่นจัดฉากขึ้นเอง?”กงชินอ๋องขมวดคิ้ว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าฮูหยินของตนเป็นอะไรไป แต่ก่อนนางคอยย้ำอยู่เสมอว่าจะต้องใส่ใจเรื่องงานแต่งของชิงหลี ต้องหาคู่ครองที่เหมาะสมให้นางบัดนี้เขาเจอคนที่เห็นว่าเหมาะสมแล้ว ฮูหยินกลับไม่พอใจ“ก่อนหน้านี้เด็กชั่วเหล่านั้นก็เคยทำเรื่องพรรค์นี้ เจ้าเองก็รู้ อย่าได้หลงเชื่อง่าย ๆ!” กงชินอ๋องเอ่ยเสียงขรึม“ท่านพ่อ คุณชายซ่งไม่ใช่คนเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากครั้งแรกที่เขาช่วยข้าไว้ เขายังไม
ทันทีที่เสียงของกงชินอ๋อง ใบหน้าของเจี่ยเยว่อิงกับบุตรีสองก็เปี่ยมไปด้วยความตกตะลึง“กำหนดงานแต่งแล้วหรือ?” เจี่ยเยว่อิงตกใจ “ท่านอ๋อง อย่าบอกนะว่าวันนี้ท่านไปเจอแม่ทัพซ่งเข้า?”วันนี้นางเพิ่งนัดกับซ่งฮูหยินไว้ พอท่านอ๋องกลับมา นางก็จะพูดเรื่องหมั้นหมายให้เรียบร้อย แล้วพากันนัดวันสู่ขอให้เสร็จสรรพเดิมทีเมื่อวานนางก็อยากจะบอกท่านอ๋องเรื่องนี้แล้ว แต่ยังไม่ต้องพูดว่าเมื่อวานเขาไปเป็นแขก แต่ยังพักค้างแรมอีกหนึ่งคืน วันนี้เพิ่งจะกลับมากงชินอ๋องเผยสีหน้ามึนงง “แม่ทัพซ่งอะไร?”ฉู่ชิงหลีเห็นสีหน้าเหมือนรำคาญของบิดา ภายในใจนางก็เต้นระรัวขึ้นมาทันที รู้สึกว่าเรื่องราวชักจะไม่เหมือนที่คิดไว้เสียแล้ว หรือจะเกิดเรื่องพลิกผันขึ้นมา?“ก็แม่ทัพซ่งซ่งหลินน่ะสิ! สองวันนี้ข้าได้พบซ่งฮูหยินแล้ว คุณชายสามของตระกูลซ่งกับชิงหลีของเราเหมาะสมกันที่สุดแล้ว!” เจี่ยเยว่อิงร้อนใจเอ่ยออกมาคราวนี้ถึงตากงชินอ๋องเป็นฝ่ายตะลึงบ้าง “ข้าไม่รู้เรื่องนี้เลย ข้าพูดถึงเรื่องหมั้นหมาย นั่นคือหมั้นหมายกับจวนหย่งอันโหวต่างหาก”คำพูดนี้ ไม่เพียงแต่ฉู่ชิงหลี แม้แต่ฉู่อิ้งเมิ่งก็ร้อนใจ“ท่านพ่อ ออกไปเพียงเที่ยวเดียว
ทว่าตอนเช้านางยังไม่ทันได้บอกมารดา นางก็ออกจากจวนไปก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงกลับมา มารดาก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเสียแล้ว?เจี่ยเยว่อิงเห็นบุตรีของตนไม่พูดอะไร นึกว่านางอายจึงกล่าวต่อว่า“สองวันนี้แม่สืบข่าวละเอียดแล้ว คุณชายสามตระกูลซ่งเป็นคนมีคุณธรรม หน้าตาก็ดี ชาติกำเนิดก็ดียิ่ง” “ข้ายังได้ยินมาว่าองค์หญิงหกชอบคุณชายสี่ซ่ง นางเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า หากภายภาคหน้าพวกเจ้ากลายเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กันก็คงได้ดูแลกัน”สองปีมานี้ แม่กับพ่อเจ้ามองหาคู่ครองให้เจ้ามาโดยตลอด มีเพียงคุณชายสามซ่งนี่แหละที่แม่เห็นว่าดีที่สุด หนำซ้ำข้าได้พบกับซ่งฮูหยิน นางก็ยืนยันว่าที่บ้านไม่เคยถือสาอดีตของเจ้าเลย”เจี่ยเยว่อิงพูดไปก็ยิ่งตื่นเต้น “ที่สำคัญที่สุดคือพระชายาฉู่อ๋องบอกเองว่าเจ้ามิได้มีดวงกินผัว เดิมทีแม่ตั้งใจว่าจะให้พระชายาฉู่อ๋องประกาศเรื่องนี้ให้ผู้คนรู้กันอย่างถ้วนทั่ว” “แต่พอคิดอีกที หากเจ้ากับคุณชายสามซ่งมีใจให้กันจริง ไม่สู้หมั้นหมายกันไว้ก่อน”“พอถึงวันแต่งงาน ข่าวลือพวกนั้นก็จะสลายไปเอง ผลลัพธ์ดีกว่าพวกเราพูดแก้ตัวเสียอีก”ใบหน้าที่งดงามของฉู่ชิงหลีค่อย ๆ เปล่งประกายขึ้น ดวงตาที่เคยหม่
“เรื่องของชิงหลี ข้าว่าเจ้าก็คงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว”“พูดไปแล้ว ตอนที่พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่กำหนดเรื่องหมั้นหมายให้นาง ก็คือทำร้ายนาง” พระชายากงชินอ๋องเอ่ยถึงเรื่องนี้ รู้สึกปวดใจขึ้นมา “หากเมื่อแรกไม่ได้หมั้นหมาย นางก็คงไม่ต้องทนทุกข์มากมายถึงเพียงนี้” “ตอนนี้ต้องแบกชื่อเสียงเสื่อมเสียเอาไว้ หากจะคิดแต่งงานอีกครั้ง พวกเจ้าก็ควรคิดให้รอบคอบเสียก่อน”กู้หรูเยียนรีบโบกมือ “พระชายากงชินอ๋อง เรื่องพวกนั้นเป็นเพียงคำเล่าลือไร้สาระของพวกคนแยกแยะไม่ออก ตระกูลซ่งพวกเรานั้นไม่เคยเชื่อข่าวพวกนี้เลย” “ชิงหลีเป็นเด็กดี หากเจ้าสามของข้าได้แต่งกับนาง นั่นถือเป็นวาสนาของเขา!”“พูดจริงหรือ?” พระชายากงชินอ๋องเผยสีหน้าจริงจัง “อันที่จริงหากพวกเจ้าถือสา อันที่จริงไม่จำเป็นต้องปิดบัง หาไม่แล้วจากญาติมิตรจะกลายเป็นศัตรู นั่นก็แย่แล้ว”“ทุกถ้อยคำของข้าล้วนเป็นความจริง” กู้หรูเยียนรีบรับรองทันที “ข้าไม่ใช่แม่สามีใจร้าย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราเองก็เป็นสตรี ย่อมเข้าว่าสตรีในยุคสมัยนี้ยากลำบากนัก ไฉนเลยจะไปสร้างความลำบากให้นางอีก?”“ซ่งจืออวี้เป็นเด็กซื่อตรงจริงใจ แม้จะนิสัยตรงไปตรงมา พูดจาไม่เก่งเหมือนบ