ธีรทัศน์ยักไหล่อย่างไม่แยแส แต่แท้จริงแล้วสงสารเธอจับใจ อยากดึงเข้ามากอดแล้วพาเธอกลับบ้านเสียตอนนี้
ถ้าเธอไม่ยั่วโทสะ ไม่เริ่มเรื่อง ไม่พูดจาในเชิงท้าทายมันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ ดังนั้นเขาต้องสั่งสอนให้หลาบจำ ต่อไปในอนาคตจะได้ไม่กล้าทำกับเขาอีก...
เนตรดาวรีบเดินแซงหน้าตุลฎา เมื่อธีรทัศน์กดสัญญาณรีโมตปลดล็อกประตูรถ เธอเปิดประตูด้านหน้าคู่คนขับ ก้าวขึ้นไปนั่งทันที
ตุลฎาไม่แม้แต่จะให้ความสนใจกับหล่อน เดินไปเปิดประตูด้านหลังแล้วก้าวขึ้นไปนั่งโดยไม่พูดอะไร
ธีรทัศน์ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความหงุดหงิด นึกอยากจะดึงแม่ตัวดีออกมาจากรถ แล้วฟาดก้นแรง ๆ สักหลายที เมื่อกี้เธอยังไม่โมโหใส่เขาอยู่เลย แต่ดูตอนนี้สิ ทำไม่รู้สึกรู้สาซะงั้น อุตส่าห์หลงดีใจนึกว่าเธอหึงหวง หรือว่าเธอแค่หงุดหงุดเพราะใกล้จะถึงวันนั้นของเดือน
ดี! ในเมื่อไม่สนใจเขาก็จะไม่แคร์เธอแล้ว เขาจะไปนอนกับเนตรดาวแล้วปล่อยให้เธอรอซะให้เข็ด
คิดได้ดังนั้นจึงเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ สตาร์ทรถขับออกไปอย่างเร็ว
“ใจเย็น ๆ สิคะคุณเขื่อนขา จะรีบไปไหนคะ&
“หนูจะเอาอะไรบ้างล่ะ ดอกแค มะรุม มะยม มะม่วง บวบ ฟัก ฟักทอง พริก มะระ มะเขือ มะละกอ โหระพา กะเพรา มะพร้าวก็พอมีนะ” บุญเพิ่มชี้ไปตามสิ่งที่ตนเอ่ยชื่อออกมา“ลุงเพิ่มคะหนูรบกวนให้ลุงช่วยหาต้นใต้ใบ ต้นย่านางให้หน่อยนะคะ เพราะหนูไม่รู้ว่าต้นมันเป็นยังไง ส่วนอย่างอื่นเดี๋ยวหนูจัดการเอง”“เดี๋ยวลุงไปเก็บมาให้นะ” บุญเพิ่มไม่ถามให้มากความ รีบจัดการตามที่หญิงสาวต้องการ...เรือนพญาธีรทัศน์มองอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า แล้วหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ“ทำไมมีแต่เมนูเดิม ๆ สองวันแล้วนะที่ฉันต้องกินอาหารเหมือนอยู่ในคอร์สลดน้ำหนักอย่างนี้ บะช่อตำลึง แกงส้มดอกแค ใบอ่อนดอกแคลวก ใบอ่อนมะยม ดอกแคต้มจิ้มน้ำพริก แกงผักรวมมิตรใบย่านาง ไข่เจียวใส่พริกใส่หอมแดง แล้วยังต้องดื่มน้ำรสชาติแปลก ๆ เฝื่อน ๆ ต่างน้ำอีกทุกมื้อ”“ทำไมต้องถามล่ะคะ มีหน้าที่ทานก็ทานไปเถอะ ในเมื่อคุณไม่ยอมไปหาหมอคุณก็ต้องทานแบบนี้แหละค่ะ” เพิ่งจะเข้าสู่มื้อที่สี่ก็บ่นแล้ว เธอก็ไม่ได้ให้กินเหมือน ๆ กันทุกมื้อซะหน่อย คอยหม
ชายหนุ่มตักข้าวต้มใส่ปากได้แค่สามคำก็วางช้อน ดื่มน้ำไปครึ่งแก้วก็พาตัวเองกลับไปยังห้องนอน..ดวงตาที่หลับสนิทเปิดกว้างขึ้นอย่างงัวเงีย เมื่อรับรู้ถึงความเย็นที่กระทบลงบนใบหน้า“หนูเกล” เขาเรียกเธอด้วยเสียงแหบแห้ง“คุณตัวร้อนมาก น่าจะไปหาหมอนะคะ” เธอบอกกับเขาขณะยังเช็ดตัวให้“ไม่! ฉันไม่ชอบหมอ”“ทำไมคะ หมอเขาจะฆ่าคุณหรือไง”“ฉันกลัวเข็มฉีดยา เกลียดการกินยาที่สุด ฉันไม่ชอบเลย”เธอแปลกใจไม่น้อยที่ผู้ชายตัวโตและเผด็จการแบบเขา จะมีมุมที่คาดไม่ถึงแบบนี้“แล้วคุณจะปล่อยให้เป็นแบบนี้เหรอคะ ขืนปล่อยทิ้งไว้แบบนี้อาการจะเรื้อรังได้นะคะ ป่วยก็ต้องกินยาถึงจะหาย”“นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำอุ่น กินมะนาวกับเกลือเดี๋ยวก็ดีขึ้น”“คุณน่าจะบอกหนูตั้งแต่เริ่มมีอาการ หนูจะได้หายาให้คุณกินกันไว้ก่อน”“ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นมากขนาดนี้”“ไม่มีโรคที่ไหนหายเองได้หรอกค่ะ ถ้าไม่อยากป่วยหนักก็ต้องรักษาแต่เนิ่น
“แล้วมันจะได้ผลหรือวะเจ้าไกร เพราะนายท่านก็ไม่ใช่คนเรื่องมากเรื่องการกินอยู่แล้ว”“ถ้าอาหารไม่ได้ผล ความใกล้ชิดก็น่าจะได้ผลนะแม่”“แต่คุณท่านไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายที่เรือนเอ็งก็รู้”“แม่เชื่อผมซิ ผมกับคุณเขื่อนโตมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน ทำไมผมจะไม่รู้นิสัยของเขา ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะโดนถีบออกมา แต่กับเจ้าเกลนี่ตรงกันข้ามแน่” เพราะเขาเคยเห็นกับตา ตอนที่เจ้านายง้อหญิงสาวด้วยการแบกขึ้นบ่าพาเข้าห้องเขานึกถึงเหตุการณ์ที่โรงแรมในคืนนั้น พลันนึกไปถึงคนรักที่ห่างเหินกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว วันนี้ชวนเธอไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันดีกว่า“แม่จะเชื่อเอ็งก็แล้วกัน เพราะแม่อยากให้หนูเกลเป็นคุณนายของฟาร์มอุดมสุขจริง ๆ” ละม่อมกล่าวอย่างมุ่งมั่น“แล้วแม่รู้ได้ยังไงว่าเจ้านายเรา..” เกรียงไกรพยักหน้าสื่อความหมาย“ก็เมื่อคืนแม่ตื่นมาเข้าห้องน้ำ แล้วได้ยินเสียงคนไออยู่ข้างนอก แม่ก็เลยแอบดูเพราะกลัวจะเป็นขโมย แต่กลายเป็นคุณท่านเฉยเลย ตอนแรกแม่ก็นึกว่าท่านมาตรวจดูความเรียบร้อย ก็ยังสงสัยว่า
ลลิตารีบผละจากอ้อมกอดของคนรักทันทีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น“ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นแหละ” เกรียงไกรไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ ตามจูบเธอไม่เลิก“แป๊บเดียวค่ะ” เธอยอมให้เขาจูบอีกครั้งเมื่อพูดจบ แต่เขาเล่นจูบไม่ปล่อยเธอจึงต้องใช้ฝ่ามือยันเขาออก รีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า “น้องเกลโทรมาค่ะ” เธอบอกกับคนรักแล้วจึงกดรับสาย “จ้ะน้องเกล..”(พี่กิ๊งถึงไหนแล้วคะ ออกมาหรือยัง)“..เพิ่งจะออกจากฟาร์มจ้ะ ทำไมเหรอ” ลลิตาจำใจต้องโกหก เพื่อทำตามที่คนรักบอก(เกลจะบอกว่าไม่ต้องออกมาแล้วค่ะ คุณเขื่อนเขาทำธุระเสร็จแล้ว อีกสักพักก็จะกลับแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่รบกวนเวลาพักผ่อนของพี่กิ๊ง)“ไม่เป็นไร ๆ ไหน ๆ ก็ออกมาแล้ว พี่กับพี่ไกรก็จะแอบไปสวีตกันสักหน่อย เอาไว้คราวหน้าเราค่อยออกมาหาอะไรอร่อย ๆ ในเมืองกินกันเนอะ” เธอไม่อายที่จะพูดเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนรัก เพราะความรักไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย(ค่ะพี่กิ๊ง พรุ่งนี้เจอกันค่ะ)“จ้ะ บายจ้ะ”วางสายจากตุลฎาแล้วล
“จู๋จี๋? หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หมายความว่า..” เขาก้มลงไปที่หูของเธอ “คุณท่านของเราเผด็จศึกเจ้าเกลไปเรียบร้อยแล้วไงล่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้จึงเป็นเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ เราคนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาด”“ตลก ไม่จริง พี่ไกรอย่ามาอำกิ๊งเลย ก็เห็นอยู่ตำตาว่าน้องเกลเธอไม่เต็มใจ” ถ้ายินยอมเธอจะดิ้นหนีเขาสุดฤทธิ์แบบนั้นเหรอ “รีบเข้าไปช่วยน้องเกลเดี๋ยวนี้เลยนะ”“จริง ๆ เรื่องนี้พี่กับแม่รู้มาสักพักแล้ว ไม่เชื่อก็ไปถามแม่พี่ดูสิ คุณเขื่อนเขาตีตราจองเจ้าเกลไปเรียบร้อยแล้ว ไม่สังเกตเหรอว่าช่วงนี้เขาตัวติดกับเจ้าเกลแค่ไหน”“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ แล้วน้องเกลโทรหากิ๊งทำไมคะ” ลลิตายังมีข้อกังขา“โธ่กิ๊ง ถ้าไม่ใช่เขาจะออกมาด้วยกันทำไม ที่เรียกกิ๊งให้มารับก็คงจะงอนอะไรกันนั่นแหละ แต่ตอนนี้คุณเขื่อนก็กำลังง้อแล้วนี่ เรากลับกันเถอะ”“จะกลับจริง ๆ เหรอคะ” เธอยังลังเล“จะอยู่ทำไมล่ะ จะแอบดูเขามีความสุขกันหรือไง”“พี่ไกร!&rdquo
พนักงานหนุ่มรีบก้มหน้าหลบสายตาดุดันของแขก เก็บซ่อนความลำบากใจไว้มิดชิด“จะให้ผมไปเรียนกับคุณผู้หญิงอีกครั้งไหมครับ”“ไม่ต้อง!” เขาเดินหน้าตึงจากไปทันทีคิ้วเข้มของธีรทัศน์ขมวดมุ่น เพ่งมองหญิงสาวที่ยืนพิงรถ ปัดมือไล่ยุงอยู่ในความมืด“มายืนทำอะไรมืด ๆ ตรงนี้ ทำไมไม่ขึ้นไปนอนรอที่ห้อง”ตุลฎารีบดีดตัวยืนตรงทันทีที่ได้ยินเสียงห้วน ๆ ของเขา เชิดหน้าขึ้นแต่ไม่ยอมหันไปมองเขาแม้แต่หางตา“ฉันสบายใจที่จะรอตรงนี้ค่ะ เชิญคุณไปหาความสุขกับผู้หญิงคนนั้นเถอะ อย่ามาเสียเวลากับฉันเลย”“จองหอง อวดดีทั้งที่เอาตัวไม่รอด คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง” ตั้งใจมาดูเพราะเป็นห่วงแท้ ๆ แต่เธอก็ทำให้อารมณ์เสียอีกจนได้“เชิญเอาเวลาไปใช้กับความสุขของตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องมาอุตส่าห์เป็นห่วงตัวขัดดอกอย่างฉันหรอก” เธออยากจะทำตัวปากร้ายเหมือนเขา แต่ก็กระดากปากที่จะพูดออกไป “อ๊ะ!”ธีรทัศน์ดันเรือนร่างระหงให้แนบไปกับรถ แล้วก้มลงไปจูบปากเธออย่างจาบจ้วง มือใหญ่กุมลงบนอกอิ่มขนาดพอเหมาะแ