Share

ตอนที่ 6-1 ศึกปะทะเชิง

last update Last Updated: 2025-07-24 20:58:39

ตอนที่ 6

ศึกปะทะเชิง

ณ แผงขายขนมเล็ก ๆ ของฮวาอิง ที่สวมรอยเป็น หลินห‍ยาง ถูกตั้งขึ้นอย่างคล่องแคล่วเช่นเคย ขนมชั้นตอนนี้มีสีหลากหลาย เรียงรายอย่างประณีตในถาดหวายเล็ก ๆ มีผ้าลายดอกเหมยคลุมไว้กันแมลงตอม ดูสะอาดสะอ้านกว่าใคร

“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหนู...เอ่อ...คุณหลิน” ซูเม่ยกระซิบแผ่ว หลังจากจัดโต๊ะเสร็จเรียบร้อย

ฮวาอิงพยักหน้าเบา ๆ พลางปรับผ้าคลุมหน้าให้ปิดดวงตาอีกนิด วันนี้นางให้ซูเม่ยสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกับตน พร้อมผ้าคลุมหน้าบางเบา เพื่อหลอกตาคนสะกดรอยให้สับสน

“จำไว้นะซูเม่ย ถ้ามีใครจ้องมากกว่าหนึ่ง เราจักเก็บแผงแล้วอ้อมกลับไปโรงเตี้ยมร้างดั่งเคย” ฮวาอิงพูดเสียงต่ำ ขณะมือยังคีบขนมวางให้เรียบร้อย

“เจ้าค่ะ”

เพียงตั้งแผงได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ลูกค้าประจำเริ่มแวะเวียนมาอุดหนุน คนชรา เด็กน้อยร้านน้ำชา หรือแม่ค้าร้านใกล้เคียง ต่างยิ้มให้ ฮวาอิงอย่างคุ้นเคย

ขณะบรรยากาศคล้ายจะเป็นไปตามปกติ บุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่งก็ก้าวมาหยุดยืนหน้าร้าน เขาสวมเสื้อผ้าอาภรณ์เนื้อดี แม้จะพยายามคลุมหมวก แต่ท่วงท่าการเดิน การยืน หรือแม้แต่ท่ายกมือกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายผู้มีฐานะชัดเจน

“ขนมนี่...หน้าตาแปลกดีนะ” เขาย่อตัวลงเล็กน้อย พยายามพูดภาษาชาวบ้าน แต่กลับฟังดูประดิษฐ์เสียจนน่าขัน ฮวาอิงปรายตามอง ไม่ได้ตอบในทันที

บุรุษผู้นั้นหยิบขนมชั้นสีม่วงอ่อนขึ้นมาดม แล้วพยักหน้า ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงคล้ายจะประหลาดใจ เกินจริงไปนิด

“หอมจริง ๆ  กลิ่นเหมือน...ดอกไม้ผสมน้ำหวาน! ใช่หรือไม่?”

“ข้าแค่ต้มดอกอัญชัญคั้นสีกับน้ำเชื่อมเจ้าค่ะ”ฮวาอิงตอบเรียบ ๆ พลางยิ้มบาง

“ฮ่า...คุณหนูคนนี้ ทำขนมได้น่าสนใจเสียจริง”

ฮวาอิงแสร้งหัวเราะตาม บุรุษผู้นั้น แต่ในใจกลับตึงเครียดขึ้นมา

คุณหนู อย่างนั้นหรือ? นางเหลือบตามองบุรุษผู้นั้นอีกครา เขาเลือกขนมทีละชิ้นราวกับเลือกเครื่องประดับ น้ำเสียงพูดจาสุภาพเกินชาวบ้านทั่วไป  แถมใบหน้าแม้จะเปรอะเปื้อนฝุ่นเล็กน้อย แต่ฮวาอิงก็มองออกว่าเกิดจากความตั้งใจให้มันเป็นเยี่ยงนี้เสียมากกว่า เพราะฮวาอิงเองก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน

“ข้าเป็นแค่ชาวบ้านตาดำ ๆ ท่านอย่าเรียกข้าว่า คุณหนู เลยเจ้าค่ะ ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก” ฮวาอิงเอ่ยเสียงเรียบ

บุรุษผู้นั้นยิ้มอย่างไม่สะทก ยกมือขึ้นประสาน

“อ่า...ข้าผิดเอง ข้าเป็นพ่อค้า...ไม่สิ ข้าเป็นคนจากต่างเมือง ร่อนเร่ไปทั่ว มาที่นี่เพื่อพักผ่อน เจอขนมแปลกตา ก็อดไม่ได้ที่จะอยากลิ้มลอง พลางคิดว่าผู้ที่สามารถทำขนมแสนอร่อยนี้ได้ คงเป็นคนจากตระกูลสูงศักดิ์แน่”

“เช่นนั้นรึเจ้าคะ” ฮวาอิงยิ้มบาง ดวงตาเย็นชาเจือระแวง “ท่านมาจากต่างเมือง แต่กลับแต่งตัวคล้ายชาวบ้านเดินตลาดแห่งนี้ ถ้าท่านไม่บอกว่ามาจากแดนไกล ข้าคงนึกว่าท่านกำลังแสร้งปลอมตัวเลยนะเจ้าคะ”

“ฮ่า...” บุรุษผู้นั้นหัวเราะเสียงดัง

“ข้าชักถูกใจเจ้าแล้วสิ แต่อย่างไรเสีย ขนมเจ้าก็อร่อยนัก ข้าอยากซื้อทั้งหมดที่เหลืออยู่บนถาดหวายนี้ เอาไปฝากสหายเสียหน่อย”

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ข้าจะห่อใบตองให้ท่าน” ฮวาอิงเอ่ย ก่อนจะคีบขนมลงห่อใบตองอย่างนิ่งสงบ แต่ในใจนางกลับพลุ่งพล่านหวาดระแวง

บุรุษผู้นั้นรับห่อขนมชั้นไป พร้อมทิ้งเงินจำนวนที่เกินกว่าค่าขนมไปมาก

“ข้าจะแวะเวียนมาแผงขนมแม่นางบ่อย ๆ คาดหวังไว้ว่าจะมีขนมประหลาดออกมาให้ลิ้มลองอีก...แม่นางหลินห‍ยาง”

ชื่อปลอมที่ไม่มีใครรู้ นอกจากชายปริศนาที่ฮวาอิงเคยช่วยไว้คราวก่อน เอ่ยจากปากของบุรุษตรงหน้า ทำฮวาอิงชะงักไปชั่ววินาที

บุรุษผู้นั้นเพียงยิ้มแล้วเดินจากไปอย่างอ้อยอิ่ง ฮวาอิงยืนนิ่ง ใจเต้นแรงราวจะทะลุอก

“ชายผู้นั้นเป็นใครกันเจ้าคะ?” ซูเม่ยกระซิบจากด้านหลัง ฮวาอิงก้มลงเก็บถาด ไม่ตอบในทันที

“คนที่จับตาดูเรา” ฮวาอิงกระซิบ “และเขาผู้นั้น...ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ซูเม่ย”

(ตำหนักรองขององค์ชายสาม หวังอ๋อง)

ภายในเรือนด้านหลังของตำหนักซึ่งซ่อนอยู่หลังแนวต้นไผ่ ห้องลับใต้ดินที่ไม่มีแม้แต่หน้าต่างสักบาน กลับสว่างด้วยแสงจากโคมไฟติดผนัง ด้านในมีเพียงโต๊ะไม้กลึงเรียบ กับฉากบังลายเมฆที่แบ่งห้องเป็นสองส่วน

หวังอ๋อง (นามเต็ม หวังเยวี่ยน) ในชุดคลุมบาง สวมเสื้อคลุมด้านนอกทับอย่างเรียบง่าย นั่งอยู่หัวโต๊ะ ดวงตาเรียบนิ่งแต่แฝงแววครุ่นคิด ริมฝีปากเม้นแน่น ขณะพลิกใบตองที่ห่อขนมของฮวาอิงอยู่

คนข้างตัวหวังอ๋อง นาม ไป๋อวี่ องครักษ์คนสนิท นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างเงียบงันไม่กล้าเอ่ยวาจาใด ๆ

“หานจื่อ...เข้ามา” หวังอ๋องเอ่ยเสียงเรียบ

ม่านไม้ไผ่ถูกเลิกออก เผยให้เห็นชายวัยกลางคนชุดคลุมนักปราชญ์ สายตาแหลมคมแฝงด้วยไหวพริบ เขาคือหัวหน้าข่าวกรองที่ประจำการฝ่ายหวังอ๋อง

“พ่ะย่ะค่ะ”

หวังอ๋องวางห่อขนมลงบนโต๊ะ

“ข้าพบสตรีผู้หนึ่งในตลาด ใช้นามว่า หลินห‍ยาง เป็นแม่ค้าขายขนมแผงลอยเล็ก ๆ ดูผิวเผินเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดา แต่...” หวังอ๋องหยุดชะงักชั่วครู่

“แต่นางกลับใช้ถ้อยคำเฉียบคม รู้จักประเมินผู้คน พยายามปิดบังตัวตน และใช้เส้นทางหลบหนีอย่างชำนาญเกินชาวบ้านนัก” หวังอ๋องเอ่ยตามที่คิด ไป๋อวี่พยักหน้า

“นายท่านหมายถึง เส้นทางหลังตลาดวกไปทางโรงเตี้ยมร้าง เป็นบริเวณห่างจากบ้านผู้คนนัก เป็นทางที่แม้แต่ชาวบ้านยังหลงทิศได้ง่าย ๆ” ไป๋อวี่อธิบายเพิ่มให้หานจื่อเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น

“ถูกต้อง!” หวังอ๋องดีดนิ้วเบา ๆ

“นางหนีไปทางนั้นโดยไม่ลังเล ย่อมไม่ใช่แม่นางธรรมดาแน่ตามที่นายท่านคาดการณ์พ่ะย่ะค่ะ เพราะโดยปกติเส้นทางนั้นมันเป็นทางต้องห้าม...” หานจื่อตีความเพิ่ม

หวังอ๋องผายมือช้า ๆ ไปยังแผนที่เล็ก ๆ ที่รวบรวมข้อมูลหลบหนีของฮวาอิงไว้ให้หานจื่อมอง

“ดูจากเส้นทางที่แม่นางผู้นี้หลบหนีจากองค์ชายแล้ว นางลัดเลาะเส้นทางลับตาคนมาหยุดที่โรงเตี้ยมร้าง จากนั้นก็วกเข้าซอยแคบ ก่อนจะหายวับราวอากาศตรงกำแพง ตำหนักเย็น พ่ะย่ะค่ะ”

“ตำหนักเย็นรือ?...หรือว่า...” หวังอ๋องพึมพำออกมา

“เป็นแค่การคาดเดาของกระหม่อมเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” หานจื่อประสานมือก้มหน้าเอ่ยต่อหวังอ๋อง

หวังอ๋องยกถ้วยชาจิบเบา ๆ ดวงตายังแน่นิ่งคิดบางอย่าง

“แต่ข้ารู้ว่านางไม่ใช่คนธรรมดา นางแกล้งหลอกว่าเป็นแม่ค้าชาวบ้าน ทั้งยังวางกลยุทธ์หลอกตาคนสะกดรอยของเราได้แนบเนียนนัก” หวังอ๋องกอดอกเอ่ยวาจา

“...” องค์รักษ์ และหัวหน้าปราชญ์ เงียบนิ่ง

“แม่นางอีกคนที่ติดตามนาง วันนี้แต่งตัวคล้าย หลินห‍ยาง มากเกินไป ข้าให้คนสะกดรอยแล้ว พบว่าพวกนาง สลับตำแหน่ง อยู่เนือง ๆ เพื่อหลบตาคน” หวังอ๋องวางถ้วยชาลงเสียงดัง

หานจื่อขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “หรือว่า...เป็นผู้หนีภัย? ไม่ก็...สายลับ? พ่ะย่ะค่ะ”

หวังอ๋องส่ายหน้าเบา ๆ

“ไม่แน่ใจ แต่ที่ข้ามั่นใจ นางไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ ขนมที่นางทำก็เช่นกัน รูปร่างแปลก รสไม่เหมือนใคร ข้าไม่เคยลิ้มลองในวังหลวง ไม่ใช่ฝีมือสามัญชนแน่”

“หลินห‍ยาง เป็นชื่อปลอม หรือว่า แม่นางผู้นี้เป็นคนจากเมืองอื่น?” หานจื่อเอ่ยขึ้นอย่างรอบคอบ “ท่านอ๋องต้องการให้กระหม่อมสืบที่มาใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“ใช่ สืบตั้งแต่นาม หลินห‍ยาง ช่วงเวลาการปรากฏตัวของแม่นางผู้นั้นในตลาด รวมไปถึงตรวจสอบผู้คนที่เคยถูกส่งเข้า ตำหนักเย็น ช่วงสิบปีที่ผ่านมา ข้าสงสัยว่าเรื่องนี้อาจโยงลึกกว่าที่เห็นเราเห็น”

“ท่านอ๋อง...หากเรื่องนี้สืบสาวแล้วโยงการเมือง ท่านอ๋อง...จะทรงรายงานให้ฮ่องเต้ทราบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

หวังอ๋องแค่นหัวเราะเย็น ๆ

“ท่านพี่ข้าเฝ้าแต่สนใจ อำนาจ ส่วนข้าสนใจแต่ ความจริง มากกว่า หากข้าไปแจ้ง มีหวังคนพวกนั้นจะเผาเส้นทางทั้งหมดทิ้งก่อนเราจะเห็นหน้าแม่นางผู้นั้นเสียอีก” หวังอ๋องลุกขึ้นช้า ๆ มือประสานหลัง

“โลกนี้เต็มไปด้วยเงามืด และในเงานั้น มักมีคนที่เรามองข้าม...แต่บางครั้ง คนเหล่านั้นในเงา อาจเปลี่ยนทิศทางพายุลูกใหญ่ได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 37 ขนมสอดไส้ แด่ฮองเฮา

    ตอนที่ 37ขนมสอดไส้ แด่ฮองเฮาณ ห้องรับรองหลักตำหนักมิ่งหลัน ถูกจัดเตรียมอย่างสวยงามสำหรับถวายอาหารและขนมหวาน ตามรับสั่งของฮองเฮาชุดภาชนะลายครามพิเศษถูกนำออกมาใช้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อต้อนรับองค์รัชทายาท ผู้เสด็จมาเยือนโต๊ะไม้สลักสวยงามประดับด้วยดอกไม้สดจากสวน กลิ่นหอมของน้ำเก๊กฮวยในจอกอบอวลลอยฟุ้งหอมฮวาอิงยืนนอบน้อมอยู่ในมุมห้องกับเฟยเทียนด้านหนึ่ง ในเครื่องแต่งกายเรียบร้อย สะอาดสะอ้านไม่อวดตน รอบกายคือบรรดานางใน ขันที ที่คอยจัดเตรียมอาหารมื้อพิเศษนี้โดย ขนมสอดไส้ ถูกวางเด่นบนจนหยกขาวฮองเฮาเสด็จพร้อมด้วยรัชทายาทที่เดินตามมาติด ๆ พระพักตร์ของฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ยังคงสงบนิ่ง แต่สายพระเนตรมักกวาดมองรอบด้านด้านองค์รัชทายาท ชายหนุ่มรูปงามผู้มีสายตาเยือกเย็น แต่ลึกในแววตานั้นกลับแฝงด้วยนัยยะบางอย่างราวกับมีความในใจ เขามองฮวาอิงครู่หนึ่ง ด้วยความรู้สึกคล้ายกำลังพินิจบางอย่าง... ก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าทั้งฮองเฮา และรัชทายาทรับประทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ พระพัก

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 36 ขนมที่ห่อด้วยใจ

    ตอนที่ 36ขนมที่ห่อด้วยใจฮวาอิงลืมตาตื่นท่ามกลางความเวียนศีรษะ และไอเล็กน้อย ที่ยังหลงเหลืออยู่“คุณหนูยังไม่หายดี อย่าลุกเลยเจ้าค่ะ นอนพักผ่อนก่อน” ซูเม่ยที่กำลังยกยาเข้ามา วางถาดแล้วรีบมาประคองฮวาอิงไว้แค่ก...แค่ก ฮวาอิงไอเบา ๆ มือแตะหน้าผากตนเองแล้วส่ายหน้า “ข้าดีขึ้นแล้ว เพียงแต่มึนนิดหน่อย ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ”“แต่คุณเพิ่งกินยาได้เพียงครั้งเดียวเมื่อคืน...วันนี้ให้ข้าจัดการแทนเถิดนะเจ้าคะ หรือไม่ก็แจ้งท่านเฟยเทียนว่าขอเลื่อนวันถวายขนมไปก่อน ข้าเชื่อว่าฮองเฮาทรงเข้าใจ”ฮวาอิงยังคงส่ายหน้า“ข้าไม่อยากให้ฮองเฮาต้องรอคอยคนอย่างข้าเลย ข้ายกให้ใครทำขนมสอดไส้นี้ไม่ได้หรอกมันซับซ้อน และยังไม่ได้สอนใคร” เสียงพูดของนางแม้เบาบาง ทว่าแฝงความดื้อรั้นและแน่วแน่“แม่นางฮวาอิงฟื้นแล้วงั้นหรือ? แต่จากที่ข้าดูสภาพแล้ว แม่นางไม่ควรฝืนนะ” เฟยเทียนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าครุ่นคิด นางส่งสายตามองฮวาอิง ประเมินนางที่นอนซมแล้วยังดูซีดเซียวอยู่นักฮวาอิงประสานมือโค้งให้อย่างอ่อนน้อม“ท่านเฟยเทียน ข้าเคยสัญญากับฮองเฮา ว่าจะรับผิดชอบขนมถวายเมื่อวันก่อน มาวันนี้ข้าคงไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้ ข้าขอทำเถอะเจ้าค่

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 35 กลิ่นอุ่นยังมิจาง

    ตอนที่ 35กลิ่นอุ่นยังมิจางสายฝนเริ่มซา กลายเป็นเพียงละอองโปรยปราย ชะใบไม้ให้กลายเป็นสีเขียวเข้มชุ่มฉ่ำ กลิ่นฝนผสมกลิ่นไม้จากบ้านเรือนเก่าเคล้าคลอในอากาศ ขณะสองร่างใต้ร่มคันเดียวกันก้าวเดินช้า ๆ ไปตามตรอกถนนสายหนึ่งหนิงอ๋องถือร่มอยู่ด้านซ้าย ฮวาอิงยืนอยู่ด้านขวา ระยะห่างระหว่างไหล่ทั้งสองไม่เกินหนึ่งฝ่ามือ ทว่ากลับไม่มีใครรู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย“เด็กชายคนนั้นชื่อเสี่ยวเป่า” เสียงทุ้มนุ่มของเขาดังขึ้น “พ่อของเขาเคยร่วมรบด้วยกันที่ชายแดนตะวันตกเมื่อนานมาแล้ว บัดนี้เจ็บเรื้อรัง ไม่อาจรบแนวหน้าได้อีกต่อไป”ฮวาอิงเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย“ท่านเป็นถึงแม่ทัพสูงสุด กลับรู้จักพวกเขาโดยตรงเลยหรือเจ้าคะ?”“ไม่หรอก...ทหารเป็นหมื่นเป็นแสนข้าจะรู้จักหมดได้เยี่ยงไร เพียงแต่ข้าอ่านบันทึกประจำวันว่ามีเหตุการ์ณใดบ้างเกิดขึ้นก็เท่านั้น” หนิงอ๋องเงียบไปครู่ก่อนเอ่ยต่อ“แม่ของเสี่ยวเป่า เคยเขียนจดหมายขอบคุณกองบัญชาการหลังได้รับเบี้ยยังชีพ ข้าเห็นชื่อเลยจำได้...ไม่คิดเลยว่าคนที่ทำเพื่อชาติ กลับต้องแบกภาระทางบ้านไปด้วย จะให้ข้าปล่อยไปได้เยี่ยงไรจริงไหม ประจวบเหมาะวันนี้มีเวลาว่างจึงอยากหาของขวัญให้ลูกชายเขา”

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 34 ร่มคันเดียวกลางฝน

    ตอนที่ 34ร่มคันเดียวกลางฝนยามเช้าในเมืองหลวงวันนี้ ลมโชยแผ่วอ่อนให้ได้กลิ่นหอมจากร้านน้ำชาริมทางลอยแตะจมูก ช่วยปลุกบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นท้องฟ้าวันนี้โล่งโปร่งไร้เงาเมฆฝนเหมือนหลายวันก่อน พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดของขึ้นแผงกันอย่างคึกคัก เสียงเจรจาต่อรองราคายังคงเช่นเดิม พานทำให้ความรู้สึกของฮวาอิง นึกถึงช่วงที่ต้องปลอมตัวเป็น หลินหยาง ขายขนมไทยก่อนหน้านั้นวันนี้ฮวาอิงออกมาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำขนมถวายแด่ฮองเฮา นางสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สมฐานะตำแหน่งพิเศษมากขึ้น เพียงแต่ยังคงสวมผ้าปิดหน้าลายดอกเหมยไม่เผยใบหน้ามากนักส่วนซูเม่ยเดินอยู่ข้าง ๆ ถือตะกร้าไม้ไผ่สำหรับใส่วัตถุดิบ ทั้งที่นางมีตำแหน่งสูงในครัวหลวงและสามารถเอ่ยสั่งให้คนครัวออกมาซื้อได้ แต่นางกลับไม่ทำและประสงค์จะออกมาเดินตลาดเพื่อเลือกวัตถุดิบด้วยตนเอง“วันนี้ คุณหนูจะทำขนมอันใดถวายแด่ฮองเฮาเจ้าคะ?” ซูเม่ยเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี“ขนมสอดไส้” ฮวาอิงหันใบหน้าตอบซูเม่ย“เป็นขนมอย่างไรเจ้าคะ ข้าไม่เคยได้ยินอีกแล้ว”“เป็นขนมที่ข้าชอบมาก กลิ่นหอมใบเตยนวลกะทิและน้ำตาลเคี่ยว ด้านในสอดใส่มะพร้าวคั่วน้ำตาล เป็นขนมที่ดูธรรมดาแต่ทำให้คนกินแทบ

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 33 คำสั่งเหนือใคร

    ตอนที่ 33คำสั่งเหนือใครเบื้องหน้าคือ สถานที่ประทับของฮ่องเต้ผู้มีอำนาจคับจักรวรรดิอวิ๋นชวน หวังอ๋องและฮวาอิงเดินอยู่บนลานหินหน้าตำหนักมังกรหยกอย่างสงบนิ่ง แต่แฝงด้วยแรงกดดันที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กลุ่มขันทีในชุดเต็มยศเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบฮวาอิงเดินตามหลังหวังอ๋องอย่างเงียบเชียบ ใต้เสื้อคลุมไหมสีขาวนวลตา มือเรียวซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ ปลายนิ้วเรียวเกร็งไว้ไม่ให้สั่น เพราะไม่ว่านางจะกล้าเพียงใด หรือเคยปะทะฝีปากกับอ๋องผู้มากอำนาจมานักต่อนักแต่...วันนี้คือการเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ผู้เป็นเจ้าของจักรวรรดิทั้งผืน ในฐานะองค์หญิงซ่างผิงผู้คิดวิธีถนอมเสบียงแด่เหล่ากองทัพฮวาอิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ชะลอฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะย่ำเท้าก้าวต่อไป หวังอ๋องที่เดินนำหน้าหันมองนางเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าให้นางตามตนมาเมื่อประตูบานไม้แกะสลักมังกรเบิกกว้าง เสียงขันทีอาวุโสก็เปล่งเสียงสูงกังวาน“หวังอ๋องแห่งราชวงศ์อวิ๋นชวน พร้อมองค์หญิงแห่งเมืองซ่างผิง ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”ภายในตำหนักมังกรหยก สงบ เงียบ ให้ความรู้สึกเย็นเยียบจนถึงขั้วหัวใจ ใต้เพดานสูง มังกรห้าตัวเลื้อยพันเสาตำหนักดั่งคอยค้ำจุนแผ่นดินพ

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 32 ก่อนรุ่งอรุณแห่งผลลัพธ์

    ตอนที่ 32ก่อนรุ่งอรุณแห่งผลลัพธ์ยามซื่อ ค่ำคืนที่ลมพัดแผ่วเบาเย็นสบาย แสงเทียนจากโคมส่องภายในเรือนรับรองที่จัดไว้ให้เฉพาะสำหรับนาง ทั้งเรือนเงียบเชียบ มีเพียงเสียงพู่กันเสียดสีกับกระดาษ และเสียงเดินไปมาของสาวใช้คนสนิทอย่างซูเม่ยฮวาอิงนั่งหลังตรงอยู่ตรงกลางห้องในชุดเรียบง่าย ผมถูกรวบขึ้นสูงอย่างลวก ๆ มีปิ่นไม้สอดไว้หลวม ๆ เท่านั้นในมือนางคือพู่กันด้ามเรียว ที่ขีดเขียนรายงานเบื้องต้นไปบางส่วนแล้ว บัดนี้เหลือเพียงหน้าสุดท้าย หน้าแห่งการสรุปผล ที่จะถูกส่งให้หวังอ๋องในยามเช้าซูเม่ยยกน้ำชาอุ่น ๆ มาวางไว้ข้าง ๆ นาง ก่อนจะเดินนั่งใกล้ไม่ห่างนัก คอยเปลี่ยนน้ำหมึกให้ และเฝ้าดูผู้เป็นนายเขียนลงกระดาษทีละตัวอักษรอย่างตั้งใจวันที่เจ็ดของการทดสอบการถนอมอาหารเสบียง ฮวาอิงเม้มปากนิด ใบหน้าคิ้วขมวดหน่อยแสดงถึงความตั้งใจเพื่อให้เขียนออกมาให้ดีที่สุดผลการถนอมเนื้อสดโดยหมักเกลือกับตากแดดให้แห้ง ยังคงคุณค่าทางรสชาติได้อย่างดี เมื่อนำไปลองทำเป็นอาหารพร้อมปรุงในภาวะฉุกเฉิน สามารถนำไปทอดหรือย่างได้โดยไม่เสียรสเนื้อ กลิ่นและสัมผัสยังคงใกล้เคียงกับเนื้อสดยามปรุงสุก แถมความอร่อยยังเหมาะที่จะกินกับข้าวสวยร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status