Share

บทที่ 9 รุ่นพี่

Author: PIMCHADA W.
last update Huling Na-update: 2025-07-11 12:58:21

             ฉันสะดุ้งตื่นด้วยเสียงจากนาฬิกาปลุกเพื่อนยาก  .. 

            โอ๊ย  .. ให้ตายย!  ฉันเผลอหลับไปหรอกหรือนี่  ไม่น่าเลยคิดเอาแท้ ๆ ว่าจะอ่านให้หนำใจมาหลับไปเสียได้อะไรกัน  สงสัยฉันคงเพลียสะสมละมั้ง  จะว่าไปหลังฉันยังระบมอยู่เลย  คิดแล้วก็เอื้อมมือไปลูบหลังที่ยังรู้สึกปวดร้าว

            “น้องตา  ..  ช่วยหันหน้ามาทางนี้หน่อยสิลูก” หญิงชราหน้าตาใจดี  ผมเทาแซมขาวรวบเป็นมวยต่ำไว้ที่ท้ายทอย  หลังของเธององุ้มแต่ขยับเขยื้อนตัวได้อย่างคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง

            “คะ"  ฉันหันหน้าไปหาเธอ  พลางเขยิบเก้าอี้กระดึ๊บ ๆ เข้าไปให้ใกล้ตามคำขอ

            “ไหนดูสิ” หญิงชราจับปลายคางของฉันเบา ๆ  เลื่อนไปซ้ายทีขวาที  เพ่งพิจารณาใบหน้าของฉันด้วยสายตาที่อบอุ่น  ฉันรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก  คุณยายของฉันเสียไปตั้งแต่แม่ยังสาว  ฉันจึงไม่มีโอกาสได้รับความรู้สึกเช่นนี้  หัวใจฉันพองโตด้วยความปีติ

            “อะไรเหรอคะ” ฉันถามและแย้มยิ้มให้หญิงชราที่ฉันเคารพรัก

            “น้องตาเป็นเด็กมีวาสนาดีนะรู้มั้ย  ..” เธอพูดน้ำเสียงอบอุ่นกินใจฉันเสียจริง  ทำฉันยิ้มกว้างตอบกลับไปทันที

            “วันหนึ่งข้างหน้า  หนูจะได้พบคนที่ดี  ดีมากทีเดียว”  หญิงชราพูดด้วยรอยยิ้ม  ราวกับเธอมีความสุขกับเรื่องราวของฉันที่เธอพึ่งค้นพบด้วยหัวใจจริง ๆ

            “จริงเหรอคะ  ดีจัง”  ฉันในตอนนั้นตอบกลับไปอย่างไม่ได้ใส่ใจในความหมาย  แค่ฟังว่าเป็นเรื่องดีฉันก็พอใจแล้ว  ยิ่งเป็นคำพูดจากปากหญิงคนนี้  ฉันยิ่งถือว่า  มันคือคำอวยพร  .. 

            คิดถึงนะคะคุณยาย   

             ฉันยืนยิ้มอยู่บนรถไฟฟ้าขณะเดินทางไปทำงาน  คำพูดอันอบอุ่นของคุณยายช่วยให้อารมณ์ของฉันคงที่ขึ้นมาได้อย่างประหลาด  คุณยายเป็นรุ่นพี่คนเดียวในที่ทำงานที่ฉันสนิทสนมด้วย  เธอเป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ที่นี่  ช่วงแรกที่ฉันเข้ามาเริ่มงาน  ฉันเงอะงะ  ทำอะไรซุ่มซ่ามผิดพลาดไปหมด  จึงมักโดนตำหนิอยู่บ่อยครั้ง  และหลายครั้งหลายคราฉันก็แอบร้องไห้เวลาพักเบรก 

            มีอยู่ครั้งหนึ่ง  ฉันคิดว่าทุกคนไปพักกันแล้ว  เราแบ่งเวลากันไปพักอย่างชัดเจน  ฉันจึงตั้งใจว่าจะร้องไห้เวลานี้แหละเหมาะ เจาะที่สุด  ในขณะที่ฉันกำลังจมดิ่งกับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับความสามารถของตัวเองอยู่นั้น  หญิงชราผมสีดอกเลาก็เดินเข้ามาแตะบ่าฉันอย่างเบามือ  เธอเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนฉันไม่รู้เลย  เพราะมัวแต่นั่งโศกาอาลัยอยู่

            “น้องตา  เป็นคนเก่งนะลูกรู้หรือเปล่า”  เธอเอ่ยบอกฉันอย่างใจดีที่สุด  อบอุ่นอ่อนโยนที่สุด

            “ฮึก  ฮึก ๆ ๆ” ฉันนั่งก้มหน้ากับฝ่ามืออยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน  ปกติฉันก็แอบร้องไห้ตรงนี้แหละ  ร้องเบา ๆ แบบไม่มีเสียง  ฉันจะเตรียมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้บนตัก  พอน้ำตาไหลปุ๊บฉันก็ปาดมันออกทันที  แต่วันนี้ปาดไม่ทันเสียแล้ว  มันไหลลงมาไม่ยอมหยุดเลย

            มือที่เหี่ยวย่นแม้ไม่นุ่มนิ่มทว่าอ่อนโยนจับใจ  ลูบบ่าฉันไปมา  เธอลูบไปที่เส้นผมของฉันหนึ่งทีอย่างแผ่วเบา 

            “เดี๋ยวยายจะสอนน้องตาเอง  ดีมั้ยลูก”  เธอบอกฉันแบบนั้น  ฉันที่น้ำตานองเงยหน้ามาสบตาเธอ  เธอส่งยิ้มที่สวยที่สุดให้ฉัน  ฉันรักรอยยิ้มนั่นทันที  แล้วฉันก็พยักหน้าน้อย ๆ ตอบกลับเธอไป

            จากนั้นรุ่นพี่ของฉันก็สอนงานทั้งหมดให้ฉันอย่างใจเย็น  คุณยายมีพรสวรรค์อย่างมากในการปลอบประโลม  ปลุกปั้น  หล่อหลอมจิตใจ  คำพูดที่เธอใช้  น้ำเสียงและแววตามันเต็มไปด้วยความเมตตา  ฉันสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน 

            หลังจากที่เธอสอนงานต่าง ๆ ให้ฉันอย่างใกล้ชิดร่วมเดือน  ฉัน  ลลิตา หรือน้องตาเด็กใหม่ผู้ไม่มีประสบการณ์ซุ่มซ่าม  ก็กลายเป็นพนักงานหัวดี  ทำงานเรียบร้อย  ตรงเวลา  ฉันคิดไปว่าเป็นเพราะการที่คุณยายทุ่มเทสอนงานให้ฉัน  ฉันจึงมีกำลังใจมาก  และตั้งใจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ  เพื่อไม่ให้คุณยายต้องเสียชื่อเลย  ผลพลอยได้คือฉันกลายเป็นที่ชื่นชอบไปโดยปริยาย

            ฉันเคยเล่าให้คุณยายฟังว่า  พ่อกับแม่ของฉันเป็นหมอ  ตระกูลฉันดูเหมือนจะฉลาดกันทั้งบ้านเลย  ยกเว้นฉันคนเดียว  คุณยายฟังแล้วหัวเราะใหญ่  พลางเอาข้อนิ้วมือมาเขกหัวฉัน  เบา ๆ อย่างเอ็นดู  ฉันเลยพลอยขำผสมโรงไปด้วย  เรานั่งคุยกันที่ม้านั่งหน้าหอสมุด  ระหว่างที่รอพี่กิ๊งมารับคุณยายกลับบ้าน  ฉันจะนั่งรอเป็นเพื่อนคุณยายอย่างนี้ทุกวันเป็นประจำ

            “พูดอะไรไม่เข้าท่าเลย  ไหนดูสิ”  เธอจับมือของฉันไปหงายดู  ยกมันขึ้นสูงพลางก้มหน้าลงมาใกล้เสียจนมือของฉันเกือบจะชิดจมูกของเธอ  ทำอย่างกับเป็นหมอดูอย่างไรอย่างนั้น  ฉันเลยขำตัวคลอน

            “ไหน  อยู่นิ่ง ๆ ก่อน  ยายแก่แล้วนะน้องตา” คุณยายดุฉัน  ฉันไม่สะทกสะท้านแต่ก็ยอมอยู่นิ่ง ๆ ให้  ไม่อยากทำให้เธอเวียนหัว

            เธอจ้องมองอยู่ชั่วขณะ  เอียงฝ่ามือของฉันไปมา  เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวา  เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง  ฉันคิดว่าคุณยายคงพยายามหาแสงที่พอเหมาะพอดี 

            “อืมมม  ..  เอ๊ะ!  ..  อ้อ  อย่างนี้แหละถูกแล้ว” เธออุทานออกมาเป็นระยะ  ระหว่างตรวจตราลายมือของฉันราวกับเป็นหมอดูมืออาชีพ

            “เป็นไงคะ  หนูจะรวยหรือเปล่า” ฉันแกล้งแหย่เธอ     เล่น ๆ  ชอบเวลาโดนคุณยายดุ  มันให้ความรู้สึกเหมือนฉันกำลังถูกรัก  รู้สึกเหมือนได้รับอ้อมกอดอันอบอุ่น

            “ไม่รู้..  ยายจะรู้ได้ยังไง  ยายไม่ใช่หมอดูเสียหน่อย”  เธอส่ายศีรษะและยิ้มให้ฉันอย่างมีเล่ห์นัยเป็นครั้งแรกเลย

            “น้องตา  ..”  เธอพูดพลางจ้องเข้ามาที่นัยน์ตาของฉันอย่างจงใจ  ฉันจึงรู้ได้ว่าคุณยายกำลังตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง  ฉันจึงหยุดเล่นชั่วขณะ

            “หนูต้องเชื่อมั่นในตัวเองให้มาก ๆ นะลูก  นี่แหละเป็นเพียงสิ่งเดียวที่หนูขาดไป  ..  สิ่งเดียวจริง ๆ”  ราวกับมีเข็มเล็ก ๆ มารุมทิ่มไปที่กลางหัวใจของฉัน  สิ่งที่คุณยายพูดออกมามันกระตุกใจฉันมาก 

            ใช่แล้ว .. ฉันเป็นคนประเภทไม่มั่นใจในตัวเอง  หวาดวิตกไปเสียทุกเรื่อง  ฉันเอาแต่คิดว่าฉันเก่งสู้พ่อกับแม่ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว  หวาดกลัวว่าฉันจะเป็นลูกที่ทำให้พวกท่านผิดหวังมาตลอด  ฉันเลยไม่ค่อยกล้าทำอะไรด้วยตัวเอง  เพราะคิดว่าถ้าทำแล้วก็คงจะผิดพลาดอีก 

            ไม่อยากสร้างความผิดหวังให้ท่านทั้งสองไปมากกว่านี้แล้ว  ทั้งที่พ่อกับแม่ของฉันไม่เคยพูดเลยว่าผิดหวังในตัวฉัน  แต่ฉันก็กังวลอยู่ดี 

            สิ่งที่คุณยายพูดมันแทงใจดำฉันที่สุดเลย

            “คุณยายขา  เย็นนี้ขอไปกินข้าวเย็นด้วยได้มั้ย  หนูหิวแล้วค่ะ  .. นะคะ”  ฉันอ้อนเปลี่ยนเรื่อง  เพราะรู้ว่าใกล้เวลาที่พี่กิ๊งจะขับรถมาถึงที่นี่แล้ว

            “อยากกินอุด้งใช่มั้ยล่ะ” เธอถามฉันอย่างรู้ใจ  ส่งยิ้มอันอบอุ่นที่ฉันรักยิ่งมาให้ด้วย 

            ฉันพยักหน้าหงึกหงักให้พร้อมกะพริบตาถี่ ๆ  แต่ใจยังเต้นระรัวเพราะสะท้อนใจจากคำพูดของคุณยายเมื่อครู่นี้ไม่หาย

            หนูรักอุด้งของบ้านนี้  ..

            แล้วก็  .. รักคุณยายด้วยค่ะ 

            ฉันคิดแต่ไม่ได้เอ่ยมันออกไปเป็นคำพูด 

            วันนั้นและวันอื่น ๆ ฉันน่าจะพูดมันออกไป  ฉันไม่น่าทำเป็นเย็นใจคิดว่าเมื่อไหร่ก็ได้เลย  .. ไม่น่าเลย 

            ฉันมองผ่านกระจกของรถไฟฟ้าออกไปสู่ท้องฟ้าด้านนอก  ฟ้าสดใสในเช้าของต้นฤดูร้อน  เมฆลอยเกาะกันเป็นกลุ่มก้อนบาง ๆ  ฉันยิ้มน้อย ๆ ไปที่เมฆพวกนั้น  เอ่ยในใจอย่างชัดเจนว่า  หนูรักคุณยายนะคะ  ฉันไม่รู้ว่าเธอจะรับรู้ได้จริงหรือเปล่า  แต่ฉันมันเป็นพวกเชื่อเรื่องพลังงานที่มองไม่เห็น  ฉันเลยคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า  คุณยายจะรู้ว่าฉันรักเธอ  

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 15 แรงดึงดูด

    สี่ไม้เท้า ห้าถ้วย และสามถ้วย ฉันจ้องมองหน้าไพ่ทาโร่ต์ที่ฉันสั่งมาทางออนไลน์ เพราะในที่สุดฉันก็แพ้ความปรารถนาของตัวเอง เช้านี้หลังจากตื่นมาอย่างสดชื่นแบบไม่มีเสียงนาฬิกาปลุก เพราะเป็นวันหยุดงานวันแรกของฉัน และพึ่งบอกปฏิเสธการไปทริปครอบครัวที่ญี่ปุ่นกับแม่ไปเรียบร้อย โดยบอกว่าฉันนัดกับลิลลี่เอาไว้ก่อนแล้ว แม่ไม่ตัดพ้อไม่ต่อว่า แม่แค่บอกว่าอยากให้ฉันออกไปท่องเที่ยวบ้าง และพอรู้ว่าฉันมีแผนอยู่แล้วแม่ก็โล่งใจ ตอนนี้ฉันยังไม่มีจิตใจจะไปท่องเที่ยวที่ไหน นอกจากที่นั่นอีกแล้ว .. น้ำเสียงแม่ก็ดูปกติดีบอกว่าคิดถึงฉัน ฉันเองก็คิดถึงท่านทั้งสอง ไว้ฉันจะไปชดเชยให้ทีหลัง จากนั้นฉันจึงนั่งลงทำใจให้สงบแล้วลองจับไพ่ดูบ้าง ฉันทดลองสับไพ่อย่างที่เคยเห็นผู้ทำนายแต่ละคนทำ ดูเหมือนง่ายดายแต่เอาเข้าจริงไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย ไพ่ร่วงกราวใบแล้วใบเล่า จนฉันต้องตั้งสติและค่อยเป็นค่อยไป เมื่อสับไพ่ได้จนพอใจแล้ว ฉันก็คลี่ไพ่บนโต๊ะทำงานของฉัน คลี่มันออกเป็นครึ่งวงกลมอย่างที่ฉันเคยเห็นเดฟทำประจำเลย

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 14 วันหยุดราชการ

    ฉันตื่นขึ้นอีกครั้งในเวลาเช้ามืดก่อนนาฬิกาจะปลุกเสียอีก ซึ่งนั่นเป็นที่น่าแปลกใจอยู่มาก เพราะโดยปกติถ้าฉันเข้านอนดึกมากอย่างเมื่อคืนล่ะก็ .. ฉันจะนอนลากยาวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวไปจนถึงเที่ยงวัน คงเป็นเพราะขณะนี้หัวใจของฉันว้าวุ่นไปหมด ฉันนึกถึงคำพูดและแววตาห่วงหาอาลัยของเขาอย่างแจ่มชัดทันทีที่ลืมตาตื่น นี่ฉัน .. กำลังคิดถึงชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่จริง ๆ เหรอ มันเป็นเรื่องใหญ่และใหม่มากเลย สำหรับผู้หญิงที่มีชีวิตวนเวียนซ้ำซากอย่างฉัน แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่ใช่ชายหนุ่มทั่วไป แต่ .. แต่เขา .. เป็นชายที่งดงามที่สุดเลย ฉันขอใช้คำนี้เลยแล้วกันเพราะมันบอกความเป็นท่าน เอเดนได้ตรงใจฉันที่สุดแล้ว ท่าน เอ เดน .. ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาซ้ำๆ ในใจ พลางยิ้มด้วยความเขินอาย เปิดผ้าห่มออกและก้าวขาอย่างมั่นใจไปยังระเบียง เมื่อแหวกเปิดม่านออก บรรยากาศภายนอกสดชื่น โลกของฉันก็มีอากาศแบบนี้ด้วยเหมือนกันนะฉันไม่ยักสังเกต ปกติก็หายใจเข้าออกทุกวันไปอย่างอัตโนมัติไม่เคยได้ฉุกคิด หรือหยุดซาบซึ้งกับอะไรพวกนี้เลย ฉันคิดแล้วสูดมันเข้าไปใ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 13 แล้วท่านจะมาอีกมั้ย

    เมื่อฉันคลายข้อข้องใจลงแล้ว ฉันก็ลองถามคำถามตรงหน้าดูว่าไพ่ทั้งสามใบนั้นหมายถึงอะไร “ไพ่เด็กถือไม้ หมายถึง การริเริ่ม ริรักขอรับ ใบนี้คือ หนึ่งเหรียญ หมายถึงของมีค่า ของรักหรือการพบนางหรือชายในฝัน และใบนี้ใบสุดท้ายคือ สองดาบ หมายถึง ความวิตกกังวล คิดอะไรไม่ถูกมองอะไรไม่ออก สับสนลังเล ขอรับคุณผู้หญิง อยากให้ข้า เอ่ยคำพยากรณ์ออกมาหรือไม่ขอรับ” กระต่ายน้อยถามฉันด้วยอาการมีเลศนัย ฉันอึกอักบอกใบ้ว่าไม่ต้อง พร้อมกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ฉันได้ยินเสียงกระถางต้นไม้หล่นลงพื้นบริเวณสวนหน้าบ้าน ท่านเอเดนออกไปทำอะไรเสียนานสองนาน นั่นเขาจะพังสวนของเขาหรือไงกันนะ ฉันคิดพลางลนลานเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วฉันก็พุ่งเป้าไปที่เจ้าของคนเดิมของหนังสือเล่มนั้น ใช่สิ! .. คุณยายล่ะ “ขอถามอีกเรื่องได้มั้ยคะ” ฉันนึกเกรงใจเดฟขึ้นมานิดหน่อย คนรอบตัวฉันบางทีก็แสดงอาการระอาใจกับเรื่องความขี้สงสัย อยากรู้ไปเสียหมดของฉัน ฉันจึงขออนุญาตถามเขาอีกที “ได้เสมอขอรับ คุณผู้หญิง” เดฟสุภาพจนฉันชักจะเกรงใจเขาขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ฉันจะถามแต่คำถ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 12 โลกของคุณ

    ราวกับฉันหลุดไปอีกโลกหนึ่งอีกครั้งเสียแล้ว ฉันจะเลิกประหลาดใจกับดินแดนแห่งความหวังแห่งนี้ได้เมื่อไหร่กันนะ วิหารหินและบรรยากาศแสนสดชื่นเมื่อครู่นี้ คล้ายจะธรรมดาไปเลย เมื่อเทียบกับสถานที่ตรงหน้า บ้านเมืองที่นี่ .. จะเรียกว่าไงดี ให้ตายเถอะ .. คุณพระช่วย .. มัน .. ว้าววว!! ฉันปล่อยมือจากการเกาะเกี่ยวบุรุษหนุ่มรูปงาม แล้วหันมาเพลิดเพลินเจริญใจกับสิ่งตรงหน้า ราวกับว่าตัวฉันกำลังหลุดไปอยู่ในเทพนิยายเสียแล้ว สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่สร้างจากก้อนหินทรงสี่เหลี่ยมสีขาวปนครีม แต่เมื่อถูกแสงอาทิตย์อัสดงฉาบทาก็มองคล้ายเป็นสีทองอร่ามไปทั่ว ตามกำแพงบ้านมีดอกไม้บานสะพรั่งเลื้อยเกาะคลุมไปทั่ว บางจังหวะดอกไม้ก็ยอมเว้นช่วงเผยให้เห็นความงามและความแข็งแกร่งของกำแพงอิฐ ไฟสีทองนวลตาถูกเปิดต้อนรับรัตติกาลแล้วในขณะนี้ มันอาบย้อมบรรยากาศทั้งเมืองให้สว่างไสว คล้ายต้องการส่องสว่างโชว์ให้ที่แห่งนี้นั้น โดดเด่นที่สุดในจักรวาล มันสวยงามจนฉันอ้าปากค้างตกตะลึง เขาทั้งสองเ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 11 เอ่อ .. สวัสดีค่ะ

    ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงกับภาพตรงหน้า จึงรีบหลุบตามองต่ำหัวใจเต้นแรง แล้วก็ทำใจกล้าเหลือบตามองไปยังที่แห่งนั้นอีกครั้ง ชายหนุ่มรูปงาม โอ้ว .. เขารูปงามมาก ๆ ฉันไม่อาจนึกได้เลยว่า เคยเห็นเค้าโครงหน้าและรูปร่างที่งดงามขนาดนี้มาบ้างหรือเปล่า อาจจะเคย .. แต่ก็เป็นเพียงในจินตนาการจากการอ่านนิยายของฉันเท่านั้น แต่นี้ .. มันอะไรกัน เขานั่งคุกเข่าข้างเดียวทำท่าทางเหมือนกำลังคุยปรึกษากับเดฟอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ฉันจะปรากฏกาย ในขณะที่ฉันกำลังใจเต้นระส่ำ ชายคนนั้นก็ยืนขึ้น เขาเองก็จ้องฉันไม่วางตาเช่นกัน เขาคงตกใจและสงสัยแน่นอนว่าฉันเป็นใคร เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำทับด้วยกั๊กสูทสีเทาพอดีตัว และกางเกงขายาวสีดำ ดูเป็นทางการแต่ก็ลำลองในทีอยู่ด้วยเหมือนกัน มันเป็นสไตล์แบบไหนกัน ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องแฟชั่นเท่าไหร่นัก ถ้าเป็นลิลลี่เพื่อนรักล่ะก็เธอต้องรู้แน่ ฉันเหลือบมองตัวเองอยู่ครู่หนึ่งนึกขอบคุณตัวเองมากเหลือเกิน ที่วันนี้ฉันเลือกชุดนอนเป็นชุดกระโปรงสีครีมผ้าสองชั้น ชายกระโปรงยาวกรอมเท้า แขนเส

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 10 กลับมาแล้ว

    ช่วงนี้ฉันหมกมุ่นอยู่กับตำราเล่นนั้นมากเหลือเกิน ทุกเย็นเมื่อเลิกงานฉันจะรีบตาลีตาเหลือกกลับคอนโด ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรีบอะไรนักหนา เพราะถึงอย่างไรฉันก็ไม่มีนัดกับใคร ไม่ต้องคอยทำอาหารปรนนิบัติใครทั้งสิ้น ฉันก็มีเพียงแค่ตัวฉันเองคนเดียว ขนาดลิลลี่เพื่อนรัก โทรมาชวนออกไปดินเนอร์ (เธอบอกกับฉันแบบนั้น ) ฉันยังบอกปัดเธอไปเลย ว่าช่วงนี้ฉันยุ่ง .. แล้วลิลลี่เพื่อนรักก็สวนกลับทันควัน ว่าฉันไม่มีทางยุ่งได้หรอก ซึ่งนั่นก็จริง เพราะเธอรู้จักวงเวียนชีวิตอันเรียบง่ายของฉันดี แต่เธอก็ไม่เซ้าซี้ต่อแล้วบอกว่าจะรอให้ฉันออกปากชวนเองก็แล้วกัน นี่แหละเธอจึงเป็น ลิลลี่เพื่อนรักตลอดกาลของฉัน ตำแหน่งนี้ฉันยกให้เธอคนเดียว เมื่อมาถึงคอนโดฉันก็เร่งรีบจัดการธุระส่วนตัว ถึงฉันจะอยากฉวยหนังสือออกมานั่งอ่านสักเพียงใด แต่ฉันก็มีนิสัยต้องอาบน้ำก่อนขึ้นเตียงนอนทุกครั้งหลังกลับจากข้างนอก และฉันไม่เคยทำลายกฎที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเลยสักครั้ง ฉันรักความสะอาดสุด ๆ บางทีสิ่งนี้อาจจะมาจากการเป็นลูกสาวของคุณหมอทั้งสองก็เป็นได้ เมื่อเร

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status