นางบังเอิญได้รับข่าวในตอนนี้พอดี พูดว่าฉินซวงซวงขลุกอยู่กับชายอื่นภายในเรือนหลังนี้คิดไปคิดมา นางยังปิดบังหลินจือเยว่เอาไว้ ตนเองลอบเดินทางมายามเอ่ยถามย่อมไม่กล้าพูดว่ามาหาสะใภ้บ้านตน เพียงแต่งชื่อขึ้นมา หากไม่ใช่เรื่องจริงก็ช่างเถอะ หากเป็นเรื่องจริง...นั่นถึงแก่ชีวิตเชียวนะ!“ข้าพูดแล้วฮูหยินผู้เฒ่านี่คือที่พักของคุณชายพวกเรา ใช่ว่าท่านอยากดูก็สามารถดูได้?”“รีบไปเถอะ ที่ใดเย็นก็ไปที่นั่น หาไม่แล้วอย่าโทษข้าไม่เกรงใจ!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินถูกผลักทีหนึ่ง ล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันระวัง ทันใดนั้นร้องโอดครวญขึ้นมายามซ่งจืออวี้มาถึงก็มองเห็นฉากนี้ ตวาดเสียงเปี่ยมโทสะ “พวกเจ้านี่ทำอันใด? รู้หรือไม่ว่านี่คือฮูหยินผู้เฒ่าหลิน?”“เปิดประตูให้ข้า ข้าอยากเห็นนักว่าคุณชายบ้านใดโอหังเพียงนี้!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินมองซ่งจืออวี้อย่างแปลกใจ ต้องพูดว่าเมื่อสองวันก่อนนางรู้จักซ่งจืออวี้ดีแม้เด็กคนนี้ร่างกายกำยำแข็งแรง แต่เป็นคนเอ็นดูน้องสาวมากคนหนึ่ง ก่อนนี้เคยช่วยซ่งรั่วเจินวิ่งไปวิ่งมา ส่งของมาที่จวนไม่น้อย เกรงใจนางมากทว่าบัดนี้สองตระกูลถอนหมั้นแล้ว คิดไม่ถึงซ่งจืออวี้ถึงขั้นช่วยนางภายใต้สถา
หลังฉินซวงซวงตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองกำลังอิงแอบอยู่ภายในอ้อมกอดของบุรุษ รู้สึกหวานล้ำขึ้นภายในใจระลอกหนึ่งทันใดนั้นนางคิดว่าสวรรค์ให้นางกลับมาเกิดใหม่ แท้จริงแล้วมิใช่เพื่อให้เดินบนทางสายเดิม แต่เพื่อทำให้นางได้อยู่ร่วมกับฉู่อ๋องใหม่อีกครั้ง!ทว่านางคิดไม่ถึง นี่ผิดพลาดไปแล้ว!“ท่านอ๋อง สีท้องฟ้าไม่เช้าแล้ว สมควรตื่นได้แล้วเพคะ”สุ้มเสียงฉินซวงซวงแผ่วเบาดุจผ้าไหม ยังเจือกลิ่นอายออดอ้อน นึกลังเลอยู่ภายในใจ ตกลงท่านอ๋องรู้หรือไม่ว่านางคือฉินซวงซวง มิใช่ซ่งรั่วเจินเหยาจิ่นเฉิงได้ยินเสียงก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เสียงของซ่งรั่วเจินคล้ายไม่ใช่แบบนี้...ต่อมาเขาก็ได้ยินเสียงแผดร้องของฝ่ายหญิง ก้มลงมองก็พบใบหน้าที่คาดไม่ถึง“เหตุใดเป็นเจ้า!”ดวงตาฉินซวงซวงเบิกกว้างอย่างตกตะลึงหวาดกลัว ทั้งๆ ที่คนเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกับนางตลอดคืนคือฉู่อ๋อง เหตุใดเป็นคนตรงหน้าได้เล่า?เหยาจิ่นเฉิงมีสีหน้าตกตะลึง เขาก็พูดแล้วเหตุใดเมื่อวานรู้สึกไม่ชอบมาพากล ที่แท้ก็ไม่ใช่ซ่งรั่วเจินตั้งแต่แรก!ซ่งจืออวี้บุกเข้ามาภายในเรือนได้อย่างราบรื่น เดิมทีก็ไม่ใส่ใจบ่าวรับใช้สกุลเหยาที่กำลังขัดขวาง“คุณชายซ่ง ท่านไม่
เดิมทีเรือนหลังนี้ก็เป็นเหยาจิ่นเฉิงซื้อไว้เพื่อนัดพบกับสตรีอย่างเป็นความลับ วันปกติมิได้จัดคนไว้มากนัก ไฉนเลยจะสามารถขวางคนหนึ่งกลุ่มที่ซ่งจืออวี้พามาได้?ฮูหยินผู้เฒ่าหลินโมโหหนักหันมองทางเหยาจิ่นเฉิง “เจ้าคนไร้ยางอายคนนี้หน้าตาก็เหมือนสุนัข สตรีบนโลกนี้ยังมิได้ตายไปจนหมดเสียหน่อย เหตุใดเจ้าถึงยั่วยวนหญิงมีสามีแล้วกันเล่า?”เห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลินจะตีตน เหยาจิ่นเฉิงพลิกมือผลักทีหนึ่ง ทำให้คนล้มลงกับพื้น“โอ๊ย!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินร้องโอดครวญออกมา นั่งบนพื้นลุกไม่ขึ้น“สวรรค์ไม่ยุติธรรม ตกลงพวกเราสกุลหลินทำบาปกรรมอันใด ถึงขั้นพบเรื่องโชคร้ายเช่นนี้!”“เหยาจิ่นเฉิง เจ้าคนไม่สำรวมตนไร้ยางอายคนนี้ ยั่วยวนฉินซวงซวง นางคือหญิงมีสามีนะ!”“ฮูหยินผู้เฒ่าหลินมาจับชู้ด้วยตนเอง เจ้ายังคิดฆ่าคนปิดปากกลบเกลื่อนความจริงด้วยหรือนี่?”ซ่งจืออวี้สังเกตเห็นว่าคนสกุลลั่วตามเข้ามาจากทางข้างหลังแล้ว รู้สึกแปลกใจขึ้นมาระลอกหนึ่ง ร้องตะโกนเสียงดังโดยไม่สนใจอื่นใดอีก ต้องทำให้คนสกุลลั่วได้ยินอย่างชัดเจน!ยามลั่วหวยเฉิงและลั่วหวยหลี่มาถึงก็ได้ยินเสียงเปี่ยมโทสะของซ่งจืออวี้แล้ว ภายในใจเปี่ยมความรู้สึก
สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าหลินไม่สบอารมณ์มาก หลังหลินจือเยว่เสียตำแหน่งขุนนางไป มากน้อยอย่างไรคนก็เห็นเป็นเรื่องตลกหากตอนนี้มีข่าวว่าฉินซวงซวงลอบคนชู้สู่ชาย จือเยว่ก็ไม่ต้องเป็นคนแล้ว ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้อีกภายในเมืองหลวง“เจ้า เจ้าก็คือคนไร้ยางอาย! ไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินโมโหมือสั่น กลับรู้สึกจนใจมากนางไม่สามารถแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปได้จริง หาไม่แล้วสกุลหลินยังจะมีที่ยืนภายในเมืองหลวงอยู่อีกหรือ“ได้ ข้าจัดการเจ้าไม่ได้ ข้าก็จะจัดการนังแพศยาไม่สำรวมตนคนนี้!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินลากฉินซวงซวงลากจากเตียง ตบแรงๆ บนตัวนาง“เจ้านางแพศยาไม่สำรวมตน ก่อนนี้ข้าก็มองออกว่าเจ้ามิใช่ของดีอะไร!”“ยังไม่หมั้นหมายก็วิ่งไปยั่วยวนจือเยว่ที่ชายแดน หุงข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุก บังคับจือเยว่ให้แต่งงานรับเจ้าเข้าบ้าน ยกเลิกงานแต่งสกุลซ่งที่ดีเพียงนี้!”“บัดนี้เจ้ายังไม่สำรวมตน คบชู้กับชายอื่น เหตุใดเจ้าไม่ไปตายเสียเลย!”นางแค้นที่ไม่สามารถฆ่าฉินซวงซวงได้!เรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ ยังต้องกัดฟันกลืนเลือดลงไป ไม่สามารถแพร่งพรายออกไปได้ ภายในใจจะโกรธแค้นมากเพียงใด?ลั่วหวยเฉิงและลั่วห
“ข้าว่านะ คุณชายใหญ่ตระกูลซ่งเปิดเผยตรงไปตรงมา สองขายังพิการเพราะไปออกรบ ไม่เคยได้ยินว่าเขารังแกใครมาก่อน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างเป็นตระกูลเหยาที่กุเรื่องขึ้นมา!”“ว่ากันว่าแต่งภรรยาไร้คุณธรรมเคราะห์ร้ายไปสามรุ่น ตอนแรกหลินจือเยว่กำลังรุ่งขนาดนั้น แต่กลับทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเพื่อฉินซวงซวง ตอนนี้ดีนัก นอกจากสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ฉินซวงซวงยังไปแอบมีชู้ข้างนอกอีกด้วย!”“พวกเจ้าว่าฉินซวงซวงเพิ่งแต่งงานกับหลินจือเยว่ได้ไม่นานก็ไปมีชู้อยู่ข้างนอกเสียแล้ว จะเป็นเพราะหลินจือเยว่ใช้การไม่ได้หรือเปล่านะ?”ทุกคนแสดงความคิดเห็นกันต่างๆ นานา เหยาจิ่นเฉิงกับฉินซวงซวงคนสองคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยกลับมาเป็นชู้กันได้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วแรกเริ่มเดิมทีเฉินเซียงและโหย่วฝูแค่อยากแพร่ข่าวลือเพื่อล้มงานแต่งระหว่างสกุลเหยากับสกุลลั่ว ทำให้ทุกคนตระหนักว่าคุณชายใหญ่ของตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนข่าวลือก่อนหน้านี้เป็นเรื่องเท็จแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดกันไปพูดกันมาก็ไปถึงเรื่องที่หลินจือเยว่ใช้การไม่ได้ได้อย่างไรเฉินเซียงลอบยิ้มอย่างอดไม่ได้ “อย่างไรเสียหลินจื
“ฉู่อ๋องเป็นใครกัน? ก่อนที่จะแต่งงานฉินซวงซวงก็อาจเอื้อมไม่ถึง ตอนนี้แต่งงานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังไม่ตัดใจอีก”“มิน่าแม่นางซ่งถอนหมั้นไปแล้ว ตระกูลหลินก็ยังตามหาเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้ตัวการไม่ใช่หลินจือเยว่ แต่เป็นฉินซวงซวงนี่เอง!”“จุ๊ๆ ช่างไร้ยางอายโดยแท้ ครอบครัวแม่ทัพฉินเรียกได้ว่าผู้ใหญ่ประพฤติไม่ชอบอย่างไร ผู้เยาว์ก็เป็นอย่างนั้น ตอนที่ฉินฮูหยินแต่งเข้าจวนก็ไม่ได้มีศักดิ์ศรีนัก ดูซิ ลูกสองคนที่นางให้กำเนิดมาก็ยังประพฤติตัวเสื่อมเสียกันทั้งคู่”ทันใดนั้น เรื่องราวในอดีตที่กู้อวิ๋นเวยกับแม่ทัพฉินมาลงเอยกันได้อย่างไรก็ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง ความไร้ยางอายของฉินเซี่ยงเหิงและฉินซวงซวงก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากเลย“เหยาจิ่นเฉิง สิ่งที่ฉินซวงซวงพูดเป็นเรื่องจริงงั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินมองไปทางเหยาจิ่นเฉิง ตอนนี้เดิมก็เป็นละครที่สุนัขกับสุนัขกัดกันเอง นางไม่ถือสาถ้าจะต้องดูสกุลหลินและสกุลเหยาฉีกหน้ากันสีหน้าของเหยาจิ่นเฉิงมืดครึ้มดุจสายน้ำ ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเสียแล้วถ้ายอมรับว่านี่เป็นเรื่องจริง สกุลซ่งคงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ นอกจากจะต้องแบกรับชื่อเสียว่าเ
พิสูจน์ชัดว่าสิ่งที่ฉินซวงซวงพูดเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นเรื่องจริง!ความบริสุทธิ์ของฉินซวงซวงถูกย่ำยีไม่มีใครสนใจ แต่เหยาจิ่นเฉิงเจ้าเดรัจฉานคนนี้กลับหมายตาน้องสาวของตนเอง นั่นเท่ากับรนหาที่ตาย!ตอนที่สวี่ซืออี้มาเพื่อสอบถามก็ได้ยินฉินซวงซวงร่ำร้องเสียงแหลมว่าเหยาจิ่นเฉิงทำลายความบริสุทธิ์ของตนเองและต้องการจะแจ้งความ นางยังจะอยู่เฉยได้อีกหรือ?“นังแพศยา หลายวันก่อนเจ้าเทียวมานวยนาดอยู่หน้าเฉิงเอ๋อร์ ข้าก็ดูออกแล้วว่าเจ้าไม่ใช่คนดีอะไร!”“เปลี่ยนวิธีมาขึ้นเตียงของเฉิงเอ๋อร์ ตอนนี้พอถูกจับได้ก็คิดจะมาปรักปรำกันอีก? เจ้านับเป็นตัวอะไร? เฉิงเอ๋อร์ของข้าเป็นคนที่เจ้ามาใส่ร้ายได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นรึ?”ทุกคนเห็นสวี่ซืออี้พราดพราดเข้ามาแล้วเงื้อมือตบฉาด จากนั้นก็กระชากผมฉินซวงซวงดึงทึ้งทันที“ผู้หญิงมักง่ายอย่างเจ้า ข้าเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว ตนเองไม่รักนวลสงวนตัว พอเกิดเรื่องก็อยากโยนความผิดให้คนอื่น!”“เฉิงเอ๋อร์ของข้าต้องการสตรีแบบไหนแล้วหาไม่ได้บ้าง? หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนมีมากมายถมไป จำเป็นต้องสิ้นเปลืองความคิดมาเลือกผู้หญิงไร้ค่าอย่างเจ้าด้วยรึ?”สวี่ซืออี้ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เ
เหยาจิ่นเฉิงซื้อเรือนไว้ข้างนอก ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือเรือนทองซ่อนโฉมงามเหมือนกับฉินซวงซวงก็พามาที่เรือนหลังนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้พาไปที่จวนสกุลเหยา เกรงว่าคงเกิดเรื่องทำนองนี้ที่เรือนหลังนี้ขึ้นมาไม่น้อยแล้ว แต่ค่อนข้างปกปิดมิดชิด คนจำนวนมากจึงไม่รู้“ถ้าสืบพบว่าเหยาจิ่นเฉิงเคยพาคนมามั่วที่นี่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นคำโกหกที่บอกว่ารักฮูหยินคนเก่าอย่างลึกซึ้งก็จะถูกเปิดโปงโดยสิ้นเชิง!”ลั่วหวยหลี่แววตาสว่างวาบ เขารังเกียจเหยาจิ่นเฉิงจนถึงที่สุด อยากเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของคนผู้นี้ให้ทุกคนเห็นใจจะขาด“ได้ยินว่าติงเซวียนฮูหยินคนเก่าของเขาลื่นล้มก่อนคลอด เลือดลมไม่มั่นคงจนทำให้เสียชีวิตเพราะคลอดยาก ไม่รอดทั้งแม่และลูก”“ก่อนหน้านี้สกุลเหยาให้ความสำคัญกับครรภ์นี้มาก ด้านหนึ่งเพราะเป็นลูกคนแรกของเหยาจิ่นเฉิง อีกด้านหนึ่งตำแหน่งของสกุลติงก็ไม่แย่เช่นกัน ใต้เท้าติงรักลูกสาวคนนี้มาก”“มีคนคอยปรนนิบัติข้างกายมากขนาดนั้น จะออกมานอกห้องจนลื่นล้มกลางฤดูหนาวแบบนั้นได้อย่างไร?”ซ่งเยี่ยนโจวครุ่นคิดแววตาลุ่มลึก ช่วงนี้เขาก็กำลังตรวจสอบเรื่องของเหยาจิ่นเฉิงอยู่เหมือนกัน ย่อมสืบทราบสถานการณ
ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ
วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!
“บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน
ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ
เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็
“อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา
ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด
ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที