공유

บทที่ 858

작가: จี้เวยเวย
“วันนี้พ่อของหม่อมฉันเข้าวังไปแล้ว ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายที่เมืองผิงหยาง วันนี้กลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถาม

“วางใจเถอะ เดิมทีท่านลุงก็เป็นขุนนางจงรัก คราวนี้สาเหตุที่อยู่ที่เมืองผิงหยางนานขนาดนี้ก็เป็นเพราะถูกบังคับ”

“วันนี้รองแม่ทัพคนอื่นๆ ก็เข้าวังไปด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อก็ทรงนึกเสียดายที่ท่านลุงพลีชีพไปในสมรภูมิ ตอนนี้เห็นเขากลับมาแล้วก็ดีพระทัยมาก”

ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยวางใจ “เช่นนั้นก็ดีเพคะ”

“ข้ารู้ว่าหลังจากท่านลุงกลับมาจะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นในสมรภูมิไปง่ายๆ เป็นแน่ แต่เรื่องก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็คงใช้วิธีการตุกติกไปแล้ว ดังนั้นคิดจะพลิกคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้งคงไม่ง่ายดายปานนั้น”

“รอจนเจ้ากลับไปแล้วก็ลองเกลี้ยกล่อมท่านลุงดู อย่าได้ร้อนใจเกินไป ความจริงจะต้องถูกตรวจสอบออกมาได้ไม่ช้าก็เร็ว”

“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ”

ซ่งรั่วเจินมองฉู่จวินถิงอย่างลึกซึ้ง เขาคาดเดาความคิดในใจของท่านพ่อได้จริงๆ ด้วย แต่คิดจะทำเรื่องนี้หาได้ง่ายดายไม่ แต่ดำย่อมไม่อาจกลายเป็นขาว ความจริงจะต้องปรากฏออกมาในสักวัน

ณ ต
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1430  

    “ข้าว่านะน้องสะใภ้ ข้ากับเจ้าเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน เจ้ามีหน้ามาสั่งสอนข้าด้วยหรือ?” “มิน่าเหตุที่เจ้าดูชราถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เป็นเพราะชอบทำตัวเป็นป้าแก่ตามสั่งสอนคนอื่นไปทั่วนี่เอง!” ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะดึงมืออวิ๋นเนี่ยนชูให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอ่ยว่า “พวกเราคนวัยหนุ่มสาว อยู่ให้ห่างจากป้าแก่ที่ชอบเสนอหน้ามาสั่งสอนคนอื่นสักหน่อย มิเช่นนั้นอาจจะติดเชื้อมาก็ได้” “วัน ๆ เอาแต่คิดว่าตนเองรู้มาก เห็นใครก็อยากจะชี้นิ้วแนะนำไปทั่ว แต่ก็นะแม้แต่เรื่องในเรือนตนเองยังจัดการไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน!” อวิ๋นเนี่ยนชูตอนแรกยังกังวลว่าซ่งรั่วเจินจะถูกรังแก ทว่าหลังจากได้เห็นฝีปากอันเผ็ดร้อนของรั่วเจินกับตาตนเองแล้ว นางก็ถึงกับอึ้งไปเลย ทั้งที่เมื่อก่อนล้วนเป็นนางที่ต้องลุกมาปกป้องรั่วเจินเสมอ ทว่าบัดนี้นางไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดแทรกเข้าไปด้วยซ้ำ แค่รั่วเจินอ้าปากก็ทำคนเดือดดาลเจียนตายได้แล้ว แค่คำว่าป้าแก่คำเดียว ทว่าพลังทำลายล้างกลับมหาศาลถึงขีดสุด ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ฉีชิงอีและถังเสวี่ยหนิงต่างหน้าแดงก่ำด้วยความเดือดดาล รู้สึกเพียงว่าศักดิ์ศรีของตนถูกย่ำยี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1429  

    ซ่งรั่วเจินไม่ชอบเหลียงอ๋องเป็นทุนเดิม องค์ชายสี่พระองค์นี้เคยเข่นฆ่าผู้คนไปมากมายในนิยายต้นฉบับ ไม่ต่างจากอสรพิษร้ายที่ซ่อนตัวรอจังหวะจู่โจม ในชาตินี้ พวกนางจะไม่ปล่อยให้เหลียงอ๋องได้สมหวังอีก! เดิมทีนางมิได้รู้สึกอะไรกับฉีชิงอีผู้นี้เป็นพิเศษ ทว่าเมื่อคราวก่อนพอได้เห็นนางอยู่กับถังเสวี่ยหนิง อีกทั้งสายตาที่มองตนเองยังเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร ก็รู้ทันทีว่าสองคนจะต้องเป็นศัตรูแน่ ด้วยความสามารถของนาง มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าพลังเข้ากันได้หรือไม่ได้ คนที่พลังไม่เข้ากัน พูดมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อถูกลิขิตไว้แล้วว่ามิได้เดินบนเส้นทางเดียวกัน ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องพยายามสร้างความสนิทสนม “ก็เหมือนกัน” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้นสีหน้าราบเรียบ ไม่มีท่าทีว่าจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมแม้แต่น้อย ฉีชิงอีกล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดสี เจาะจงถึงข้อด้อยของซ่งรั่วเจินอย่างตรงไปตรงมา นางคิดว่าสตรีนางนี้จะลดท่าทีลงบ้าง กลับคิดไม่ถึงเลยว่าสตรีนางนี้จะยังเย่อหยิ่งจองหองเช่นเดิม น่าชิงชังเสียจริง! “พระชายาเหลียงอ๋อง ท่าน…” ถังเสวี่ยหนิงเดินเข้ามาหาพระชายาเหลียงอ๋องด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส ไม่คิดเลยว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1428  

    ชั่วขณะที่อูจิ่งซั่วผินศีรษะคิดจะหันไปอ้อนวอนต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้กลับหยัดกายขึ้นยืน พร้อมตรัสว่า “ในเมื่อองค์ชายอูได้ขอโทษแล้ว เรื่องของผู้น้อยอย่างพวกเจ้าก็ตัดสินใจกันเองเถิด เรายังมีราชกิจอื่นต้องสะสาง” “น้อมส่งฝ่าบาท” อูจิ่งซั่วที่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้แต่อึ้งงัน “???” …… ซ่งรั่วเจินและอวิ๋นเนี่ยนชูในขณะนั้นก็กำลังเดินเล่นดูร้านรวงริมทาง “เนี่ยนชู หลังจากแต่งงานเจ้าก็ดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นกว่าเมื่อก่อนหน่อย ๆ แล้วนะ ดูท่าคงจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากเลยสินะเนี่ย!” ซ่งรั่วเจินเอ่ยเย้า อวิ๋นเนี่ยนชูหน้าแดงระเรื่อ “พวกข้าไหนเลยจะสู้เจ้ากับท่านอ๋องได้เล่า? รักใคร่กลมเกลียวดั่งเพลงพิณสอดประสาน ใครต่างก็อิจฉา” “พวกเจ้าต่างรอคอยกันมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้บรรลุผลตามปรารถนา ข้าได้ยินมาว่า หมู่นี้พวกเจ้าเอาแต่ขลุกอยู่ในจวนตลอด แทบไม่ออกมาข้างนอกเลย ข้าเองก็ไม่กล้ารบกวนพวกเจ้า” ซ่งรั่วเจินผุดยิ้มบาง ๆ จุดจบอันน่าอนาถในชาติที่แล้ว บัดนี้นับว่าได้ถูกแก้ไขให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว นางรู้สึกยินดีกับพวกเขาจากใจจริง “รั่วเจิน เจ้าพูดเหลวไหลอะไร!” อวิ๋นเนี่ยนชูรีบหันมองรอบข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1427  

    อูจิ่งซั่วใคร่ครวญครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ตัดสินใจฉวยโอกาสนี้ถามออกไปตรง ๆ อูเยว่เอ๋อร์ก็ใช่ว่าจะสามารถถามข้อมูลนี้จากปากองค์ชายท่านอื่นมาได้เสมอไป ต่อให้ถามมาได้ ก็ใช่ว่าจะเชิญหมอเทวดาคนนี้มารักษาได้เสมอไปอีกเหมือนกัน เพียงแต่ ในตอนนี้หากเขาได้แสดงเจตจำนงออกมาต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาท ไม่แน่ว่าอาจจะยังพอมีโอกาส ตนเองมิเพียงกล่าวขอโทษ แต่ยังได้แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจ เชื่อว่าพวกเขาจะต้องไม่กล้าออกปากตำหนิอย่างรุนแรงเกินไปแน่ ถึงอย่างไร คนของราชวงศ์ฉู่โยวก็มิได้เสียเปรียบอะไรจากเรื่องนี้อยู่แล้ว ครั้นสิ้นประโยคนี้ สีหน้าของผู้คนภายในห้องทรงพระอักษรล้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาด เจ้าคนผู้นี้นับว่าฉลาดหลักแหลมดี รู้จักฉวยโอกาสถามขึ้นมาในจังหวะแบบนี้ ซึ่งยากที่จะเลี่ยงไม่ตอบคำถาม ทว่าคอยให้เขาได้รู้ว่าหมอเทวดาท่านนี้แท้จริงแล้วเป็นใครก่อนเถิด ท่าทางหลังจากนั้นจะต้องน่าสนใจมากแน่ “ข้าทราบดีว่าเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของอ๋าวเจี๋ย ทว่าเขาในตอนนี้ก็กลายเป็นคนพิการไปแล้ว ข้าคิดว่าหมอเทวดาท่านนั้นมีวิชาแพทย์เลิศล้ำ บางทีอาจจะรักษาเขาให้หายเป็นปกติได้ หวังว่าหัวหน้าราชอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1426  

    หลายปีที่ผ่านมานี้เขามิได้หาชมบุปผาไขว่คว้าต้นหลิวเหมือนคนอื่น ในจวนยังไม่มีแม้แต่อนุภรรยาสักคนด้วยซ้ำ ตัวเขารู้จักประมาณตนเอง และรู้ด้วยว่ามีคนมากมายกำลังจ้องจับผิดเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยทำอะไรพลาดพลั้งแม้เพียงสักครั้งเดียว หากได้แต่ง และอีกฝ่ายยังเป็นแม่นางที่รู้จักเอาใจใส่ เขาย่อมดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี ได้ยินเช่นนั้น ซูเฟยก็เบาใจลงมา พร้อมกับเอ่ยว่า “ได้ เช่นนั้นข้าจะสั่งให้คนไปเชิญเมิ่งฮูหยินมาพบ” อีกด้านหนึ่ง อูเยว่เอ๋อร์บรรจงแต่งกายอย่างพิถีพิถันเรียบร้อยก็มาที่จวนหยางอ๋อง นางไม่เชื่อหรอกว่าตนเองแต่งกายมางดงามเพริศพริ้งเพียงนี้แล้ว หยางอ๋องจะยังไม่รู้สึกหวั่นไหวกับตนเอง! ทว่า หลังจากที่นางมาถึง กลับพบว่าหยางอ๋องไม่อยู่ที่จวนอ๋อง “เจ้าคงมิได้กำลังหลอกลวงข้ากระมัง? หยางอ๋องออกไปข้างนอกจริงหรือ?” “ทูลองค์หญิง ถ้อยคำของพวกกระหม่อมไม่มีโป้ปดมดเท็จพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องไม่อยู่ที่จวนจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ” อูเยว่เอ๋อร์ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง ก็เท่ากับว่าวันนี้นางแต่งตัวมาเสียเปล่าแล้วน่ะสิ? “องค์หญิงเพคะ หากเป็นเช่นนี้แล้ว วันนี้หยางอ๋องคงมีธุระจำเป็นต้องสะสางจริง ๆ เพคะ คงมิไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1425  

    หยางอ๋องเห็นเสด็จแม่ของตนเองมีเจตนาอยากให้ตนเองอภิเษกกับถังเสวี่ยหนิง พลันตกใจ ก็ร้อนรนรีบเอ่ยทันทีว่า “ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!” ล้อเล่นกันหรืออย่างไร ? เหตุผลที่เขาไม่ยอมแต่งงานกับอูเยว่เอ๋อร์ ก็เพราะว่าสตรีผู้นี้เอาแต่จ้องหาเรื่องพี่สะใภ้สามตลอด ส่วนถังเสวี่ยหนิงยังหนักยิ่งกว่านางอีก! “เสด็จแม่ ท่านคงมิได้อยากจะให้ลูกตายหรอกกระมัง” ซูเฟยถึงกับตะลึง รีบเอ่ยทันที “ดูเจ้าพูดจาเขาสิ ข้าเป็นเสด็จแม่ของเจ้านะ สิ่งนี้เรียกว่าหวังดีต่อเจ้ามิใช่หรือ? ข้าจะไปทำร้ายเจ้าได้อย่างไรกันเล่า?” “เหตุใดจนตอนนี้ถังเสวี่ยหนิงยังมิได้หมั้นหมายเสียที เสด็จแม่เองก็น่าจะทราบดีนะขอรับ ก่อนหน้านี้นางทำเรื่องโง่เง่าเอาไว้ตั้งเท่าใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเคยล่วงเกินพระชายาฉู่อ๋องไว้เสียเต็มที่อีก” “โอรสของท่านถึงแม้จะไร้ความทะเยอทะยาน แต่อย่างน้อยก็เข้าใจตรงจุดนี้กระจ่างแจ้ง ว่าคนที่มิควรเข้าไปแหย่ห้ามเข้าไปแหย่เด็ดขาด ยิ่งจวนฉู่อ๋องยิ่งไม่ควรล่วงเกินอย่างเด็ดขาด!” หยางอ๋องเล่าสถานการณ์ของตนเองให้ซูเฟยฟังอย่างตรงไปตรงมา “ท่านแค่เลือกดรุณีที่มีชาติกำเนิดบริสุทธิ์ผุดผ่อง อากัปกิริยาสง่างามเพียบพร้อมให้ล

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status