“เปลี่ยนใจเมื่อกี้!” ตฤณขึ้นเสียงก่อนจะเอี้ยวตัวหันมาเหวี่ยงแขนไปทางด้านหลังของเธอ แล้วพาดไว้ตรงพนักพิง พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“อยากได้อะไรจ๊ะ รถก็ให้แล้วคันนึง เงินค่าขนมต่อเดือนจะเอาเท่าไหร่ ไม่รวมเงินเดือนนะ แอเมสกี่ใบดีนะ จัดให้เป็นห้องเลยดีไหม หรือว่าแหวนเพชร บัตรเครดิตแบบอันลิมิต ผมให้ได้หมดขอแค่หยาไปอยู่กับผม”“นี่ท่านกำลังซื้อหยาด้วยกิเลสพวกนี้เหรอคะ” “ไม่เห็นแปลกถ้าจะเปย์แฟนตัวเอง นะครับ ไปอยู่กับผมแล้วอย่าใช้ข้ออ้างที่ผมปฏิเสธการช่วยเหลือนายซันด์ มันคนละเรื่อง” “หยาก็ไม่ได้ว่ามันเกี่ยวกันหรอกค่ะ แค่ล้อคุณเล่น คุณไม่ต้องเอาจริงเรื่องเปย์ก็ได้ หยาตั้งตัวไม่ทันหรือคุณแค่อยากเอาชนะหยาหรือเปล่า” “ทำไมผมต้องอยากเอาชนะหยา หืม เราสองคนต่างรู้ใจตัวเองดี” “บางที หยามองตาคุณก็ไม่พบสิ่งที่หยาอยากรู้ นักธุรกิจหมื่นล้านอย่างคุณ จะมาอะไรกับผู้หญิงธรรมดาแบบหยา ซึ่งเรารู้จักกันได้ไม่นาน” “ทำไมไม่เข้าใจผมสักทีนะ ระยะเวลามันไม่ได้จำ“เฮ้อ ดุตรงไหนไม่ทราบ” เขาทำเสียงดุ ถอนหายใจ แล้วเมินหน้าหนี คราวนี้เธอต้องใช้ลูกอ้อนด้วยการเดินไปยืนอยู่ข้างๆ เขา“ท่านประธานขาอย่าเพิ่งดุสิ ฟังหยาก่อน” เธอพูดด้วยเสียงอ้อนก่อนจะเกาะแขนเขาแล้วคุกเข่ากับพื้นซะเลยเพราะยืนก็ค้ำหัวเกินไป“แล้วตรงไหนที่เรียกว่าไม่ฟังล่ะ”“นี่ไงคะ! ตรงนี้ไง แดกดัน”“ไม่ได้แดกดัน จะพูดก็พูด”“เรื่องเงิน คิดอีกที ถ้าท่านตัดสินใจที่จะให้แล้วเรียกผู้บริหารประชุมเพื่อบอกกล่าว หยาว่าชะลอไว้ก่อนดีไหมคะ มันเป็นเงินท่าน”“สมมติว่าผมให้ ขอเหตุผลหน่อยว่าทำไมถึงไม่ควรให้ครับ ก็ไหนเมื่อเช้าบอกว่าให้สักร้อยล้านก็ยังดี เขาจะได้ไม่มาเซ้าซี้อีก”“หยาก็แค่ลองหยั่งใจคุณ ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือเปล่า แล้วถ้าความคิดที่จะไม่ให้ คุณจะเห็นด้วยไหมคะ”“นี่แหละผมขอเหตุผล”“คือเอ่อ” ปั้นหยาควรบอกให้เขารู้ตัวไหม ว่าตัวเองกำลังถูกหักหลัง หรือไม่ควรเพราะเป็นญาติกันและจะคิดว่าเธอยุแยงให้แตกคอ
“เปลี่ยนใจเมื่อกี้!” ตฤณขึ้นเสียงก่อนจะเอี้ยวตัวหันมาเหวี่ยงแขนไปทางด้านหลังของเธอ แล้วพาดไว้ตรงพนักพิง พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ“อยากได้อะไรจ๊ะ รถก็ให้แล้วคันนึง เงินค่าขนมต่อเดือนจะเอาเท่าไหร่ ไม่รวมเงินเดือนนะ แอเมสกี่ใบดีนะ จัดให้เป็นห้องเลยดีไหม หรือว่าแหวนเพชร บัตรเครดิตแบบอันลิมิต ผมให้ได้หมดขอแค่หยาไปอยู่กับผม”“นี่ท่านกำลังซื้อหยาด้วยกิเลสพวกนี้เหรอคะ”“ไม่เห็นแปลกถ้าจะเปย์แฟนตัวเอง นะครับ ไปอยู่กับผมแล้วอย่าใช้ข้ออ้างที่ผมปฏิเสธการช่วยเหลือนายซันด์ มันคนละเรื่อง”“หยาก็ไม่ได้ว่ามันเกี่ยวกันหรอกค่ะ แค่ล้อคุณเล่น คุณไม่ต้องเอาจริงเรื่องเปย์ก็ได้ หยาตั้งตัวไม่ทันหรือคุณแค่อยากเอาชนะหยาหรือเปล่า”“ทำไมผมต้องอยากเอาชนะหยา หืม เราสองคนต่างรู้ใจตัวเองดี”“บางที หยามองตาคุณก็ไม่พบสิ่งที่หยาอยากรู้ นักธุรกิจหมื่นล้านอย่างคุณ จะมาอะไรกับผู้หญิงธรรมดาแบบหยา ซึ่งเรารู้จักกันได้ไม่นาน”“ทำไมไม่เข้าใจผมสักทีนะ ระยะเวลามันไม่ได้จำ
“ก็ทดลองใช้ชีวิตด้วยกันไง”“คุณหยาเป็นคนหัวสมัยใหม่ แต่ไม่สไตล์ฝรั่งจ๋าเหมือนคุณท่านนะครับ น่าจะมองออก”“ก็มองออก แต่... อยากได้ มาอยู่ด้วยกันซะเลย ตื่นมาแล้วเห็นหน้ากันมันก็มีความสุขไปอีกแบบนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อารมณ์ดีขึ้นเชียว“เรื่องนี้คุณท่านคงต้องแสดงฝีมือเองแล้วล่ะครับ ผมทำได้แค่ที่ปรึกษา”“เอ่อ ฉันก็ปรึกษานั่นแหละ ทำไงดีวะ”“ทำไงไม่รู้ครับ แต่มาโน่นแล้ว ผมชอบการตรงต่อเวลาของคุณหยาจริงๆ 30 นาทีก็คือ 30 นาที ไม่อ้อยอิ่ง”“แถมยังแต่งตัวเป๊ะมาแล้วด้วย สวยอยู่แล้วแต่งอะไรเยอะแยะ” เขาพูดก่อนจะหันไปมองปั้นหยาที่เดินเข้ามาพอดี“อรุณสวัสดิ์อีกครั้งค่ะ” ปั้นหยาเอ่ยเสียงหวานแต่ยิ้มเขิน ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ตฤณเหมือนรู้หน้าที่ ส่วนก้องการุณก็นั่งตรงข้าม“เอ่อ ผมว่า... ผมไม่อยู่เป็น ก.ข.ค.ดีกว่า”“อ้าว! ทำไมล่ะคะ จะเป็นไรไป” ปั้นหยาท้วงขึ้น“เจ้านายอยากกินข้าวกับแฟนเขา&rdquo
“แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้”“จะอยากอยู่แค่วันนี้เหรอคะ แค่วันนี้วันเดียวหรือไง” นี่เธอกล้าสอนหรือเนี่ย เขาอุตส่าห์อยากจะงอแง“มีงานต้องให้พิจารณานะคะ”“หืม งานอะไร อย่าบอกนะว่างานเจ้าซันด์” เขาก็เดาได้เก่งเชียวนะเนี่ย“ก็ทำนองนั้นแหละค่ะ หยาว่าท่านเตรียมเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเถอะค่ะ”“หึๆ เอ่อ ยังไม่พูดเรื่องงานได้ไหมล่ะ แล้วเจ้าซันด์ขอเราให้มาหว่านล้อมผมเหรอ” เขายังคงทำเสียงอ้อนเอาแต่ใจไม่เลิก“หืม เปล๊า! หยาก็แค่บอกไปตามขั้นตอน”“อย่าให้รู้นะว่ามันขอให้เราช่วย” ทีงี้เขาพูดเสียงเข้มเชียว“อย่ามาดุหยา แต่งตัวเลยค่ะ อีกครึ่งชั่วโมงหยาจะกลับมา” ให้ตายสิ เสียงของเธอหวานกว่าปกติ มีความเขินอาย แทบจะไม่กล้าสบตาเขา เรื่องเมื่อคืนทำให้เธอเปลี่ยนได้ถึงเพียงนี้ แต่ก็นะเขาก็พอๆ กันนั่นแหละ เขาคิด ขณะที่เธอเดินไปเปิดประตู แล้ว
หากแต่บนเนื้อนางอันอ่อนนุ่มนั้นมันเต็มไปด้วยน้ำลาวาอุ่น เมื่อร่างกายผ่อนคลายกลับสู่ปกติ เขาค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่ข้างหัวเตียงมาเช็ดให้ ปากก็พรมจูบปลอบโยน เสร็จแล้วก็รั้งผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเอาไว้ ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยซับน้ำตา“คนดี อย่าร้องไห้”“หยาโกรธตัวเองที่...”“ผมก็โกรธตัวเองที่แทบทนไม่ไหว”“คุณบอกว่าสัมผัส”“ก็นี่ไงจ๊ะสัมผัส เราไม่ได้มีอะไรกันแต่ผมแค่อยากทำให้คุณมีความสุข และผมก็อยากมี ผมกำลังจะทนไม่ไหว ไม่ไหวมากๆ”“หยารู้” ปั้นหยาบอกเสียงสั่นเครือ เธอไม่ได้เสียใจที่เขาสัมผัสแบบนี้ แต่มันรู้สึกผิดในตัวเองเท่านั้น ที่มีอารมณ์อยาก ต้องการตามธรรมชาติ ซึ่งห้ามยากเหลือเกิน แต่โชคดีที่เขาทำเพียงเท่านี้“ผมขอโทษ” ตฤณเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด พร้อมกับสบตาคู่งามที่ไม่ได้มีแววโกรธเกรี้ยวเขาแต่อย่างใด ทว่าแค่เพียงเศร้าลงเท่านั้น“หยา...&r
ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มเสียวแปลบไปตามเนื้อตัว ไล่ลงไปจนถึงเนินเนื้อนุ่ม ความรู้สึกมันลุกลามไปจนถึงกลางลำตัวอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ทำราวกับอารมณ์จะเตลิด จูบจู่โจมครั้งแล้วครั้งเล่า มือหนาที่โอบกอดร่างน้อยค่อยๆ แปรเปลี่ยนลูบไล้ตามลำตัว“อื้อ” ความเสียวจนขนลุกทำให้เธอถึงกับครางทัดทาน ทว่าเอ่ยไม่ได้เพราะถูกปิดปากเอาไว้สนิท ไม่เพียงเท่านี้มือหนากลับลูบไล้เนินอกอวบอัด และขยำเคล้นคลึงเบาๆ ก่อนจะลูบเลยลงไปจนถึงหน้าท้อง ลากผ่านอันเดอร์แวร์มาสัมผัสตรงเนินเนื้อนุ่มนิ่ม เพราะไม่เคยและเขาเป็นคนแรกที่สัมผัส มันทำให้เธอถึงกับสะดุ้งกับมือร้อน แต่เสียวอย่างประหลาด เธอไม่รู้เสียแล้วว่าเขาช่ำชองเชิงรักมากแค่ไหน เพียงแค่สัมผัสก็ทำให้เธอคุ้มคลั่งได้แล้วและเขากำลังทำ ด้วยการใช้ปลายนิ้วนวดวนกลีบอวบอูมผ่านอันเดอร์แวร์ตัวบาง กดเน้นเคล้นคลึงด้วยปลายนิ้วตรงใจกลาง มันเสียวซ่านสะท้านจนสะดุ้ง ร่างกายของเธอกำลังร้อนรุ่มและรู้สึกถึงเม็ดเสียวกระตุกตอดตุบๆ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน“อื้อ” เธอครางอื้ออึงไม่ได้ศัพท์อีกครั้ง เพราะปากยังไม่เป็นอิสระ และปลายนิ้วยังนวดเ
“วันนี้คุณทำให้ผมอดใจไม่ไหว ผมทนไม่ไหว” เขากระซิบเสียงนุ่ม พลางก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ ทำทีเป็นสูดดมกลิ่นหอมจากแก้มเบาๆ ไต่ลงไปจนถึงใบหน้าและซอกคอโดยที่ยังไม่ได้ล่วงเกิน แต่เธอแทบจะหลับตาปี๋“แต่ไม่ใช่แบบนี้ ต้องไม่ใช่แบบนี้ หยาขอร้อง อย่าเพิ่ง... อย่าเพิ่งเลยนะคะ” ให้ตายเถอะ ตอนนี้เธอหวาดกลัว หัวใจเต้นแรงมาก ใจดีสู้เสือแต่เสือตัวนี้จะปล่อยเหยื่อเหมือนคืนวานหรือเปล่า“ผมไม่รู้ว่าจะทนได้ไหม ผมกำลังไม่ไหว แล้ววันนี้คุณทำให้ผมทั้งหึง ทั้งหวง แล้วก็หงุดหงิดพร้อมๆ กัน” เขากระซิบเสียงพร่า และในน้ำเสียงมีความต้องการเหลือเกินคงเป็นเพราะดื่มไปด้วย ต่างกับคืนแรกที่เธอมานอนด้วยแล้วเขาทนไหว ทว่าตอนนี้หากเขาออกแรงเพราะความเมา เธอจะสู้ได้หรือ“หยาขอโทษ หยาจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว”“นี่คุณกำลังกลัวผมเหรอ หืม รีบขอโทษอย่างเร็วเชียว” น้ำเสียงของเขาก็น่ากลัวจริงๆ นี่น่า“ค่ะ หยากลัวคุณ ปล่อยหยาได้ไหม” เธอกำลังอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงจริงจังและสั่นกลัว
ปกติตฤณไม่ค่อยฟังใครหรอก มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง และถือความคิดนั้นเป็นใหญ่ด้วย เป็นคนเด็ดขาดไม่เห็นใจใครแต่ปั้นหยาทำให้เขารับฟังเธอมากกว่าคนอื่น“ตกลงว่า คุณยอมรับเป็นแฟนผมแล้ว” เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง“หยารู้ว่าตัวเองต้องเจียมตัว ต่ำต้อย ไม่กล้าคิดที่จะ...”“ใครบัญญัติเอาไว้เหรอ ว่าห้ามไม่ให้คนเราคิดน่ะ”“จริงๆ นะคะ หยาพูดจริงๆ” เธอเงยหน้าขึ้นแล้วเอาคางเกยไหล่เขา“คำพูดกับการกระทำของหยามันย้อนแย้งกันรู้ไหม ปากบอกว่าไม่กล้าคิด แล้วนี่อะไร หืม” เขาว่าพลางเอามือเขี่ยจมูกเธอเหมือนหยอกเย้า“ก็ หยาคิดว่าตัวเองน่าจะทำให้คุณยิ้มได้บ้าง จากเรื่องเครียดๆ แล้วฟังหยาสักนิดก็ยังดี”“ด้วยวิธีการอ้อนแบบนี้น่ะเหรอ มันก็ได้ผลดี แต่ผมไม่ชอบที่หยาคุยกับนายซันด์ส่วนตัวแบบนั้น”“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หยาดูแลตัวเองได้”“หย
“ใช่ค่ะ” ปั้นหยาตอบอย่างไม่แคร์“กลับ!” ตฤณออกคำสั่งเสียงเข้มอีกครั้ง แล้วเปลี่ยนจากโอบกอดเธอ มาเป็นจับมือไว้แน่น จากนั้นก็เดินออกไปเลยโดยไม่ล่ำลาใคร ก้องการุณจึงทำหน้าที่วิ่งมาบอกกล่าวกับทุกคน“คุณท่านเมามาก ผมขอตัวพากลับก่อนนะครับ ขอโทษด้วย คุณป๊อบมีอะไรก็โทรไปละกันนะ”“ครับคุณก้อง เชิญครับ” ฐากูรตอบงงๆ แต่ก็ยอมจากนั้นก้องการุณจึงตามเจ้านายออกไป รถคันหรูถูกขับออกมาจอดรออยู่ก่อนแล้วด้วยความรวดเร็ว ปั้นหยาประคองและดันให้ตฤณขึ้นไปก่อน ทำราวกับว่าเขาเมาเสียหนักหนา ซึ่งไม่ได้เมาสักนิด แต่อึนๆ หงุดหงิด จากนั้นเธอก็ตามขึ้นมานั่งข้างๆ ก่อนที่ประตูรถจะปิดลงพร้อมกับรถเคลื่อนออกตฤณนั่งนิ่ง เมินหน้าออกนอกรถ ไม่แสดงอาการใดๆ ปั้นหยาจึงเอื้อมมือไปปิดกระจกและผ้าม่านตรงระหว่างที่นั่งคนขับ และห้องโดยสารเพื่อให้เป็นส่วนตัว แล้วจึงหันมาพูดกับเขา“โกรธหยาเหรอคะ” ปั้นหยาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มหูจนเขาเหลือบมองแล้วถอนใจ“แล้วจะให้โกรธเรื่องอะไร” ตฤณถามกลับเสียงเรียบแต่อาก