“ไอ้เสือ! แกทำแบบนี้ได้ยังไง”น้ำเสียงฉุนเฉียวโกรธจัดของศิลาดังขึ้นมาทันที ยังไม่ทันที่ศรุตจะกล่าวคำทักทายผู้เป็นบิดาแม้แต่คำเดียว“ทำอะไรครับพ่อ”คนเป็นลูกยังคงตีมึนทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่บอก แต่มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไร มันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องแต่งงานเป็นแน่“อย่ามาทำไขสือ แกรู้ว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร”“เรื่องที่ผมยกเลิกงานแต่งงานน่ะเหรอครับ” ศรุตส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์กับคนปลายสายแม้แต่น้อย“ก็เออน่ะสิ หนูฟางโทร.มาบอกฉัน ว่าแกขอยกเลิกงานแต่ง”“ครับ ผมยกเลิกมันเอง”“แกรู้ไหมว่าฉันเสียหน้าขนาดไหน”เหอะ เสียหน้าเหรอ เขาว่าไม่ใช่หรอกคงเสียเงินทางธุรกิจเสียมากกว่า ศรุตขบคิดในใจก่อนตอบกลับบิดาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยสะกดกลั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้“พ่อไม่เห็นต้องเสียหน้าอะไรเลยนี่ครับ ในเมื่อเรื่องงานหมั้นหรืองานแต่งงานกับน้องฟางเราคุยเป็นการภายในเท่านั้นไม่ได้ป่าวประกาศลงโซเชียลมีเดียเสียหน่อยนี่ครับ แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้ผมกับน้องฟางเราคุยกันรู้เรื่องดีแล้ว”“แต่แกต้องแต่งไอ้เสือ”“ผมไม่แต่ง พ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผม” ศรุตสวนกลับเสียงแข็ง แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนเอ่ยประโยคต่อม
“เรื่องตามหาคุณเนตร ผมจัดการจ้างนักสืบเพิ่มและกระจายตัวหาตามจังหวัดต่าง ๆ แล้วครับ พวกเขาจะรีบมาแจ้งข่าวหากพบตัวคุณเนตรครับ” ตุลธรรีบรายงานทันที“ขอบใจพวกนายมาก เลยเวลาอาหารกลางวันมามากแล้วลงไปหาอะไรกินเถอะ”“นายจะรับอะไรไหมครับผมจะสั่งจากทางห้องอาหารให้มาส่ง” ทินกรถามเจ้านายหนุ่ม“ไม่ต้องหรอก ขอบใจนายสองคนมาก” ศรุตบอกเสียงเศร้าขอบคุณลูกน้องทั้งสองคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างอ่อนใจกับท่าทางของเจ้านายที่กำลังเครียดจัดศรุตพักสายตาเล็กน้อยแล้วเอนกายเข้ากับพนักพิงราวกับกำลังพักผ่อนที่ช่วงนี้เขามักนอนไม่ค่อยหลับเพราะมัวแต่คิดถึงเจ้าของใบหน้าหวานปนเศร้าอย่างเนตรแพร หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องทำงานของชายหนุ่มก็เปิดออก ทำเอาคนที่เพิ่งหลับตาลงเมื่อครู่ต้องหันมองผู้เข้ามาใหม่ทันที“สวัสดีค่ะพี่เสือ” เฟยเฟิ่งทักทายชายหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนเดินไปหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาที่อยู่เยื้อง ๆ โต๊ะทำงานของเขา“สวัสดีครับ น้องฟางมาได้ยังไงครับ มีอะไรหรือเปล่า” ศรุตทักทายว่าที่คู่หมั้นพลางประสานมือทั้งสองลงบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่“ฟางมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่เสือค่ะ” สาวเจ้าเปิดประเด็นอย่างไม่ร
“ฟางไม่ได้บ่นค่ะ แต่ฟางพูดเรื่องจริงนี่คะ พี่เสือมาดื่มเหล้าแบบนี้ ให้ตามหาคุณเนตรยังไงก็ไม่เจอหรอกค่ะ”“พี่ตามหาทุกที่ที่พี่คิดว่าเนตรเขาจะไป สุดท้ายก็ไม่เจอ” คนเมาตอบเสียงเศร้า“วันนี้ไม่เจอ พรุ่งนี้ก็ต้องเจอค่ะ ฟางเชื่อแบบนั้น”“ฟางคิดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ” เขาถามด้วยความหวัง“ค่ะฟางคิดแบบนั้น ตอนนี้ฟางว่าพี่เสือไปจัดการตัวเองให้ดูดีเหมือนเดิม แล้วพรุ่งนี้ก็กลับไปทำงานดีกว่านะคะ ถ้าฟางเป็นคุณเนตรมาเห็นแบบนี้นะ...มีผัวใหม่ดีกว่า”คำว่า “ผัวใหม่” สะกิดใจเหลือเกิน เขาไม่มีวันยอมให้เนตรแพรไปรักกับผู้ชายคนอื่นนอกจากเขาเด็ดขาด ไม่มีวัน จากนั้นเขาก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วเดินออกไปอย่างไม่บอกไม่กล่าว ทำเอาเฟยเฟิ่งสงสัยไม่น้อยกับการกระทำของคนที่ถูกเมียทิ้ง“พี่เสือจะไปไหนคะ ฟางยังคุยกับพี่ไม่จบเลยนะคะ” หญิงสาวตะโกนถามคนที่วิ่งขึ้นบันไดจนแทบสร่างเมาโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง“อาบน้ำไปตามเมีย”เฟยเฟิ่งรู้สึกขบขันกับการกระทำของว่าที่คู่หมั้นหนุ่มไม่น้อย เธอรู้สึกโล่งใจไปหนึ่งเรื่อง เธอคิดไม่ตกตลอดการกลับไปฮ่องกงของเธอ ทำให้มีอะไรมากมายต้องคิดและอยากทำให้ดีที่สุด วันนี้ได้บอกมันออกไปถึงแม้ว่าจะยังไม่หมดก
“เมียมึงไม่บอกบ้างเหรอวะไอ้เมธ...ว่าเมียกูอยู่ที่ไหน” ศรุตหันไปถามจิรเมธเรื่องที่อยู่ของเนตรแพรด้วยความหวังที่ว่าเพื่อนจะรู้มาบ้าง“ไม่รู้ว่ะ เมียกูก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน…ตายห่าแล้วลืม!”จิรเมธเพิ่งนึกออกว่าเขาต้องรีบกลับไม่เช่นนั้นมีหวังได้นอนนอกห้องเป็นแน่ จึงรีบขอตัวกลับก่อน ซึ่งเวลานี้หมอหนุ่มก็เห็นด้วยที่จะต้องแยกย้าย แต่คนเมาที่นั่งดื่มอยู่นี่คงต้องพาไปส่งที่บ้าน“ไอ้เสือ กูก็ต้องกลับเหมือนกันล่ะว่ะ มีเวรตอนบ่าย” หมอหนุ่มบอกพลางยกแขนขึ้นดูเวลา ตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงคืนเห็นจะได้ ก่อนหันไปถามลูกน้องทั้งสองคนของศรุตที่นั่งอยู่ไม่ไกลเจ้านายนัก“พวกแกสองคนขับรถไหวไหมวะ”“ไหวครับ ผมไม่ได้ดื่มเยอะ”“ฝากพาไอ้เสือกลับบ้านที ถ้ามีอะไรให้โทร.บอก” พัทธดลย์กำชับด้วยความเป็นห่วงเพราะเพื่อนของเขาตอนนี้เมาเกินกว่าจะทำอะไร“ครับหมอบี”ทินกรกับตุลธรหิ้วปีกเจ้านายหนุ่มที่เมาจนแทบจะเดินเองไม่ไหวขึ้นรถหรูอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตราย ก่อนตรงกลับบ้านหลังใหญ่ให้เร็วที่สุด เพราะพรุ่งนี้พวกเขาทั้งสองมีงานที่จะต้องทำตามหน้าที่ของตนเองพร้อมทั้งจัดหานักสืบฝีมือดีตามหาเนตรแพรตามคำสั่งของศรุตเช่นเดิมยิ่ง
สองเดือนผ่านไป...วันนี้ศรุตตื่นเร็วกว่าทุกครั้ง ด้วยสีหน้าที่อ่อนล้าเหลือทน อาจจะเป็นเพราะชายหนุ่มนอนไม่ค่อยหลับ อีกทั้งยังมีใบหน้างามที่เปื้อนคราบน้ำตาวนเวียนอยู่ในความทรงจำมันยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดต่อเธอเหลือเกิน"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเสือ"ป้าจันทน์หอมเดินออกมาจากห้องครัวแล้วเห็นเจ้านายหนุ่มเดินลงมาจากชั้นสองด้วยสีหน้าเศร้าหมองนับตั้งแต่ที่รู้ข่าวว่าเนตรแพรหายตัวไป จากที่ศรุตเป็นคนเงียบขรึมอยู่แล้วเป็นทุนเดิม พอเกิดเรื่องนี้ยิ่งทำให้เขาเคร่งขรึมหนักเท่าทวี ตนก็ได้แต่ภาวนาให้พบหญิงสาวในเร็ววัน"สวัสดีครับป้าจันทน์" เขาทักทายพลางฝืนยิ้มให้ผู้อาวุโสตรงหน้า“เช้านี้คุณเสือจะรับอาหารเช้าหรือกาแฟดีคะ”“กาแฟแล้วกันครับป้า”ลับหลังที่ป้าจันทน์หอมไปชงกาแฟให้เขา ศรุตตัดสินใจเดินไปยังห้องนอนเล็กที่ให้เนตรแพรอยู่ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาอยู่ มือหนาเปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบาก่อนเปิดไฟเพื่อให้แสงสว่าง เขากวาดสายตามองภายในห้องที่ยังมีข้าวของของเนตรแพรบางตาอาจเป็นเพราะเขาให้เก็บไปที่คอนโดมิเนียมตั้งแต่วันที่เฟยเฟิ่งมาไทยได้เพียงสองวัน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่เขาคุ้นเคย มือหน
มือหนาของชายหนุ่มลูบใบหน้าของตนให้คลายความเครียดและความกังวลลงมาบ้าง เพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมกับเหล่าผู้บริหารของทางโรงแรม เขาไม่ต้องการให้งานที่ทำออกมาผิดพลาดจึงต้องหยุดพักเรื่องของเนตรแพรเอาไว้เสียก่อน เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงกว่าจะประชุมตกลงสิ่งต่าง ๆ เรียบร้อย ชายหนุ่มเดินนำหน้าลูกน้องคนสนิททั้งสองคนมาหยุดหน้าห้องทำงาน“วันนี้นายจะไปไหนไหมครับ กลับบ้านหรือจะไปคลับ” ตุลธรถามผู้เป็นเจ้านาย เพราะปกติแล้วหน้าที่สารถีการขับรถให้ศรุตจะเป็นของทินกร แต่วันนี้อีกฝ่ายต้องตรวจตราความเรียบร้อยของกาสิโน หน้าที่คนขับรถในวันนี้จึงเป็นของเขาแทน“กลับบ้านแล้วกัน” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ“ครับ”ระหว่างที่ตุลธรไปเตรียมรถ ชายหนุ่มเข้าไปจัดการเอกสารที่อยู่ภายในห้องทำงานเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ค้างคา ก่อนจะเดินออกไปหาสุธีราผู้จัดการโรงแรมคนที่รักและเอ็นดูเนตรแพรตั้งแต่มาเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่นี่“กำลังจะกลับบ้านเหรอครับคุณสุ”“อ้าว! คุณเสือ สวัสดีค่ะ” สุธีราละจากการจัดเก็บของลงกระเป๋าเงยหน้าทักทายเจ้านายหนุ่มที่ใบหน้าเศร้าหมองนับตั้งแต่วันที่เนตรแพรหายตัวไป “เอ่อ…คุณเสือคะ หาน้องเนตรเจอไหมคะ” ผู้จ