“เจ้ามีเรื่องอันใดถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ งานก็เรียบร้อยดีมีอะไรอีกหรือ”
“มีทีมงานชาวไทยหายตัวไปหลังจากงานเสร็จขอรับ หายไปสี่คนและทั้งหมดเป็นนางแบบขอรับนาย”
“หือ! เจ้าพูดว่าอะไรนะ สตรีชาวไทยสี่คนหายไปงั้นหรือ”
คาริสนึกถึงดวงหน้าสวยของสตรีนางนั้นทันที เธอผู้นั้นทำให้เขาร้อนรุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางหายไปได้อย่างไรกัน?
“ขอรับนาย...นี่ขอรับภาพถ่ายของนางทั้งสี่คนขอรับ”
หัวหน้าทีมผู้จัดส่งสมาร์ทโฟนให้ผู้เป็นนายดู
“...” คาริสมองใบหน้าอันงดงามของหญิงชาวไทย คนที่ทำให้เข้ารู้สึกปวดหนึบไปทั่วร่างได้...เพียงแค่สบตา
“ตอนนี้มีคนพบเห็นว่าคนสนิทของนายท่านฮาซีฟนั้นได้เข้าไปเจรจากับทางผู้จัดชาวไทยขอรับ ข้าคิดว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับนายท่านฮาซีฟหรือเปล่าขอรับ”
“ท่านพี่ฮาซีฟหรือ?” คาริสจำสายตาของพี่ชายของเขาได้เป็นอย่างดี ฮาซีฟอาจจะพึงพอใจสาวงามเหล่านั้นก็เป็นได้
“ขอรับ...ตอนนี้คนทางฝั่งผู้จัดเขาเครียดมากเลยขอรับ เรื่องถึงตำรวจ และทางตำรวจเองกำลังส่งคนออกตามหาอยู่ขอรับ ข้าเลยอยากให้ท่านช่วยลองโทรหานายท่านฮาซีฟหน่อยเถิดขอรับ”
“อืม...” คาริสหยิบสมาร์ทโฟนพร้อมกับต่อสายหาผู้เป็นพี่ชายทันที คาริสไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ พี่ชายของเขามักจะเป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำ แต่ทว่าครั้งนี้พี่ชายของเขากระทำการอุกอาจจนเกินไป ลักพาตัวหญิงต่างชาติไปงั้นหรือ...
“เจ้านึกยังไงถึงโทรหาพี่...คาริส”
“ท่านพี่ขอรับ...ตอนนี้สตรีชาวไทยที่มาทำงานของข้าหายตัวไปขอรับ...ท่านพี่ทราบเรื่องนี้หรือไม่ขอรับ”
“เจ้าคงจะคิดว่าพี่พาตัวพวกนางนั้นมาล่ะสิ...คาริส”
ฮาซีฟพูดพร้อมกับปรายตามองหญิงสาวที่กำลังหมดสติอยู่เบื้องหน้าเขา ความงามของเธอช่างตราตรึงใจเขายิ่งนัก
“ท่านพี่ได้จับพวกนางไปหรือไม่ขอรับ...ตอนนี้ทางตำรวจกำลังออกตามหาพวกนางอยู่นะขอรับท่านพี่”
“เจ้าจะบุกมาค้นที่ฮาเร็มพี่ เพื่อค้นหาพวกนางก็ได้นะคาริส...ถ้าเจ้าอยากรู้ความจริง”
ฮาซีฟไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด เพียงแต่คำพูดของเขานั้นกลับกำกวมและท้าทายความบริสุทธิ์ของตัวเอง ‘นางสวยเหลือเกิน’ สายตาคมกริบจ้องไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงชุดแดงนั่น
“งั้นก็คงไม่ใช่ท่านพี่นะขอรับ”
คาริสเก็บความสงสัยนี้ไว้ภายในใจ ปกติท่านพี่ฮาซีฟนั้นจะกระทำการใดๆ จะลักพาใครมา ทุกครั้งท่านพี่ของเขาจะยอมรับแบบตรงๆ เสมอไม่เคยปฏิเสธ หรือว่าท่านพี่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ
“น้องก็ส่งคนมาค้นที่ฮาเร็มพี่สิ...จะได้หายแคลงใจพี่”
“ขอรับ...งั้นข้าไม่รบกวนท่านพี่แล้วขอรับ”
“เจ้าคงได้ยินแล้วใช่ไหม ว่าท่านพี่ฮาซีฟไม่ได้ข้องเกี่ยวเรื่องนี้ ปกติถ้าท่านพี่ลักพาหญิงใดไปก็ตาม ท่านพี่จะยอมรับตลอด ข้าคิดว่าไม่ใช่ท่านพี่ฮาซีฟอย่างแน่นอน”
“งั้นก็คงจะเป็นคนกลุ่มอื่น จะเป็นใครกัน คนร่วมงานนับพันยากที่จะเจาะจงใครได้ เพราะสาวงามที่หายตัวไป ต่างก็เป็นจุดสนใจของแขกที่มากันทั้งนั้น...”
“เดี๋ยวข้าจะส่งคนออกตามหา ได้ความว่าอย่างไร ข้าจะให้คนของข้าแจ้งไป”
“ขอรับนาย...”
“บาซาร์” คาริสร้องเรียกลูกน้องคนสนิท หลังจากที่หัวหน้าทีมผู้จัดออกไป
“ขอรับนาย”
“เจ้าสงสัยใคร...” คาริสถามลูกน้องเพื่อขอข้อคิดเห็น พี่ชายของเขาสนใจหญิงชาวไทยขนาดนั้น เป็นไปได้หรือที่พี่ชายจะไม่กระทำการดังกล่าว
“เอ่อ...นายท่านขอรับ เรื่องนี้น่าจะเป็นฝีมือของนายท่านฮาซีฟอย่างแน่นอนขอรับ”
“เจ้าเองก็คิดว่าเป็นท่านพี่ฮาซีฟสินะ...”
“ขอรับนาย”
“งั้นเจ้าไปสืบเรื่องนี้กับยามิน...ได้เรื่องอย่างไรให้โทรบอกข้า”
“ขอรับ”
[ฮาเร็ม...ฮาซีฟ]
“พานางแยกไปอยู่ในห้องใต้ดิน ห้องละสองคนจัดคนไปปรนนิบัตินางทั้งหมด รอคำสั่งจากข้าคนเดียว”
“นายไม่ส่งนางสองคนนั่นกลับหรือขอรับ”
“อืม...ข้าจะขอเก็บนางไว้เชยชมทั้งหมด”
ฮาซีฟจ้องไปที่สาวงามทั้งหมดที่ลูกน้องเขาพามา ทั้งที่เขาออกคำสั่งไปเพียงสองคนเท่านั้น แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ฮาซีฟก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น
“ขอรับนาย”
“ให้เจ้าปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็รู้ไม่ได้เด็ดขาด...ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อหรือท่านแม่ก็รู้ไม่ได้ เจ้าไปจัดการพวกของเจ้า ให้ออกจากเมืองนี้ไปสักพัก เพิ่มเงินให้พวกมันไป”
“ขอรับนาย”
“คาริสกับอิลยาสก็เหมือนกัน ห้ามให้น้องข้ารู้เรื่องนี้ เดี๋ยวข้าจะจัดการเรื่องทั้งหมดนี้เอง”
“ถ้านายคาริสมาขอตรวจที่ฮาเร็มล่ะขอรับ เพราะตอนนี้นายคาริสน่าจะสงสัยนายอยู่นะขอรับ นายคาริสเป็นเจ้าของงานนี้ นายน่าจะช่วยทางนั้นตามหานางพวกนี้นะขอรับนาย”
“เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง เมื่อครู่คาริสก็โทรมาสอบถามข้าแล้ว อีกไม่นานเจ้าน้องคนนี้ต้องมาตรวจสอบข้าเป็นแน่ เจ้าไปจัดการเรื่องนี้เถอะ...เรื่องคาริสเป็นหน้าที่ของข้า”
“ขอรับนาย”
เวลาผ่านไปนับหลายชั่วโมง...
[ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่]
“นับดาว ตื่นได้แล้ว!”
รินลดาเขย่าตัวเพื่อนสาวที่นอนอยู่บนเตียงใหญ่ เธอมองบริเวณรอบห้องพร้อมกับสะบัดศีรษะไปมา เพื่อไล่ความปวดเมื่อยและมึนงง ‘นี่เธออยู่ที่ไหนกัน?’
“อืม...” เสียงของธาริกาพึมพำออกมา พร้อมกับการขยับตัวเธอได้ยินเสียงเพื่อนของเธอร้องเรียกอยู่ข้างตัวเธอ
“ตื่นได้แล้วนับดาว!”
รินลดาปลุกธาริกาอีกครั้ง เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญตอนนี้มันคือความจริงหรือว่าความฝันกันแน่
“ข้าว...ตื่นเช้าจัง” ธาริกายังคงตกอยู่ในภวังค์ครึ่งหลับครึ่งตื่น
“นับดาวรีบตื่นเถอะ!”
รินลดาเขย่าตัวเพื่อนสาวของเธออีกครั้ง ความกลัวครอบงำเข้ามาในหัวของเธอทันที ‘มันไม่น่าจะเป็นความฝันแน่นอน’
“อุ้ย! มันคืออะไรข้าว นี่เราสองคนอยู่ที่ไหนกันเนี่ย”
ธาริกามองไปบริเวณรอบห้องอย่างตื่นตระหนก
“ข้าวไม่รู้นับดาว ตื่นขึ้นมาข้าวก็เป็นแบบนี้แล้ว ข้าวลองไปเปิดประตูแล้ว แต่มันเปิดไม่ได้ห้องถูกล็อคเอาไว้ ข้าวตะโกนให้คนช่วยแล้ว แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลยนับดาว”
“ไม่นะ!” ธาริกาวิ่งไปยังประตูห้องทันที
ปึ่ง! ปึ่ง! เสียงฝ่ามือบางทุบประตูดังสนั่น
“มีใครอยู่บ้างคะ...ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
ธาริการ้องตะโกนออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ เหตุการณ์ที่เธอกับรินลดาเผชิญอยู่ไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน
“นับดาว...ข้าวลองแล้วนะ ไม่มีใครได้ยินเลยสักคน”
“มือถือล่ะอยู่ไหน?”
ธาริการีบสำรวจตัวเอง แต่ก็พบว่าร่างกายของเธอยังอยู่ในชุดเดิม ต่างกันตรงที่เธอนั้นถอดเครื่องประดับออกไปก็เท่านั้น
“ไม่มี...เราถูกลักพาตัวมานะนับดาว”
[ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่] “เจ้าแน่ใจนะบาอิล ว่านางผู้นั้นได้หนีออกไปจากที่นี่แล้ว” “ขอรับนาย...พวกนางรับใช้เป็นพยานได้ขอรับ นางบอกว่าพวกนางออกไปในเมืองเพื่อซื้อของ และหนึ่งในนั้นมีหญิงคนหนึ่งไปด้วย ซึ่งสาวรับใช้ที่ไปด้วยคิดว่านางคนนั้นคือเพื่อนของนาง แต่ปรากฏว่าพวกนางตามหากันทั่วตลาดกลับไม่พบเจอ สุดท้ายคนที่พวกนางไปด้วยนั้นไม่ใช่เพื่อนของนาง เพราะนางกลับมาเจอเพื่อนของนางที่นี่ขอรับ และอีกอย่างเราเช็คจากกล้องวงจรปิดขอรับ นางผู้นั้นออกไปจริงๆ ขอรับ” “งั้นแสดงว่าเธอผู้นั้นได้ออกจากที่นี่ไปแล้ว เจ้าให้คนของเราออกติดตามนางไป โรงแรมที่พักของเหล่านางแบบชาวไทยอยู่ในเมือง ถ้านางรอดไปข้าคิดว่านางก็คงจะไปที่นั่นอย่างแน่นอน” “ขอรับนาย” “ส่วนผู้หญิงอีกคนล่ะเจ้าเช็คกล้องวงจรปิดแล้วเจอหรือไม่” “เอ่อ...เจอขอรับนาย...แต่ว่าทางเราเข้าไปตรวจสอบนางไม่ได้ขอรับ...เพราะนางได้เข้าไปในห้องของนายท่านคาริสขอรับ” “ห๊ะ! เจ้าพูดว่าอะไรนะ! เข้าไปห้องท่านพี่คาริสหรือ?” “ขอรับนาย...เราย้อนดูกล้องแล้ว นางเข้าไปแล้วและยังมิได้ออกจากห้องนายท่าน
อิลยาสขอสืบเรื่องนี้ ก่อนที่จะเผยความจริง เขารู้จักนิสัยของท่านพี่ฮาซีฟและท่านพี่คาริสดีว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้อิลยาสขอดูท่าทีเรื่องทั้งหมดไปก่อน “แต่เพื่อนของฉันล่ะคะ” “ข้าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เจ้าไม่ต้องกังวล นี่ก็เวลาดึกแล้ว ข้าเองคิดว่าเรื่องต่างๆ ไม่น่าจะเลวร้าย เดี๋ยวข้าจะเดินดูรอบๆ ในบริเวณภายในตึกเพื่อหาเพื่อนของเจ้า อีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้ใครสงสัยเรื่องของเจ้า เจ้าต้องระวังอย่าให้ใครเห็นเจ้า แม้กระทั่งสาวใช้ที่เข้ามาในห้องนี้”อิลยาสนึกถึงสตรีอีกนางหนึ่งขึ้นมาทันที กว่าเขาจะปลีกตัวจากการรับประทานอาหารมื้อค่ำกับเธอมาได้ก็นานพอสมควร ราเนียมีจุดมุ่งหมายที่จะจับเขาให้ได้ โดยเธอพยายามออดอ้อนเขาต่อหน้าท่านพ่อกับท่านแม่ของเขา ซึ่งอิลยาสอึดอัดใจและปฏิเสธไม่ได้ “แต่ว่า...” ธาริกาเป็นห่วงรินลดา แค่อยากรู้ว่าเพื่อนเธอยังปลอดภัยดีหรือเปล่า รินลดาก็ดื่มยาไปเหมือนกัน และอาจจะโดนมากกว่าเธอด้วยซ้ำ ขนาดธาริกายังขนาดนี้ แล้วรินลดาล่ะจะอดทนต่อสู้ได้ไหม ธาริกากังวลใจมากๆ “วางใจข้าเถิด...เจ้าแค่รออยู่ตรงนี้ และถ้าข้ายังไม่กลับมา เจ้าก็นอนพักผ่อนตามสบาย
“แน่นอน...เจ้าโดนยาปลุกกำหนัด...และโดนปริมาณมาก ซึ่งคนที่โดนขนาดนี้ บางคนเกิดอาการช็อกก็มี ข้ารู้ว่านี่เป็นการกระทำของพี่ชายของข้า ถ้าเจ้าจะแจ้งความจับพี่ชายของข้า ข้าก็มิได้ขัดขวางเจ้าเลย”“ฉันไม่แจ้งความค่ะ ขอแค่คุณช่วยพาฉันและเพื่อนกลับไปที่เดิมเท่านั้นก็พอค่ะ”รินลดาอยากออกไปจากตรงนี้ ความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจของเธอนั้น รินลดาจะถือว่ามันเป็นอุบัติเหตุในชีวิตของเธอ และเธอจะลืมทุกสิ่งที่นี่“เจ้ากับข้าร่วมรักกันไปหลายครั้ง ข้ามิได้ป้องกันเลย เจ้าเองคิดว่าตัวเองจะกลับประเทศไปโดยไม่มีอะไรอยู่ในท้องของเจ้าหรือไง”อารมณ์ของชีคหนุ่มเริ่มเดือดขึ้น“เอ่อ...ฉันไม่เอาความคุณหรอกค่ะ ฉันแค่อยากกลับบ้านค่ะ แค่คุณส่งฉันกลับก็พอแล้วค่ะ”“ถ้าเกิดเจ้าตั้งครรภ์ลูกของข้าล่ะ เจ้าจะทำอย่างไร”“ไม่ค่ะ! ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนั้นหรอกค่ะ ถึงแม้ว่า เอ่อ ฉันจะท้องจริงๆ ฉันก็ต้องยอมรับ และเลี้ยงเขาได้ค่ะ”“นี่เจ้า! จะเลี้ยงบุตรของข้าคนเดียวงั้นหรือ ทั้งที่ข้าก็ยังอยู่เนี่ยนะ”คาริสสูดลมหายใจอย่างแรง เพื่อระงับความโกรธที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้า ทำไมเขาถึงคิดที่จะรับผิดชอบเธอ เพราะความเป็นสุภาพบุรุษงั
[ฮาเร็มฮาซีฟ] “คุณเซริก็แค่บอกท่านฮาซีฟไปว่า นางทั้งสามหนีไปได้สิเจ้าคะ จะได้ไม่มีปัญหา ข้าออกตามหาทั่วคฤหาสน์แล้ว ก็เหลือแต่ห้องของนายท่านคาริสเจ้าค่ะ เพราะสาวรับใช้คอยสกัดข้าไว้ เกือบหลุดไปแล้ว ดีนะข้าอ้างว่ามาตาหาท่านเซริ ไม่งั้นคงแย่เป็นแน่แท้...ส่วนห้องของนายท่านอิลยาสก็มีคุณราเนียอยู่ในนั้นด้วย ก็คงไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” “ข้าจะบอกนายท่านฮาซีฟอย่างที่เจ้าแนะนำได้อย่างไรโบอา เจ้าก็รู้นี่ว่านายท่านฮาซีฟพึงพอใจนางสาวคนไทยคนนั้นมากแค่ไหน”เซริจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร นายท่านอาจไม่พอใจเพราะเธอทำงานไม่สำเร็จ “แต่ข้าไม่คิดแบบคุณเซรินะเจ้าคะ ข้าว่านางสาวคนไทยที่ชื่อโมนานั่น น่าจะทำให้นายท่านฮาซีฟพึงพอใจอยู่ไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ ข้าว่านางมีเสน่ห์แพรวพราวและทำให้นายท่านฮาซีฟอยู่หมัด คุณเซริสังเกตไหม ว่านายท่านฮาซีฟจะอารมณ์เย็นทันที เมื่อเจอคุณโมนาคนนั้นออดอ้อนเอาใจ” “ก็จริงอย่างที่เจ้าพูดนะโบอา แต่ข้าก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ถ้าเกิดนายท่านคาริสรู้เรื่องนี้ล่ะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เพราะนายคาริสเคยมาบุกค้นที่ฮาเร็มนี่แล้ว แต่นายท่านฮาซีฟปฏิเสธไปทุกทาง ข้าว่าเรื
“ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด” คนขับรถแท็กซี่ตอบกลับ “ฉัน จะ ไป โรงแรม กะ-กุม เบ”ปรางทิพย์พยายามออกเสียงชื่อของโรงแรมที่เธอและพวกเจ้มีญ่าพักอยู่ ขอให้เธอได้ไปถึงที่โรงแรมให้ได้เสียก่อนเถอะ “กุม-เบ” ชายพื้นเมืองพยายามแกะข้อความจากเสียง “ใช่! กุม-เบ โรงแรมกุมเบ” ปรางทิพย์ยิ้มออกมาทันที “อะไรคะ?” ปรางทิพย์หยิบกระดาษจากมือของชายขับแท็กซี่ที่ส่งมาให้เธอดู เธอเห็นตัวหนังสือที่อ่านไม่ออก แต่มีตัวเลขหลายๆ ตัวปนอยู่ ปรางทิพย์คาดเดาได้ทันที ว่านี่คือค่าตอบแทนที่เธอต้องจ่ายถ้าเขาจะพาเธอไปยังจุดหมายนั้น “โอเค!” ปรางทิพย์โชว์สัญลักษณ์มือ พร้อมกับยิ้มและดีใจเป็นอย่างมาก ถ้าเธอไปถึงโรงแรมเมื่อไหร่ก็ค่อยแก้ปัญหาอีกที ปรางทิพย์คิดว่า ยังไงเจ้มีญ่าคงไม่หนีกลับไปอย่างแน่นอน... [ห้องอิลยาส] “เย็นนี้เจอกันที่โต๊ะอาหารนะคะท่านพี่” “ครับ” “งั้นราเนียไปพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ” “ครับ แล้วเจอกันครับ” ปึ่ง! ประตูบานใหญ่ถูกปิด “เฮ้อ!” อิลยาสถอนหายใจออกมาทันที ไม่รู้ว่าเขาจะทนราเนียได้อ
เพลงรักบรรเลงไปอย่างดุเด็ด เผ็ดมัน ทั้งสองพลางหอบหายใจถี่รัว ความปวดหนึบตรงช่วงล่างผสมกับเสียวซ่านแล่นผ่านร่างเล็ก เสียงเต้นของหัวใจถี่รัว ก่อนจะดีดเด้งร่างงามเมื่อความเสียวซ่านทะยานขึ้นสุดจนระเบิดน้ำรักออกทำให้ร่างบางชักเกร็งไปด้วยความเสียวกระสันที่ไม่อาจอดกลั้นไว้ได้ เพียงไม่กี่วินาทีร่างหนาก็พาตัวเองทะยานขึ้นไปจนสุดและปลดปล่อยความเป็นชายจนหมดสิ้น ระเบิดลาวาร้อนออกมาจนท่วมท้นในร่องรักของหญิงสาว“ฮึก...” เสียงหอบกระเส่าปรากฏขึ้นหลังจากบทรักร้อนแรงนั้นผ่านพ้นไป“เจ้า...” คาริสก้มหน้าซุกซบเข้ากับซอกคอของหญิงสาว เมื่อการร่วมรักแสนดุเดือดนั้นจบลง ริมฝีปากร้อนจูบซับไปที่ลำคอของเธอเพื่อเป็นการปลอบใจ โดยที่ช่วงล่างของเขา ยังมิได้ถอดถอนท่อนแห่งความเป็นชายออกแต่อย่างใด“มะ-ไม่ ฮึก!” รินลดาพยายามฝืนร่างของเธอออก แต่ยังไม่ทันที่ร่างงามนั้นจะเบี่ยงกายออก บางอย่างกลับคุกรุ่นขึ้นมาอย่างกระทันหัน“อะ อ๊ะ!” ความร้อนกระสันตีเข้าแทรกร่างเล็กอีกครั้ง“โอววว์” เสียงครางแหบพร่าของชีคหนุ่มดังขึ้นทันที เมื่อร่างบางนั้นเบียดแซะเข้าหาร่างของเขาอย่างอัตโนมัติ ‘ปริมาณยาปลุกกำหนัดในร่างของนางคงมีอยู่ไม่น้อยเลยท