Masuk@ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น...
“กายลูกจะไปกี่วัน แม่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”
ธีรยาเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เธอและลูกทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์
“ต้องเตรียมไปสิบวันก่อนครับแม่ ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยครับ”
สิ่งที่นายท่านอดัมโทรมาบอกกันต์ธีเมื่อคืน มันทำให้เขารู้สึกไขว้เขวเป็นอย่างมาก อย่างหนึ่งคือบุณคุณ ‘ฝากริต้าหน่อยนะ คนนี้เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย ยังไงลุงขอให้กายอดทนกับเธอสักหน่อย ถูกตามใจจนเคยตัว’ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ความแค้นที่รอการเอาคืนอย่างสาสม’
“มีอะไรเหรอกาย?” ปุณณดาเอ่ยถามอย่างสงสัย
“นิดหน่อยครับพี่มิลิน ไปหลายวันผมคิดถึงแม่ครับ”
กันต์ธีหลีกเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เขาไม่อยากให้แม่และพี่สาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เขาคิดจะทำต่อจากนี้
“กายจะไปสิงคโปร์วันไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่สนามบิน”
“วันจันทร์ครับ”
“แล้วไปกับ...เอ่อ...หัวหน้าฝ่ายการตลาดใช่ไหม?”
ปุณณดารู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าน้องชายเธอกำลังมีปัญหากับณิศราลูกสาวของบ้านนั้น กันต์ธีมักจะเล่าเรื่องราวให้เธอได้ฟังตลอด ปุณณดาห้ามน้องแล้ว แต่กันต์ธีก็ไม่ฟัง ‘พี่มิลินไม่ได้เจ็บคนเดียวนะครับ กายก็เจ็บไม่แพ้กันกับพี่เลย’
“ใช่ครับ...คงไปคนละเที่ยวบินครับ และอาจจะไปเจอกันที่นั่น และทำงานร่วมกัน เธอมีหน้าที่ทำการตลาด ผมมีหน้าที่อธิบายโครงสร้างการทำงานของเครื่องจักรในระบบอุตสาหกรรมครับ”
“แล้วกายจะทำได้ไหม? กับหัวหน้าการตลาด”
ปุณณดาหลีกเลี่ยงการเอ่ยชื่อของณิศรา เธอไม่อยากให้แม่ของเธอต้องสงสัยเรื่องนี้อีก
“ได้อยู่แล้วครับพี่มิลิน แต่เธอนี่สิจะทำได้หรือเปล่าผมไม่รู้ครับ เดี๋ยวไปก็รู้เองครับ”
การไปทำงานสิงคโปร์ครั้งนี้ เป็นก้าวแรกของการแก้แค้น ครอบครัวของผู้หญิงใจร้ายนั่น เคยเล่นสกปรกกับครอบครัวเขาขนาดไหน กันต์ธีก็จะใช้วิธีแบบนั้นเหมือนกัน พวกเขาจะได้รู้ซะที ว่าการทำร้ายและการเหยียบย่ำผู้อื่นมันเป็นยังไง...
....................
@ สนามบิน...
“กายตั้งใจทำงานก่อนนะ ก่อนที่คิดจะทำอะไรอย่างอื่น พี่ไม่อยากให้กายโฟกัสเรื่องนั้นจนเกินไป”
ปุณณดาเอ่ยขึ้น เมื่อน้องชายของเธอกำลังที่จะขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปสิงคโปร์วันนี้
“พี่มิลินไม่ต้องกังวลครับ เรื่องงานผมทำเต็มที่ครับ ส่วนเรื่องนั้นพี่ไม่ต้องกลัวครับว่าผมจะทำเกินเหตุ พี่มิลินเจ็บขนาดไหนเขาก็จะเจ็บเท่าพี่ครับ...”
ไฟร้อนแรงเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ ปรากฎขึ้นในดวงตาคู่นั้น ความดีไม่น่าจะสั่งสอนเธอคนนั้นได้ นอกจากความเลวความชั่วร้ายเท่านั้นที่จะทำได้
“อืม...ทำอะไรก็คิดถึงแม่บ้างนะกาย และอีกอย่างนึกถึงนายท่านอดัมด้วย ท่านดีกับเรามาตลอด อย่างน้อยเรื่องราวของครอบครัวเราก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด...”
“ครับพี่...”
“อืม...โอเค ได้เวลาแล้ว เดินทางปลอดภัยนะ แล้วเจอกัน”
“ครับพี่มิลิน”
....................
@ แผนกไอที เวลา 10.00 น.
“แกมาพอดีเลยมิลิน มีเรื่องด่วนที่แกต้องปวดหัวแน่นอน”
กันยกรรีบร้อนเดินเข้ามากระซิบกับเพื่อนของเธอ
“เรื่องอะไร?”
ปุณณดาเดินเข้าออฟฟิศหลังจากที่กลับมาจากการส่งน้องชายของเธอที่สนามบิน
“มาคุยกันในห้องนี้ดีกว่า”
กันยกรเหลือบมองเห็นนิรณากำลังมองมาอย่างสนใจกับสิ่งที่เธอกำลังจะบอกเพื่อน
“ทำให้ฉันอยากรู้ไปด้วยเลย!” นิรณาเอ่ยขึ้นทันที เมื่อเธอเห็นว่าสองคนนั้นกำลังกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง
“ไม่ใช่เรื่องของเธอน่าน้ำขิง” กันยกรตอบกลับเช่นเคย
“เชอะ!”
สองนาทีต่อมา...
“เรื่องอะไรจะบอกฉันได้หรือยังตัง”
“คือฉันไปประชุมแทนแกมาเมื่อเช้า ฟังดีๆ นะ ทางฝ่ายบุคคลบอกว่าจะตั้งฉันขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกไอทีแทนแก และ! จะเปลี่ยนตำแหน่งของแกไปเป็นเลขาท่านประธาน!”
“เฮ้ย! ทำอย่างนั้นได้ยังไง แกได้ยินมาผิดหรือเปล่า จะให้ฉันไปเป็นเลขาของเขาเนี่ยนะ...ไม่ใช่แล้วแกต้องได้เข้าใจอะไรผิดไปแน่นอนตัง!”
ปุณณดาตกใจกับเรื่องที่เพื่อนของเธอบอก เขาจะทำแบบนั้นไปทำไมอีก เธอบอกเขาไปวันนั้นแล้ว ว่าเธอไม่ติดใจอะไรกับสิ่งที่เขาทำกับเธอเลย
“ฉันว่านายแม็กซ์เวลนั่น คงไม่ปล่อยเธอแน่ๆ มิลิน เอาไงดี แกจะทำยังไงมิลิน นี่คือเรื่องจริงไม่เชื่อแกลองไปถามหัวหน้าฝ่ายบุคคลสิ ทุกคนก็ยังมึนงงกับเรื่องนี้อยู่นะ บางคนกำลังหาตัวแกอยู่ อยากรู้ว่าแกเป็นใคร และหน้าตาเป็นยังไง ทำไมท่านประธานถึงสนใจแกเป็นพิเศษ เรื่องนี้ดังมากเลยนะมิลิน”
“แล้วแกว่าฉันควรจะทำยังไงดีตัง ฉันก็หาทางออกไม่ได้แล้ว ช่วยคิดหน่อยสิ”
“ถ้าจะให้แกไปคุยกับเขาอีกครั้ง ฉันว่าก็ไม่ได้เรื่องหรอก เพราะนายคนนั้นคงไม่ยอมแน่ๆ หรือแกควรจะไปคุยกับนายท่านอดัม ก็กลัวจะไปรบกวนท่านอีก โอ้ย! ทางไหนก็ไม่ได้ ทำไมอีตานั่นถึงทำแบบนั้นนะ ไม่คิดที่จะเกรงใจแฟนตัวเองบ้างเลยเหรอ”
กันยกรอดห่วงความรู้สึกของใครอีกคนไม่ได้
“นั่นสิ...ฉันตายแน่ๆ เลยตัง ไหนจะเขา และพี่ไลลาอีก”
ปุณณดามีเรื่องกังวลใจไม่หยุด เธอคิดว่าเขาจะรามือจากเธอไปแล้วซะอีก
“ใจเย็นๆ นะฉันกำลังหาทางออกให้แกอยู่”
ก๊อก! ก๊อก! เสียงประตูถูกเคาะขัดจังหวะ
“ฉันรู้นะว่าพวกเธอคุยเรื่องอะไรกัน...นี่จ้า...ดูในไลน์กลุ่มฝ่ายบุคคลนี่สิ มีคนส่งรูปเธอมาเต็มเลยมิลิน ดีใจด้วยนะที่เธอจะได้ไปเป็นเลขาท่านประธานสุดหล่อแล้ว...อุ้ย! เรื่องนี้ต้องบอกนนท์แล้ว...จะได้ไปฉลองตำแหน่งใหม่ของเธอกัน”
“เฮ้ย! ยัยน้ำขิง!” เสียงกันยกรร้องโหวกเหวกห้ามนิรณาที่กำลังวิ่งออกไป
“ไม่เป็นไรตัง ยังไงนนท์ก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี เรามาหาทางออกกันดีกว่า ก่อนที่เรื่องนี้จะบานปลาย ฉันกลุ้มใจจริงๆ นะทำไงดี”
“เดี๋ยวขอฉันนั่งคิดแปป”
“อึก! อื้อ!” เสียงร้องของปุณณดาถูกปิดกั้น เมื่อเธอได้สติหญิงสาวก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานเขาร่วงหล่นบนพื้นกระจัดกระจาย คนที่อยู่ด้านนอกตกใจ พร้อมกับวิ่งกรูเข้าไปยืนลุ้นหน้าประตูใหญ่ด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ “คุณจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ถ้าท่านประธานไม่เรียก”เลขาแสนสวยเข้ามาขวางกันยกรทันที “แต่เพื่อนดิฉัน...” “ท่านประธานไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกค่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทนะคะ จะทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณคิดได้ยังไง” “คุณก็พึ่งจะทำงานกับท่านประธานไม่กี่วัน คุณรู้ได้ยังไง”กันยกรกระชากเสียงใส่เลขาหน้าห้อง ด้านใน... เพี๊ยะ! ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคม เมื่อร่างกายของเธอเป็นอิสระจากการพยายามทำตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั่น “อุ๊บ!” ปากบางถูกบดขยี้อีกครั้งด้วยความรุนแรงและดุเดือดกว่าครั้งเก่า ลิ้นเล็กถูกตวัดด้วยลิ้นหนาของเขา ดูดเม้มเอาแต่ใจ ราวกับหิวโหยมานานแรมปี จูบร้อนนั้นดุเดือดกินเวลาไปหลายนาที จนร่างบางเริ่มอ่อนระทวย พรึ่บ! ร่างกำยำผละออกจากร่างบางทันที เมื่ออารมณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะเ
@ โรงแรมสุดหรู ประเทศสิงคโปร์... “ทำไมห้องที่ฉันจองมาต้องติดกับนายคนนี้ด้วย”ณิศรากำลังเกรี้ยวกราดใส่พนักงานต้อนรับ เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี โดยที่อีกฝ่ายก็พยายามที่จะอธิบาย “ห้องมันเต็มคุณก็เห็นอยู่ และอีกอย่างโรงแรมนี้ เป็นสถานที่จัดงานด้วย คุณจะยกเลิกและไปพักที่อื่นก็ได้นะ และถ้าคุณมาไม่ทันนัดของลูกค้าแต่ละครั้งล่ะก็ คงต้องให้พ่อของคุณมาจัดการล่ะมั้ง”สายตาเหยียดๆ ของกันต์ธีส่งถึงณิศราทันทีโดยไม่เกรงกลัวใดๆ “ฉันไม่ได้คุยกับแก ไม่ต้องออกความคิดเห็น”ณิศราตอบกลับทันทีเช่นกัน ทำยังไงเธอถึงจะจัดการไอ่บ้านี้ได้นะ “อืม...ก็แล้วแต่ อย่าให้ปัญหามันลามมาหาผมแล้วกัน”กันต์ธีหยักไหล่แบบไม่สนใจ เขาเบื่อหน่ายผู้หญิงแบบนี้มากๆ นอกจากเธอจะกรี๊ดกร้าดหนวกหูแล้ว ยังน่าเบื่ออีกต่างหาก “สรุปฉันขอเปลี่ยนห้องได้ไหมคะ”ณิศราหันไปต่อรองกับพนักงานของโรงแรม แต่คำตอบที่ได้คือ “ห้องเต็มครับ” “โอเค...”ณิศราหันมาถลึงตาใส่คนข้างหลังทันที นั่นมันเพราะนายนั่นแหละ ไม่งั้นฉันคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ “อย่ามาพาลไม่เข้าเรื่อง อายุก็ไม
@ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น... “กายลูกจะไปกี่วัน แม่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”ธีรยาเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เธอและลูกทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ “ต้องเตรียมไปสิบวันก่อนครับแม่ ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยครับ”สิ่งที่นายท่านอดัมโทรมาบอกกันต์ธีเมื่อคืน มันทำให้เขารู้สึกไขว้เขวเป็นอย่างมาก อย่างหนึ่งคือบุณคุณ ‘ฝากริต้าหน่อยนะ คนนี้เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย ยังไงลุงขอให้กายอดทนกับเธอสักหน่อย ถูกตามใจจนเคยตัว’ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ความแค้นที่รอการเอาคืนอย่างสาสม’ “มีอะไรเหรอกาย?” ปุณณดาเอ่ยถามอย่างสงสัย “นิดหน่อยครับพี่มิลิน ไปหลายวันผมคิดถึงแม่ครับ”กันต์ธีหลีกเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เขาไม่อยากให้แม่และพี่สาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เขาคิดจะทำต่อจากนี้ “กายจะไปสิงคโปร์วันไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่สนามบิน” “วันจันทร์ครับ” “แล้วไปกับ...เอ่อ...หัวหน้าฝ่ายการตลาดใช่ไหม?”ปุณณดารู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าน้องชายเธอกำลังมีปัญหากับณิศราลูกสาวของบ้านนั้น กันต์ธีมักจะเล่าเรื่องราวให้เธอได้ฟังตลอด ปุณณดาห้ามน้องแ
@ แผนกไอที... “มิลิน แกเป็นยังไงบ้าง”กันยกรร้องเรียกเพื่อนสาวทันที เมื่อเห็นใบหน้าสวยแดงกล่ำ ย่ำเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องทำงาน ที่ตอนนี้มีกันยกรนั่งรอปุณณดาอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวัน “สักครู่...ตัง”ปุณณดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ปุณณดาเกิดภาวะแพนิคชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะขอโทษเธอ เขาไม่แค้นเธอแล้วหรือ? เขารู้สึกผิดขนาดนั้นเชียวหรือ? “...” กันยกรมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกเช่นกัน เมื่อเธอได้ทราบข่าวเม้าท์จากแผนกประชาสัมพันธ์โดยหัวหน้าแผนก ‘มิลินไปทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้คือตอนนี้โดนเรียกเข้าไปห้องท่านประธานแล้วแก...’ นี่คือสิ่งที่ขาเม้าท์กำลังแพร่กระจายข่าว จนเกิดเป็นวงกว้างในวงการสายนินทาโดยมีหัวข้อ ‘แจ๊คพอตมิลิน!’ “เขาเรียกฉันเข้าไปคุย...ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”ปุณณดาเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อครู่ให้เพื่อนฟัง กันยกรผ่านทุกเรื่องราวทั้งหมดของเธอมาตลอด เธอจึงไม่คิดที่จะปิดบังเพื่อนรักของเธอเลยแม้แต่นิด
“แต่เขามองแรงจริงๆ นะมิลิน พี่ชักกลัวแล้วสิ...พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...รางวัลพนักงานดีเด่นของปีที่แล้วก็การัณตีอยู่...เธอล่ะมิลิน...ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า...ลองนึกดูสิ ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะถ้าท่านประธานจะไม่ชอบหน้าเราน่ะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่...มิลินว่าเขาน่าจะมองเราสองคน ที่พูดกันไม่หยุด รบกวนที่ประชุมมากกว่านะคะ”ปุณณดาหาเหตุระงับเสียงพูดของอีกฝ่าย “อืม...น่าจะใช่...^^” เวลาผ่านไปราว 30 นาที... “คุณปุณณดาคะ...เสร็จจากประชุมท่านประธานเชิญคุณที่ห้องทำงานนะคะ” “คะ? เอ่อ...เรื่องอะไรหรือคะ คือว่าดิฉันไม่น่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารขนาดนั้นนะคะ”ปุณณดาตกใจอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ เลขาของท่านประธานเดินเข้ามากระซิบบอกเธอ “ดิฉันไม่ทราบค่ะ ท่านให้ดิฉันมาบอกคุณค่ะ เดี๋ยวถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยนะคะ” “อุ้ย! นั่นไง! พี่บอกแล้วไงว่าท่านประธานจะต้องมีอะไรแน่ๆ มิลินเธอทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าเนี่ย เธอต้องใจเย็นๆ นะค่อยๆ คิดก่อนพูดนะ...ตายแล้ว! พี่ก็คิดว่าเป็นพี่ซะอีก รอดตัวไป...ขอให้โชคดีนะจ๊ะน้องสาว” “พี่ไปกับมิลิ
อีกด้านหนึ่ง...“เธอแวะทักทายใครเหรอไลลา...เธอรู้จักคนในบริษัทฉันด้วยเหรอ?”“น้องที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เราเป็นเพื่อนกันน่ะ”“ฉันไม่ยักรู้นะ...ว่าเธอมีเพื่อนคนอื่นอีก นอกจากฉัน”“ฉันสนิทสนมกันมานานหลายปีแล้ว แต่เผอิญน้องเขาดันมาทำงานที่บริษัทของเธอด้วย”“อืม...”“หนูไลลา...ทำไมไม่ไปยืนข้างๆ ตาแม็กซ์ล่ะลูก ตอนนี้หนูควรจะเปิดตัวได้แล้วนะ”“เอ่อ...หนู”สิ่งที่กิริฎาไม่ชอบมากที่สุดก็คือ ‘การเป็นหุ่นเชิด’ เธอเหนื่อยหน่ายกับสิ่งแบบนี้เหลือเกิน กิริฎาต้องตามใจคนทุกคน เพื่ออะไรกัน? กิริฎาอยากเป็นตัวของตัวเอง เธอไม่ได้ต้องการแบบนี้เลยสักนิด...“เธอต้องฝึกไว้นะไลลา...อีกหน่อยถ้าเธอแต่งงานกับแม็กซ์แล้ว เธอเองก็ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ เผลอๆ ฉันว่าเธอจะต้องลาออกจากการเป็นหมอด้วยซ้ำ”“เอาไว้ก่อนเถอะริต้า...การเป็นหมอคือสิ่งที่ฉันรักนะ”น้ำเสียงของกิริฎาเริ่มแข็งขึ้น เธอไม่ชอบให้ใครมาแตะเรื่องอาชีพของเธอเลย ‘กิริฎาจะทนกับผู้คนเหล่านี้ได้มากแค่ไหนกัน’“บ้านเรามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงหนูไปทั้งชาติเลยนะ เพราะฉะนั้นแม่ว่า หนูควรจะวางแผนที่จะสร้างครอบครัว และมีลูกกับแม็กซ์ให้พ่อกับแม่ได้ชื่นใจดีกว่านะคะ อีกอย่







