Share

ตอนที่9 สตรีใจดำอำมหิต

last update Last Updated: 2025-09-05 11:44:34

วันคืนของการเป็นอาเปาผ่านพ้นไปอย่างช้าๆ จากวันเป็นเดือน แต่เวลายิ่งผ่านไป งานที่อาโต๋วโยนมา ไม่สิ มอบหมายให้ฉู่ชิงเฟิงก็เริ่มมากมายขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาทำงานคล่องแล้ว ก็ควรแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้ชัดเจน ทำให้จากเดิมที่มีอาโต๋วคอยช่วยเวลาที่เขาหมดแรงทำงานไม่ทัน ตอนนี้เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แต่อ๋องหนุ่มยังไม่มีความคิดจะกลับสู่ฐานะเดิมในเร็ววันนี้

แน่นอนว่าพองานหนักขึ้น ท้องไส้ของเขาก็ยิ่งปั่นป่วน เสียงพุงน้อยๆ ร้องขออาหารใส่ท้องนั้นดังพอๆ กับเสียงโอดครวญที่ดังขึ้นอยู่ภายในใจของเขา

แต่สตรีใจดำอำมหิตอย่างหลินเสี่ยวหรานกลับให้หลินอ้ายส่งแต่ข้าวแข็งๆ โปะกับข้าวที่มีแต่ผักล้วนๆ ไม่มีเนื้อผสมมาให้ทุกเมื่อเชื่อวัน

ช่างใจจืดใจดำไร้คุณธรรมยิ่ง!

ฉู่ชิงเฟิงคิดไปพลางพุ้ยข้าวเข้าปากเคี้ยวแล้วกลืนมันลงไปพลางพร้อมกับความเคียดแค้นที่พองฟูอยู่เต็มท้อง

“คอยดูเถอะหลินเสี่ยวหราน หากวันใดได้กลับคืนสู่ฐานะ เปิ่นหวางจะจับเจ้าไปขังเอาไว้แล้วให้กินแต่ผักทุกมื้อเยี่ยงนี้สักปีสองปี”

“เจ้าหมูอ้วน เจ้าว่าใครจะจับใครไปขังนะ” หลินอ้ายที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้เอ่ยถาม เมื่อครู่นางยังอยู่ไกลจึงได้ยินไม่ถนัด

“เปล่าสักหน่อย” ฉู่ชิงเฟิงปฏิเสธอย่างเป็นธรรมชาติ เขาอยู่บ้านสวนสกุลหลินมาสักพักแล้ว จึงเริ่มคุ้นชินกับนิสัยใจคอของคนที่นี่ “ว่าแต่เจ้าเถิด มาหาข้ามีธุระอันใด”

“เจ้าไปแต่งเนื้อแต่งตัวเถิด วันนี้คุณหนูจะพาเจ้าเข้าไปในเมือง”

“ข้าไม่ไป” ฉู่ชิงเฟิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด หากเข้าไปในเมือง เพราะถึงแม้จะมิได้ป่าวประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เสด็จพ่อน่าจะให้คนตามหาเขาอยู่ในทางลับ และด้วยรูปร่างหน้าตาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คนของหน่วยลับจะต้องจำได้แน่ๆ ว่าเขาคือโซ่วอ๋องที่หายตัวไป

หลินอ้ายไม่อยากจะเชื่อหู ถึงอาเปาจะความจำเสื่อม แต่ก็ไม่น่าโง่ขนาดนี้ เพราะการเข้าเมืองก็เหมือนได้พักผ่อน เพราะพวกเขาไม่ต้องทำงานในบ้านเลยหนึ่งวัน แต่เจ้านี่กลับไม่อยากไปซะอย่างนั้น

แต่เอาเถอะ นางจะช่วยบอกใบ้ให้เอาบุญ เผื่อว่าเจ้านี่จะฉลาดขึ้นมาบ้าง

“คำสั่งของคุณหนูนะเจ้าปฏิเสธได้หรือ”

“ข้าเป็นคนมาอาศัยอยู่ก็จริง แต่ตามที่ตกลง คือข้าต้องใช้แรงงานแลกที่กินที่อยู่ หาใช่เป็นบ่าวใต้อาณัติของนางเต็มตัว ดังนั้นข้าย่อมมีสิทธิเลือกว่าจะออกไปข้างนอก หรือไม่ไป” ฉู่ชิงเฟิงพูดอย่างฉะฉาน จนหลินอ้ายชักไม่มั่นใจแล้วว่าที่ตัวเองปรามาสเขาว่าโง่นั้นถูกต้องหรือไม่

แต่ถึงอย่างไรวันนี้อาเปาก็ต้องเข้าเมืองไปกับคุณหนู แบบนี้นางคงต้องสร้างแรงกระตุ้นอีกสักหน่อย “ถ้าเจ้าไม่ไป ก็ต้องอยู่ทำงานทั้งหมดนี่คนเดียวนะ เจ้าคงไม่อยู่ให้โง่หรอกใช่ไหม”

“ข้าทำได้” แม้จะถูกข่มขู่ แต่ฉู่ชิงเฟิงก็บอกปัดอย่างรวดเร็ว จนหลินอ้ายเริ่มหงุดหงิดไม่วายกระทืบเท้าเร่าๆ

“โอ๊ย! อาเปา เจ้าไม่เรื่องมากสักวันได้หรือไม่”

“ข้าก็แค่ไม่อยากเข้าไปในเมือง เจ้าจะโมโหข้าไปใย”

“ที่ข้าโมโห เพราะเจ้ากำลังทำให้ข้าลำบาก”

“ข้าทำเจ้าลำบากด้วยเรื่องใด”

หลินอ้ายได้ฟังก็มีท่าทีชะงักงันราวกับถูกอะไรฟาดหัวขณะหนึ่ง จากนั้นสีหน้าของนาง น้ำเสียงของนางพลันแปรเปลี่ยนจนฉู่ชิงเฟิงตั้งรับไม่ทัน

“คุณหนูสั่งให้ข้ามาบอกความกับเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธ นี่ไม่เท่ากับว่าข้าทำงานล้มเหลวรึ เจ้าน่ะมันเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลา ส่วนข้าที่เป็นคนรับคำสั่งของคุณหนูมา จะโดนเจ้านายตำหนิที่ทำงานง่ายๆ แค่นี้ไม่สำเร็จอย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่” ดวงหน้าของหลินอ้ายแดงก่ำ น้ำตาแห่งความโมโหเริ่มคลอหน่วงที่ดวงตา ตั้งแต่ชายผู้นี้เข้ามาในบ้าน นางต้องโดนคุณหนูเอ็ดอยู่หลายครั้งเพราะเขา “อาเปา เจ้านี่มันแย่กว่าที่ข้าคิดไว้ตอนแรกเสียอีก”

แม้ทั้งสองคล้ายจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ทว่าฉู่ชิงเฟิงไม่เคยคิดว่าหลินอ้ายเป็นคนไม่ดี เพราะการที่นางไม่ไว้ใจคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเช่นเขา นั่นเพราะเป็นห่วงนายหญิงของตน หาใช่เพราะรังเกียจเขาอย่างแท้จริง

พอเห็นสตรีทำท่าจะร้องไห้จากความอัดอั้นเพราะเขา ฉู่ชิงเฟิงก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

“เรื่องแค่นี้นายหญิงของเจ้าคงไม่ดุเจ้าหรอก อย่าโมโหไปเลย”

“เจ้ามันจะไปรู้อะไร คุณหนูน่ะ...ฮือ คุณหนูบอกว่า ต้องเป็นเพราะข้าสื่อสารได้ไม่ดี เจ้าเลยไม่ให้ความร่วมมือเวลาคุณหนูฝากข้ามาบอกความกับเจ้า แต่ข้าว่ามันเป็นเพราะเจ้าเกลียดขี้หน้าข้าต่างหาก” คราวนี้น้ำตาหลินอ้ายร่วงลงมาแล้วจริงๆ

“ใครว่า ข้าไม่ได้เกลียดเจ้านะ ข้าแค่ไม่อยากไปเท่านั้นเอง”

“เจ้าอย่าโกหกเลย ไม่อย่างนั้นเจ้าจะสร้างความอับอายในฐานะสาวใช้ที่ไม่ได้เรื่องให้ข้าแบบนี้ทุกครั้งเหรอ” หลินอ้ายยกมือขึ้นมาปิดหน้า แล้วปล่อยโฮเสียงดังขึ้นอีกจนฉู่ชิงเฟิงเริ่มลนลาน

ต้องยอมรับว่าน้ำตาสตรีทำให้เขาจนใจจริงๆ

อย่างไรตนก็เป็นลูกผู้ชาย จะมามัวเห็นแก่ตัวต่อไปแบบนี้คงไม่ได้แล้ว

‘เป็นไงเป็นกัน ถ้าถูกคนจำได้ก็แค่กลับไปเป็นโซ่วอ๋องเร็วหน่อยเท่านั้นเอง’ ฉู่ชิงเฟิงคิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้น เตรียมตัวเข้าเมืองอย่างเสียมิได้

“หลินอ้ายอย่าร้องไห้เลยนะ ข้าจะไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้แหละ”

“จะ...เจ้าพูดจริงเหรอ” นางยังคงปิดหน้าปิดตาร้องไห้ต่อคล้ายไม่เชื่อถือ

“จริงสิ เจ้าก็รีบไปบอกคุณหนูเถอะ ข้าไปแต่งตัวล่ะ” พูดจบเขาก็รีบหมุนกายเดินจากไป

หลินอ้ายค่อยๆ กางนิ้วมือออกช้าๆ พอให้สายตาลอดออกมาจากง่ามนิ้ว ครั้นเห็นฉู่ชิงเฟิงรีบเดินไปแต่งตัวจริงๆ นางพลันปาดน้ำตาสองสามหยดที่ตัวเองเพียรเค้นออกมาทิ้งไป แล้วแล่นไปรายงานผลกับหลินเสี่ยวหรานอย่างร่าเริง

ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย มารยาหญิงก็ยังคงใช้ได้ดีดุจเดิมสินะ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่76 จบ

    เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “เพราะอย่างนั้น ข้าเลยไม่เห็นจำเป็นต้องโอ้อวดความสามารถอะไรเลย หลายครั้งที่ข้าช่วยเสนอความคิดต่างๆ กับเสด็จพ่อ และช่วยให้จิ้นอ๋องทำผลงาน ให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ข้าแค่เห็นว่าได้ช่วยให้คนสองคนที่ข้ารักและเคารพได้สมปรารถนา ได้เติบโตในเส้นทางของพวกเขาก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ข้ามีความสุขมากนะเมื่อได้เห็นพวกเขามีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศอะไรให้ใครรู้เลย”หลินเสี่ยวหรานฟังแล้วใจอ่อนยวบ ความคิดของฉู่ชิงเฟิงนั้นสูงส่งและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่นางคิดไว้มากนัก นางรู้สึกละอายใจที่เคยมองเขาเพียงผิวเผิน“เข้าใจแล้วเพคะ” นางพึมพำ ก่อนจะถามคำถามต่อไป “แล้ววรยุทธ์เล่าเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องมีวรยุทธ์ แต่หม่อมฉันคิดว่าแค่พอป้องกันตัวได้เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าท่านจะเก่งกาจราวเทพสงคราม จนสามารถปราบโจรป่าได้ราบคาบในพริบตา”“เทพสงครามอะไรกันเล่าหรานเอ๋อร์” ฉู่ชิงเฟิงส่ายหน้า เขาปฏิเสธคำชมนั้นอย่างรวดเร็ว “ที่ต้องฝึกวรยุทธ์ก็เพราะถูกบังคับให้ฝึกน่ะสิ ข้าไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะมันเหนื่อยจะตายไป”เขาบ่นอุบอิบ “ที่พอจะดีหน่อยก็คือเรื่องยิงธนูนั่นแหละ เพราะแค่ยื

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่75 คืนจันทร์ฉาย

    หลังจากเหตุการณ์ปราบโจรป่าครั้งใหญ่ที่จบลงไปอย่างน่าตื่นตะลึง หลินเสี่ยวหรานยังคงรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ถ่วงอยู่ในอก ภาพของฉู่ชิงเฟิงที่พลิ้วไหวกระบี่ดุจเทพสงคราม และเงาร่างของหลานเหมยที่ปลิดชีพศัตรูอย่างเลือดเย็นวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของนางตลอดเวลา มันเป็นภาพที่แตกต่างจาก ‘ท่านอ๋องว่างงานผู้ใจดี’ ที่นางรู้จักมาโดยสิ้นเชิงความรู้สึกเหมือนถูกปิดบัง คล้ายเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าเกาะกินใจนาง ทำให้นางไม่สามารถร่าเริงได้เหมือนเคยบรรยากาศในจวนดูเหมือนจะปกติ แต่ความอึดอัดบางอย่างลอยอบอวลอยู่ระหว่างโซ่วอ๋องกับพระชายา หลินเสี่ยวหรานพยายามทำตัวปกติ ทว่าความเงียบที่เข้าปกคลุมระหว่างพวกเขามักจะหนักอึ้งอยู่เสมอฉู่ชิงเฟิงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระชายาของเขามาตลอดหลายวัน ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววกังวล“หรานเอ๋อร์ วันนี้อากาศดีนัก ข้าเห็นว่าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ ไยเราไม่ออกไปเดินเล่นในตลาดสักหน่อยเล่า เผื่อจะช่วยให้ใจเจ้าผ่อนคลายขึ้นบ้าง”หลินเสี่ยวหรานวางผ้าปักในมือลงช้าๆ พลางเงยหน้ามองเขา “เพคะท่านอ๋อง” นางตอบรับเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงเจือความห่างเหิน แม้ในใจจะรู้สึกว่าการไปเดินตลาดอาจไม่ได้ช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่74 ถอนหายใจ

    เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาฉู่ชิงเฟิง ทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทันที “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน... หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉัน... หม่อมฉันไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องจะ... ทรงเก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบ้านเมือง หรือวรยุทธ์ ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกระหม่อมเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอสารภาพว่าตลอดมากระหม่อมอิจฉาท่าน ไม่ยอมรับในความสามารถของท่าน แต่บัดนี้... กระหม่อมยอมรับแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ท่านคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างแท้จริง หลี่เจิ้นขอถวายชีวิตรับใช้ท่านอ๋องตลอดไป และจะเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านอ๋องแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”น้ำเสียงของหลี่เจิ้นสั่นเครือด้วยความรู้สึกผิดและสำนึกอย่างแท้จริง แววตาที่มองฉู่ชิงเฟิงเปี่ยมไปด้วยความเคารพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเขาได้พบกับเทพเจ้าที่พร้อมจะยอมอุทิศตนเองให้ฉู่ชิงเฟิงมองหลี่เจิ้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ และยื่นมือไปประคองเขาให้ลุกขึ้น “ลุกขึ้นเถิดท่านรองเจ้าเมือง เพียงท่านเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เปิ่นหวางทำเพื่อแคว้นก็พอแล้ว เรื่องที่ผ่านมาเปิ่นหวางไม่เคยติดใจ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ภายในใจของฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงชัยช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่73 หัวใจแทบหยุดเต้น!

    ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด ฉู่ชิงเฟิงพลันสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากเงามืดอีกครั้ง คราวนี้มันรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับพายุที่พร้อมจะพัดทำลายทุกสิ่ง เขาเหลือบมองไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ละสายตาจากศัตรูเบื้องหน้า“หลานเหมย...” เสียงของฉู่ชิงเฟิงต่ำลง แต่หนักแน่นเด็ดขาด “ไประบายโทสะของเจ้าได้”สิ้นคำสั่งนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พลันปรากฏกายขึ้นจากเงามืด ราวกับภูตผีที่โผล่พ้นจากนรกานต์ นางสวมชุดองค์รักษ์สีดำสนิท ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั่งใบหน้าก็ถูกผ้าคลุมสีดำทมึนบดบังไว้จนมิดชิด เห็นเพียงประกายเย็นเยียบและดุดันที่ลอดผ่านช่องแคบของผ้าคลุมเท่านั้น รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างของนางเข้มข้นจนบรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องของโจรที่ดังระงมอยู่แล้ว กลับทวีความน่าหวาดกลัวขึ้นเมื่อเงาร่างสีดำนั้นเริ่มเคลื่อนไหว การโจมตีของนางรวดเร็ว ไร้ความปรานี และเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ราวกับยมทูตที่มาทวงวิญญาณทันใดนั้นเอง นางก็เริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายที่เคยสงบนิ่งบัดนี้กลับบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรงขัง นางพุ่งเข้าใส่กลุ่มโจรที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เสียง

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่72 สุราดีไม่ดื่ม อยากดื่มสุราพิษ!

    “เรียนท่านอ๋อง... พระชายาและท่านรองเจ้าเมือง... ถูกจับตัวไปพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเขาขาดห้วง ร่างของเฉาเหมยในอ้อมแขนซีดเผือดไร้ชีวิตชีวา พิษกำลังแล่นเข้าสู่หัวใจทันทีที่เห็นสภาพของเฉาเหมยที่ถูกนำกลับมาในสภาพปางตาย ฉู่ชิงเฟิงพลันสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นธนูพิษที่ปักอยู่บนแขนของนาง ดวงตาคมกริบฉายแววเป็นห่วงปนโทสะ“ใครก็ได้! ไปตามหมอหลวงมาดูอาการเฉาเหมยเดี๋ยวนี้” ฉู่ชิงเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ในขณะที่หมอหลวงกำลังเดินทางมาอย่างเร่งด่วนในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงจนน่าสะพรึง มันแผ่ออกมาจากเงามืดในมุมหนึ่งของห้องโถง แม้จะไร้ซึ่งเสียงและตัวตนที่มองเห็น แต่จิตสังหารนั้นก็เข้มข้นจนทำให้เส้นผมบนแขนของเขาลุกชัน เขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้มาจากใคร หลานเหมยคงเดือดดาลอย่างถึงที่สุดที่ได้เห็นสภาพปางตายของผู้เป็นน้องสาว จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นไม่ใช่แค่ความโกรธแค้น แต่มันคือคำประกาศกร้าวว่า ‘จะไม่มีใครรอด’ และผู้ที่บังอาจทำร้ายน้องสาวของนางจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างสาสมจากนั้นองครักษ์ผู้รอดชีวิตก็ยื่นจดหมายที่กำแน่นในมือให้ฉู่ชิงเฟิง เขาหยิบมาคลี่ออกอ่าน แววตา

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่71 โซ่วอ๋องผู้อัญเชิญเทพปีศาจ

    หนึ่งปีแห่งความรุ่งเรืองของแคว้นหลิงหลงได้ผ่านไป ภายใต้การบริหารของฉู่ชิงเฟิงและเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดี เมืองชิงหลิวและหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนใช้ชีวิตอย่างผาสุกแต่เหรียญย่อมมีสองด้าน...ความร่ำรวยดึงดูดสายตาของเหล่าโจรป่าผู้หิวโหย ภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขาเริ่มคุกคามเส้นทางการค้าและการสัญจรของชาวบ้าน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วแคว้นภายในจวนเจ้าเมือง “กราบทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ! แม้แคว้นเราจะมั่งคั่งขึ้น แต่ปัญหาโจรป่ากลับหนักหนาสาหัสขึ้นพ่ะย่ะค่ะ พวกมันกล้าดียิ่งขึ้น ดักปล้นขบวนสินค้าและชาวบ้านตามเส้นทางสำคัญๆ ทำให้การค้าชะงักงันพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพซ่งยืนกรานสีหน้าเคร่งเครียดฉู่ชิงเฟิงขมวดคิ้ว “แล้วกองทัพเล่า ท่านแม่ทัพมีกำลังไม่เพียงพอหรืออย่างไร”แม่ทัพซ่งถอนหายใจหนัก “กำลังพลมีจำกัดพ่ะย่ะค่ะ ทหารหลวงหนึ่งพันนายต้องกระจายกำลังดูแลสี่หัวเมือง อีกทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์หลายอย่างก็เริ่มชำรุดทรุดโทรม เพราะสงบศึกมานานหลายปี ทหารเองก็ขาดการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงพ่ะย่ะค่ะ”“ปัญหาใหญ่จริงๆ นั่นแหละท่านแม่ทัพ เปิ่นหวางเข้าใจดี” ฉู่ชิงเฟิงหันไปมองเหวินจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status