LOGIN
" ทิกเกอร์ลงเวรแล้วไปหาอะไรกินกันดีไหม ซาร่าหิวจนไส้กิ่วหมดแล้วเนี่ย เคสผ่าคลอดเมื่อกี้ก็ยากมากด้วยสงสัยต้องเยียวยาด้วยอาหารแจ่มๆสักมื้อแล้ว "
คุณหมอหนุ่มวัย 30 ปีอย่างทิกเกอร์ มาเอล หันหน้ามาหาเพื่อนสาวคนสนิทอย่างซาร่าเมื่อโดนเรียกจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมสัน จมูกโด่งเข้ารูปรับกับใบหน้า บวกกับผิวกายขาวละเอียดตามแบบฉบับคนดูแลตัวเองอย่างดี แม้เขาจะเป็นลูกเสี้ยวแต่ใบหน้านั้นออกไปทางลูกครึ่งเต็มตัวเมื่อมาอยู่ที่นี่ึจึงดูกลมกลืนเหมือนกับเป็นชาวต่างชาติ 100% ภายใต้ใบหน้าที่แสนหล่อเหลายังคงความเคร่งขรึมจนคนภายนอกที่มองเข้ามาบางคนนึกว่าเขาไม่มีหัวใจด้วยซ้ำ ใบหน้าที่แสนเรียบเฉย ไม่แสดงความรู้สึกใดๆแบบนี้มานานมากแล้ว จะมีก็แต่เพื่อนสนิทอย่างซาร่าและไมค์เท่านั้นพี่เจออาการแบบนี้ของเขาจนชินไปเสียแล้ว " ได้สิ เราเองก็กำลังหิวอยู่พอดี อีก 10 นาทีเราไปรับที่ห้องพักแล้วกัน " ห้องพักที่ว่าคือห้องพักของแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาล ซาร่าเพื่อนคนสนิทของทิกเกอร์ เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเลยมั้งที่เข้าใกล้เขาได้ พวกเขาทำงานแผนกเดียวกันมา 5 ปีแล้วหลังจากที่ซาร่าได้ย้ายเข้ามาที่โรงพยาบาลเอกชนที่นี่ " แล้วเอ่อ... " ซาร่าที่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆแต่เธอไม่ได้อยากไปกับทิกเกอร์แค่ 2 คนที่เธอชวนทิกเกอร์เพราะมีจุดมุ่งหมายอื่นต่างหากซึ่งทิกเกอร์ก็เข้าใจความต้องการของซาร่าดีจึงรีบบอกออกไป " หึ ไอ้ไมค์น่ะหรอ เดี๋ยวเราชวนมันไปด้วย หยุดทำหน้างอได้แล้ว " ทิกเกอร์บอกออกไปนั่นทำให้ซาร่ายิ้มแก้มแทบฉีก เธอชอบคุณหมอไมค์ชอบจนถึงขนาดลาออกจากโรงพยาบาลรัฐมาสมัครโรงพยาบาลเอกชนเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา และเธอก็ตีสนิททิกเกอร์เพื่อเป็นสะพานไปสู่เพื่อนของเขา ข้อนี้ทิกเกอร์พอจะรู้ดีและยินดีสนับสนุนถ้าหากเพื่อนทั้งสองคนจะชอบพอกันจริงๆ ยอมรับว่าถ้าเทียบแค่ภายนอกหมอไมค์รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่เท่าหมอทิกเกอร์เลยสักนิดแต่ซาร่าเธอเป็นพวกชอบของแปลกละมั้งคุณหมอไมค์ถึงได้เข้ามาวิ่งเล่นในหัวใจของเธอซ้ำๆ พวกเธอ 3 คนสนิทกันมากจนเธอไม่รู้เลยว่าไมค์คิดกับเธอมากกว่าเพื่อนเหมือนที่เธอคิดหรือเปล่า รู้แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่าหมอไมค์คงคิดว่าเธอชอบหมอทิกเกอร์ " งั้นเจอกันนะ " ซาร่าปลีกตัวออกมาเพราะตั้งใจจะไปเติมหน้าเติมปากเสียหน่อย ไม่ได้สิ แม้จะเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ผู้ชายทั้งสองคนเธอก็ต้องเป๊ะและดูดีเพราะผู้หญิงในเมืองนี้สวยๆเยอะแยะ เมื่อมาถึงร้านอาหารใกล้ๆกับโรงพยาบาลทั้งทิกเกอร์ ไมค์และซาร่าก็คุยกันอย่างออกรสออกชาติจนกระทั่งโทรศัพท์มือถือของทิกเกอร์ดังขึ้นมา และสายนี้สำคัญมากจะไม่รับก็ไม่ได้เด็ดขาด " ขอโทษทีว่ะเพื่อนสายนี้สำคัญมากไม่รับไม่ได้จริงๆ แป๊บนึงนะ ว่าไงคาซาร์ " ประโยคแรกคุณหมอทิกเกอร์คุยกับเพื่อนและประโยคหลังพูดกับน้องชายที่นานๆจะโทรมาหาเขาทีนึงและโทรมาเมื่อไหร่ก็ต้องมีเรื่องตลอดสิน่า เขาและน้องชายสนิทกันมากแต่ช่วงหลังๆคุยกันไม่กี่คำเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองบวกกับระยะทางที่ค่อนข้างไกล เขาอยู่อเมริกาส่วนน้องชายของเขาอยู่เมืองไทย " แม่ไม่สบายอีกแล้ว มึงกลับมาบ้านหน่อยได้ไหมวะ " คาซาร์มาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศพูดกับพี่ชาย สำหรับเขาถ้อยคำหวานหูแทบไม่ออกมาจากปากของเขาเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแต่ความจริงใจที่มอบให้กับทุกคน " มึงพูดกับพี่มึงดีๆซิ ว่าแต่คุณแม่เป็นอะไร " ทิกเกอร์ถามออกไปอย่างเป็นห่วงทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาโดนคุณแม่หลอกมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เคยเห็นเรื่องสุขภาพของท่านเป็นเรื่องเล่นๆสักครั้ง เมื่อมีคนโทรมาบอกข่าวเขาก็รู้สึกเป็นห่วงทุกครั้งนั่นแหละ " คราวนี้คุณแม่ป่วยกินแทบไม่ได้ อาการเหมือนคนตรอมใจนั่นแหละคงคิดถึงลูกชายมึงกลับมาเถอะสัก 2-3 วันก็ยังดี " คาซาร์ที่ไม่รู้จะหาประโยคไหนบอกออกไปดี คนแบบเขาโกหกไม่เก่งเสียด้วยแต่แม่ก็ชอบให้เขาโกหกไอ้ทิกเกอร์อยู่เรื่อย " เดี๋ยวกูจองตั๋วไปเย็นนี้เลย " ทิกเกอร์บอกกับน้องชายแม้ว่าจะรู้สึกว่าตัวเองอาจจะโดนหลอกอีกแล้วแต่ไปหาท่านบ้างก็ดี เพราะนานมากแล้วจริงๆที่เขาไม่ได้กลับบ้านด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้ แค่วีดีโอคอลหาคุณพ่อกับคุณแม่คงไม่พอจริงๆนั่นแหละ " มีเรื่องอะไรหรือเปล่าทิกเกอร์ " ไมค์ถามออกไปอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อน " กูต้องกลับบ้านด่วนว่ะ น้องชายกูบอกว่าแม่ไม่ค่อยสบาย กูฝากงานทางนี้มึงด้วยแล้วกัน ฝากด้วยนะซาร่า " ทิกเกอร์ฝากงานไว้กับทั้งสองคนเพราะอยู่ที่แผนกเดียวกัน ส่วนตัวเขาต้องรีบกลับไปเก็บกระเป๋าพร้อมกับลางานอย่างกระทันหัน " แต่อาทิตย์หน้ามึงจะได้เลื่อนตำแหน่งแล้วนะแล้วแบบนี้มึงจะมาทันหรอ ถ้ามึงไม่อยู่มึงจะถูกตัดสิทธิ์นะ " " นั่นสิ เสียดายโอกาสอุตส่าห์ตั้งใจเพื่อตำแหน่งนี้มาตั้งนานจะทิ้งไปง่ายๆแบบนี้เลยหรอทิกเกอร์ " ไมค์ถามพร้อมกับซาร่าที่พูดเสริมกันเพราะรู้สึกเสียดายกับช่วงเวลา ตำแหน่งนี้กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนทิกเกอร์ได้แต่ทำหน้าลำบากใจ ทางนี้ก็สำคัญแต่แม่ของเขาสำคัญกว่า " กูคงไม่ได้อยู่รับหรอก ถ้ากูไม่ได้เป็นศาสตราจารย์ที่นี่ก็ไม่เห็นเป็นไร ขอแค่ได้รักษาคนไข้อยู่ตำแหน่งไหนก็ได้ทั้งนั้น " ทิกเกอร์บอกกับเพื่อนพร้อมกับลุกออกไปจากโต๊ะทันทีเพื่อไปเตรียมของ และในเวลาต่อมาเขาก็รีบบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึงเมืองไทย เมื่อก้าวขาลงสู่ดินแดนบ้านเกิดความคิดมากมายในหัวก็ตีเข้ามาเต็มไปหมด ทั้งความหลังครั้งก่อนที่เขาไม่อาจลืมได้ลง ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากกลับมาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ได้ตกตะกอนความคิดของตัวเองว่าบางทีเขาไม่อาจหนีความจริงได้ตลอดไปและครอบครัวของเขาก็อยู่ที่นี่ ตำแหน่งที่เขาสละมาเพื่อมาดูแม่ของตัวเองเขาก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้เขาเป็นห่วงคุณแม่เหมือนฟ้ามากกว่า เขาเป็นหมอใครตรวจแม่ของเขาก็ไม่เท่ากับเขาตรวจด้วยตัวเอง ทิกเกอร์กลับมาจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วนเนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่สบายหนัก โดยมีน้องชายอย่างคาซาร์มารับถึงสนามบิน " คาซาร์อยู่ไหน พี่มาถึงแล้ว " " เออๆ กำลังรีบไปรถติดอยู่ รออยู่นั่นแหละแป๊บเดียว " " รีบๆหน่อยนะพี่เป็นห่วงคุณแม่ " ทิกเกอร์บอกกับน้องชายซึ่งคาซาร์ก็รู้สึกลำบากใจเพราะเกิดมาก็ไม่เคยต้องโกหกบ่อยๆยกเว้นกับเจ้าพี่ชายตัวดีของเขานี่แหละ คนอย่างคาซาร์เกลียดคนโกหกเข้าไส้แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับทำเสียนี่ทิกเกอร์ปล่อยมือที่พันธนาการร่างเล็กออกพร้อมกับอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปที่เตียงนอนที่ตอนนี้มีเสื้อผ้าของเธอกระจัดกระจายอยู่เต็มเตียง เขากวาดเสื้อผ้าพวกนั้นลงพื้นอย่างไม่ใยดีเสร็จแล้วก็เหวี่ยงเธอลงเตียงอย่างแรงจนคนตัวเล็กจุกตัวงอไปหมด จากนั้นตัวเขาเองก็ขึ้นไปคร่อมเธอเอาไว้พร้อมกับกดร่างให้แนบชิดไปกับลำตัวของคนตัวเล็กไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหน" คุณทิกเกอร์คุณจะบ้าไปแล้วหรือไงทำอะไรของคุณ หยุดแกล้งฉันได้แล้ว หายใจไม่ออก ฉันไม่เล่นนะ " ร่างเล็กบอกออกไปพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทิ้มเริ่มกลัวเขาแล้วทำไมเขาถึงได้ป่าเถื่อนขนาดนี้ แล้วตอนนี้ก็ใกล้ถึงมื้อเที่ยงแล้วด้วยถ้าเกิดว่าใครมาเห็นเข้าคงไม่ดีแน่" หึ เล่นหรอ แล้วใครบอกว่าฉันจะเล่น เอาจริงต่างหากมาทบทวนความหลังกันหน่อยเป็นไง " ทิกเกอร์มองคนตัวเล็กด้วยความเจ็บปวดที่แล่นปราดประดุจกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ในแววตาของเขาวูบหนึ่งสะท้อนความเจ็บปวดลึกล้ำที่ซ่อนอยู่ภายใน จากนั้นไม่นานก็ปรับเปลี่ยนเป็นสายตาว่างเปล่าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆนอกเสียจากความต้องการทำให้เธอเจ็บปวดในตอนนี้ เธอเดินเข้ามาให้เขาแก้แค้นเองจะบอกว่าเขาใจร้ายไม่ได้" ไม่เอา
หลังจากที่ล้อมดาวและแม่ของตัวเองตัดสินใจอยู่นานหลายวันว่าจะเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ภัทรมนดีหรือเปล่า สุดท้ายก็ได้คำตอบว่าต้องไปเพราะคุณป้าเหมือนฟ้าโทรมารบเร้าทุกวันระหว่างที่เธอกับแม่พักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง โดยที่คุณป้าเหมือนฟ้าบอกว่าถ้าลำบากใจรอให้สถานการณ์คลี่คลายกว่านี้ค่อยย้ายออกไปก็ได้ บวกกับที่เธอต้องไปทำงานกับพี่คาซาร์ทุกวันโดยคุณป้าเหมือนฟ้าบอกว่าให้ไปด้วยกันจะได้ประหยัดมากขึ้นเธอจะได้เก็บเงินได้เร็วๆ เธอกับแม่จึงตัดสินใจย้ายเข้าไปอาศัยใบบุญของคุณลุงฮันเตอร์ คุณลุงไดลอน และคุณป้าเหมือนฟ้า" ขอโทษจริงๆนะแกที่ต้องมารบกวน แล้วฉันกับลูกจะรีบย้ายออกไป " ศศิที่เกรงใจเพื่อนเอามากๆ จึงรีบพูดออกไปเพื่อให้เหมือนฟ้าสบายใจ" แกไม่ต้องพูดแล้ว ฉันยินดีให้แกกับลูกอยู่ที่นี่ตลอดไป ไปจ๊ะหนูล้อมดาวเดี๋ยวป้าจะพาไปดูห้องนอนนะลูก " เหมือนฟ้าพาศศิและลูกสาวเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านพร้อมกับเดินไปยังห้องที่อยู่ริมสุด ซึ่งมีห้องว่างริมสุดและข้างๆห้องของทิกเกอร์ แต่ห้องริมสุดเป็นห้องใหญ่เหมือนฟ้าเลยให้สองแม่ลูกตัดสินใจว่าใครจะอยู่ห้องไหน" หนูดาวห้องว่างที่บ้านเราเหลือ 2 ห้องห้องนี้คือห้องใหญ่ส
ล้อมดาวเดินออกมาในวงปาร์ตี้อีกครั้งพร้อมกับความไม่มั่นใจ ทุกคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารหน้าบ้านพร้อมกับบาร์บีคิวที่ย่างเสร็จแล้วซึ่งน่าจะเป็นฝีมือของพี่คาซาร์" มาแล้วหรอลูกถ้านานกว่านี้แม่ว่าจะไปตามแล้วนะ หาห้องน้ำไม่เจอหรือเปล่า " เหมือนฟ้าถามหลานสาวของตัวเอง เธอมองซ้ายมองขวาอยู่ก็ไม่มาสักทีแต่เมื่อทิกเกอร์ออกมาได้ไม่นานหลานสาวของเธอก็ตามกันออกมา แต่ก็ไม่ได้คิดใส่ใจอะไรเพราะไม่คิดว่าสองคนนี้จะรู้จักกัน" ขอโทษทีค่ะคุณป้าพอดีดาวหาห้องน้ำไม่เจอน่ะค่ะก็เลยเดินวนๆอยู่อย่างนั้น " ร่างเล็กแก้ตัวน้ำขุ่นๆพร้อมกับมองหน้าของทิกเกอร์โดยที่ทิกเกอร์ไม่ได้สนใจมองหน้าเธอเลย หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างเธอนั่งตรงข้ามผู้ชายใจร้ายอย่างทิกเกอร์นั่นแหละ " ป้าคุยกับศศิแล้วนะลูกเรื่องที่หนูอยากเรียนต่อ " เหมือนฟ้าเกริ่นขึ้นมาเลยในขณะที่ทุกคนกำลังกินปิ้งย่างกันอย่างมีความสุข" ค่ะ มันเป็นแค่ความฝันวัยเด็กน่ะค่ะคุณป้า ตอนนี้คงกลับไปเรียนไม่ได้แล้ว " ล้อมดาวบอกปัดๆออกไปเพราะเธอคิดว่าสถานการณ์การเงินของเธอและแม่คงไม่สามารถพาเธอเรียนต่อหมอได้" ทำไมจะไม่ได้ล่ะลูก นี่หนูคุยอยู่กับ
ล้อมดาวตกใจกับการกระทำของเขา ทิกเกอร์โน้มตัวลงมาใกล้พร้อมกับตะโบมจูบกลีบปากบางและบดขยี้ไปมาอย่างคนต้องการเอาชนะที่เธอสามารถทำให้เขาคลั่งได้ ร่างเล็กพยายามต่อต้านสารพัดแต่แรงของเธอก็ไม่อาจสู้แรงมหาศาลของคนตัวใหญ่แบบเขาได้ จนท้ายที่สุดเธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้อีกต่อไปแต่ก็ไม่ได้จำยอมนั่นแหละทิกเกอร์ถึงละจูบออกมาด้วยความหงุดหงิด" ไม่ดิ้นต่อแล้วหรอ " ร่างสูงถามในขณะที่จมูกเขายังคงชนกับปลายจมูกเชิดรั้นของคนตัวเล็ก" ดิ้นยังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี คุณมันคนใจร้าย ชอบรังแกคนไม่มีทางสู้ "ร่างเล็กบอก เธอเหนื่อยจะดิ้นแล้วเธอดิ้นจนเธอหมดแรงไปแล้ว" หึ รู้ตัวก็ดี ทีแรกก็กะจะแค่ปราบพยศนั่นแหละแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว " ร่างเล็กมองสีหน้าของทิกเกอร์ที่ตอนนี้สีหน้าของเขาดูว้าวุ่นใจอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่ากำลังคิดไม่ตก แต่นั่นก็เพียงไม่นานเมื่อเขาก้มลงมาอีกครั้งพร้อมกับบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอจนได้กลิ่นคาวเลือด กลิ่นแอลกอฮอล์ในโพรงปากเขาผสมกับกลิ่นเลือดในโพรงปากของเธอทำเอาร่างเล็กรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง มันเสียววูบวาบแปลกๆ" อ๊ะ!! " ล้อมดาวตกใจเมื่ออยู่ๆเขาก็ยกมือหนาขึ้นมากอบกุมเต้าอวบของเธอพ
คาซาร์เดินมาหาล้อมดาวที่ตอนนี้นั่งอยู่กับแม่ของตัวเองพร้อมกับแม่ของเขาซึ่งกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ" ว่าไงลูกคาซาร์ไปซื้อของกับน้องได้แกล้งอะไรน้องหรือเปล่า " เหมือนฟ้าถามลูกชายตัวเองเมื่อคาซาร์เดินเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย น้อยครั้งนักที่เจ้าลูกชายจะสนใจร่วมวงกับคนแก่แบบพวกเธอทุกครั้งที่เพื่อนแม่และลูกสาวเพื่อนแม่มาคาซาร์ก็จะหลบไปทุกครั้งต่างจากครั้งนี้ที่ดูเหมือนลูกชายของเธอจะดูตื่นเต้น" โถ่แม่ครับ ผมจะแกล้งอะไรน้องได้ น้องน่ารักขนาดนี้ผมจะแกล้งลงได้ยังไง " คาซาร์หยอดคำหวานออกไป จนทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนมองหน้ากันแปลกๆ" เหมือนลูกชายของฉันจะสนใจหนูล้อมดาวเข้าแล้วล่ะสิยัยศศิ " เหมือนฟ้าพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะอย่างพอใจ ทีแรกเธอคิดว่าอยากให้ล้อมดาวลงเอยกับลูกชายคนโตอย่างทิกเกอร์แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วเพราะดูท่าทางแล้วคนที่สนใจหนูล้อมดาวน่าจะเป็นเจ้าคาซาร์มากกว่า" คุณป้าไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ " ร่างเล็กรีบตอบปฏิเสธทันที เธอเองไม่ได้คิดอะไรกับพี่คาซาร์เลยนอกจากความเป็นพี่ชายเท่านั้น" หึ คุณแม่รู้ใจผมจังเลยนะครับ นึกว่าจะจองน้องดาวให้กับไอ้ทิกเกอร์เสียอีก "คาซาร์พูดออกมา
คาซาร์พาล้อมดาวออกมาจากบ้านของตัวเองเพื่อไปซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน ระหว่างที่เขาขับรถอยู่ก็สังเกตเห็นใบหน้าที่ดูหม่นหมองของเธออย่างเห็นได้ชัด" เป็นอะไรหรือเปล่าครับ พี่ทำให้เราอึดอัดหรือเปล่า " คาซาร์ถามออกไป เขารู้สึกเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว แล้วยิ่งเห็นสายตาที่พี่ชายของเขามองเธอแล้วยิ่งรู้สึกว่าต้องมีอะไรสักอย่าง" เปล่าเลยค่ะ ดาวน่าจะแค่ยังไม่ชิน " ร่างเล็กรีบส่ายหน้าพร้อมกับบอกเขาออกไปด้วยความมีมารยาท เธอรู้สึกเกรงใจเขา เอาจริงๆการออกมาด้วยกันแบบนี้ทั้งๆที่ยังไม่ได้สนิทสนมกันมันก็อึดอัดพอสมควรนั่นแหละ" หึ ไม่ต้องกลัวพี่หรอกนะ ถึงพี่จะรอยสักเต็มตัวขนาดนี้แต่พี่ไม่ได้น่ากลัวกับทุกคนหรอก แล้วยิ่งเราเป็นหลานคนโปรดของแม่พี่แล้วล่ะก็พี่ไม่กล้าทำอะไรเราหรอก สบายใจได้เลย " คาซาร์ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยในแบบฉบับที่สามารถโปรยเสน่ห์ให้คนรอบข้างประทับใจได้ แม้เขาจะไม่ใช่คนเจ้าชู้แต่ผู้หญิงก็วนเวียนมาหาไม่ได้ขาดสายเพียงแค่เขาไม่สนใจแค่นั้นเอง ล้อมดาวส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้ และรู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดนึงที่อย่างน้อยพี่คาซาร์ก็ยังใจดีกับเธออยู่บ้างไม่เหมือนกับอีกคน" ดาวจะพยายามไม่







