Share

บทที่ 3

Penulis: จี้เวยเวย
“แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ย

เพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”

“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”

นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริง

ครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!

“ไอ้สารเลว!”

หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปาก

ซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคลนทำให้อับอายเช่นนี้!

“ผลั่ก ผลั่ก ผลั่ก !”

กำปั้นกระแทกเข้าไปไม่หยุด ซ่งจืออวี้เกรี้ยวกราดคล้ายสิงโต น้องหญิงที่พวกเขาวางไว้อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เหตุใดต้องเสียใจเพียงนี้!

“คุณชายซ่ง ท่านรีบยั้งมือเดี๋ยวนี้!”

ฉินซวงซวงเห็นหลินจือเยว่ถูกต่อยจนตาแดงแล้ว ถลันเข้าไปขวางหน้าหลินจือเยว่ จากนั้น...ถูกซ่งจืออวี้ตบหน้าแรงๆ หนึ่งฉาด

“นางแพศยา เจ้านับเป็นตัวอะไร? ขวัญกล้าทำลายงานแต่งของน้องหญิงข้า!”

ซ่งรั่วเจินมองการกระทำของพี่สามบ้านตน ลอบปรบมือร้องว่าดีในใจ ทำได้เยี่ยมมาก!

“ซ่งจืออวี้ เจ้าต่อยข้าก็ช่างเถอะ มีสิทธิ์อะไรมาตบซวงซวง?”

หลินจือเยว่เห็นฉินซวงซวงถูกตบก็ทนไม่ได้ หนึ่งหมัดเหวี่ยงไปทางซ่งจืออวี้

ดวงตาคู่สวยของซ่งรั่วเจินหรี่เล็กลง ชายหลายใจคนนี้ยังคิดลงมือกับพี่ชายนาง? ฝันไปเถอะ!

นางหยิบหินขึ้นมาหนึ่งก้อนอย่างไม่ตั้งใจขว้างออกไปแล้ว มองเห็นหินเล็กๆ ถูกขว้างออกไปกระแทกเข้ากับข้อเท้าของหลินจือเยว่อย่างแรง ทำให้เขาเซถลาคุกเข่าลงตรงหน้าซ่งจืออวี้

ซ่งจืออวี้ “…?”

“หลินจือเยว่ เพื่อเงินเจ้าถึงขั้นไม่สนศักดิ์ศรี แต่หากเจ้าต้องการคุกเข่าก็ควรคุกเข่าให้น้องหญิงข้า คุกเข่าให้ข้าล้วนไม่มีประโยชน์!”

ซ่งรั่วเจินเกือบหลุดหัวเราะออกมาแล้ว ช่างเป็นพี่สามแสนดีของนางจริงๆ!

สีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึงจนน่ากลัว ฉินซวงซวงประคองเขาขึ้นมา ใบหน้าแดงก่ำโมโหเดือดดาล “เมื่อครู่เป็นฝีมือใคร? ใครปาหินใส่ข้า!”

ไม่มีคนตอบ

“น่ากลัวกรรมตามสนองแล้วกระมัง?” ซ่งรั่วเจินแสร้งตกตะลึง “ฟ้าดินมีวิญญาณ คนผู้นี้ไร้ยางอายเกินไป ย่อมถูกสวรรค์ลงโทษ”

หลินจือเยว่กำลังจะขยับ ฉินซวงซวงก็เปิดปากปกป้องแล้ว “แม่นางซ่ง ระหว่างเจ้าและท่านโหวยังมีเยื่อใยต่อกัน เปล่งวาจาเช่นนี้ใจร้ายเกินไปหรือไม่?”

“ข้าใจร้าย?” ซ่งรั่วเจินนั่งบนเก้าอี้ที่เฉินเซียงยกมา ในมือขาดเมล็ดแตงให้แทะระหว่างรับชมละครฉากสนุก นางเหยียดนิ้วชี้ไปทางหลินจือเยว่ “หนึ่งคนใช้เงินของข้าเลี้ยงดูหญิงอื่น หนึ่งคนไม่มียางอายยึดครองว่าที่สามีของข้า พวกเจ้าสองคนสมคบคิดกัน เหตุใดยังกล้าพูดว่าข้าใจร้ายเล่า?”

“นางคนต่ำช้าไร้ยางอาย!” ซ่งจืออวี้เผยสีหน้ารังเกียจ หันมองน้องหญิงของตนอย่างสงสาร “น้องหญิงไม่ต้องกังวล เจ้าคือไข่มุกล้ำค่าของพวกเราสกุลซ่ง ไฉนเลยจะสามารถถูกนางแพศยาพรรค์นี้รังแกได้?”

“ข้าว่าหลินจือเยว่เองก็ตาบอด งานแต่งนี้ยกเลิกก็ช่างเถอะ!”

“เข้ามา ย้ายของของบ้านข้าสกุลซ่งทั้งหมดออกไป หากขนไม่หมดก็ทุบทิ้งเสีย สิ่งของของบ้านข้าสกุลซ่ง พวกเขาไม่คู่ควร!”

มองเห็นเครื่องประดับหลากหลายชนิด ผ้าแพรต่วน เงินในคลังไปจนถึงตั่งเตียงโต๊ะแปดเซียน แม้แต่กระถางดอกไม้ก็ถูกยกออกไป กระเบื้องที่ถูกปูใหม่บนหลังคาถูกทุบทิ้ง แสงแดดเจิดจ้าสาดเข้าเรือน

ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้นอย่างพึงพอใจ “คนที่มาจัดงานเลี้ยงถือของตามข้าไป จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกับราษฎรริมถนนหน้าจวนข้าสามวัน!”

หลินจือเยว่โมโหจนสีหน้าเขียวคล้ำ ซ่งรั่วเจินกลับกระแทกสมุดบัญชีเล่มหนึ่งใส่

“เว้นเสียแต่ของที่ข้านำไป ท่านโหวยังติดค้างข้าแปดล้านตำลึง ต้องนำไปส่งให้ถึงจวนสกุลซ่งของข้าภายในหนึ่งวัน หาไม่แล้วข้าจะไปฟ้องร้องต่อศาลกับท่าน!”

“อะไรนะ? แปดล้านตำลึง?” สีหน้าหลินจือเยว่เปลี่ยนไปแล้ว “เพียงสองปีสั้นๆ จวนโหวจะสามารถใช้จ่ายเงินมากเพียงนี้ได้อย่างไร?”

“ท่านโหวอย่าเพิ่งร้อนใจ ทุกรายการล้วนบันทึกไว้ในสมุดบัญชีทั้งหมดแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น สองปีมานี้ท่านส่งจดหมายถึงข้าสิบสองฉบับ ทุกครั้งล้วนอ้าปากขอเงิน หรือท่านแกล้งไม่รู้?”

ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ขณะเดินออกจากจวนหลินโหว ก็ปลดป้ายจวนหลินโหวลงมาแล้ว

“เพล้ง” เสียงดังขึ้น แตกออกเป็นสี่ห้าส่วน

“ป้ายนี้เองก็เป็นข้าสั่งให้คนทำขึ้นเมื่อหลายวันก่อน บัดนี้ไม่ได้ใช้งาน ทำลายทิ้งก็ไม่เกินไปกระมัง?”

ซ่งรั่วเจินปรายสายตาเย้ยหยันให้หลินจือเยว่แวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวอย่างมั่นคงออกจากจวนหลินโหว แต่กลับมองเห็นเงาร่างสง่างามน่าเกรงขามสายหนึ่งที่หน้าประตู

ฝ่ายชายหล่อเหลาเปล่งประกาย ชุดผ้าแพรสีดำขับเน้นให้เขาสง่างามไม่ธรรมดา ดวงตาดำดุจหมึกคู่นั้นคล้ายหลุมลึก สงบไร้คลื่น สุขุมสง่างาม

สายตากวาดมองอย่างแปลกใจแวบหนึ่ง ดวงชะตาของคนผู้นี้ดีกว่าหลินจือเยว่อีกกระนั้นหรือ?

ฉู่จวินถิงสบมองซ่งรั่วเจินที่แก้แค้นอย่างมีความสุขตรงหน้า ในใจให้นึกแปลกใจ เห็นได้ชัดว่าชาติก่อนซ่งรั่วเจินกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ตลอด ปูทางต่อสะพานให้หลินจือเยว่จนเขาประสบความสำเร็จไปทั้งชาติ หรือว่า...นางเองก็กลับชาติมาเกิด?

นี่...น่าสนใจยิ่งนัก!

ณ จวนสกุลซ่ง

“เจินเอ๋อร์ เหตุใดจึงกลับมา?”

หลิ่วหรูเยียนก้าวเท้าฉับไวขึ้นไปด้านหน้า สายตาเปี่ยมความตกตะลึง กลับบ้านมารดาในวันแต่งงาน มีหลักการนี้ที่ใดกัน?

“ท่านแม่ ข้าไม่แต่งแล้ว”

“จวนโหวเฮงซวยอะไร น้องหญิงห้าไม่แต่งแล้ว ก่อนนี้ข้าเห็นหลินจือเยว่ดูเป็นคนที่พึ่งพาได้ คิดไม่ถึงเรื่องที่ทำออกมาน่ารังเกียจเพียงนี้ วันแต่งงานกลับตบแต่งภรรยาหลวงศักดิ์เทียมกันอีกคน ไม่เห็นหัวคนสกุลซ่งแล้วกระนั้นรึ?”

ซ่งจืออวี้ยังระบายโทสะภายในใจไม่หมด เพียงเปิดปากก็บ่นยาวเป็นพรวนคล้ายจุดประทัด

“ฉินซวงซวงอะไรนั่น หลายปีก่อนคลั่งใคล้หลงใหลองค์ชายสามอยู่ตลอด บัดนี้อายุมากแล้วแต่งไม่ออกจึงตกลงแต่งงานกับหลินจือเยว่ สรุปว่าไอ้คนไม่ได้เรื่องคนนั้นรีบตอบตกลงเห็นเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง วันนี้ตีหัวเขาไม่แตกช่างไม่สบอารมณ์จริงๆ!”

“อะ อะไรนะ?” สีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ สุ้มเสียงสิ้นหวัง “เหตุใดจวนสกุลหลินเหยียดหยามลูกสาวข้าเพียงนี้ พวกเราสกุลซ่งทำผิดต่อพวกเขาที่ใด?”

ซ่งรั่วเจินตาไวมือไว รีบประคองนางไว้ก่อน “ท่านแม่ ท่านอย่าเสียใจไปเลย วันนี้ข้าไม่แต่ง ท่านสมควรดีใจแทนข้าต่างหาก”

“ยังไม่ต้องพูดว่าข้าและเขาหมั้นหมายกันตั้งแต่แรก ครานั้นเป็นเขาคุกเข่าภายในจวนขอข้าแต่งงาน เขายังเป็นสหายร่วมเป็นร่วมตายกับพี่ใหญ่อีกด้วย ขอเพียงเป็นคน ล้วนไม่ทำไม่ดีต่อข้า แต่วันนี้เขาสามารถทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไร้คุณธรรม ไร้มโนธรรม เห็นแก่ตัวไม่มีหัวใจ”

“หากข้าแต่งกับเขาแล้ว นั่นต่างหากถึงสิ้นหวังชั่วชีวิต”

หลิ่วหรูเยียนจับมือนาง สายตาเปี่ยมสงสาร “บัดนี้นายท่านหายตัวไป พี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าล้วนเกิดเรื่อง อยู่ในช่วงตระกูลเผชิญวิกฤตพอดี เดิมทีข้าอยากให้เจ้าแต่งกับหลินโหวเพื่อให้มีชีวิตสงบสุข คิดไม่ถึงว่า…”

“เจินเอ๋อร์ ล้วนเป็นแม่ทำร้ายเจ้าแล้ว คิดว่าหลินโหวจะเป็นคนที่สามารถฝากฝังไว้ได้คนหนึ่ง!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
Meaw Tewika
แม่อ่อนแอแท้ๆ ไม่ไหวๆๆ เฮ้อ
goodnovel comment avatar
Lek Chatchalai Sirilaowattanatham
เรื่องราวน่าสนใจมาก
goodnovel comment avatar
Aimjit Jerapa
เรื่องราวสนุกน่าติดตาม..
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1894

    “เขาบอกข้าว่าเพราะมีไทเฮาทรงดูแล ชูเสวี่ยไปอยู่กับข้าย่อมมีชีวิตที่ดีกว่า ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเหวินเช่อ”“พวกท่านวางใจได้ ไม่ว่าอย่างไรชูเสวี่ยก็ยังสกุลเซียว ต่อให้ชูเสวี่ยติดตามข้าไป นางจะไม่ลืมฐานะของตน ข้าจะพานางกลับมาเยี่ยมที่นี่บ่อย ๆ”สีหน้าเซียวเหวินยวนเปลี่ยนไป “ข้า...เหวินเช่อไม่เคยพูดเช่นนี้กับเจ้า!”“พี่ใหญ่ นี่เป็นคำพูดที่เหวินเช่อพูดกับข้า ท่านย่อมไม่รู้ ข้าทั้งรักและซื่อสัตย์ต่อเขา วันนี้เขาจากไปแล้ว ท่านคิดหรือว่าข้าจะกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาหลอกพวกท่านอย่างนั้นหรือ?”“ข้าแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเซียวหลายปี ทุกคนล้วนรู้อุปนิสัยใจคอข้าดี ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียต่อสกุลเซียว พี่ใหญ่จะปรักปรำข้าเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ” เซี่ยจือหลานเอ่ยคำพูดนั้นทำให้เซียวเหวินยวนสำลัก สีหน้าแดงก่ำ ภายในใจเขารู้ดีว่าตนไม่เคยพูดเช่นนี้มาก่อนเซี่ยจือหลานเป็นสตรีว่าง่ายมาโดยตลอด คิดไม่ถึงเลยว่าบัดนี้ถึงขั้นพูดจาเหลวไหล แต่ตนกลับไม่อาจโต้แย้งได้“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่คิดว่าเหวินเช่อคงพูดตามปากพาไป มิได้จริงจัง”“ชูเสวี่ยเป็นคนตระกูลเซียว พวกเราไม่ใช่ว่านา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1893

    เมื่อคิดถึงความจริงใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าตั้งแต่เริ่มจนจบอีกฝ่ายเพียงแค่หลอกใช้ตนมาตลอดในช่วงเวลาสั้น ๆ ภาพความทรงจำในอดีตวนกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่นางจะตกใจเมื่อได้เห็นความจริงว่าที่ผ่านมาแทบไม่มีความจริงใจอยู่ในนั้นเลยสิ่งที่นางเคยเข้าใจว่าเซียวเหวินเช่อเป็นคนดี รักครอบครัว บัดนี้กลับกลายเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเขากับหลูเฟยนั้นสมคบคิดกันมานานแล้วมันช่างน่าขันเหลือเกิน!นางคล้ายตัวโง่งมคนหนึ่งมาโดยตลอด“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะข้าโง่เขลา ทั้งที่สามีข้าได้ตายจากไปแล้ว แต่ข้ากลับยังติดอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความฝัน คิดไปเองว่าเขายังอยู่เคียงข้าง”“วันนี้หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป ข้าเองก็เข้าใจแล้ว ดังนั้นข้าจึงอยากไปจากสกุลเซียว” เซี่ยจือหลานกล่าวอย่างหนักแน่นคำพูดนั้นทำให้สีหน้าทุกคนในตระกูลเซียวเปลี่ยนไปในทันใด“จือหลาน เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้เลย เหวินเช่อตายจากพวกเราก็ล้วนเสียใจอย่างมาก แต่อย่างไรเสียเจ้าก็ยังเป็นคนในครอบครัวเดียวกับพวกเรา…”ฮูหยินผู้เฒ่าเซียวเห็นว่าเซี่ยจือหลานตัดสินใจจะไปจริง ๆ ก็ร้อนใจขึ้นมา พยายามรั้งไว้ พร้อมทั้งส่งสัญญาณทางสายตาไปยังเซียวเหวินยวนแล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1892

    อีกด้านหนึ่งฮูหยินผู้เฒ่าเซียวเห็นว่าบริเวณเรือนของเซี่ยจือหลานถูกคนจากวังหลวงล้อมไว้ แม้จะอยากสอดส่องข่าวสักเพียงใดก็ทำไม่ได้ รู้สึกร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ“พวกเจ้าเองก็เหลือเกินจริง ๆ เรื่องบานปลายถึงเพียงนี้ ยังไปกดดันจนเซี่ยจือหลานคิดสั้นได้อีก!”“ท่านนั้นในวังดีต่อนางมากเพียงใด พวกเจ้าก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ก่อนหน้านี้ข้าก็เตือนแล้วว่าให้ระวังขอบเขต ตอนนี้ดีแล้ว ฮองเฮาและพระชายารัชทายาทมาด้วยตนเอง น่ากลัวว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ แล้ว!”เซียวเหวินยวนขมวดคิ้วมองหลูเฟยอย่างไม่สบอารมณ์ “จือหลานสะเทือนใจอย่างมาก ช่วงนี้ย่อมหวั่นไหวเป็นธรรมดา เจ้าควรยอมนางสักหน่อย เหตุใดต้องซ้ำเติมจนนางคิดสั้น”“ตอนนี้ดีแล้ว นางสะเทือนใจจนจะชนกำแพง บัดนี้ฮองเฮามาหนุนหลังด้วยตนเอง นี่ยุ่งยากมากขึ้นแล้วไม่ใช่หรือ?”หลูเฟยเบ้ปาก ภายในใจรู้ดีว่าเรื่องครั้งนี้ตนเองเป็นฝ่ายก่อเรื่องไม่น้อย ได้แต่พูดว่า“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่านางจะวู่วามถึงเพียงนั้น? ท่านเป็นสามีของข้า แต่นางยังตอแยท่าน หากข่าวลือแพร่ไป จะไม่ทำให้ชื่อเสียงของสกุลเซียวเสื่อมเสียหรอกหรือ?”“ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคิดว่านางจะหน้าด้านถึงเพียงน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1891

    สายตาของฮองเฮาเลื่อนไปหยุดที่ซ่งรั่วเจิน นางเคยคิดมาก่อนว่าเด็กคนนี้ที่เคยถอนหมั้น คงไม่คู่ควรกับจวินถิง แต่ตอนนี้เมื่อเห็นนางเล่าถึงอดีตอย่างเปิดเผย ราวกับไม่เห็นสิ่งนั้นเป็นความอับอาย ไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย กลับยิ่งทำให้มองนางสูงขึ้นอีกขั้น“หากตอนนั้นข้าไม่ได้มีสินเดิมมากมายเช่นนั้น…”เซี่ยจือหลานเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ ตอนออกเรือน นอกจากสินเดิมที่ครอบครัวจัดเตรียมให้แล้ว ไทเฮายังประทานเพิ่มให้อีกมากมายตอนนั้นทั้งเมืองหลวงต่างตะลึงกับสินเดิมมากมายของนาง เพียงพอให้นางจะอยู่อย่างสุขสบายไปทั้งชีวิตตอนนั้นนางเองก็คิดว่าตนเองมีสง่าราศีเป็นพิเศษ เป็นคุณหนูผู้โดดเด่นที่สุดในบรรดาสตรีสูงศักดิ์เพียงแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วตนเองจะลงเอยเช่นนี้...“หากเจ้าไม่มีสินเดิมมากมายเพียงนั้นล่ะก็ บางทีเขาอาจไม่คิดแต่งกับเจ้าด้วยซ้ำ ผู้คนชอบพูดนักว่าหญิงสาวต่างดิ้นรนปีนขึ้นสู่กิ่งสูง ปีนป่ายขึ้นไปโดยไม่สนใจอะไร โดยไม่รู้เลยว่าบุรุษต่างหากที่แลกทุกอย่างเพื่อสิ่งตอบแทนที่สูงกว่า”“เขาแต่งกับเจ้า ไม่เพียงอยู่ดีกินดีได้อย่างไร้กังวล ยังมีไทเฮาเป็นที่พึ่ง ย่อมสามารถเหยียบย่างสู่เส้นทางอำนาจได

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1890

    “หากข้าออกไปเช่นนี้ จะทำให้สามีปวดใจ”ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้ว “แม่สามีเจ้าเป็นคนพูดหรือ?”“ไม่ใช่แค่ท่านแม่ ตอนนี้พี่ชายสามีเองก็พูดแบบนี้ เขายังบอกอีกว่าก่อนตายเหวินเช่อฝากให้เขาดูแลพวกเรา เขาจะดูแลข้าและชูเสวี่ยให้เป็นอย่างดี”กล่าวตบ ซ่งรั่วเจินกับฮองเฮาก็กลั้นหัวเราะไว้แทบไม่อยู่นี่มันได้ทั้งขึ้นทั้งล่องชัดๆ!แม้ว่าสลับตัวเปลี่ยนฐานะแล้ว ได้ครอบครองพี่สะใภ้ แต่ก็ยังไม่อยากให้ฮูหยินของตนกับลูกจากไปแผนที่ได้กำไรถึงเพียงนี้ พวกเขาช่างหน้าหนาเหลือเกิน!“ตอนเจ้าแต่งงาน สินเดิมคงไม่น้อยใช่หรือไม่? เจ้าแต่งงานมาหลายปี พวกเขาเคยใช้สินเดิมของเจ้าหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามเซี่ยจือหลานชะงักไป ก่อนพยักหน้า “ใช่แล้ว”“นี่ก็ถูกแล้ว พวกเขาไม่ให้เจ้าจากไป ก็เพราะสินเดิมของเจ้านั่นเอง”ซ่งรั่วเจินกล่าวด้วยสายตาแจ่มชัด “ชนิดที่ว่า...ที่ผ่านมาสามีเจ้าดีต่อเจ้าดีเสมอมา ก็อาจเพราะเหตุนี้”ฮูหยินตนดุจถุงเงิน อยู่ภายในเรือน พวกเขาไม่เพียงได้รับเงินมากมาย ยังมีไทเฮาสนับสนุน มีเพียงคนโง่ถึงจะไม่ดีต่อเซี่ยจือหลานทว่าเขาอยากได้ลูกชาย กอปรกับสมคบคิดกับพี่สะใภ้ได้แล้ว ก็เลยคิดเรื่องดีที่ได้รับทั้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1889

    ความรักทำนองนี้ แต่ไรมาเจ้าตัวมักมองไม่ออก แต่ผู้รับชมอยู่วงนอกกลับเห็นอย่างชัดเจนแม้ฮองเฮาไม่รู้ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้นกับสกุลเซียว แต่ในฐานะบุรุษคนหนึ่ง สามารถทอดทิ้งภรรยาและลูกได้ ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเคยแสดงว่าดีเพียงใด ก็พิสูจน์แล้วว่าภายในใจเขาไม่เคยมีเซี่ยจือหลานอยู่เลยหากมี เขาย่อมไม่มีวันทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้อย่างเด็ดขาด“จือหลาน ความรักที่จริงใจมักจะเป็นสิ่งที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนล้วนหวังจะได้ความรักที่ยืนยาว แต่เหตุที่ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภาวนาต่อพระโพธิสัตว์ เพราะทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า ความรักที่แท้จริงนั้นแสวงหายาก เจ้าว่าใช่หรือไม่?”เซี่ยจือหลานชะงัก ราวกับเริ่มเข้าใจความนัยของฮองเฮาแล้ว“ตอนนี้เจ้าก็อายุไม่น้อยแล้ว ข้าจะให้เจ้าลืมความผูกพันตลอดหลายปี ย่อมยากจะทำในทันทีเลยได้”“แต่เจ้าลองคิดดู เจ้ายังมีลูกอยู่”“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ นับว่าเจ้าได้ผ่านความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เรื่องที่เคยคิดไม่ตกทั้งหลาย ตอนนี้เจ้าควรคิดให้ตกได้แล้ว”“คนเราเกิดมาทั้งที ตนเองมีความสุขถึงจะสำคัญที่สุด ในเมื่อสามีเจ้าทอดทิ้งไปแล้ว เหตุใดเจ้าต้องหวังให้เขากลับมาด้วยเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status