[ฮาเร็มฮาซีฟ]
“คุณเซริก็แค่บอกท่านฮาซีฟไปว่า นางทั้งสามหนีไปได้สิเจ้าคะ จะได้ไม่มีปัญหา ข้าออกตามหาทั่วคฤหาสน์แล้ว ก็เหลือแต่ห้องของนายท่านคาริสเจ้าค่ะ เพราะสาวรับใช้คอยสกัดข้าไว้ เกือบหลุดไปแล้ว ดีนะข้าอ้างว่ามาตาหาท่านเซริ ไม่งั้นคงแย่เป็นแน่แท้...ส่วนห้องของนายท่านอิลยาสก็มีคุณราเนียอยู่ในนั้นด้วย ก็คงไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”
“ข้าจะบอกนายท่านฮาซีฟอย่างที่เจ้าแนะนำได้อย่างไรโบอา เจ้าก็รู้นี่ว่านายท่านฮาซีฟพึงพอใจนางสาวคนไทยคนนั้นมากแค่ไหน”
เซริจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร นายท่านอาจไม่พอใจเพราะเธอทำงานไม่สำเร็จ
“แต่ข้าไม่คิดแบบคุณเซรินะเจ้าคะ ข้าว่านางสาวคนไทยที่ชื่อโมนานั่น น่าจะทำให้นายท่านฮาซีฟพึงพอใจอยู่ไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ ข้าว่านางมีเสน่ห์แพรวพราวและทำให้นายท่านฮาซีฟอยู่หมัด คุณเซริสังเกตไหม ว่านายท่านฮาซีฟจะอารมณ์เย็นทันที เมื่อเจอคุณโมนาคนนั้นออดอ้อนเอาใจ”
“ก็จริงอย่างที่เจ้าพูดนะโบอา แต่ข้าก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ถ้าเกิดนายท่านคาริสรู้เรื่องนี้ล่ะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เพราะนายคาริสเคยมาบุกค้นที่ฮาเร็มนี่แล้ว แต่นายท่านฮาซีฟปฏิเสธไปทุกทาง ข้าว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่”
“ใจเย็นๆ นะเจ้าคะคุณเซริ เราทำตามหน้าที่หมดแล้ว พวกนายท่านเขาไม่สนเรื่องพวกนี้นานหรอกเจ้าค่ะ นายท่านร่ำรวยมหาศาลกันขนาดนี้ ข้าคิดว่ามีสาวงามเป็นร้อยเป็นพันให้นายท่านเลือกเยอะแยะ อีกหน่อยก็ลืมและไม่สนใจเรื่องนี้หรอกเจ้าค่ะ”
“อืม...ข้าก็หวังว่าอย่างนั้นนะ”
[ห้อง...คาริส]
มรสุมรักผ่านพ้นไป ร่างระหงนอนระทวยไร้เรี่ยวแรง ดวงตากลมโตปิดสนิทลมหายใจยังคงสม่ำเสมอ เมื่อความร้อนในร่างกายลดลง บทรักนับครั้งไม่ถ้วนที่เขาและเธอบรรเลงด้วยกัน ความอ่อนล้าจากพายุรักทำให้ร่างบางหลับสนิท...
คาริสมองร่างหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอคือสตรีแปลกหน้า แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเขา คาริสมั่นใจว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดเอาเปรียบเธอเลยในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทุกอย่างมันทำให้เขาไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ความเย้ายวนเสน่หาที่ตราตรึงเขาตั้งแต่แรกเห็นนั้น เป็นแรงผลักดันให้เขาไม่อาจปฏิเสธเธออย่างที่ควรจะเป็น ส่วนลึกในใจของเขานั้นพึงพอใจเธอเป็นอย่างมาก...คาริสไม่อยากผละจากเธอไป กลัวเมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วและเธออาจจะหนีไป เขาเลยต้องผิดนัดงานเลี้ยงสำคัญของค่ำคืนนี้ไป ‘นายท่านมีอะไรขอรับ หรือว่าไม่สบายขอรับ’ บาซาร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อคาริสโทรไปหาลูกน้องคนสนิทให้จัดการเรื่องงานเลี้ยงนั้น ‘ใช่...ข้าไม่สบาย’ คาริสบอกลูกน้องไปอย่างนั้น
“อืม
“เจ้าควรจะตื่น เพื่อมาเจรจากันเสียก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาแตะไปที่ใบหน้าอันงดงามเบาๆ
“...” ร่างบางรู้สึกตัวเมื่อมีบางอย่างมาสะกิดเธอ
“อุ้ย!” รินลดาตกใจเมื่อเธอลืมตาและก็พบว่ากำลังถูกจ้องมองและที่สำคัญเธอยังอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกด้วย รินลดาพยายามเบี่ยงร่างของตัวเองออกจากเขา แต่ทว่าอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั้นกลับกระชับขึ้นไปอีก
“ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจ แต่ข้าก็อยากที่จะเจรจากับเจ้าก่อน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ร่างกายของเจ้าปกติดีหรือไม่”
ปลายเสียงของชายหนุ่มนั้นดูอ่อนโยน คาริสไม่เคยคิดว่าบทรักเพียงชั่วคืนกับหญิงแปลกหน้านั้น จะทำให้เขารู้สึกเต็มตื้นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นสตรีอื่นเขาคงไม่ได้สนใจขนาดนี้ แต่นี่เป็นเธอ...คนที่ตราตรึงอยู่ในใจของเขาโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่แรกเจอ
“เอ่อ...คุณปล่อยก่อนได้ไหมคะ”
“อืม...” ชีคหนุ่มยอมปล่อยเธอแต่โดยดี
“ฉันอยากกลับบ้านแล้วค่ะ รับรองนะคะว่าฉันจะไม่แจ้งความจับพี่ชายของคุณ แต่ขอแค่คุณพาฉันไปส่งที่โรงแรมที่ทีมงานฉันรออยู่ก็พอค่ะ ฉันสัญญานะคะว่าจะไม่เอาความกับพี่ชายของคุณค่ะ”
รินลดาพูดแบบรัวๆ เพื่อพยายามโน้มนาวเขา เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอประสบพบเจอนั้นมันร้ายแรงสำหรับเธอที่สุด แต่รินลดาก็คิดว่าดีแค่ไหนแล้วที่เธอยังมีชีวิตรอดมาได้
“ข้าไม่ได้ห่วงว่าเจ้าจะเอาความพี่ชายข้าเลย แต่สิ่งที่ข้าอยากคุยกับเจ้าก็คือ เจ้าเป็นของข้าแล้ว และข้าก็คิดว่าข้าคือคนแรกของเจ้า สิ่งที่ข้าอยากจะเจรจากับเจ้าก็คือ ข้าจะรับผิดชอบเจ้า...อืม...เจ้ามีนามว่าอย่างไร ขอข้าทราบชื่อของเจ้าได้ไหม ข้าเองมีนามว่า ‘คาริส’ เป็นน้องชายของท่านพี่ฮาซีฟ คนที่พาตัวเจ้ามา และข้าก็เป็นเจ้าของงานที่เจ้ามาเดินแบบให้”
“อะ-อะไรนะคะ! คุณคือเจ้าของงานหรือคะ ละ-แล้วคุณ”
“ข้าไม่มีส่วนรู้เห็นจากการกระทำของพี่ชายข้าเลย เจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้าออกตามหาเจ้าทุกที่แม้กระทั่งฮาเร็มของท่านพี่ ข้าก็ยังออกค้นหาเจ้า ทางทีมงานของเจ้าก็ทุกข์ใจและออกตามหาเจ้าเช่นกัน ในขณะนี้พวกเขาก็ยังพักอยู่ที่เดิม ไม่ได้กลับประเทศไทยแต่อย่างใด”
“จริงหรือคะ งั้นคุณช่วยฉันตามหาเพื่อนอีกสองคนได้ไหมคะ แล้วพาดิฉันกลับไปหาพวกเขาหน่อยค่ะ”
แววตาแห่งความยินดีเผยออกมาอย่างชัดเจน จนลืมอะไรบางอย่างไป
“เพื่อนของเจ้าข้าจะช่วยตามหา แต่ว่าตอนนี้ข้าอยากจะคุยกับเจ้า เรื่องของเรา คือ ข้ากับเจ้า”
คาริสพยายามจะอธิบายให้เธอเข้าใจ แน่นอนว่าเขากับเธอผ่านบทรักมามากมายนับสิบครั้ง โดยที่เขาไม่เคยคิดที่จะป้องกันเลย สิ่งที่จะตามมาไม่น่าจะพลาดเลยในความคิดของคาริส
“ฉะ-ฉันไม่เอาความคุณหรอกค่ะ ฉันรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มันไม่ได้เกิดจากคุณซะทีเดียวหรอกค่ะ ฉันขอให้คุณช่วย เอ่อ ฉันก็ไม่รู้ว่าอาจเป็นเพราะฉันดื่มน้ำที่สาวใช้ให้ฉันดื่มหรือเปล่า มันเลยทำให้ฉันเป็นแบบนั้น”
รินลดาอธิบายอย่างเขินอาย จะไม่ให้เธอรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเธอกับเขา เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ เหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตของรินลดา จะเรียกว่าอุบัติเหตุก็เห็นจะใช่
“ราเนีย!!” อิลยาสรับร่างนั้นเอาไว้ เขามองหญิงสาวในอ้อมกอดของเขาที่ยังคงไม่ได้สติ เรือนกายของเธอร้อนผ่าวจนเขารู้สึกได้ “ท่านพี่ทำแบบนี้ทำไมคะ ฮือ ฮือ อีนังนี่มันเป็นใคร!”ราเนียปล่อยโฮออกมาทันที หัวใจของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด ราเนียไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเรื่องเลวร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ “แล้วเจ้า! เข้ามาได้อย่างไรกัน” “มันคือใคร! ท่านพี่ต้องตอบมา!”ราเนียถลาเข้าไปพร้อมกับใช้กำปั้นทุบตีไปที่เรือนร่างอันเปล่าเปลือยของชีคหนุ่ม กำปั้นของเธอกระแทกไปโดนร่างที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ชีคหนุ่มเอี้ยวตัวใช้กายกำยำบดบังร่างของหญิงสาวเอาไว้ พร้อมกับหันไปกระชากเสียงใส่อีกฝ่าย “ราเนีย!” เสียงเข้มตวาดห้วนดังก้อง เพื่อหยุดการกระทำของหญิงสาว มันได้ผลราเนียผงะกับเสียงตวาดนั้น และตกตะลึงกับสิ่งที่เธอได้ยิน เธอไม่คิดว่าท่านพี่อิลยาสของเธอจะตะคอกเสียงใส่เธอแบบนี้ ‘ท่านพี่ปกป้องมันอย่างนั้นหรือ’ “ฮือ ฮือ ท่านพี่!” “เจ้าออกไปก่อนเถิด เดี๋ยวพี่จะออกไปเคลียร์กับเจ้า” “ไม่ค่ะ! ท่านพี่ต้องตอบราเนียมาก่อน ว่าอีนังนี่มันคือใคร!”ราเนียมองร่างของสตรีน
หญิงสาวต่อต้านและดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด แต่ก็สู้แรงของชายหนุ่มไม่ได้ ธาริกาส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ร่างของเธอถูกชายหนุ่มจับเอาไว้ เรียวขาสวยทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน โดยที่เธอพยายามที่จะขืนแรงนั้น แต่มันก็ไม่เป็นผล เมื่อแท่งร้อนสัมผัสกับช่องทางรักของเธอ ธาริกาพยายามดิ้นอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เขาทำได้สำเร็จ แต่แรงอันน้อยนิดจะสู้แรงมหาศาลได้อย่างไร “ตราบใดที่ฤทธิ์ยาไม่สิ้น ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเด็ดขาด!”จบประโยคจากชายหนุ่ม มังกรใหญ่ก็กดกระแทกจ้วงลึกมาจากด้านหลังโดยไม่พลาดเป้า! อิลยาสมีสติครบทุกอย่าง แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะต้านทานความปวดหนึบร้อนระอุได้อีกต่อไป ทางออกคือเธอคนนี้เท่านั้น! ไม่ว่าเธอจะประณามเขาอย่างไร หรือแม้กระทั่งแจ้งความเขาก็ยอม!! แก่นกายใหญ่กระแทกตอกตรึงหนักหน่วง! “ไม่นะ! อ๊ะ! ปล่อย!”ร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั่วเรือนร่าง เมื่อช่วงล่างของเธอนั้นโดนโจมตีอย่างหนัก ดุเดือด มือบางกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น! เพื่อไม่ให้ร่างของเธอกระเด็นกระดอนไปข้างหน้า ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเกิดขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องจนสุดเสียง “โอวว์ อ่าร
“อ๊ะ! ไม่!” ร่างบางสะดุ้งสุดตัวกับสัมผัสจากปากของเขา เธอพยายามดีดดิ้นเรือนกายออก แต่แทนที่จะหลุดพ้นกลับแอ่นอกอวบขยี้ไปบนใบหน้าของชีคหนุ่มไปอย่างไม่ตั้งใจ “โอววว์ จะ-เจ้า” เสียงครางพึมพำกับอกอวบใหญ่ มืออีกข้างหนึ่งของเขาแยกเรียวขาของเธอกางออกทันที ‘ถ้าช้ากว่านี้เขาคงต้องตายแน่ๆ’ “ปล่อยนะ! ได้โปรด!” เสียงเล็กอ้อนวอนชายหนุ่มดังขึ้น เมื่อมีบางสิ่งกำลังไล้ไปมากับช่วงล่างของเธอ ธาริกาพยายามเขยิบตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อถูกร่างใหญ่กดทับเอาไว้ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะพบจุดจบแบบนี้เลย “ข้า จะรับผิดชอบเจ้า! ได้โปรด! เชื่อใจข้าเถิด!”อิลยาสเอ่ยคำขอร้องออกจากปากโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องทำอะไรแบบนี้ ‘ขอให้สิ่งนี้มันผ่านไปก่อนเถิด’ “ไม่! ฉัน ไม่ต้องการ! อุ๊บ!!”ปากบางถูกปิด พร้อมกับบางอย่างกดแทรกเข้ากับช่องทางรักของเธออย่างจัง!! “กรี๊ด!!!!” ธาริกาสะดุ้งตกใจกับสิ่งแปลกปลอมนั้นทันที ความเจ็บปวดราวกับโดนมีดจ้วงแทงตรงช่วงล่างของเธอ! ธาริกาผงกศีรษะของเธอขึ้น พร้อมกับฝังฟันคมไปกับไหล่กว้างทันที! “โอ้ย!!!” ร่างหนาสะดุ้งสุดตัว! สันกรามขบ
“มีอะไรเหรอคะ?”ธาริกาที่นั่งมองท่าทีของชายหนุ่มตรงข้างอ่างอาบน้ำ เธอชะโงกหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ ด้วยความสงสัย ‘บางทีเขาอาจจะเจอปริมาณยามากกว่าเธอก็เป็นได้’ “ข้า! ไม่ไหวแล้ว! เจ้าช่วยข้าที” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บปวดและทรมานร่างกายอย่างแสนสาหัส “ไม่ค่ะ! คุณให้ฉันไปหายามาให้คุณดีมั้ยคะ หรือจะให้ฉันไปเรียกสาวใช้คนข้างนอก...มา...เอ่อ...ทำอะไรกับคุณจะดีกว่าไหม”ใบหน้าสวยแดงกล่ำเพราะเธอกำลังนึกถึงสิ่งที่จะแก้อาการของเขาได้ด้วยวิธีการบางอย่าง “จะ-เจ้า! เป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร! โอววว์ ข้าปวดไปหมด...ข้าไม่ทำอะไรเจ้า ขอแค่กอดหรือสัมผัสเจ้าให้อาการของข้าลดลงก็พอ...”อิลยาสร้องขอหญิงสาวอย่างหมดลาย เขาไม่คิดว่าตัวเองจะอาการหนักถึงเพียงนี้ เพราะความประมาทของตัวเอง เลยเป็นเหตุให้ต้องเป็นแบบนี้ “ฉันจะให้คุณทำแบบนั้นได้ยังไง! ฉัน...เอ่อ...ไม่เคยนะ! และอีกอย่างถ้าคุณเผลอทำอะไรฉันล่ะ และ...ว้าย!”ธาริกาเอ่ยไม่ทันจบประโยค เธอก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อมือเขาคว้ามาที่ตัวเธอและดึงร่างของเธอให้ลงไปในอ่างน้ำด้วยกัน “ไม่! คุณอย่าทำอะไรฉันนะ! ปล่อย! ได้ยินมั้
“อุ้ย!!!” รินลดาขืนตัวเอง เพราะความตกใจ ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งอายุ 21 ปี เธอก็ไม่เคยที่จะแนบสนิทชิดใกล้ชายหนุ่มคนไหนเลยสักครั้ง ความประหม่าปนเขินอายก็เกิดขึ้นกับตัวเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “เจ้าดิ้นอย่างนี้ เมื่อไหร่ข้าจะได้นอนเล่า หยุดดิ้นเถิด”เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างหูหญิงสาว พร้อมกับขโมยจุ๊บแก้มนวลไปหนึ่งที ก่อนที่เขาจะหลับตาลง ปล่อยให้หญิงสาวงงงวยกับท่าทีของเขา “...” รินลดาจ้องมองใบหน้าคมคาย แสงไฟสลัวข้างเตียงนอนสาดส่องไปยังใบหน้าคมเข้มที่มีเคราบางๆ ปกคลุมอยู่ประปราย สายตาคู่สวยกวาดไปทั่วใบหน้าของเขา ความใกล้ชิดนี้ทำให้เธอสัมผัสกับลมหายใจหอมกรุ่นจากชายหนุ่ม ‘ชายแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน และเธอต้องมานอนร่วมเตียงกับเขาเนี่ยนะ...’ [อีกด้านหนึ่งของเหตุการณ์] “ราเนียรักท่านพี่นะคะ...”ริมฝีปากบางประกบจูบลงไปที่ปากหนาทันที ลิ้นเล็กพยายามชอนไชเข้าไปในโพรงปากใหญ่ของชายหนุ่ม ราเนียไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปอย่างแน่นอน “อื้อ!!!” เสียงอู้อี้ของชายหนุ่มที่กำลังประท้วงเพราะโดนโจมตีอย่างอุกอาจ เขาพยายามเบี่ยงกายออกจากเรือนร่างอันเย้า
“ท่านพี่ดื่มชาก่อนค่ะ จะได้ผ่อนคลาย ราเนียเข้าใจและเอาใจช่วยท่านพี่นะคะ” ราเนียยกแก้วน้ำชาส่งให้กับชายหนุ่ม “ครับ...พี่ต้องขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงพี่”อิลยาสรับแก้วน้ำชาไว้ แต่ก็ยังไม่รีบร้อนที่จะดื่มแต่อย่างใด ภายในใจของเขานั้นกำลังประเมินแก้วชาของเธอ ว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในแก้วนี้หรือไม่ “ราเนียเองก็เป็นห่วงท่านพี่นะคะ ไม่อยากให้ท่านพี่หักโหมจนเกินไป อยากให้ท่านพี่พักผ่อนบ้างก็เท่านั้นค่ะ”สายตาคู่สวยจ้องไปยังถ้วยชานั้น ‘เจ้าเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่านะ ข้าไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว ถ้าพลาดกับท่านพี่ครั้งนี้ คงอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้แล้วนะ’ ราเนียนึกถึงคำพูดที่เธอสั่งลูกน้องคนสนิท “พี่จะพยายามครับ” อิลยาสชั่งใจกับแก้วชาในมือเขา “ท่านพี่ดื่มชากุหลาบนี่สิคะ ท่านพี่จะได้กลับไปพักผ่อนและนอนหลับสบายนะคะ” ราเนียพยายามปิดเกม “ครับ” อิลยาสยกขึ้นดื่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ร่างกายของเขาแข็งแรงสามารถที่จะทนยากำหนัดได้อย่างแน่นอน ขนาดผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ในห้องของเขายังผ่านมาได้ และสมุนไพรก็คงจะช่วยเขาได้อีกแรง “อุ้ย! ท่านพี่ดื่มรวดเดียวหมดขนาด