Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-09-27 17:45:56

นักศึกษาสาวผมยาวเหยียดตรงดำขลับที่ยืนนิ่งอยู่ใต้ต้นจามจุรี ชวนให้มารียันต้องมองอย่างจับจ้อง เธอคนนั้นสวยสง่า เป็นดาวคณะนิติศาสตร์ อยู่ปี 4 เธอชื่อฤทัยนาค บริพัตน์กายชล มีศักดิ์เป็นหลานของน้ากายเหมือนกัน ดูจากความสวยดีกรีดาวคณะก็คงเป็นเครื่องยืนยันว่าคนตระกูลนี้สวยหล่อกันหมดทุกคน

            ฤทัยนาคเดินตรงมาหามารียัน ทั้งสองรู้จักกันแต่ไม่สนิทขนาดที่จะชวนไปเที่ยวไหน แค่เจอกันยิ้มให้กันทักทายกันเล็กน้อยแล้วต่างคนต่างไป มารียันก็ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายด้วยฤทัยนาคเป็นรุ่นพี่ต่างคณะ หากแต่ตอนนี้ฤทัยนาคคงมีเรื่องที่จะคุยกับเธอ

            “มารี ดีเลยที่เจอ” รอยยิ้มที่เพื่อนของมารียันเคยค่อนขอดในใจว่าปั้นยิ้มมากกว่าจะยิ้มจริงๆ เผยออกมา เพื่อนของเธอคงคิดมากไป หรือไม่ก็มีอคติกับคนยิ้มไม่เก่งมากกว่า

            “คุณนาคมีธุระอะไรกับมารีหรือเปล่าคะ”

ตั้งแต่รู้จักกัน มารียันไม่เคยเรียกฤทัยนาคว่าพี่ และฤทัยนาคก็ไม่เคยบอกให้เธอเรียกพี่ เหมือนจะพอใจกับ ‘คุณนาค’ มากกว่า ‘พี่นาค’

            “มะรืนนี้วันเกิดฉัน เธอจะไปกับครอบครัวหรือเปล่า ได้ยินว่าคุณแม่จะเชิญครอบครัวเธอไปด้วย”

            ถามหรือเปล่า หรือพูดเพื่ออะไร มารียันไม่เข้าใจ เจ้าของวันเกิดไม่ได้ชวน แม่เจ้าของวันเกิดเป็นคนชวน เอ๊ะ ยังไง

            “ยังไม่ทราบค่ะ คุณแม่ยังไม่บอกมารีเลย”

            “ไหนๆ ก็ไหนๆ ยังไงก็ชวนเลยล่ะกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่ชวน”

            “ค่ะ” ชวนแบบเสียมิได้ จะให้มารียันยินดีได้ยังไง เธอแค่นยิ้มแล้วคิดว่าจะไม่ไป ถ้าแม่อยากไปคงต้องไปกับน้าปรี

            “มาเถอะนะ รู้มาว่าเธอไม่เคยออกงานหรูๆ นี่นา ฉันจัดงานเลี้ยงที่บ้าน จะได้บรรยากาศธรรมชาติกว่าที่โรงแรม มาเถอะนะ เปิดหูเปิดตาบ้างจะได้รู้ว่าคนรวยเขาอยู่กันยังไง” พูดจบก็สะบัดบ๊อบจากไปโดยไม่ฟังคำตอบ

            มารียันไม่เข้าใจคนร่ำรวยอย่างฤทัยนาคจริงๆ ทำไมไม่เหมือนน้ากายเลยทั้งที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่จะว่าไปเธอเองก็ยังไม่รู้จักน้ากายดีพอ ยิ่งนานวันก็ยิ่งไม่รู้จัก กุญแจห้องอยู่ในกระเป๋ามาหลายวันแล้ว เขายังไม่โทร.หา หรืออาจจะเบื่อประเภทครั้งเดียวก็เกินพอหรือเปล่า แต่คงไม่ เพราะถ้าอย่างงั้นเขาคงไม่ให้กุญแจไว้

            คงยังไม่ถึงเวลาของเธอกระมัง

           

            บ้านหรือคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้ามีอาณาบริเวณกว้างขวาง สนามหญ้าที่จุผู้คนนับร้อยมีแขกเหรื่อไม่บางตา ดูแล้วน่าจะไม่ใช่งานเลี้ยงวันเกิด น่าจะเป็นงานใหญ่และสำคัญกว่านี้ถึงเชิญแขกมาร่วมแสดงความยินดีมากมายเกินควรสำหรับมารียัน

            เธอถูกแม่บังคับให้มาเพราะเกรงใจน้ากาย แม่ว่าไหนๆ ก็ดองกันแล้วก็ควรให้เกียรติเขาด้วยการมาร่วมงานตามคำเชิญ สาวน้อยก้มหน้าลงดูชุดกระโปรงลายดอกพื้นชมพูอ่อนที่ช่วงอกเป็นผ้าซีทรูสีเดียวกันบางๆ ตั้งแต่เนินอกลงไปเป็นผ้ากระโปรงลายดอก ผมยาวถูกก้าวรวบเป็นหางม้าบิดเกลียวง่ายๆ มีโบว์สีชมพูผูกไว้ส่งผลให้มารียันดูเป็นเด็กสาวสวยหวานที่แสนเปราะบาง

            ชุดนี้คงไม่ทำให้เธอขายหน้าหรอกนะ มันเป็นชุดใหม่ที่สุด ใช้มาแล้วแค่ 2 ครั้ง และเป็นชุดที่เธอชอบมากที่สุดแล้ว ถึงแม่จะพอมีพอกิน พอที่จะซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ แต่มารียันก็ไม่ทำ เธอเลือกที่จะประหยัดเงินไว้เพื่อวันข้างหน้าดีกว่าจะเอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในเรื่องไร้สาระ

            แม่กระตุกข้อมือลูกสาวให้เดินตามกันไปหาเจ้าของวันเกิด ในมือของมารียันมากล่องของขวัญ เธอไม่รู้ว่ามูลค่าของของขวัญในกล่องจะเพียงพอให้เจ้าของวันเกิดเก็บรักษาไว้ได้หรือไม่ มันเป็นความต้องการของแม่ และเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธ

            “สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณนาค”

กังสดาลส่งกล่องของขวัญจากมือมารียันให้ฤทัยนาค เจ้าของวันเกิดทำเหมือนจะไม่รับแต่ปฏิเสธสายตาแกมบังคับของผู้เป็นแม่ไม่ได้ จึงต้องยื่นมือออกไปรับ

            “ขอบคุณ” ฤทัยนาคขอบคุณกังสดาลเพราะไม่อยากถูกเอ็ด

            “ไม่ต้องลำบากก็ได้นะคราวหน้า แค่มางานก็พอแล้ว” คุณมานพพ่อของฤทัยนาคกล่าว

            “ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ ขอให้คุณนาคมีความสุขมากๆ นะคะ” กังสดาลยังอวยพรต่อ ในขณะที่มารียันรอให้แม่พูดจบจึงอวยพรออกไปบ้าง

            “สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณนาค มารีขอให้คุณนาคสมหวังในทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการนะคะ”

            “ขอบใจ”

            “ตามสบายนะ อย่าคิดว่าเป็นคนอื่นคนไกล วันนี้เลี้ยงแบบบุฟเฟต์ขาดเหลืออะไรบอกได้นะ”

            เมื่อเห็นว่าเจ้าของวันเกิดหันไปคุยกับเพื่อนๆ และแขกในงาน มารียันก็กระตุกมือแม่ไปที่ซุ้มอาหาร ที่นั่นเธอเจอกับน้าปรีชญา

            “อ้าวพี่กุ้ง หนูมารี ปรีไม่คิดว่าจะมา ไม่งั้นจะแวะรับมาพร้อมกัน”

            “ไม่เป็นไร มาแท็กซี่ไม่ลำบากอะไรหรอกปรี แล้วคุณกายไปไหนซะล่ะ ยังไม่เห็นเลย”

            “โน่น ไปคุยกับเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจด้วยกันน่ะ เราไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ก็ไม่อยากไปยุ่ง นั่นไงมาโน่นแล้ว”

            ตากลมโตของมารียันตวัดมองทันทีแล้วใจวูบไหว น้ากายของเธอกำลังเดินตรงมา เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา ตากลมโตจึงหลุบต่ำก่อนจะหันไปหาซุ้มอาหารแล้วตักอาหารใส่จานที่เตรียมไว้

            “สวัสดีครับพี่กุ้ง ถ้าทราบว่าพี่กุ้งจะมา ผมคงจะไปรับถึงบ้าน”

            “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ไม่ได้ลำบากอะไร อีกอย่างมากับมารีก็ไม่ต้องกลัวที่จะนั่งรถแท๊กซี่”

            “ถึงจะมาสองคน แต่ก็ยังเป็นผู้หญิงทั้งคู่นะครับ เอาไว้ขากลับผมจะไปส่ง”

            “แต่ว่า” กังสดาลอยากปฏิเสธเพราะเกรงใจ คอนโดฯ ของกายกับบ้านของเธออยู่คนละทาง แม้จะไม่ไกลกันมากคนเจียมเนื้อเจียมตัวอย่างกังสดาลก็ยังอดเกรงใจไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาสสวาทชู้ซาตาน   บทที่ 55

    “มารีเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งค่ะ ไม่คิดว่าจะได้รับความรักมากมายเช่นนี้ ชั่วชีวิตของมารีก็แค่หวังว่าจะได้รับความรักและความจริงใจจากใครสักคน แต่สิ่งที่มารีได้มามันมากมายเหลือเกินค่ะ มากจนพูดออกมาคงไม่หมด มารีขอบคุณทุกคนที่ทำให้มารีมีวันนี้โดยเฉพาะแม่กับน้าปรี ถ้าไม่มีทั้งสอง มารีก็คงไม่มีวันนี้ และ...” มารียันสบตาเจ้าบ่าวรูปงามของตน ก่อนกระพริบตาไล่หยาดน้ำตาให้ไหลออกมาจากหางตาเพื่อช่วยให้เธอเห็นหน้าเขาได้ถนัด “มารีขอบคุณพี่กายที่ให้โอกาส ขอบคุณที่ทำให้มารีมีความสุข ตั้งแต่คบหาดูใจกันมา พี่กายยังไม่เคยทำให้มารีเสียใจเลยค่ะ พี่กายเหมาะที่จะเป็นสามีและเป็นพ่อคนได้แล้วนะคะ มารีเชื่อว่าพี่กายจะทำได้ดีที่สุด จะดูแลมารีและลูกให้ดีที่สุดได้แน่นอนค่ะ” เธอถูกเขากอดแน่น ทุกคนลุกขึ้นปรบมือแสดงความยินดีให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว กายดึงตัวออกเมื่อคิดว่าได้เวลาจะต้องลงจากเวทีแล้ว “เดี๋ยวค่ะ มารียังพูดไม่จบ” “วี๊ดวิ้ว” มีเสียงหนึ่งโห่ร้องขึ้น “มารีมีของขวัญจะมอบให้ทุกคนโดยเฉพาะคุณเจ้าบ่าวค่ะ” กายเลิกคิ้วขึ้นและ

  • ทาสสวาทชู้ซาตาน   บทที่ 54

    “ครับคุณเขม คุณเก้ากับผมรู้ใจกันดี ไม่มีปัญหาหรอกครับ วันนี้คุณเขมสวยมากเลยนะครับ ไม่พาลูกๆ มาด้วยหรือครับ” “กะว่ากลับจากงานนี้จะพากันไปต่อที่อื่นครับ เลยต้องทิ้งก้างขวางคอไว้กับคนเลี้ยงที่บ้าน โอ๊ยยยย” ดนัยณุโอดครวญอีกรอบ เขมมิกายิ้มแหยๆ แก้มแดงซ่านขึ้นมาทันที “เมียจ๋า วันนี้หยิกผัวกี่ทีแล้วจำไว้ด้วยนะจ๊ะ เพราะผัวจะคิดทบต้นทบดอกเอาให้คลานลงจากเตียงเลย” พูดจบก็เอี้ยวตัวหลบวูบ เจ้าบ่าวหัวเราะสนุกสนาน นึกขอบใจเมียรักที่ทำให้เขายิ้มได้หัวเราะเป็นอย่างตอนนี้ มันมีความสุขมากเลยล่ะ “ยินดีด้วยนะครับคุณกาย” เวฆินทร์ควงคู่มากับศรีภรรยาอย่างลัดจันทร์ เธอแต่งชุดเดรสสำหรับคนท้องแก่ใกล้คลอดได้น่ารักที่สุด และสวยที่สุดรองๆ จากเจ้าสาวเลยทีเดียว “ขอบคุณครับคุณสี่ ใกล้คลอดเต็มทีแล้วสินะครับ” “เดือนนี้ล่ะครับ อีกไม่กี่วันก็คงคลอด นี่ก็เกินเวลาครบกำหนด 39 สัปดาห์ มา 5 วันแล้ว หมอว่าอยากให้คลอดเองครับ แต่เค้าน้ำยังไม่เดินสักที ถ้ามะรืนนี้น้ำไม่เดิน คงต้องปรึกษาคุณหมอแล้วล่ะครับ ผมเป็นห่วงแม่กับลูกในท้องน่ะครับ” “เด็กหัวดื้อน่ะ

  • ทาสสวาทชู้ซาตาน   บทที่ 53

    มารียันครางโหย มือกดศีรษะคนรักให้แนบชิดกับร่างสวรรค์ กระดกสะโพกแนบปากที่กำลังทำรักให้เธออย่างทุรนทุราย ไม่ต้องถูกพันธนาการก็ทรมานแทบขาดใจ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร กายก็คือกายอยู่วันยังค่ำ เมื่อปลุกเร้าอารมณ์หญิงสาวให้แตกซ่าน กายก็พลิกร่างขาวให้นอนคว่ำ ประคองบั้นท้ายเอาไว้ด้วยสองมือ ใบหน้าหล่อเหลาแนบเข้าหากลีบดอกไม้ไหวอีกครั้ง “โอ้วว ซี้ดดด เสียวจังค่ะที่รัก” ปลายนิ้วถูกส่งผ่านเข้าไปในปากถ้ำ เกร็งข้อนิ้วจนแข็งแล้วกระทุ้งอยู่ในร่องกระสัน มวลแห่งความสุขเจิ่งนองจนผ้าปูที่นอนเปียกชุ่มเป็นดวงใหญ่ สายน้ำที่ไหลบ่าผ่านต้นขาที่กำลังสั่นระริก กายมองมันอย่างหิวโหยก่อนตวัดปลายลิ้นดื่มด่ำรสชาติความสาวให้อิ่มเอม “ตาฉันแล้วที่รัก ได้โปรดบอกว่าเธอรักฉันมากแค่ไหนคนเก่ง” ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนกางขาออกกว้าง สัดส่วนความเป็นชายตั้งฉากกับลำตัวสูงใหญ่ มารียันคืบคลานอยู่กลางหว่างขา มือลูบไล้พวงสวรรค์ที่อุดมไปด้วยพงขนดกหนา “มารีรักน้ากายมากเลยค่ะ” แล้วเธอก็บอกรักเขาด้วยการกระทำ ปากเล็กๆ ช่างมีพิษสงร้ายกาจ เธอครอบครองเขาด้วยริมฝีปาก ดู

  • ทาสสวาทชู้ซาตาน   บทที่ 52

    ‘หึ น่าสงสาร ตลอดเวลาที่ผ่านมานาคอิจฉามันตลอด เพราะอากายชอบมัน นาครู้จากสายตาของอากาย ที่แท้...มันก็ไม่น่าอิจฉาเลยสักนิด มันน่าสมเพชมากกว่าที่มารักคนอย่างอากาย และต้องอดทนยอมให้อากายเฆี่ยนตี’ ‘หุบปากของเธอแล้วไปได้แล้ว’ เขากำลังจะทนฟังไม่ได้ เรื่องจริงแบบนี้ กายไม่ต้องการฟัง ‘อากายไม่ได้รักมัน หึ หึ เพราะถ้ารัก อากายต้องคิดถึงอนาคตมากกว่าเล่นสนุกกับมันไปวันๆ นี่ล่ะค่ะที่นาคว่ามันน่าสมเพชมากๆ’ ‘เลิกพูดเสียทีฉันไม่อยากฟัง’ ‘ถึงนาคพูด อากายก็ไม่รู้สึกอะไรหรอกค่ะ เพราะอากายไม่ปกติ อากายมีความสุขอยู่บนความเจ็บปวดของคนอื่น แต่มารียันเก่งนะคะที่ทนไหว เธอต้องพาร่างอันบอบช้ำไปเรียนพร้อมกับแบกความเจ็บปวดเจียนตายไปด้วย ยอดคนจริงๆ ทนได้ไงไม่รู้’ ‘ฤทัยนาค! ถ้าเธอไม่ออกไป ฉันจะเหวี่ยงเธอออกไปเอง’ ‘ทนฟังไม่ได้เหรอคะ ก็นาคพูดเรื่องจริง ถ้าอากายรักใครเป็น อากายจะรู้ว่าความรักมันไม่ชอบหรอกค่ะความเจ็บปวดน่ะ ต่อให้มารียันบอกว่าทนได้เพื่ออากายก็เถอะ เอาเข้าจริงวันหนึ่งก็ต้องทนไม่ไหวค่ะ ยิ่งถ้ามีลูกด้วยกัน อากายจะฟาดแส้ใส่ท้องนูนๆ ที่ม

  • ทาสสวาทชู้ซาตาน   บทที่ 51

    “เธอไม่เชื่อคำพูดของฉันงั้นเหรอ” กายโวยวาย “ให้ตายสิมารี กว่าฉันจะเค้นมันออกมาจากปาก ฉันต้องเสียเวลาไปเท่าไหร่ ฉันต้องคิดต้องกลั่นกรอง และต้องแน่ใจแค่ไหนว่าสิ่งที่กำลังรู้สึกมันเรียกว่าอะไร แล้วนี่...คนที่ฉันเพิ่งจะปริปากบอกรักกลับไม่เชื่อคำพูดของฉัน”“กะ...ก็...น้ากายไม่เคยรักใครนี่คะ” เธอกระพริบตาปริบๆ“แล้วคนไม่เคยรักใคร จะต้องรักไม่เป็นตลอดไปหรือไงกันฮะ”“อะไรอ่ะ” เธอทำคอย่น ทำตาเหลือกเหมือนคนหวาดกลัว“อะไร อะไรอีกฮะ” ท่าทางของเธอทำให้เขานึกหมั่นไส้“คนบอกรักเขาต้องตะคอกใส่กันแบบนี้ด้วยหรือคะ”ปากกายขยับยุกยิกเหมือนจะพูดแต่ไม่มีเสียงดังออกมา ก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงคุกเข่า นั่นยิ่งทำให้มารียันตกใจจนก้าวถอยหลัง“มารี” กายทอดเสียงอ่อนนุ่มแบบไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำ มันดังออกมาจากใจไม่ใช่แค่ลมปาก “ฉันรักเธอนะ จะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งประโยคนี้ก็ยังคงความหมายเดิมไม่เปลี่ยน ความหมายที่ดังออกมาจากใจ ไม่ใช่แค่คำพูด ฉันรักเธอ เธอเป็นรักแรกของฉัน เป็นรักเดียวที่เกิดขึ้น และจะเป็นรักที่มั่นคงยั่งยืนไม่มีการเปลี่ยนแปลง” กายดึงมือของเธอมากุมไว้ รับรู้ได้ถึงความสั่นสะเทือนจากเรื

  • ทาสสวาทชู้ซาตาน   บทที่ 50

    ร่างกายของเขาพยศเหมือนม้า คึกคักและสนุกสนาน ทิ่มทะลวงปั่นป่วนในร่องสวรรค์ ปลายเล็บของมารียันขูดข่วนไปทั่วเรือนกายจนแสบสัน แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เขาคลั่งในที่สุดสายธารสีขาวขุ่นก็ฉีดพร่าง ร่างแกร่งที่ยืนพิงกระจกห้องนอนเล็กบนชั้นสองกระตุกเฮือก ความสุขหลั่งไหลท่วมท้นเพียงแค่คิดถึงเธอ เขาก็สุขได้ไม่!เขาไม่ได้ต้องการแค่ในมโนภาพ!!รถลัมโบกินี่ราคาแพงระยับเคลื่อนออกจากบ้านหลังงามในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา รถคันงามในฝันของใครหลายคนแล่นไปบนถนนและยังไม่ทันออกพ้นหมูบ้านก็มีรถสปอร์ตสีแดงสดแล่นเข้ามา“ปี๊นๆ” รถสีแดงบีบแตรให้รถสีส้มดำกายขมวดคิ้ว ใครกันที่บีบแตรเรียกเขา รถไม่คุ้นตาสีสดใสนั่นเป็นของใครกัน“อากายคะ” ฤทัยนาคลดกระจกลงให้กายเห็น “จะไปไหนคะอากาย”หัวคิ้วของกายคลายออก หลุบตามองริมฝีปากของฤทัยนาคที่ยิ้มจนเห็นฟันซี่ขาว“จะไปไหน” เขาถามกลับไป“นาคจะมาหาอากายไงคะ”กายหลุบตาลงอีกครั้งอย่างครุ่นคิด ก่อนพยักหน้าแล้วบอกให้ฤทัยนาคขับเข้าไป ส่วนเขาก็กลับรถเพื่อนำหน้ารถอีกคันมาที่บ้าน“เข้าไปในบ้านก่อนสินาค”“อากายยังไม่บอกนาคเลยว่าจะออกไปไหนคะ”“แล้วนาคมาหาอาทำไม”ฤทัยนาคจับมือใหญ่ก่อนจะลูบขึ้นไปตามแขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status