“ก็เหมือนกับที่เขาชอบซุบซิบกันสไตล์สองพ่อลูกนั่นแหละครับ บังเอิญผมได้ยิน แต่ไม่ทันซะละ อีกอย่างผมจะบอกใครได้ ใครจะเชื่อเพราะผมมันเด็ก แต่เผื่อคุณชาติจะไม่ทราบว่าคนขับรถที่ตายพร้อมกับท่านประธานคนก่อนน่ะ คือพ่อผม แต่คุณพูดวันนี้ก็ดี ตำรวจจะได้รู้ความจริง”“ไอ้ก้อง ไอ้เด็กเวร มึง! กูจะเอามึงให้ตายตามพ่อมึงไป” ด้วยความเดือดดาลโกรธ กลัว ไร้สติจนหลุดปากออกมาหมด ตำรวจก็รวบรวมไว้ทั้งหมดเหมือนกัน“เอาล่ะๆ ถกกันพอแล้ว เรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อนตำรวจชุดใหม่จะจัดการต่อ รับรองว่าท่านที่เสียชีวิตไป จะได้ตายตาหลับเสียที ส่วนคดีที่เกิดขึ้นปัจจุบันลูกชายคุณเป็นคนทำทั้งหมด หลักฐานพยานมัดตัวเขาไว้หมดรวมทั้งผู้สมรู้ร่วมคิด”“คดีนี้ปิดง่ายดีนี่คุณตำรวจ” ตฤณประชดเบาๆ“ครับ ยังเหลือแต่คุณชาติชาย จะบอกเราได้ไหมว่าสมรู้ร่วมคิดเรื่องอุ้มคุณตฤณกับคนอื่นๆ หรือเปล่า หรือคุณไม่รู้เรื่อง”เอาแล้วสิเจอคำถามยาก ครั้นจะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็จะเป็นการทิ้งลูกชาย แ
“เราไม่ได้ทำอะไรผิด ผมไม่ได้ทำอะไร”“คุณอาจจะไม่ได้ทำ หรืออาจจะไม่รู้เรื่องก็ได้ แต่ตอนนี้ลูกชายคุณอยู่โรงพยาบาลอาการสาหัส ไปคุยกันที่โรงพักแล้วคุณจะได้เจอลูก”“เจ้าซันด์! เจ้าซันด์เป็นอะไร!”“เชิญครับคุณชาติ ไปคุยกันดีๆ อย่าให้คุยทุกเรื่องที่นี่เลย อายเขา ถ้ายังอยากมีที่ยืนอยู่ แต่ก็คงจะยาก” ก้องการุณบอกอีกครั้ง“ไอ้ก้อง! กูไม่ไป เรียกทนาย เรียกทนายมาให้กูเลย” ชาติชายเริ่มคุ้มคลั่งเพราะตำรวจไม่ยอมบอก ว่าลูกชายเป็นอะไรมากแค่ไหน บอกแต่สาหัส และพยายามจะขัดขืน ตำรวจเลยจับกุมตัวและใส่กุญแจมือเสียเลย จากนั้นชาติชายก็ร้องโหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่น ประหนึ่งตำรวจรังแกประชาชน“ตำรวจรังแกประชาชนโว้ย ไม่มีหมายจับ แต่จับกูใส่กุญแจมือ” ชาติชายต่อว่าตำรวจ จนทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว พร้อมกันถ่ายคลิปอีกต่างหาก จึงเป็นหน้าที่ของก้องการุณจะประกาศกร้าวเสียหน่อย“เชิญทุกคนถ่ายคลิปกันตามสบาย แต่ผมจะบอกไว้ตรงนี้
“หยา” ปั้นหยาอ้ำอึ้งไม่กล้าพูด แต่เอามือวางบนหน้าอกของเขาเบาๆ เท่านั้น ก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปจูบที่ปากร้อนเสียเอง เขาตอบรับจูบหวานและโอบกอดเธอแน่นเนิ่นนานแล้วจึงได้ถอนจูบออกมา พร้อมด้วยเสียงหายใจหอบพร่า“หยาก็รักคุณ” ปั้นหยาบอกเสียงสั่นเล็กน้อย“รักผมแล้วเหรอ” ตฤณถามพลางยิ้มมุมปาก“ก็ต้องรักสิคะ”“เด็กน้อย ผมชนะคุณแล้ว” เขากระซิบบอกและยิ้มดังเดิมก่อนจะกอดเธอแน่นขึ้น“มีแพ้มีชนะด้วยเหรอคะ”“คุณเคยบอกว่าผมอยากเอาชนะคุณ ก็นี่ไง ผมชนะแล้ว”“งั้น... แพ้ก็ได้ค่ะ ยอมแพ้ทุกอย่างเลย”“ใช่หยาเหรอเนี่ย ยอมแพ้ง่ายจัง”“ก็หยารักคุณ” น้ำเสียงบอกอู้อี้อยู่ในอ้อมกอด ทว่าเขาได้ยินชัดเจน และยิ้มกับตัวเอง“นอนนะ พรุ่งนี้เรามีอะไรต้องจัดการอีกเยอะเลย”
“หยา!”“แม่!”“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม” มารดาถามอย่างร้อนใจก่อนจะดันลูกสาวออกแล้วสำรวจไปตามใบหน้า“ปลอดภัยค่ะ ไม่เป็นไรมาก มีแต่คุณตฤณกับการ์ดที่เป็น”“คุณตฤณ ดูสิ สภาพเจ็บมากไหมคะ”“นิดหน่อยครับคุณอา จะบอกว่าไม่เป็นอะไรก็คงไม่ใช่”“เอาๆ ลูก เข้าห้องพักก่อน เหนื่อยมาเยอะแล้ว สองหนุ่มก็กลับไปพักที่ห้องพักเดิมก็ได้นะ ปัณเอากุญแจให้ด้วย”“ครับพ่อ” ปัณณวิชย์รับคำ แล้วก็พาสองหนุ่มไปที่ห้องพักส่วนตฤณน่ะหรือ ในเมื่อเป็นลูกเขยของบ้านนี้แล้ว จะไปพักที่ห้องแขกทำไมเล่า นอนห้องเดียวกับเมียตัวเองนี่แหละตฤณได้เข้ามาในห้องนอนของปั้นหยาเป็นครั้งแรก เป็นห้องกว้าง เตียงใหญ่ สไตล์รีสอร์ตเลยแหละ เรือนเป็นไม้ หน้าต่างเป็นกระจกบานเลื่อนผ้าม่านสีขาว เขาสำรวจระหว่างที่ปั้นหยากำลังจัดกระเป๋า เอาเสื้อผ้าออกมาเพื่อให้เขาเปล
“อย่าบอกใครนะว่าสภาพผมย่ำแย่ขนาดนี้ เสียชื่อหมด” ฐากูรกล่าวขำๆ แม้จะอ่อนล้าเพียงใดก็ตาม“คุณก็เลยมารับกรรมแทนผมเลย” ตฤณบอกด้วยความรู้สึกผิดพลางกุมมือฐากูรเอาไว้“แต่คุณแก้แค้นให้ผมแล้วนี่ อย่าคิดมากครับ ถ้าไม่ได้นักเลงเก่าเมืองจันทร์มาช่วย เราคงแย่” ฐากูรเอ่ยแซวปั้นหยา“แสดงว่าทุกคนเป็นหนี้บุญคุณหยา งั้นก็รีบหายไวไวนะคะ จะได้ไปเลี้ยงชาบูหยา”“หึๆ คุณตฤณ คุณได้แฟนที่โคตรเจ๋ง เธอไม่ได้เก่งแต่ฉลาด และใครจะรู้ว่าพ่อและพี่ชาย จะมีลูกน้องพกปืนทุกคน”“นั่นน่ะสินะ ผมชักสงสัยแฟนผมแล้ว ตกลงคุณไปเป็นใคร ผู้กองปลอมตัวมาเหรอจ๊ะ” ตฤณเอ่ยแซวยิ้มๆ“หืม หยา ณ เมืองจันทร์เท่านั้นค่ะ ไม่ได้เป็นใครเลย แค่พ่อกับพี่มีคนเก่งเยอะ”“คนงานที่ไหนเขาพกปืนกัน มีแต่ผู้มีอิทธิพลเท่านั้นที่เขาทำกัน จริงไหม”“ไม่เถียงด้วยแล้ว”“หึๆ” สองหนุ่มไ
ตฤณ ถูกขอให้มาโรงพยาบาลก่อน เพราะเขาบาดเจ็บเช่นกัน แม้จะงอแงไม่อยากมาก็ตาม ซึ่งทางฐากูรก็ถูกรักษาตัวก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ถึงจะปลอดภัยแต่สาหัส เพราะโดนซ้อมหนักร่างกายภายในบอบช้ำ ส่วนอาทิตย์ก็พอๆ กัน ติดจะหนักกว่าฐากูรเสียอีก ส่วนประวิทย์ไม่ได้โดนซ้อมแต่โดนปืนไปหลายนัดจากนั้นเมื่อตฤณปลอดภัยแล้ว จึงได้โทรศัพท์ไปบอกก้องการุณเพราะเวลานี้คงไม่รู้เรื่องอะไร แต่ก็ดีเหลือเกินแล้วที่ไม่ต้องเจ็บตัวด้วยกัน“อะไรนะ! คุณท่าน เป็นอะไรมากหรือเปล่า มีใครเป็นอะไรบ้างครับ ทำไมไม่โทรบอกผม แม้แต่น้อย เดี๋ยวผมไปสมทบ”“ไม่ก้อง! ไม่เป็นไร! เรื่องมันจบแล้ว อยู่ที่นั่น จัดการเรื่องที่นั่น จำได้ไหมที่เราคุยเรื่องอาแปะกับนายซันด์ บอกตำรวจเรื่องวันนี้ทั้งหมด”“จะจับบ้านนั้นจริงเหรอครับ”“ทำผิดก็ต้องได้รับโทษ เขาไม่เห็นฉันเป็นญาติอยู่แล้ว แล้วฉันจะปราณีทำไม รวบรวมหลักฐานแล้วจัดการเลย นายเป็นฝ่ายบู๋นของฉันนะ”“ผมก็บู๊ได้ครับ”