ทาโร่ต์ ทำนายรัก

ทาโร่ต์ ทำนายรัก

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
โดย:  PIMCHADA W.อัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel16goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
15บท
1views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

ระหว่างโลกแห่งความจริงกับดินแดนแห่งความหวัง ระหว่างใจที่เริ่มผูกพัน กับเวลาอันจำกัด เมื่อเธอจำต้องเลือกลับไป เขากลับเลือกเสียสละความเป็นนิรันดร์ รักแท้จะยังงดงามอยู่หรือไม่ "ทาโร่ต์ ทำนายรัก" คำทำนาย และความหมายของคำว่า พรหมลิขิต ที่อาจไม่ได้เขียนไว้บนฟ้า แต่เขียนไว้ในหัวใจทั้งสองดวง

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่ 1 ทำนายทายทัก

            “อา าาาาา ..” 

           

            “อ้ ะ ..  ลึ ก  ไ ป  แ ล้ ว”

            “โอว ..”

            “หยุดก่อนค่ะ! ..”

            “อะ  เอ่อ .. ขอโทษทีนะคะ ..  มันเสียวน่ะค่ะ”

            ฉันรู้สึกร้อนผ่าว ๆ หน้าแดง  ตัวแดงไปหมดจากการอับอายต่อเหตุการณ์เมื่อครู่นี้อย่างมาก .. ตอนนี้ฉันจะหายตัวไปเลยได้มั้ยนะ  เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยโอนเอาก็ได้มั้ง  ไม่หรอกเขาคงไม่ยอม  ก็ฉันตัดสินใจขอเพิ่มเองนี่นะ  โอ๊ย!! ฉันนี้มันบ้าจริง ๆ เลย .. ฉันหัวเสียหนัก  นึกด่าตัวเองในใจ  ถึงความกล้าบ้าบิ่นของฉันในครั้งนี้เหลือเกิน

            ขณะที่ฉันนั่งหลบมุม  เอียงคอ  หลับตาปี๋ให้โลกอยู่นั้น  เสียงสดใสของใครคนหนึ่งก็ตะโกนเรียกชื่อฉันจนได้

            “คุณลลิตาค่ะ” เรียกเบา ๆ ก็ได้มั้ย  ฉันไม่ต้องการให้ใครต่อใครรู้ชื่อฉันนะ  ฉันสบถในใจเบา ๆ

            “คะ  ค่ะ” ฉันเดินตาละห้อย  อับอาย  ไปที่เคาน์เตอร์สีขาวด้านหน้า  ผู้หญิงผมทองหน้าตาบูดบึ้ง  ดูไม่มีกะจิตกะใจทำงาน  ร้องเรียกฉันแล้วก้มหน้าก้มตาเขียนแผ่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แข็ง ๆ

            เธอเงยหน้าขึ้น  พอเห็นหน้าฉันสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปทันที  อ่อ .. จิตวิญญาณในการบริการของเธอกลับมาแล้ว

            “คุณลลิตานะคะ” เธอยิ้มหวาน

            “ค่ะ .. ค่ะ” ฉันละล่ำละลัก  นี่เธอจะเรียกชื่อฉันอีกสักกี่รอบกันนะ  ฉันหน้าแดง

            "ของคุณลลิตา  ครั้งนี้ครั้งที่ 1 เหลืออีก 7 ครั้ง  แต่แถมอีก 2 ดังนั้นจะเหลือ..  9 ครั้งนะคะ”  เธอสาธยายจำนวนครั้งของคอร์สเสริมสวยความเนียน  ดุจเด็กแรกเกิด  ให้ผิวตรงน้องสาวของฉัน  ซึ่งตอนนี้จุดสงวนใต้ร่มผ้ากำลังเอาผ้าคลุมหัวด้วยความอับอายไม่แพ้ฉันเลย

            "ค่ะ” ฉันตอบลอดไรฟัน  ฉันจะไม่มาที่นี่อีกเป็นเด็ดขาด  ครั้งนี้เป็นครั้งแรก  และจะครั้งสุดท้าย! บ้าไปแล้ว  ฉันไม่เคยให้ใครมาสอดส่อง  พลิกไปพลิกมา  แหวกหน้าแหวกหลังน้องสาวฉันขนาดนี้เลย

         “เหลือชำระค่ายาชาอีก 500 บาทค่ะ”  สาวผมทองพูดนิ่มนวล

            “ค่ะ ค่ะ” ฉันยื่นแบงก์ที่เตรียมหยิบเอาไว้ตั้งนานแล้ว  ยื่นให้เธอทันที  ฉันไปได้รึยังเนี่ยยย ..

            “โอเคมั้ยคะ  .. แสบร้อนมั้ย  คุณลลิตาต้องการครีมบำรุงมั้ยคะ  ตัวนี้จะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน  ช่วยให้ผิวบอบบางนุ่มชุ่มชื้นด้วยค่ะ” หล่อนหยิบครีมกระปุกหนึ่งออกมาจากทางด้านหลัง  ยื่นให้ฉันทำให้ฉันยังต้องยืนอับอายอยู่กับที่ 

              ให้ตาย .. ให้ตายย

            “ไม่ค่ะ  ขอบคุณค่ะ .. เอ่อ  ..  เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ”

            “ของคุณลลิตาเรียบร้อยค่ะ”

            “ขอบคุณค่ะ” ฉันหันหลังกลับออกมา  และรีบจ้ำอ้าวออกมาจากที่แห่งนั้นโดยทันที  ก่อนประตูจะปิดลงฉันได้ยินเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น  ตะโกนตามหลังมาว่า  “ขอบคุณค่ะ .. แล้วพบกันครั้งหน้านะคะ” 

            ไม่ค่ะขอบคุณ! ฉันตอบเธอกลับไปในใจ

            ฉันเดินรี่ไปหลบหายใจอยู่ตรงมุมอาคาร  เหลือบมองกลับไปในคลินิกนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น  จะมีคนแอบมองตามฉันมารึเปล่านะ .. ป่านนี้เขาคงรู้กันทั่วแล้วมั้งเนี่ย  ว่าฉันชื่อ ลลิตา  .. ผู้หญิงที่เข้ามากำจัดขนน้องสาว ฉันอยากจะบ้าตายย

            แต่ขณะที่ฉันมองกลับเข้าไป  พบว่าไม่มีสายตาคู่ไหนเลยที่มองตามฉันมา  สาว ๆ ในคลินิกสีม่วงสดใสแห่งนั้น  ต่างก็ก้มหน้าก้มตาอยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเองกันทั้งนั้นเลย

            เฮ้อ! .. นิสัยกังวลเกินเหตุของฉันแผลงฤทธิ์อีกแล้ว 

            ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครมองตามมา  แล้วก็พาตัวเองเดินออกมาจากมุมมืด  เดินไปซื้อชาไข่มุกปลอบใจสักแก้วก่อนกลับ

            ว่าแต่ .. ตอนเดินมันก็แปลก ๆ อยู่นะ  เวลามันโล่งเตียน  เรียบเนียนไปหมดแบบนี้  ฉันไม่ชินเลย  (น้องสาวของฉันยังคงเอาผ้าคุมหัวอับอายไม่เลิก)

            ฉันเดินดูดชาไข่มุกอย่างชื่นใจเป็นที่สุด  ของหวานเท่านั้นที่ช่วยเยียวยาฉันได้  พลางคิดไปถึงคำทำนายของแม่หมอคนนั้นเมื่อสัปดาห์ก่อน

            “แม่หนูกำลังจะได้เจอเนื้อคู่” หญิงมีอายุ  หน้าตาใจดี  ผมตัดสั้นรองทรง  ใส่ต่างหูห่วงใหญ่สีทองถ่วงหูของเธอให้ยานลงมาเล็กน้อย  สายตาเธอจับจ้องที่ไพ่ทาโร่ต์ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าพร้อมเอ่ยทายทักชะตาชีวิตของฉัน

           

            “จริงเหรอคะ”  เธอรู้ได้อย่างไร  ว่าฉันมาดูดวงเพราะเรื่องนี้  ฉันยังไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไปเลย

            ฉัน  ลลิตา  ทำงานเป็นบรรณารักษ์ในหอสมุดใหญ่ของเมืองหลวง  เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวคุณหมอ  พ่อแม่ของฉันท่านเป็นหมอทั้งคู่  และความเก่งกาจของสองคนนั้นดูเหมือนจะไม่ถ่ายทอดมาให้ฉันแม้แต่นิดเดียว 

            ถ้าดูจากความจริงในปัจจุบันน่ะนะ  ตอนนี้ฉันอายุ 25 ปีแล้ว  อาศัยอยู่ในคอนโดส่วนตัวที่พ่อแม่ซื้อให้  แหงอยู่แล้วลำพังเงินเดือนบรรณารักษ์ซื้อคอนโดใหญ่ขนาดนี้ที่ฉันอยู่ไม่ไหวหรอก  แต่แม่ก็ยืนกรานจะให้ฉันอยู่ที่นี่ให้ได้  ฉันขับรถไม่เป็นเพราะนิสัยขี้กังวลเกินเหตุ  เงินเดือนของฉันหมดไปกับหนังสือ  ถึงแม้ว่าฉันจะทำงานอยู่ในหอสมุด  แต่ฉันก็ชอบสะสมหนังสือมากเหลือเกิน  ฉันเพื่อนน้อย    และ .. ยังไม่เคยมีความรัก

            ฉันกำลังคิดว่า .. ฉันเป็นคนแปลกหรือเปล่า ? 

           คนรอบกายบอกว่าฉันก็เป็นคนสวยคนหนึ่ง  เพื่อน ๆ ต่างอิจฉาที่ฉันกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน  ฉันจึงได้ครองตำแหน่ง  สาวงามประจำกลุ่ม  ( ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอวดอ้าง  เพียงแต่กำลังครุ่นคิดและทบทวนเท่านั้น ) ที่จริงแล้ว  .. ตรงจุดนี้ทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย  เวลาที่คิดว่า  ฉันเองอาจจะเป็นคนแปลกขึ้นมาจริง ๆ  อย่างน้อยก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง

            จะว่าไปมีคนเข้ามาจีบฉันเยอะมากทีเดียว  และบอกตามตรงว่า  ฉันก็ไม่เคยปฏิเสธ  แต่หลังจากที่ลองเดทกันดูครั้งสองครั้ง  คนพวกนั้นก็หายต๋อมไปเลย

            ฉันกำลังสงสัยว่า ..

           

            ฉันอาจจะเป็นประเภท 

            ‘ผู้หญิงน่าเบื่อ 

            ก็คงอย่างนั้น .. ทำอย่างไรได้  ฉันไม่ชอบเที่ยวกลางคืน  ฉันชอบหมกตัวอยู่ในห้องสมุด  ฉันสามารถอยู่กับหนังสือเล่มหนาได้เป็นวัน ๆ โดยไม่รู้สึกหิวข้าวหิวน้ำเลยด้วยซ้ำ 

            แถมฉันแต่งตัวเชยสะบัด  ( ลิลลี่เพื่อนรัก  เธอบอกกับฉันอย่างนั้นเสมอเลย )

            หลังจากที่ฉันได้ยินคำทำนายจากแม่หมอที่นั่งอยู่ตรง หน้าในตอนนั้น  ฉันก็ยืดหลังให้ตรงขึ้น  สูดลมหายใจเข้า  แล้วถามเธอไปเป็นคำถามแรกตั้งแต่นั่งฟังเธอทำนาย

            “เมื่อไหร่คะ?” ฉันถามเธอเสียงเบาเกินไปนิด  น้ำเสียงฟังดูแปล่งเกินไปหน่อย  ฉันมีน้ำเสียงแบบนี้ด้วยหรือ  .. ฉันก็พึ่งรู้

         “อีกไม่นาน” เสียงเธอต่ำแต่สงบเย็น 

            ลมพัดมากระทบฉัน  ผมฉันปลิวไสว  ลมมาได้อย่างไรฉันก็ไม่รู้  เพราะสถานที่ที่ฉันนั่งอยู่  มันเป็นห้องกระจก 

             ฉันขนลุกซู่!!   

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
15
บทที่ 1 ทำนายทายทัก
“อา าาาาา ..” “อ้ ะ .. ลึ ก ไ ป แ ล้ ว” “โอว ..” “หยุดก่อนค่ะ! ..” “อะ เอ่อ .. ขอโทษทีนะคะ .. มันเสียวน่ะค่ะ” ฉันรู้สึกร้อนผ่าว ๆ หน้าแดง ตัวแดงไปหมดจากการอับอายต่อเหตุการณ์เมื่อครู่นี้อย่างมาก .. ตอนนี้ฉันจะหายตัวไปเลยได้มั้ยนะ เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยโอนเอาก็ได้มั้ง ไม่หรอกเขาคงไม่ยอม ก็ฉันตัดสินใจขอเพิ่มเองนี่นะ โอ๊ย!! ฉันนี้มันบ้าจริง ๆ เลย .. ฉันหัวเสียหนัก นึกด่าตัวเองในใจ ถึงความกล้าบ้าบิ่นของฉันในครั้งนี้เหลือเกิน ขณะที่ฉันนั่งหลบมุม เอียงคอ หลับตาปี๋ให้โลกอยู่นั้น เสียงสดใสของใครคนหนึ่งก็ตะโกนเรียกชื่อฉันจนได้ “คุณลลิตาค่ะ” เรียกเบา ๆ ก็ได้มั้ย ฉันไม่ต้องการให้ใครต่อใครรู้ชื่อฉันนะ ฉันสบถในใจเบา ๆ “คะ ค่ะ” ฉันเดินตาละห้อย อับอาย ไปที่เคาน์เตอร์สีขาวด้านหน้า ผู้หญิงผมทองหน้าตาบูดบึ้ง ดูไม่มีกะจิตกะใจทำงาน ร้องเรียกฉันแล้วก้มหน้าก้มตาเขียนแผ่นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แข็ง ๆ เธอเงยหน้าขึ้น พอเห็นหน้าฉันสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปทันที อ่อ .. จิตวิญญาณในก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2 ลูกสาวคุณยาย
ฉันรีบเร่งออกจากคอนโดในเช้าวันจันทร์ อันที่จริงฉันก็รีบเร่งทุกวันนั่นแหละ ฉันไม่ใช่คนตื่นสาย เป็นเพียงคนประเภทเอ้อระเหยมากกว่า ตื่นมาก็มีเรื่องให้ทำเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด หลังลุกจากที่นอน เดินสะโหลสะเหลไปกดกาน้ำร้อนชงกาแฟแล้ว ก็ต้องอ่านหนังสือหน้าที่ฉันคั่นเอาไว้ต่อจากเมื่อคืนให้จบ แต่บางทีกว่าจะจบบทมันก็ใช่เวลาน่ะ .. ฉันเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้เวลาต้องออกแล้ว แต่มันยังไม่จบบทนี่นา จะให้ทำอย่างไรได้ ฉันเลยเลือกที่จะเร่งรีบทีหลัง ขอแค่อ่านบทนี้ให้จบเสียก่อนเท่านั้นเอง วันนี้ก็เหมือนกัน ฉันวิ่งซอยเท้าไปขึ้นรถไฟฟ้าหน้าคอนโด แตะบัตรโดยสารได้ก็กระหืดกระหอบปีนบันไดขึ้นไป พอขึ้นไปได้แค่ครึ่งทางก็ได้ยินเสียงรถไฟแล่นเข้าชานชาลาพอดี ขาผอมแห้งของฉันนึกอยากจะชะลอความเร็วลง ปล่อยให้รถไฟขบวนนี้ผ่านไปก่อนก็ได้ แต่หัวใจนักสู้ของฉันมันไม่ยอม บังคับขาเล็กจ้อยให้ก้าวขึ้นไปจนทันขบวนนั้นจนได้ โอ้วว .. คุณพระ ฉันเหนื่อยตั้งแต่เริ่มวันเลยล่ะ ขบวนรถไฟในตอนเช้าก็แน่นอย่างที่คิดนั่นแหละ ชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้ก็ต้องทำใจ นอกจากจะ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3 สมบัติล้ำค่า
หลังเลิกงาน ฉันออกจากที่ทำงานได้ก็มุ่งตรงไปที่บ้านคุณยาย ซึ่งตอนนี้เป็นบ้านของพี่กิ๊งไปแล้ว ฉันจำทางไปที่นั่นได้อย่างแม่นยำ เพราะฉันไปนั่งกินข้าวเป็นประจำ คุณยายท่านเอ็นดูฉันมาก ตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ ๆ คุณยายก็เป็นคนคอยสอนงานต่าง ๆ ให้ฉันเสมอ ท่านใจดี อยู่ด้วยแล้วสงบเย็น ฉันจึงรักและเคารพคุณยายอย่างที่สุด นั่งรถไฟฟ้ายาวมาจนสุดสายก็ถึงปากทางเข้าบ้านของพี่กิ๊ง ฉันลงแล้วเดินต่อเข้าซอยไปอีกไม่นาน ก็ถึงบ้านเดี่ยวสองชั้นขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ประตูรั้วไม้สีน้ำตาลช่องถี่ปิดสนิท ฉันกดกริ่งแล้วยืนรอ ครู่เดียวเสียงรองเท้าเหยียบใบไม้แห้งก็เดินตรงเข้ามาที่ประตู ประตูเปิดออกพี่กิ๊งในชุดลำลองยืนยิ้มกว้างให้ฉัน ฉันเดินตามเธอเข้าไปในบ้านที่ฉันคุ้นเคย ระหว่างทางเดินเข้าไปในบ้านมองเห็นสวนดอกไม้ของคุณยายยังบานสะพรั่ง แม้จะไม่งามเท่าตอนที่คุณยายยังอยู่ แต่ก็ถือว่าพี่กิ๊งดูแลสวนดอกไม้ของคุณยายไว้ได้เป็นอย่างดี เดินเข้ามาในบ้านไม่มีคนอยู่ พี่กิ๊งเปิดเพลงดังไปทั่วบ้าน ฉันเดาว่าเธอคงจะเหงาที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว หลังจากหย่าขาดจากสาม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-28
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4 เพรียกหา
ฉันหยิบตำราเล่มนั้นขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่าถูกดึงดูด เป็นเพราะปกที่สวยงาม ฟอนต์ตัวอักษรโบราณที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน และมันก็เหมือนมีแรงพลังอะไรบางอย่าง ฉันก็เองก็ไม่รู้ได้ แต่ที่สุดแล้วฉันก็ถือหนังสือเล่มนั้นมานั่งที่เก้าอี้นวมกลางห้อง ฉันนั่งลงอย่างผ่อนคลาย เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบกอด รู้สึกว่ากำลังถูกต้อนรับอย่างอบอุ่น ฉันยิ้มให้กับอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกไปอย่างนั้น นิ้วมือของฉันยังคงลูบไล้ที่หน้าปกอย่างต่อเนื่อง ฉันขออนุญาตคุณยายอีกครั้งในใจแล้วพลิกหน้าปกเปิดออก กระดาษรองปกก็มีตัวอักษรเดียวกันกับหน้าปกเช่นกัน TAROT กระดาษข้างในมีลักษณะเป็นกระดาษโบราณสีน้ำตาลอ่อนแต่บางจุดก็เข้ม อาจเป็นเพราะเป็นตำราเก่ากระดาษก็แปรสภาพไปตามกาลเวลา แต่คุณยายรักษาหนังสือเอาไว้อย่างดี โดยรวมแล้วจึงถือว่าเป็นตำราเก่าแก่ที่สภาพสมบูรณ์มากทีเดียว ฉันพลิกหน้าต่อไป โอวว .. ตำนานของไพ่ทาโรต์ ฉันหลับตาสงบนิ่งแล้วนึกอยากหายตัวกลับไปอยู่ที่คอนโดของตัวเองเสียเลยในตอนนี้ ฉันอยากใช้เวลาทั้งค่ำคืนนี้จมไปกับหนั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-06-28
อ่านเพิ่มเติม
บบที่ 5 สวัสดี .. คุณผู้หญิง
นั่นอะไรน่ะ! .. ลำแสงสว่างแวบขึ้นตรงหน้าของฉัน แสงนั้นจ้าขึ้นแรงมากเสียจนฉันต้องหรี่เปลือกตาลงตามสัญชาตญาณ พลันเสียงเพลงในบ้านที่เปิดก้องทั่วบ้านอยู่เมื่อครู่นี้ก็เงียบหายไป ฉันรู้สึกว่าบ้านกำลังหมุน นี่ฉันหิวจนจะเป็นลมไปแล้วหรือไงนะ ฉันยังไม่รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็กระตุกวูบ ฉุดฉันผงะถอยหลังอย่างแรง หลังฉันชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่แข็ง แข็งมาก ๆ .. โอ๊ย!! ฉันร้องลั่น มันไม่ใช่เบาะนวมที่ฉันนั่งอยู่หรือ ถ้าเป็นเบาะที่ฉันนั่งมันต้องนุ่มสิ แต่นี่มัน .. เสาหิน! ตาฉันเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก เกิดอะไรขึ้น! แล้วห้องหนังสือของคุณยายหายไปไหนเสียแล้ว เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉัน หรือฉันเป็นลมไปแล้วจริง ๆ แล้วตอนนี้ฉันกำลังแหวกว่ายอยู่ในความฝันอย่างนั้นหรือ ฉันมองไปรอบ ๆ อย่างหวั่นใจ สถานที่แห่งนี้งดงามราวกับความฝันจริงเสียด้วย ที่ที่ฉันยืนอยู่ลักษณะเหมือนวิหารหินอ่อน มันใหญ่โตมโหฬารมาก ๆ มากกว่าที่ไหน ๆ ที่ฉันเคยอ่านหรือว่าพบเจอมาก่อน ที่แห่งนี้ ให้ความรู้สึกเง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6 ดินแดนแห่งความหวัง
“ สวัสดีขอรับ .. คุณผู้หญิง ขอต้อนรับสู่ ดินแดนแห่งความหวัง ” ฉันสับสนมากกว่าเดิมเสียอีก นี่มันหมายความว่าอย่างไรที่ว่า ดินแดนแห่งความหวัง ฉันตายเสียแล้วหรือนี่ ? .. มีอีกหลายสิ่งมากมายที่ฉันยังอยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำเลย จู่ ๆ ฉันก็ย้ายมาอีกภพหนึ่งเสียแล้ว พ่อกับแม่ของฉันล่ะ ฉันยังไม่ได้ร่ำลาท่านเลย ฉันนึกเสียใจไปต่าง ๆ นานา น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าตาทั้งสองของฉัน จมูกเริ่มแสบแดง ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาและเริ่มทรุดลงนั่งร้องไห้ “ขอประทานอภัยขอรับคุณผู้หญิง หากข้าทำให้ท่านเสียใจ โปรดอภัยให้ข้าด้วย” เจ้ากระต่ายน้อยยืดตัวขึ้นเต็มตัว แต่ตัวก็ยังเล็กเท่ารองเท้าบูทอยู่ดี ฉันซับน้ำตาแล้วเงยหน้ามองเจ้าตัวเล็ก ขนปุยตรงหน้า "นี่ฉันตายแล้วเหรอคะ” ฉันถามด้วยภาษาของตัวเองออกไปอย่างเจ็บปวด “มิได้ขอรับ คุณผู้หญิงยังมีชีวิตอยู่ขอรับ” ดวงตาของเจ้ากระต่ายมันวาว จ้องฉันอย่างขบขำแต่สำรวมกิริยา “จริงเหรอคะ ถ้าอย่างนั้น ที่นี่ที่ไหน แล้วฉันมาที่นี่ได้ยังไง แล้วจะกลับได้ยังไงคะ” ฉั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7 เรื่องจริงหรือเปล่า
ฉันวิ่งตึงตังลงมาข้างล่างด้วยความเร็วสูง ไม่ได้ยั้งส้นเท้าอย่างที่แม่เคยพร่ำสอนไว้เลยแม้แต่นิดเดียว พร้อมหอบหิ้วหนังสือศาสตร์แห่งการพยากรณ์โดยไพ่ทาโร่ต์เล่มหน้าเตอะลงมาด้วย เสียงเพลงในบ้านกลับมาดังเหมือนเดิมแล้ว “พี่กิ๊ง .. พี่กิ๊งคะ” ฉันวิ่งหน้าตั้งพลางตะโกนร้องเรียกพี่กิ๊งไปด้วย จนในที่สุดก็ถึงห้องครัว ฉันหอบแห่ก “หือออ .. มีอะไรน้องตา ทำไมหน้าตื่นมาแบบนั้นล่ะ” พี่กิ๊งกำลังตักน้ำซุปควันฉุยใส่ถ้วยสองถ้วย ที่มีเส้นอุดงวางขดไว้แล้วเรียบร้อย เงยหน้ามามองฉันอย่างฉงนใจ ฉันยืนก้มหน้าเอามือเท้าไปที่เข่าหนึ่งข้าง แขนอีกข้างอุ้มหนังสืออยู่ หายใจหอบถี่ “นี่กี่โมงแล้วคะเนี่ยยย หนูอยู่ข้างบนนานเท่าไหร่แล้วเหรอคะ” ฉันถามพร้อมพยายามบังคับลมหายใจให้เป็นจังหวะ “ตอนนี้เหรอ .. แหมไม่รู้สิ มือถือพี่อยู่บนโต๊ะตรงนู้น ให้พี่เดาคงน่าจะประมาณ 30-40 นาทีมั้งจ๊ะ ปกติพี่ก็ทำอุด้งใช้เวลาประมาณนี้แหละ” เธอโรยต้นหอมญี่ปุ่นซอยลงไป กลิ่นหอมยวนใจมาก ฉันที่ยังยืนอึ้งไม่หาย พี่กิ๊งก็พูดแทรกข
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8 กลอนบทนั้น
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อย่างอ่อนเพลียทั้งที่เมื่อคืนเข้านอนเร็วกว่าปกติตั้งหลายชั่วโมง เพราะไม่ได้อ่านหนังสือลากยาวอย่างที่ทำเป็นประจำ แต่ทำไมเช้านี้ฉันถึงปวดเมื่อยไปทั้งตัวก็ไม่รู้ ฉันลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจไปมา หันหน้าไปเจอหนังสือปกหนาดูเก่าแก่และมีมนตร์คลังวางอยู่บนโต๊ะหนังสือ ฉันก็เข้าใจได้ในทันที และไม่ว่าเหตุการณ์ในห้องหนังสือของคุณยายจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือว่าฉันแค่มโนไปเอง แต่ดูเหมือนฉันได้ใช้พละกำลังที่มีอยู่ไปมากมายเหลือเกิน และตัวฉันก็กระแทกนั่น กระแทกนี่ทั้งขาไปและขากลับในความฝันนั้น เมื่อหาเหตุผลได้แล้ว ฉันก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมออกไปทำงาน เช้านี้คงจะเป็นเช้าแรกที่ฉันจะแค่ชงกาแฟดื่มโดยที่ไม่ได้แตะอ่านหนังสือเล่มไหนเลยก่อนออกเดินทาง เมื่อกาแฟอึกสุดท้ายไหลลงคอ ฉันก็พร้อมเริ่มวันใหม่แล้ว ขณะนั่งรถไฟฟ้า ไม่ใช่สิ! .. ขณะที่ฉันยืนบนรถไฟฟ้า ไปทำงาน ใจก็นึกทวนกลอนบทนั้นอยู่ขึ้นมาอีก ตาต้องตาสบพักตร์ แปลว่าการที่คนสองได้มาพบเจอกันสินะ .. ใช่มั้ย? ฉันพยายามแปลภาษาโบราณที่กวีชอบใช้เวลาเขีย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9 รุ่นพี่
ฉันสะดุ้งตื่นด้วยเสียงจากนาฬิกาปลุกเพื่อนยาก .. โอ๊ย .. ให้ตายย! ฉันเผลอหลับไปหรอกหรือนี่ ไม่น่าเลยคิดเอาแท้ ๆ ว่าจะอ่านให้หนำใจมาหลับไปเสียได้อะไรกัน สงสัยฉันคงเพลียสะสมละมั้ง จะว่าไปหลังฉันยังระบมอยู่เลย คิดแล้วก็เอื้อมมือไปลูบหลังที่ยังรู้สึกปวดร้าว “น้องตา .. ช่วยหันหน้ามาทางนี้หน่อยสิลูก” หญิงชราหน้าตาใจดี ผมเทาแซมขาวรวบเป็นมวยต่ำไว้ที่ท้ายทอย หลังของเธององุ้มแต่ขยับเขยื้อนตัวได้อย่างคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง “คะ" ฉันหันหน้าไปหาเธอ พลางเขยิบเก้าอี้กระดึ๊บ ๆ เข้าไปให้ใกล้ตามคำขอ “ไหนดูสิ” หญิงชราจับปลายคางของฉันเบา ๆ เลื่อนไปซ้ายทีขวาที เพ่งพิจารณาใบหน้าของฉันด้วยสายตาที่อบอุ่น ฉันรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก คุณยายของฉันเสียไปตั้งแต่แม่ยังสาว ฉันจึงไม่มีโอกาสได้รับความรู้สึกเช่นนี้ หัวใจฉันพองโตด้วยความปีติ “อะไรเหรอคะ” ฉันถามและแย้มยิ้มให้หญิงชราที่ฉันเคารพรัก “น้องตาเป็นเด็กมีวาสนาดีนะรู้มั้ย ..” เธอพูดน้ำเสียงอบอุ่นกินใจฉันเสียจริง ทำฉันยิ้มกว้างตอบกลับไปทันที “วัน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 10 กลับมาแล้ว
ช่วงนี้ฉันหมกมุ่นอยู่กับตำราเล่นนั้นมากเหลือเกิน ทุกเย็นเมื่อเลิกงานฉันจะรีบตาลีตาเหลือกกลับคอนโด ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรีบอะไรนักหนา เพราะถึงอย่างไรฉันก็ไม่มีนัดกับใคร ไม่ต้องคอยทำอาหารปรนนิบัติใครทั้งสิ้น ฉันก็มีเพียงแค่ตัวฉันเองคนเดียว ขนาดลิลลี่เพื่อนรัก โทรมาชวนออกไปดินเนอร์ (เธอบอกกับฉันแบบนั้น ) ฉันยังบอกปัดเธอไปเลย ว่าช่วงนี้ฉันยุ่ง .. แล้วลิลลี่เพื่อนรักก็สวนกลับทันควัน ว่าฉันไม่มีทางยุ่งได้หรอก ซึ่งนั่นก็จริง เพราะเธอรู้จักวงเวียนชีวิตอันเรียบง่ายของฉันดี แต่เธอก็ไม่เซ้าซี้ต่อแล้วบอกว่าจะรอให้ฉันออกปากชวนเองก็แล้วกัน นี่แหละเธอจึงเป็น ลิลลี่เพื่อนรักตลอดกาลของฉัน ตำแหน่งนี้ฉันยกให้เธอคนเดียว เมื่อมาถึงคอนโดฉันก็เร่งรีบจัดการธุระส่วนตัว ถึงฉันจะอยากฉวยหนังสือออกมานั่งอ่านสักเพียงใด แต่ฉันก็มีนิสัยต้องอาบน้ำก่อนขึ้นเตียงนอนทุกครั้งหลังกลับจากข้างนอก และฉันไม่เคยทำลายกฎที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเลยสักครั้ง ฉันรักความสะอาดสุด ๆ บางทีสิ่งนี้อาจจะมาจากการเป็นลูกสาวของคุณหมอทั้งสองก็เป็นได้ เมื่อเร
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-07-11
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status