แชร์

บทที่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่ /1

ผู้เขียน: ชวี่เหว่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-08 22:38:54

บทที่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่/1

หมู่บ้านซีซาน เป็นหนึ่งในหมู่บ้านของเขตเมืองลวี่เฟิง ตั้งอยู่บนพื้นที่ห่างไกลอันแสนสงบสุข ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรอู๋ซาง

ทิวทัศน์งดงามของเทือกเขาเขียวขจีสูงใหญ่ทอดยาวสุดสายตา ดูละม้ายคล้ายมังกรสีเขียวตัวมหึมากำลังหลับใหล

ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า กอปรกับแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาสูง มุ่งลงทิศใต้ผ่านป่าเขาลำเนาไพร มอบความชุ่มชื้นและชีวิตให้สรรพสิ่ง

รวี่เยว่น้อยเปิดม่านหน้าต่างรถม้า หลับตาสูดหายใจรับพลังปราณบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ตามที่แม่นมชุนให้คำแนะนำ

และเมื่อกลับถึงบ้านนางก็ตรงเข้าห้อง ฝึกเดินลมปราณต่อทันทีจนถึงเวลาอาหารเย็น

หลังกินอาหารเย็นเรียบร้อย ร่างเล็กจึงมานอนเล่นบนกองฟางเหม่อมองท้องฟ้าและดวงดารา อย่างที่ชอบทำอยู่เป็นประจำก่อนเข้านอน โดยมีแมวส้มจวี๋จื่ออยู่เป็นเพื่อน เสี่ยวหลานกลับรังของมันไปตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตก ตามธรรมชาติของนกน้อย

ท้องฟ้ายามราตรีในคืนนี้ สว่างไสวจากแสงแห่งจันทรา มือเล็กเรียกไฟธาตุกำเนิดในมือข้างซ้ายออกมารับแสงจันทร์

"ถิงเอ๋อร์ ไม่สิ รวี่เยว่ เจ้าจะลงประลองในอีกสามเดือนจริงๆ อย่างนั้นหรือ" จวี๋จื่อเกยคางบนตักของเด็กหญิง มองไฟธาตุหยินที่กำลังเคลื่อนไหวราวกับร่ายรำอย่างสนใจ ทั้งที่ลูกไฟมีสีดำแท้ๆ แต่กลับทอแสงสีเงินนวลตา ดุจดั่งแสงแห่งจันทราอย่างไรอย่างนั้น

"ใช่ จวี๋จื่อข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเข้าเป็นศิษย์ของหนึ่งในสี่สำนักใหญ่ให้จงได้!"

รวี่เยว่ตั้งปณิธานไว้ว่า สักวันนางจะทำให้คนตระกูลหวังเสียใจ ที่กล้าลบหลู่มารดาผู้ยิ่งใหญ่ของนาง! การประลองคัดเลือกในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกในการพิสูจน์ตนเอง นางจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!

"หากเจ้าอยากเป็นศิษย์ของหนึ่งในสี่สำนักใหญ่ เช่นนั้นก็ต้องผ่านระดับหนิงชี่ขั้นปลายให้ได้เสียก่อนนะแม่หนู" เสียงทุ้มกังวานทรงพลังของบุรุษลอยมากับสายลม พร้อมกับการปรากฏกายของมหาเทพหวงหลงตรงหน้ารวี่เยว่ ร่างกายของเขาทอแสงสีทองนวลตา คล้ายมีและคล้ายไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นอย่างน่าประหลาดใจ

ทั้งรวี่เยว่และจวี๋จื่อนั่งตัวแข็งทื่อ จ้องมองบุรุษรูปงามที่ยืนเต๊ะท่ากอดอกอยู่กลางอากาศเบื้องหน้าจนตาค้าง กระทั่งมหาเทพหวงหลงดีดนิ้ว ร่างเล็กและแมวสาวถึงได้สติ

"ท่าน ท่านเป็นเซียนหรือเจ้าคะถึงเหาะได้โดยที่ไม่ต้องขี่กระบี่" มีแต่ระดับหยวนอิงขึ้นไปเท่านั้น ที่จะสามารถยืนอยู่บนอากาศประหนึ่งยืนอยู่บนพื้นดิน

"ข้าเป็นเทพไม่ใช่เซียน และเป็นเจ้าของศิลามหาเทวะธาตุหยินหยางในตัวเจ้าด้วย"

จากนั้นมหาเทพหวงหลงจึงอธิบายว่าศิลามหาเทวะธาตุคือสิ่งใด รวมถึงบอกจุดประสงค์ที่เขาทอดเงาลงมาจากแดนเทพให้ร่างเล็กฟัง เพียงแต่ไม่ได้บอกว่าตนคือมหาเทพหวงหลง เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะตกใจจนลมจับไปอีกรอบ

"ท่านเทพจะช่วยข้าน้อยฝึกฝนจริงๆ หรือเจ้าคะ" รวี่เยว่เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ดวงตาดอกท้อเผยถึงความตื่นเต้นและยินดี

"จริงสิ รับรองว่าไม่เกินสิบปีเจ้าจะแตะระดับหยวนอิงแน่นอนเด็กน้อย หึหึ"

ถ้อยคำของมหาเทพหวงหลงทำเด็กหญิงและแมวสาวตกตะลึงกันไปอีกรอบ

"ถึงระดับหยวนอิง ในระยะเวลาไม่เกินสิบปี มันเป็นไปได้ด้วยหรือเจ้าคะ…ขะ ข้าจะทำได้อย่างไรเจ้าคะท่านเทพ“

ระดับหยวนอิงหรือระดับเซียนขั้นสูง ที่นักบำเพ็ญหลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตฝึกฝนแต่ก็มิอาจแตะถึงระดับนี้เสียที นอกจากต้องใช้ทรัพยากรมากมายในการฝึกฝน ยังต้องพึ่งโอสถทิพย์เพื่อช่วยยกระดับพลัง

ทว่าโอสถทิพย์หาใช่สิ่งที่มีขายกันทั่วไป ถึงนานๆ ครั้งถึงจะพอมีออกมาขายในหอประมูล แต่ราคาก็สูงลิบลิ่วจนคนธรรมดามิอาจแตะถึง ส่วนใหญ่จึงมีเพียงเชื้อพระวงศ์ หรือคนจากสำนักใหญ่เท่านั้นที่มีโอกาสครอบครอง

"ทำได้แน่นอน เจ้ามีศิลามหาเทวะธาตุอยู่ในตัวนะอย่าได้ลืม แค่ต้องรู้วิธีดึงพลังของมันออกมาใช้ เอาล่ะอย่ามัวแต่คุยให้เสียเวลา เริ่มฝึกกันเลยดีกว่าเจ้ามีเวลาเพียงสามเดือนมิใช่หรือ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่ /2

    บททึ่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่ /2 วูบบบ มหาเทพหวงหลงซึ่งกำลังคันไม้คันมือคล้ายเด็กได้ของเล่นใหม่ รีบพาร่างเล็กมาโผล่ ณ ลานฝึกกลางหุบเขาเล็กๆ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณฟ้าดิน ต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นมีละอองสีเงินและสีทองล้อมรอบ "ที่นี่คือลานฝึกที่ข้าสร้างให้เจ้าโดยเฉพาะ ยอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่" มหาเทพจอมซนยืนเอามือไพล่หลังยืดอกบอกรวี่เยว่ด้วยความภาคภูมิใจ "ท่านเทพสร้างให้รวี่เยว่โดยเฉพาะเลยหรือเจ้าคะ?!" ร่างเล็กถามเสียงสูงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ พลางกวาดตามองไปทั่วหุบเขา หากเดาไม่ผิดต้นไม้ใบหญ้าพวกนี้คือพืชปราณทั้งหมด!! "ถูกต้อง พวกเรามาเริ่มฝึกกันเถอะเด็กน้อย" "เอ่ออ แล้วรวี่เยว่ไม่ต้องกราบท่านเทพเป็นอาจารย์ก่อนหรือเจ้าคะ" ร่างเล็กยืนเอามือประสานไว้ที่หน้าอก เอียงหน้ากะพริบตาปริบๆ เอ่ยถามมหาเทพเรื่องที่ศิษย์ต้องกราบอาจารย์ ก่อนได้รับการสั่งสอนตามธรรมเนียม…หรือว่าบนแดนเทพไม่มีธรรมเนียมปฏิบัตินี้กัน? "…" มหาเทพหวงหลง คำถามของรวี่เยว่สร้างความงุนงงให้กับมหาเทพหวงหลงไม่น้อย ด้วยเพราะเขาไม่เคยรับศิษย์หรือสั่งสอนวิชาให้ใครมาก่อน จึงแอบส่งจิตไปถามมหาเทพชิงหลง ที่ชอบแอบหนีลงมาเที่ยวเล่นบนพิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /1

    บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /1 ภายในหัวเล็กๆ ของรวี่เยว่เต็มไปด้วยคำถาม นางไปทำให้ใครโกรธแค้นถึงได้ถูกทำร้ายด้วยยาพิษร้ายแรงชนิดนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ในจวนเสนาธิการ นางก็อยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่ไปวุ่นวายกับใครตามคำสั่งของท่านแม่ แต่กลับถูกน้องชายที่เกิดจากฮูหยินรองหาเรื่องกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ ท่านย่าของนางก็ถือหางหลานชาย ทั้งที่นางคือผู้ถูกกระทำแท้ๆ หลายปีที่ผ่านมานางต้องกล้ำกลืนความอยุติธรรมที่ถูกหยิบยื่นให้ ทั้งที่น้อยเนื้อต่ำใจแต่ก็เคยไม่ปริปากบ่น แต่การตั้งใจวางยาพิษเพื่อตัดอนาคตนางแบบนี้ นับว่าชั่วร้ายเกินไป นางอภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!ดวงตาของรวี่เยว่เอ่อท้นด้วยน้ำตาแห่งความเคืองแค้น ปากเล็กเอ่ยถามอาจารย์ของตนเสียงสั่น "ท่านอาจารย์เจ้าคะ ท่านบอกศิษย์ได้หรือไม่เจ้าคะ ว่าใครเป็นคนทำ ใครวางยาพิษข้า" มหาเทพหวงหลงมองหน้าลูกศิษย์ตัวน้อยอย่างเห็นใจ ไม่ว่าใครที่ตกอยู่ในสถานะการณ์เช่นเดียวกันกับนาง ย่อมต้องโกรธแค้นเป็นธรรมดา ขนาดว่าตัวเขาเป็นเทพยังขุ่นเคืองใจอยู่ไม่น้อย เมื่อได้รู้เห็นเรื่องราวของเด็กหญิงผ่านกระจกส่องพิภพ แต่กระนั้นเรื่องบางอย่างเขาก็มิอาจเข้ามาก้าวก่าย ต้องปล่อยให้เป็นไปตามชะตาล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2

    บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2 และก็เป็นอย่างที่มหาเทพหวงหลงคาดการณ์ไว้ ในระยะเวลาเพียงสองเดือนครึ่ง พลังของรวี่เยว่ทะยานแตะระดับจู้จีตอนต้นเป็นที่เรียบร้อย เด็กในวัยเดียวกันไม่มีใครต่อกรกับนางได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนก็เช่นเดียวกัน… วันนี้รวี่เยว่ขอแม่นมชุน ให้พานางมาฝึกในป่าทางทิศตะวันออกของเมืองลวี่เฟิง นางอยากเห็นสัตว์อสูรตัวเป็นๆด้วยตาตนเองสักครั้ง เคยเห็นเพียงซากของพวกมันที่ถูกนำไปขายในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์อสูรระดับต่ำ ในขณะที่กำลังเดินอยู่กับคนนำทางและนายพราน เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบในป่าอยู่นั้น พื้นใต้เท้าของพวกเขาก็สั่นสะเทือนรุนแรง พร้อมเสียงสัตว์คำรามดังอยู่ด้านหน้าราวครึ่งลี้* ครืน! ครืน! ครืน! ฮึมมมมมม "เกิดอะไรขึ้น!" แม่นมชุนเอ่ยถามคนนำทาง หญิงวัยกลางคนรีบเอาตัวบังร่างเล็กของรวี่เยว่ "ดูท่าว่ามีฝูงสัตว์อสูรกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ รีบหลบกันก่อนเถอะ" คนนำทางตอบคำถามพลางกวาดตามองหาที่หลบให้ทุกคน "ตรงนั้นรีบไปกันเถอะ" พวกเขาใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปหลบบนชะง่อนผา ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นฝูงสัตว์พอดี ห่างไปไม่ไกลฝูงกระทิงเกราะสัตว์อสูรระดับห้า พวกมันมี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1

    บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1 ดวงตาของเด็กหนุ่มกลายเป็นสีเงินในขณะที่กล่าวคำว่า “เจ้าต้องกลับไปกับข้า” เรียวคิ้วเล็กของรวี่เยว่มุ่นเข้าหากัน เมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากเด็กหนุ่ม ไพล่คิดในใจว่า พี่ชายคนงามจะพานางกลับบ้านไปด้วย ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกแท้ๆ ช่างเป็นบุรุษเจ้าชู้ยิ่ง! นางยังเด็กอยู่เลยนะ แม้แต่เด็กก็ไม่ละเว้น ใช้ไม่ได้! ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางคิดเช่นนี้ เป็นเพราะเมื่อก่อนนางเคยเห็นบิดา พาหญิงสาวอายุน้อยกว่ากลับมาบ้านอยู่สองสามคน และแต่งตั้งพวกนางเป็นอนุของเขาในเวลาต่อมา "รวี่เยว่ยังไปกับองค์ไท่จื่อไม่ได้เพคะ รวี่เยว่มีธุระที่ต้องทำอีกหลายอย่างเลย องค์ไท่จื่อไม่โกรธรวี่เยว่นะเพคะ" ทุกคน ณ ที่นั้นต่างพากันตกตะลึง ไม่เว้นแม้ราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน เด็กหญิงตรงหน้าสามารถต้านมนตรามายาจิ้งจอกขององค์ไท่จื่อได้!!! ร่างใหญ่โตสีเงินตัดสินใจก้าวมาหาฮั่วเฮ่อฉี เอ่ยถ้อยคำอย่างใจเย็น เมื่อเห็นสีหน้ามืดครึ้มของเด็กหนุ่ม "ฝ่าบาท ข้าทราบว่าท่านชอบเอาลูกสัตว์ไปเลี้ยงดู แต่กับลูกมนุษย์…เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนัก" จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นส่งกระแสจิตไปหาเขาแทน 'แม้ว่านางจะพิเศษกว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /2

    บทที่ 7เริ่มต้นหลอมโอสถ /2 รอให้นางถึงระดับหยวนอิงก่อนเถอะ นางจะกลับไปทวงทุกอีแปะคืนด้วยตนเอง! "ได้แน่นอน หากรวี่เยว่น้อยอยากฝึกการหลอมโอสถ อาจารย์ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอน" มหาเทพหวงหลงแวบหายไปราวสามอึดใจ และกลับมาพร้อมเทพหนุ่มรูปโฉมสะคราญยิ่งอีกองค์หนึ่ง ทำเอารวี่เยว่และสหายทั้งสองตัวของนางหลุดอุทานออกมาพร้อมกันอย่างลืมสำรวม "โห รูปงามมากเลย" ผู้ที่มหาเทพหวงหลงพามาระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น พลางเดินไปลงนั่งข้างสหาย "ท่านต้องการให้ข้าช่วยสอนเด็กน้อยปรุงยาอย่างนั้นสินะ" มหาเทพชิงหลงเสกพัดออกมาโบกด้วยท่าทางเกียจคร้าน "ใช่ เจ้าพอจะช่วยนางได้หรือไม่" "ได้แน่นอน แต่นางต้องกราบข้าเป็นอาจารย์ก่อน" เขาก็อยากมีลูกศิษย์เป็นผู้ถูกเลือกเหมือนกัน เรื่องดีๆ แบบนี้หมื่นปีจะมีสักครั้ง รวี่เยว่มองหน้าอาจารย์ของตน ครั้นเห็นว่าเขาพยักหน้ารับ ร่างเล็กจึงเดินมาคุกเข่าและโขกศีรษะจบครบสามครั้งตามธรรมเนียม "อาจารย์รอง ศิษย์ขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ" ที่นางเรียกอาจารย์รองเพราะจะได้ไม่สับสน มหาเทพชิงหลงดูพอใจกับไหวพริบของร่างเล็ก เขาเสกตำราออกมาสองเล่ม และบอกให้นางท่องจำเนื้อหาในนั้นทั้งหมด ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1

    บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1 แม้ว่าเมืองลวี่เฟิงจะเป็นเมืองชายแดน ทว่าเป็นที่ตั้งหอประมูลโอสถสำคัญของอาณจักรอู๋ซาง เจ้าของหอแห่งนี้เป็นคนตำหนักเทพอนันต์ และมักนำโอสถชั้นสูงออกมาทำประมูลอยู่หลายครั้งภายในหนึ่งปี การประมูลโอสถระดับสูงครั้งต่อไปจะมีขึ้นในอีกสามวัน ทำให้เวลานี้ในเมืองลวี่เฟิงจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ลานประลองในวันนี้ถูกจัดขึ้น ณ สนามประลองใหญ่ของฝ่ายใน ซึ่งสามารถจุคนได้มากถึงสองหมื่นคน บนเฉลียงใหญ่ของอัฒจันทร์สองด้าน มีธงของสี่สำนักใหญ่แสดงอยู่ ด้านหนึ่งเว้นไว้สำหรับสำนักกระบี่จันทรา ส่วนเฉลียงอีกด้านตระเตรียมที่นั่งพิเศษไว้เช่นกัน ทว่ากลับไม่มีธงหรือสัญลักษณ์ของสำนักใดแสดงไว้ รวี่เยว่มองสนามประลองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางประหม่าจนมือเย็นไปหมด "จวี๋จื่อ เสี่ยวหลาน ข้าตื่นเต้นมากเลยทำอย่างไรดี" "สูดหายใจลึกๆ เหมือนกับตอนที่นั่งบำเพ็ญรวี่เยว่ เจ้าชนะแน่นอน เชื่อมั่นในตนเองหน่อย เจ้าทำได้" เสี่ยวหลานที่เกาะอยู่บ่าเล็กส่งเสียงให้กำลังสหายของมัน "ใช่แล้วรวี่เยว่ อย่างที่ท่านอาจารย์ทั้งสองบอกไว้ ในเด็กรุ่นเดียวกันไม่มีใครเอาชนะเจ้าได้แน่นอน" จวี๋จื่อเอาหัวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2

    บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2 ทว่าก่อนที่จะได้อ้าปากกล่าวคำใด ท้องฟ้าเหนือลานประลอง พลันปรากฏร่างสีเงินมหึมาของราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน ยืนตระหง่านบดบังแสงอาทิตย์ บนหลังของมันมีเด็กหนุ่มรูปโฉมงดงามอย่างร้ายกาจนั่งอยู่ ด้านหลังของเด็กหนุ่มมีองครักษ์ระดับหยวนอิงสามคนคอยคุ้มกัน พร้อมด้วยองครักษ์ระดับเจี๋ยตันขั้นปลายอีกห้านายขี่กระบี่ติดตาม "องค์ไทจื่อ ฮั่วเฮ่อฉี เชิญพะย่ะค่ะ" เจ้าสำนักกระบี่จันทราประสานมือค้อมเอวเล็กน้อยขณะกล่าวเชิญ ฮั่วเฮ่อฉีปรายตามองอีกฝ่าย พยักหน้าเล็กน้อยก่อนแวบหายไปจากตรงนั้น และปรากฏกายอยู่บนเฉลียงที่ไม่มีธงสัญลักษณ์ ครั้นเห็นว่าผู้มาใหม่นั่งลงเรียบร้อยเจ้าสำนักกระบี่จันทราจึงกล่าวเปิดงาน รวี่เยว่นั่งมุมปากกระตุกยิกๆ คาดไม่ถึงว่าพี่ชายคนงามจะมาปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ มิใช่ว่าคนตำหนักเทพอนันต์ ไม่ชอบสุงสิงกับผู้อื่นหรอกหรือ "แม่นมคิดว่าที่องค์ไท่จื่อมา เพราะคงใกล้ถึงงานประมูลโอสถทิพย์ที่กำลังจะมาถึงเจ้าค่ะคุณหนู ระหว่างรอเลยมาชมการประลองแก้เบื่อก็เป็นได้ คุณหนูยังจำได้หรือไม่เจ้าคะ องค์ไท่จื่อชอบอะไรตัวเล็กๆ จำพวกนี้" คนฟังกล่าวเสียง อ้อออ ออกมายาว นางจำได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 9 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ /1

    บทที่ 9 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ /1 ตั้งแต่เริ่มการประลอง ผู้เข้าแข่งขันถูกคัดกรองจนเหลือเพียงสี่คนสุดท้าย รวี่เยว่ที่ฝ่าฟันอุปสรรค จนเข้ารอบหนึ่งในสี่คนสุดท้ายมาได้อย่างทุลักทุเล… (ตามที่นางต้องการ) เด็กหญิงกำลังเป็นที่จับตามองของสี่สำนักใหญ่ หากการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ นางสามารถคว้าชัยชนะมาได้ ก็จะกลายเป็นผู้เข้าแข่งขันอิสระคนแรกที่ช่วงชิงตำแหน่งนี้มาจากศิษย์ของสำนักกระบี่จันทรา… รวี่เยว่ที่วันนี้ใช้พลังไปไม่น้อย พอขึ้นรถม้าได้นางก็ผล็อยหลับเกือบจะทันที แม่นมชุนและชุนอิ่งมองร่างเล็กด้วยแววตาหลากหลาย ทั้งสงสาร เอ็นดู ชมชื่น ปลาบปลื้ม ภาคภูมิใจ รวมถึงหวาดกลัว พวกนางกลัวเหลือเกินว่าคุณหนูของตนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส คงเป็นเพราะการแข่งขันรอบสุดท้ายของวันนี้ รวี่เยว่ถูกพลังหมัดปฐพีของศิษย์สำนักกระบี่จันทรา กระแทกจนตัวปลิวกลิ้งล้มไปหลายตลบ ผิวขาวผ่องของนางเขียวช้ำเป็นจ้ำ มุมปากมีเลือดไหลซึม ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่รู้ว่านี่คือแผนตบตาของรวี่เยว่ นางจำเป็นต้องแกล้งเสียเปรียบผู้เข้าแข่งขันบางคนที่ระดับพลังสูงกว่าบ้าง ก่อนพลิกสถานะการณ์กลับมาชนะอย่างฉิวเฉียด เพื่อปกปิดพลังที่แท้จริงของนาง ลูก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-08

บทล่าสุด

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 57/ 2 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในชีวิตเถิด

    บทที่ 57/2 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในชีวิตเถิด เหวินไป๋เหลียนคนรักของเขาที่งดงามสดใสราวดอกทานตะวัน เทียบไม่ได้เลยกับความงามสง่าโดดเด่น ประหนึ่งดอกหมู่ตานตรงหน้า จากที่คิดว่าจะออกไปจากห้องหอทันทีหลังเปิดผ้าคลุมหน้าสาว หวังเหลียงกลับเปลี่ยนใจ เดินไปรินสุรามงคลมายื่นให้เยว่หนิงลี่แทน และใช้เวลาอยู่กับนางทั้งคืน ทว่าหลังจากนั้นเพียงเจ็ดวัน หวังเหลียงก็พาเหวินไป๋เหลียนเข้าจวน นับเป็นการหยามเกียรติฮูหยินเอกเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเยว่หนิงลี่กล้บไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางสงบนิ่งเยือกเย็นราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับตน กลับเป็นชุนหมัวมัวและหลานสาวนามชุนอิ่งที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน ครึ่งปีต่อมาหวังเหลียงก็พาอนุอีกคนเข้าจวน เหวินไป๋เหลียนแล่นมาหาเยว่หนิงลี่ให้จัดการเรื่องนี้ ทว่าเยว่หนิงลี่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนกลับนิ่งเฉยไม่สนใจ ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนางอีกนั่นแหละ เหวินไป๋เหลียนที่กำลังตั้งครรภ์เช่นกันยิ่งเดือดดาลกว่าเดิม เพราะไม่สามารถยุแยงให้อีกฝ่ายออกโรงได้ “นางเป็นก้อนหินหรืออย่างไรกัน ถึงได้เย็นชาไร้อารมณ์เยี่ยงนี้ น่าโมโหที่สุด! หวังเหลียงนะหวังเหลียง!” เกือบสี่เดือนห

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 57/ 1 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในขีวิตเถิด

    บทที่ 57 1 ข้าขอเป็นคนเลวสักครั้งในชีวิตเถิด @เรื่องราวบางส่วนในบทนี้ค่อนข้างอ่อนไหว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ สิบหกปีก่อน เมืองเทียนหวง อาณาจักรอู๋ซาง นับตั้งแต่บอกลากับอวี้เหวินเทียนเหิง เยว่หนิงลี่กลายเป็นคนเงียบขรึม ทั้งที่ปกติหญิงสาวเป็นคนร่าเริงมีชีวิตชีวาราวลูกกวางน้อยวิ่งเล่นในทุ่งหญ้า แม้แต่ต้าอ๋องยังรู้สึกประหลาดใจ ครั้นถามไถ่หญิงสาวเพียงคลี่ยิ้มบาง และกล่าวว่าอาจเป็นเพราะต้องจากพี่น้องทหารร่วมรบไปอยู่เมืองหลวงจึงรู้สึกใจหาย หนึ่งเดือนก่อนงานแต่ง ค่ำคืนนี้เยว่หนิงลี่ออกมาเดินเล่นเตร็ดเตร่กับชุนหมัวมัวเพราะนอนไม่หล้บ ครั้นมองเห็นหอสุราที่ตนเคยมากับอวี้เหวินเทียนเหิง หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปด้านในอย่างไม่รู้ตัวราวต้องมนตร์ จากนั้นจึงถามหาห้องส่วนตัวที่เคยมา เสี่ยวเอ้อร์เดินนำขึ้นบันไดไป ทว่าระหว่างเดินผ่านห้องส่วนตัวอีกห้อง เสียงสนทนาของบุรุษกลุ่มหนึ่งดังลอดออกมา “นี่ หวังเหลียง เรื่องที่เจ้ากำลังจะแต่งงานกับรองแม่ทัพเยว่หนิงลี่จากแดนใต้ผู้นั้น ไม่ทำให้แม่นางเหวินไป๋เหลียนยอดดวงใจของเจ้าเสียใจแย่รึ” เสียงของบุรุษคนหนึ่งเอ่ยถามบุรุษอีกคนที่ชื่อ หวังเหลียง “นั่น

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 56/ 2 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง

    บทที่ 56/2 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง อวี้เหวินเทียนหยาได้แต่ทอดถอนใจ หันไปถามความเห็นของเยว่หนิงลี่ ด้วยความที่หญิงสาวเติบโตมากับบุรุษ จึงทำให้นางมีนิสัยใจกว้างและจริงใจเป็นทุนเดิม เมื่อเห็นว่าคนตำหนักเทวาอนธการ มีใจอยากชื่นชมความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงเผ่ามนุษย์ จึงตบปากรับคำอย่างเต็มใจ เพราะอย่างไรเสีย นางก็ชอบออกมาเดินเล่นเพื่อสอดส่องความปลอดภัยของชาวเมืองยามค่ำคืนเป็นปกติอยู่แล้ว ผูกมิตรไว้ดีกว่าเป็นศัตรู นั้นคือคำที่ต้าอ๋องผู้เฒ่าสั่งสอนนางมาตั้งแต่เด็ก “ได้เจ้าค่ะ ข้ายินดีช่วยพาพี่ชายองครักษ์เที่ยวชมเมืองหลวงยามค่ำคืน” เสียงสดใสจริงใจสะท้อนไปถึงจิตใจขององค์ราชาหนุ่ม จนก้อนเนื้อในอกเต้นแรงไม่เป็นระส่ำ “ถิงซี เรียกข้าว่าถิงซีเถิด” อวี้เหวินเทียนเหิงบอกชื่อกลางของตน ที่ปกติมีเพียงญาติพี่น้องเท่านั้นที่เอ่ยเรียกนามนี้ แค่กก!! ผู้เป็นน้องสำลักน้ำลายรอบที่สอง นับจากคืนนั้น ถิงซี ก็จะมารอพบเยว่หนิงลี่ที่สะพานหิน ซึ่งอยู่ห่างจากร้านอาหารทะเลไปราวครึ่งลี้ทุกคืน แม้ฝนจะตกเขาก็จะกางร่มมายืนรอนางไม่เคยขาด หลังจากผ่านไปสองอาทิตย์ ในที่สุดชายหนุ่มก็มีความกล้า เอ่ยปากชวนนางออกมาเที่ย

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 56/1 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง

    บทที่ 56 รักแรกของอวี้เหวินเทียนเหิง ตำหนักเทวาอนธการ องค์ราชาอวี้เหวินเทียนเหิงวางสาส์นที่น้องชายส่งมาถึงลงบนโต๊ะหลังจากอ่านจบ ร่างสูงสง่าใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มมองออกไปไกล ดวงตาเรียวยาวคู่คมเจือความเศร้าอยู่หลายส่วน “หนิงลี่ ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องหรือทำร้ายลูกสาวของพวกเราได้อีกแล้ว…ไยเจ้าถึงไม่บอกว่าตั้งครรภ์กับข้า ก่อนที่จะแต่งให้เจ้าสารเลวชั้นต่ำหวังเหลียงคนนั้น!” เพียงแค่รู้สึกขุ่นเคืองใจ ของตกแต่งภายในห้องทรงอักษรทั้งหมดก็แตกละเอียด ดวงตาสีเทาทรงอำนาจคมกริบปิดลง ความทรงจำเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนหวนกลับมา เมืองเทียนหวง อาณาจักรอู๋ซาง ในพิธีเปิดงานประลองของอาณาจจักร อวี้เหวินเทียนเหิงปลอมตัวเป็นองครักษ์ของน้องชาย เพื่อออกมาท่องเที่ยวดูโลกภายนอกในรอบสิบปี องค์ราชาหนุ่มในวัยยี่สิบแปดเดินทางลงจากภูผาหยินซาน หลังจากพระบิดาเดินเข้าแดนบำเพ็ญแห่งเทวา เพื่อกักตัวระยะยาวอย่างไม่มีกำหนด ชายหนุ่มสวมหน้ากากโลหะสีดำปกปิดใบหน้าเหมือนองครักษ์คนอื่นๆ เพียงแต่มิอาจปกปิดรัศมีสูงส่งรอบกาย จึงทำให้หลายคนรู้สึกยำเกรงองครักษ์ของชินอ๋องผู้นี้มากกว่าคนอื่นๆ ค่ำคืนหลังจบพิธีเปิดงาน อวี้เหวินเที

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 55/2 หารือ

    บทที่ 55/2 หารือ หลังจากปล่อยให้ฮั่วเมิ่งเหยา ทำความรู้จักมักจี่กับรวี่เยว่พอสมควร ครู่ต่อมาฮั่วเฮ่อฉีจึงสั่งให้ฟ่านจื่อพาน้องสาวไปส่งยังที่พัก ท่าทางผ่อนคลายของฮั่วเฮ่อฉีก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาขออนุญาตรวี่เยว่ ก่อนกางม่านพลังป้องกันไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไป จากนั้นจึงเอ่ยเรื่องสำคัญ “รวี่เยว่ข้ามีเรื่องสำคัญต้องบอกเจ้า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าโดยตรง ข้าเองไม่แน่ใจ ว่าเจ้าเคยรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคำพยากรณ์สำคัญ เมื่อสิบกว่าปีก่อนหรือไม่” “หากเป็นเรื่องนี้ข้าพอรู้อยู่บ้างเจ้าค่ะ” รวี่เยว่ไม่คิดปิดบัง ในเมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาก่อนแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องรู้หรือได้ยินอะไรมา ทั้งคู่หารือกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงออกไปพบชินอ๋องอวี้เหวินเทียนหยาด้วยกัน …ตำหนักรับรองริมทะเลสาบ โถงรับรองส่วนตัวในเรือนพักชินอ๋อง คำพยากรณ์ซึ่งเกี่ยวพันกับรวี่เยว่ ถูกถ่ายทอดให้อวี้เหวินเทียนหยาฟังจากปากของฮั่วเฮ่อฉี อีกทั้งเรื่องนี้โยงใยไปถึงความขัดแย้งระหว่างสองอาณาจักร หากสำนักกระบี่สวรรค์คิดทรยศอาณาจักรอู๋ซาง ไปเข้าฝ่ายอาณาจักรหวงซาอย่างที่คาดไว้จริง เช่นนั้นก็มิอาจนิ่งเฉย เพ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 55/1 หารือ

    บทที่ 55/1 หารือ เรือนกายสูงสง่าของฮั่วเฮ่อฉีก้าวเข้ามาในห้อง ตามมาด้วยลูกสุนัขสีขาวเจ้าประจำ มันตรงดิ่งไปหาแมวสีเข้มที่ย้ายตัวเอง ไปนอนเอกเขนกอยู่บนตั่งอย่างคุ้นเคย “รวี่เยว่ของข้า สบายดีหรือไม่ ช่วงนี้พี่ชายถูกพวกตัวยุ่งจากตำหนักเทพอนันต์รั้งตัวไว้ เลยปลีกตัวมาหาไม่ได้ คิดถึงเจ้าใจแทบขาด” มาถึงปุ๊บก็รีบเอ่ยวาจาออดอ้อนสาวเจ้าปั๊บ ทำคนฟังเขินอายจนแก้มเนียนใสซับสีระเรื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มยังถือวิสาสะ เดินมากอบกุมมือเล็กขึ้นมาแนบอก สบตานางในดวงใจตาหวานซึ้ง คงเพราะเห็นว่าผู้ปกครองของหญิงสาว ไม่ได้มีท่าทีกีดกันเขาอีกต่อไป ฮั่วเฮ่อฉีเลยเดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อพิชิตหัวใจของรวี่เยว่อย่างเปิดเผยมากขึ้น “พี่ชาย ท่านทำข้าใจสั่นไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” รวี่เยว่ยังคงใสซื่อเรื่องความรักไม่ปลี่ยน รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น จนอีกคนที่ยืนอยู่หลังประตู ยกมือขึ้นมาประกบแก้มหัวเราะคิกอยู่ในใจ ‘ข้าชอบนางยิ่งนัก นางน่ารักเหลือเกิน’ ถ้อยคำอันใสซื่อของรวี่เยว่ ประดุจน้ำทิพย์ชโลมหัวใจของชายหนุ่ม เขายินดีเป็นล้นพ้นยามได้ยินว่านางใจสั่น ‘นางเริ่มมีใจให้ข้าแล้ว!’ ฮั่วเฮ่อฉีหัวใจลิงโลด อยากจะ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 54/2 อย่าทำให้ข้าโมโห

    บทที่ 54/2 อย่าทำให้ข้าโมโห จากนั้นก็ลงมือทุบตีจิกข่วน จนใบหน้าของวั่งเฉาบวมเป่งกลายเป็นหัวหมู ผ่านไปครู่หนึ่งโส่วจินจึงลากร่างอันบอบช้ำของ ของเล่นชิ้นใหม่ เอ้ย นักโทษคนใหม่ ไปแยกขังไว้ในห้องข้างๆ ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น หวังเหลียงเดินกระสับกระส่าย วนไปวนมาอยู่หน้าจวนแม่ทัพปราบทักษิณ มารดาของเขากับจูหมัวมัวออกมาพบต้าอ๋องตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย จนถึงบัดนี้ทั้งคู่ยังไม่กลับจวน ทหารที่เฝ้าประตูกลับออกมาพร้อมพ่อบ้าน กล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าและจูหมัวมัว ออกไปจากที่นี่ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานแล้ว ซึ่งถือเป็นความจริงไม่ได้โกหกเลยสักนิดเดียว หญิงชราถูกส่งไปหอโอสถเยว่เสียง ส่วนร่างไร้วิญญาณของจูหมัวมัวถูกพาไปทิ้งยังป่าอสูรในเวลาเดียวกัน ส่วนคนขับรถม้าอย่างฝานจื่อหรือหม่าฝาน ก็กลับมายังคฤหาสน์ตามคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่า นางบอกให้เขากลับมารอรับหวังเหลียงตอนเลิกงานเหมือนทุกวัน นางกับจูหมัวมัวจะหารถม้ากลับคฤหาสน์เอง เพราะต้องใช้เวลาในการสนทนากับต้าอ๋องค่อนข้างนาน หวังเหลียงเดินกลับขึ้นรถม้า ในอกเต็มด้วยความวิตกกังวล มารดาของเขาหายตัวไป หลังมาขอพบต้าอ๋อง เรื่องนี้ดูอย่างไรก็ไม่ปกติ อยากจะถามไถ่มาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 54/1 อย่าทำให้ข้าโมโห

    บทที่ 54 อย่าทำให้ข้าโมโห วั่งเฉาละล่ำละลักเอ่ยวาจา เตรียมปลดปล่อยพลังธาตุ…ทว่ากลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ พลังธาตุวารีระดับเจี๋ยตันขั้นสมบูรณ์ปลายยอดระดับคอขวด ถูกกดข่มไว้ด้วยพลังอันแข็งแกร่งบางอย่าง ชายวัยกลางคนตื่นตระหนกจนแทบจิตหลุด มองหญิงสาวราวเห็นภูตผี ใบหน้าของเขาซีดขาวมิต่างจากกระดาษ ในแววตาเต็มไปด้วยความสับสนระคนหวาดกลัว 
 ในมหาพิภพทงเทียนเหอ สิ่งที่สามารถกดข่มพลังธาตุของนักพรตคนอื่นๆได้ในบัดดล มีเพียงสองประการ ประการแรกคือ เขตแดนแห่งแสงพิสุทธิ์ของผู้ครอบครองธาตุแสงระดับหยวนอิงขึ้นไป และประการที่สอง พลังที่อยู่เหนือมวลมนุษย์ทั้งปวง ทวยเทพ! ถึงแม้หญิงสาวเบื้องหน้าจะมีตบะระดับหยวนอิง หากแต่นางหาใช่เผ่ามนุษย์สายเลือดสัตว์เทพเหมือนเช่นเชื้อพระวงศ์ของตำหนักเทพอนันต์ จะมีเขตแดนแห่งแสงพิสุทธิ์ได้อย่างไร เรื่องที่นางมีธาตุมืดนั่นก็น่าเหลือเชื่อจนทำให้เขาประหลาดใจมากพอแล้ว “เจ้าเป็นใครกันแน่! เจ้าไม่ใช่หวังลี่ถิง แต่เป็นตัวปลอมใช่หรือไม่!” วั่งเฉาตกอยู่ในความหวาดผวาโพล่งวาจาออกมาขณะก้าวถอยหลัง “ถามมากเสียจริง หนวกหู” เสียงหวานดังขึ้นคล้ายรำคาญก่อนที่จะ… ครืนนน!! ปึ้ก!! แร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 53/2 ช่วงเวลาแห่งความสนุก

    บทที่ 53/2 ช่วงเวลาแห่งความสนุก กระต่ายน้อยพองขนขู่ฟ่ออีกรอบ หันมาแหวใส่อีกฝ่ายทันควัน กล่าวว่าตนไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ปีหน้าก็จะปักปิ่นแล้ว ถึงเวลานั้นจะกลับมาท้าเขาแข่งดื่มสุรา ใครแพ้ต้องยอมเรียกอีกฝ่ายว่า ลูกพี่ “ตกลง แล้วข้าจะรอแข่งร่ำสุรากับเจ้า! เตรียมล้างคอไว้ได้เลยอวี้เหวินอิงเอ๋อร์” “ท่านต่างหากที่ต้องเตรียมล้างคอไว้รอ หวงฝู่ฮ่าวอวี่” หลังจากปะทะคารมกันจบ ก็กลับมานั่งกินข้าวกันต่อ ทั้งคู่วางความแค้นลงชั่วคราว แต่กลับมาประลองฝีมือด้วยการแย่งชิงอาหารกันบนโต๊ะแทน รวี่เยว่ถึงกับส่ายหน้าให้กับความซุกซนของทั้งคู่ คืนนั้นองค์ชายใหญ่เสด็จกลับวังด้วยอารมณ์เบิกบานใจอย่างถึงที่สุด เขาไม่ได้สนุกเช่นนี้มานานแล้ว กงกงประจำตำหนักรีบไปรายงานจ้าวกุ้ยเฟยเป็นการเร่งด่วน องค์ชายใหญ่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทางด้านรวี่เยว่หลังจากส่งกระต่ายน้อยพุงโตถึงเรือน นางก็แวะไปดูสภาพของเล่นใหม่ที่ต้าอ๋องส่งมาให้ตามคำขอ ภายในคุกใต้ดินเวลานี้ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บนร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าเต็มไปด้วยรอยตะปบ จากกรงเล็บของเสี่ยวเฮยมาว หญิงชรานั่งขดตัวกลม ยกมือปิดหน้าร้องไห้คร่ำครวญขอชีวิตปานขาดใจ ทว่าเสียงที่เ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status