Share

บทที่ 4

Author: จี้เวยเวย
“เรื่องนี้โทษท่านแม่ไม่ได้ พูดได้เพียงว่าหลินจือเยว่แสดงละครได้อย่างยอดเยี่ยม หน้าหนาไร้ยางอาย!”

ซ่งรั่วเจินยิ่งพูดยิ่งรังเกียจ โชคดีช่วงเวลาที่นางทะลุมิติเข้ามาในหนังสือยังมิได้แต่งเข้าจวนสกุลหลิน หากแต่งเข้าไปแล้ว นั่นต่างหากถึงจบสิ้น!

หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกสาวผู้เพียบพร้อมของตนพูดถ้อยคำหล่านี้ออกมา ยิ่งมั่นใจว่านางกำลังเสียใจ น้ำตาคลอหน่วย “ลูกสาวชะตาอาภัพของข้า...”

แต่น้ำตาที่หางตายังไม่ทันตกก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก ของทั้งใหญ่ทั้งเล็กถูกยกเข้ามา หยาดน้ำตาหยุดชะงักในทันใด

“เจินเอ๋อร์ นี่ นี่คืออะไรกัน?”

“อย่างไรเสียก็ไม่แต่งแล้ว สิ่งของย่อมต้องนำกลับมา ฉินซวงซวงคนนั้นพูดทุกคำว่ารักชอบท่านโหว ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่านางจะยอมหักใจชดเชยจวนโหวโล่งโจ้งนั่นหรือไม่!”

ซ่งรั่วเจินเคยอ่านต้นฉบับหนังสือมาก่อน ย่อมรู้ว่าฉินซวงซวงก็คือคนมีอุปนิสัยชมชอบความร่ำรวยคนหนึ่ง หาไม่แล้วเพียงนางเอ่ยปาก หลินจือเยว่ก็ต้องถอนหมั้นนางเป็นแน่!

แต่นางกลับไม่ทำ ก็เพื่อเงินของจวนสกุลซ่ง

บัดนี้เงินตกอยู่ในมือนางแล้ว ฉินซวงซวงทางหนึ่งคิดจะหลับนอนกับบุรุษของเจ้าของร่างเดิม ทางหนึ่งใช้จ่ายเงินของเจ้าของร่างเดิม ฝันกลางวันอยู่แท้ ๆ !

รักหนักแน่นยิ่งกว่าทองงั้นหรือ?

นางทำให้พวกเขาสมปรารถนาแล้ว!

หลิ่วหรูเยียนตกตะลึงอย่างสุดระงับ แต่ไหนแต่ไรมาเจินเอ๋อร์เป็นคนมีอุปนิสัยนุ่มนวล วันนี้ถึงขั้นทำเรื่องนอกลู่นอกทางเช่นนี้ได้?

“น้องหญิงห้าพูดได้ดี! บนโลกนี้ที่ใดไม่มีหญ้า ไยต้องแขวนคอตายบนต้นไม้เอียงกระเท่เร่นี้ด้วยเล่า? ข้าว่าหลินจือเยว่คนนั้นมิใช่คนดีอันใด!”

ซ่งอี้อันกลับเห็นด้วยกับอุปนิสัยเฉียบขาดของซ่งรั่วเจิน ร้องไห้คร่ำครวญในเวลานี้ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อหลินจือเยว่ไม่ยอมแต่ง มิสู้หาเขยที่ดีคนใหม่ ย่อมดีกว่าตกเข้ากองเพลิงชั่วชีวิต

ซ่งรั่วเจินมองชายสุภาพหล่อเหลาตาบอดทั้งสองข้างตรงหน้า เพียงแวบเดียวก็จำได้ว่าเขาคือพี่ชายคนรองของเจ้าของร่างเดิม

เดิมทีเขาก็เป็นคนมีพรสวรรค์มากความสามารถ เชี่ยวชาญท่วงทำนองบทกวีไปทุกด้าน มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งเมืองหลวงตั้งแต่เด็ก อาจารย์ที่เคยสอนเขาล้วนกล่าวชมไม่ขาดปาก ซ้ำยังพูดว่าเขามีพรสวรรค์เป็นถึงจอหงวนอย่างแน่นอน

ทว่าน่าเสียดาย...ก่อนหน้านี้คู่หมั้นถูกลวนลาม เพื่อปกป้องคู่หมั้นเขาจึงต่อสู้กับคน อีกฝ่ายอาศัยว่ามีคนมากกว่า สบโอกาสทุบเข้าที่สมองของเขา

แม้สามารถปกป้องชื่อเสียงของคู่หมั้นจ้าวซูหว่านเอาไว้ได้ แต่เพราะเหตุนี้จึงต้องสูญเสียการมองเห็นไป...

มองเห็นซ่งอี้อันยื่นมือออกมาต้องการปลอบตนเองแต่คว้าโดนอากาศ ซ่งรั่วเจินขยับขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างจนใจ “ข้าอยู่นี่”

ซ่งอี้อันเก้อกระดากอย่างเห็นได้ชัด “น้องหญิงห้า ก็แค่ถอนหมั้นมิใช่หรือ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก”

ซ่งรั่วเจินสบโอกาสจับมือซ่งอี้อัน จับชีพจรตรวจอาการของเขา รู้ว่าศีรษะของเขาถูกกระแทกอย่างรุนแรงจึงทำให้เลือดอุดตันส่งผลให้ตาบอดทั้งสองข้าง ขอเพียงก้อนเลือดละลายก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ นี่ถึงถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง

ยังมีทางรักษา!

“คุณชายรอง มีจดหมายจากตระกูลจ้าวขอรับ”

“ใช่จดหมายของหว่านเอ๋อร์หรือไม่?” ซ่งอี้อันดีใจขึ้นมาแล้ว “น้องหญิงห้า เจ้าช่วยข้าอ่านดูเถอะว่าเขียนอะไร ใช่หรือไม่ว่าช่วงนี้ติดงานที่จวนจึงมิได้มาหาข้าอยู่ตลอด?”

ซ่งรั่วเจินเปิดจดหมายในมือ มองเห็นจ้าวซูหว่านต้องการถอนหมั้นก็ไม่แปลกใจ เดิมทีหญิงคนนี้ก็ทำเพื่อผลประโยชน์ ก่อนหน้านี้มั่นใจว่าซ่งอี้อันต้องมีพรสวรรค์เป็นถึงจอหงวน เพื่อขยับฐานะขึ้นเป็นฮูหยินของจอหงวน รบเร้าตอแยเจ้าของร่างเดิมทั้งวี่ทั้งวันขอมาจวนสกุลซ่ง เพื่อให้ได้มาสบตากับซ่งอี้อัน

บัดนี้เห็นว่าสกุลซ่งกำลังลำบาก จึงอยากขอถอนหมั้น ส่วนเรื่องถูกคนลวนลาม เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวนางหาเรื่องเอง เพียงแต่ถูกซ่งอี้อันพบเข้าจึงแสร้งเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำให้พี่รองของนางกลายเป็นเช่นนี้!

กระนั้น ในต้นฉบับจ้าวซูหว่านมิได้ถอนหมั้นวันนี้ แต่เป็นหลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน คงมิใช่เพราะเรื่องระหว่างนางและจวนโหว ทำให้จ้าวซูหว่านขอถอนหมั้นล่วงหน้าหรอกกระมัง?

“จ้าวซูหว่านขอถอนหมั้น”

พูดคำนี้ออกมา ภายในห้องพลันเงียบกริบ

ซ่งรั่วเจินอ่านเนื้อความในจดหมายออกมา ทุกคำของจ้าวซูหว่านล้วนพูดว่าสกุลจ้าวบีบคั้นนางให้ถอนหมั้น ส่วนนางเป็นผู้บริสุทธิ์มีความรักลึกซึ้ง

“อี้อันต้องตาบอดก็เพราะนาง สกุลจ้าวถึงขั้นขอถอนหมั้นในตอนนี้ ช่างลืมบุญคุณคน ขาดคุณธรรมจริงๆ!”

หลิ่วหรูเยียนเสียใจเรื่องซ่งรั่วเจินอยู่แล้ว บัดนี้ได้ยินข่าวร้ายอีกครั้ง เป็นลมหมดสติอย่างสุดระงับ

“ท่านแม่!”

“ฮูหยิน!”

ซ่งรั่วเจินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง บัดนี้จวนสกุลซ่งวุ่นวายอย่างแท้จริง กระนั้นในเมื่อนางมาแล้ว ก็ไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านี้ทำลายสกุลซ่งได้!

อย่างไรเสียสกุลซ่งก็เป็นตระกูลใหญ่ มีกิจการร่ำรวย พี่ใหญ่วิชายุทธ์แข็งแกร่ง พี่รองมีพรสวรรค์เป็นจอหงวน พี่สามแม้ไม่มีความสามารถอะไร แต่ก็เห็นเจ้าของร่างเดิมเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ บัดนี้นางมาแล้ว อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ก็ต้องช่วยสกุลซ่งออกจากโคลนตม!

พระเอกนางเอกในหนังสืออะไร นางซ่งรั่วเจินมาแล้ว ย่อมไม่อนุญาตให้ทั้งครอบครัวกลายเป็นตัวประกอบ!

จนกระทั่งกลับจากพาหลิ่วหรูเยียนไปส่งที่เรือน ซ่งอี้อันยังนั่งหน้าซีดดังเดิม ไม่รู้กำลังคิดเรื่องใด

“พี่รอง ที่ใดในโลกไม่มีหญ้า ไยต้องโหยหาไม้กิ่งเดียวด้วยเล่า?” ซ่งรั่วเจินตบบ่าซ่งอี้อัน “ไม่มีคนนี้ มากที่สุดก็หาภรรยาอื่น ใต้หล้ากว้างใหญ่เพียงนี้ หรือว่ายังหาไม่ได้อีก?”

ซ่งอี้อัน “...” ดีร้ายอย่างไรก็ไม่เห็นต้องย้อนคำพูดเขาเลยนี่

“ไม่ได้การ ข้ามิอาจยอมรับได้ ข้าจะไปถามสกุลจ้าวให้ชัดเจน! ในเมื่อจ้าวซูหว่านยินยอม พวกเขาถือสิทธิ์อะไรห้ามมิให้นางแต่งงาน? ก่อนนี้พวกเขามิได้พูดเช่นนี้!”

ซ่งจืออวี้โมโหเดือดดาล เดินออกไปภายนอก

“พี่สาม ไม่ต้องไปแล้ว” ซ่งรั่วเจินพูดขึ้น

ซ่งจืออวี้ไม่ยอมแพ้ “แต่...”

“น้องสาม เลิกโง่ได้แล้ว เจ้าคิดว่าหากหว่านเอ๋อร์ยอมแต่กับข้าจริง สกุลจ้าวจะส่งจดหมายเช่นนี้มาหรือ? หรือพวกเขาไม่กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง?”

ซ่งอี้อันหัวเราะเยาะตนเองทีหนึ่ง “นับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บ หว่านเอ๋อร์มาเยี่ยมข้าครั้งหนึ่ง หลังรู้ว่าข้าตาบอดรักษาไม่ได้ก็ไม่มาอีกเลย ข้าเองก็รับรู้อยู่ในใจแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง”

บัดนี้ได้รับจดหมายนี้ ยังมีอันใดไม่เข้าใจอีก? นางตัดสินใจเช่นนี้ ไยพวกเราต้องไปพูดจาให้ไม่พอใจกันด้วยเล่า?”

“พี่รอง แต่ท่านกลายเป็นเช่นนี้ก็เพราะนาง นางลืมบุญคุณคนเช่นนี้ช่างไม่คู่ควรเป็นคนจริง ๆ !”

ซ่งจืออวี้ยกกำปั้นทุบโต๊ะ โต๊ะแปดเซียนถูกทุบจนแหลกกลับยังไม่สามารถคลายความแค้นภายในใจของเขาได้ “แต่ละคนล้วนสารเลว ข้าอยากฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ เสีย!”

ซ่งรั่วเจินเห็นซ่งอี้อันสุขุมใจเย็น แม้สับสนว้าวุ่นภายในใจ แต่กลับไม่ขาดสติ อดมองประเมินเขาสูงขึ้นอีกขั้นไม่ได้ สมเป็นผู้มีพรสวรรค์ของจอหงวนที่ทุกคนชื่นชมจริงๆ

“พี่รอง จ้าวซูหว่านถอนหมั้นเป็นเพราะนางตาบอดเอง เดิมทีฐานะของนางก็ไม่คู่ควรกับท่านอยู่แล้ว บัดนี้ถอนหมั้นก็ดี อีกเดี๋ยวรักษาตาท่านหายแล้ว นางก็จะไม่ได้อันใดไปเลย!”

“สตรีเช่นนี้ไม่คู่ควรแต่งงานกับท่าน ไม่คู่ควรเข้าบ้านสกุลซ่งของพวกเรา!”

“น้องหญิงคนดี” ซ่งอี้อันรู้สึกอบอุ่นภายในใจ คิ้วกลับขมวดมุ่นไม่คลายออกจากกัน “หมอทั้งเมืองล้วนมาดูอาการแล้ว ดวงตาคู่นี้ของข้าไม่มีหวังแล้ว...”

แต่ไรมาเขาฮึกเหิมมีชีวิตชีวา รอคว้าชัยชนะหลังสอบขุนนาง ทว่าบัดนี้กลายเป็นคนตาบอดแล้ว ความหวังสลายไปแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องเป็นขุนนาง แม้แต่ดูแลตนเองยังเป็นเรื่องยาก กลายเป็นภาระของทั้งครอบครัว...

“พี่รอง ข้าสามารถรักษาตาของท่านให้หายได้!” ซ่งรั่วเจินพูด

ซ่งอี้อันชะงักเบาๆ หลุดหัวเราะออกมา “น้องหญิงห้า พี่สามรู้ว่าเจ้าหวังดี ทว่าตั้งแต่เด็กเจ้าก็ไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อน เช่นนั้นจะรักษาอาการป่วยของข้าได้อย่างไร?”

“ข้าพูดว่ารักษาได้ก็คือรักษาได้ ท่านเชื่อข้าเถอะ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1902

    เขายังไม่ตาย!“ขอบพระทัยรัชทายาท ขอบพระทัยพระชายารัชทายาทอย่างสูง! บุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ครั้งนี้ จะขอจดจำไปชั่วชีวิต”เซียวเหวินยวนหมายจะหยัดกายขึ้นนั่ง แต่กลับพบว่าร่างกายของตนเองบัดนี้อ่อนแออย่างถึงที่สุด เพียงลุกขึ้นมานั่งได้ก็ล้มลงไปอีกครั้งทันทีซ่งรั่วเจินโบกมือ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ร่างกายของเจ้าอ่อนแอเกินไป เพราะหลายวันมานี้ไม่มีอาหารตกถึงท้อง เว้นเพียงดื่มน้ำไปเล็กน้อยเท่านั้น กอปรกับดวงวิญญาณเพิ่งคืนสู่ร่าง เจ้าควรจะพักผ่อนให้เต็มที่เสียก่อน”เซียวเหวินยวนเองก็เพิ่งเคยรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอมากถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน จึงได้แต่เอ่ยตอบกลับไปว่า“ต้องขออภัยจริง ๆ ไว้ข้าหายดีแล้วเมื่อใด จะต้องไปกล่าวขอบคุณถึงที่ด้วยตนเองแน่นอน”เขารู้ หากครั้งนี้ตนเองมิได้บังเอิญพบพระชายารัชทายาท ก็คงเหลือเพียงหนทางสู่ความตายเท่านั้นแล้ว“คุณชายใหญ่เซียว เจ้าเองก็ลำบากมากแล้ว ไม่สู้ลองคิดดูว่าหลังจากกลับไปแล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไรต่อไปดีกว่าหรือ เรื่องนี้จัดการไม่ได้ง่าย ๆ หรอก”ซ่งรั่วเจินจินตนาการถึงภาพตอนที่เซียวเหวินยวนกลับเรือนสกุลเซียว ละครนี้จะต้องยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ถึงใจแน่นอน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1901

    ฉู่จวินถิงปรายสายตามองอวิ๋นหยางปราดหนึ่ง คนหลังรีบหยิบเงินหนึ่งร้อยตำลึงใส่มือชายชราทันที“ข้ากับเซียวเหวินยวนเพียงรู้จักกันครั้งหนึ่ง หาใช่คนในครอบครัวของเขาไม่ เพียงแต่ได้ยินว่าเขาเกิดเรื่อง จึงลองมาหาละแวกนี้”“ไว้พวกข้ากลับไปแล้วจะแจ้งให้คนในครอบครัวของเขาทราบทันที ส่วนเงินจำนวนนี้ฝากให้พวกท่านใช้ดูแลเขาด้วย ไว้เขาฟื้นเมื่อใด จะขอบคุณพวกท่านอย่างดี”ฉู่จวินถิงแววตาเรียบเฉยเย็นชา เรื่องนี้สกุลเซียวเป็นคนก่อขึ้นมาเองหากมิได้ทำเพื่อเซี่ยจือหลาน พวกเขาเองก็คร้านจะวิ่งมาที่นี่ ส่วนเรื่องบุญคุณช่วยชีวิต ก็ให้เซียวเหวินยวนตัดสินด้วยตนเองเถิดเรื่องหนี้ดอกท้อแบบนี้ ต้องให้ตัวเขาจัดการเอง!ชายชรามองเงินหนึ่งร้อยตำลึงในมือ ความจริงแล้วเขาเชิญหมอมาก็จ่ายไปเพียงไม่กี่ตำลึงเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะให้มาถึงหนึ่งร้อยตำลึงในคราวเดียวเช่นนี้ คนพวกนี้ฟุ้งเฟ้อเกินไปแล้ว“คุณชายขอรับ เงินจำนวนนี้มากเกินไปหน่อยแล้ว…”ซิ่งเอ๋อร์รีบดึงมือบิดาตนเองกลับมาทันที “ท่านพ่อ ท่านรับเอาไว้เถิด พวกเขาไม่ใส่ใจกับหนึ่งร้อยตำลึงเงินนี้นักหรอก”นางตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเพื่อให้ตนเองได้มีชีวิตที่ดีขึ้นถึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1900

    “ลูกเอ๋ย หมอเองก็ดูอาการแล้ว บอกว่าไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาได้ หนำซ้ำชีพจรของเขาก็ยิ่งอ่อนลงทุกที แม้แต่หมอยังบอกว่าน่ากลัวว่าจะไม่รอด พวกเราอย่าเปลืองเงินไปมากกว่านี้อีกเลย”ชายชราพูดอย่างจนใจ บ้านของพวกเขาเดิมทีก็อยู่กันอย่างลำบาก ค่าหมอที่ต้องจ่ายไปก็เกินกำลังจะรับได้ ลูกสาวคนนี้ก็ยังยืนกรานว่าต้องช่วยชายคนนี้ให้ได้ เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว ต่อให้ไม่เต็มใจก็ยังต้องรับปากแต่ซิ่งเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของบิดา กลับส่ายหน้าอย่างหนักแน่น“ท่านพ่อ ไม่ได้เจ้าค่ะ พวกเราต้องช่วยเขาให้ฟื้นให้ได้!”นางไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน ต้องออกเรือนไปแต่งกับชาวนาสามัญนับตั้งแต่ได้ไปเมืองหลวง นางก็ตัดสินไว้แล้วว่านางจะต้องหาทางมีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้!ในตอนนี้เอง นางกลับบังเอิญพบคุณชายผู้สูงศักดิ์ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่เชิงเขาต่อให้เขาจะได้บาดเจ็บ แต่จากเสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมถึงใบหน้าและรัศมี ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอนหากช่วยเขาไว้ได้ละก็ ด้วยบุญคุณช่วยชีวิตนี้ ไม่แน่ว่านางอาจได้กลายเป็นหงส์โบยบินขึ้นสู่ที่สูงก็เป็นได้!ในนิยายก็เขียนกันไว้แบบนั้น นางจึงเชื่อว่านี่คือโชคชะตาข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1899

    อันที่จริงใช่ว่าฉู่จวินถิงไม่รู้จักเซียวเหวินเช่ออย่างไรเสียเขาก็คือสามีของเซี่ยจือหลาน ไทเฮาเองก็เมตตาเซี่ยจือหลานเป็นพิเศษ ดังนั้นในสายตาของเสด็จพ่อ หากเซียวเหวินเช่อเป็นคนมีความสามารถจริง ส่งเสริมสักหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเพราะเหตุนี้เอง แม้ในการสอบจอหงวนที่ผ่านมาเขาจะได้อันดับไม่สูงนัก แต่ตำแหน่งงานที่ได้รับกลับไม่เลวเลยยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเสียงของเซียวเหวินเช่อภายนอกก็ดีอย่างยิ่ง มิตรสหายต่างก็ยกย่องเขารู้หน้าไม่รู้ใจ พอมาวันนี้เมื่อรู้ว่าเขากลับทำเรื่องเช่นนี้ได้ ช่างสวนทางกับภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกต่อคนนอกอย่างสิ้นเชิง“ก่อนอื่นต้องพาเซียวเหวินยวนกลับสู่ร่างให้ได้ ทุกอย่างจะกระจ่างเอง”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองวิญญาณของเซียวเหวินยวนที่อยู่ภายนอก พูดไปแล้วก็น่าสนใจ นับตั้งแต่คนผู้นี้ออกจากจวนสกุลเซียว กลับถามนางบนรถม้าไม่น้อยแต่พอถึงจวนฉู่อ๋อง หลังฉู่จวินถิงขึ้นรถม้าแล้ว เซียวเหวินยวนก็ออกไปนั่งด้านนอกคู่กับอวิ๋นหยางแทนมองออกว่าทั้งตอนเป็นคนหรือเป็นวิญญาณ เซียวเหวินยวนก็ยังรักษามารยาทน่าชื่นชมเอาไว้อวิ๋นหยางไม่รู้เลยว่าขณะควบม้าอยู่นั้น มีวิญญาณนั่งข้าง ๆ เขาอยู่ เขาเพีย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1898

    ชิงเถิงเข้าใจในทันใด พูดยิ้ม ๆ ว่า “บ่าวจะเข้าไปถามเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ”ไม่นานนัก ฉู่จวินถิงก็ขึ้นมานั่งบนรถม้าด้วยเขาคุ้นชินกับการโอบนางไว้ในอ้อมแขน หนำซ้ำยังจับมือของนางเล่นพลางเอ่ยถาม “จะออกไปที่ใดหรือ?”“วันนี้จะไปช่วยคนคนหนึ่ง เรื่องนี้ช่างยุ่งเหยิงเหลือเกิน ท่านได้ฟังแล้วต้องตกใจแน่”ซ่งรั่วเจินกะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้างดงามเปี่ยมความภาคภูมิใจ สายตาดุจม่านหมอกกลับเจือรอยยิ้มเจ้าเล่ห์หลายส่วนฉู่จวินถิงให้ความร่วมมืออย่างมาก เอ่ยปากอย่างตกตะลึง “เรื่องอะไรลึกลับเพียงนั้น? ฮูหยินบอกข้าทีเถิด”“เซี่ยจือหลาน ท่านรู้จักใช่หรือไม่?”ฉู่จวินถิงได้ยินชื่อคุ้นหู ก่อนจะพยักหน้าตอบ “บิดาของนางเคยเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องไทเฮาเมื่อหลายปีก่อน ไทเฮาทรงสำนึกในบุญคุณนั้นอยู่เสมอ จึงดูแลเซี่ยจือหลานเป็นพิเศษ”“วันนี้เจ้าคงได้เจอนางมาใช่หรือไม่? ข้าได้ยินว่าสามีของนางเสียชีวิต จึงสั่งคนไปเยี่ยมไว้แล้ว”ปกติเขางานยุ่ง เรื่องการไปปลอบขวัญผู้วายชนม์เช่นนี้ก็มักจะมอบให้ผู้อื่นไปแทน หรือวันนี้รั่วเจินได้ไปงานนั้นหรือ?“หม่อมฉันสงสัยว่าเซียวเหวินยวนถูกเซียวเหวินเช่อฆ่าตาย” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1897

    ซ่งรั่วเจินเข้าใจความกังวลของเซี่ยจือหลาน จึงยิ้มบาง ๆ แล้วกล่าวว่า“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เสด็จย่าหรือเสด็จแม่ออกหน้า ยังมีคนที่สามารถช่วยเจ้าได้อีกคน”“คนที่สามารถช่วยได้อีกคน?” เซี่ยจือหลานสงสัยซ่งรั่วเจินพยักหน้า “เซียวเหวินยวน”“พี่ใหญ่? แต่พี่ใหญ่ตายไปแล้วมิใช่หรือ? จะช่วยข้าได้อย่างไร?”ในสายตาของเซี่ยจือหลานเต็มไปด้วยความสงสัย ภายในใจคิดว่าพระชายารัชทายาทจะเชิญวิญญาณกลับมาช่วยอย่างนั้นหรือ? แต่ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ จะทำเรื่องเช่นนั้นได้จริงหรือ?“ในเมื่อแม่สามีของเจ้าแกล้งหมดสติไปแล้ว เจ้าก็ฉวยโอกาสนี้ตรวจนับสินเดิมของเจ้าทั้งหมด ทำบัญชีออกมาเป็นรายการให้ชัดเจน”“ให้คนของวังหลวงนับต่อหน้าพวกเขา ถึงตอนนั้น วังหลวงหนึ่งชุด และเจ้าถือไว้อีกหนึ่งชุด เช่นนี้สกุลเซียวย่อมไม่กล้าแตะต้องสินเดิมของเจ้าโดยพลการ”“เมื่อเป็นเช่นนี้ รอเซียวเหวินยวนกลับมา ไม่ว่าเจ้าจะเลือกออกจากสกุลเซียว หรือจะขอหย่า ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียอะไร”เดิมทีเซี่ยจือหลานรู้สึกว่าการจากไปเฉย ๆ ยังมีความแค้นติดค้างอยู่ในใจ ไม่คิดว่าจะยังอีกวิธีหนึ่ง นี่จึงรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างสุดระงับต่อให้ต้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status