Home / โรแมนติก / ทาโร่ต์ ทำนายรัก / บบที่ 5 สวัสดี .. คุณผู้หญิง

Share

บบที่ 5 สวัสดี .. คุณผู้หญิง

Author: PIMCHADA W.
last update Last Updated: 2025-07-11 12:32:23

         

             นั่นอะไรน่ะ! ..

             ลำแสงสว่างแวบขึ้นตรงหน้าของฉัน  แสงนั้นจ้าขึ้นแรงมากเสียจนฉันต้องหรี่เปลือกตาลงตามสัญชาตญาณ  พลันเสียงเพลงในบ้านที่เปิดก้องทั่วบ้านอยู่เมื่อครู่นี้ก็เงียบหายไป  ฉันรู้สึกว่าบ้านกำลังหมุน  นี่ฉันหิวจนจะเป็นลมไปแล้วหรือไงนะ  ฉันยังไม่รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้น  แล้วจู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็กระตุกวูบ  ฉุดฉันผงะถอยหลังอย่างแรง  หลังฉันชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่แข็ง  แข็งมาก  ๆ ..

             โอ๊ย!!  ฉันร้องลั่น  มันไม่ใช่เบาะนวมที่ฉันนั่งอยู่หรือ  ถ้าเป็นเบาะที่ฉันนั่งมันต้องนุ่มสิ 

            แต่นี่มัน  ..  เสาหิน!

            ตาฉันเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก  เกิดอะไรขึ้น!  แล้วห้องหนังสือของคุณยายหายไปไหนเสียแล้ว  เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉัน  หรือฉันเป็นลมไปแล้วจริง ๆ แล้วตอนนี้ฉันกำลังแหวกว่ายอยู่ในความฝันอย่างนั้นหรือ 

            ฉันมองไปรอบ ๆ อย่างหวั่นใจ  สถานที่แห่งนี้งดงามราวกับความฝันจริงเสียด้วย  ที่ที่ฉันยืนอยู่ลักษณะเหมือนวิหารหินอ่อน  มันใหญ่โตมโหฬารมาก ๆ  มากกว่าที่ไหน ๆ ที่ฉันเคยอ่านหรือว่าพบเจอมาก่อน 

            ที่แห่งนี้  ให้ความรู้สึกเงียบสงบแต่ไม่วังเวง  ใจฉันที่เต้นแรงในตอนแรกนั้น  จู่ ๆ มันก็ลดระดับความตื่นตระหนกลงไปมากโข  มันสงบเสียจนฉันแปลกใจ  ราวกับว่ามันอยู่นอกเหนือคำสั่งของฉันไปโดยสิ้นเชิง   

            วิหารหินแห่งนี้  เป็นทางทอดยาวไปไกลจนสุดสายตา ด้านข้างมีเสาหินต้นใหญ่เรียงต่อกันเป็นแนวยาวเรื่อยไปตลอดทาง  เสาแต่ละต้นมีรูปปั้นประจำเสาแตกต่างกันออกไป  มันสูงจนฉันยังไม่ได้เพ่งพินิจให้ดีว่ามันเป็นรูปร่างอะไรกันแน่ 

            ที่นี่ที่ไหน  ไม่มีคนอยู่เลยอย่างนั้นหรือ?  ..

            “ สวัสดีค่ะ  เอ่อ ..  มีใครอยู่มั้ยคะ? ”  ฉันไม่รู้ว่าฉันเอ่ยถามไปกับใคร  และไม่รู้ว่าฉันหวังจะได้ยินอะไรตอบกลับมาหรือเปล่า  การที่มันยังคงเงียบงันอยู่อย่างนี้  กับการมีเสียงใครบางคนตอบกลับมา  อันไหนฉันจะสบายใจมากกว่ากันนะ  ..

            ฉันยังนึกสงสัย .. 

            แต่ไม่ทันได้หาคำตอบในใจตัวเอง  ฉันก็ก้าวขาออกเดินไปข้างหน้าเป็นก้าวแรก

            ทุกอย่างเงียบสงบ  ไม่มีแม้แต่เสียงใบไม้ไหว  หรือเสียงแมลงสักนิดก็ไม่มีเลย  ฉันลองหยิกตัวเองที่ท้องแขนดูสักครั้ง 

             โอ๊ย .. เจ็บชะมัดเลย

            แล้วพลันนึกได้ว่าตอนขามาฉันก็เจ็บพอดูอยู่แล้ว  นั่นทำให้ฉันหัวเสียขึ้นมานิดหน่อย  ได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่  ขาฉันก็ก้าวไกลออกไปเรื่อย ๆ  ข้างกายยังคงเป็นเสาหินต้นใหญ่ทอดยาว  พื้นที่ฉันเหยียบอยู่ขณะนี้ก็เป็นหินอ่อนที่มีลวดลายผสมผสานงดงามยิ่งนัก 

            สายลมอ่อนโชยแผ่วมากระทบแก้มของฉัน  มันพัดพาเอาความสดชื่นอย่างที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อนมากับมันด้วย  ฉันตั้งใจจะสูดลมหายใจให้ลึกที่สุด  อยากเก็บอากาศบริสุทธิ์เช่นนี้เอาไว้ให้มากที่สุดเลย  โดยลืมไปว่าพอฉันหายใจออกมันก็หายไปแล้ว  .. เสียดายจริง

            ฉันมองลอดระหว่างเสาหินออกไปทางขวามือ  มองเห็นว่ามีสวนไม้ประดับสีเขียวชอุ่มอยู่ด้วย  ฉันจึงไม่ลังเลเดินตัดผ่านช่องเสาหินออกไปที่สวนแห่งนั้นทันที 

            ฉันก้าวลงไปที่พื้นดิน  จะว่าเป็นพื้นดินก็ไม่ถูกนัก  เพราะมันถูกปูทับด้วยหินกรวดสีขาวเม็ดเล็ก  ละเอียดมาก  เม็ดของมันไม่ได้เล็กเท่ากับเม็ดทราย  แต่ก็ละเอียดกว่ากรวดที่ฉันเคยเห็นมาทั้งชีวิต  พอรองเท้าของฉันสัมผัสลงไปบนกรวด  มันกลับนุ่มเหมือนไม่ใช่กรวด  ฉันลองขยี้รองเท้าดูเล็กน้อย  .. แต่มันไม่เกิดเสียงอะไรเลย 

            เป็นไปได้หรือ?  .. เหยียบไปบนกรวดแล้วกลับไม่มีเสียงของแข็งบดกัน

            ฉันฉงนใจถึงกับเอียงคอ  จังหวะนั้นฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังแว่วออกมาจากด้านในสวนแห่งนั้น  ฉันมองตามต้นเสียงนั้นไป   ยังไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตสักชนิดเลยในบริเวณรัศมีรอบกายฉัน  เดินลึกเข้าไปในสวน  มีไม้ยืนต้นสูงตระหง่าน  ใบไม้เขียวขจีไปทั่วสวน 

            มีพันธุ์ไม้เลื้อยที่ฉันไม่รู้จักอีกหลากหลายสายพันธุ์  การที่ฉันไม่รู้จักพันธุ์ไม้มันก็ไม่แปลกเท่าไหร่นักหรอก  ฉันเป็นประเภทลงมือปลูกอะไรก็ตายเกลี้ยง  ฉันจึงสรุปว่าฉันไม่เหมาะจะดูแลพวกมัน  แต่นั่นไม่ได้แปลว่าฉันไม่ชอบต้นไม้นะ 

            ฉันแค่มือร้อนน่ะ .. มือร้อน 

            ฉันกวาดตามองไปทั่ว  พยายามเงี่ยหูฟังหาที่มาของ เสียงให้ได้  คิดในใจว่าจะลองส่งเสียงดูอีกสักครั้งดีมั้ย?  .. 

            แต่สัญชาตญาณการป้องกันตนเองของมนุษย์บอกฉันว่า 

อย่าดีกว่า        

            ฉันจึงเดินไปเงียบ ๆ  ตั้งใจจะรู้ให้แน่ชัดก่อนว่าเสียงนั้นมาจากตัวอะไร  หรือใครกันแน่  ก่อนที่ฉันจะแสดงตัวให้อีกฝ่ายได้รับรู้

            ยิ่งเดินลึกเข้าไป  ฉันยิ่งได้ยินต้นเสียงชัดขึ้น  ชัดขึ้น .. มันฟังดูเหมือนเสียงกระดาษแข็งกรีดกระทบกัน  เอ๊ะ! .. หรือเสียงกระพือปีก  เสียงอะไรกันแน่นะ  ฉันย่องเข้าไปอีก 

             ดีที่หินกรวดใต้รองเท้าของฉันไม่ส่งเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย  แถมยังนุ่มเท้าเสียจนฉันต้องคอยมองว่า  ฉันเหยียบอยู่บนมันแน่หรือ  แต่ถึงจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาอย่างไร  ฉันก็ยังคงเดินย่องราวกับเป็นแมวขโมย  ถ้าบังเอิญมีใครมาเห็นเข้าคงต้องคิดอย่างนั้นไม่ผิดแน่

            ลมพัดผมฉันปลิวไสว  มันชื่นใจมากจนฉันแทบอยากนั่งลงแล้วเอนกายพักผ่อนเสียให้ชุ่มปอด 

             ลมอะไรหนอ  ..  ถึงได้ชื่นใจอย่างนี้ 

            อากาศก็แสนจะเย็นสบาย  เวลาลมพัดมามันก็หอบเอากลิ่นของใบไม้ใบหญ้า  กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์มาด้วย  ฉันแทบอยากพนมมือขอให้เวลาหยุดเดิน  แล้วขอซึมซับกับความสวยสดงดงามของธรรมชาติแห่งนี้ไปตราบนานเท่านาน

            ระหว่างที่ฉันเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติที่รายล้อมรอบตัวของฉันอยู่  ขาของฉันก็ยังคงก้าวต่อไป  ฉันเห็นว่ามีกำแพงต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งขวางทางอยู่  ฉันจึงเดินเบนออกขวาไปอีกเล็กน้อย  พบว่ามีช่องทางเดินเข้าไปยังที่ใดที่หนึ่งหลังกำแพงนั้น

            เสียงตีปีก  พึ่บพั่บ  .. ยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง  ขาฉันรู้ใจมันเดินย่องเบามากขึ้นกว่าเดิม  หัวใจของฉันในสถานการณ์แบบนี้มันควรเต้นระส่ำไม่ใช่หรือ  แต่มันกลับสงบนิ่ง  ราวกับว่ามันกำลังบอกให้ฉันรู้ว่า  ฉันจะปลอดภัย 

            ฉันเอื้อมมือจับไปที่ขอบกำแพงต้นไม้นั้น  ยื่นหน้าเข้าไปดูว่าต้นเสียงที่ทำให้ฉันฉงนใจนั้นมาจากไหนกันแน่ 

           

            แล้วฉันก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง !!

            กระต่ายน้อยหูตั้งยาว  มีขนสีขาวทั่วตัว  สวมชุดทำจากผ้าขนนุ่มนิ่มสีน้ำตาลคลุมยาวทั้งแขนและขา  นั่งตัวตรงเป๊ะ  หันหลังกำลังทำอะไรบางอย่าง  แขนสองข้างของกระต่ายน้อยเข้าแล้วออก-เข้าแล้วออกเสียงดัง  ฟึ่บ ๆ ๆๆๆ  ตลอดเวลา 

            ฉันเบิกตาโพลง  กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่  แม้ว่าในคอจะแห้งผากแต่ฉันก็พยายามกลืนมันซ้ำแล้วซ้ำอีก  เสียงในหัวบอกฉันว่า  กระต่ายเป็นสัตว์โลกน่ารัก  ไม่มีพิษมีภัย  ฉันจึงทำใจดีเข้าไว้แล้วกระแอมออกไปเล็กน้อย

            “ เอ่อ ..  ส  สวัสดีค่ะ ” ฉันพยายามทำเสียงให้เป็นมิตรที่สุดแล้ว  ฉันบ้ามั้ยล่ะ .. ฉันกำลังพูดกับกระต่าย! 

            ก็จะให้ทำอะไรได้อีก  ฉันคงอ่านนิยายแฟนตาซีมากไปหรือบางทีอาจจะหวังลึก ๆ ในใจว่า  เจ้าของเจ้ากระต่ายน้อยตัวนี้อาจจะกำลังซุ่มดูฉันอยู่ก็เป็นได้นี่นา  ตอนนี้อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ

            สิ้นเสียงของฉันกระต่ายน้อยก็หยุดมือ  มันหยุดกระทำบางสิ่งที่กระทำมาตลอดตั้งแต่ฉันเดินตามเสียงมา  แล้วบรรจงวางบางสิ่งลงไปที่โต๊ะม้าหินตรงหน้ามัน  ฉันเดินอ้อมไปทางด้านหน้า  มันไม่เงยหน้าขึ้นมามองดูฉันเลยแม้สักนิด  ยังคงบรรจงวางบางสิ่งลงไปอีกครั้งและอีกครั้ง

            เมื่อฉันเดินมาประจันหน้าแล้ว  ฉันก็ผงะ .. เพราะสิ่งที่เจ้ากระต่ายน้อยบรรจงวางลงไปนั้นเป็น  ไพ่ทาโร่ต์  3  ใบ

            ฉันงุนงงเป็นที่สุด  ขยับขาเข้าไปใกล้  แล้วก็ต้องหยุด ชะงักเมื่อมันเอ่ยขึ้นมาในความเงียบระหว่างเรา

            “ เดอะสตาร์  เลิฟเวอร์  สองถ้วย ” เจ้าตัวน้อยกล่าวเสียงแหบเล็ก   สายตายังจับจ้องอยู่ที่หน้าไพ่  ทำราวกับกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่มีความสำคัญนัก

           นั่นมันพูดเป็นภาษาอะไรน่ะ! ..  ฉันไม่เคยได้ยินภาษาแบบนี้มาก่อน  แล้วทำไมฉันถึงเข้าใจและแปลมันได้ทุกคำเลย

            มันพูดได้!

            เข่าฉันสั่นกึก ๆ  ฉันควรพูดอะไรมั้ย  หรือควรจะเงียบไว้อย่างเดิม  หรือหันหลังแล้วรีบใส่เกียร์หมาดี 

            ขณะฉันกำลังค้นหาคำตอบอยู่ในใจ 

            เจ้ากระต่ายก็เอ่ยขึ้นมาอีก

            “ ตาต้องตาสบพักตร์    โอ้ความรักที่รอคอย

             ดารารายเคลื่อนคล้อย  คู่แท้พลอยพานพบเอย ”

            สิ้นเสียงแหบเล็ก  เจ้ากระต่ายน้อยก็เงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยดวงตาวาวเป็นประกาย  ตาของมันกลมโต  บ๊องแบ๊วน่ารักเสียจนฉันเผลอส่งยิ้มออกไปให้  มันยิ้มตอบฉันกลับมาอย่างน่าเอ็นดู  ชั่วอึดใจเจ้ากระต่ายยืนขึ้น  พลางค้อมหัวให้เล็กน้อยและผายมือออก  พร้อมเอ่ยเสียงดังฟังชัด

            “ สวัสดีขอรับ  .. คุณผู้หญิง

             ขอต้อนรับสู่  ดินแดนแห่งความหวัง ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 28 โลกของฉัน

    หลังจากเดินไปส่งเดฟที่บ้านตุ๊กตาของเขาแล้ว ฉันมีโอกาสได้พบลูน่าอีกครั้ง แถมครั้งนี้ได้เจอมาร์คัส เจ้ากระต่ายน้อยซุกซนกระโดดหยองแหยงไปมา รอบตัวฉันและเอเดน “ หวัดดีฮะๆ ” เขาพูดได้! มาร์คัสโดดเดินหน้าถอยหลัง อย่างร่าเริง ลูน่าจับหูสองข้างของลูกชายยกเขาลอยขึ้นอย่างแผ่วเบา อุ้งเท้าน้อยๆ ของเจ้ามาร์คัสยังคงตวัดป่ายไปมากลางอากาศ รอยยิ้มอันสดใสของเขา ช่วยทำให้จิตใจของฉันเบิกบาน แล้วเราทั้งหมดต่างร่ำลากันโดยดี ขณะเดินผ่านรั้วออกมาแล้ว ฉันก็เหลียวมองกลับไปยังที่บ้านกระต่ายหลังน้อยที่น่ารักหลังนั้น ฉันเอ่ยลาพวกเขาในใจอีกครั้งหนึ่ง ‘ลาก่อนค่ะเดฟ’ เอเดนกับฉัน เราเดินกลับมาที่วิหารหินด้วยความเงียบ ฉันรู้สึกปวดมวนในท้อง ไม่รู้ว่าการที่เขาตัดสินใจแบบนี้ มันจะเป็นผลดีกับฉันฝ่ายเดียวหรือเปล่า เขายอมทิ้งชีวิตที่วิเศษสุดของที่นี่ ตามฉันไปอยู่ในโลกที่ฉันเองก็ไม่ได้สันทัด หรือเชี่ยวชาญในการใช้ชีวิตอะไรเลย อยู่ที่นี่เขาจะแข็งแรง มีอายุยืนยาว อยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ อากาศก็ดีแสนดี บ้านเมืองงดงามราวเ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 27 สหายเพื่อนยาก

    เอเดนพาฉันเดินมาตามถนนที่แสงจันทร์ส่องสว่างอาบไล้ไปทั่วอย่างเคย สายลมยามราตรีพัดโชยเย็นสบาย ผมหน้าของเอเดนปลิวลู่ไปด้านข้าง เผยให้เห็นหน้าผากใสเนียน ขนาดมองด้านข้างเขายังงดงามไร้ที่ติเลย ฉันไม่รู้จะหาจุดบกพร่องจากบุรุษหนุ่มผู้นี้ได้จากที่ตรงไหน แล้วเหตุใดฉันจึงได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีอะไรอย่างนี้ ฉันกระชับมือที่จับกันกับมือของเอเดนอยู่ให้แน่นขึ้น เขาเองก็บีบมือตอบกลับมา เดินผ่านที่ราบกว้าง ริมทะเลสาบ มองไปสุดสายตาเห็นวิหารหินตั้งสูงเด่นเป็นสง่า เรากำลังจะไปบ้านของเดฟ เอเดนบอกฉันอย่างนั้น “วิหารนั้น เป็นที่ไว้สำหรับทำอะไรเหรอคะ” ฉันว่าจะถามมาตั้งนานแล้ว “อ่อ .. เป็นที่สำหรับต้อนรับผู้มาเยือนน่ะ ลิต้าที่รัก ท่านเองก็มีประสบการณ์จากวิหารนั้นมิใช่หรือ” เอเดนไขข้อข้องใจ “อย่างเดียวเลยเหรอคะ” “เท่านั้นก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญเพียงพอ” เขาเอ่ยทุ้มลึกกล่าวอย่างภาคภูมิใจ ไม่นานนักเราก็ผ่านสวนพันธุ์ไม้ที่เขียวชอุ่ม ที่ที่ฉันพบกับเดฟเป็นครั้งแรก ฉันมองเข้าไปด้วยความรู้สึกท่วมท้น

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 26 บทสรุปคำทำนาย

    เพียงคำเดียวที่ปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระ จากความทุกข์ทรมานทั้งปวง คำคำนั้นคือ “ รัก ” ซอโฟครีส นักเขียนบทละครชาวกรีก ฉันยกหูโทรศัพท์โทรหาแม่ รอสายอยู่นานสายก็ตัดไป ฉันนั่งเอนหลังพิงพนักที่มีเบาะบุขนรูปหน้าแมวสีชมพูอย่างสับสนในจิตใจ ฉันกำลังตัดสินใจว่าจะย้ายไปอยู่กับเอเดนที่โลกแห่งความหวังนั่นดีหรือเปล่า .. ทำไมจะไม่ดีล่ะ? .. เสียงในหัวของฉันดังขัดขึ้นมากลางปล้อง ก็เพราะฉันมีพ่อมีแม่อยู่ที่นี่ยังไงล่ะ ไหนจะลิลลี่เพื่อนรักของฉันอีก ฉันโต้เธอกลับไป ขณะเอานิ้วนวดขมับ เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น แพทย์หญิงผู้เพียบพร้อมของฉันโทรกลับมาหา “ไงลูกรัก” แม่ฉันกรอกเ

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 25 ชะตาเล่นตลก

    ฉันถูกแรงมหาศาลสลัดเหวี่ยงลงบนเตียงนอน หัวอยู่ปลายเตียง ขาฉันฟาดเข้ากับหมอนอิงใบใหญ่ โชคดีที่ไม่โดนหัวเตียงเพราะห่างจากปลายเท้าของฉันเพียงเส้นยาแดงเท่านั้น ครั้งนี้ฉันรู้สึกว่า ฉันเดินทางไปอยู่ที่นั่นนานกว่าทุกครั้ง แถมครั้งนี้ไปค้างคืนมาเสียด้วย จิตใต้สำนึกบอกให้ฉันลุกขึ้นไปคว้าโทรศัพท์มาเช็กดู เผื่อว่าฉันพลาดอะไรที่สำคัญไปหรือเปล่า ฉันปัดเปิดหน้าจออย่างชำนาญ เห็นข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอยู่สามสี่ข้อความ จากแม่ .. เป็นข้อความสวัสดีปีใหม่ จากพ่อ .. ข้อความเช่นเดียวกัน ถัดมาเป็นคนคุยคนเก่าที่ทิ้งฉันไปได้หลายปีแล้ว ส่งสติ๊กเกอร์มาทำไมฉันอ่านและลบออกทันที ส่วนข้อความสุดท้ายมาจากลิลลี่เพื่อนรัก ‘วันหยุดนี้ ทำอะไร ? โทรไปก็ไม่รับ โทรกลับมาด้วยนะ’ ฉันอ่านพลางจินตนาการน้ำเสียงประชดประชัน แต่จริงใจของ ลิลลี่เพื่อนรักของฉัน ฉันอยากโทรไปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังใจจะขาด แต่มันทำไม่ได้ ฉันอยากพาเธอกับครอบครัวไปอยู่ด้วยกันที่โลกแห่งความหวัง แต่ก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน เหนื่อยจัง ..

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 24 แยกกันอีกครั้ง

    “นางเป็นน้องสาวของลุคน่ะ ลิต้าที่รัก นางจิตใจดีและมีน้ำใจมากทีเดียว” เอเดนตอบคำถามของฉันอีกครั้ง “อ่อ ค่ะ” ฉันพึมพำ “เราขออย่างเดิม สามที่นะลุค ขอบใจ” เอเดนกล่าว “ไม่นานเกินรอ ท่านทั้งหลาย” หนุ่มรูปหล่อคนใหม่หายเข้าไปหลังบาร์ ฉันมองไปรอบร้าน ไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยมีเพียงแต่พวกเราเท่านั้น เสียงกระดิ่งประตูหน้าดังขึ้น ลมเย็นพัดโบกเข้ามา หญิงสาวหน้าตาสวยสะดุด กระโปรงสีเขียวมิ้นท์ของเธอปลิวไสวในสายลม ผมสีทองมวยต่ำ ตาสีฟ้าโตลึกคมเข้ม ฉบับสาวฝรั่งในนิตยสาร “เอเดน .. เดฟ อะไรดลใจท่านงั้นหรือ” เธอพูดจงใจมองหน้าเอเดน และฉันแปลมันออกทุกคำเลย “เจซี่ สวัสดี” เอเดนทักทายสุภาพ อ่อ! .. สาวงามคนนี้นี่เอง “สวัสดีขอรับ คุณผู้หญิง” กระต่ายน้อยที่นั่งอยู่ข้างซ้ายติดกระจกร้านเอ่ยทักทาย “ท่านหายไปนานเหลือเกิน ลุคกับข้าคิดว่าท่านทำตัวห่างเหิน” เจซี่พูดพลางไล่สายตามาหยุดอยู่ที่ฉัน เอเดนยิ้มรักษากิริยา เขาสง่างามเสมอเลย “โอ้ว .. ข้าไม่ทันสังเกตให้ดี ขออภัย

  • ทาโร่ต์ ทำนายรัก   บทที่ 23 ความทรงจำแสนหวาน

    เช้านี้ฉันลืมตาขึ้นมามองเห็นห้องที่ไม่คุ้นตา ฉันพลิกตัวนอนหงายอย่างเร็วและแรงมาก หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมากองอยู่นอกอก ฉันจับมันเอาไว้พยายามควบคุมจังหวะการหายใจของตัวเองอย่างยากลำบาก กว่าฉันจะระลึกชาติได้ว่าฉันนอนอยู่ที่ไหน และเมื่อคืนก่อนนอนฉันทำอะไรไปบ้าง เสียงมือจับประตูห้องนอนก็ถูกขยับกึกกัก ประตูเปิดผางออก ภาพงดงามปรากฏขึ้นตรงหน้า “สวัสดี .. จวนเที่ยงแล้ว ข้ากำลังจะเข้ามาปลุกท่านอยู่พอดีลิต้าที่รัก หลับอย่างเป็นสุขดีหรือไม่เมื่อคืนนี้” เอเดนสาวเท้าเข้ามาใกล้ฉันที่เตียงนอน “อย่าพึ่งเข้ามานะคะ” ฉันยกมือขึ้นห้ามเขา “ .. ” เขาหยุดกึก เลิกคิ้วอย่าฉงนใจ “ห้องน้ำอยู่ไหนคะ ฉัน .. อยากเข้าห้องน้ำ” “อ่อ .. เชิญทางนี้” เอเดนผายมือ และเดินนำฉันออกมาทางประตู เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกนิดหน่อยก็ถึงห้องหนึ่งที่ประตูปิดสนิท คงเป็นห้องน้ำอย่างไม่ต้องสงสัย ฉันเปิดและรีบแทรกตัวเข้าไปในนั้น ตามด้วยหันหลังกลับมาปิดประตูทันที “เดี๋ยวฉันตามลงไปนะคะ” ฉันตะโกน ฉันจะตะโกนทำไมเนี่ย เวลารู้สึกก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status