Share

Chapter 5

last update Last Updated: 2025-10-30 04:09:48

Chapter 5

“ปรางค์มีเพื่อนอีกคนที่เค้าฝึกงานที่นี่ พาเพื่อนของปรางค์ไปด้วยได้หรือเปล่าคะ”

“ได้สิจ้ะ ทำไมจะไม่ได้ ว่าแต่เพื่อนของปรางค์ฝึกงานที่บริษัทไหนล่ะ”

“บริษัทประกันชีวิตค่ะ”  โสภาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะยิ้มให้และลงมือทำงานต่อไป

ก่อนเวลาอาหารรับประทานอาหารกลางวันห้านาที เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะของโสภาดังขึ้น

“ค่ะท่านประธาน” เธอกรอกสายผ่านเครื่องโทรศัพท์ การสนทนาเกิดขึ้นไม่นานนักก็ยุติลง หลังจากที่โสภาวางโทรศัทพ์ลงที่แป้นเธอก็หันมามองปรางค์รวีที่นั่งทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น ความสงสารสงสารและเห็นใจปรางค์รวีท่วมท้นจิตใจ ภาวนาให้ผู้หญิงบอบบางคนนี้รอดพ้นจากเจ้านายหนุ่ม ที่เปรียบเสมือนเสือคอยตะปบเหยื่อสาวๆ สวยๆ ตลอดเวลา ถ้าเธอไม่แต่งงานมีสามีและมีลูก เธอคงหนีไม่พ้นเป็นดอกไม้ประดับแจกันของเขาแน่นอน และอีกข้อถือว่าเป็นความดีที่เจ้านายหนุ่มมี คือจะไม่ยุ่งกับพนักงานสาวในบริษัท แม้ว่าหลายคนจะทอดสะพานรอไว้ให้เขาเดินข้ามาก็ตาม แต่งานนี้เห็นทีวิตโตริโอจะแหกกฎเหล็กเสียแล้ว

“ปรางค์ท่านประธานให้เข้าไปพบ” ปรางค์รวีเงยหน้ามองผู้พูด หัวใจของเธอเต้นเร็ว มือที่จับปากกาอยู่เริ่มสั่น เขาจะเรียกเธอไปพบทำไม เธอไม่อยากเข้าไปเลย เธอกลัว.กลัวอย่างบอกไม่ถูก

“พี่ภาพอจะทราบหรือเปล่าคะ ว่าให้ท่านเรียกให้ปรางค์เข้าไปทำอะไร” เธอถามเสียงสั่น ในใจหวาดหวั่นยิ่งนัก

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านเรียกปรางค์ก็เข้าไปเถอะ” โสภาไม่พูดในสิ่งที่ตัวเองพอจะเดาออก ปรางค์รวีลังเลชั่วครู่ ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องทำงานของประธานบริษัท เคาะประตูหน้าห้องสามสี่ครั้ง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

“ทำไมมาช้าจัง” เขาถามด้วยย้ำเสียงหงุดหงิด

“ปรางค์ทำงานค้างอยู่ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา

“เวลาฉันเรียก ไม่ว่าเธอจะมีงานล้นมือหรือว่าท่วมหัวขนาดไหน เธอก็ต้องเข้ามาหาฉันตั้งแต่ที่ฉันเรียก ฉันไม่ชอบคอยใครนาน”

น้ำเสียงของเขาเพิ่มระดับความดังมากยิ่งขึ้น วาจาเอาแต่ใจเผด็จการที่เธอได้ยิน ทำให้ปรางค์รวียืนตัวสั่น ประสานมือทั้งสองข้างเข้าหากันแน่น

“ขะขอโทษค่ะ”

“ฉันหวังว่าครั้งหน้าเธอคงไม่เข้ามาช้าอีกนะ ฉันหิวข้าวแล้วจะไปกินข้าว ที่เรียกเธอเข้ามา รู้ไหมว่าเรียกมาทำไม” เขาถามด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ ซึ่งเธอไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะมัวแต่มองที่พื้นนิ่ง

“ไม่ทราบค่ะ”

“นี่แม่คุณ หน้าฉันไปอยู่ที่พื้นหรือไง ถึงได้แต่ก้มหน้าอยู่ได้”

วิตโตริโอถามด้วยความรำคาญ เขาพูดอยู่กับเธอแท้ๆ ไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด เอาแต่ยืนก้มหน้าอย่างเดียว ปรางค์รวีเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ หลบเลี่ยงที่จะมองหน้าเขา เธอกลัวจนหัวใจดวงนี้แทบจะเต้นออกมาข้างนอก

“เดินเข้ามาใกล้ๆ หน่อยได้ไหม ฉันขี้เกียจตะโกนพูดกับเธอ เจ็บคอไปหมดแล้ว” เขาแกล้งพูดไปอย่างนั้นไม่ได้เจ็บคอตามที่เอ่ยออกไป

ปรางค์รวีก้าวเท้าอันหนักอึ้งเดินมาหาเขาตามคำสั่ง จนกระทั่งมาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา

“ดีมาก เอาล่ะที่เรียกเธอเข้ามาเพราะว่าจะบอกหน้าที่ใหม่ของเธอ ทุกเที่ยงเธอจะต้องไปกินข้าวกับฉัน เข้าใจหรือเปล่า” ปรางค์รวีหน้าถอดสีเมื่อได้ยินหน้าที่ใหม่ที่เขายัดเยียดให้  หน้าที่แบบนี้มีด้วยหรือ เวลาพักกลางวันเป็นเวลาส่วนตัวของพนักงาน ที่มีสิทธิ์จะไปไหนหรือทำอะไรก็ได้ แต่ต้องกลับมาที่ทำงานในระยะเวลาที่กำหนด

“ทำไมล่ะคะ” เธอถามอย่างใสซื่อไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขา

“พูดมากจริง ให้ทำอะไรก็ทำเถอะ ไป.ฉันหิวแล้ว เธอไม่ไปก็ได้นะแต่ฉันจะกินเธอแทนข้าว”

เขาพูดจบก็เดินมาหาปรางค์รวีที่ยืนตัวแข็ง ตกใจกับคำขู่ที่ทำให้โสตประสาทแทบจะหยุดทำงาน ก่อนจะฉวยมือนุ่มไว้ในมือของตนแล้วจับจูงเดินออกจากห้อง

ปรางค์รวีได้ยินคำประกาศก้องของเขาแล้วมีหรือจะกล้าขัด เดินตามแรงลากจูงอย่างไม่เกี่ยงงอน ใครจะกล้าขัดเล่าเมื่อคำพูดของเขาชี้ชัดว่าเอาจริงไม่ได้พูดเล่นแม้แต่นิดเดียว

สายตาของพนักงานมองร่างสูงหนาของวิตโตริโอ เดินกุมมือน้อยของนักศึกษาสาวฝึกงาน โดยยมีลูกน้องของเขาเดินตามมาด้วย พอร่างของทั้งหมดเดินผ่านไป เสียงติฉินนินทาก็ดังขึ้น

“ฉันว่านะ น้องใหม่คนนี้ต้องกลายเป็นดอกไม้ของคุณเสือแน่เลย ดูสิมาวันเดียวเจ้านายจับมือไม่ปล่อย” พนักงานสาวคนหนึ่งพูดไล่หลัง

“ใช่ ฉันก็ว่าอย่าว่าอย่างนั้น แต่คุณเสือไม่เคยยุ่งกับพนักงานในบริษัทไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นกิ๊กของคุณเสือแต่ละคน ไม่ดารา นักร้องหรือไม่ก็นางแบบทั้งนั้นสวยๆ ทั้งนั้น” อีกคนวิจารณ์เสริม

“นั่นนะสิ ฉันเห็นแล้วอิจฉาแทน ใครได้เป็นกิ๊กกับคุณเสือถือว่าโชคดีสุดๆ” อีกคนพูดเสริมอย่างเพ้อฝัน เพราะคนที่พูดก็อยากจะเป็นหนึ่งในดอกไม้ของวิตโตริโอเช่นกัน หากแต่เขาไม่เคยยุ่งกับพนักงานในบริษัท เนื่องจากอาจทำให้ภาพจน์ของเขาที่มีต่อพนักงานเสียไป

“ฉันว่าน่าจะโชคร้ายมากกว่า คุณเสือไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงเกินสามวันเลยสักราย ฉันเป็นประชาสัมพันธ์ของที่นี่มาแปดปี คุณเสือควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ละคนไม่เกินสามวันพอวันที่สี่เปลี่ยนคนใหม่เสียแล้ว”

“นี่พวกเธอไม่ไปกินข้าวเที่ยงกันเหรอ มัวแต่มายืนนินทาเจ้านายอยู่ได้ อยากตกงานหรือไง” เสียงของโสภาพูดแทรกดังมากลางวง ทำให้พนักงานสาวทั้งสามหันมามองเป็นตาเดียว และรีบสลายตัวทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่พูดคือใคร

โสภาได้ยินคำติฉินนินทาของสามสาวแล้ว รู้สึกไม่สบายใจและอดหวั่นใจไม่ได้ รวมทั้งรู้สึกเสียดายที่ปรางค์รวี หญิงสาวผู้น่ารักจะตกเป็นดอกไม้ของเจ้านายหนุ่ม เธอคงไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากปล่อยให้เป็นตามลิขิตของเบื้องบนเป็นผู้กำหนด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 7

    Chapter 7“คุณเสือคะปรางค์ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” ปรางค์รวีตัดสินใจพูด หญิงสาวรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากที่นั่งเป็นอาหารตาของเพื่อนของเขา โดยที่วิตโตริโอไม่มีทีท่าว่าจะปกป้องเลยแม้แต่นิดเดียว“อืมไปสิ” เขาหันมาพูดกับเธอ ก่อนจะสนทนากับเพื่อนต่อไป“วิโตรู้สึกว่านายจะกินอาหารจานนี้เกินกว่าจานอื่นๆ นะ”บุรินทร์ผู้ชายที่มีนิสัยเจ้าชู้ เอ่ยถามวิตโตริโอทันทีที่ร่างของปรางค์รวีเดินออกไปจากโต๊ะ“ใครว่ากินนาน ฉันยังไม่ได้กินต่างหาก” เขาตอบเพื่อนสนิท สีหน้าของบรรดาเพื่อนๆ ที่อยู่ร่วมโต๊ะ ไม่เชื่อคำพูดของเขา ไม่คาดคิดว่าเพลย์บอยแห่งยุคจะปล่อยให้อาหารหวานลอยนวลได้นานขนาดนี้“เป็นไปได้ยังไงวะอย่างนายเนี่ยเหรอยังไม่ได้กินอาหารหวานจานนี้ ฉันนึกว่าเสร็จนายไปนานแล้วเสียอีก” ธีรยุทธ์พูดเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ใกล้วิตโตริโอ ไม่เกินหนึ่งวันผู้หญิงคนนั้นต้องกรายมาเป็นอาหารหวานของหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ทุกราย“อาหารจานนี้ฉันอยากจะพิถีพิถันในการกินมากกว่าจานอื่นๆ ค่อยๆ กินทีละนิดๆ มันถึงจะอร่อยและเร้าใจ บุ่มบ่ามกินอย่างตะกละตะกลามมันจะไปอร่อยอะไร กินไม่กี่ครั้งก็เบื่อพวกนายว่าจริงไหม” น้ำ

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 6

    Chapter 6สองสัปดาห์มานี้ปรางค์รวีคลายความอึดอัดลงมาก เมื่อเขาไม่เคยล่วงเกินเธอเกินกว่าการจับมือถือแขน วิตโตริโอให้เกียรติอย่างที่หญิงสาวคาดไม่ถึง ทำให้เธอกล้าพูดคุยหยอกล้อกับเขามากขึ้น หากแต่ปรางค์รวียังคงระวังตัวกลัวจะเผลอไผลไปกับสัมผัสรัญจวนเช่นครั้งนั้น ทว่าเธอลืมระวังหัวใจไม่ให้หลวมตัวรักเขาและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หัวใจของเธอก็กำลังจะพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์อันเหลือล้นของเขา ที่มาพร้อมกับความเอาใจสารพัด พูดจาอ่อนหวานระคนนุ่มหู พาไปทานอาหารกลางวัน ไปรับไปส่งทุกเช้าและเย็น เขาทำหน้าที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ความรู้สึกดีเริ่มก่อเกิดในจิตใจ ดอกรักค่อยๆ เบ่งบานในหัวใจที่ไม่เคยสัมผัสคำว่าความรัก แต่ถึงกระนั้นปรางค์รวีก็ยังไม่เปิดใจรับเขาเต็มที่ เพราะคิดว่าคนอย่างเขาคงไม่ปักใจรักหญิงสาวธรรมดาเช่นเธอ เพราะในสังคมของเขามีสตรีที่เทียบเทียมกับเขามากเหลือเกิน“ปรางค์ วันนี้เพื่อนฉันเปิดผับใหม่เป็นวันแรก ฉันกะว่าจะไปเปิดงานให้เสียหน่อย ปรางค์ไปกับฉันนะ” เขาเอ่ยชวน ปรางค์รวีมีท่าทางลังเล เพราะเธอไม่เคยเที่ยวยามราตรีมาก่อน อีกข้อหนึ่งมารดาของปรางค์รวีป่วยกระเซาะกระแซะมาหลายวันแล้ว หากเธอไปก็จะไม่ม

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 5

    Chapter 5“ปรางค์มีเพื่อนอีกคนที่เค้าฝึกงานที่นี่ พาเพื่อนของปรางค์ไปด้วยได้หรือเปล่าคะ”“ได้สิจ้ะ ทำไมจะไม่ได้ ว่าแต่เพื่อนของปรางค์ฝึกงานที่บริษัทไหนล่ะ”“บริษัทประกันชีวิตค่ะ” โสภาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะยิ้มให้และลงมือทำงานต่อไปก่อนเวลาอาหารรับประทานอาหารกลางวันห้านาที เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะของโสภาดังขึ้น“ค่ะท่านประธาน” เธอกรอกสายผ่านเครื่องโทรศัพท์ การสนทนาเกิดขึ้นไม่นานนักก็ยุติลง หลังจากที่โสภาวางโทรศัทพ์ลงที่แป้นเธอก็หันมามองปรางค์รวีที่นั่งทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น ความสงสารสงสารและเห็นใจปรางค์รวีท่วมท้นจิตใจ ภาวนาให้ผู้หญิงบอบบางคนนี้รอดพ้นจากเจ้านายหนุ่ม ที่เปรียบเสมือนเสือคอยตะปบเหยื่อสาวๆ สวยๆ ตลอดเวลา ถ้าเธอไม่แต่งงานมีสามีและมีลูก เธอคงหนีไม่พ้นเป็นดอกไม้ประดับแจกันของเขาแน่นอน และอีกข้อถือว่าเป็นความดีที่เจ้านายหนุ่มมี คือจะไม่ยุ่งกับพนักงานสาวในบริษัท แม้ว่าหลายคนจะทอดสะพานรอไว้ให้เขาเดินข้ามาก็ตาม แต่งานนี้เห็นทีวิตโตริโอจะแหกกฎเหล็กเสียแล้ว“ปรางค์ท่านประธานให้เข้าไปพบ” ปรางค์รวีเงยหน้ามองผู้พูด หัวใจของเธอเต้นเร็ว มือที่จับปากกาอยู่เริ่มสั่น เขาจะเรียกเธอไปพบทำไม

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 4

    Chapter 4“แค่จูบนิดเดียว ใจเสาะเป็นลมซะแล้ว ถ้าทำอย่างอื่นมีหวังได้หัวใจวายแน่ๆ” เขาพูดกับร่างที่หลับใหล เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง นั่งทำงานอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทอดสายตามองนางแมวยั่วสวาทเป็นระยะ ร่างกายของเขาร้อนขึ้นมาทุกครั้งที่มองมาที่เธอ กระโปรงนักศึกษาที่สั้นเหนือเข่า ร่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นเรียวขาสวย ทรวงอกที่ดันเสื้อออกมาทำให้เขาหายใจติดขัดไม่ทั่วท้อง ไม่มีสมาธิทำงาน อย่างจะทำอย่างอื่นมากกว่า วิตโตริโอตัดสินใจคว้าสูทของเขา เดินมาหานางแมวยั่วสวาทคลุมร่างกายของเธอให้มิดชิดกว่านี้ ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง และก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียวหนึ่งชั่วโมงผ่านไปไม่ขาดไม่เกิน ร่างอรชรเริ่มขยับตัว ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเพดานสูงชั่วครู่เพราะรู้สึกมึนงงจากนั้นจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใบหน้าของปรางค์รวีแดงขึ้นเรื่อยๆ มือบางยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเธองอย่างเผลอไผล รสชาติของการจูบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน มันช่างวาบหวิวเสียจนหัวใจของเธอสั่นยามเมื่อคนที่จูบตนแล้วเมื่อนึกถึงวิตโตริโอ ที

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 3

    Chapter 3“ฉันชื่อวิตโตริโอ ดิมาร์ชี หรือว่าคุณเสือ ผู้ชายที่เธอวิจารณ์ในลิฟต์ไง” เขาพูดเป็นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ ไม่แปลกที่เขาจะพูดภาษานี้ได้เพราะมารดาของเขาเป็นคนไทย น้าของเขาทั้งสองก็เป็นคนไทย เพราะฉะนั้นที่บ้านจึงพูดอยู่สองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอิตาเลี่ยนปรางค์รวีไม่มีเวลาคิดว่า เหตุใดเขาถึงได้พูดภาษาไทยได้ชัดไม่แพ้คนไทย เนื่องจากกำลังสั่นผวากับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน จนอยากจะเป็นลมหรือไม่ก็กลายเป็นสายลมพัดหายออกไปจากห้องนี้ คราวนี้เธอต้องตายแน่ๆ ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานต้องโดนไล่ออกเสียแล้ว“ปรางค์ขอโทษค่ะ ปรางค์ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไปอย่างนั้น พอดีปรางค์ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน ปรางค์ขอโทษจริงๆ นะคะ”หญิงสาวพนมมือไหว้ขอโทษเป็นการใหญ่ เขาเดินเข้ามาหาเธอราวกับว่าเขาเป็นเสือจ้องตระคลุบเหยื่อ ปรางค์รวีเริ่มหน้ามืด เหงื่อตกมือไม้สั่น เหมือนกับร่างกายที่สั่นตามแรงจังหวะหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ ใบหน้าของเขาดูเรียบไม่แสดงออกทางอารมณ์ ดวงตาของเขานั้นเล่าที่เธอมองเห็น มันลุกวาวโชติช่วงด้วยเปลวแห่งไฟ ผสมผสานกับความร้อนจากดวงตะวัน เหมือนกับอสูรร้ายก็ไม่ปาน ทำให้ร่างกายเธอร้อนๆ หนาวๆ คล้ายจะจับไข้ทั

  • ทัณฑ์รักอสูรร้าย   Chapter 2

    Chapter 2“ปรางค์ มีคนพูดกับฉันหลายคนนะว่าเจ้าของบริษัทที่เธอจะไปฝึกงานด้วย ชื่อเสือ ชื่อดุน่าดูเลย ปรางค์ว่าเขาจะหน้าตาเป็นยังไง”เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตสะดุดชื่อเล่นที่สองสาวกล่าวถึง เพราะชื่อเสือ เป็นชื่อเล่นของเขาเช่นกัน คราแรกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่ตนเองหรือไม่ แต่พอมาวิเคราะห์อะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชั้นที่คนถูกถามไปนั้นก็เป็นชั้นที่ตั้งบริษัทของตน เขาคิดว่า เสือ ที่ทั้งคู่พูดถึงนั้นคือตนแน่นอนวิตโตริโอเลือกที่จะเงียบและโบกมือให้รังสรรค์ที่กำลังจะอ้าปากพูดให้หุบปาก เพราะต้องการรู้ว่า คำตอบที่กำลังจะถูกขับออกมาจากปากของสาวสวยร่างเล็กว่าเป็นอย่างไรปรางค์รวีทำท่าคิดได้น่ารัก ใสซื่อจนคนที่มองดูเธออยู่ถึงกับเคลิ้ม เขาไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนยิ้มได้สวยอย่างนี้มาก่อนเลย เวลาเธอยิ้มทำให้ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา คืนชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ“อืม อายุก็คงหกสิบกว่าๆ อ้วนลงพุง หน้าตาดุๆ เหมือนกับชื่อกระมัง อ้อ...มีเขี้ยวสองข้างด้วย เอาไว้คอยขย้ำลูกน้องที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ” ปรางค์รวีตอบเพื่อนด้วยการคาดเดา เธอคาดคะเนจากหลายประการ บริษัทแห่งนี้เติบโตมากกว่า 34 ปี เพราะฉะนั้นเจ้าของบริษัทน่าจะอายุประมาณหก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status