"ที่นี่เหรอ"
"ค่ะ ที่นี่"บัวบูชาตอบภูผาเมื่อเขาขับรถพาเธอมายังโรงพยาบาลที่มารดารักษาตัวอยู่ "เธอไม่สบาย" "เปล่าหรอกค่ะ บัวมาเยี่ยมแม่"บัวบูชาเอ่ยตอบก่อนเธอจะปลดเข็มขัดแล้วหันไปมองหน้าของท่านประธานคนใหม่ "ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์ขับรถพาบัวมาถึงที่นี่"ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ แต่ชายหนุ่มก็ยังมีน้ำใจขับรถพาเธอมาในช่วงเวลามืดค่ำ "ไม่เป็นไร ว่าแต่เธอจะกลับยังไง" "บัวคงกลับแท็กซี่นั้นล่ะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาส่ง บัวต้องขอตัวก่อน"เธอรวบกระเป๋าขึ้นมาถือก่อนใช้มือเปิดประตูรถ แต่ทว่าบัวบูชากลับตาโตเมื่อเห็นว่าภูผาก้าวขาตามลงมาจากรถแล้วเดินตามหลังเธอมาติด ๆ "ท่าน..." "ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน เรียกผมว่าภูผาก็พอ" "คุณภูผา คุณจะเดินตามบัวมาทำไมคะ"บัวบูชาเอ่ยถามร่างเล็กของเธอสูงเพียงไหล่ของภูผายามเมื่อเขาเดินขนาบข้างกายเธอ จนทำให้เธอต้องหยุดเดินหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าของชายหนุ่มพลางมองหน้าเขาด้วยแววตาตั้งคำถาม ร่างของเธอดูเล็กลงถนัดตาเมื่อได้เทียบกับร่างสูงใหญ่ของภูผา "เธอหยุดเดินทำไม" "แล้วคุณภูผาจะเดินตามบัวมาทำไมคะ" "ก็ฉันจะไปเยี่ยมแม่ของเธอ ทำไมฉันไปเยี่ยมแม่ของเธอไม่ได้เหรอ" "ดะ...ได้สิคะ"บัวบูชาถอนหายใจโล่ เธอออกตัวเดินนำร่างสูงใหญ่ไปยังห้องพักของมารดา ภูผากวาดสายตามองโรงพยาบาลที่มารดาของบัวบูชารักษาพลางพิจารณาอยู่อย่างเงียบ ๆ จนทั้งคู่เดินมาถึงห้องพักของมารดา แกรก บัวบูชาเดินนำร่างสูงใหญ่เข้าไปในห้องพักทำให้ภูผาได้เห็นร่างซูบผอมของผู้หญิงวัยกลางคนกำลังนอนให้ยาอยู่บนเตียงคนไข้และยังมีเครื่องช่วยหายใจคร่อมจมูกและริมฝีปากเอาไว้ สภาพร่างกายดูซูบผอมใบหน้าซูบเซียวไร้สีเลือดกำลังนอนหลับราวกับคนไม่รับรู้อะไร "แม่คะ บัวมาเยี่ยมแม่แล้วนะ"บัวบูชาเดินเข้าไปใกล้ร่างของมารดาเธอคว้ามือผอมแห้งของท่านขึ้นมากุม "วันนี้เจ้านายของบัวมาเยี่ยมแม่ด้วยนะคะ" "..." "แม่ไม่ต้องเป็นห่วงบัวนะ"บัวบูชาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเธอไม่อยากให้ใครได้เห็นถึงความเสียใจของเธอ ภูผายื่นมองดูทุกอย่างอย่างเงียบ ๆ เขายืนมองดูร่างของเลขาซึ่งกำลังยืนอยู่ใกล้ ๆ แม่ของเธอไม่ไปไหน น้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกับคนกำลังจะร้องไห้ยังคงดังก้องอยู่ในหูของภูผา "นี่ก็ดึกมากแล้ว บัวต้องขอตัวกลับก่อนนะคะแม่อีกเดี๋ยวคุณพยาบาลก็คงเข้ามาเฝ้า" "..." "รีบรักษาตัวให้หายนะคะ เราสองคนจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง"แววตาของบัวบูชาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักยามเมื่อเธอได้มองหน้าของมารดา เมื่อหมดเวลาเยี่ยมพยาบาลที่เธอจ้างไว้สำหรับดูแลมารดาก็เดินเข้ามา ทำให้บัวบูชานึกขึ้นได้ว่าเธอยังมีค่าใช้จ่ายอีกส่วนนึงที่ยังไม่ได้จ่าย "คุณพยาบาลคะ" "คะ คุณบัว" "บัวมีเรื่องอยากจะคุณกับคุณพยาบาล ขอเวลาสักครู่จะได้ไหมคะ" "ได้ค่ะ"ทั้งสองเดินออกมาคุยยังนอกห้องพัก แต่ด้วยท่าทีอึกอัก ๆ ของบัวบูชาทำให้ภูผานึกสนใจ "คือเรื่องค่าจ้างบัวขอเลื่อนไปจ่ายต้นเดือนจะได้ไหมคะ คือตอนนี้บัวพึ่งจะหางานใหม่ได้เงินเดือนก็ยังไม่ออก" "พี่เองก็กำลังหาโอกาสคุยกับคุณบัวเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน"พยาบาลพิเศษที่บัวบูชาจ้างให้มาเฝ้าไข้ดูอาการของมารดาเม้มริมฝีปากแน่น "อีกไม่กี่วันลูกชายของพี่ก็จะเปิดเทอมใหม่ เงินที่พี่ได้จากการทำงานมันก็ไม่เพียงพอ ถ้าไม่ลำบากมากเกินไปน้องบัวพอจะหาให้พี่สักครึ่งหนึ่งได้ไหมคะ"ถึงคราวที่บัวบูชาลำบากใจ เงินติดตัวก็เหลือไม่กี่บาทอีกทั้งยังต้องมาจ่ายค่าจ้างดูแลมารดา สีหน้าของบัวบูชาแสดงถึงความลำบากใจ แต่ก่อนที่เธอจะหนักใจไปมากกว่านั้นร่างสูงใหญ่ของภูผาก็เปิดประตูออกมาก่อนชายหนุ่มจะยื่นธนบัตรสีเทาหลายใบไปให้พยาบาลในชุดขาว "ค่าจ้างดูแลคนป่วย" "คุณภูผา"บัวบูชาส่ายหน้าจนกรอบแว่นตาแทบจะหลุด แต่ภูผาก็ไม่คิดที่จะฟังคำขอร้องของเธอ เขายังคงยื่นธนบัตรหลายใบไปให้พยาบาลคนนั้น "รับไปสิครับ" "คะ...คือว่า" "อย่าเลยค่ะคุณภูผา คุณพยาบาลคะไว้พรุ่งนี้บัวจะหาเงินมาให้นะคะ"น้ำเสียงลนลานของบัวบูชาดังขึ้นแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถเข้าไปในโซนประสาทของภูผาได้ ชายหนุ่มจัดการจับเงินยัดใส่ฝ่ามือของพยาบาลคนนั้นก่อนจะจัดการดึงร่างของบัวบูชาให้เดินตามมาโดยไม่คิดจะฟังเสียงร้องห้ามของเธอแม้แต่สักนิด "คุณภูผาคะ" "ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" "แต่ว่า"ดวงตาคมกริบตวัดมองหน้าเลขาสาวทำเอาเธอชะงัก "ขึ้นรถ"น้ำเสียงเรียบนิ่งออกคำสั่งทำให้บัวบูชาต้องยอมทำตามอย่างว่าง่าย "เงินก้อนนั้นไว้บัวจะรีบหามาคืนนะคะ"บัวบูชาพูดขึ้นหลังจากภายในรถตกอยู่ในความเงียบ ซึ่งตอนนี้ภูผาก็ได้ขับรถออกมาจากโรงพยาบาลเขาขับรถไปตามเส้นทางอย่างเงียบ ๆ "อันที่จริงแล้วคุณภูผาไม่จำเป็นต้อง..." "เธอหาเงินทันอย่างนั้นเหรอ" "..." "ถ้าเธอไม่จ่ายเงินแล้วพยาบาลไม่มาดูแลแม่ของเธอต่อ เธอมีเวลามาดูแลท่านอย่างนั้นเหรอ"คำพูดของภูผากระแทกใจของบัวบูชาเข้าอย่างจัง เขาพูดถูกทุกอย่างด้วยหน้าที่การงานเคร่งครัดและเส้นทางที่อยู่ไกลเธอคงไม่มีเวลามากพอที่จะมาดูแลท่านได้ เกิดความเงียบภายในรถคันหรู บัวบูชานั่งนิ่งเพราะเธอกำลังใช้ความคิดเรื่องที่จะหาเงินมาคืนชายหนุ่ม "ถ้าเงินเดือนของบัวออก บัวจะรีบนำเงินมาคืนคุณภูผานะคะ ไม่ทราบว่าเมื่อครู่คุณภูผาให้เงินคุณพยาบาลไปเท่าไหร่คะเงินเดือนออกบัวจะรีบนำมาคืนทุกบาททุกสตางค์" "..." "คุณภูผา" "สองหมื่น"บัวบูชาตาโตเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่ภูผายื่นให้พยาบาลในเมื่อครู่ "สะ...สองหมื่นเลยเหรอคะ" "..." "ไว้เงินเดือนออก บัวจะรีบนำเงินมาคือให้คุณภูผานะคะว่าแต่คุณภูผาไม่คิดดอกเบี้ยใช่ไหมคะ"ชายหนุ่มเหลือบตายตามองหน้าเธอ แสงไฟจากด้านนอกทำให้เขามองเห็นดวงตากลมโตแสดงถึงความกังวลอยู่ไม่น้อย "เงินแค่สองหมื่นผมไม่คิดดอกเบี้ยหรอก" "..." "แต่ถ้ามากกว่านั้นก็ไม่แน่"เพราะเขาเองก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีเด่นสักเท่าไหร่ ที่ช่วยก็เพราะว่าเห็นใจที่เธอต้องวิ่งวุ่นหาเงินมารักษามารดาเพียงลำพังใครจะไปคิดล่ะว่าจากชีวิตของผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งอย่างเธอจะได้มาเจอกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขา และตอนนี้เราสองคนกำลังได้เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน มันเป็นความฝันที่บัวบูชาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง จากผู้หญิงธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษอยู่ในวิกฤตตกงานไม่มีงานทำต้องหาเงินมารักษามารดาซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โชคชะตาเข้าข้างให้เธอได้สมัครมาเป็นเลขาและบุญวาสนาได้ผลักเธออีกครั้งให้มาเป็นผู้หญิงของเขาและตอนนี้เราสองคนกำลังเข้าพิธีวิวาห์ในช่วงเช้าด้วยกัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เธอกับเขาก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาร่วมหนึ่งปีกว่า ภูผาฉีกสัญญาว่าจ้างระหว่างเธอกับเขาเมื่อชีวิตคู่ของสองเราครบหนึ่งปี"คุณภูผาและคุณบัวบูชาเชิญเซ็นชื่อลงตรงนี้ได้เลยนะครับ"เจ้าหน้าที่จากอำเภอเอ่ยบอกกับคู่บ่าวสาวซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังนั่งอยู่ตรงที่โต๊ะตรงหน้ามีกระดาษสำคัญมีอักษรสีแดงตัวใหญ่เขียนว่าใบสำคัญในการสมรส"ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยนะครับ และผมหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเรื่องทายาทเร็ว ๆ นี้""ขอบคุณครับ""ขอบคุณค่ะ"บัวบูชาน้ำตาไหลเธอมองแผ่นกระดาษตรงหน้าตาไม่กะพริบ สัมผัสอ่อนโยนจากปลายนิ้วของชายหนุ่มท
"อื้อ"นิ้วใหญ่สอดเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวทำเอาเธอส่งเสียงครางออกมา ความคับแน่นตรงส่วนนั้นมันทำให้เธอเชื่อแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าและคำบอกรักจากปากของเขามันคือเรื่องจริง"คะ...คุณภูผา""ยังคับแน่นเหมือนเดิมอยู่เลยนะ"เขาก้มมองช่องทางรักของเธอซึ่งตอนนี้มีนิ้วของเขาเสียบคาอยู่ด้วยแววตาหื่นกระหาย"เนินใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า""อื้อ อ๊าส์"ริมฝีปากเล็กส่งเสียงครางออกมายามเมื่อชายหนุ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกจนตอนนี้เริ่มมีน้ำหล่อลื่นสีใสไหลออกมาใบหน้าของบัวบูชาบิดเบี้ยวแสดงถึงความทรมาน อารมณ์วาบหวามทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในช่องท้องยามเมื่อเธอผงกศีรษะขึ้นมองก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าของภูผาอยู่ห่างไม่ไกลจากตรงส่วนนั้นของเธอเท่าไหร่ และมันยิ่งเพิ่มเข้ามาใกล้เมื่อน้ำเมือกใสของเธอเริ่มไหลอาบนิ้วของเขามากยิ่งขึ้น"ขอชิมหน่อยนะ""อย่าค่ะคุณภูผา อื้อ มันสกปรก"แผล็บ แผล็บ แผล็บเสียงห้ามปรามของเธอเล็ดลอดผ่านหูของชายหนุ่ม ปลายลิ้นสากแตะลงบนกลีบอูมทั้งสองข้างทันทีโดยที่ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะฟังเสียงห้ามปรามของเธอเลยสักนิดปลายลิ้นสากตวัดเลียดูดดึงเม็ดเสียวด้วยความช่ำชองทำเอาบัวบูชายกเอวจน
บรรยากาศภายในรถยามค่ำคืนเงียบสงัดอากาศช่างหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจของบัวบูชา เธอเอียงศีรษะมองหน้าออกไปยังนอกหน้าต่างรถซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังเดินทางกลับที่พักหลังจากเยี่ยมมารดาของเขาเสร็จภายในรถตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่ที่เขาและเธอก้าวขึ้นมาจนเวลาผ่านมาถึงตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะวางตัวยังไงดีคำพูดของคุณหญิงแห่งตระกูลดังยังคงล่องลอยอยู่ในโซนประสาทหูท่านอยากได้เธอไปเป็นลูกสะใภ้นี่คือสิ่งที่ท่านพร่ำบอกเธอเอาไว้ก่อนจะออกมา แต่ทว่าคนด้านข้างกลับไม่มีปฏิกิริยาแสดงอาการอะไร มันอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอคิดว่าเขาคงไม่ต้องการอยากจะเกี่ยวดองกับเธอ นั้นสิเนอะเขาซื้อเธอมาบำเรอความใคร่ใครอยากจะยกตำแหน่งแต่งตั้งให้มาเป็นตัวจริงกันเมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกน้อยใจ เธอคงไร้ค่าไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขาหรอก อย่าคิดหวังสูงมากเกินไปบรรยากาศภายในรถยังคงจมอยู่กับความเงียบจนชายหนุ่มขับรถมาถึงคอนโดที่พักทั้งเขาและเธอในตอนนี้ยังไม่มีแม้แต่คำพูดให้กับต่างฝ่ายจนทั้งสองเดินขึ้นไปถึงยังห้องพัก"เธอเป็นอะไรไป"ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอทันทีเมื่อทั้งสองก้าวเข้ามาอยู่ในห้องพัก แววตาอมทุกข์ในเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วย
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาเลิกงาน บัวบูชารีบเก็บข้าวขอแล้วรีบลงมายอดรอภูผาอยู่ตรงหน้าป้ายรถเมล์ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงแค่สิบนาทีชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกว่าใกล้จะถึงแล้วให้เธอรีบลงมารอก่อนได้เลยปี๊นบัวบูชาคลี่ยิ้มบาง ๆ ทันทีเมื่อเธอได้เห็นรถของชายหนุ่มเคลื่อนตัวก่อนจะหยุดจอดอยู่ตรงหน้าของเธอหญิงสาวรีบเปิดประตูก้าวขาขึ้นไปนั่งโดยมีสายตาของพนักงานบางคนมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะทุกคนล้วนรู้ว่ารถที่ขับมารับบัวบูชานั้นเป็นรถของใคร "เหนื่อยไหม""ไม่เหนื่อยเลยค่ะ แล้วคุณแม่ของคุณภูผาท่านเป็นยังไงบ้างคะ""คุณแม่ท่านฟื้นแล้ว""ยินดีด้วยนะคะ"เธอแสดงออกถึงความจริงใจอย่างเป็นธรรมชาติโดยไร้การปรุงแต่ง รถคันหรูเคลื่อนตัวออกจากหน้าบริษัทขับกลับไปยังเส้นทางเดิมที่ภูผาพึ่งจะขับออกมาจากเมื่อครู่"คุณภูผาจะไปทำธุระที่ไหนเหรอคะ""ธุระที่ฉันว่าเอาไว้ไปทำวันอื่น ส่วนวันนี้ฉันจะพาเธอไปเจอใครคนหนึ่ง""ใครคะ""ไปถึงเดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง"ความนัยของเขายิ่งทำให้เธอสงสัยแต่บัวบูชาก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะกล้าถามออกไป เธอได้แต่นั่งเงียบ ๆ อยู่ตรงเบาะข้างคนขับโดยไม่รู้ว่ามีสายตาของชายหนุ่มในตำแหน่งคนขับคอยลอบม
"เก็บกวาดทุกอย่างอย่าให้เหลือร่องรอย""ครับคุณภูผา"หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นชายหนุ่มก็รีบเดินกลับมายังรถคันหรู เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแม่เลขาสาวทันทีที่ก้าวขาขึ้นมานั่งภายในรถ หัวใจแกร่งในตอนนี้กำลังว้าวุ่นเพราะเขากำลังนึกถึงคำพูดของภาคภูมิในเมื่อครู่'นี่กูวางแผนไว้เลยนะ ถ้าเสร็จจากแม่มึงเมื่อไหร่อีบัวบูชาจะเป็นรายต่อไป''...''อยากรู้จริง ๆ ว่านังบัวบูชามันจะเอามันไหม แต่สงสัยจะมันสินะมึงถึงได้ติดใจ อยากรู้จริง ๆ ถ้ากูได้ลิ้มลองร่างอันหอมหวานของบัวบูชามันจะเป็นยังไง'"มึงจะไม่มีวันได้แตะต้องผู้หญิงของกูหรอกไอ้ภาคภูมิ"ภูผากัดฟันกรอดเขานั่งรอสายนานอยู่หลายนาที สายแรกเธอไม่ยอมรับยิ่งทำให้คนรออย่างเขากระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่ชายหนุ่มจึงกดต่อสายย้ำอีกครั้งไปหาเขาเร่งสตาทร์รถก่อนจะขับออกมาด้วยความเร็ว"สวัสดีค่ะคุณภูผา"รถคันหรูลดความเร็วลงเมื่อบัวบูชากดรับสายของเขาในเวลาต่อมา เพียงแค่ได้น้ำเสียงสดใสของเธอช่วยคลายความกังวลให้เขาได้"ทำอะไรอยู่ แล้วเมื่อกี้ฉันโทรไปทำไมไม่รับ""บัวพึ่งจะกลับมาจากห้องน้ำค่ะ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าไม่ได้เอาติดตัวไป"คำอธิบายของเธอคลายอึดอัดภายในใจของภูผา
เปลือกตาหนังอึ้งค่อย ๆ เปิดขึ้นเมื่อแสงแดดของวันส่องกระทบตาม่านตาเริ่มเปิดขยายรับแสงของเช้าวันใหม่ซึ่งวันนี้มีท่อนแขนใหญ่ของภูผากอดเธอเอาไว้ เธออยู่ในห้องพักสุดหรูที่เขาซื้อให้และตอนนี้เธอและเขากำลังนอนอยู่บนเตียงคิงไซซ์ขนาดใหญ่และยังมีชายหนุ่มคอยนอนกอดเธอเอาไว้ ลมหายใจของชายหนุ่มยังคงสม่ำเสมอเขาคงพาเธอกลับมายังที่พักภาพสุดท้ายที่เธอจำได้ก่อนจะหมดสติไปคือเธอและเขากำลังนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเธอได้บริจาคเลือดช่วยชีวิตมารดาของภูผาเมื่อเธอยกแขนขึ้นมาก็พบว่ายังมีสำลีก้อนเล็กติดอยู่ตรงที่ข้อพับแขนนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาและเธอนอนกอดกันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เธอมีความสุข การที่เธอได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขามันทำให้เธอรู้สึกมีความสุข ความสุขที่ผู้หญิงอย่างเธอไม่สามารถเรียกร้องให้เขาทำแบบนี้บ่อย ๆ ได้แต่ถ้าหากเขาทำด้วยความเต็มใจเธอก็ขอเก็บความสุขเหล่านี้เอาไว้ถ้าหากวันใดวันหนึ่งเธอไม่ได้มีสิทธิ์ยืนอยู่ในตรงจุดนี้อย่างน้อยก็ยังมีความรู้สึกดี ๆ ที่เขาเคยทำให้ถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำ"บัวรักคุณนะคะ"ถ้าหากเขาตื่นเธอคงไม่กล้าที่จะบอกคำคำนี้ให้ชายหนุ่มได้ยิน ผู้หญิ