Beranda / รักโบราณ / ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย / บทที่ 1 วิ่งตามหัวใจไร้รัก

Share

บทที่ 1 วิ่งตามหัวใจไร้รัก

Penulis: moonlight -mini
last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 13:37:44

บทที่ 1 วิ่งตามหัวใจไร้รัก

หลี่เลี่ยงหรงเดินถือห่อผ้าผืนเล็ก ๆ ไว้ในมือ กลิ่นหอมจาง ๆ ของขนมงาคั่วลอยอวลขึ้นพร้อมไอร้อนอุ่นที่ยังไม่จางหาย นางยืนนิ่งอยู่หน้าศาลากลางจวนหลิงอัน ใจเต้นแผ่วเบาไม่ต่างจากเช้าวันก่อน และวันก่อนหน้านั้น

“คุณชาย…วันนี้ลองชิมขนมที่ข้าทำดูเถิดเจ้าค่ะ” เสียงของนางเบา หากเปี่ยมด้วยความหวัง

หลิงจงนั่งพิงเสาคนเดียวในศาลา สวมชุดยาวปักลายมังกรครามพลิ้วเบาใต้สายลม ดวงตาคมเรียวยกขึ้นมอง ก่อนกล่าววาจาเย็นชาเช่นเคย

“เจ้าไม่มีหูหรือไม่มีสมองกันแน่ ข้าเคยบอกแล้วมิใช่หรือ ว่าไม่ชอบกินของสกปรกจากมือเจ้า”

ขนมในมือบางหล่นลงพื้นดัง ตุบ! ห่อผ้าสีอ่อนซึมซับความอับชื้นของหยาดน้ำค้างยามเช้าอย่างเงียบงัน เสียงฝีเท้าเขาเดินจากไปโดยไม่หันกลับ

แต่นางยังยืนนิ่ง ริมฝีปากบางยกยิ้มเจื่อน ราวจะปลอบใจตนเองว่า…วันหน้าคงดีกว่านี้

นับตั้งแต่จำความได้ หลี่เลี่ยงหรงก็มีเพียงเงาของเขาให้เฝ้าตาม ไม่ว่าฝนตกแดดออก นางก็ยังถือร่มเดินตามหลัง เห็นเขาถูกดุ ถูกบีบคั้นจากบิดา เห็นเขาแอบนั่งเหม่อเงียบอยู่ใต้ต้นหลิวในยามดึก

นางรู้ว่าเขาไม่ได้ใจร้ายอย่างที่แสดงเขาเพียง…ไม่อาจให้ใจแก่ใคร

“เขาไม่เคยรักเจ้า” ใครบางคนเคยเตือน

แต่นางกลับยิ้ม “แต่ข้ารักเขา และยังรักอยู่ นั่นก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ”

แต่บางครั้งความเพียงพอในใจคนคนหนึ่ง อาจเป็นความรำคาญในใจอีกคน

ค่ำวันนั้น ศาลากลางจวนสว่างด้วยโคมแดง แขกเหรื่อขุนนางผู้ใหญ่และบุตรหลานต่างมาเลี้ยงฉลองตามธรรมเนียมประจำปี บทเพลงดนตรีคลอเบา ๆ บ่าวไพร่รินเหล้าให้แขกอย่างขะมักเขม้น

หลี่เลี่ยงหรงสวมชุดปักดอกเหมยสีอ่อน ก้าวเข้ามาท่ามกลางเสียงซุบซิบ สายตานับสิบจับจ้อง แต่สิ่งที่นางเห็นมีเพียงเขาหลิงจงยืนท่ามกลางสหายด้วยท่าทีหยิ่งทะนง

หัวใจของนางเต้นแรง นางคิดว่าคืนนี้…คงถึงเวลาแล้ว

นางเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปตรงหน้าเขา มือบางกำชายกระโปรงแน่น ก่อนเอ่ยด้วยเสียงสั่นระริกแต่หนักแน่น

“คุณชายหลิง… ข้ารักท่าน”

เสียงนั้นชัดถ้อย ทุกคนได้ยินเสียงดนตรีพลันหยุดลงทันที ผู้คนเงียบกริบ สายตาจับจ้องราวกับรอชมเรื่องสนุก หลิงจงเลิกคิ้ว สบตานางแวบหนึ่ง ก่อนริมฝีปากหนายกยิ้มเย็น

“เจ้ากล้าพูดเช่นนี้…ต่อหน้าผู้คน”

เขาแค่นหัวเราะต่ำ พลิกถ้วยเหล้าในมือ “หลี่เลี่ยงหรง เจ้ามิใช่คู่ควรของข้า…อย่าได้ทำให้คนทั้งงานหัวเราะเยาะไปมากกว่านี้เลย”

คำพูดนั้นดังก้องในความเงียบ ทุกสายตาเริ่มมีรอยยิ้มเย้ยหยัน บุตรสาวขุนนางบางคนกระซิบเสียงขำ ลมหายใจของนางติดขัด

แต่เขายังไม่หยุด

“ของที่ข้ารังเกียจ ต่อให้ตามตื๊อเพียงใด ก็ไม่อาจกลายเป็นสิ่งที่ข้าปรารถนาได้หรอก”

ขาของนางสั่นไหว หัวใจแตกสลายตรงนั้นเอง ในสายตาของคนทั้งงาน นางไม่ต่างจากตัวตลกที่กล้าเอาความรู้สึกมาประจานตนเอง

น้ำตาไหลอาบแก้ม แต่ริมฝีปากบางยังฝืนยิ้ม เพราะต่อให้ถูกเหยียบย่ำสักเพียงใดนางก็ยังรักเขา คืนที่หลี่เลี่ยงหรงกล้าสารภาพด้วยหัวใจ กลับกลายเป็นคืนที่นางถูกตราหน้าเป็นหญิงโง่

และสำหรับหลิงจง… มันเป็นเพียงการกำจัดความรำคาญท่ามกลางผู้คน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย   บทที่ 13 ลุกเป็นไฟ

    บทที่ 13 ลุกเป็นไฟหลี่เหลียงหรงที่แต่งตัวเรียบร้อยดีแล้วเดินตามออกมา ด้านนอกมีสาวใช้บางคนถูกเฆี่ยนอยู่ นางเห็นแล้วก็นึกตกใจกลัวไม่น้อย เพราะไม่เคยเห็นหลิงจงมีอาการเช่นนั้นข่าวการสอบสวนดังไปถึงเรือนหลัก จนเจ้าปกครองเมืองต้องมาดูด้วยตนเองเขารู้ดีว่าบุตรชายตนแม้เอาแต่ใจ แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องไร้เหตุผล หากเขาโมโหขนาดนี้ ย่อมต้องมีเรื่องใหญ่ไม่ทันถึงหน้าเรือน บุตรชายของท่านหมอก็นำจดหมายของบิดามาถวายให้เจ้าปกครองเมืองเมื่ออ่านข้อความจนจบ มือที่เหี่ยวย่นถึงกับสั่น “บังอาจนัก! สายเลือดตระกูลข้าก็กล้าลอบสังหารหรือ! ต่อให้เป็นบุตรของสตรีใด หากสืบเชื้อสายมังกรจากตระกูลหลิง ก็ล้วนมีค่าเท่ากัน ไม่ว่าใครเป็นคนทำ ข้าจะไม่ปล่อยให้รอดเด็ดขาด!“หลิงจงสอบสวนอยู่ที่ไหน”“หน้าเรือนของอนุหลี่ขอรับ”“นำข้าไป”เจ้าปกครองเมืองก็ปรากฏตัวขึ้น ท่าทางเดือดดาลไม่แพ้หลิงจงเลยแม้แต่นิดคำพูดยังไม่ทันขาดเสียง ก็มีเสียงตวาดดังลั่นจากหน้าเรือน“ข้าจะไม่พูดอะไรมาก เรื่องเช่นนี้ครั้งก่อนเกิด พวกเจ้าจำไม่ได้รึว่ามีใครต้องตายบ้าง” เจ้าปกครองเมืองมองไปทั่ว ๆ ครั้งก่อนเขาพลาดเพราะคิดไม่ถึงว่าคนที่ทำ ซึ่งหากพูดกันตามตรงเขา

  • ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย   บทที่ 12 ไฟถูกจุดอีกครั้ง

    บทที่ 12 ไฟถูกจุดอีกครั้งเช้าวันถัดมา ท่านหมอถูกตามมายังเรือนของอนุหลี่ตั้งแต่นางยังไม่ทันจะแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย และสาเหตุที่เร่งด่วนเช่นนี้ กลับไม่ใช่เพราะคำสั่งของหลิงจง แต่เพราะ จางซี่ สาวใช้คนสนิทของหลี่เหลี่ยงหรง ที่รู้จักกับบุตรชายของท่านหมอเป็นการส่วนตัว นางจึงไปตามตัวมาตั้งแต่เมื่อคืน“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” จางซี่ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน ราวกับหญิงสาวป่วยหนักเป็นมารดาหรือน้องสาวของตนเองแม้ทั้งสองจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด จางซี่จึงเต็มใจรับใช้อนุหลี่อย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้นางมีโอกาสเลือกนายได้ตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยยอมรับใช้ใคร ด้วยสถานะที่เป็นหลานสาวของแม่นมเก่าในจวน หลายคนยังเกรงใจนางอยู่บ้าง“เจ้านี่ตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าใคร”บุตรชายท่านหมอหัวเราะเบา ๆ กล่าวอย่างสนิทสนมเพราะทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน และยิ่งทำให้หลี่เหลี่ยงหรงมั่นใจว่าจางซี่เลือกคนมาถูกจริง เมื่อท่านหมอตรวจชีพจรเสร็จ กลับขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น “แปลกยิ่งนัก…”จางซี่ถึงกับรีบทรุดตัวลงข้างเตียง“แปลกเช่นไรหรือเจ้าคะ”หลี่เหลี่ยงหรงที่นั่งพิงหมอนอยู่ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจ“ชีพจรสับสน

  • ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย   บทที่ 11 เป็นเบี้ยย่อมต้องเดินตามสั่งเท่านั้น

    บทที่ 11 เป็นเบี้ยย่อมต้องเดินตามสั่งเท่านั้นหลังจากจางซี่ออกไปหลี่เหลียงหรงก็เอ่ยถามเรื่องของรับขวัญกับหลิงจง หลี่เหลี่ยงหรงที่ลังเลมาหลายวัน นางจะคุยเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่มีโอกาสสักที“จะว่าไป… วันที่ข้าเข้ามาในจวน มีหีบหนึ่งเต็มไปด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ และตั๋วเงิน เขียนว่าเป็นของรับขวัญข้า”หลิงจงที่นั่งพิงเสาอยู่เงยตามองนาง “นั่นเป็นของที่แม่ข้าเตรียมไว้ให้”“มารดาของท่านหรือ…”“นางไม่อยู่แล้ว”“เช่นนั้นใครคนนำมาให้”“เจ้าเป็นบุตรีของอาจารย์จริงหรือ ช่างโง่ยิ่งนัก”หลี่เหลี่ยงหรงเม้มปากแน่น “ข้าก็แค่อยากจะคืน ของพวกนั้นมีค่ามากเกินไป”“แม่ข้าตั้งใจจะให้สะใภ้คนแรก ในเมื่อเป็นเจ้าก็รับเอาไว้เถอะ” “เจ้าค่ะ” หญิงสาวก้มหน้ารับเบา ๆหลิงจงจ้องนางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเรียบ ๆ “คืนนี้ข้าจะค้างที่นี่” “เจ้าค่ะ” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “เมื่อก่อนเจ้าไม่ใช่คนถามคำตอบคำเช่นนี้นี่นา” “ข้าก็เป็นเช่นนี้” นางตอบอย่างแผ่วเบา ความทรงจำในอดีตหวนกลับมา นางเคยมีความฝัน เคยหัวเราะ เคยเพ้อฝันถึงวันที่จะได้อยู่เคียงข้างเขา แต่บัดนี้นางเหมือนคนที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ไม่มีเข็มทิศนำทาง ปล่อย

  • ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย   บทที่ 10 ไฟในจวน

    บทที่ 10 ไฟในจวนกลางดึกคืนนั้น หลิงจงมาถึงเรือนของหลี่เหลี่ยงหรง เงาโคมสว่างเพียงริบหรี่เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวที่นอนคว่ำหน้า บนหลังเต็มไปด้วยรอยหวายแดงจางและแผลเปิด“นายหญิงหลับไปแล้วเจ้าค่ะ จะให้ปลุกไหมเจ้าคะ” จางซี่ถามเสียงเบา หลิงจงส่ายหน้า “ไม่ต้อง ปลุกนางไปก็ทำอะไรไม่ได้”คำพูดที่ไม่ใส่ใจทำให้จางซี่โกรธนายน้อยของตน แต่เมื่อเขายื่นยารักษาให้ สีหน้าโกรธเคืองของจางซี่ก็อ่อนลงวันถัดมาหน้าตาของหลิงจงดูจะหงุดหงิดเล็กน้อยทำให้บิดาที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยต้องเอ่ยถามอย่างรำคาญใจ“เจ้าจะทำหน้าเช่นนั้นไปถึงเมื่อใดกัน”“ข้าก็แค่อารมณ์ไม่ดี ท่านพ่อจะสนใจอะไร” “เจ้าเพิ่งแต่งเมียมีรึจะอารมณ์ไม่ดี”“ก็เพราะข้าเพิ่งแต่ง แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ใครเอาหวายลงหลังนางจนได้ไข้” แม้คำพูดจะลอย ๆ แต่กลับทำให้ฮูหยินใหญ่สะดุ้งเล็กกน้อย เพราะนางไม่คิดว่าหลิงจงจะเอ่ยเช่นนี้ต่อหน้าบิดาของตน“เจ้าดูจะหลงนางไม่ใช่น้อยเลยนะ อย่าลืมนะว่านางเป็นเพียงอนุของเจ้า” หลิงจงหัวเราะหยัน “คำพูดเช่นนี้ของท่านพ่อข้าจะเชื่อได้หรือ ตอนจวนแทบลุกเป็นไฟเพราะท่านรักภรรยาไม่เท่ากัน ข้ายังจำได้อยู่เลย” หลิงจงเอ่ยอย่างขำขันเพราะบ

  • ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย   บทที่ 9 ข้อหาที่ไม่อาจปฏิเสธ

    บทที่ 9 ข้อหาที่ไม่อาจปฏิเสธ“เจ้าหมายความว่าหลังจากข้าถูกปล่อยตัวมาเป็นหลานสาวของฮูหยินใหญ่หรือที่ถูกนำตัวไปบูชายันแทน” “เจ้าค่ะ แม้จะเป็นหลานห่าง ๆ แต่เพราะบิดามารดาของคุณหนูคนนั้นโทษฮูหยินใหญ่ นางก็เลยพาลโกรธเคืองมาโลงที่นายหญิง”เหลี่ยงหรงถอนหายใจยาว “เรื่องบูชายัญไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก…”“นายน้อยเองก็เคยบ่นกับแม่นมเจ้าค่ะ ว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ไม่ยอมจัดการที่สาเหตุ”หลี่เหลี่ยงหรงเผลอยิ้มบาง ๆ เมื่อได้ยิน เพราะแม้จะผ่านเรื่องร้ายแรงมาเพียงใด หลิงจงก็ยังเป็นคนที่นางเคยแอบชอบอยู่วันยันค่ำ“อนุหลี่ อนุหลี่เจ้าคะ” เสียงของสาวใช้ที่ดังที่หน้าเรือนทำให้หลี่เหลี่ยงหรงขมวดคิ้ว ถ้ามีคนมาตามเช่นนี้คงมีเรื่องไม่ดีนัก“ฮูหยินให้มาตามท่านไปเจ้าค่ะ”“เมื่อเช้าข้าก็เพิ่งไปมา เรื่องเร่งด่วนหรือ”“ข้ามิรู้เจ้าค่ะ แค่ฮูหยินสั่งให้ท่านไป ท่านก็ควรไปมิใช่หรือเจ้าคะ”“นี่เจ้า” จางซี่ที่เห็นอีกฝ่ายหมายใจจะกลั่นแกล้งนายหญิงตนก็คิดจะเข้าสู้ กำลังจะโต้กลับ แต่หลี่เหลี่ยงหรงยกมือห้าม“สักครู่ข้าจะตามไป”“ต้องไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” เหลี่ยงหรงถอนหายใจ “เช่นนั้นเจ้าก็ยืนรอเสียตรงนี้” “ให้ข้าไปด้วยไหมเจ้าคะน

  • ท่านปันใจใยข้าต้องอาลัย   บทที่ 8 เรือนใหม่และเงาของจวน

    บทที่ 8 เรือนใหม่และเงาของจวน“กดตัวเองจนชินแล้วหรือ”เสียงเย็นของหลิงจงดังขึ้นจากด้านหลัง หลี่เหลี่ยงหรงไม่แม้แต่จะหันมอง ไม่ตอบ ไม่ปริปากสักคำ ตั้งแต่เรื่องคืนนั้นนางไม่เคยพูดกับเขาให้รู้เรื่องอีกเลยตั้งแต่เกิดเรื่องนางยังไม่ปริปากพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่องสักคำ“นายน้อยเข้าไปในเรือนเถอะเจ้าค่ะ” จางซี่เอ่ยเชิญ แต่หลี่เหลี่ยงหรงเพียงเดินไปยังเรือนใหม่ที่จัดไว้ให้ตนเอง สีหน้าเรียบนิ่งจนไม่อาจอ่านออก“เรือนนี้ไม่เคยมีเจ้าของมาก่อน แต่ก็ดูไม่เก่าเลยนะ” หลิงจงเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ แต่จางซี่กลับรีบตอบ “ที่จริงก็เก่าเจ้าค่ะ แต่เมื่อวานข้าพาคนที่เรือนของนายน้อยมาทำความสะอาด ลำพังข้าคนเดียวคงทำไม่ไหว”หลิงจงหัวเราะหึในลำคอ“ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะฮูหยินของท่านพ่อมิเจียดแบ่งอะไรมาให้เลย เอาเงินนี่ไปหาอะไรมาเอานี่ไปตกแต่งเรือนให้นาง อย่าให้เสียหน้า ข้าไม่อยากให้ใครพูดว่าอนุของข้าต้องอยู่เรือนโทรม“ เขาล้วงเงินออกมายื่นให้จางซี่เร่งเข้าไปรับเงินนั้นแต่หลี่เหลี่ยงหรงรีบห้ามนางเอาไว้“ไม่จำเป็นหรอกเจ้าค่ะ ลำบากกว่านี้ข้าก็เคย มิจำเป็นต้องวุ่นวาย” หลิงจงก้าวเข้าใกล้จนหญิงสาวต้องเงยหน้ามอง “ใครบอกว่า

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status