ตอนที่ 10
“ชอบไหม” ถามเสียงทุ้มพร่า
“ปล่อยฉันนะ ไอ้หน้าโหด อย่ามาทำทุเรศกับฉัน” สองมือเล็กผลักไสกายแกร่ง ทว่าเขาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“อย่าแสแสร้งว่าไม่เคยทำแบบนี้เลยยาหยี เพราะผมมั่นใจว่าผู้หญิงแพศยาอย่างคุณเคยโดนบ่อยๆ” เคลย์ริกกระซิบเสียงแหบพร่า กดปากขยี้จุมพิตบนปากอิ่มอย่างหลงใหล มือหนาก็ยังนวดเฟ้นสะโพกงามงอนอย่างสนุกมือ
“อื้อ” มธุราทั้งดิ้นทั้งสะบัดหน้าหนีจุมพิต ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ที่เธอรู้ตัวดีว่าหากไม่ต่อต้านเขาตอนนี้ เธออาจสูญเสียพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามายี่สิบกว่าปีให้ไอ้หน้าโหด เล็บแหลมกดลงบนผิวเนื้อของอีกคนสุดแรง แต่เคลย์ริกไม่สะดุ้งสะเทือน
“ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะยาหยี” เคลย์ริกถอนปากออกมากระซิบ ใบหน้าเคียดขึ้ง เพราะเวลานี้เขากำลังโกรธตัวเองที่หลงใหลไปกลิ่นกายยั่วยวนของผู้หญิงแพศยา และโกรธผู้หญิงอวดเก่งที่กล้าทำร้ายร่างกายเขา
เคลย์ริกถอยห่างจากเรือนร่างน่าปรารถนา คนที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อแรงอารมณ์ใจชื้นขึ้นมา เมื่อเขาถอยห่างออกไป เธอเตรียมการจะเผ่นหนี
ทว่า...
“กรี๊ด!!” หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลงเมื่อร่างถูกเหวี่ยงลงบนเตียงแบบไม่ออมแรง ทำให้ร่างกระเด็นกระดอนจนแทบร่วงจากเตียง
“ที่ร้องลั่นห้องเพราะชอบใช่ไหมความรุนแรงใช่ไหม” คนที่กำลังพ่ายต่อแรงปรารถนาตวาดถาม สายตาของเขาก็จดจ้องไปยังร่างปรารถนา ในใจก็คิดอย่างสับสนกับแรงปรารถนาที่มีต่อผู้หญิงที่เขาตราหน้าว่าแพศยา!
‘ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต เหวี่ยงมาได้’ มธุราบ่นด่าคนหน้าโหดในใจด้วยสีหน้าเหยเก แต่เวลานี้เธอไม่ควรมัวสำออยให้เขาเห็น หญิงสาวเลยกัดฟันอดทนกับความมึนงงและเจ็บที่ถูกเหวี่ยง ขยับกายถอยหนีอีกคนที่เดินเข้ามาและไม่กี่วินาทีผ้าเช็ดตัวก็ถูกดึงออกจากสะโพกสอบ
มธุราตาโตจนแทบถลน ทั้งตกใจทั้งกลัวเมื่อรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เธอพลิกตัวหันหลังเผ่นลงจากเตียง ทว่าเท้าเหยียบพื้นไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีร่างก็ถูกกระชากกลับมา
“กรี๊ด!! ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ปล่อย!”
“คิดว่าจะหนีได้ง่ายๆ เหรอยาหยี” สิ้นเสียงทุ้มลำตัวที่ปราศจากเสื้อผ้าก็เข้ามาเบียดชิดกับร่างเล็ก ที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก เพราะตัวตนที่แข็งและร้อนของเขาเบียดสะโพกของเธอ แม้เวลานี้เธอจะสวมเสื้อผ้าแต่ไอร้อนจากส่วนนั้นของเขาก็ทะลุผ่านเข้ามาให้เธอใจหายใจคว่ำได้
“ไอ้คนลามก โรคจิต ปล่อยฉันนะ”
“ฝันไปเถอะ”
คำตอบนั่นดับสิ้นหนทางรอดของคนตัวเล็กแต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่เลิกดิ้นรน
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับฉันแบบนี้ ปล่อยฉัน” มธุราดิ้นรนโดยไม่รู้เลยว่าทำให้ร่างกายสัมผัสเสียดสีกันและกันมากยิ่งขึ้น
“ก็บอกแล้วไงว่าฝันไปเถอะ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง หรือต้องให้พูดภาษากาย คุณถึงจะเข้าใจ” ตอบกลับไปแล้วก็เผยยิ้มยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก ที่ทั้งกลัวทั้งโกรธ
“ฉันไม่อยากเข้าใจอะไรทั้งนั้น แล้วก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉัน...ฉันจะไปฟ้องตำรวจให้มาลากคอคุณเข้าคุก ถ้าคุณขืนใจฉัน” คนเสียเปรียบเริ่มเอากฎหมายมาข่มขู่ด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจนัก นั่นก็เพราะหนทางหลุดพ้นจากพันธนการของผู้ชายหน้าโหดริบหรี่เหลือเกิน
“ก่อนจะได้ไปฟ้องตำรวจ คุณคงป่นปี้หมดแล้วยาหยี”
“ไอ้...”
“อย่าปากร้ายให้มากนักยาหยี” เคลย์ริกทำเสียงขัดใจ ก่อนจะมองคนตัวเล็กด้วยสายตาหื่นกระหาย
“หยุดมองฉันด้วยสายตาแบบนี้นะ”
“ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงอย่างคุณมีอะไรเป็นทีเด็ด ทำไมผู้ชายถึงได้ชอบกันนัก ว่าแต่ภายในหนึ่งวัน คุณรับแขกกี่คน” เคลย์ริกแสยะยิ้มร้าย ก่อนจะกระชากร่างเล็กที่ไม่สิ้นฤทธิ์เข้ามานอนแผ่หลาอยู่ใต้ร่าง
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต” มธุราทั้งร้องทั้งตบตีและทำอีกสารพัดเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากคนโรคจิต ที่คงจะโรคจิตขั้นวิกฤติแล้ว เพราะไม่ว่าเธอจะตะโกนด่าอะไรออกไปเขาก็ทำแค่แสยะยิ้มที่เธอเกลียดแสนเกลียดกลับมา
“เปลี่ยนจากร้องให้ปล่อย มาเป็นแสดงทีเด็ดดีกว่านะยาหยี แล้วจากนั้นเราจะได้สนุกด้วยกัน” เคลย์ริกก้มหน้าลงต่ำแล้วทาบริมฝีปากลงปากอิ่ม ที่เจ้าของเม้มแน่น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่เจนจัดเรื่องบนเตียงอย่างเคลย์ริก
“อื้อ!” ใบหน้าสวยส่ายไปมาเพื่อห้ามปรามคนโรคจิต
“จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม” เคลย์ริกเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปหยอกล้อกับทรวงอกผ่านเนื้อผ้าที่เธอสวมใส่ แต่แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นอยู่ ทว่าแรงสัมผัสที่จาบจ้วงก็ทำให้เจ้าของทรวงอก สั่นสะท้านและสับสนกับความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ในร่างกาย ทั้งร้อนทั้งหนาวจนอยากเปล่งเสียงออกมาดังๆ ทว่าเธอไม่อาจขยับปากปลดปล่อยเสียงออกมาได้ เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนเหนือร่างได้ฉกฉวยเข้าไปช่วงชิงน้ำหวานภายในปากของเธอ ที่เธอรู้ดีว่าหากถูกจูบเมื่อไหร่ เธอจะโอนอ่อนให้ผู้ชายคนนี้ในไม่ช้า
“อื้อๆ” มธุราได้แต่ส่งเสียงครางอืออาในลำคอ ขยับกายหนีมือใหญ่ที่กำลังเคล้นคลึงอกอวบ
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ