Share

ตอนที่ 5 เงาจางกลางตลาด

last update Last Updated: 2025-07-23 12:08:33

ตอนที่ 5

เงาจางกลางตลาด

“คุณหนู! ระวังฝั่งขวาเจ้าค่ะ มีคนมองมาอีกแล้ว” เสียงกระซิบแผ่วเบาของซูเม่ยดังข้างหู ดวงตากลมโตของนางเหลือบไปยังชายสองคนในชุดชาวบ้านที่ยืนอยู่หน้าร้านยาจีน แม้แต่นางก็ดูออกว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกค้าที่มาซื้อของจริง ๆ

ฮวาอิงก้มหน้าลง แสร้งดูถาดขนมชั้นในมือราวกับไม่ได้สังเกตอะไร แต่ข้างในกลับตึงเครียดไปหมด

พวกเขา...ตามมองแบบนี้อีกแล้ว

นี่ไม่ใช่วันแรกที่นางถูกติดตามแบบนี้ นับตั้งแต่วันที่ช่วยชายบาดเจ็บหลังพงหญ้าแถบหลังเมืองทางกลับตำหนักเย็น ทุกเช้าหลังตั้งแผงขายขนม ก็มักมีสายตากลุ่มคนจับจ้องมาเสมอ ราวกับเงาตามเงียบ ๆ ไม่ได้เข้าใกล้ แต่ก็ไม่ห่างหายไปไหน

ฮวาอิงไม่แน่ใจว่าการกระทำเช่นนี้ นับเป็นโจรหรือไม่ อยากปล้นขนมหรือเงินทอง แต่นางเป็นเพียงแม่ค้าขายขนมชิ้นละสองอีแปะ สู้ปล้นร้านอื่นคงจะดูคุ้มกว่าหรือไม่

นางคิดไม่ตก จวบสิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมา ทำให้นางเริ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

หรือคนผู้นั้นที่เราช่วยไว้ เขาส่งคนมาติดตาม?

“ซูเม่ย” ฮวาอิงกระซิบเอ่ยเสียงเบา “วันนี้เราจะไม่กลับทางเดิม หาทางเลี่ยงหยุดขายยามอู่ แล้วไปซอกตะวันตกของเมืองกัน ดูว่าพวกนั้นจักทำเยี่ยงไร”

“เจ้าค่ะ”

ฮวาอิงยังคงตั้งแผงขายขนมชั้นตามปกติ ทำตัวราวกับหญิงชาวบ้านธรรมดาที่ขายของประทังชีวิต แต่ความธรรมดานั้น กลับแฝงด้วยการวางแผงรอบคอบ กระทั่งยามอู่ใกล้เข้ามา แผงขนมชั้นก็ถูกรื้อเก็บอย่างอย่างรวดเร็ว ฮวาอิงแสร้งบ่นว่าปวดเมื่อยไปทั้งตัว ลากสังขารเดินช้า ๆ ในขณะที่ซูเม่ยเดินตาม ไปตรอกแคบ ๆ ที่วางแผนไว้

ขณะเดินผ่านร้านเครื่องเขียนพู่กัน ฮวาอิงชำเลืองเห็นชายในชุดชาวบ้านเดินช้า ๆ ออกมามองนางไม่ละสายตา

“เร็วเข้า เดินไปทางซ้าย เข้าซอยหลังโรงเตี้ยม” ฮวาอิงสั่ง

สองสาวหลบเลี้ยวเข้าเส้นทางตัดแคบ ๆ วกอ้อมผ่านโรงเตี้ยมร้าง ๆ ไร้ผู้คน ก่อนจะเดินเลาะกำแพง จนมาถึงกำแพงทางหมาลอดตำหนักเย็นที่พำนักอยู่ ปล่อยให้คนสะกดรอยที่ตามมา...ได้แต่ยืนงงว่าทั้งสองหายไปได้เยี่ยงไร

ชั้นสองของโรงน้ำชาทางเหนือของตลาด

หวังอ๋องนั่งพิงเก้าอี้ไม้ ข้างหน้ามีถ้วยชาร้อนที่ส่งไอร้อน ใบหน้าหล่อแต่หวานหยด ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับคมกริบราวกับกระบี่ที่พร้อมเชือดเฉือน

“หลินห‍ยาง...” เขาพึมพำออกมา ชื่อที่จดจำได้ดีพร้อมกับขนมแปลกประหลาดที่ถูกห่อด้วยใบตองเมื่อไม่กี่วันก่อน

เขาไม่เคยลิ้มรสขนมนี้มาก่อน รสละมุนหนึบเคี้ยวเพลิน แถมยังหอมติดปลายลิ้นนิด ๆ ความอร่อยติดใจจนพยายามให้คนครัวในจวนแกะสูตรทำให้ แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำออกมาไม่เหมือน จนกระทั่งคนครัวคนหนึ่งเอ่ยมาว่า...ขนมชนิดนี้หาได้เพียงแผงขนมเล็ก ๆ แผงหนึ่งในตลาดเท่านั้น

“หายไปอีกแล้ว?” เขาหันไปถามองครักษ์หนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากการสะกดรอยด้วยเสียงนิ่งแต่เย็นจัด องครักษ์หนุ่มที่ยืนอยู่ ทรุดตัวคุกเข่าก้มหน้ามองพื้น

“พ่ะย่ะค่ะ ลับหายไปตรงซอกแคบหลังโรงเตี้ยมร้าง เป็นเส้นทางที่แทบไม่มีผู้ใดสัญจรเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่พวกเจ้าทำงานพลาด แค่ผู้หญิงคนเดียวเหตุใดถึงยังตามไม่ได้”

“ข้าน้อยสมควรตาย! ยกโทษให้กระหม่อมด้วยเถิด พวกนางเหมือนรู้จักเส้นทางเหล่านั้นดีเกินไป ไม่ใช่เพียงแม่ค้าขายของธรรมดาแน่ นายท่าน” องครักษ์ ก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด ทั้งที่การสอดแนมศัตรูเป็นเรื่องงานมิเคยพลาด แต่การตามสองสาวดันยากกว่าหลายขุมนัก

หวังอ๋องกระตุกยิ้มเยือกเย็น ขณะหยิบขนมชั้นที่ถูกห่อด้วยใบตองอย่างประณีต สีสันและกลิ่นหอมยังคงเป็นรสเดิมที่เคยได้รับกินก่อนหน้านั้น

หลินห‍ยาง หญิงผู้นี้อาจจะไม่ธรรมดา

หรือไม่เช่นนั้น...จริง ๆ แล้ว นางไม่ใช่คนธรรมดา

ความสงสัยไม่ได้เกิดจากเพียงรสขนม หากแต่เกิดจากสายตาของหญิงสาวผู้นั้นในยามที่เขาเกือบสิ้นใจ

เขาจำได้ดี ยามที่ลืมตาขึ้นด้วยความเจ็บปวดในพงหญ้าครานั้น เลือดยังไหลจากแขนไม่หยุด แต่นางกลับมองเขาด้วยสายตาที่...นิ่ง สงบ ไม่ใช่สายตาของหญิงบ้านป่าผู้ไม่เคยประสบเรื่องร้าย มันกลับตรงกันข้าม ราวกับผู้มีสติปัญญาผ่านการร่ำเรียนผ่านชีวิตมาอย่างหนัก ซึ่งดวงตาคู่นั้นเขาไม่เคยเห็นในหญิงใดมาก่อน

นางน่าสนใจเสียจริง

ณ ตำหนักเย็น

แสงแดดจากฟ้ายามบ่ายร่วงหล่นผ่านหลังคาเก่ากระทบศาลาไม้หลังเรือน เสียงเหล่าแมลงเริ่มส่งเสียงดังไกล ๆ ลมพริ้มผ่านทำให้ผมยาวสลวยปลิดปลิวไปมา

ฮวาอิงวางตัวลงม้านั่ง หายใจแรงอย่างเหนื่อยหอบ ฝ่ามือเปียกชื้นจากเหงื่อเกาะเสื้อผ้าแนบลำตัว

ซูเม่ยยกน้ำมาวางตรงหน้า ยื่นให้นายของตนด้วยความเป็นห่วง

“คุณหนู...ดื่มน้ำเจ้าค่ะ”

“เฮ้อ...ขอบใจ” ฮวาอิงยกน้ำขึ้นมาดื่มก่อนจะถอนหายใจดัง

“คุณหนู...พวกนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะเจ้าคะ จังหวะการเดิน แววตา และที่สำคัญ...”

“คนในวัง” ฮวาอิงพูดแทน ขณะหรี่ตาลงพลางเท้าคาง เหม่อมองสระบัวเบื้องหน้า

“พวกเขาคงกำลังตามสืบข้า ไม่ก็ตามสืบชื่อที่ข้าโกหกไปอย่าง หลินห‍ยาง เป็นแน่ ข้าว่าตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่า ข้าคือ ฮวาอิง จากตำหนักเย็น”

“เช่นนั้นก็ยังคงปลอดภัยเจ้าค่ะ” ซูเม่ยพึมพำ

“ฮ่า...” ฮวาอิงหัวเราะเบา ๆ “ปลอดภัยรือ...หรือว่าแค่ยังไม่มีใครรู้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่กันแน่ ขนาดคนจากเมืองซ่างผิงยังไม่มีใครติดต่อมาหาข้าด้วยซ้ำ”

“คุณหนู...” ซูเม่ยทำเสียงละห้อยสงสารคุณหนูของตนจับใจ

ฮวาอิงยกถ้วยน้ำขึ้นจิบอีกครา แววตาสะท้อนเปลวไฟเป็นประกายเล้นลับ

“ซูเม่ย...เจ้าเชื่อหรือไม่ คนที่เราช่วยไว้วันก่อน...อาจเป็นคนเดียวกับผู้ที่ส่งคนมาสะกดรอยเรา”

“คุณหนูคิดว่างั้นรือเจ้าคะ?”

“คงงั้น” แววตาของนางเยือกเย็น หวานแต่แหลมคมฉายแววความเฉลียวฉลาดออกมา ก่อนจะเอ่ยวาจาต่อ

“ข้าเองก็เป็นลูกไฮโซมาก่อน เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ข้ากลัวอันใดหรอก แต่ตอนนี้มีสิ่งเดียวที่ข้าต้องรู้ให้ได้...” แววตาของนางฉายแววครุ่นคิด “คนผู้นั้นที่ส่งคนสะกดรอยข้า...มีเป้าหมายใดกัน?”

แม้ท้องฟ้าจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้มอมทองแล้ว แต่ฮวาอิงยังนั่งนิ่งอยู่ที่ศาลา ตาจับจ้องท้องฟ้าเบื้องบน ดวงตานิ่งสงบ แต่คล้ายมีบางอย่างในใจสั่นไหวอย่างลึกซึ้ง

นางนึกถึงบ้าน บ้านที่แท้จริงในโลกเดิม มีเครื่องปรับอากาศ มีโทรศัพท์มือถือ ชีวิตที่ไม่มีใครพยายามฆ่า หรือใส่ร้ายอยู่ยาม แต่น่าแปลก นางก็ไม่คิดที่อยากจะกลับไปมากนัก เพราะถึงแม้จะไม่มีอะไรคุกคามถึงชีวิต แต่มันกลับ ไรชีวา ต่างจากที่นี่ ที่แม้จะมีคนปองร้ายถึงชีวิตกันได้อย่างง่ายดาย แต่ทุกสิ่งรอบตัวกับเต็มไปด้วยชีวาที่ไม่เคยได้รับ

ซูเม่ยที่กลับไปในครัว นำหมั่นโถวจืด ๆ มาให้ฮวาอิงกิน เมื่อเห็นสีหน้าอาการเหม่อลอยราวกับกำลังคิดถึงบ้านอันไกลโพ้น นางจึงได้เอ่ยวาจาด้วยความสงสารนายของตนจับใจ

“เมื่อก่อน คุณหนูมีบ่าวหลายคนคอยปรนนิบัติ มีรถม้ารับส่ง มีอาหารสามมื้อจากพ่อครัวชั้นสูง...” ซูเม่ยพึมพำเสียงเบา “แต่เดี๋ยวนี้ กลับต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ คุณหนูต้องแอบหลบหนีตรากตรำขายขนมข้างทาง ถ้านายท่านเมืองซ่างผิงรู้ว่าท่านเหนื่อยปานนี้ ข้าเชื่อว่านายท่านต้องกลับมารับคุณหนูแน่ ๆ เจ้าค่ะ”

ฮวาอิงได้ฟัง สาวใช้ของตนเอ่ยขึ้น ก็พานทำให้ความรู้สึกและจิตใต้สำนึกที่ยังอยู่ในร่างนี้ผุดออกมา ตอนแรกนางก็เคยสงสัยว่า เหตุใดฮวาอิงร่างเดิมถึงต้องทนทุกข์อยู่ในตำหนักเย็นเช่นนี้ ทั้งที่ก็เป็นถึงคุณหนูของเมืองซ่างผิง แม้จะเป็นเมืองเล็กแต่คงไม่รันทดเช่นนี้แน่ จนเมื่อนางลองหลับตาความนึกคิดของฮวาอิงคนเดิมก็ผุดขึ้น

“ข้าแบกคำว่าสตรีแห่งมืองซ่างผิงไว้ ข้าจะทำให้บ้านเมืองผิดหวังได้เยี่ยงไร ที่ข้าทนอยู่เช่นนี้ เป็นเพียงเพราะคิดไว้ว่าสักวันจะถูกคัดเลือกอีกครา และนำความมั่งคั่งสู่บ้านเมืองซ่างผิงของเราได้” ฮวาอิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา

“ที่แท้เป็นเช่นนี้รือ... เจ้าช่างมีจิตใจใสสะอาดยิ่งนัก แต่โลกนี้กลับมิได้ปรานีผู้มีจิตใจดีงามเสมอไป คนใจดีเกินไป มักเป็นฝ่ายพ่ายให้แก่ชะตาของตน”

“คุณหนูเอ่ยถึงผู้ใดเจ้าคะ” ซูเม่ยเอ่ยถาม

“ข้าเอ่ยถึงตัวข้าเองนี่แหละ เพราะข้าใจดีมากเกินไปจึงทำให้เจ้าต้องพล้อยเดือดร้อนไปด้วย”

“คุณหนูอย่าพูดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ไม่ว่าต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะเคียงข้างปรนนิบัติท่านไปชั่วชีวิตเจ้าค่ะ”

“ขอบใจเจ้ามากนะ แต่เจ้าไม่ต้องตอบเอาใจข้าเพียงนี้ก็ได้ ข้าถามตามตรง เจ้ากลัวหรือไม่?” ฮวาอิงหันไปถามซูเม่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ซูเม่ยชะงักไปครู่ ก่อนจะตอบเสียงเบา

“กลัวเจ้าค่ะ...แต่หากคุณหนูยังยืนหยัดได้ ข้าก็จะไม่เป็นอันใด”

ฮวาอิงพยักหน้าเล็กน้อย สายตาจับจ้องท้องฟ้าที่เริ่มหม่น

“ข้าเองก็กลัว...กลัวว่าจะไม่รอด...” นางหยุดไปชั่วครู่ “แต่ว่านะ...ถ้าข้าอ่อนแอ เราก็จะไม่อาจหลุดพ้นวงเวียนจากตำหนักเย็นแดนคนไร้ค่านี่ได้ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากเดินต่อ แม้หนทางจะเต็มไปด้วยขวากหนาม และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปลายทางคืออันใด แต่ข้าไม่ยอมให้ตนเอง และเจ้าต้องมาจมปลักอยู่ในที่ ๆ ไร้ตัวตนเยี่ยงนี้หรอก”

“คุณหนู ไม่ว่าคุณหนูจะทำอันใด หรือไปที่ใด ข้าจะติดตามท่านไปทุกที่เจ้าค่ะ” ซูเม่ยเอ่ยรับเสียงหนักแน่น

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงสุดท้ายถูกแทนที่ด้วยเงามืดสลัวของค่ำคืน แต่ในแววตาของหญิงสาวผู้หนึ่ง...กลับมีแสงสว่างที่ยังไม่ดับลงแม้ในยามที่ไร้คนมองเห็น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 37 ขนมสอดไส้ แด่ฮองเฮา

    ตอนที่ 37ขนมสอดไส้ แด่ฮองเฮาณ ห้องรับรองหลักตำหนักมิ่งหลัน ถูกจัดเตรียมอย่างสวยงามสำหรับถวายอาหารและขนมหวาน ตามรับสั่งของฮองเฮาชุดภาชนะลายครามพิเศษถูกนำออกมาใช้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อต้อนรับองค์รัชทายาท ผู้เสด็จมาเยือนโต๊ะไม้สลักสวยงามประดับด้วยดอกไม้สดจากสวน กลิ่นหอมของน้ำเก๊กฮวยในจอกอบอวลลอยฟุ้งหอมฮวาอิงยืนนอบน้อมอยู่ในมุมห้องกับเฟยเทียนด้านหนึ่ง ในเครื่องแต่งกายเรียบร้อย สะอาดสะอ้านไม่อวดตน รอบกายคือบรรดานางใน ขันที ที่คอยจัดเตรียมอาหารมื้อพิเศษนี้โดย ขนมสอดไส้ ถูกวางเด่นบนจนหยกขาวฮองเฮาเสด็จพร้อมด้วยรัชทายาทที่เดินตามมาติด ๆ พระพักตร์ของฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ยังคงสงบนิ่ง แต่สายพระเนตรมักกวาดมองรอบด้านด้านองค์รัชทายาท ชายหนุ่มรูปงามผู้มีสายตาเยือกเย็น แต่ลึกในแววตานั้นกลับแฝงด้วยนัยยะบางอย่างราวกับมีความในใจ เขามองฮวาอิงครู่หนึ่ง ด้วยความรู้สึกคล้ายกำลังพินิจบางอย่าง... ก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าทั้งฮองเฮา และรัชทายาทรับประทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ พระพัก

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 36 ขนมที่ห่อด้วยใจ

    ตอนที่ 36ขนมที่ห่อด้วยใจฮวาอิงลืมตาตื่นท่ามกลางความเวียนศีรษะ และไอเล็กน้อย ที่ยังหลงเหลืออยู่“คุณหนูยังไม่หายดี อย่าลุกเลยเจ้าค่ะ นอนพักผ่อนก่อน” ซูเม่ยที่กำลังยกยาเข้ามา วางถาดแล้วรีบมาประคองฮวาอิงไว้แค่ก...แค่ก ฮวาอิงไอเบา ๆ มือแตะหน้าผากตนเองแล้วส่ายหน้า “ข้าดีขึ้นแล้ว เพียงแต่มึนนิดหน่อย ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ”“แต่คุณเพิ่งกินยาได้เพียงครั้งเดียวเมื่อคืน...วันนี้ให้ข้าจัดการแทนเถิดนะเจ้าคะ หรือไม่ก็แจ้งท่านเฟยเทียนว่าขอเลื่อนวันถวายขนมไปก่อน ข้าเชื่อว่าฮองเฮาทรงเข้าใจ”ฮวาอิงยังคงส่ายหน้า“ข้าไม่อยากให้ฮองเฮาต้องรอคอยคนอย่างข้าเลย ข้ายกให้ใครทำขนมสอดไส้นี้ไม่ได้หรอกมันซับซ้อน และยังไม่ได้สอนใคร” เสียงพูดของนางแม้เบาบาง ทว่าแฝงความดื้อรั้นและแน่วแน่“แม่นางฮวาอิงฟื้นแล้วงั้นหรือ? แต่จากที่ข้าดูสภาพแล้ว แม่นางไม่ควรฝืนนะ” เฟยเทียนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าครุ่นคิด นางส่งสายตามองฮวาอิง ประเมินนางที่นอนซมแล้วยังดูซีดเซียวอยู่นักฮวาอิงประสานมือโค้งให้อย่างอ่อนน้อม“ท่านเฟยเทียน ข้าเคยสัญญากับฮองเฮา ว่าจะรับผิดชอบขนมถวายเมื่อวันก่อน มาวันนี้ข้าคงไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้ ข้าขอทำเถอะเจ้าค่

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 35 กลิ่นอุ่นยังมิจาง

    ตอนที่ 35กลิ่นอุ่นยังมิจางสายฝนเริ่มซา กลายเป็นเพียงละอองโปรยปราย ชะใบไม้ให้กลายเป็นสีเขียวเข้มชุ่มฉ่ำ กลิ่นฝนผสมกลิ่นไม้จากบ้านเรือนเก่าเคล้าคลอในอากาศ ขณะสองร่างใต้ร่มคันเดียวกันก้าวเดินช้า ๆ ไปตามตรอกถนนสายหนึ่งหนิงอ๋องถือร่มอยู่ด้านซ้าย ฮวาอิงยืนอยู่ด้านขวา ระยะห่างระหว่างไหล่ทั้งสองไม่เกินหนึ่งฝ่ามือ ทว่ากลับไม่มีใครรู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย“เด็กชายคนนั้นชื่อเสี่ยวเป่า” เสียงทุ้มนุ่มของเขาดังขึ้น “พ่อของเขาเคยร่วมรบด้วยกันที่ชายแดนตะวันตกเมื่อนานมาแล้ว บัดนี้เจ็บเรื้อรัง ไม่อาจรบแนวหน้าได้อีกต่อไป”ฮวาอิงเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย“ท่านเป็นถึงแม่ทัพสูงสุด กลับรู้จักพวกเขาโดยตรงเลยหรือเจ้าคะ?”“ไม่หรอก...ทหารเป็นหมื่นเป็นแสนข้าจะรู้จักหมดได้เยี่ยงไร เพียงแต่ข้าอ่านบันทึกประจำวันว่ามีเหตุการ์ณใดบ้างเกิดขึ้นก็เท่านั้น” หนิงอ๋องเงียบไปครู่ก่อนเอ่ยต่อ“แม่ของเสี่ยวเป่า เคยเขียนจดหมายขอบคุณกองบัญชาการหลังได้รับเบี้ยยังชีพ ข้าเห็นชื่อเลยจำได้...ไม่คิดเลยว่าคนที่ทำเพื่อชาติ กลับต้องแบกภาระทางบ้านไปด้วย จะให้ข้าปล่อยไปได้เยี่ยงไรจริงไหม ประจวบเหมาะวันนี้มีเวลาว่างจึงอยากหาของขวัญให้ลูกชายเขา”

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 34 ร่มคันเดียวกลางฝน

    ตอนที่ 34ร่มคันเดียวกลางฝนยามเช้าในเมืองหลวงวันนี้ ลมโชยแผ่วอ่อนให้ได้กลิ่นหอมจากร้านน้ำชาริมทางลอยแตะจมูก ช่วยปลุกบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นท้องฟ้าวันนี้โล่งโปร่งไร้เงาเมฆฝนเหมือนหลายวันก่อน พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดของขึ้นแผงกันอย่างคึกคัก เสียงเจรจาต่อรองราคายังคงเช่นเดิม พานทำให้ความรู้สึกของฮวาอิง นึกถึงช่วงที่ต้องปลอมตัวเป็น หลินหยาง ขายขนมไทยก่อนหน้านั้นวันนี้ฮวาอิงออกมาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำขนมถวายแด่ฮองเฮา นางสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สมฐานะตำแหน่งพิเศษมากขึ้น เพียงแต่ยังคงสวมผ้าปิดหน้าลายดอกเหมยไม่เผยใบหน้ามากนักส่วนซูเม่ยเดินอยู่ข้าง ๆ ถือตะกร้าไม้ไผ่สำหรับใส่วัตถุดิบ ทั้งที่นางมีตำแหน่งสูงในครัวหลวงและสามารถเอ่ยสั่งให้คนครัวออกมาซื้อได้ แต่นางกลับไม่ทำและประสงค์จะออกมาเดินตลาดเพื่อเลือกวัตถุดิบด้วยตนเอง“วันนี้ คุณหนูจะทำขนมอันใดถวายแด่ฮองเฮาเจ้าคะ?” ซูเม่ยเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี“ขนมสอดไส้” ฮวาอิงหันใบหน้าตอบซูเม่ย“เป็นขนมอย่างไรเจ้าคะ ข้าไม่เคยได้ยินอีกแล้ว”“เป็นขนมที่ข้าชอบมาก กลิ่นหอมใบเตยนวลกะทิและน้ำตาลเคี่ยว ด้านในสอดใส่มะพร้าวคั่วน้ำตาล เป็นขนมที่ดูธรรมดาแต่ทำให้คนกินแทบ

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 33 คำสั่งเหนือใคร

    ตอนที่ 33คำสั่งเหนือใครเบื้องหน้าคือ สถานที่ประทับของฮ่องเต้ผู้มีอำนาจคับจักรวรรดิอวิ๋นชวน หวังอ๋องและฮวาอิงเดินอยู่บนลานหินหน้าตำหนักมังกรหยกอย่างสงบนิ่ง แต่แฝงด้วยแรงกดดันที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กลุ่มขันทีในชุดเต็มยศเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบฮวาอิงเดินตามหลังหวังอ๋องอย่างเงียบเชียบ ใต้เสื้อคลุมไหมสีขาวนวลตา มือเรียวซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ ปลายนิ้วเรียวเกร็งไว้ไม่ให้สั่น เพราะไม่ว่านางจะกล้าเพียงใด หรือเคยปะทะฝีปากกับอ๋องผู้มากอำนาจมานักต่อนักแต่...วันนี้คือการเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ผู้เป็นเจ้าของจักรวรรดิทั้งผืน ในฐานะองค์หญิงซ่างผิงผู้คิดวิธีถนอมเสบียงแด่เหล่ากองทัพฮวาอิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ชะลอฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะย่ำเท้าก้าวต่อไป หวังอ๋องที่เดินนำหน้าหันมองนางเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าให้นางตามตนมาเมื่อประตูบานไม้แกะสลักมังกรเบิกกว้าง เสียงขันทีอาวุโสก็เปล่งเสียงสูงกังวาน“หวังอ๋องแห่งราชวงศ์อวิ๋นชวน พร้อมองค์หญิงแห่งเมืองซ่างผิง ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”ภายในตำหนักมังกรหยก สงบ เงียบ ให้ความรู้สึกเย็นเยียบจนถึงขั้วหัวใจ ใต้เพดานสูง มังกรห้าตัวเลื้อยพันเสาตำหนักดั่งคอยค้ำจุนแผ่นดินพ

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 32 ก่อนรุ่งอรุณแห่งผลลัพธ์

    ตอนที่ 32ก่อนรุ่งอรุณแห่งผลลัพธ์ยามซื่อ ค่ำคืนที่ลมพัดแผ่วเบาเย็นสบาย แสงเทียนจากโคมส่องภายในเรือนรับรองที่จัดไว้ให้เฉพาะสำหรับนาง ทั้งเรือนเงียบเชียบ มีเพียงเสียงพู่กันเสียดสีกับกระดาษ และเสียงเดินไปมาของสาวใช้คนสนิทอย่างซูเม่ยฮวาอิงนั่งหลังตรงอยู่ตรงกลางห้องในชุดเรียบง่าย ผมถูกรวบขึ้นสูงอย่างลวก ๆ มีปิ่นไม้สอดไว้หลวม ๆ เท่านั้นในมือนางคือพู่กันด้ามเรียว ที่ขีดเขียนรายงานเบื้องต้นไปบางส่วนแล้ว บัดนี้เหลือเพียงหน้าสุดท้าย หน้าแห่งการสรุปผล ที่จะถูกส่งให้หวังอ๋องในยามเช้าซูเม่ยยกน้ำชาอุ่น ๆ มาวางไว้ข้าง ๆ นาง ก่อนจะเดินนั่งใกล้ไม่ห่างนัก คอยเปลี่ยนน้ำหมึกให้ และเฝ้าดูผู้เป็นนายเขียนลงกระดาษทีละตัวอักษรอย่างตั้งใจวันที่เจ็ดของการทดสอบการถนอมอาหารเสบียง ฮวาอิงเม้มปากนิด ใบหน้าคิ้วขมวดหน่อยแสดงถึงความตั้งใจเพื่อให้เขียนออกมาให้ดีที่สุดผลการถนอมเนื้อสดโดยหมักเกลือกับตากแดดให้แห้ง ยังคงคุณค่าทางรสชาติได้อย่างดี เมื่อนำไปลองทำเป็นอาหารพร้อมปรุงในภาวะฉุกเฉิน สามารถนำไปทอดหรือย่างได้โดยไม่เสียรสเนื้อ กลิ่นและสัมผัสยังคงใกล้เคียงกับเนื้อสดยามปรุงสุก แถมความอร่อยยังเหมาะที่จะกินกับข้าวสวยร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status