LOGIN“แค่จูบนิดเดียว ใจเสาะเป็นลมซะแล้ว ถ้าทำอย่างอื่นมีหวังได้หัวใจวายแน่ๆ” เขาพูดกับร่างที่หลับใหล เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง นั่งทำงานอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทอดสายตามองนางแมวยั่วสวาทเป็นระยะ ร่างกายของเขาร้อนขึ้นมาทุกครั้งที่มองมาที่เธอ กระโปรงนักศึกษาที่สั้นเหนือเข่า ร่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นเรียวขาสวย ทรวงอกที่ดันเสื้อออกมาทำให้เขาหายใจติดขัดไม่ทั่วท้อง ไม่มีสมาธิทำงาน อย่างจะทำอย่างอื่นมากกว่า วิตโตริโอตัดสินใจคว้าสูทของเขา เดินมาหานางแมวยั่วสวาทคลุมร่างกายของเธอให้มิดชิดกว่านี้ ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง และก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไม่ขาดไม่เกิน ร่างอรชรเริ่มขยับตัว ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเพดานสูงชั่วครู่เพราะรู้สึกมึนงงจากนั้นจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ใบหน้าของปรางค์รวีแดงขึ้นเรื่อยๆ มือบางยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเธองอย่างเผลอไผล รสชาติของการจูบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน มันช่างวาบหวิวเสียจนหัวใจของเธอสั่นยามเมื่อคนที่จูบตน
แล้วเมื่อนึกถึงวิตโตริโอ ที่ก็เพิ่งนึกออกว่า ก่อนที่ตนจะหมดสติเธออยู่ในห้องทำงานของเขา และตอนนี้เธอก็ยังอยู่ห้องเดิม และเหมือนปรางค์รวีจะรู้ตัวว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งจ้องอยู่ แน่นอนว่าจะเป็นสายตาของใครไปไม่ได้นอกจาก สายตาของวิตโตริโอ
ตามสัญชาตญาณเธอหันไปมองตามความรู้สึก ใบหน้าของปรางค์รวีเกลื่อนไปด้วยความตื่นตกใจเมื่อดวงตาคู่งามมองเห็นร่างสูงใหญ่ของวิตโตริโอนั่งมองตนอยู่ ชนิดที่ว่าตาไม่กระพริบ มองนิ่งนานตรงเนินอกคู่งามที่โผล่ล้นออกมา เนื่องจากกระดุมเสื้อชุดนักศึกษาของเธอหลุดออกหนึ่งเม็ด หญิงสาวมองตามสายตาของเขา มือบางรีบตะครุบที่คอเสื้อ มืออันสั่นเทากลัดกระดุมเสื้อเป็นพัลวัน
“จะไปไหน” เสียงทรงอำนาจเอ่ยถามเมื่อเห็นปรางค์รสีลุกขึ้นยืน เดินตรงไปหยิบกระเป๋าถือที่ตกอยู่บนพื้นห้องจุดที่เธอโดนจูบ
“กลับบ้าน” เธอตอบเสียงเบา ปรางค์รวีคงไม่มีหน้าทำงานที่นี่แน่ ยิ่งอยู่ใกล้ชิดเขา ทำงานร่วมกับเขา รับรองเธอต้องหัวใจวายเข้าสักวัน ดวงตาของเขาช่างร้อนแรงยามที่เธอเมียงมองและสบตา อีกทั้งการกระทำของเขาก็จาบจ้วงเกินกว่าจะรับได้
“ไม่ฝึกงานแล้วหรือไง” เขาถาม หญิงสาวหยุดชะงักเล็กน้อย ใช่เธอมาที่นี่เพื่อฝึกงาน หากไม่ทำเธอก็จะไม่จบ ไม่มีคะแนนเหมือนเพื่อนคนอื่น ปรางค์รวีสับสนคิดอะไรไม่ออก อยากทำงานที่นี่ต่อก็อยากทำ หากแต่ใจไม่สู้ดีเอาเสียเลยเวลาที่อยู่ใกล้เขา รสจูบของเขาทำให้ความคิดและสติของเธอหยุดนิ่ง ปรางค์รวีกลัวว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสองอีก
“ท่านประธานคงไม่อยากให้ปรางค์ทำที่นี่หรอกค่ะ ปรางค์ปรางค์นินทาท่านมากขนาดนั้น”
วิตโตริโอไม่พูดแต่กลับลุกขึ้นยืน ก้าวเดินตรงมาหาร่างบางที่เริ่มสั่น เมื่อเขาก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอจึงถอยร่นหนีอัตโนมัติ
“ถือว่าเราหายกัน เธอว่าฉันส่วนฉันจูบเธอ”
ตอนท้ายของประโยค เขาหลุบตามองริมฝีปากสีชมพูใส กลีบปากที่เขาหาความหวานเมื่อหนึ่งชั่วโมง ที่อยากจะจูบซ้ำๆ ให้หนำใจใบหน้าของเธอเพิ่มความแดงเป็นหลายเท่าตัว เมื่อเขาพูดประโยคท้ายขึ้นมา หลุบสายตาต่ำมองที่พื้นพรมอย่างเดียว
“ว่าไงได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า” เขาถามซ้ำ เพราะเธอยังก้มหน้านิ่งไม่ยอมตอบ
“ค่ะ เข้าใจค่ะ” ปรางค์รวีตอบเสียงไม่มั่นคง มือใหญ่ยกขึ้นสูงจุดหมายของมือนั้นคือแก้มนวลสีแดงใสของปรางค์รวี ผู้หญิงคนนี้ทั้งความสวยและความน่ารัก เหมาะเหลือเกินที่จะมาเป็นดอกไม้ช่องามช่อใหม่ของเขาประดับเธอไว้อยู่ในแจกันของเขาอีกคน เมื่อเขาเหงาจะได้หยิบดอกไม้ช่อนี้มาสูดดมให้ชื่นใจ เหมือนกับดอกไม้ดอกอื่นที่มีอยู่นับสิบดอก รอให้เขาไว้เลือกสรรตามต้องการ อีกนิดเดียวมือใหญ่จะทาบวางที่แก้มนวล หากแต่เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานดังขึ้นเสียก่อน เขาละมืออกอย่างเสียดาย พูดอนุญาตให้คนที่เคาะประตูด้านหน้าเข้ามาก็เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม ปรางค์รวีระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่รอดพ้นจากน้ำมือของเขาได้
“ท่านประธานค่ะ อีกสิบห้านาทีคุณแบคโคริล จะเดินทางมาถึงที่นี่ค่ะ” โสภา หญิงสาวทำหน้าที่เลขานุการรายงานหมายกำหนดการในวันนี้ให้เจ้านายทราบ เธอปรายตามองหญิงสาวนักศึกษาที่ยืนก้มหน้านิ่ง ใบหน้าแดงซ่าน ตัวค่อนข้างสั่น เธอรู้จักนิสัยของเจ้านายหนุ่มดีว่าเจ้าชู้มากแค่ไหน ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า และนักศึกษาสาวคนนี้คงต้องเป็นดอกไม้ของเจ้านายดอกใหม่แน่ คิดแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้
“โสภา ต่อไปนี้ปรางค์รวีจะมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยเธอนะ” เขาพูดโดยไม่มองหน้า
“ค่ะท่านประธาน” โสภาตอบรับคำสั่ง โดยไม่มีคำถามต่อว่า เหตุใดอยู่ๆ ถึงได้มีตำแหน่งผู้ช่วยเลขาขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีด้วยซ้ำ แต่เมื่อเป็นคำสั่งเธอก็ต้องทำตาม “ไปกับพี่ พี่จะได้สอนงานให้”
โสภาหันมาพูดกับปรางค์รวีเสียงนุ่มปรางค์รวีเงยหน้ามองผู้พูด ก่อนจะยิ้มตอบรับและรีบตามโสภาออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
โสภาสอนงานในส่วนที่ปรางค์รวีสามารถทำได้ เธอมีหน้าที่พิมพ์จดหมายและพิมพ์เอกสารตามแต่ที่โสภาสั่ง ความอ่อนหวานและน่ารัก ไม่เกี่ยงงอน ทำให้โสภารู้สึกเอ็นดูเป็นอย่างมาก
“ตอนเที่ยงไปทานข้าวกับพี่นะ พี่จะพาไปทานอาหารที่พี่ทานประจำ อร่อยราคาไม่แพงด้วย” โสภาเอ่ยชวนเมื่อเวลารับประทานอาหารเที่ยงใกล้เข้ามาทุกที
Chapter 7“คุณเสือคะปรางค์ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” ปรางค์รวีตัดสินใจพูด หญิงสาวรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากที่นั่งเป็นอาหารตาของเพื่อนของเขา โดยที่วิตโตริโอไม่มีทีท่าว่าจะปกป้องเลยแม้แต่นิดเดียว“อืมไปสิ” เขาหันมาพูดกับเธอ ก่อนจะสนทนากับเพื่อนต่อไป“วิโตรู้สึกว่านายจะกินอาหารจานนี้เกินกว่าจานอื่นๆ นะ”บุรินทร์ผู้ชายที่มีนิสัยเจ้าชู้ เอ่ยถามวิตโตริโอทันทีที่ร่างของปรางค์รวีเดินออกไปจากโต๊ะ“ใครว่ากินนาน ฉันยังไม่ได้กินต่างหาก” เขาตอบเพื่อนสนิท สีหน้าของบรรดาเพื่อนๆ ที่อยู่ร่วมโต๊ะ ไม่เชื่อคำพูดของเขา ไม่คาดคิดว่าเพลย์บอยแห่งยุคจะปล่อยให้อาหารหวานลอยนวลได้นานขนาดนี้“เป็นไปได้ยังไงวะอย่างนายเนี่ยเหรอยังไม่ได้กินอาหารหวานจานนี้ ฉันนึกว่าเสร็จนายไปนานแล้วเสียอีก” ธีรยุทธ์พูดเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อ เนื่องจากผู้หญิงที่อยู่ใกล้วิตโตริโอ ไม่เกินหนึ่งวันผู้หญิงคนนั้นต้องกรายมาเป็นอาหารหวานของหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ทุกราย“อาหารจานนี้ฉันอยากจะพิถีพิถันในการกินมากกว่าจานอื่นๆ ค่อยๆ กินทีละนิดๆ มันถึงจะอร่อยและเร้าใจ บุ่มบ่ามกินอย่างตะกละตะกลามมันจะไปอร่อยอะไร กินไม่กี่ครั้งก็เบื่อพวกนายว่าจริงไหม” น้ำ
Chapter 6สองสัปดาห์มานี้ปรางค์รวีคลายความอึดอัดลงมาก เมื่อเขาไม่เคยล่วงเกินเธอเกินกว่าการจับมือถือแขน วิตโตริโอให้เกียรติอย่างที่หญิงสาวคาดไม่ถึง ทำให้เธอกล้าพูดคุยหยอกล้อกับเขามากขึ้น หากแต่ปรางค์รวียังคงระวังตัวกลัวจะเผลอไผลไปกับสัมผัสรัญจวนเช่นครั้งนั้น ทว่าเธอลืมระวังหัวใจไม่ให้หลวมตัวรักเขาและตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หัวใจของเธอก็กำลังจะพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์อันเหลือล้นของเขา ที่มาพร้อมกับความเอาใจสารพัด พูดจาอ่อนหวานระคนนุ่มหู พาไปทานอาหารกลางวัน ไปรับไปส่งทุกเช้าและเย็น เขาทำหน้าที่มากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ความรู้สึกดีเริ่มก่อเกิดในจิตใจ ดอกรักค่อยๆ เบ่งบานในหัวใจที่ไม่เคยสัมผัสคำว่าความรัก แต่ถึงกระนั้นปรางค์รวีก็ยังไม่เปิดใจรับเขาเต็มที่ เพราะคิดว่าคนอย่างเขาคงไม่ปักใจรักหญิงสาวธรรมดาเช่นเธอ เพราะในสังคมของเขามีสตรีที่เทียบเทียมกับเขามากเหลือเกิน“ปรางค์ วันนี้เพื่อนฉันเปิดผับใหม่เป็นวันแรก ฉันกะว่าจะไปเปิดงานให้เสียหน่อย ปรางค์ไปกับฉันนะ” เขาเอ่ยชวน ปรางค์รวีมีท่าทางลังเล เพราะเธอไม่เคยเที่ยวยามราตรีมาก่อน อีกข้อหนึ่งมารดาของปรางค์รวีป่วยกระเซาะกระแซะมาหลายวันแล้ว หากเธอไปก็จะไม่ม
Chapter 5“ปรางค์มีเพื่อนอีกคนที่เค้าฝึกงานที่นี่ พาเพื่อนของปรางค์ไปด้วยได้หรือเปล่าคะ”“ได้สิจ้ะ ทำไมจะไม่ได้ ว่าแต่เพื่อนของปรางค์ฝึกงานที่บริษัทไหนล่ะ”“บริษัทประกันชีวิตค่ะ” โสภาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะยิ้มให้และลงมือทำงานต่อไปก่อนเวลาอาหารรับประทานอาหารกลางวันห้านาที เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะของโสภาดังขึ้น“ค่ะท่านประธาน” เธอกรอกสายผ่านเครื่องโทรศัพท์ การสนทนาเกิดขึ้นไม่นานนักก็ยุติลง หลังจากที่โสภาวางโทรศัทพ์ลงที่แป้นเธอก็หันมามองปรางค์รวีที่นั่งทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น ความสงสารสงสารและเห็นใจปรางค์รวีท่วมท้นจิตใจ ภาวนาให้ผู้หญิงบอบบางคนนี้รอดพ้นจากเจ้านายหนุ่ม ที่เปรียบเสมือนเสือคอยตะปบเหยื่อสาวๆ สวยๆ ตลอดเวลา ถ้าเธอไม่แต่งงานมีสามีและมีลูก เธอคงหนีไม่พ้นเป็นดอกไม้ประดับแจกันของเขาแน่นอน และอีกข้อถือว่าเป็นความดีที่เจ้านายหนุ่มมี คือจะไม่ยุ่งกับพนักงานสาวในบริษัท แม้ว่าหลายคนจะทอดสะพานรอไว้ให้เขาเดินข้ามาก็ตาม แต่งานนี้เห็นทีวิตโตริโอจะแหกกฎเหล็กเสียแล้ว“ปรางค์ท่านประธานให้เข้าไปพบ” ปรางค์รวีเงยหน้ามองผู้พูด หัวใจของเธอเต้นเร็ว มือที่จับปากกาอยู่เริ่มสั่น เขาจะเรียกเธอไปพบทำไม
Chapter 4“แค่จูบนิดเดียว ใจเสาะเป็นลมซะแล้ว ถ้าทำอย่างอื่นมีหวังได้หัวใจวายแน่ๆ” เขาพูดกับร่างที่หลับใหล เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง นั่งทำงานอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทอดสายตามองนางแมวยั่วสวาทเป็นระยะ ร่างกายของเขาร้อนขึ้นมาทุกครั้งที่มองมาที่เธอ กระโปรงนักศึกษาที่สั้นเหนือเข่า ร่นขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นเรียวขาสวย ทรวงอกที่ดันเสื้อออกมาทำให้เขาหายใจติดขัดไม่ทั่วท้อง ไม่มีสมาธิทำงาน อย่างจะทำอย่างอื่นมากกว่า วิตโตริโอตัดสินใจคว้าสูทของเขา เดินมาหานางแมวยั่วสวาทคลุมร่างกายของเธอให้มิดชิดกว่านี้ ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง และก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียวหนึ่งชั่วโมงผ่านไปไม่ขาดไม่เกิน ร่างอรชรเริ่มขยับตัว ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเพดานสูงชั่วครู่เพราะรู้สึกมึนงงจากนั้นจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใบหน้าของปรางค์รวีแดงขึ้นเรื่อยๆ มือบางยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเธองอย่างเผลอไผล รสชาติของการจูบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน มันช่างวาบหวิวเสียจนหัวใจของเธอสั่นยามเมื่อคนที่จูบตนแล้วเมื่อนึกถึงวิตโตริโอ ที
Chapter 3“ฉันชื่อวิตโตริโอ ดิมาร์ชี หรือว่าคุณเสือ ผู้ชายที่เธอวิจารณ์ในลิฟต์ไง” เขาพูดเป็นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ ไม่แปลกที่เขาจะพูดภาษานี้ได้เพราะมารดาของเขาเป็นคนไทย น้าของเขาทั้งสองก็เป็นคนไทย เพราะฉะนั้นที่บ้านจึงพูดอยู่สองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอิตาเลี่ยนปรางค์รวีไม่มีเวลาคิดว่า เหตุใดเขาถึงได้พูดภาษาไทยได้ชัดไม่แพ้คนไทย เนื่องจากกำลังสั่นผวากับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน จนอยากจะเป็นลมหรือไม่ก็กลายเป็นสายลมพัดหายออกไปจากห้องนี้ คราวนี้เธอต้องตายแน่ๆ ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานต้องโดนไล่ออกเสียแล้ว“ปรางค์ขอโทษค่ะ ปรางค์ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไปอย่างนั้น พอดีปรางค์ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน ปรางค์ขอโทษจริงๆ นะคะ”หญิงสาวพนมมือไหว้ขอโทษเป็นการใหญ่ เขาเดินเข้ามาหาเธอราวกับว่าเขาเป็นเสือจ้องตระคลุบเหยื่อ ปรางค์รวีเริ่มหน้ามืด เหงื่อตกมือไม้สั่น เหมือนกับร่างกายที่สั่นตามแรงจังหวะหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ ใบหน้าของเขาดูเรียบไม่แสดงออกทางอารมณ์ ดวงตาของเขานั้นเล่าที่เธอมองเห็น มันลุกวาวโชติช่วงด้วยเปลวแห่งไฟ ผสมผสานกับความร้อนจากดวงตะวัน เหมือนกับอสูรร้ายก็ไม่ปาน ทำให้ร่างกายเธอร้อนๆ หนาวๆ คล้ายจะจับไข้ทั
Chapter 2“ปรางค์ มีคนพูดกับฉันหลายคนนะว่าเจ้าของบริษัทที่เธอจะไปฝึกงานด้วย ชื่อเสือ ชื่อดุน่าดูเลย ปรางค์ว่าเขาจะหน้าตาเป็นยังไง”เจ้าของดวงตาสีเขียวมรกตสะดุดชื่อเล่นที่สองสาวกล่าวถึง เพราะชื่อเสือ เป็นชื่อเล่นของเขาเช่นกัน คราแรกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่ตนเองหรือไม่ แต่พอมาวิเคราะห์อะไรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชั้นที่คนถูกถามไปนั้นก็เป็นชั้นที่ตั้งบริษัทของตน เขาคิดว่า เสือ ที่ทั้งคู่พูดถึงนั้นคือตนแน่นอนวิตโตริโอเลือกที่จะเงียบและโบกมือให้รังสรรค์ที่กำลังจะอ้าปากพูดให้หุบปาก เพราะต้องการรู้ว่า คำตอบที่กำลังจะถูกขับออกมาจากปากของสาวสวยร่างเล็กว่าเป็นอย่างไรปรางค์รวีทำท่าคิดได้น่ารัก ใสซื่อจนคนที่มองดูเธออยู่ถึงกับเคลิ้ม เขาไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนยิ้มได้สวยอย่างนี้มาก่อนเลย เวลาเธอยิ้มทำให้ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา คืนชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ“อืม อายุก็คงหกสิบกว่าๆ อ้วนลงพุง หน้าตาดุๆ เหมือนกับชื่อกระมัง อ้อ...มีเขี้ยวสองข้างด้วย เอาไว้คอยขย้ำลูกน้องที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ” ปรางค์รวีตอบเพื่อนด้วยการคาดเดา เธอคาดคะเนจากหลายประการ บริษัทแห่งนี้เติบโตมากกว่า 34 ปี เพราะฉะนั้นเจ้าของบริษัทน่าจะอายุประมาณหก







