Share

บทที่ 4

Author: จี้เวยเวย
“เรื่องนี้โทษท่านแม่ไม่ได้ พูดได้เพียงว่าหลินจือเยว่แสดงละครได้อย่างยอดเยี่ยม หน้าหนาไร้ยางอาย!”

ซ่งรั่วเจินยิ่งพูดยิ่งรังเกียจ โชคดีช่วงเวลาที่นางทะลุมิติเข้ามาในหนังสือยังมิได้แต่งเข้าจวนสกุลหลิน หากแต่งเข้าไปแล้ว นั่นต่างหากถึงจบสิ้น!

หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกสาวผู้เพียบพร้อมของตนพูดถ้อยคำหล่านี้ออกมา ยิ่งมั่นใจว่านางกำลังเสียใจ น้ำตาคลอหน่วย “ลูกสาวชะตาอาภัพของข้า...”

แต่น้ำตาที่หางตายังไม่ทันตกก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก ของทั้งใหญ่ทั้งเล็กถูกยกเข้ามา หยาดน้ำตาหยุดชะงักในทันใด

“เจินเอ๋อร์ นี่ นี่คืออะไรกัน?”

“อย่างไรเสียก็ไม่แต่งแล้ว สิ่งของย่อมต้องนำกลับมา ฉินซวงซวงคนนั้นพูดทุกคำว่ารักชอบท่านโหว ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่านางจะยอมหักใจชดเชยจวนโหวโล่งโจ้งนั่นหรือไม่!”

ซ่งรั่วเจินเคยอ่านต้นฉบับหนังสือมาก่อน ย่อมรู้ว่าฉินซวงซวงก็คือคนมีอุปนิสัยชมชอบความร่ำรวยคนหนึ่ง หาไม่แล้วเพียงนางเอ่ยปาก หลินจือเยว่ก็ต้องถอนหมั้นนางเป็นแน่!

แต่นางกลับไม่ทำ ก็เพื่อเงินของจวนสกุลซ่ง

บัดนี้เงินตกอยู่ในมือนางแล้ว ฉินซวงซวงทางหนึ่งคิดจะหลับนอนกับบุรุษของเจ้าของร่างเดิม ทางหนึ่งใช้จ่ายเงินของเจ้าของร่างเดิม ฝันกลางวันอยู่แท้ ๆ !

รักหนักแน่นยิ่งกว่าทองงั้นหรือ?

นางทำให้พวกเขาสมปรารถนาแล้ว!

หลิ่วหรูเยียนตกตะลึงอย่างสุดระงับ แต่ไหนแต่ไรมาเจินเอ๋อร์เป็นคนมีอุปนิสัยนุ่มนวล วันนี้ถึงขั้นทำเรื่องนอกลู่นอกทางเช่นนี้ได้?

“น้องหญิงห้าพูดได้ดี! บนโลกนี้ที่ใดไม่มีหญ้า ไยต้องแขวนคอตายบนต้นไม้เอียงกระเท่เร่นี้ด้วยเล่า? ข้าว่าหลินจือเยว่คนนั้นมิใช่คนดีอันใด!”

ซ่งอี้อันกลับเห็นด้วยกับอุปนิสัยเฉียบขาดของซ่งรั่วเจิน ร้องไห้คร่ำครวญในเวลานี้ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อหลินจือเยว่ไม่ยอมแต่ง มิสู้หาเขยที่ดีคนใหม่ ย่อมดีกว่าตกเข้ากองเพลิงชั่วชีวิต

ซ่งรั่วเจินมองชายสุภาพหล่อเหลาตาบอดทั้งสองข้างตรงหน้า เพียงแวบเดียวก็จำได้ว่าเขาคือพี่ชายคนรองของเจ้าของร่างเดิม

เดิมทีเขาก็เป็นคนมีพรสวรรค์มากความสามารถ เชี่ยวชาญท่วงทำนองบทกวีไปทุกด้าน มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งเมืองหลวงตั้งแต่เด็ก อาจารย์ที่เคยสอนเขาล้วนกล่าวชมไม่ขาดปาก ซ้ำยังพูดว่าเขามีพรสวรรค์เป็นถึงจอหงวนอย่างแน่นอน

ทว่าน่าเสียดาย...ก่อนหน้านี้คู่หมั้นถูกลวนลาม เพื่อปกป้องคู่หมั้นเขาจึงต่อสู้กับคน อีกฝ่ายอาศัยว่ามีคนมากกว่า สบโอกาสทุบเข้าที่สมองของเขา

แม้สามารถปกป้องชื่อเสียงของคู่หมั้นจ้าวซูหว่านเอาไว้ได้ แต่เพราะเหตุนี้จึงต้องสูญเสียการมองเห็นไป...

มองเห็นซ่งอี้อันยื่นมือออกมาต้องการปลอบตนเองแต่คว้าโดนอากาศ ซ่งรั่วเจินขยับขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างจนใจ “ข้าอยู่นี่”

ซ่งอี้อันเก้อกระดากอย่างเห็นได้ชัด “น้องหญิงห้า ก็แค่ถอนหมั้นมิใช่หรือ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก”

ซ่งรั่วเจินสบโอกาสจับมือซ่งอี้อัน จับชีพจรตรวจอาการของเขา รู้ว่าศีรษะของเขาถูกกระแทกอย่างรุนแรงจึงทำให้เลือดอุดตันส่งผลให้ตาบอดทั้งสองข้าง ขอเพียงก้อนเลือดละลายก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ นี่ถึงถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง

ยังมีทางรักษา!

“คุณชายรอง มีจดหมายจากตระกูลจ้าวขอรับ”

“ใช่จดหมายของหว่านเอ๋อร์หรือไม่?” ซ่งอี้อันดีใจขึ้นมาแล้ว “น้องหญิงห้า เจ้าช่วยข้าอ่านดูเถอะว่าเขียนอะไร ใช่หรือไม่ว่าช่วงนี้ติดงานที่จวนจึงมิได้มาหาข้าอยู่ตลอด?”

ซ่งรั่วเจินเปิดจดหมายในมือ มองเห็นจ้าวซูหว่านต้องการถอนหมั้นก็ไม่แปลกใจ เดิมทีหญิงคนนี้ก็ทำเพื่อผลประโยชน์ ก่อนหน้านี้มั่นใจว่าซ่งอี้อันต้องมีพรสวรรค์เป็นถึงจอหงวน เพื่อขยับฐานะขึ้นเป็นฮูหยินของจอหงวน รบเร้าตอแยเจ้าของร่างเดิมทั้งวี่ทั้งวันขอมาจวนสกุลซ่ง เพื่อให้ได้มาสบตากับซ่งอี้อัน

บัดนี้เห็นว่าสกุลซ่งกำลังลำบาก จึงอยากขอถอนหมั้น ส่วนเรื่องถูกคนลวนลาม เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวนางหาเรื่องเอง เพียงแต่ถูกซ่งอี้อันพบเข้าจึงแสร้งเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำให้พี่รองของนางกลายเป็นเช่นนี้!

กระนั้น ในต้นฉบับจ้าวซูหว่านมิได้ถอนหมั้นวันนี้ แต่เป็นหลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน คงมิใช่เพราะเรื่องระหว่างนางและจวนโหว ทำให้จ้าวซูหว่านขอถอนหมั้นล่วงหน้าหรอกกระมัง?

“จ้าวซูหว่านขอถอนหมั้น”

พูดคำนี้ออกมา ภายในห้องพลันเงียบกริบ

ซ่งรั่วเจินอ่านเนื้อความในจดหมายออกมา ทุกคำของจ้าวซูหว่านล้วนพูดว่าสกุลจ้าวบีบคั้นนางให้ถอนหมั้น ส่วนนางเป็นผู้บริสุทธิ์มีความรักลึกซึ้ง

“อี้อันต้องตาบอดก็เพราะนาง สกุลจ้าวถึงขั้นขอถอนหมั้นในตอนนี้ ช่างลืมบุญคุณคน ขาดคุณธรรมจริงๆ!”

หลิ่วหรูเยียนเสียใจเรื่องซ่งรั่วเจินอยู่แล้ว บัดนี้ได้ยินข่าวร้ายอีกครั้ง เป็นลมหมดสติอย่างสุดระงับ

“ท่านแม่!”

“ฮูหยิน!”

ซ่งรั่วเจินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง บัดนี้จวนสกุลซ่งวุ่นวายอย่างแท้จริง กระนั้นในเมื่อนางมาแล้ว ก็ไม่สามารถปล่อยให้คนเหล่านี้ทำลายสกุลซ่งได้!

อย่างไรเสียสกุลซ่งก็เป็นตระกูลใหญ่ มีกิจการร่ำรวย พี่ใหญ่วิชายุทธ์แข็งแกร่ง พี่รองมีพรสวรรค์เป็นจอหงวน พี่สามแม้ไม่มีความสามารถอะไร แต่ก็เห็นเจ้าของร่างเดิมเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ บัดนี้นางมาแล้ว อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ก็ต้องช่วยสกุลซ่งออกจากโคลนตม!

พระเอกนางเอกในหนังสืออะไร นางซ่งรั่วเจินมาแล้ว ย่อมไม่อนุญาตให้ทั้งครอบครัวกลายเป็นตัวประกอบ!

จนกระทั่งกลับจากพาหลิ่วหรูเยียนไปส่งที่เรือน ซ่งอี้อันยังนั่งหน้าซีดดังเดิม ไม่รู้กำลังคิดเรื่องใด

“พี่รอง ที่ใดในโลกไม่มีหญ้า ไยต้องโหยหาไม้กิ่งเดียวด้วยเล่า?” ซ่งรั่วเจินตบบ่าซ่งอี้อัน “ไม่มีคนนี้ มากที่สุดก็หาภรรยาอื่น ใต้หล้ากว้างใหญ่เพียงนี้ หรือว่ายังหาไม่ได้อีก?”

ซ่งอี้อัน “...” ดีร้ายอย่างไรก็ไม่เห็นต้องย้อนคำพูดเขาเลยนี่

“ไม่ได้การ ข้ามิอาจยอมรับได้ ข้าจะไปถามสกุลจ้าวให้ชัดเจน! ในเมื่อจ้าวซูหว่านยินยอม พวกเขาถือสิทธิ์อะไรห้ามมิให้นางแต่งงาน? ก่อนนี้พวกเขามิได้พูดเช่นนี้!”

ซ่งจืออวี้โมโหเดือดดาล เดินออกไปภายนอก

“พี่สาม ไม่ต้องไปแล้ว” ซ่งรั่วเจินพูดขึ้น

ซ่งจืออวี้ไม่ยอมแพ้ “แต่...”

“น้องสาม เลิกโง่ได้แล้ว เจ้าคิดว่าหากหว่านเอ๋อร์ยอมแต่กับข้าจริง สกุลจ้าวจะส่งจดหมายเช่นนี้มาหรือ? หรือพวกเขาไม่กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง?”

ซ่งอี้อันหัวเราะเยาะตนเองทีหนึ่ง “นับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บ หว่านเอ๋อร์มาเยี่ยมข้าครั้งหนึ่ง หลังรู้ว่าข้าตาบอดรักษาไม่ได้ก็ไม่มาอีกเลย ข้าเองก็รับรู้อยู่ในใจแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง”

บัดนี้ได้รับจดหมายนี้ ยังมีอันใดไม่เข้าใจอีก? นางตัดสินใจเช่นนี้ ไยพวกเราต้องไปพูดจาให้ไม่พอใจกันด้วยเล่า?”

“พี่รอง แต่ท่านกลายเป็นเช่นนี้ก็เพราะนาง นางลืมบุญคุณคนเช่นนี้ช่างไม่คู่ควรเป็นคนจริง ๆ !”

ซ่งจืออวี้ยกกำปั้นทุบโต๊ะ โต๊ะแปดเซียนถูกทุบจนแหลกกลับยังไม่สามารถคลายความแค้นภายในใจของเขาได้ “แต่ละคนล้วนสารเลว ข้าอยากฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ เสีย!”

ซ่งรั่วเจินเห็นซ่งอี้อันสุขุมใจเย็น แม้สับสนว้าวุ่นภายในใจ แต่กลับไม่ขาดสติ อดมองประเมินเขาสูงขึ้นอีกขั้นไม่ได้ สมเป็นผู้มีพรสวรรค์ของจอหงวนที่ทุกคนชื่นชมจริงๆ

“พี่รอง จ้าวซูหว่านถอนหมั้นเป็นเพราะนางตาบอดเอง เดิมทีฐานะของนางก็ไม่คู่ควรกับท่านอยู่แล้ว บัดนี้ถอนหมั้นก็ดี อีกเดี๋ยวรักษาตาท่านหายแล้ว นางก็จะไม่ได้อันใดไปเลย!”

“สตรีเช่นนี้ไม่คู่ควรแต่งงานกับท่าน ไม่คู่ควรเข้าบ้านสกุลซ่งของพวกเรา!”

“น้องหญิงคนดี” ซ่งอี้อันรู้สึกอบอุ่นภายในใจ คิ้วกลับขมวดมุ่นไม่คลายออกจากกัน “หมอทั้งเมืองล้วนมาดูอาการแล้ว ดวงตาคู่นี้ของข้าไม่มีหวังแล้ว...”

แต่ไรมาเขาฮึกเหิมมีชีวิตชีวา รอคว้าชัยชนะหลังสอบขุนนาง ทว่าบัดนี้กลายเป็นคนตาบอดแล้ว ความหวังสลายไปแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องเป็นขุนนาง แม้แต่ดูแลตนเองยังเป็นเรื่องยาก กลายเป็นภาระของทั้งครอบครัว...

“พี่รอง ข้าสามารถรักษาตาของท่านให้หายได้!” ซ่งรั่วเจินพูด

ซ่งอี้อันชะงักเบาๆ หลุดหัวเราะออกมา “น้องหญิงห้า พี่สามรู้ว่าเจ้าหวังดี ทว่าตั้งแต่เด็กเจ้าก็ไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อน เช่นนั้นจะรักษาอาการป่วยของข้าได้อย่างไร?”

“ข้าพูดว่ารักษาได้ก็คือรักษาได้ ท่านเชื่อข้าเถอะ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1354

    “ตอนนั้นข้าได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ เกือบทะเลาะต่อยตีกับสวีปินคนนั้น แต่ฟ่านหัวหรงห้ามไว้”สีหน้าคุณชายใหญ่สกุลลู่เคร่งขรึมลงไป “มิน่าเล่า คนดีย่อมคบคนดี คนชั่วย่อมคบคนชั่ว คบหากับคนชั่วกลุ่มนี้ เขาจะดีได้อย่างไร?”“เมื่อแรกเจ้าสมควรต่อยตีพวกเขาแรงๆ สักที หลังกลับมาแล้วก็แจ้งพวกเรา สวีปินไอ้ชั่วคนนั้นข้าเองก็รู้จัก ไม่ใช่คนดีอะไร!”ลู่เป่ยชวนพยักหน้า บัดนี้เขานึกเสียใจภายหลังหากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ เมื่อแรกก็ควรให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ เอ่ยเตือนพี่หญิงไม่ให้ฟ่านหัวหรงไปอยู่รวมกับคนชั่วเหล่านี้ นี่ก็เกิดเรื่องไม่ผิดไปดังคาดทุกคนได้เห็นฟ่านหัวหรงรีบเข้ามาอย่างว่องไวฟ่านหัวหรงคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงมาถึงก็จะได้พบการต้อนรับยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความกังวลทวีคูณยิ่งขึ้น“หัวหรงคารวะท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่”ใต้เท้าลู่มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาแวบหนึ่ง ภายในสายตาเปี่ยมความเยาะหยัน “ฟ่านโหวงานยุ่ง ถึงขั้นมีเวลามาที่สกุลลู่ของพวกเรากระนั้นรึ?”“ท่านพ่อ ลูกเขยไม่เข้าใจความนัยของท่าน”ฟ่านหัวหรงเผยสีหน้าจริงใจ “ลูกเขยได้รับคำสั่งให้ไปทำธุระที่คูเมืองอื่น วันนี้เพิ่งกลับถึงเมืองหลวง ได้ยิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1353

    “ไอ้สารเลวคนนั้นถึงขั้นกล้ามา?”ใต้เท้าลู่ได้ยินข่าวการมาของฟ่านหัวหรงแล้ว สีหน้าเย็นชาลงไป“มาแล้วก็ดี ประเดี๋ยวฉิงเสวี่ยเห็นแล้วเขาจะไม่สบอารมณ์ ไม่สู้รีบตัดให้ขาดไป ให้เขาเขียนหนังสือหย่า แยกย้ายจากไปด้วยดี!”ลู่ฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วย “ก่อนหน้านี้สาบานต่อหน้าพวกเรา จะดีต่อฉิงเสวี่ย ปรากฏว่าลับหลังกลับทำเรื่องพรรค์นี้ นางแพศยาคนนั้นตั้งครรภ์ลูกของเขาแล้ว ยังคิดจะหลอกฉิงเสวี่ยไปตลอด!”“ข้ารู้สึกไม่คุ้มค่าแทนฉิงเสวี่ยจริงๆ เมื่อแรกทั้งๆ ที่เลือกคุณชายน้อยสกุลต้วนไว้ให้ฉิงเสวี่ย แต่เขาตามตอแยไม่เลิกรา”“แต่งงานได้เพียงไม่นานก็เลิกทะนุถนอมแล้ว คำพูดของผู้ชายไม่น่าเชื่อถือจริงๆ!”เพียงสิ้นเสียงของลู่ฮูหยิน ใต้เท้าลู่และลูกชายสองสามคนของสกุลลู่ต่างมองหน้ากัน ครู่ต่อมาอยากอธิบาย แต่นึกถึงอารมณ์ของลู่ฮูหยิน แต่ละคนล้วนเลือกจะเงียบปากลง“เพราะฉิงเสวี่ยไม่ตั้งครรภ์มาโดยตลอด จึงรู้สึกผิดต่อเขาอยู่ในใจ เพื่อรักษาอาการป่วย แต่ไหนแต่ไรมาไม่รู้นางกินน้ำแกงยาไปมากน้อยเพียงใด”“ข้าที่เป็นแม่ล้วนเห็นอยู่ในสายตา ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกฉิงเสวี่ยรู้สึกผิดต่อเขา ยังคิดเสนอให้เขารับอนุจิตใจดีมาคนหนึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1352

    “เกิดเรื่องใดขึ้น?” ฟ่านหัวหรงขมวดคิ้วเอ่ยถาม“ท่านโหว ฮูหยินแท้งขอรับ”ฟ่านหัวหรงเบิกตากว้าง ใบหน้าเปี่ยมความเหลือจะเชื่อ “อะไรนะ?”“เมื่อหลายวันก่อนตอนฮูหยินไปเดินเล่นกับฮูหยินน้อยสกุลเมิ่งไม่ทันระวังลื่นตกบันได ตอนนั้นสกุลลู่เชิญหมอหลวงมา ทุ่มเทไปไม่น้อยถึงสามารถรักษาเด็กเอาไว้ได้”“คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ วันนี้ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง หมอหลวงรับมือไม่ทัน ไม่อาจรักษาเด็กเอาไว้ได้ขอรับ”พ่อบ้านเผยสีหน้าเจ็บปวดระคนเสียดาย เขารู้ท่านโหวและฮูหยินเฝ้ารอลูกคนนี้มากเพียงใดแต่งงานกันมาหลายปีในที่สุดก็ท้องแล้ว กลับตายไปเช่นนี้ ใครจะสามารถยอมรับได้เล่า?“ฮูหยินตั้งครรภ์ตั้งแต่ยามใด?”ฟ่านหัวหรงตึงเครียดขึ้นมา ต่อให้เขาจากไประยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงครึ่งเดือน เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินฉิงเสวี่ยพูดเรื่องตั้งครรภ์เลยเล่า?“ฮูหยินตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว ท่านโหวไม่รู้หรือขอรับ?”คราวนี้คนงุนงงกลับกลายเป็นพ่อบ้าน ก่อนหน้านี้ทั้งๆ ที่ฮูหยินเชิญหมอมาตรวจแล้ว เพราะคนไม่ค่อยสบาย ไม่อยากอาหารมาโดยตลอดจนกระทั่งได้ยินว่ามีข่าวดี ฮูหยินดีใจอย่างมาก ต่อมาฮูหยินตั้งใจสั่งคนเตรียมมื้อเย็นอู้ฟู่ อีกทั้งยัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1351

    ภายในสายตาชุยอิงเอ๋อร์สะท้อนไอแค้น นางไม่รู้ว่าลู่ฉิงเสวี่ยคนนั้นมีดีอันใด ก็แค่ชาติกำเนิดสูงศักดิ์อยู่บ้างไม่ใช่หรือ?เว้นเสียแต่เรื่องนี้ นางไม่มีแม้แต่ความใจกว้างอันเป็นพื้นฐานของนายหญิง ทั้งๆ ที่แต่งงานกันมาหลายปีแล้วกลับยังไม่อาจตั้งครรภ์ ยังขอให้หัวหรงครองคู่กับนางไปชั่วชีวิตอีกด้วยหญิงริษยาเช่นนี้ควรถูกหย่า แต่หัวหรงกลับปกป้องนางอยู่ตลอดทว่า...ต่อให้ปกป้องลู่ฉิงเสวี่ยแล้วอย่างไร?ตอนนี้นางตั้งครรภ์เลือดเนื้อของฟ่านหัวหรง รอเด็กคนนี้คลอดออกมา นางไม่เชื่อหรอกว่าตนเองจะเข้าประตูใหญ่ของสกุลฟ่านไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ฟ่านหัวหรงคิดว่าเขาปกปิดไว้ดีมากแล้ว แท้จริงแล้วลู่ฉิงเสวี่ยรับรู้การมีตัวตนของนางตั้งนานแล้วหญิงคนนั้นภายนอกสง่างาม ท่าทางสูงศักดิ์และไม่ต่อสู้แย่งชิง ไม่รู้ว่าบัดนี้หลบไปร้องไห้จนกลายเป็นเช่นไรแล้ว!ถึงตอนนั้นลูกของนางสืบทอดกิจการของสกุลฟ่าน ต่อให้นางเข้าบ้านได้เป็นเพียงอนุ แต่ด้วยฝีมือของนาง จะต้องสง่างามยิ่งกว่านายหญิงที่ไม่อาจคลอดลูกได้อย่างนางแน่!คิดได้ดังนี้ ชุยอิงเอ๋อร์หัวเราะออกมา ยกมือโอบคอของฟ่านหัวหรง เป็นฝ่ายมอบริมฝีปากหอมให้“ขอเพียงภายในใจท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1350

    จากนั้นฮูหยินผู้เฒ่าลู่ ลู่ฮูหยินไปจนถึงลู่ฉิงเสวี่ยได้รู้ข่าวนี้ ภายในใจรู้สึกตกตะลึง“พวกเขาถึงขั้นกลับมาแล้ว?” ลู่ฮูหยินหรี่ตาลง พูดด้วยความโมโห “วันนี้ข้าจะหักขาไอ้สารเลวคนนั้น!”“เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม ฟังความเห็นของฉิงเสวี่ยก่อน”ฮูหยินผู้เฒ่าลู่เห็นท่าทางโมโหจะไปตีคนด้วยตนเองของลูกสะใภ้ ภายในสายตาสะท้อนความระอาลูกสะใภ้คนนี้ดีไปหมดทุกอย่าง ก็แค่วู่วาม ต่อให้เป็นนายหญิงสกุลลู่มาหลายปีเพียงนี้ อุปนิสัยกลับไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดลู่ฮูหยินหันหน้ามองทางลู่ฉิงเสวี่ยแล้วถามว่า “ฉิงเสวี่ย เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าอยากฉวยโอกาสในวันนี้หย่ากับพวกเขา ให้ทุกคนช่วยข้าปิดบังข่าวลูกในท้อง ให้เขาคิดว่าไม่มีเด็กคนนี้เจ้าค่ะ”สีหน้าลู่ฉิงเสวี่ยเผือดซีด สายตากลับมุ่งมั่น นางไม่อยากอดทนอีกต่อไปแล้วอันที่จริงนับตั้งแต่ได้รู้ว่าถูกหักหลัง นางก็ไม่เคยคิดจะกลับมาคืนดีกัน เพียงแต่เพราะความรู้สึกผูกพันตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่อาจตัดขาดได้ในทันทีดังนั้นนางจึงใช้เวลาระยะหนึ่ง มองดูเขาหลอกตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองดูฟ่านหัวหรงคอยตีสองหน้าอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสอง ในที่สุดตอนนี้นางก็ตัดใจได้อย่างสมบูรณ์แล้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1349

    ลู่เป่ยชวนดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปของมารดาตน รู้สึกเอือมระอาอย่างอดไม่ได้เขาคุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้ของมารดาตนแล้ว แต่พี่สะใภ้อาจยังไม่คุ้นชินกระมังจากนั้น ซ่งรั่วเจินกลับพูดราวกับมีศัตรูคนเดียวกันก็มิปาน “ท่านป้า ข้าคิดว่าท่านพูดถูกแล้ว ชายใจทรามลืมบุญคุณคนพรรค์นี้ สมควรสั่งสอนดีๆ จะปล่อยให้เขามีจุดจบที่ดีไม่ได้เป็นอันขาดเจ้าค่ะ!”“หากไม่ใช่เพราะเขา ญาติผู้พี่ก็ไม่ต้องลำบาก เขาไม่เพียงหลอกญาติผู้พี่ ยังทำผิดต่อความเชื่อใจที่พวกท่านมอบให้เขาอีกด้วยเจ้าค่ะ”“ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเสด็จพ่อให้เขาออกไปทำงานราชการ เขากลับพาสาวงามไปด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าทำงานหรือเป็นคนดีก็ทำไม่ได้!”ลู่ฮูหยินคิดไม่ถึงเลยว่าซ่งรั่วเจินจะพูดจาเช่นนี้ ตอนแรกชะงักไป ต่อมาใบหน้าเผยรอยยิ้ม“เจินเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ป้าได้พบเจ้าไม่บ่อยนัก คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นแม่นางฉลาดมากคนหนึ่ง”“ครั้งนี้ขอบคุณเจ้าที่ช่วยญาติผู้พี่เจ้า ข้าไม่รู้จะตอบแทนเจ้าเช่นไร พอดีสองวันนี้ข้าได้โสมร้อยปีมา เจ้าเอากลับไปบำรุงร่างกายดีๆ เถอะ”ลู่ฮูหยินคิดว่าเมื่อครู่เห็นซ่งรั่วเจินรักษาอาการป่วยให้ฉิงเสวี่ย สีหน้ากลายเป็นขาวซีด มองออกว่าเสีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status