LOGINเรื่อง "เจ้าพ่อนักซิ่ง" เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า บุญ เธอทำงานเป็นคนขับแท็กซี่กะดึก ชีวิตเธอไม่ได้ถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับถูกโรยไปด้วยหนามของกุหลาบซะมากกว่า เมื่อวันหนึ่งเจ้าหนี้ของเธอได้สั่งให้เธอไปทำลายรถสุดหวงของนักแข่งชื่อดัง เพื่อแลกกับการล้างหนี้เกือบครึ่งล้านที่เธอมีปัญญาจ่ายเพียงแค่ดอก มีเหรอที่คนอย่างเธอจะไม่รับข้อเสนอสุดพิเศษแบบนี้... ส่วนเขา นักแข่งรถมือทองเท้าทองอย่าง เทนชิ ที่ถูกเหล่าคนในวงการตั้งฉายาให้ว่า 'ตีนผี' ต้องมาปะทะเล่นสงครามประสาทกับยัยผู้หญิงหน้ามึน ที่พูดน้อยแถมยังทำตัวเชื่องช้าเข้า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรกัน...ติดตามต่อในเรื่องเลยจ้า บอกเลยเรื่องนี้จะออกแนวรักสืบสวนสอบสวนหน่อย ๆ มีกลิ่นอายของผีวิญญาณนิดหน่อย(ไม่น่ากลัว) และจะเป็นการพูดถึงการแข่งรถ(นิดหน่อย) เชื่อว่าใครที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จนจบจะต้องได้ความรู้เรื่องการแข่งรถเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างแน่นอน อ้อ! มีเรื่องเกี่ยวกับยากูซ่าเข้ามาเอี่ยวด้วยนะ เพราะงั้นบอกเลยว่า สนุก มัน และลุ้นระทึกสุด ๆ ห้ามพลาดบอกเลย!
View Moreสวัสดีนักอ่านทุกท่านเลยนะคะที่สนับสนุนนิยายเรื่องนี้จนเราได้มาเจอกัน >///< นักเขียนหน้าใหม่คนนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องนิยายเรื่องที่สี่แล้วค่ะที่หยกได้แต่งขึ้นมา หวังว่าทุกท่านจะสนุกกับการอ่านไปด้วยกันนะคะ
เรื่อง "เจ้าพ่อนักซิ่ง" เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า บุญ เธอทำงานเป็นคนขับแท็กซี่กะดึก ชีวิตเธอไม่ได้ถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับถูกโรยไปด้วยหนามของกุหลาบซะมากกว่า
เมื่อวันหนึ่งเจ้าหนี้ของเธอได้สั่งให้เธอไปทำลายรถสุดหวงของนักแข่งชื่อดัง เพื่อแลกกับการล้างหนี้เกือบครึ่งล้านที่เธอมีปัญญาจ่ายเพียงแค่ดอก มีเหรอที่คนอย่างเธอจะไม่รับข้อเสนอสุดพิเศษแบบนี้...
ส่วนเขา นักแข่งรถมือทองเท้าทองอย่าง เทนชิ ที่ถูกเหล่าคนในวงการตั้งฉายาให้ว่า 'ตีนผี' ต้องมาปะทะเล่นสงครามประสาทกับยัยผู้หญิงหน้ามึน ที่พูดน้อยแถมยังทำตัวเชื่องช้าเข้า
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรกัน...ติดตามต่อในเรื่องเลยจ้า บอกเลยเรื่องนี้จะออกแนวรักสืบสวนสอบสวนหน่อย ๆ มีกลิ่นอายของผีวิญญาณนิดหน่อย(ไม่น่ากลัว)
และจะเป็นการพูดถึงการแข่งรถ(นิดหน่อย) เชื่อว่าใครที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จนจบจะต้องได้ความรู้เรื่องการแข่งรถเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างแน่นอน
อ้อ! มีเรื่องเกี่ยวกับยากูซ่าเข้ามาเอี่ยวด้วยนะ เพราะงั้นบอกเลยว่า สนุก มัน และลุ้นระทึกสุด ๆ ห้ามพลาดบอกเลย!
ถนนลำกล้วยหว้า
03.56 น.
ณ เวลาดึกดื่นมืดค่ำขนาดนี้ไม่ได้ช่วยให้ถนนยอดฮิตที่เป็นแหล่งรวมสถานที่บันเทิงต่าง ๆ อย่าง ถนนลำกล้วยหว้า มีรถจราจรน้อยลงเลย กลับมีเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับเวลาในตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ผู้คนหรือนักท่องเที่ยวน้อยลงเลยจริง ๆ และแน่นอนว่าการที่ถนนตรงนี้เป็นแหล่งยอดฮิต มีเหรอที่รถประจำทางที่จำเป็นอย่าง แท็กซี่ จะพลาด...
“คนยังเยอะเหมือนเดิมเลยแฮะ” ฉันพูดกับตัวเองด้วยสีหน้านิ่งแบบที่ชอบทำ อันที่จริงไม่ได้ชอบทำหรอกแต่มันเป็นไปเองมากกว่า อ้อ...ลืมแนะนำตัวเลยฉันชื่อว่า ‘บุญ’ นะคะ ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ภายในรถแท็กซี่สีม่วง คงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นผู้โดยสารกันหรอกใช่ไหม
ถ้าคิดแบบนั้นจริงฉันก็อยากจะบอกว่าทุกคนอาจจะกำลังคิดผิดกัน เพราะฉันไม่ใช่ผู้โดยสาร แต่เป็นคนขับมากกว่า ใช่แล้วค่ะตอนนี้ฉันกำลังทำงานขับแท็กซี่กะดึกอยู่นั้นเอง หลายคนอาจจะบอกว่าผู้หญิงมาขับแท็กซี่แบบนี้มันดูไม่ปลอดภัย ฉันว่ามันก็จริงนะคะ แต่ทำไงได้ในเมื่อฉันมีภาระมากมายที่ต้องใช้ต้องจ่าย การขับแท็กซี่มันก็ช่วยทำให้ฉันมีรายได้ที่เยอะพอตัวเลย
แถมสมัยนี้ยังมีแอปพลิเคชันในการเรียกรถอีก ยิ่งง่ายกว่าสมัยเริ่มแรกที่ฉันขับซะอีก ถ้าจะไปหางานอื่นทำก็ยากไปกว่าเดิมเพราะฉันจบแค่ ม.หนึ่ง เอง ใครเขาจะไปรับ จริงไหมล่ะ
“ปวดขาชะมัด” การขับแท็กซี่ใครว่าง่ายกันล่ะ ยิ่งเวลารถติดยาว ๆ นะฉันบอกเลยว่าปวดขาสุด ๆ เอาจริงแล้วตอนนี้ก็ติดอยู่นะฉันถึงได้ปวดขามากไง ตอนนี้ภายในรถฉันไม่มีผู้โดยสารหรอกเลยต้องเปิดสถานะ ว่าง เอาไว้เผื่อมีลูกค้าโบกเรียก อย่างที่รู้กันว่าถนนยอดฮิตอย่างลำกล้วยหว้าที่ฉันขับเข้ามาเพื่อหาลูกค้าแห่งนี้เป็นที่ยอดฮิต แน่นอนว่าคู่แข่งก็สูงมากเช่นกัน
“งั้นไปอีกทางแล้วกันเนอะ” เพื่อหลบเลี่ยงการจราจรที่แออัดฉันจึงหักพวงมาลัยเข้าซอยมะลิทันที ซอยนี้ก็ไม่น้อยหน้า แต่อาจจะไม่ได้ยอดฮิตอย่างเช่นถนนหลัก แต่มันก็พอได้คนอยู่บ้างเพราะซอยนี้เป็นแหล่งรวมร้านแสงสีเสียง อย่างเช่น ผับบาร์ นั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าโชคจะเป็นใจนะ เพราะตอนนี้ฉันเห็นว่ามีลูกค้าผู้ชายกำลังโบกเรียกแล้ว เขาเป็นลูกค้าคนแรกเลยก็ว่าได้ แต่พอมองดูดี ๆ แล้วหน้าเขาอย่างกับคนญี่ปุ่นเลย แถมยังมีลายสักเต็มแขนทั้งสองข้าง ลายสักเขามันคล้ายกับพวกยากูซ่าที่ฉันเห็นตามในข่าวเลย
ทำไมฉันถึงได้รู้ละเอียด ก็เพราะฉันดันเห็นลายสักพวกนั้นชัดเจนเลยล่ะ ก็เขาใส่เสื้อกล้ามสีขาวโชว์ลำแขนกำยำนั่นนะสิ อีกอย่างที่ฉันกังวลนอกเหนือจากความกลัว ก็คือเรื่องที่จะพูดคุยกันรู้เรื่องไหมนะสิ...
สองเดือนผ่านไป... “ปวดหลังชะมัด” นานะเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ ฉันพลางใช้มือกดไปที่หลังของตัวเองไปด้วย ตอนนี้ฉันกำลังนั่งแกะถั่วกินอยู่พลางดูรายการญี่ปุ่นไปด้วยฉันพอจะฟังออกบ้างแล้วเพราะเทนชิส่งไปเรียนนั่นแหละ ต้องขอบคุณเขาเป็นอย่างสูงเลย“เป็นไรอะนานะ” ฉันใช้มือแกะถั่วไปพลางถามเธอไป“ประจำเดือนมานะสิ เบื่อชะมัดเลยที่ต้องมาปวดหลังเนี่ย” ฉันพยักหน้าตอบไป มันแล้วแต่คนสินะ บางคนก็ปวดท้อง บางคนก็ปวดหลัง“แล้วเวลาบุญประจำเดือนมาปวดหลังหรือปวดท้องอะ” ฉันนั่งนึกสักพักว่าตัวเองปวดหลังหรือปวดท้อง เพราะประจำเดือนฉันไม่ได้มาสักพักแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เดี๋ยวก็คงมาเองแหละ“จำไม่ได้อะ”“หมายความว่าไง?” นานะเลิกสนใจทีวีตรงหน้าแล้วหันมาจ้องฉันแทน อะไรของเธอหว่า“ก็ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลยอะ”“ฮะ! ไม่มาตั้งแต่ตอนไหน??” ทำไมนานะต้องเสียงดังด้วยเนี่ยฉันตกอกตกใจหมด เกือบจะทำถ้วยใส่ถั่วหล่นแล้ว“อืม...ก็ประมาณน่าจะตั้งแต่ที่กลับมาญี่ปุ่นอะ” ฉันทำท่านึก ๆ จำได้ราง ๆ ว่าน่าจะตั้งแต่ที่กลับมาญี่ปุ่นนั่นแหละที่ประจำเดือนฉันหายไปเลย“แสดงว่าประจำเดือนไม่มาเกือบสองเดือนแล้วนะสิ!!!” นานะย
“ทำอะไรเนี่ย” ทำดีได้ไม่นานเขาก็เริ่มจะออกลายละ ดูสิมาแกะกระดุมฉันเฉยเลย “เอ้า ก็เช็ดตัวก็ต้องเช็ดให้ทั่ว ๆ สิ” ดูสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาสิ คิดว่าฉันเชื่อหรือไง “เอามาเดี๋ยวบุญทำเอง” ฉันแบมือออกไปหมายจะขอผ้าเปียกจากเขา แต่คนตรงหน้ากลับนั่งนิ่งแทน “ไม่ได้ เฮียจะให้คนไม่สบายทำเองได้ไง อย่ามาเล่นตัวน่าเฮียเห็นมาหมดละนะ โอ๊ย!” ฉันจัดการตีเขาไปแรง ๆ เมื่อคนตรงหน้าพูดไม่เข้าหู ถึงแม้ตรงนี้เราจะอยู่กันแค่สองคนก็เถอะ “ดูพูดจาเข้า” เขาเงียบไปพร้อมกับเก็บของที่อยู่ในมือออกไปหมด ฉันเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วละสิ “กล้าตีเฮียแบบนี้คิดดีแล้วใช่ไหม หืม?” น้ำเสียงเขาไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด แต่กลับกลายเป็นน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ซะมากกว่า ดูแววตาเขาสิ ไหนจะมุมปากที่ยกขึ้นนั่นอีก เขาเริ่มขยับเข้ามาหาฉันใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ท่าไม่ดีแล้วสิ “หาววว ง่วงจัง งั้นบุญนอนต่อแป๊บนะ” “คิดจะหนีความผิดเหรอ” “เห้ยยย เฮียทำไรเนี่ย!” ฉันกำลังจะเอนตัวลงนอนก็ต้องตกใจเมื่อเทนชิดันมาอุ้มฉันให้มานั่งตักเขาแทน “ทำโทษเด็กนิสั
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สนามบิน ณ ประเทศไทยบุญ Talk “บุญไม่สบายหรือเปล่า?” เสียงพี่ลินาเอ่ยถามฉันขณะที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ ตอนนี้ฉันอยู่ในสนามบินรอเวลาเพื่อจะกลับญี่ปุ่น พี่ลินาและคนอื่น ๆ จึงมานั่งรอเป็นเพื่อนฉันเพราะเหล่าหนุ่ม ๆ ยังคงต้องคุยงานกันอยู่อีกห้องหนึ่งพอดี ขนาดจะกลับอยู่แล้วเทนชิก็คงยังทำงานไม่เลิก เห็นว่ามีโปรเจกต์อะไรสักอย่างกับพวกพี่ดีไวน์ด้วย “นั้นสิ ตัวก็ร้อน ๆ นะ” สร้อยเอามือขึ้นมาอังที่หน้าผากของฉันพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ลินา “งั้นเดี๋ยวเทียนไปซื้อยาให้นะ” ฉันกำลังจะปฏิเสธแต่ก็ไม่ทัน เมื่ออีกฝ่ายพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปอย่างไวเลย เกรงใจจัง ฉันพอรู้ตัวตั้งแต่เช้าแล้วล่ะว่าตัวเองน่าจะไม่สบาย ฉันรู้สึกมึนหัวแล้วก็ปวดหัวทันทีที่ตื่นเลยเมื่อคืนฉันต้องดื่มเยอะไปแน่ ๆ แล้วไหนจะ...เรื่องที่เทนชิทำกับฉันอีก ฉันจำได้หมดและก็รู้สึกอายมาก เพราะฉันดันเป็นฝ่ายรุกเขาซะเองนี่สิ โอ๊ยอยากจะกรี๊ดมาก -,.-“บุญโอเคไหมเนี่ย ทำไมหน้าแดงมากขนาดนั้น” สร้อยพูดด้วยเสียงตกใจที่อยู่ดี ๆ หน้าฉันก็แดงขึ้นมา ไม่ใช่เพราะอาการปวดหัวกำเริบหรอก แต่เพราะฉันดันไปคิดถึงเ
ผมประคองเธอให้เดินไปล้างหน้าล้างตา ล้างคราบต่าง ๆ ออกอย่างไม่รังเกียจ ส่วนเธอได้แต่มองการกระทำของผมด้วยสายตาปรือ ๆ จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่“ปะ กลับ” ผมฉุดแขนของเธอหมายจะให้เดินตามผมไปที่รถ แต่ก็ต้องหยุดชะงักซะก่อนเมื่อคนข้างหลังผมเกร็งตัวไว้ ผมมองเธออย่างต้องการคำตอบ อะไรของเธอวะ“บุญจะพาเฮียไปไหน” เธอลากผมเข้ามาในสุดของห้องน้ำ มันเป็นมุมมืดที่ลับตาคนนิดหน่อย ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกนะ บางทีเธออาจจะพาผมมาทำมิดีมิร้ายเปล่าวะเธอผลักผมเข้าไปในห้องน้ำข้าง ๆ (แม้! ทีงี้อ่อนแอจังนะอิพี่!!!) พร้อมกับลงกลอนประตูเรียบร้อยโดยที่ผมไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย ^o^“จะทำไร?” ถามไปงั้นแหละ ทั้งทีรู้อยู่แล้ว เมียผมนี่แม่งเวลาเมาแล้วเร่าร้อนจริง ๆ รู้งี้ผมมอมยัยนี่บ่อย ๆ ดีกว่า“อยากทำลูก” เธอค่อย ๆ ดันให้ผมนั่งลงที่ชักโครกข้างหลัง ตามด้วยเธอที่เดินเข้ามานั่งบนตักของผมพร้อมกับทำสายตายั่ว ๆ ส่งมาให้ผม อยากได้ลูกผมก็จัดให้“อือ” ผมใช้มือดันหัวเธอให้ก้มลงมาประกบปากลงบนริมฝีปากของผม จากการจูบที่แสนหวานก็ค่อย ๆ เร่าร้อนขึ้นตามระดับอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ด“อะ อ๊า แน่น” เธอครางเสียงกระเส่าเมื่อผมดันนิ้วของ
ตอนพิเศษ ๒ NC+++ผับหรูย่านใจกลางเมืองเทนชิ Talk “ฝีมือมึงตกแล้วเหรอวะไอ้เทนชิ” เสียงเยาะเย้ยของไอ้เคียร์เอ่ยขึ้น ผมมองมันด้วยสายตาโมโหนิดหน่อย ไอ้นี่ได้ทีขยี้ผมใหญ่ ก่อนหน้านี้พวกมันก็มาเชียร์ผมแข่งไง เลยมาเยาะเย้ยผมได้แต่ก็อาจจะจริงอย่างที่ไอ้เคียร์พูดก็ได้ เพราะผมมีเวลาให้ซ้อมไม่เท่าไหร่เองหลังจากที่วางมือไปหลายปี แล้วตอนนี้ก็มีเด็กรุ่นใหม่เก่ง ๆ เยอะมาก มันเลยทำให้ผมได้ที่สองมาครองแทน โดยที่หนึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นม้ามืดเลย ถือว่าเก่งจนผมยอมรับเลยล่ะหลังจากที่การแข่งขันจบลงพวกผมก็พากันมาสังสรรค์ที่ผับของตัวเอง โดยตอนนี้มีไอ้พวกสามตัวนี้เป็นคนคอยดูแลอยู่ เพราะผมอยู่แต่ที่ญี่ปุ่นยังไงล่ะ“เย้! บุญแพ้แล้วกินเลย เพียว ๆ ด้วย ห้ามผสม!” เสียงน้องสร้อยดังขึ้นเรียกความสนใจให้ผมและเพื่อน ๆ ไม่น้อย ดูเหมือนพวกเธอจะเล่นเกมอะไรสักอย่างกันอยู่นะพวกผมกับพวกน้องสร้อยเรานั่งกันคนละโต๊ะแต่ไม่ได้ห่างกันมากเท่าไหร่ สงสัยคงจะเล่นอะไรแผลง ๆ กันอยู่แน่ ๆ ยิ่งมีน้องสร้อยเมียของไอ้เคียร์ยิ่งแล้วใหญ่เลย รายนั้นชอบพาเมียผมทำอะไรแปลก ๆ อยู่เรื่อย เหมือนอย่างตอนนี้เนี่ยยัยใบ้
น้องสาวของฉัน ส่งผลให้ฉันถึงกับยืนไม่ไหว ไหนจะมือที่บีบหน้าอกฉัน ไหนจะมืออีกข้างที่เขากำลังเล่นกับน้องสาวฉันอยู่ ทุกสัมผัสของเขามันกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้าแล้ว“พะ...พอก่อน เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ก็เขาเล่นมาทำแบบนี้ข้างนอก ถ้าเกิดมีใครมาเห็นฉันได้ซวยถูกหาว่ามาเล่นหนังสดกลางป่าแน่ ๆ“สัญญาจะรีบทำ”ปัก! “โอ๊ย!” ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจเขาก็ดันเจ้าลูกชายตัวอวบเข้ามาซะแล้ว มันทั้งจุกทั้งเจ็บ เขาแช่มันไว้อย่างนั้น ส่วนฉันก็ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียงน่าอายออกไป ถ้าเกิดมีใครมาได้ยินต้องซวยมากแน่ ๆ “ถ้ารู้ว่าทำข้างนอกแล้วจะตอดหนักขนาดนี้ รอบหน้าเรามาจัดกันข้างนอกเหมือนอย่างวันนี้อีกดีไหม หืม” ฉันไม่สนใจคำพูดน่าอายของเขา เพราะตอนนี้เหมือนฉันกำลังจะหมดแรงเลย ฉันใช้แขนค้ำยันไปกับหลังคารถ หน้าก็ซุกลงไปบนหลังคา เพื่อข่มเสียงน่าอายของตัวเองที่กำลังจะเปล่งออกมาเมื่อเขาเริ่มขยับเอว “อ๊ะ อือ บะ...เบา จะกลั้นเสียงไม่อยู่แล้วเฮีย” เขาเล่นกระแทกกระทั้นเข้ามาแรงมากจนฉันได้ยินเสียงตรงนั้นกระทบกัน ฉันถึงกับต้องใช้มือยันกับขอบกระจกรถเพื่อให้ไม่ให้หน้าอกตัวเองชนเข้
Comments