공유

ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
작가: จี้เวยเวย

บทที่ 1

작가: จี้เวยเวย
ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวง

เกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษ

แขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”

“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”

“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”

ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?

เกิดเหตุอันใดขึ้น?

ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?

“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”

เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอยู่หน้าประตูจวนโหว มีสายตาจับจ้องมากเพียงนี้ พวกเขาเข้าไปก็ไม่ใช่ ถอยหลังก็ไม่ใช่

ท่านโหว? ฉินซวงซวง? ภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน?

ซ่งรั่วเจินได้ยินชื่อคุ้นเคยเหล่านั้นรวมถึงฉากเบื้องหน้าแล้ว ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่านางที่เป็นเลิศทั้งแพทย์และพิษ เจ้าสำนักวิชาเต๋าทะลุมิติเข้ามาในนิยายแล้ว!

ทะลุมิติเข้ามาในนิยายกลับชาติมาเกิดสุดฟินที่ได้อ่านเมื่อหลายวันก่อนชื่อว่า ‘เกิดใหม่ครานี้กลายเป็นภรรยาสุดโปรดของท่านโหว’ บังเอิญเหมือนกับอดีตภรรยาที่ด่วนจากไปของพระเอกเหมือนนางทุกกระเบียดนิ้ว!

เพราะชื่อนี้ นางจึงตั้งใจอ่านมากเป็นพิเศษหลายรอบ คิดเพียงอดีตภรรยาด่วนจากไปคนนี้ช่างอาภัพนัก ลงทุนลงแรงมานานหลายปีเพื่อเย็บชุดเจ้าสาวให้คนอื่นได้ประโยชน์ไปเสียอย่างนั้น

พระเอกหลินจือเยว่มีคนรักในดวงใจที่มิอาจครองคู่ดุจแสงขาวของจันทรานามว่าฉินซวงซวง แต่ชาติก่อนฉินซวงซวงตามืดบอด ปล่อยคนที่รักนางด้วยใจจริงอย่างท่านโหว ไปไล่ตามองค์ชายสามผู้สูงศักดิ์อย่างฉู่จวินถิง จนกระทั่งต่อมาตระกูลตกอับ หลินจือเยว่กลับไม่ทอดทิ้งไม่หนีจาก ทั้งสองจึงได้อยู่ด้วยกัน

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉินซวงซวงตัดสินใจเลิกเดินทางอ้อม ตบแต่งกับหลินจือเยว่ตั้งแต่เริ่มต้น ชาตินี้อยู่ร่วมกับเขาดีๆ

เดิมทีเนื้อหานี้ก็ไม่มีอันใดไม่เหมาะสม แต่อดีตภรรยาที่ด่วนจากไปทะลุมิติมา นั่นก็แตกต่างออกไปแล้ว

หลังหลินจือเยว่ถูกฉินซวงซวงปฏิเสธ เสียใจสิ้นหวังขอขันอาสาไปออกรบที่ชายแดน ทิ้งซ่งรั่วเจินที่หมั้นหมายไว้แล้วอยู่ที่บ้านช่วยดูแลมารดาเฒ่า

ซ่งรั่วเจินหนักเอาเบาสู้ตามหาหมอมีชื่อเสียงมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าตลอดสองปี เห็นว่าจวนโหวตกอับ ก็ใช้ทรัพย์สินส่วนตนชดเชยเข้าไป เฝ้ารอหลินจือเยว่กลับมา

เดิมทีคิดว่าสมดั่งปรารถนาแล้ว ทว่ารอจนถึงวันแต่งงานอันน่าอับอาย นางก็บังเอิญทะลุมิติมาในตอนนี้พอดี!

“ชายหลายใจ ใจหนึ่งก็ต้องการอยู่ร่วมกับหญิงในดวงใจ อีกใจหนึ่งก็มิอาจหักใจในเงินทองของข้า?”

ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้ารังเกียจ นางยังไม่ทันทำอันใด ก็ได้ยินเสียงสาวใช้อีกคน

“คุณหนูต้องคิดให้ตกนะเจ้าคะ ชายใดจะรักษาตัวใช้ชีวิตกับฮูหยินเพียงคนเดียวกันเล่า? เกี้ยวล้วนหยุดหน้าประตูจวนโหวแล้ว หากเอาแต่ใจตอนนี้ โวยวายเอิกเกริกขึ้นมาก็จัดการไม่ง่ายแล้ว!”

“เพ่ยหลาน ไยเจ้าพูดเช่นนี้? แม้ภายภาคหน้าท่านโหวต้องการแต่งอนุ นั่นก็คืออนุ ไฉนเลยจะแต่งเข้ามาเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันได้ หากเล่าลือออกไปแล้วคุณหนูของพวกเราจะกลายเป็นอะไร?” เฉินเซียงพูดอย่างกรุ่นโกรธ

สายตาทอประกายของหลินจือเยว่มองคนรักของตนฉินซวงซวงในชุดแดงเข้มลงจากเกี้ยวเจ้าสาวโดยมีแม่สื่อช่วยประคอง เดินนวยนาดเข้ามาทางเขา ใบหน้าหล่อเหลาเผยความหวังและความสุขออกมาอย่างหาได้ยาก

เดิมทีคิดว่าชาตินี้ไม่อาจอยู่ร่วมกับฉินซวงซวงได้อีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าหลังกลับมาจะมีเรื่องตกตะลึงระคนดีใจเช่นนี้!

ในที่สุดเขาก็ได้ตบแต่งกับคนรักของตน!

“ซวงซวง”

สายตาเร่าร้อนของหลินจือเยว่ใกล้หลอมละลายฉินซวงซวงแล้ว

“ท่านโหว” สุ้มเสียงฉินซวงซวงนุ่มนวล ทั้งยังมีความสนิมสนม แม้ถูกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวบังไว้แต่ก็สามารถสัมผัสถึงความสุขได้

ขณะหลินจือเยว่เตรียมอุ้มฉินซวงซวงเข้าจวนโหว เสียงเอ่ยเตือนของผู้ติดตามก็ดังขึ้น “ท่านโหว แม่นางซ่งยังไม่ลงจากเกี้ยวขอรับ”

เมื่อได้ยิน หลินจือเยว่ถึงดึงสติกลับมาได้ สายตาทอดมองเกี้ยวอีกฝั่งหนึ่ง ขมวดคิ้วแน่น

“คุณหนูของเจ้าเป็นอันใด? หรือว่ายังต้องการให้ข้าไปเชิญนางลงจากเกี้ยว?”

“ท่านโหว คุณหนูของข้าและท่านหมั้นหมายกันไว้ก่อนแต่แรก ก่อนนี้ท่านไม่เคยพูดว่าจะตบแต่งภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน วันนี้เกี้ยวสองหลังผ่านเข้าประตูพร้อมกัน ท่านจะให้คุณหนูของข้าไปอยู่ที่ใด?”

เฉินเซียงถามไล่เรียง คุณหนูของตนอ่อนโยนมีเมตตา จัดการดูแลเรือนได้เป็นอย่างดี รอการกลับมาของท่านโหวนานถึงสองปี ผ่านช่วงเวลาเบ่งบานมาจนถึงตอนนี้!

บัดนี้ท่านโหวกลับมาแล้วถึงขั้นทำร้ายคุณหนูเพียงนี้ จะให้นางทนอย่างไรไหว?

สีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึง “รั่วเจิน เจ้าอบรมบ่าวรับใช้เช่นนี้หรือ? ไม่รู้กฎระเบียบแม้แต่น้อย!”

“ใครไม่รู้กฎระเบียบกันแน่?” ซ่งรั่วเจินเปิดผ้าเดินลงไป “หลินจือเยว่ ท่านรังแกข้าก่อน ต่อมาก็หมิ่นแคลนข้าอีก บัดนี้ยังมีหน้ามาอบรมสาวใช้ของข้า ท่านกล้าดีอย่างไร?”

“รั่วเจิน วันนี้แขกเหรื่อมากมายเพียงนี้ เจ้าอย่าเลอะเลือนเป็นอันขาด!” หลินจือเยว่กล่าวเตือนเสียงแหบเบา “ซวงซวงคือภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน หลังแต่งเข้ามาแล้วขอเพียงเจ้ายินดีอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง ข้าไม่มีวันทำไม่ดีต่อเจ้า”

“ไม่จำเป็นแล้ว”

ซ่งรั่วเจินยกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้น ช้อนตามองชายที่เจ้าของร่างเดิมมอบทุกอย่างให้ สายตาสะท้อนไอเย็น

“งานแต่งวันนี้ ก็ให้จบลงเช่นนี้เถอะ!”

เสียงเยียบเย็นใสกังวานของฝ่ายหญิงดังขึ้น คล้ายน้ำพุเย็นสายหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศอึกทึกครึกครื้น ทำให้ทุกคนเงียบลง

“เจ้าพูดอะไร?” หลินจือเยว่จับข้อมือซ่งรั่วเจิน สายตาเย็นชาปานน้ำค้างแข็ง “ในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าต้องเอาแต่ใจให้ได้ ต้องโวยวายให้ทุกคนหลีกทางให้ จึงจะทำให้เจ้าดีใจกระนั้นหรือ?”

ซังรั่วเจินมีจิตปฏิพัทธ์ต่อเขา เขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว

หากถอนหมั้น ชื่อเสียงซ่งรั่วเจินต้องเสียหาย ยังไม่ต้องพูดว่าเขาทำให้ซ่งรั่วเจินเสียเวลาไปสองปี นางผ่านช่วงวัยอันดีในการแต่งงานไปตั้งแต่แรกแล้ว

คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ว่าภายในใจนางมีเพียงเขา หากถอนหมั้น ยังมีใครต้องการแต่งกับนางอีกเล่า?

นี่ก็คือสาเหตุที่เขาไม่บอกกล่าวและรับภรรยาหลวงลำดับเดียวกันโดยตรง เขาไม่อยากทำให้ซวงซวงเสียใจ มิหนำซ้ำยังมั่นใจว่าซ่งรั่วเจินทำได้เพียงยอมกล้ำกลืนฝืนตกลง

ทว่า สถานการณ์คล้ายอยู่เหนือความคาดหมายของเขาอยู่บ้าง?

“หลินจือเยว่ ท่านมีศักดิ์ศรีสักหน่อยได้หรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินสะบัดมือฝ่ายชายออก ใบหน้างดงามโดดเด่นเปี่ยมความรังเกียจ

“สองปีก่อนหลังพวกเราหมั้นหมายแล้ว ยังไม่ทันแต่งงานท่านก็ไปออกรบ ก่อนจากไปยังพูดว่าไม่อยากทำให้ข้าเสียใจ ดังนั้นต้องการตบแต่งข้าอย่างผ่าเผยหลังทำความดีความชอบคว้าชัยชนะกลับมาได้ มิหนำซ้ำยังมอบจวนโหวอันยุ่งเหยิงวุ่นวายและฮูหยินผู้เฒ่าให้ข้าดูแล”

“ข้าเห็นแก่สัญญาหมั้นหมายจึงดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ตามหาหมอที่มีชื่อเสียง ใช้ยาล้ำค่าหายากไม่รู้กี่มากน้อยรักษาชีวิตฮูหยินผู้เฒ่าไว้ ยังไม่ต้องพูดว่าก่อนท่านออกจากจวนโหวก็นำเงินทั้งหมดติดตัวไปด้วย”

“แม้แต่ตอนที่อยู่ชายแดนสองปีนี้ ยังเขียนจดหมายมาขอเงินจากข้าเป็นครั้งคราว ข้าใช้ทรัพย์สมบัติตนเองชดเชยให้ท่าน คิดว่าท่านกลับมาแล้วจะต้องปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเป็นแน่”

“ผลปรากฏว่า...ตบแต่งภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ใช้เงินข้าสู่ขอหญิงอื่นเข้าบ้าน นี่คือการที่ท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างดีกระนั้นหรือ?”

“หลินจือเยว่ ท่านยังมีศักดิ์ศรีอยู่หรือไม่?”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
BoOm
จะตามอ่านจนถึงตอนจบ
댓글 모두 보기

최신 챕터

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1354

    “ตอนนั้นข้าได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ เกือบทะเลาะต่อยตีกับสวีปินคนนั้น แต่ฟ่านหัวหรงห้ามไว้”สีหน้าคุณชายใหญ่สกุลลู่เคร่งขรึมลงไป “มิน่าเล่า คนดีย่อมคบคนดี คนชั่วย่อมคบคนชั่ว คบหากับคนชั่วกลุ่มนี้ เขาจะดีได้อย่างไร?”“เมื่อแรกเจ้าสมควรต่อยตีพวกเขาแรงๆ สักที หลังกลับมาแล้วก็แจ้งพวกเรา สวีปินไอ้ชั่วคนนั้นข้าเองก็รู้จัก ไม่ใช่คนดีอะไร!”ลู่เป่ยชวนพยักหน้า บัดนี้เขานึกเสียใจภายหลังหากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ เมื่อแรกก็ควรให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ เอ่ยเตือนพี่หญิงไม่ให้ฟ่านหัวหรงไปอยู่รวมกับคนชั่วเหล่านี้ นี่ก็เกิดเรื่องไม่ผิดไปดังคาดทุกคนได้เห็นฟ่านหัวหรงรีบเข้ามาอย่างว่องไวฟ่านหัวหรงคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงมาถึงก็จะได้พบการต้อนรับยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความกังวลทวีคูณยิ่งขึ้น“หัวหรงคารวะท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่”ใต้เท้าลู่มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาแวบหนึ่ง ภายในสายตาเปี่ยมความเยาะหยัน “ฟ่านโหวงานยุ่ง ถึงขั้นมีเวลามาที่สกุลลู่ของพวกเรากระนั้นรึ?”“ท่านพ่อ ลูกเขยไม่เข้าใจความนัยของท่าน”ฟ่านหัวหรงเผยสีหน้าจริงใจ “ลูกเขยได้รับคำสั่งให้ไปทำธุระที่คูเมืองอื่น วันนี้เพิ่งกลับถึงเมืองหลวง ได้ยิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1353

    “ไอ้สารเลวคนนั้นถึงขั้นกล้ามา?”ใต้เท้าลู่ได้ยินข่าวการมาของฟ่านหัวหรงแล้ว สีหน้าเย็นชาลงไป“มาแล้วก็ดี ประเดี๋ยวฉิงเสวี่ยเห็นแล้วเขาจะไม่สบอารมณ์ ไม่สู้รีบตัดให้ขาดไป ให้เขาเขียนหนังสือหย่า แยกย้ายจากไปด้วยดี!”ลู่ฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วย “ก่อนหน้านี้สาบานต่อหน้าพวกเรา จะดีต่อฉิงเสวี่ย ปรากฏว่าลับหลังกลับทำเรื่องพรรค์นี้ นางแพศยาคนนั้นตั้งครรภ์ลูกของเขาแล้ว ยังคิดจะหลอกฉิงเสวี่ยไปตลอด!”“ข้ารู้สึกไม่คุ้มค่าแทนฉิงเสวี่ยจริงๆ เมื่อแรกทั้งๆ ที่เลือกคุณชายน้อยสกุลต้วนไว้ให้ฉิงเสวี่ย แต่เขาตามตอแยไม่เลิกรา”“แต่งงานได้เพียงไม่นานก็เลิกทะนุถนอมแล้ว คำพูดของผู้ชายไม่น่าเชื่อถือจริงๆ!”เพียงสิ้นเสียงของลู่ฮูหยิน ใต้เท้าลู่และลูกชายสองสามคนของสกุลลู่ต่างมองหน้ากัน ครู่ต่อมาอยากอธิบาย แต่นึกถึงอารมณ์ของลู่ฮูหยิน แต่ละคนล้วนเลือกจะเงียบปากลง“เพราะฉิงเสวี่ยไม่ตั้งครรภ์มาโดยตลอด จึงรู้สึกผิดต่อเขาอยู่ในใจ เพื่อรักษาอาการป่วย แต่ไหนแต่ไรมาไม่รู้นางกินน้ำแกงยาไปมากน้อยเพียงใด”“ข้าที่เป็นแม่ล้วนเห็นอยู่ในสายตา ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกฉิงเสวี่ยรู้สึกผิดต่อเขา ยังคิดเสนอให้เขารับอนุจิตใจดีมาคนหนึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1352

    “เกิดเรื่องใดขึ้น?” ฟ่านหัวหรงขมวดคิ้วเอ่ยถาม“ท่านโหว ฮูหยินแท้งขอรับ”ฟ่านหัวหรงเบิกตากว้าง ใบหน้าเปี่ยมความเหลือจะเชื่อ “อะไรนะ?”“เมื่อหลายวันก่อนตอนฮูหยินไปเดินเล่นกับฮูหยินน้อยสกุลเมิ่งไม่ทันระวังลื่นตกบันได ตอนนั้นสกุลลู่เชิญหมอหลวงมา ทุ่มเทไปไม่น้อยถึงสามารถรักษาเด็กเอาไว้ได้”“คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ วันนี้ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง หมอหลวงรับมือไม่ทัน ไม่อาจรักษาเด็กเอาไว้ได้ขอรับ”พ่อบ้านเผยสีหน้าเจ็บปวดระคนเสียดาย เขารู้ท่านโหวและฮูหยินเฝ้ารอลูกคนนี้มากเพียงใดแต่งงานกันมาหลายปีในที่สุดก็ท้องแล้ว กลับตายไปเช่นนี้ ใครจะสามารถยอมรับได้เล่า?“ฮูหยินตั้งครรภ์ตั้งแต่ยามใด?”ฟ่านหัวหรงตึงเครียดขึ้นมา ต่อให้เขาจากไประยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงครึ่งเดือน เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินฉิงเสวี่ยพูดเรื่องตั้งครรภ์เลยเล่า?“ฮูหยินตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว ท่านโหวไม่รู้หรือขอรับ?”คราวนี้คนงุนงงกลับกลายเป็นพ่อบ้าน ก่อนหน้านี้ทั้งๆ ที่ฮูหยินเชิญหมอมาตรวจแล้ว เพราะคนไม่ค่อยสบาย ไม่อยากอาหารมาโดยตลอดจนกระทั่งได้ยินว่ามีข่าวดี ฮูหยินดีใจอย่างมาก ต่อมาฮูหยินตั้งใจสั่งคนเตรียมมื้อเย็นอู้ฟู่ อีกทั้งยัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1351

    ภายในสายตาชุยอิงเอ๋อร์สะท้อนไอแค้น นางไม่รู้ว่าลู่ฉิงเสวี่ยคนนั้นมีดีอันใด ก็แค่ชาติกำเนิดสูงศักดิ์อยู่บ้างไม่ใช่หรือ?เว้นเสียแต่เรื่องนี้ นางไม่มีแม้แต่ความใจกว้างอันเป็นพื้นฐานของนายหญิง ทั้งๆ ที่แต่งงานกันมาหลายปีแล้วกลับยังไม่อาจตั้งครรภ์ ยังขอให้หัวหรงครองคู่กับนางไปชั่วชีวิตอีกด้วยหญิงริษยาเช่นนี้ควรถูกหย่า แต่หัวหรงกลับปกป้องนางอยู่ตลอดทว่า...ต่อให้ปกป้องลู่ฉิงเสวี่ยแล้วอย่างไร?ตอนนี้นางตั้งครรภ์เลือดเนื้อของฟ่านหัวหรง รอเด็กคนนี้คลอดออกมา นางไม่เชื่อหรอกว่าตนเองจะเข้าประตูใหญ่ของสกุลฟ่านไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ฟ่านหัวหรงคิดว่าเขาปกปิดไว้ดีมากแล้ว แท้จริงแล้วลู่ฉิงเสวี่ยรับรู้การมีตัวตนของนางตั้งนานแล้วหญิงคนนั้นภายนอกสง่างาม ท่าทางสูงศักดิ์และไม่ต่อสู้แย่งชิง ไม่รู้ว่าบัดนี้หลบไปร้องไห้จนกลายเป็นเช่นไรแล้ว!ถึงตอนนั้นลูกของนางสืบทอดกิจการของสกุลฟ่าน ต่อให้นางเข้าบ้านได้เป็นเพียงอนุ แต่ด้วยฝีมือของนาง จะต้องสง่างามยิ่งกว่านายหญิงที่ไม่อาจคลอดลูกได้อย่างนางแน่!คิดได้ดังนี้ ชุยอิงเอ๋อร์หัวเราะออกมา ยกมือโอบคอของฟ่านหัวหรง เป็นฝ่ายมอบริมฝีปากหอมให้“ขอเพียงภายในใจท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1350

    จากนั้นฮูหยินผู้เฒ่าลู่ ลู่ฮูหยินไปจนถึงลู่ฉิงเสวี่ยได้รู้ข่าวนี้ ภายในใจรู้สึกตกตะลึง“พวกเขาถึงขั้นกลับมาแล้ว?” ลู่ฮูหยินหรี่ตาลง พูดด้วยความโมโห “วันนี้ข้าจะหักขาไอ้สารเลวคนนั้น!”“เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม ฟังความเห็นของฉิงเสวี่ยก่อน”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่เห็นท่าทางโมโหจะไปตีคนด้วยตนเองของลูกสะใภ้ ภายในสายตาสะท้อนความระอาลูกสะใภ้คนนี้ดีไปหมดทุกอย่าง ก็แค่วู่วาม ต่อให้เป็นนายหญิงสกุลลู่มาหลายปีเพียงนี้ อุปนิสัยกลับไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดลู่ฮูหยินหันหน้ามองทางลู่ฉิงเสวี่ยแล้วถามว่า “ฉิงเสวี่ย เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าอยากฉวยโอกาสในวันนี้หย่ากับพวกเขา ให้ทุกคนช่วยข้าปิดบังข่าวลูกในท้อง ให้เขาคิดว่าไม่มีเด็กคนนี้เจ้าค่ะ”สีหน้าลู่ฉิงเสวี่ยเผือดซีด สายตากลับมุ่งมั่น นางไม่อยากอดทนอีกต่อไปแล้วอันที่จริงนับตั้งแต่ได้รู้ว่าถูกหักหลัง นางก็ไม่เคยคิดจะกลับมาคืนดีกัน เพียงแต่เพราะความรู้สึกผูกพันตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่อาจตัดขาดได้ในทันทีดังนั้นนางจึงใช้เวลาระยะหนึ่ง มองดูเขาหลอกตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองดูฟ่านหัวหรงคอยตีสองหน้าอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสอง ในที่สุดตอนนี้นางก็ตัดใจได้อย่างสมบูรณ์แล้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1349

    ลู่เป่ยชวนดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปของมารดาตน รู้สึกเอือมระอาอย่างอดไม่ได้เขาคุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้ของมารดาตนแล้ว แต่พี่สะใภ้อาจยังไม่คุ้นชินกระมังจากนั้น ซ่งรั่วเจินกลับพูดราวกับมีศัตรูคนเดียวกันก็มิปาน “ท่านป้า ข้าคิดว่าท่านพูดถูกแล้ว ชายใจทรามลืมบุญคุณคนพรรค์นี้ สมควรสั่งสอนดีๆ จะปล่อยให้เขามีจุดจบที่ดีไม่ได้เป็นอันขาดเจ้าค่ะ!”“หากไม่ใช่เพราะเขา ญาติผู้พี่ก็ไม่ต้องลำบาก เขาไม่เพียงหลอกญาติผู้พี่ ยังทำผิดต่อความเชื่อใจที่พวกท่านมอบให้เขาอีกด้วยเจ้าค่ะ”“ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเสด็จพ่อให้เขาออกไปทำงานราชการ เขากลับพาสาวงามไปด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าทำงานหรือเป็นคนดีก็ทำไม่ได้!”ลู่ฮูหยินคิดไม่ถึงเลยว่าซ่งรั่วเจินจะพูดจาเช่นนี้ ตอนแรกชะงักไป ต่อมาใบหน้าเผยรอยยิ้ม“เจินเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ป้าได้พบเจ้าไม่บ่อยนัก คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นแม่นางฉลาดมากคนหนึ่ง”“ครั้งนี้ขอบคุณเจ้าที่ช่วยญาติผู้พี่เจ้า ข้าไม่รู้จะตอบแทนเจ้าเช่นไร พอดีสองวันนี้ข้าได้โสมร้อยปีมา เจ้าเอากลับไปบำรุงร่างกายดีๆ เถอะ”ลู่ฮูหยินคิดว่าเมื่อครู่เห็นซ่งรั่วเจินรักษาอาการป่วยให้ฉิงเสวี่ย สีหน้ากลายเป็นขาวซีด มองออกว่าเสีย

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status