Share

ตอนที่10 นั่งยิ้มใจลอย

last update Last Updated: 2025-09-05 11:45:17

 บ้านสวนสกุลหลินตั้งอยู่ในเขตอำเภอจงมู่ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม สวนของพวกเขาอยู่ห่างจากตัวอำเภอไกลพอสมควร จึงต้องอาศัยรถม้าในการเดินทาง

พอถึงตัวอำเภออาโต๋วก็บังคับม้าตรงไปยังร้านขายผ้าในตลาด ฉู่ชิงเฟิงที่ส่วนใหญ่อยู่แต่ในเมืองหลวง พอได้ออกมาเปิดหูเปิดตาจึงถือโอกาสสำรวจความเป็นอยู่ของราษฎรเสียเลย เขามองทุกที่ที่รถม้าแล่นผ่านอย่างพิจารณา แล้วพบว่าถึงจงมู่จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็มีแผงลอย ร้านค้าเปิดอยู่หลายร้านเลยทีเดียว ชาวบ้านก็ดูมีความสุขดี แทบจะไม่เจอขอทานตามท้องถนน อ๋องหนุ่มในคราบอาเปาจึงอดยิ้มปลาบปลื้มแทนพระบิดาไม่ได้

“มัวยิ้มอยู่นั่น รีบลงจากรถแล้วเอาบันไดมาวางให้คุณหนูเร็วเข้า” อาโต๋วหันไปสั่งอาเปาที่มัวแต่ใจลอยให้ลุกมาช่วยกันทำงาน

“อ่า ถึงแล้วเหรอ”

“ก็ถึงแล้วน่ะสิ เจ้ามัวแต่นั่งยิ้มใจลอยอยู่นั่น ไหนว่าไม่อยากมาไงเล่า”

ฉู่ชิงเฟิงไม่คิดจะโต้เถียงกับอาโต๋ว จึงทำเป็นหัวเราะแหะๆ กลบเกลื่อน แล้วรีบลงจากรถม้าไปหยิบบันไดมาวางให้หลินเสี่ยวหราน ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษที่ถูกอบรมว่าต้องดูแลสุภาพสตรี เขาจึงเผลอยื่นมือออกไปให้หลินเสี่ยวหราน โดยลืมไปว่ายามนี้ตนเองเป็นเพียงคนความจำเสื่อม ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า หลินอ้ายเห็นเช่นนั้นก็ยื่นมือมาจับมือของเขาแทนหลินเสี่ยวหราน แล้วรีบลงมารอรับนางที่ด้านล่าง ไม่เปิดโอกาสให้เขาแตะต้องคุณหนูของตน

“หลินอ้าย เจ้าเอาของพวกนี้เข้าไปส่งให้เถ้าแก่ ส่วนอาโต๋วเจ้าไปสั่งเสบียง” หลินเสี่ยวหรานสั่งเสียงเรียบ

“เจ้าค่ะ/ขอรับ คุณหนู”

“แล้วข้าล่ะ” ฉู่ชิงเฟิงถาม

“เจ้าจะไปกับหลินอ้าย หรืออาโต๋วก็ได้ตามใจ” หลินเสี่ยวหรานตอบ

“แล้วคุณหนูเล่า” ฉู่ชิงเฟิงเห็นนางทำท่าจะเดินไปทางอื่นผู้เดียวเลยอดถามไม่ได้

“ข้าจะไปกินน้ำชารอที่ฝั่งตรงข้าม เรียบร้อยแล้วค่อยพาเจ้าไปโรงหมอ”

“โรงหมอ? ข้าสบายดี เหตุใดต้องไปหาหมอด้วยเล่า”

“จริงสิ ข้าคงลืมบอกไปว่า เรื่องความจำของเจ้ายังต้องรักษาต่อเนื่อง”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง อาเปาต้องรบกวนคุณหนูหลินแล้ว” ฉู่ชิงเฟิงยิ้มตอบ แต่ท่าทางสบายๆ เหมือนว่าเรื่องนี้คือเรื่องที่ควรจะเป็นของเขาทำให้หลินอ้ายนึกโมโห

“อาเปาเจ้าคงไม่รู้สินะว่า คุณหนูของข้าต้องปักผ้าเช็ดหน้าพวกนี้ทั้งวันทั้งคืน เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าฝังเข็มให้เจ้า”

“หลินอ้าย!” หลินเสี่ยวหรานปรามสาวใช้คนสนิทเสียงดุ นางถือว่าเขาทำงานแลกที่อยู่ที่กิน อีกทั้งค่ารักษาทั้งหมดนางก็ทำบัญชีเอาไว้ รอเวลาเขาจำความได้ก็จะให้ชดใช้ตามจริง จึงไม่ถือเรื่องพวกนี้เป็นบุญคุณอะไร

“นี่ท่านต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ” ความจริงฉู่ชิงเฟิงตกใจมาก หลินเสี่ยวหรานเป็นถึงบุตรสาวคนโตของอัครเสนาบดี สินเดิมมารดาจากสกุลกัวนั้นคงมีไม่ต่ำกว่ายี่สิบหาบ ไฉนเงินค่าฝังเข็มแค่หนึ่งตำลึงนางจึงขัดสนขนาดนี้ได้เล่า

“ก็ใช่น่ะสิ” หลินอ้ายสวนทันควัน เพราะสงสารในชะตากรรมของเจ้านายตัวเอง

“หลินอ้าย! เจ้าจะทำให้ข้าขายหน้าไปถึงเมื่อใด” อย่างไรตนก็เป็นถึงบุตรสาวขุนนางใหญ่ การที่ถูกเปิดเผยว่าต้องมานั่งทำงานงกๆ แลกกับเงินเพียงตำลึงเดียวทำให้นางอับอาย

“บ่าวขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู”

“อาเปา ในเมื่อข้ารับปากจะช่วยเหลือเจ้า ข้าย่อมทำตามคำพูดให้ถึงที่สุด เจ้าไม่ต้องไปฟังที่นางพูด ส่วนกระโปรงกับผ้าเช็ดหน้าพวกนี้ ข้าอยู่ว่างๆ ก็ทำงานฝีมืออยู่แล้ว ต่อให้ไม่ต้องจ่ายค่าให้รักษาเจ้า ข้าก็เอามาขายอยู่ดีนั่นแหละ” หลินเสี่ยวหรานพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ เหมือนกับว่านี่เป็นเรื่องปกติ

นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบเดือนที่ฉู่ชิงเฟิงรู้สึกชื่นชมคุณหนูหลินเสี่ยวหรานผู้นี้จากใจจริง

ตอนแรกเขานึกว่านางอยากกลั่นแกล้งถึงให้ตนเองกินแต่ผักมาเป็นแรมเดือน แต่ดูเหมือนคุณหนูใหญ่สกุลหลินจะมีปัญหา ซึ่งไม่ใช่แค่ปัญหาสุขภาพเหมือนที่คนอื่นๆ เข้าใจเสียด้วย

“ขอบคุณคุณหนูหลิน ในเมื่อของเหล่านี้คือค่ารักษาอาเปา เช่นนั้นข้าจะไปกับหลินอ้ายก็แล้วกัน”

หลินเสี่ยวหรานพยักหน้ารับรู้ ก่อนหมุนกายเดินจากไปยังโรงน้ำชาฝั่งตรงข้าม อาโต๋วเห็นเช่นนั้นก็ไม่มากวาจารีบเดินไปสั่งซื้อเสบียงที่ร้านขายธัญพืชที่ตรอกถัดไปจะได้รีบกลับมาอารักขาเจ้านาย

“ตามข้ามาทางนี้” หลินอ้ายเรียก ฉู่ชิงเฟิงที่ยังมองส่งแผ่นหลังบอบบางของหลินเสี่ยวหรานได้สติกลับมา แล้ววิ่งตามหลินอ้ายไป

“เดี๋ยวก่อนหลินอ้าย”

“เจ้าจะรั้งข้าทำไม”

“ข้ามีอะไรจะถาม”

“อะไรอีกล่ะ ทำไมเจ้าถึงได้เป็นคนเรื่องมากแบบนี้นะอาเปา”

“ข้าขอดูกระโปรงกับผ้าเช็ดหน้าที่คุณหนูปักหน่อยได้หรือไม่”

“เจ้าจะดูไปไย ข้ายิ่งรีบๆ อยู่”

“เถอะน่า ให้ข้าดูหน่อย”

แม้ไม่รู้ว่าอาเปาจะอยากดูของไปทำไม แต่ดวงตาที่มองมาอย่างขอร้องทำให้หลินอ้ายยื่นตะกร้าไปให้เขา “เอ้า เอาไป แล้วอย่าทำเลอะล่ะ”

ฉู่ชิงเฟิงรับตะกร้ามาเปิดดู เห็นภายในเป็นชุดกระโปรงกับผ้าเช็ดหน้าปักลายงดงาม ฝีเข็มประณีต สมเป็นฝีมือของคุณหนูสกุลใหญ่ และหากดูไม่ผิด ผ้าที่หลินเสี่ยวหรานใช้นั้นเป็นผ้าทออย่างดี ไม่ใช่ของดาษดื่นทั่วไปที่จะหาซื้อได้ในอำเภอเล็กๆ อย่างจงมู่ ดูเหมือนผ้าพวกนี้น่าจะเป็นของที่หลินเสี่ยวหรานนำติดตัวมา ไม่ใช่ผ้าที่ทางร้านตัดเย็บหามาให้อย่างแน่นอน

“สวยใช่ไหมล่ะ ขนาดคุณหนูรีบทำยังออกมาดีขนาดนี้เลย”

“ชุดกระโปรงกับผ้าเช็ดหน้านี่ดีจริงดังเจ้าว่า คงขายได้สักสองสามตำลึงเงินกระมัง”

“ถ้าได้ขนาดนั้นก็ดีน่ะสิ”

“ไม่ถึงงั้นรึ”

“อาภรณ์หนึ่งชุดกับผ้าเช็ดหน้าสิบสองผืน ขายได้ถึงหนึ่งตำลึงเงินก็นับว่าเยอะมากแล้วนะ นี่เจ้าคิดว่าของในตลาดราคาเท่าใดกัน”

“คุณหนูรับจ้างที่ร้านตัดเย็บ โดยได้ผ้าจากร้านมางั้นรึ” เขาถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เพราะลำพังแค่ค่าแรง ไม่รวมค่าวัสดุ หนึ่งตำลึงเงินถือเป็นค่าจ้างที่สูงดังหลินอ้ายว่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่76 จบ

    เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “เพราะอย่างนั้น ข้าเลยไม่เห็นจำเป็นต้องโอ้อวดความสามารถอะไรเลย หลายครั้งที่ข้าช่วยเสนอความคิดต่างๆ กับเสด็จพ่อ และช่วยให้จิ้นอ๋องทำผลงาน ให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ข้าแค่เห็นว่าได้ช่วยให้คนสองคนที่ข้ารักและเคารพได้สมปรารถนา ได้เติบโตในเส้นทางของพวกเขาก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ข้ามีความสุขมากนะเมื่อได้เห็นพวกเขามีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศอะไรให้ใครรู้เลย”หลินเสี่ยวหรานฟังแล้วใจอ่อนยวบ ความคิดของฉู่ชิงเฟิงนั้นสูงส่งและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่นางคิดไว้มากนัก นางรู้สึกละอายใจที่เคยมองเขาเพียงผิวเผิน“เข้าใจแล้วเพคะ” นางพึมพำ ก่อนจะถามคำถามต่อไป “แล้ววรยุทธ์เล่าเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องมีวรยุทธ์ แต่หม่อมฉันคิดว่าแค่พอป้องกันตัวได้เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าท่านจะเก่งกาจราวเทพสงคราม จนสามารถปราบโจรป่าได้ราบคาบในพริบตา”“เทพสงครามอะไรกันเล่าหรานเอ๋อร์” ฉู่ชิงเฟิงส่ายหน้า เขาปฏิเสธคำชมนั้นอย่างรวดเร็ว “ที่ต้องฝึกวรยุทธ์ก็เพราะถูกบังคับให้ฝึกน่ะสิ ข้าไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะมันเหนื่อยจะตายไป”เขาบ่นอุบอิบ “ที่พอจะดีหน่อยก็คือเรื่องยิงธนูนั่นแหละ เพราะแค่ยื

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่75 คืนจันทร์ฉาย

    หลังจากเหตุการณ์ปราบโจรป่าครั้งใหญ่ที่จบลงไปอย่างน่าตื่นตะลึง หลินเสี่ยวหรานยังคงรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ถ่วงอยู่ในอก ภาพของฉู่ชิงเฟิงที่พลิ้วไหวกระบี่ดุจเทพสงคราม และเงาร่างของหลานเหมยที่ปลิดชีพศัตรูอย่างเลือดเย็นวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของนางตลอดเวลา มันเป็นภาพที่แตกต่างจาก ‘ท่านอ๋องว่างงานผู้ใจดี’ ที่นางรู้จักมาโดยสิ้นเชิงความรู้สึกเหมือนถูกปิดบัง คล้ายเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าเกาะกินใจนาง ทำให้นางไม่สามารถร่าเริงได้เหมือนเคยบรรยากาศในจวนดูเหมือนจะปกติ แต่ความอึดอัดบางอย่างลอยอบอวลอยู่ระหว่างโซ่วอ๋องกับพระชายา หลินเสี่ยวหรานพยายามทำตัวปกติ ทว่าความเงียบที่เข้าปกคลุมระหว่างพวกเขามักจะหนักอึ้งอยู่เสมอฉู่ชิงเฟิงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระชายาของเขามาตลอดหลายวัน ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววกังวล“หรานเอ๋อร์ วันนี้อากาศดีนัก ข้าเห็นว่าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ ไยเราไม่ออกไปเดินเล่นในตลาดสักหน่อยเล่า เผื่อจะช่วยให้ใจเจ้าผ่อนคลายขึ้นบ้าง”หลินเสี่ยวหรานวางผ้าปักในมือลงช้าๆ พลางเงยหน้ามองเขา “เพคะท่านอ๋อง” นางตอบรับเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงเจือความห่างเหิน แม้ในใจจะรู้สึกว่าการไปเดินตลาดอาจไม่ได้ช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่74 ถอนหายใจ

    เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาฉู่ชิงเฟิง ทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทันที “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน... หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉัน... หม่อมฉันไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องจะ... ทรงเก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบ้านเมือง หรือวรยุทธ์ ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกระหม่อมเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอสารภาพว่าตลอดมากระหม่อมอิจฉาท่าน ไม่ยอมรับในความสามารถของท่าน แต่บัดนี้... กระหม่อมยอมรับแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ท่านคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างแท้จริง หลี่เจิ้นขอถวายชีวิตรับใช้ท่านอ๋องตลอดไป และจะเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านอ๋องแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”น้ำเสียงของหลี่เจิ้นสั่นเครือด้วยความรู้สึกผิดและสำนึกอย่างแท้จริง แววตาที่มองฉู่ชิงเฟิงเปี่ยมไปด้วยความเคารพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเขาได้พบกับเทพเจ้าที่พร้อมจะยอมอุทิศตนเองให้ฉู่ชิงเฟิงมองหลี่เจิ้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ และยื่นมือไปประคองเขาให้ลุกขึ้น “ลุกขึ้นเถิดท่านรองเจ้าเมือง เพียงท่านเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เปิ่นหวางทำเพื่อแคว้นก็พอแล้ว เรื่องที่ผ่านมาเปิ่นหวางไม่เคยติดใจ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ภายในใจของฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงชัยช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่73 หัวใจแทบหยุดเต้น!

    ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด ฉู่ชิงเฟิงพลันสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากเงามืดอีกครั้ง คราวนี้มันรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับพายุที่พร้อมจะพัดทำลายทุกสิ่ง เขาเหลือบมองไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ละสายตาจากศัตรูเบื้องหน้า“หลานเหมย...” เสียงของฉู่ชิงเฟิงต่ำลง แต่หนักแน่นเด็ดขาด “ไประบายโทสะของเจ้าได้”สิ้นคำสั่งนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พลันปรากฏกายขึ้นจากเงามืด ราวกับภูตผีที่โผล่พ้นจากนรกานต์ นางสวมชุดองค์รักษ์สีดำสนิท ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั่งใบหน้าก็ถูกผ้าคลุมสีดำทมึนบดบังไว้จนมิดชิด เห็นเพียงประกายเย็นเยียบและดุดันที่ลอดผ่านช่องแคบของผ้าคลุมเท่านั้น รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างของนางเข้มข้นจนบรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องของโจรที่ดังระงมอยู่แล้ว กลับทวีความน่าหวาดกลัวขึ้นเมื่อเงาร่างสีดำนั้นเริ่มเคลื่อนไหว การโจมตีของนางรวดเร็ว ไร้ความปรานี และเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ราวกับยมทูตที่มาทวงวิญญาณทันใดนั้นเอง นางก็เริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายที่เคยสงบนิ่งบัดนี้กลับบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรงขัง นางพุ่งเข้าใส่กลุ่มโจรที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เสียง

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่72 สุราดีไม่ดื่ม อยากดื่มสุราพิษ!

    “เรียนท่านอ๋อง... พระชายาและท่านรองเจ้าเมือง... ถูกจับตัวไปพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเขาขาดห้วง ร่างของเฉาเหมยในอ้อมแขนซีดเผือดไร้ชีวิตชีวา พิษกำลังแล่นเข้าสู่หัวใจทันทีที่เห็นสภาพของเฉาเหมยที่ถูกนำกลับมาในสภาพปางตาย ฉู่ชิงเฟิงพลันสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นธนูพิษที่ปักอยู่บนแขนของนาง ดวงตาคมกริบฉายแววเป็นห่วงปนโทสะ“ใครก็ได้! ไปตามหมอหลวงมาดูอาการเฉาเหมยเดี๋ยวนี้” ฉู่ชิงเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ในขณะที่หมอหลวงกำลังเดินทางมาอย่างเร่งด่วนในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงจนน่าสะพรึง มันแผ่ออกมาจากเงามืดในมุมหนึ่งของห้องโถง แม้จะไร้ซึ่งเสียงและตัวตนที่มองเห็น แต่จิตสังหารนั้นก็เข้มข้นจนทำให้เส้นผมบนแขนของเขาลุกชัน เขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้มาจากใคร หลานเหมยคงเดือดดาลอย่างถึงที่สุดที่ได้เห็นสภาพปางตายของผู้เป็นน้องสาว จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นไม่ใช่แค่ความโกรธแค้น แต่มันคือคำประกาศกร้าวว่า ‘จะไม่มีใครรอด’ และผู้ที่บังอาจทำร้ายน้องสาวของนางจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างสาสมจากนั้นองครักษ์ผู้รอดชีวิตก็ยื่นจดหมายที่กำแน่นในมือให้ฉู่ชิงเฟิง เขาหยิบมาคลี่ออกอ่าน แววตา

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่71 โซ่วอ๋องผู้อัญเชิญเทพปีศาจ

    หนึ่งปีแห่งความรุ่งเรืองของแคว้นหลิงหลงได้ผ่านไป ภายใต้การบริหารของฉู่ชิงเฟิงและเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดี เมืองชิงหลิวและหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนใช้ชีวิตอย่างผาสุกแต่เหรียญย่อมมีสองด้าน...ความร่ำรวยดึงดูดสายตาของเหล่าโจรป่าผู้หิวโหย ภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขาเริ่มคุกคามเส้นทางการค้าและการสัญจรของชาวบ้าน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วแคว้นภายในจวนเจ้าเมือง “กราบทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ! แม้แคว้นเราจะมั่งคั่งขึ้น แต่ปัญหาโจรป่ากลับหนักหนาสาหัสขึ้นพ่ะย่ะค่ะ พวกมันกล้าดียิ่งขึ้น ดักปล้นขบวนสินค้าและชาวบ้านตามเส้นทางสำคัญๆ ทำให้การค้าชะงักงันพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพซ่งยืนกรานสีหน้าเคร่งเครียดฉู่ชิงเฟิงขมวดคิ้ว “แล้วกองทัพเล่า ท่านแม่ทัพมีกำลังไม่เพียงพอหรืออย่างไร”แม่ทัพซ่งถอนหายใจหนัก “กำลังพลมีจำกัดพ่ะย่ะค่ะ ทหารหลวงหนึ่งพันนายต้องกระจายกำลังดูแลสี่หัวเมือง อีกทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์หลายอย่างก็เริ่มชำรุดทรุดโทรม เพราะสงบศึกมานานหลายปี ทหารเองก็ขาดการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงพ่ะย่ะค่ะ”“ปัญหาใหญ่จริงๆ นั่นแหละท่านแม่ทัพ เปิ่นหวางเข้าใจดี” ฉู่ชิงเฟิงหันไปมองเหวินจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status