Share

ตอนที่ 4 เงาของโชคชะตา

last update Last Updated: 2025-07-22 12:00:23

ตอนที่ 4

เงาของโชคชะตา

หอระฆังสูงของเมืองหลวงตีระฆังก้องกังวานยามชวี เป็นสัญญาณบอกเวลาให้ชาวเมืองเริ่มเก็บร้านค้า หรือแผงตามตรอกข้างทางในย่าน

ฮวาอิงและซูเม่ยก็ไม่เว้นเช่นกัน หลังจากที่ขนมชั้นหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน เหลือเพียงส่วนที่จะเก็บไว้กินเอง ทั้งคู่ก็รีบเก็บแผงร้านของตน ภาชนะและผ้าห่อขมวดแบกไว้บนหลังซูเม่ยเพราะนางไม่ยอมให้คุณหนูของตนทำ

“วันนี้พวกเราขายดีเกินคาดเลยเจ้าค่ะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณหนูจะทำขนมหวานได้เก่งถึงเพียงนี้ ข้าติดตามคุณหนูมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยเห็นคุณหนูแตะต้องเตาไฟเลยด้วยซ้ำ ว่าแต่...คุณหนูไปร่ำเรียนตอนใดกันเจ้าคะ?” ซู่เม่ยเอ่ยด้วยดวงตาเปล่งประกาย มือทั้งสองจับหูหิ้วตะกร้าสานแบกหลัง

“เอ่อ...ข้า...ก็เรียนที่สำนักศึกษาในเมืองซ่างผิงน่ะสิ”

“อ่อ...ที่แท้สำนักศึกษามีเรียนนอกตำราด้วยสินะเจ้าคะ บ่าวเป็นเพียงไพร่ มิเข้าใจตำหรับตำราหรอกเจ้าค่ะ”

“ฮ่ะ...ฮ่ะ...” ฮวาอิงหัวเราะกลบเกลื่อน

“คุณหนู เรารีบกลับกันดีกว่าเจ้าค่ะ มืดค่ำเพียงนี้กลัวจะเข้าตำหนักเย็นมิได้” ซูเม่ยเอ่ยต่อผู้เป็นนาย ซึ่งฮวาอิงก็พยักหน้าเห็นด้วย

ฮวาอิงในชุดชาวบ้าน ร่างกายเต็มไปด้วยคราบเหงื่อและฝุ่นจากการนั่งข้างถนนหลายชั่วยาม เดินนำด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

“คุณหนูวันพรุ่ง...จะออกมาอีกหรือไม่เจ้าคะ?”

“แน่นอนสิ เจ้าก็ได้ยินที่ข้าคุยกับท่านป้าเจ้าของแผงลอยแล้วนี่”

“งั้นวันพรุ่งบ่าวจะตื่นให้เช้ามากกว่าเดิมเจ้าคะ จะได้เตรียมของให้ก่อน คุณหนูจะได้สบายขึ้นเจ้าค่ะ” ซูเม่ยยิ้มให้กับฮวาอิง

“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เจ้าเองก็เหนื่อย ทำด้วยกันมีความหมายกว่า ข้าเองก็มีความสุขที่ได้ลงมือทำเช่นกัน”

ทันใดนั้นเองขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินกลับ ฮวาอิงก็ได้ยินเสียงกระซิบลมหอบหนึ่งในพงหญ้า เสียงฝีเท้าหนัก ๆ บดใบไม้ดังเข้ามาใกล้ พร้อมเสียงร้องโอดครวญ

“อึก...ใคร...อยู่ตรงนั้น...ช่วย...”

ฮวาอิงชะงักฝีเท้าทันที ดวงตาคมหันไปมองพุ่มไม้ด้านข้างที่สั่นไหว ซูเม่ยสะดุ้งรีบคว้าแขนนายของตน

“คะ...คุณหนู! อย่าเข้าไปเลยเจ้าค่ะ อาจเป็นพวกโจรได้” สีหน้าซูเม่ยหวาดผวาหนัก แต่ฮวาอิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เธอพิจารณาจากเสียงที่ทุ้มแผ่วเบา มันบ่งบอกถึงการร้องขอความช่วยเหลือเสียมากกว่า

“ถ้าเป็นคนที่กำลังจะใกล้ตายล่ะซูเม่ย แบบนั้นข้าคงรู้สึกผิดเป็นแน่” นางเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตากลับแน่วแน่ นี่ไม่ใช่โลกเดิมที่นางรู้จัก ทว่าความเป็นมนุษย์ย่อมมีคุณค่าเสมอ ฮวาอิงตัดสินใจก้าวเข้าไปใกล้ ท่ามกลางความตกใจของซูเม่ย

“นี่มัน...” สิ่งที่นางพบคือร่างหนึ่งทรุดลงอยู่ใต้พุ่มไม้ แม้ความมืดจะบดบังจนเห็นได้เพียงเงาราง ๆ แต่ก็พอมองออกว่าเป็นชายร่างสูงในชุดดำที่เปรอะเปื้อน เลือดสีเข้มไหลซึมจากชายเสื้อ หยดเป็นทางลงบนพื้นดิน

ฮวาอิงทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าใกล้ ๆ ใช้สายตาเช็คโดยรอบอย่างรวดเร็ว

“แผลฉกรรจ์อะไรขนาดนี้ จะรอดไหมเนี่ย!” นางพึมพำ ก่อนจะหันไปบอกซูเม่ย

“ซูเม่ย! เอาผ้าในตะกร้ามาให้ข้าหน่อยสิ!”

“แต่...คุณหนูเจ้าคะ!”

“เอามาเถอะนา...เร็วเข้า!” เสียงสั่งหนักของฮวาอิงทำให้สาวใช้ไม่กล้าขัดคำสั่งอีก รีบคว้าเศษผ้าที่เอาไว้ปูรองแผงลอยส่งให้นาง  ฮวาอิงรับมาฉีกผ้านั้นเป็นเส้นยาวอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงฉีกแขนเสื้อตัวนอกของชายคนนั้น

‘แกว๊ก!’

ฮวาอิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วลงมือเอาผ้าที่มี รัดเหนือบาดแผลของชายหนุ่มคนนั้นแน่นเพื่อห้ามเลือด ก่อนใช้เศษผ้าอีกอันปิดแผลกันฝุ่น

“นี่มัน...วิธีรักษาแบบใดกัน ข้าไม่เคยเห็นเลยเจ้าค่ะ” ซูเม่-ยพึมพำออกมาด้วยความทึ่ง

“อย่าได้เอ๊ะใจอันใด! ข้าร่ำเรียนมาจากสำนักศึกษา ฟวู่...” เมื่อเสร็จสิ้น นางถอนหายใจยาว มือเย็นชืดสัมผัสเลือดอีกฝ่าย แต่จิตใจยังมั่นคง ดวงตาสบชายตรงหน้าเพียงเสี้ยววิ เห็นเพียงดวงตากับคิ้วเข้มขมวดเท่านั้น

“นายท่าน!” เสียงองครักษ์ชุดดำหลายคนวิ่งกรูเข้ามาบริเวณใกล้เคียง ฮวาอิงเริ่มเห็นท่าไม่ดีและไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วเธอจึงพยายามจะหลบหนีออกจากตรงนี้ แต่ในขณะที่เธอกำลังจะลุก มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มก็รั้งนางไว้ พร้อมกับเอื้อนเอ่ยเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา

“จะ...เจ้าชื่ออันใด...” นางชะงักไปเล็กน้อย คราแรกเธอเกือบจะตอบชื่อ ฮวาอิงออกไปแล้ว แต่ซูเม่ยกับสะกิดนางพร้อมกับส่ายหน้ามิให้นางพูดความจริง

“ข้าชื่อ...หลินห‍ยาง” ฮวาอิงตอบช้า ๆ ก่อนเอ่ยชื่อที่นางคิดทันควัน เป็นชื่อตัวละครที่นางเคยอ่านในนิยายจีนโบราณจากโลกเดิม “เป็นชาวบ้านละแวกนี้ ท่านปล่อยข้าไปเถิด ข้าไม่อยากตายไปอีกคน”

‘จ๊อก...’

ในขณะที่ฮวาอิงกำลังผวา เสียงท้องร้องหิวโหยของชายหนุ่มผู้บาดเจ็บเจียนตายก็ดังขึ้น ชายหนุ่มดูอ่อนแรงแทบลืมตาไม่ขึ้น  พลันเสียงฝีเท้ากลุ่มหนึ่งก็ใกล้เข้ามาเต็มที

นางไม่รู้จะช่วยเยี่ยงไร จึงหยิบเอาขนมชั้นที่เหลืออยู่ในห่อใบตองวางไว้ใกล้ ๆ ชายหนุ่ม ก่อนจะวิ่งหนีไปพร้อมกับสาวใช้ของตน

“นายท่าน!” เสียงของกลุ่มชุดดำเข้ามาใกล้อีก ชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บ พยายามหยัดร่างตัวเองขึ้นนั่งอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเฮือกสุดท้ายที่จะเปล่งได้

“อยู่ตรงนี้!”

องครักษ์ชุดดำหลายคนเมื่อเห็นก็วิ่งกรูเข้ามาราวกับฝูงเหยี่ยว หนึ่งในนั้นที่เหมือนจะเป็นหัวหน้ารีบเข้าตรวจสอบร่างกายของชายหนุ่มที่บาดเจ็บทันที

“นายท่าน! อย่าตายนะขอรับ”

“เจ้าแช่งข้าหรือกระไร ข้ายังไม่ตาย” ชายหนุ่มที่ดูมีอำนาจกว่าองครักษ์กลุ่มนี้ เอ่ยเสียงเข้ม แต่ก็อ่อนแรงยิ่งนัก

“ใครที่ลอบทำร้ายนายท่านเพียงนี้ หรือว่าเป็นคนของชินอ๋องขอรับ” คนสนิทของชายหนุ่มบาดเจ็บเอ่ยด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนจะค่อย ๆ พยุงคนที่เขาเรียกนายท่าน

“ข้ายังไม่สามารถบอกได้ แต่ที่แน่ ๆ เป็นคนที่มีอำนาจใหญ่ในวังหลวงนี้แน่นอน จ๊อก...” หัวหน้าองครักษ์ได้ยินเสียงท้องร้อง ก็หันไปตะโกนด่าลูกน้องทันที

“พวกเจ้าบังอาจส่งเสียงท้องร้องต่อหน้าคุนายท่านได้เยี่ยงไร...ไร้มารยาท” สิ้นคำ องครักษ์ชุดดำทุกคนต่างส่ายหน้ากันพร้อมเพรียงปฏิเสธ

“ไม่ใช่พวกเจ้าแล้วจะเป็นใครได้อีกที่เสียมารยาทต่อหน้านายท่าน” หัวหน้าองครักษ์ยังคงตะเบ็งเสียงด่าทอลูกน้อง

“ไป๋อวี่พอเถอะเสียงเจ้านี่แหละที่ทำให้ข้ารำคาญใจ...” เสียงของคุณชายที่บาดเจ็บเอ่ยด้วยลมหายใจรัวระริน “พวกเจ้ารีบพาข้ากลับจวน...จะปล่อยให้ข้าสิ้นลมตรงนี้หรือกระไร”

“ข้าน้อยขอโทษขอรับคุณชาย ข้าจะรีบพาทันกลับไปรักษาโดยด่วน” วินาทีที่องครักษ์กำลังจะพานายท่านกลับ จู่ ๆ เขาก็นึกได้

“ช้าก่อน เจ้าวานให้คนเก็บห่อขนมใบตองตรงนั้นมาด้วย ข้าอยากจะทานมันหลังจากข้ากลับจวน”

 เหล่าองครักษ์มองหน้ากันไปมา แต่สุดท้ายหัวหน้าองค์รักษ์ไป๋อวี่ก็พยักหน้ารับคำสั่งก่อนจะให้ลูกน้องเดินไปเก็บขนมห่อใบตองนั้นกลับไปด้วย

ทางด้านฮวาอิงกับซูเม่ย หลังจากเดินทางจวนใกล้ถึงตำหนักเย็น ก็พบว่ามีทหารยามคุ้มกันแน่นหนากว่าเดิม ดวงตาทั้งสองสบกัน ก่อนจะเป็นซูเม่ยเอ่ยขึ้นก่อน

“คุณหนูเจ้าคะ ข้ามีวิธี!”

“ยังไง” ฮวาอิงทำหน้าหยักคิ้ว

“แต่วิธีนี้อาจจะดูไม่ดีเสียหน่อย...คุณหนูจะถือตัวรึเปล่าเจ้าคะ”

“นี่ซูเม่ย เจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นไร ข้าไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น ไปเถอะ...การที่เรายืนอยู่ตรงนี้เสี่ยงกว่ามาก เนื้อตัวข้าก็มีกลิ่นคาวเลือดอยู่ด้วย ขืนทหารเดินออกมาตรงนี้มีหวังข้าโดนจับประหารชีวิต เหมือนศาลไคฟงแหง ๆ”

“ศาลไคฟง?”

“ไม่ต้องสงสัยแล้ว รีบพาข้าไปได้แล้ว” ซูเม่ยมองหน้านายของตนด้วยความงุนงง เพราะบ่อยครั้งหลังจากที่คุณหนูของนางฟื้นขึ้นมา ก็มักจะพูดคำแปลกประหลาดที่นางไม่เข้าใจ พานทำให้ยิ่งสงสารชะตากรรมนายของตน

ซูเม่ยพาฮวาอิงเดินหลบ ๆ ซ่อน ๆ ในเงามืดตรงดิ่งไปตรอกกำแพงหลังวัง ลอบกลับสู่ตำหนักเย็นผ่านช่องทางหมาลอด จวบเดินมาถึงเรือนของตนด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนนะนอนแผ่กองบนพื้นแบบไม่มีท่าทีกุลสตรีใด ๆ

“คุณหนูเดี๋ยวข้าไปเตรียมน้ำอุ่น ๆ ให้นะเจ้าคะ”

“ขอบใจเจ้ามากซูเม่ย เจ้าเองก็ต้องดื่มเช่นกันนะ”

“เจ้าค่ะ”

หลังจากซูเม่ยเดินออกจากห้องไป ฮวาอิงหยัดตัวขึ้นลุกนั่ง ก่อนจะมองถุงเงินของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“นี่เป็นเงินที่ ข้าหามาได้ด้วยตัวคนเดียวครั้งแรงที่ข้าลงมือทำโดยไม่ต้องให้ใครบงการ มีความสุขจัง” นางเทเงินจากถุงหลายอีแปะลงบนฝ่ามือเพื่อเชยชมก้าวแรกของการเปิดขายขนม ก่อนจะเก็บลงในถุงผ้าเหมือนเคย และเตรียมตัวไปชำระร่างกายเสียหน่อย

“จะว่าไปชายคนนั้นจะตายไหมเนี่ย แผลก็ลึกขนาดนั้น เฮ้อ...แต่ข้าเองก็รักชีวิต ข้าช่วยได้เท่านี้จริง ๆ หวังว่าเขาจะอยู่รอดปลอดภัยนะ ข้าไม่รู้ชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ข้าก็หวังว่าเขาจะรอดชีวิต...และได้กินขนมชั้นสักชิ้นเถอะ นั่นมันของที่หาไม่ได้จากโลกนี้เชียวนะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 37 ขนมสอดไส้ แด่ฮองเฮา

    ตอนที่ 37ขนมสอดไส้ แด่ฮองเฮาณ ห้องรับรองหลักตำหนักมิ่งหลัน ถูกจัดเตรียมอย่างสวยงามสำหรับถวายอาหารและขนมหวาน ตามรับสั่งของฮองเฮาชุดภาชนะลายครามพิเศษถูกนำออกมาใช้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อต้อนรับองค์รัชทายาท ผู้เสด็จมาเยือนโต๊ะไม้สลักสวยงามประดับด้วยดอกไม้สดจากสวน กลิ่นหอมของน้ำเก๊กฮวยในจอกอบอวลลอยฟุ้งหอมฮวาอิงยืนนอบน้อมอยู่ในมุมห้องกับเฟยเทียนด้านหนึ่ง ในเครื่องแต่งกายเรียบร้อย สะอาดสะอ้านไม่อวดตน รอบกายคือบรรดานางใน ขันที ที่คอยจัดเตรียมอาหารมื้อพิเศษนี้โดย ขนมสอดไส้ ถูกวางเด่นบนจนหยกขาวฮองเฮาเสด็จพร้อมด้วยรัชทายาทที่เดินตามมาติด ๆ พระพักตร์ของฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ยังคงสงบนิ่ง แต่สายพระเนตรมักกวาดมองรอบด้านด้านองค์รัชทายาท ชายหนุ่มรูปงามผู้มีสายตาเยือกเย็น แต่ลึกในแววตานั้นกลับแฝงด้วยนัยยะบางอย่างราวกับมีความในใจ เขามองฮวาอิงครู่หนึ่ง ด้วยความรู้สึกคล้ายกำลังพินิจบางอย่าง... ก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าทั้งฮองเฮา และรัชทายาทรับประทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ พระพัก

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 36 ขนมที่ห่อด้วยใจ

    ตอนที่ 36ขนมที่ห่อด้วยใจฮวาอิงลืมตาตื่นท่ามกลางความเวียนศีรษะ และไอเล็กน้อย ที่ยังหลงเหลืออยู่“คุณหนูยังไม่หายดี อย่าลุกเลยเจ้าค่ะ นอนพักผ่อนก่อน” ซูเม่ยที่กำลังยกยาเข้ามา วางถาดแล้วรีบมาประคองฮวาอิงไว้แค่ก...แค่ก ฮวาอิงไอเบา ๆ มือแตะหน้าผากตนเองแล้วส่ายหน้า “ข้าดีขึ้นแล้ว เพียงแต่มึนนิดหน่อย ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ”“แต่คุณเพิ่งกินยาได้เพียงครั้งเดียวเมื่อคืน...วันนี้ให้ข้าจัดการแทนเถิดนะเจ้าคะ หรือไม่ก็แจ้งท่านเฟยเทียนว่าขอเลื่อนวันถวายขนมไปก่อน ข้าเชื่อว่าฮองเฮาทรงเข้าใจ”ฮวาอิงยังคงส่ายหน้า“ข้าไม่อยากให้ฮองเฮาต้องรอคอยคนอย่างข้าเลย ข้ายกให้ใครทำขนมสอดไส้นี้ไม่ได้หรอกมันซับซ้อน และยังไม่ได้สอนใคร” เสียงพูดของนางแม้เบาบาง ทว่าแฝงความดื้อรั้นและแน่วแน่“แม่นางฮวาอิงฟื้นแล้วงั้นหรือ? แต่จากที่ข้าดูสภาพแล้ว แม่นางไม่ควรฝืนนะ” เฟยเทียนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าครุ่นคิด นางส่งสายตามองฮวาอิง ประเมินนางที่นอนซมแล้วยังดูซีดเซียวอยู่นักฮวาอิงประสานมือโค้งให้อย่างอ่อนน้อม“ท่านเฟยเทียน ข้าเคยสัญญากับฮองเฮา ว่าจะรับผิดชอบขนมถวายเมื่อวันก่อน มาวันนี้ข้าคงไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้ ข้าขอทำเถอะเจ้าค่

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 35 กลิ่นอุ่นยังมิจาง

    ตอนที่ 35กลิ่นอุ่นยังมิจางสายฝนเริ่มซา กลายเป็นเพียงละอองโปรยปราย ชะใบไม้ให้กลายเป็นสีเขียวเข้มชุ่มฉ่ำ กลิ่นฝนผสมกลิ่นไม้จากบ้านเรือนเก่าเคล้าคลอในอากาศ ขณะสองร่างใต้ร่มคันเดียวกันก้าวเดินช้า ๆ ไปตามตรอกถนนสายหนึ่งหนิงอ๋องถือร่มอยู่ด้านซ้าย ฮวาอิงยืนอยู่ด้านขวา ระยะห่างระหว่างไหล่ทั้งสองไม่เกินหนึ่งฝ่ามือ ทว่ากลับไม่มีใครรู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย“เด็กชายคนนั้นชื่อเสี่ยวเป่า” เสียงทุ้มนุ่มของเขาดังขึ้น “พ่อของเขาเคยร่วมรบด้วยกันที่ชายแดนตะวันตกเมื่อนานมาแล้ว บัดนี้เจ็บเรื้อรัง ไม่อาจรบแนวหน้าได้อีกต่อไป”ฮวาอิงเงยหน้ามองเขาเล็กน้อย“ท่านเป็นถึงแม่ทัพสูงสุด กลับรู้จักพวกเขาโดยตรงเลยหรือเจ้าคะ?”“ไม่หรอก...ทหารเป็นหมื่นเป็นแสนข้าจะรู้จักหมดได้เยี่ยงไร เพียงแต่ข้าอ่านบันทึกประจำวันว่ามีเหตุการ์ณใดบ้างเกิดขึ้นก็เท่านั้น” หนิงอ๋องเงียบไปครู่ก่อนเอ่ยต่อ“แม่ของเสี่ยวเป่า เคยเขียนจดหมายขอบคุณกองบัญชาการหลังได้รับเบี้ยยังชีพ ข้าเห็นชื่อเลยจำได้...ไม่คิดเลยว่าคนที่ทำเพื่อชาติ กลับต้องแบกภาระทางบ้านไปด้วย จะให้ข้าปล่อยไปได้เยี่ยงไรจริงไหม ประจวบเหมาะวันนี้มีเวลาว่างจึงอยากหาของขวัญให้ลูกชายเขา”

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 34 ร่มคันเดียวกลางฝน

    ตอนที่ 34ร่มคันเดียวกลางฝนยามเช้าในเมืองหลวงวันนี้ ลมโชยแผ่วอ่อนให้ได้กลิ่นหอมจากร้านน้ำชาริมทางลอยแตะจมูก ช่วยปลุกบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นท้องฟ้าวันนี้โล่งโปร่งไร้เงาเมฆฝนเหมือนหลายวันก่อน พ่อค้าแม่ค้าต่างจัดของขึ้นแผงกันอย่างคึกคัก เสียงเจรจาต่อรองราคายังคงเช่นเดิม พานทำให้ความรู้สึกของฮวาอิง นึกถึงช่วงที่ต้องปลอมตัวเป็น หลินหยาง ขายขนมไทยก่อนหน้านั้นวันนี้ฮวาอิงออกมาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำขนมถวายแด่ฮองเฮา นางสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สมฐานะตำแหน่งพิเศษมากขึ้น เพียงแต่ยังคงสวมผ้าปิดหน้าลายดอกเหมยไม่เผยใบหน้ามากนักส่วนซูเม่ยเดินอยู่ข้าง ๆ ถือตะกร้าไม้ไผ่สำหรับใส่วัตถุดิบ ทั้งที่นางมีตำแหน่งสูงในครัวหลวงและสามารถเอ่ยสั่งให้คนครัวออกมาซื้อได้ แต่นางกลับไม่ทำและประสงค์จะออกมาเดินตลาดเพื่อเลือกวัตถุดิบด้วยตนเอง“วันนี้ คุณหนูจะทำขนมอันใดถวายแด่ฮองเฮาเจ้าคะ?” ซูเม่ยเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี“ขนมสอดไส้” ฮวาอิงหันใบหน้าตอบซูเม่ย“เป็นขนมอย่างไรเจ้าคะ ข้าไม่เคยได้ยินอีกแล้ว”“เป็นขนมที่ข้าชอบมาก กลิ่นหอมใบเตยนวลกะทิและน้ำตาลเคี่ยว ด้านในสอดใส่มะพร้าวคั่วน้ำตาล เป็นขนมที่ดูธรรมดาแต่ทำให้คนกินแทบ

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 33 คำสั่งเหนือใคร

    ตอนที่ 33คำสั่งเหนือใครเบื้องหน้าคือ สถานที่ประทับของฮ่องเต้ผู้มีอำนาจคับจักรวรรดิอวิ๋นชวน หวังอ๋องและฮวาอิงเดินอยู่บนลานหินหน้าตำหนักมังกรหยกอย่างสงบนิ่ง แต่แฝงด้วยแรงกดดันที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กลุ่มขันทีในชุดเต็มยศเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบฮวาอิงเดินตามหลังหวังอ๋องอย่างเงียบเชียบ ใต้เสื้อคลุมไหมสีขาวนวลตา มือเรียวซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ ปลายนิ้วเรียวเกร็งไว้ไม่ให้สั่น เพราะไม่ว่านางจะกล้าเพียงใด หรือเคยปะทะฝีปากกับอ๋องผู้มากอำนาจมานักต่อนักแต่...วันนี้คือการเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ผู้เป็นเจ้าของจักรวรรดิทั้งผืน ในฐานะองค์หญิงซ่างผิงผู้คิดวิธีถนอมเสบียงแด่เหล่ากองทัพฮวาอิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ชะลอฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะย่ำเท้าก้าวต่อไป หวังอ๋องที่เดินนำหน้าหันมองนางเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าให้นางตามตนมาเมื่อประตูบานไม้แกะสลักมังกรเบิกกว้าง เสียงขันทีอาวุโสก็เปล่งเสียงสูงกังวาน“หวังอ๋องแห่งราชวงศ์อวิ๋นชวน พร้อมองค์หญิงแห่งเมืองซ่างผิง ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”ภายในตำหนักมังกรหยก สงบ เงียบ ให้ความรู้สึกเย็นเยียบจนถึงขั้วหัวใจ ใต้เพดานสูง มังกรห้าตัวเลื้อยพันเสาตำหนักดั่งคอยค้ำจุนแผ่นดินพ

  • ท่านอ๋องข้าไม่อยากเป็นสตรีอันสูงศักดิ์   ตอนที่ 32 ก่อนรุ่งอรุณแห่งผลลัพธ์

    ตอนที่ 32ก่อนรุ่งอรุณแห่งผลลัพธ์ยามซื่อ ค่ำคืนที่ลมพัดแผ่วเบาเย็นสบาย แสงเทียนจากโคมส่องภายในเรือนรับรองที่จัดไว้ให้เฉพาะสำหรับนาง ทั้งเรือนเงียบเชียบ มีเพียงเสียงพู่กันเสียดสีกับกระดาษ และเสียงเดินไปมาของสาวใช้คนสนิทอย่างซูเม่ยฮวาอิงนั่งหลังตรงอยู่ตรงกลางห้องในชุดเรียบง่าย ผมถูกรวบขึ้นสูงอย่างลวก ๆ มีปิ่นไม้สอดไว้หลวม ๆ เท่านั้นในมือนางคือพู่กันด้ามเรียว ที่ขีดเขียนรายงานเบื้องต้นไปบางส่วนแล้ว บัดนี้เหลือเพียงหน้าสุดท้าย หน้าแห่งการสรุปผล ที่จะถูกส่งให้หวังอ๋องในยามเช้าซูเม่ยยกน้ำชาอุ่น ๆ มาวางไว้ข้าง ๆ นาง ก่อนจะเดินนั่งใกล้ไม่ห่างนัก คอยเปลี่ยนน้ำหมึกให้ และเฝ้าดูผู้เป็นนายเขียนลงกระดาษทีละตัวอักษรอย่างตั้งใจวันที่เจ็ดของการทดสอบการถนอมอาหารเสบียง ฮวาอิงเม้มปากนิด ใบหน้าคิ้วขมวดหน่อยแสดงถึงความตั้งใจเพื่อให้เขียนออกมาให้ดีที่สุดผลการถนอมเนื้อสดโดยหมักเกลือกับตากแดดให้แห้ง ยังคงคุณค่าทางรสชาติได้อย่างดี เมื่อนำไปลองทำเป็นอาหารพร้อมปรุงในภาวะฉุกเฉิน สามารถนำไปทอดหรือย่างได้โดยไม่เสียรสเนื้อ กลิ่นและสัมผัสยังคงใกล้เคียงกับเนื้อสดยามปรุงสุก แถมความอร่อยยังเหมาะที่จะกินกับข้าวสวยร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status