แชร์

บทที่ 761

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“คุณชายใหญ่ตระกูลหลิงเดิมสมควรถึงเมืองหลวงแล้ว แต่กลับไม่มีข่าวคราวกลับมาเสียที หลิงเชี่ยนเอ๋อร์จึงบอกว่าจะลงใต้มารับพี่ชายของนางด้วยตนเอง ประกอบกับข้ากับราชครูก็จะลงใต้พอดี หลิงไท่ซือจึงไปหาเสด็จพ่อ บอกว่าไม่วางใจ เดินทางด้วยกันปลอดภัยกว่า”

ฉู่จวินถิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ออกมา เดิมทีเช้าวันนี้เขากับราชครูกู้ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อพร้อมกันเสร็จก็เตรียมจะจากไปแล้ว หลิงไท่ซือคำนวณเวลามาถึงอย่างเหมาะเจาะ เรื่องนี้จึงถูกกำหนดลงเช่นนี้

“หลิงไท่ซือออกหน้าด้วยตนเอง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผนมาแล้ว เกรงว่าการเดินทางครานี้คงจะยุ่งยาก” ซ่งรั่วเจินกล่าว

“ไม่เป็นไร เดิมก็ต้องการตรวจสอบปัญหาของพวกเขาอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นฝ่ายเอาตัวมาส่งถึงที่เองก็ใช้โอกาสนี้ตรวจสอบเสียเลยก็แล้วกัน”

ฉู่จวินถิงแววตาเคร่งขรึม ยิ่งอยู่ข้างกายก็ยิ่งแสดงพิรุธออกมาได้ง่าย

“ไฉนเช่ออ๋องก็อยู่ด้วยเล่า?”

ซ่งรั่วเจินกังขา หลิงเชี่ยนเอ๋อร์เดิมก็หมายตาฉู่จวินถิงอยู่แล้ว เวลาแบบนี้จะหาทางตามมาด้วยก็ไม่แปลก แต่เช่ออ๋องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เหตุใดจึงร่วมทางมาด้วย?

“เสด็จพ่ออยากถามเรื่องที่เช่ออ๋องปลดพระชายาอยู่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 762

    “เช่ออ๋องไม่ได้หย่านางโดยตรง เพียงลดขั้นเป็นชายารอง ทั้งยังยอมก้มศีรษะให้ข้าเพราะเรื่องนี้ ตระกูลเฉียนย่อมเห็นแก่น้ำใจตรงนี้”“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ถูกหลอกใช้แล้วน่ะสิเพคะ?”ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วแน่น คนในราชวงศ์พวกนี้ไม่มีใครธรรมดาสักคนจริงๆ ด้วย ถึงจะดูเหมือนมีความคิดเรียบง่าย แท้จริงกลับมีความคิดคดเคี้ยว เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย!ฉู่จวินถิงเห็นความขุ่นเคืองจากสีหน้าซ่งรั่วเจินแล้วก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ “เช่ออ๋องตั้งใจจะเปลี่ยนตัวชายาอยู่แล้ว แต่แค่กำลังมองหาโอกาสที่เหมาะสมอยู่เท่านั้น คนที่หมายตาไว้ถ้าไม่ใช่ข้าก็เป็นองค์ชายใหญ่”“ยามนี้องค์ชายใหญ่เก็บงำประกาย ข้าเดิมก็เป็นตัวเลือกของเขาอยู่แล้ว ผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ในความคาดหมาย เรื่องนี้ย่อมทำให้แผนการของเขาสำเร็จลุล่วง แต่น้ำสามารถหนุนเรือได้ฉันใดก็สามารถคว่ำเรือได้ฉันนั้น”ซ่งรั่วเจินได้ยินดังนั้นก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วน แผนลับเหล่านี้ในสายตาของพวกฉู่จวินถิงก็คือแผนการอันเปิดเผยราชครูกู้ทราบว่าครั้งนี้ซ่งรั่วเจินร่วมทางมาด้วย เพิ่งมาถึงก็ได้ยินคนทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องชายารองของเช่ออ๋องกันอยู่ฉู่อ๋องโดดเด่นอย่างมากในหมู่องค์ชาย เพียง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 763

    บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความชื่นมื่น กู้หวยซวี่ฟังพวกเด็กๆ พูดจาเคล้าเสียงหัวเราะ รอยยิ้มไม่เคยคลายไปจากใบหน้า“ท่านตา ท่านอยู่ในราชสำนักมาหลายปี ไม่มีเรื่องสนุกอันใดมาเล่าให้พวกข้าฟังบ้างหรือขอรับ?” ซ่งจืออวี้ถามกู้หวยซวี่ครุ่นคิดแล้วก็ไม่ได้พูดถึงคนอื่น แต่เล่าเรื่องตลกที่กู้ชิงเหยี่ยนและกู้ชิงซิวก่อไว้ในอดีต ทุกคนฟังจนหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง“จริงสิ หลังจากใต้เท้าอวิ๋นหย่าแล้ว อนุอวิ๋นก็เริ่มแผลงฤทธิ์ภายในจวน น้องหญิงห้าเคยได้ยินหรือไม่?”ซ่งจิ่งเซินเอ่ยสัพยอกยิ้มๆ รู้สึกเพียงสมน้ำหน้าใต้เท้าอวิ๋น ภรรยาที่ดีขนาดนั้นกลับไม่ต้องการ มิหนำซ้ำยังโปรดปรานอนุย่ำยีภรรยาเอก เอาอกเอาใจอนุอวิ๋นจนเคยตัว“เพราะเรื่องเงินหรือเจ้าคะ?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “วันนั้นตอนที่คนจวนสกุลอวิ๋นนำเงินสามแสนตำลึงมาส่งก็มีสีหน้าไม่น่ามองแล้ว ได้ยินว่าวันนั้นป้าจางพาคนกลุ่มหนึ่งไปขนสิ่งของจากจวนสกุลอวิ๋น เอิกเกริกกันไม่เบาเชียวละ”“อนุอวิ๋นเห็นสิ่งของถูกขนไปจนหมด ในใจถึงกับหลั่งเลือด ถึงตอนท้ายยังเข้ามาขวางตรงๆ หาว่าป้าจางมาปล้นเอาซึ่งหน้า แทบจะลงไม้ลงมือกันเลยทีเดียว”“แล้วภายหลังเรื่อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 764

    ฉู่จวินถิงมองท่าเรือตรงหน้า คิ้วคมขมวดเข้าหากันน้อยๆ อุทกภัยครานี้ประหลาดมาก ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลที่มีฝนตกชุกแบบช่วงเดือนห้าเดือนหก แต่กลับมีฝนตกต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายวันแล้วไม่เพียงเท่านี้ อากาศหนาวปานนี้ น้ำในแม่น้ำเย็นเฉียบเสียดกระดูก คนที่ถูกน้ำท่วมกวาดไปด้วยยากจะรอดชีวิตมาได้ ถึงจะลี้ภัยมาตลอดทางก็ยังลำบากตรากตรำกว่าช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นหลายเท่าตัวกู้หวยซวี่ย่อมสังเกตเห็นแล้วเช่นกัน เขาตีหน้าขรึม แววตาซับซ้อน “เงินบรรเทาภัยพิบัติจากราชสำนักส่งลงมาแล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไร”“เรือพวกเราขนเสบียงช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาด้วย เมืองใกล้เคียงก็เปิดยุ้งฉางแจกจ่ายเสบียงแล้ว แต่ชาวบ้านกลับยังคงอพยพลี้ภัย จะต้องมีปัญหาในเรื่องนี้เป็นแน่”“ที่นี่อยู่ใกล้เมืองผิงหยางแล้ว พวกเราลงไปดูกันสักหน่อยดีกว่า” ฉู่จวินถิงกล่าว“ดี”ซ่งรั่วเจินก็สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างสถานการณ์ของท่าเรือตรงหน้ากับสถานที่ที่พวกนางผ่านมาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ประจวบกับพี่ห้าบอกว่าตอนนี้ถึงเวลานำเรือจอดเทียบฝั่งพอดี ทุกคนยังอุดอู้มาหลายวันจนจวนจะทนไม่ไหวแล้วขึ้นฝั่งไปเคลื่อนไหวร่างกายสักหน่อย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 765

    คนกลุ่มหนึ่งกำลังขนสินค้าอยู่บนท่าเรือ “พวกเจ้าเร็วหน่อย ยังอยากซื้อข้าวสารอยู่หรือไม่? ถ้ายังชักช้าแบบนี้ ข้าจะเปลี่ยนคนแล้วนะ!”ซ่งรั่วเจินเห็นชายวัยกลางคนร่างผอมแห้งคนหนึ่งแบกสินค้าสองกระสอบไว้บนหลัง เมื่อเห็นว่ายังมีคนวางกระสอบที่สามไว้บนร่างเขาก็อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “พอแล้ว เขาแบกไม่ไหวแล้วนะ!”สินค้าสองกระสอบใหญ่นี้ก็หนักมากอยู่แล้ว หากเป็นคนที่มีเรี่ยวแรงดีก็แล้วไป แต่ชายผู้นี้ผอมแห้งอย่างมาก ใบหน้าซูบตอบ สองตาไร้แวว เห็นได้ชัดว่ากำลังฝืนทนอยู่“ไสหัวไปให้พ้น ธุระกงการอันใดของเจ้า มีที่ให้เจ้าสอดปากด้วยรึ?”ผู้ดูแลไล่ซ่งรั่วเจินด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร สาวใช้คนหนึ่งยังกล้ามายุ่งเรื่องของพวกเขา?เขากำลังจะก้าวเข้ามาก็เห็นฉู่จวินถิงที่อยู่ข้างกายอีกฝ่าย เพียงเหลือบมองครั้งเดียว ผู้ดูแลก็เก็บงำท่าทีลงหลายส่วนโดยไม่รู้ตัวการแต่งกายและสง่าราศีของชายตรงหน้าล้วนไม่สามัญ ไม่คล้ายว่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไปจึงกล่าวว่า “พวกท่านเป็นใคร? นี่เป็นเรื่องในตระกูลเซียวของพวกข้า คนที่ไม่เกี่ยวข้องถอยไปไกลๆ”“โครม!”ขณะกำลังพูดอยู่ ชายที่ซ่งรั่วเจินพูดถึงก่อนหน้านี้ก็ล้มคะมำลงบนพื้น เห็นกับตาว่าสิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 766

    ขณะนั้นทั้งใบหน้าของผู้ดูแลบวมปูดขึ้นมา เขาถูกตีจนฟันร่วงไปสองซี่ยามพูดจาจึงมีลมเล็ดออกมาด้วย “จับพวกนั้นให้ข้า วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนพวกมันให้ได้!”เมื่อคนทั้งโขยงกรูเข้ามา พวกอวิ๋นหยางก็ก้าวออกมาข้างหน้าทันที กลุ่มคนที่มีคนหลากหลายปะปนถูกซัดจนลงไปนอนสะเปะสะปะโอดครวญอยู่บนพื้นภายในเวลาสั้นๆ“น้องสาม เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”เมื่อฉู่เทียนเช่อและหลิงเชี่ยนเอ๋อร์มาถึงก็เห็นภาพความวุ่นวายเช่นนี้จึงอดสงสัยไม่ได้ฉู่จวินถิงเหลือบมองคนทั้งสองแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้อธิบาย หากมองไปทางผู้ดูแลอย่างเย็นชา “เจ้านายของพวกเจ้าคือใคร?”“พวกเจ้าจงใจมาหาเรื่องสินะ?” ผู้ดูแลมองผู้คนที่นอนกองอยู่บนพื้น ในใจลอบตระหนก แต่ครั้นคิดถึงผู้เป็นนายก็กล่าวอย่างย่ามใจว่า “ข้าเตือนเจ้าไว้ก่อนนะ พวกข้าเป็นคนของตระกูลเจียง เจ้ากล้าก่อกวนเรื่องของตระกูลเจียง จะต้องได้เห็นดีกันแน่!”“ตระกูลเจียงใช่ไหม?” ฉู่จวินถิงทวนสองคำนั้นเบาๆ เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจแล้วว่าอีกไม่นานจะไปพบหัวหน้าตระกูลเจียงสักหน่อย“กล้าล่วงเกินเจ้านายพวกข้าในเมืองไห่เทียน เจ้าชะตาขาดแล้ว!” ผู้ดูแลยิ้มเหี้ยมหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เห็นอย่างนั้นก็เดินไปถึงข้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 767

    เพื่อให้ลูกๆ ได้กินเยอะขึ้นอีกนิด จ้าวเหยียนจึงกินข้าวน้อยมาก ถึงได้หมดแรงเป็นลมไประหว่างขนสินค้าเช่นนี้“เมืองไห่เทียนดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในเขตอุทกภัย ถึงจะมีผู้อพยพลี้ภัยเข้ามาจำนวนมาก แต่ทางการเปิดยุ้งฉางแจกจ่ายเสบียงอาหารแล้ว ชาวบ้านไม่น่าจะถึงขั้นตกอยู่ในสภาพนี้กระมัง?”ซ่งรั่วเจินมองไปทางฉู่จวินถิง ดวงตาฉายแววกังขา อุทกภัยครานี้หนักหนาถึงเพียงนี้ ราชสำนักให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ยามนี้สถานการณ์ควรจะดีขึ้นได้แล้วถึงจะถูกฉู่จวินถิงย่อมตระหนักถึงจุดนี้เช่นกัน เมืองไห่เทียนอยู่ห่างจากเมืองผิงหยางอีกระยะหนึ่ง ที่นี่ยังเป็นถึงขนาดนี้ สามารถจินตนาการได้เลยว่าสถานการณ์ในเมืองผิงหยางมีแต่จะเลวร้ายยิ่งกว่า“เรื่องนี้ต้องตรวจสอบโดยละเอียด” กู้หวยซวี่เอ่ยเสียงขรึมสถานการณ์แบบนี้คนมีสายตาเฉียบแหลมมองปราดเดียวก็ดูออกว่ามีปัญหา ขุนนางท้องถิ่นกลับปล่อยปละละเลย ปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้โดยไม่รายงานไปยังราชสำนักจิตใจของทุกคนล้วนหนักอึ้ง แต่กลับไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าซ่งจิ่งเซินอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา เขาเคยมาค้าขายที่เมืองไห่เทียน เคยติดต่อกับคหบดีตระกูลเจียงมาก่อนจึงรู้ว่าหัวหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 768

    ทุกคนสุ่มหาหอสุราแห่งหนึ่ง ไม่ว่าช่วงเวลาแบบไหนก็มักมีคนที่ร่ำรวยเงินทอง ด้วยเหตุนี้ แม้ในหอสุราจะไม่นับว่าคึกคัก แต่ก็มีคนกินอาหารกันอยู่หลายโต๊ะขณะเตรียมจะรับประทานอาหาร หลิงเชี่ยนเอ๋อร์มองซ่งรั่วเจินที่ปลอมตัวเป็นสาวใช้พลางกล่าวว่า “เจ้าไปบอกให้เสี่ยวเอ้อร์ยกชามาอีกกา”ก่อนหน้านี้นางก็สังเกตเห็นแล้วว่าสาวใช้ผู้นี้รู้วิชาแพทย์ ไม่เพียงเท่านี้ พวกฉู่อ๋องยังดูจะคุ้นเคยกับนางเป็นอย่างมากราชครูกู้เป็นญาติกับตระกูลซ่ง จะรู้จักสาวใช้ของตระกูลซ่งก็ไม่แปลก แต่ด้วยนิสัยของฉู่จวินถิงก็ยังสนิทสนมกับสาวใช้คนหนึ่งมากเช่นนี้นับว่าแปลกจริงๆคิดไปคิดมาก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว...สาวใช้ผู้นี้เป็นคนข้างกายซ่งรั่วเจินคิดถึงตรงนี้ หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าน่าขัน ซ่งรั่วเจินคงกังวลว่าฉู่อ๋องจะไปชอบแม่นางคนอื่นขณะอยู่ข้างนอก แต่ตนเองไม่สามารถตามมาด้วยได้จึงให้ซ่งจิ่งเซินลงใต้มาค้าขาย ทั้งยังให้เขาพาสาวใช้ข้างกายนางตามมาด้วยสินะ?“คิดไม่ถึงว่าซ่งรั่วเจินผู้นี้จะมีฝีมืออยู่จริงๆ!”หลิงเชี่ยนเอ๋อร์แค่นหัวเราะ ก่อนนี้ได้ยินมาตลอดว่าฉู่อ๋องดีต่อซ่งรั่วเจินอย่างยิ่ง ปกป้องนางไปเสียทุกอย่าง กร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 769

    “แม่นาง เมื่อครู่ข้าปากไวไปหน่อย เจ้าอย่าเก็บไปใส่ใจเลย”เสี่ยวเอ้อร์พูดออกมาแล้วค่อยนึกได้ว่าเจ้านายของซ่งรั่วเจินก็มาค้าขายเหมือนกัน พูดจาแบบนี้มิเท่ากับด่าเจ้านายของอีกฝ่ายไปด้วยหรอกหรือ?ซ่งรั่วเจินกลับแบมือด้วยสีหน้าไม่แยแส “ไม่เป็นไร พ่อค้าย่อมหากำไรอยู่แล้ว ข้าเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง ข้าก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละ”เสี่ยวเอ้อร์ได้ยินดังนั้นก็พลันรู้สึกสนิทสนมขึ้นมาไม่น้อย ยามพูดจาก็ระวังตัวน้อยลงหลายส่วน“ใช่ไหม? ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ว่ามันแปลกจริงๆ นายอำเภอของพวกข้าเดิมทีเป็นขุนนางเปี่ยมเมตตาที่ใครต่อใครล้วนสรรเสริญ แต่หลังเกิดอุทกภัยที่เมืองผิงหยาง เขาก็เหมือนเปลี่ยนนิสัยไปเลยอย่างไรอย่างนั้น”“รวมหัวกับพ่อค้าของทางการ ปล่อยให้พวกพ่อค้าเพิ่มราคาสินค้า รอจนถึงตอนที่พวกข้าตระหนักถึงความผิดปกติอยากไปซื้อเสบียงก็ไม่ขายเสบียงกันแล้ว”“หลังจากนั้นพอนำเสบียงออกมาอีกที ราคาก็เพิ่มเป็นสามเท่า ชาวบ้านอย่างพวกข้าเดิมทีก็แค่หาเลี้ยงครอบครัวหาเช้ากินค่ำ อยู่ดีๆ ก็แพงขึ้นขนาดนี้ จะมีปัญญาซื้อเสียที่ไหน?”“โชคดีที่เจ้านายของพวกข้าจิตใจดี ข้าทำงานอยู่ที่นี่ ยามปกติถ้ามีอาหารเหลือยังแบ่งปันให้พวกข

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status