ตอนที่ 9
“ประหลาด” เคลย์ริกยิ้มขันให้กับคำตอบของคนอวดเก่ง แต่ที่น่าแปลกก็คือเขาเพิ่งจะรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เขายิ้มได้กว้างมากที่สุดในรอบปี
“คุณสิประหลาด” ริมฝีปากสวยเบ้ออกอย่างนึกชังรอยยิ้มบนหน้าโหดๆ นั่น
“เธอต่างหากที่ประหลาด แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่าเธอไม่มีสิทธิ์ไล่เจ้าของบ้าน”
“คุณก็ไม่สิทธิ์มากักขังฉันไว้ที่นี่เหมือนกัน แล้วฉันก็ขอยืนยันไว้ตรงนี้เลยว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงแพศยาอย่างที่คุณกล่าวหา” มธุราเอ่ยยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เห็นอยู่ตำตา ยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอ” เคลย์ริกตะคอกใส่อย่างหัวเสีย เมื่อสาวเจ้าไม่ยอมรับ ทั้งที่ก่อนจะบุกไปจับหล่อนมาเขาก็มีหลักฐานอย่างชัดเจน
“ตำตาบ้าบออะไรของคุณ” เธอตอบกลับเสียงแข็ง พลางจ้องมองคนตัวโตตาไม่กะพริบ อีกทั้งก็พยายามนึกว่าเคยไปเจอผู้ชายคนนี้ที่ไหน ทว่านึกให้ตายก็นึกไม่ออก
“จะไม่ยอมรับใช่ไหม”
“ฉันไม่ยอมรับอะไรทั้งนั่นแหละ”
“เธอนี่…”
“หยุดกล่าวหาฉัน แล้วคุณก็ช่วยบอกฉันทีว่าฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจตอนไหน คุณถึงมากล่าวหาฉัน” มธุราพยายามระงับอารมณ์ให้เย็นลง เพื่อจะได้ใช้โอกาสนี้ถามอีกฝ่ายกลับไปว่าเธอไปทำอะไรผิด ทำไมจะต้องมาปรับปรำเธอ แล้วก็จับเธอมากักขังจนหมดอิสรภาพ
“คุณเป็นแม่เล้า คอยหาผู้หญิงไปปรนเปรอผู้ชาย แล้วคุณก็ขายตัวเองด้วย”
“ว่าไงนะ!” ร่างเล็กถามกลับเสียงหลง เมื่อเจอข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงหนักกว่าเดิม
‘แม่เล้า! เธอนี่เนี่ยเหรอเป็นแม่เล้า อีตาบ้านี่ ไปเอาข้อมูลมาจากไหน?’
“อย่ามาแสแสร้ง” เคลย์ริกบิดปากออกอย่างเย้ยหยัน นึกเกลียดมารยาหญิงเสียจริง แต่อย่าหวังว่ามารยาพวกนี้จะทำอะไรเขาได้!
“ฉันไม่ใช่แม่เล้า!”
“ต้องให้เอาหลักฐานมาปาใส่หน้าก่อนใช่ไหม คุณถึงจะยอมรับ!” เคลย์ริกบอกเสียงกร้าว
“ไอ้บ้า! ฉันไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้นแหละ เพราะว่าฉันไม่ได้เป็นทั้งแม่เล้าทั้งผู้หญิง...โอ๊ย!” แพศยายังไม่ทันหลุดออกจากปาก ท่อนแขนก็ถูกมือหนากระชากอย่างแรง เสี้ยววินาทีตัวของเธอกระแทกเข้ากับแผงอกกว้าง ทรวงอกอวบเบียดชิดจนแม้แต่อากาศยังผ่านไปแทบไม่ได้
“คุณแน่ใจว่าไม่ใช่” เคลย์ริกเอ่ยเสียงเย็น พลางโน้มหน้าลงต่ำจนปลายจมูกของเขาชนกับจมูกโด่งรั้น
มธุราดิ้นรนเพื่อไปให้หลุดจากพันธนาการที่รัดแน่น ทว่ายิ่งดิ้นอกนุ่มๆ ของเธอก็ยิ่งบดเบียดกับอกกำยำ
“ว่าไง” เขาย้ำเมื่อหญิงสาวเอาแต่ดิ้นหนี
“ฉันแน่ใจ แล้วคุณก็เลิกกล่าวหาฉันซะที”
เคลย์ริกยกยิ้มมุมปากพร้อมกับดันคนตัวเล็กให้ยิ่งเข้ามาชิด
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ ปล่อย” เสียงของเธอแผ่วลงเรื่อยๆ เมื่อคนหน้าโหดฝังจมูกลงบนแก้ม กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอทำให้เคลย์ริกเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอด และนั่นก็ทำให้คนถูกสูดกลิ่นกายขนลุกซู่ไปทั้งตัว หายใจก็ไม่ทั่วท้อง
“หอม…” เคลย์ริกกระซิบข้างใบหูนุ่มนิ่มพร้อมกับสูดดมกลิ่นกายของเธอไปด้วย
“ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต ไอ้ลา...อื้อ!” เสียงถูกกลืนหายเมื่อปากหยักประกบจูบลงมาอย่างดุดัน ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล มธุราตัวอ่อนระทวยราวขี้ผึ้งถูกไฟลนเมื่อถูกจูบสูบวิญญาณ มือเล็กที่ตั้งใจประทุษร้ายกายแกร่ง เปลี่ยนเป็นเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้เป็นที่พึ่ง เมื่อแข้งขาอ่อนแรงเหมือนจะยืนหยัดไม่อยู่
“อื้อ...”
“ปากเธอหวานเหลือเกิน มธุรา” เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดปากอิ่ม มือหนาเลื่อนลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ก่อนจะมาหยุดนิ่งที่สะโพกงามงอน บีบเคล้นหนักเบาสลับกัน ปากหยักร้ายที่ซุกไซ้ทั่วลำคอขาวหอมละมุน เลื่อนขึ้นไปประกบจูบปากอิ่มอีกครั้ง
“อื้อ ปละ...ปล่อย ปล่อยฉัน” เสียงหวานเอ่ยสั่งทันทีเมื่อปากหยักเคลื่อนไปจูบซอกคอ ลามไปถึงใบหูนุ่มนิ่ม เขาขบเม้มเบาๆ หยอกเย้าให้เจ้าของใจสั่น
“แน่ใจว่าอยากให้ปล่อย” เสียงทุ้มพร่าถามกลับ สลับกับตวัดลิ้นอุ่นไล้เลียใบหูนุ่มนิ่ม ขณะที่เจ้าของก็หดคอหนีการรุกรานพัลวัน
“ปล่อย อ๊ะ!” มธุรายื่นมือออกไปคว้าร่างใหญ่เมื่อเขาถอยห่างแบบไม่ทันให้เธอตั้งตัว
“คราวหลังอย่าอวดเก่งกับผมอีก” เพราะกลิ่นหอมที่ยั่วยวนจนทำให้เจ้าของกายใหญ่เกือบเตลิดเขาจึงรีบถอยห่างออกมา
“ฉัน…” มธุราพูดได้แค่นั้นก็ถูกคนที่เพิ่งถอยห่างออกไปยื่นมือมารวบเอวแล้วรั้งเข้ามาชิดลำตัวเช่นเดิม วินาทีต่อมาปากหยักก็กดลงบนแก้มนุ่ม
“นี่! หยุดนะ” มธุราร้องห้ามเสียงสั่นๆ เบี่ยงหน้าปากหยักสุดชีวิต
“แก้มเธอนี่หอมชะมัด” เขาพึมพำเสียงพร่า พยายามจะถอยห่างจากแก้มนุ่ม ทว่าเป็นอะไรที่ตัดใจถอยห่างยากเหลือเกิน ทั้งที่เขาก็ผ่านผู้หญิงมาหลายคน แต่ไม่เคยเจอกลิ่นกายของใครหอมเย้ายวนได้เท่าเธอคนนี้
“ยะ...อย่า อย่าทำอะไรฉันนะ” เมื่อถูกกอดรัดหนักเข้าเธอจึงรีบร้องห้ามเสียงตะกุกตะกัก ที่กว่าจะพูดจบประโยคร่างกายเบื้องล่างก็ถูกคนหน้าโหดลวนลามด้วยการขยับสะโพกสอบเบียดความแข็งขึงที่เธอรู้ดีว่าคืออะไร เลยทำให้ตอนนี้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนไปหมดแล้ว
บทส่งท้าย สองปีต่อมา... คุณพ่อลูกหนึ่งเดินออกจากห้องพักไปยังห้องของลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ที่กำลังกล่อมลูกชายเข้านอน ที่วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เจ้าของร่างสูงยืนพิงประตูเฝ้ามองภรรยาและลูกน้อยด้วยความรักนานเป็นสิบนาที ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งสะโพกนั่งบนเตียงข้างภรรยาคนสวยที่กำลังค่อยๆ วางลูกน้อยบนที่นอน “พออุ้มกล่อมเข้าหน่อยก็หลับปุ๋ยเชียวนะตัวแสบ ลูกรักของแม่” มธุราพึมพำเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงหอมแก้มของลูกชาย ที่ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อ “หอมลูกแล้วก็หอมพ่อบ้างสิทูนหัว” เคลย์ริกโน้มเข้าไปกระซิบ “แก้มคุณฉันหอมจนเบื่อแล้ว อีกอย่างแก้มคุ
อวสาน หลังจบอาหารค่ำ ที่วันนี้ครอบครัวแม็คแคลตันก็เดินทางมารับประทานอาหารค่ำที่บ้านศิริโชคธนาอีกครั้งเพื่อสร้างความสนิทสนิมแก่สองครอบครัวที่กำลังจะเกี่ยวดองกัน เคลย์ริกก็เดินกุมมือคนตัวเล็กออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้หน้าบ้าน ในค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ประหนึ่งว่ากำลังเป็นสักขีพยานในความรักของสองหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้มาพบกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด “ส่ายหน้าทำไมยาหยี” เคลย์ริกเอ่ยถามเมื่อคนตัวเล็กยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าเราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เราพบกัน คุณกับฉันแทบจะฆ่ากันตาย” มธุราเงยหน้าขึ้นตอบคนตัวโต ส่วนคนที่ทำให้คนหน้าโหดเข้าใจผิด ตอนนี้เธอและครอบครัวของฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ก็รู้มาว่าพี่สาวคนสนิทกำลังจะแต่งงานกับนับธุรกิจชาวสิงค์โปร “ก็
ตอนที่ 52หลังกลับจากเยี่ยมผู้อาวุโสและอยู่รับประทานอาหารค่ำกันแล้ว เคลย์ริกก็พามธุราเดินทางกลับบ้านพัก ที่ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้อาวุโส ที่ตอนนี้รักษาตัวจนหายป่วยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้เกือบสองสัปดาห์ และทุกครั้งที่ไปเยี่ยม ท่านก็ถามเรื่องแต่งงานระหว่างเธอกับคนหน้าโหดทุกครั้ง ‘ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ คุณตาตัดชุดรอเลยนะครับ’ นั่นคือคำตอบขอบคนหน้าโหดที่ให้คำตอบกับผู้อาวุโสก่อนจะเดินทางกลับที่พัก เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้อาวุโสดูมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าหลานชายจะมีครอบครัว ส่วนเธอก็ยอมรับแหละว่าที่ผ่านมาเธอเปิดรับให้คนหน้าโหดเข้ามาจองพื้นที่ในหัวใจไปแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน เธอยังไม่ได้บอกครอบครัว‘บอกพี่มาร์ชก่อน แล้วค่อยบอกคุณแม่ดีกว่า’ คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ จะกดโทรออกอยู่สองสามรอบก็เปลี่ยนใจ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายในที่สุด “แ
ตอนที่ 51 ก๊อกๆ “เจ้านายครับ” เสียงเคาะประตูและเสียงของจีโอดังขัดจังหวะการสนทนา ก่อนที่เคลย์ริกจะส่งเสียงบอกให้เข้ามา “มีอะไร” “คนที่บ้านคุณเนอร์แมนเพิ่งโทรมาแจ้งว่าคุณเคอร์ตินกลับมาที่บ้านครับ” เคลย์ริกฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันมาบอกให้มธุรารออยู่ที่นี่ ส่วนเขาและจีโอก็รีบเดินทางไปบ้านพักของผู้เป็นตา ที่เวลานี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อเคอร์ตินย้อนกลับมาหวังจะเอาทรัพย์สินไปใช้เพื่อการหลบหนี แต่คนเป็นพ่อบอกให้มอบตัวและยังหวังให้ลูกชายกลับเนื้อกลับตัว “ไม่! ผมไม่อยากติดคุก” “เคอร์ติน พ่อขอร้อง แกวางปืนลงเถอะ แ
ตอนที่ 50 “ดีขึ้นไหมคะ” เธอถามหลังจากปล่อยให้เขากอดอยู่พักใหญ่ ด้านเคลย์ริกก็คลายมือออกแล้วมาจับคางมน “ผมขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาเจอเรื่องร้ายๆ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นอีก คุณจะอยู่กับผมใช่ไหม ยาหยี” มธุราฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเดียว “ว่าไงยาหยี หรือคุณคิดจะไปจากผม” “ฉัน…เอ่อ…” “ผมผิดเองที่ทำให้การพบเจอกันของเราไม่ค่อยดี แล้วผมก็โง่เองที่ไม่สืบให้ดีๆ จนไปจับตัวคุณมา แต่ผมก็ดีใจที่จับมาผิดคน เพราะถ้าจับถูกคน ผมคงไม่ได้เจอกับคุณ” เคลย์ริกบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่อ้ำอึ้ง ส่วนผู้หญิงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุทำให้มารดาตรอมใจจนล้มป่วยและจากไปนั้น หากมีโอกาสได้เจอกันเขาจะ
ตอนที่ 49 วันต่อมา… เหตุการณ์ร้ายเมื่อคืนกลายเป็นข่าวดังและผู้คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีการประโคมข่าวว่ามีคนในตระกูลแม็คแคลตันมีส่วนในเรื่องนี้ ก๊อกๆ “เข้ามา” เมื่อได้รับอนุญาตจีโอก็เปิดประตูเข้ามารายงานความคืบหน้าถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่พอเกิดเรื่องทั้งผู้เป็นตา บิดา และน้องชายฝาแฝด ต่างโทรมาถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดและเมื่อทุกคนรู้ว่าเคลย์ริกปลอดภัยก็โล่งใจไปตามๆ กัน “ได้เรื่องอะไรบ้าง” เคลย์ริกเอ่ยถามลูกน้องเสียงเรียบ ด้าน จีโอก็รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายฟังอย่างไม่รีรอ ที่ตอนนี้ทางตำรวจแจ้งมาว่าฮาร์วี่ย์เริ่มซักทอ