Share

Chapter 2

last update Last Updated: 2025-10-30 04:09:26

Chapter 2

“ปรางค์ มีคนพูดกับฉันหลายคนนะว่าเจ้าของบริษัทที่เธอจะไปฝึกงานด้วย ชื่อเสือ ชื่อดุน่าดูเลย ปรางค์ว่าเขาจะหน้าตาเป็นยังไง”

เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตสะดุดชื่อเล่นที่สองสาวกล่าวถึง เพราะชื่อเสือ เป็นชื่อเล่นของเขาเช่นกัน คราแรกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่ตนเองหรือไม่ แต่พอมาวิเคราะห์อะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชั้นที่คนถูกถามไปนั้นก็เป็นชั้นที่ตั้งบริษัทของตน เขาคิดว่า เสือ ที่ทั้งคู่พูดถึงนั้นคือตนแน่นอน

วิตโตริโอเลือกที่จะเงียบและโบกมือให้รังสรรค์ที่กำลังจะอ้าปากพูดให้หุบปาก เพราะต้องการรู้ว่า คำตอบที่กำลังจะถูกขับออกมาจากปากของสาวสวยร่างเล็กว่าเป็นอย่างไร

ปรางค์รวีทำท่าคิดได้น่ารัก ใสซื่อจนคนที่มองดูเธออยู่ถึงกับเคลิ้ม เขาไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนยิ้มได้สวยอย่างนี้มาก่อนเลย เวลาเธอยิ้มทำให้ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา คืนชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“อืม อายุก็คงหกสิบกว่าๆ อ้วนลงพุง หน้าตาดุๆ เหมือนกับชื่อกระมัง อ้อ...มีเขี้ยวสองข้างด้วย เอาไว้คอยขย้ำลูกน้องที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ” ปรางค์รวีตอบเพื่อนด้วยการคาดเดา เธอคาดคะเนจากหลายประการ บริษัทแห่งนี้เติบโตมากกว่า 34 ปี เพราะฉะนั้นเจ้าของบริษัทน่าจะอายุประมาณหกสิบปีอย่างแน่นอน ส่วนลักษณะท่าทางและองค์ประกอบต่างๆ เธอพูดโดยไม่ได้ทันคิด พูดเล่นๆ สนุกปาก หากแต่เจ้าของชื่อกับไม่ตลกด้วย เขาถึงกับลมออกหู กัดกรามแน่นเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ดูถูกเขาอย่างหนัก ไม่เคยมีใครกล้าหยามเขามากขนาดนี้มาก่อนเลย

“แก่ขนาดนั้นเลยเหรอปรางค์ แต่ก็น่าจะใช้เนอะ”

“ปรางค์ว่าน่าจะใช่นะ ชื่อเสือก็ต้องหน้าดุเสียงเข้มสมกับชื่อ ถ้าชื่อแมวหรือหนูก็ว่าไปอย่าง ไม่ต้องปั้นหน้าดุ คอยแต่วิ่งหนีเสืออย่างเดียว” สองสาวหัวเราะอย่างชอบใจ

ต่างจากคนรอบข้างที่เริ่มร้อนๆ หนาว ๆ แทนปรางค์รวีที่สาธยายรูปร่างหน้าตาของเจ้านายหนุ่มมากอารมณ์ ที่ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้างหากได้พบกับคุณเสือ ตัวจริงเสียงจริง

ปรางค์รวีและภัทราก้าวออกมาจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นที่ 46 พอก้าวออกมาทั้งสองก็ตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานที่อยู่ด้านนอกลิฟต์ เนื่องจากลิฟต์ตัวนี้ไม่มีพนักงานคนไหนหรือว่าบุคคลอื่นกล้าใช้ รู้ดีว่าเป็นของผู้บริหารระดับสูง แล้วสองนักศึกษาสองคนนี้ใช้บริการลิฟต์ตัวนี้ได้อย่างไร

“ปรางค์ ฉันไปก่อนนะ เจอกันตอนเที่ยงนะเพื่อน”

ปรางค์รวีและเพื่อนสนิทแยกกันที่หน้าลิฟต์ ปรางค์รวีเดินตรงไปที่แผนกบุคคลเพื่อรายงานตัว ส่วนภัทราก็ไปยังลิฟต์อีกตัว

ภายในลิฟต์

“เสก ไปสืบมาสิว่าผู้หญิงที่วิจารณ์ฉันฝึกงานที่แผนกไหน ถ้าจะให้ดีย้ายมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยเลขาของฉัน”

น้ำเสียงทรงอำนาจของวิตโตริโอสั่งการรังสรรค์ คนรับคำสั่งรีบทำตามคำสั่งทันที นึกหวาดหวั่นกับสาวน้อยแสนสวยคนนี้ยิ่งนัก สงสัยงานนี้เจออ่วมแน่

ปรางค์รวีออกมานั่งรออยู่หน้าห้องแผนกบุคคล หลังจากที่เข้าไปรายงานตัวเมื่อห้านาทีที่แล้ว ระหว่างที่รายงานตัวอยู่นั้น มีชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องที่เธอจำได้ดีว่าเจอกันในลิฟต์ ก่อนจะสั่งให้เธอออกไปคอยข้างนอก ราวกับว่าเรื่องที่สนทนากับเจ้าของห้องเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเธอก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี

“ต้องขอโทษหนูด้วยที่ทำให้คอยนาน พอดีว่ามีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย หนูต้องไปฝึกงานเป็นผู้ช่วยเลขาท่านประธานแทนตำแหน่งเดิม”

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเดินมาบอกปรางค์รวีหน้าห้อง โดยมีร่างขอรังสรรค์เดินตามมาติดๆ ปรางค์รวีทำสีหน้าฉงนเล็กน้อยแต่เมื่อเป็นคำสั่งเธอเองต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะให้เธอฝึกงานในตำแหน่งใดเธอก็ต้องทำ ไม่เช่นนั้นเธอจะเรียนไม่จบ

“ค่ะ ได้ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นตามผมมาเลยครับ ผมจะพาไปพบท่านประธาน”

ปรางค์รวีเดินตามรังสรรค์ไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปที่ชั้น 48 ซึ่งเป็นชั้นของผู้บริหาร ระหว่างที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัว มือเล็กทั้งสองข้างชื้นไปด้วยเหงื่อ หัวใจเต้นผิดแปลก มีความหวาดกลัวเข้าแทรกจิตใจ หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่า ตนเองกำลังเดินเข้าสู่หลักประหารก็ไม่ปาน

ไม่นานนักทั้งสองก็เดินมาหยุดที่หน้าห้องประธานกรรมการใหญ่ รังสรรค์เคาะประตูสามครั้ง ก่อนที่ประตูจะเปิดออกกว้างจากการกดปุ่มสวิตช์เปิดปิดจากด้านใน

“ท่านประธานรออยู่ เชิญครับ”

รังสรรค์พูดอย่างสุภาพ ปรางค์รวียิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเป็นมิตร เท้าเล็กเดินเข้าไปภายในห้อง ด้วยความรู้สึกไม่สู้ดีนัก ความรู้สึกที่มีก่อนหน้า เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนอยากจะชักเท้ากลับ

ปรางค์รวีหยุดยืนกลางห้อง มองร่างของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหันหลังให้จน เรือนร่างที่มองจากด้านหลัง ช่างสมส่วน บ่ากว้าง ท่อนแขนกำยำ เรือนร่างของเขาช่างคุ้นตายิ่งนัก เส้นผมสีนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหน สะดุดใจกับเสื้อสูทของเขา มันเหมือนกับชุดที่ชายหนุ่มที่อยู่ในลิฟต์ใส่ไม่ผิดเพี้ยน

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” ปรางค์รวีทักทายเสียงสุภาพ แม้หัวใจจะเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ อย่าให้สิ่งที่เธอคิดเป็นเรื่องจริงเลย วิตโตริโอหันมามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างเชื่องช้า วินาทีแรกที่ปรางค์รวีเห็นใบหน้าของท่านประธานบริษัท ร่างกายเธอนิ่งราวกับท่อนไม้ หัวใจกระตุกไหวอย่างแรง

ใช่...เขาคือผู้ชายที่ยืนอยู่ในลิฟต์ เป็นเจ้าของดวงตามหาเสน่ห์ แค่มองสบตายังหลงใหลหากได้ชิดใกล้ หัวใจของเธอคงกระดอนออกมานอกอกเป็นแน่ แสดงว่าที่เธอวิจารณ์เขาในลิฟต์ เขาคงได้ยินหมดแล้ว

‘ตายแน่เลยยัยปรางค์งานนี้ต้องตายหยังเขียดแน่’

ปรางค์รวีพึมพำในใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 7

    Chapter 7“คุณเสือคะปรางค์ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” ปรางค์รวีตัดสินใจพูด หญิงสาวรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากที่นั่งเป็นอาหารตาของเพื่อนของเขา โดยที่วิตโตริโอไม่มีทีท่าว่าจะปกป้องเลยแม้แต่นิดเดียว“อืมไปสิ” เขาหันมาพูดกับเธอ ก่อนจะสนทนากับเพื่อนต่อไป“วิโตรู้สึกว่านายจะกินอาหารจานนี้เกินกว่าจานอื่นๆ นะ”บุรินทร์ผู้ชายที่มีนิสัยเจ้าชู้ เอ่ยถามวิตโตริโอทันทีที่ร่างของปรางค์รวีเดินออกไปจากโต๊ะ“ใครว่ากินนาน ฉันยังไม่ได้กินต่างหาก” เขาตอบเพื่อนสนิท สีหน้าของบรรดาเพื่อนๆ ที่อยู่ร่วมโต๊ะ ไม่เชื่อคำพูดของเขา ไม่คาดคิดว่าเพลย์บอยแห่งยุคจะปล่อยให้อาหารหวานลอยนวลได้นานขนาดนี้“เป็นไปได้ยังไงวะอย่างนายเนี่ยเหรอยังไม่ได้กินอาหารหวานจานนี้ ฉันนึกว่าเสร็จนายไปนานแล้วเสียอีก” ธีรยุทธ์พูดเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ใกล้วิตโตริโอ ไม่เกินหนึ่งวันผู้หญิงคนนั้นต้องกรายมาเป็นอาหารหวานของหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ทุกราย“อาหารจานนี้ฉันอยากจะพิถีพิถันในการกินมากกว่าจานอื่นๆ ค่อยๆ กินทีละนิดๆ มันถึงจะอร่อยและเร้าใจ บุ่มบ่ามกินอย่างตะกละตะกลามมันจะไปอร่อยอะไร กินไม่กี่ครั้งก็เบื่อพวกนายว่าจริงไหม” น้ำ

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 6

    Chapter 6สองสัปดาห์มานี้ปรางค์รวีคลายความอึดอัดลงมาก เมื่อเขาไม่เคยล่วงเกินเธอเกินกว่าการจับมือถือแขน วิตโตริโอให้เกียรติอย่างที่หญิงสาวคาดไม่ถึง ทำให้เธอกล้าพูดคุยหยอกล้อกับเขามากขึ้น หากแต่ปรางค์รวียังคงระวังตัวกลัวจะเผลอไผลไปกับสัมผัสรัญจวนเช่นครั้งนั้น ทว่าเธอลืมระวังหัวใจไม่ให้หลวมตัวรักเขาและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หัวใจของเธอก็กำลังจะพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์อันเหลือล้นของเขา ที่มาพร้อมกับความเอาใจสารพัด พูดจาอ่อนหวานระคนนุ่มหู พาไปทานอาหารกลางวัน ไปรับไปส่งทุกเช้าและเย็น เขาทำหน้าที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ความรู้สึกดีเริ่มก่อเกิดในจิตใจ ดอกรักค่อยๆ เบ่งบานในหัวใจที่ไม่เคยสัมผัสคำว่าความรัก แต่ถึงกระนั้นปรางค์รวีก็ยังไม่เปิดใจรับเขาเต็มที่ เพราะคิดว่าคนอย่างเขาคงไม่ปักใจรักหญิงสาวธรรมดาเช่นเธอ เพราะในสังคมของเขามีสตรีที่เทียบเทียมกับเขามากเหลือเกิน“ปรางค์ วันนี้เพื่อนฉันเปิดผับใหม่เป็นวันแรก ฉันกะว่าจะไปเปิดงานให้เสียหน่อย ปรางค์ไปกับฉันนะ” เขาเอ่ยชวน ปรางค์รวีมีท่าทางลังเล เพราะเธอไม่เคยเที่ยวยามราตรีมาก่อน อีกข้อหนึ่งมารดาของปรางค์รวีป่วยกระเซาะกระแซะมาหลายวันแล้ว หากเธอไปก็จะไม่ม

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 5

    Chapter 5“ปรางค์มีเพื่อนอีกคนที่เค้าฝึกงานที่นี่ พาเพื่อนของปรางค์ไปด้วยได้หรือเปล่าคะ”“ได้สิจ้ะ ทำไมจะไม่ได้ ว่าแต่เพื่อนของปรางค์ฝึกงานที่บริษัทไหนล่ะ”“บริษัทประกันชีวิตค่ะ” โสภาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะยิ้มให้และลงมือทำงานต่อไปก่อนเวลาอาหารรับประทานอาหารกลางวันห้านาที เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะของโสภาดังขึ้น“ค่ะท่านประธาน” เธอกรอกสายผ่านเครื่องโทรศัพท์ การสนทนาเกิดขึ้นไม่นานนักก็ยุติลง หลังจากที่โสภาวางโทรศัทพ์ลงที่แป้นเธอก็หันมามองปรางค์รวีที่นั่งทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น ความสงสารสงสารและเห็นใจปรางค์รวีท่วมท้นจิตใจ ภาวนาให้ผู้หญิงบอบบางคนนี้รอดพ้นจากเจ้านายหนุ่ม ที่เปรียบเสมือนเสือคอยตะปบเหยื่อสาวๆ สวยๆ ตลอดเวลา ถ้าเธอไม่แต่งงานมีสามีและมีลูก เธอคงหนีไม่พ้นเป็นดอกไม้ประดับแจกันของเขาแน่นอน และอีกข้อถือว่าเป็นความดีที่เจ้านายหนุ่มมี คือจะไม่ยุ่งกับพนักงานสาวในบริษัท แม้ว่าหลายคนจะทอดสะพานรอไว้ให้เขาเดินข้ามาก็ตาม แต่งานนี้เห็นทีวิตโตริโอจะแหกกฎเหล็กเสียแล้ว“ปรางค์ท่านประธานให้เข้าไปพบ” ปรางค์รวีเงยหน้ามองผู้พูด หัวใจของเธอเต้นเร็ว มือที่จับปากกาอยู่เริ่มสั่น เขาจะเรียกเธอไปพบทำไม

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 4

    Chapter 4“แค่จูบนิดเดียว ใจเสาะเป็นลมซะแล้ว ถ้าทำอย่างอื่นมีหวังได้หัวใจวายแน่ๆ” เขาพูดกับร่างที่หลับใหล เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง นั่งทำงานอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทอดสายตามองนางแมวยั่วสวาทเป็นระยะ ร่างกายของเขาร้อนขึ้นมาทุกครั้งที่มองมาที่เธอ กระโปรงนักศึกษาที่สั้นเหนือเข่า ร่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นเรียวขาสวย ทรวงอกที่ดันเสื้อออกมาทำให้เขาหายใจติดขัดไม่ทั่วท้อง ไม่มีสมาธิทำงาน อย่างจะทำอย่างอื่นมากกว่า วิตโตริโอตัดสินใจคว้าสูทของเขา เดินมาหานางแมวยั่วสวาทคลุมร่างกายของเธอให้มิดชิดกว่านี้ ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง และก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียวหนึ่งชั่วโมงผ่านไปไม่ขาดไม่เกิน ร่างอรชรเริ่มขยับตัว ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเพดานสูงชั่วครู่เพราะรู้สึกมึนงงจากนั้นจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใบหน้าของปรางค์รวีแดงขึ้นเรื่อยๆ มือบางยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเธองอย่างเผลอไผล รสชาติของการจูบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน มันช่างวาบหวิวเสียจนหัวใจของเธอสั่นยามเมื่อคนที่จูบตนแล้วเมื่อนึกถึงวิตโตริโอ ที

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 3

    Chapter 3“ฉันชื่อวิตโตริโอ ดิมาร์ชี หรือว่าคุณเสือ ผู้ชายที่เธอวิจารณ์ในลิฟต์ไง” เขาพูดเป็นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ ไม่แปลกที่เขาจะพูดภาษานี้ได้เพราะมารดาของเขาเป็นคนไทย น้าของเขาทั้งสองก็เป็นคนไทย เพราะฉะนั้นที่บ้านจึงพูดอยู่สองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอิตาเลี่ยนปรางค์รวีไม่มีเวลาคิดว่า เหตุใดเขาถึงได้พูดภาษาไทยได้ชัดไม่แพ้คนไทย เนื่องจากกำลังสั่นผวากับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน จนอยากจะเป็นลมหรือไม่ก็กลายเป็นสายลมพัดหายออกไปจากห้องนี้ คราวนี้เธอต้องตายแน่ๆ ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานต้องโดนไล่ออกเสียแล้ว“ปรางค์ขอโทษค่ะ ปรางค์ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไปอย่างนั้น พอดีปรางค์ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน ปรางค์ขอโทษจริงๆ นะคะ”หญิงสาวพนมมือไหว้ขอโทษเป็นการใหญ่ เขาเดินเข้ามาหาเธอราวกับว่าเขาเป็นเสือจ้องตระคลุบเหยื่อ ปรางค์รวีเริ่มหน้ามืด เหงื่อตกมือไม้สั่น เหมือนกับร่างกายที่สั่นตามแรงจังหวะหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ ใบหน้าของเขาดูเรียบไม่แสดงออกทางอารมณ์ ดวงตาของเขานั้นเล่าที่เธอมองเห็น มันลุกวาวโชติช่วงด้วยเปลวแห่งไฟ ผสมผสานกับความร้อนจากดวงตะวัน เหมือนกับอสูรร้ายก็ไม่ปาน ทำให้ร่างกายเธอร้อนๆ หนาวๆ คล้ายจะจับไข้ทั

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 2

    Chapter 2“ปรางค์ มีคนพูดกับฉันหลายคนนะว่าเจ้าของบริษัทที่เธอจะไปฝึกงานด้วย ชื่อเสือ ชื่อดุน่าดูเลย ปรางค์ว่าเขาจะหน้าตาเป็นยังไง”เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตสะดุดชื่อเล่นที่สองสาวกล่าวถึง เพราะชื่อเสือ เป็นชื่อเล่นของเขาเช่นกัน คราแรกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่ตนเองหรือไม่ แต่พอมาวิเคราะห์อะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชั้นที่คนถูกถามไปนั้นก็เป็นชั้นที่ตั้งบริษัทของตน เขาคิดว่า เสือ ที่ทั้งคู่พูดถึงนั้นคือตนแน่นอนวิตโตริโอเลือกที่จะเงียบและโบกมือให้รังสรรค์ที่กำลังจะอ้าปากพูดให้หุบปาก เพราะต้องการรู้ว่า คำตอบที่กำลังจะถูกขับออกมาจากปากของสาวสวยร่างเล็กว่าเป็นอย่างไรปรางค์รวีทำท่าคิดได้น่ารัก ใสซื่อจนคนที่มองดูเธออยู่ถึงกับเคลิ้ม เขาไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนยิ้มได้สวยอย่างนี้มาก่อนเลย เวลาเธอยิ้มทำให้ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา คืนชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ“อืม อายุก็คงหกสิบกว่าๆ อ้วนลงพุง หน้าตาดุๆ เหมือนกับชื่อกระมัง อ้อ...มีเขี้ยวสองข้างด้วย เอาไว้คอยขย้ำลูกน้องที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ” ปรางค์รวีตอบเพื่อนด้วยการคาดเดา เธอคาดคะเนจากหลายประการ บริษัทแห่งนี้เติบโตมากกว่า 34 ปี เพราะฉะนั้นเจ้าของบริษัทน่าจะอายุประมาณหก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status