Home / รักโบราณ / ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น / ตอนที่6 ข้าก็ยินดีจะตั้งให้

Share

ตอนที่6 ข้าก็ยินดีจะตั้งให้

last update Last Updated: 2025-09-04 12:35:55

หลินเสี่ยวหรานให้ฉู่ชิงเฟิงตามนางไปที่โต๊ะหินใต้ต้นอิงฮวา แล้วเชิญให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม จากนั้นไม่นานอาโต๋วก็ไปตามลุงชุนมาสมทบ ครั้นทุกคนภายในบ้านอยู่รวมกันครบแล้ว หลินเสี่ยวหรานถึงได้เริ่มบทสนทนา

“ก่อนหน้าเป็นเพราะเจ้าป่วยอยู่ ข้าจึงมิได้พูดคุยอะไรด้วยแบบเป็นเรื่องเป็นราว แต่บัดนี้ร่างกายของเจ้าแข็งแรงสมบูรณ์ดีแล้ว ข้าเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่เราจะต้องพูดคุยกันเสียที ถึงแม้เจ้าจะยังจำอะไรไม่ได้ก็ตาม”

“คุณหนูหลินมีเรื่องอันใดก็บอกกล่าวมาได้เลย” ใบหน้าอ้วนกลมของฉู่ชิงเฟิงดูจริงจังขึ้นสามส่วน

“แต่ก่อนที่จะคุยอะไรกัน ข้าคิดว่าเจ้าควรหาชื่อให้ตนเองก่อน จะได้เรียกขานกันได้ถูก”

“นั่นสินะ” ฉู่ชิงเฟิงไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อน พอถูกถามก็นึกไม่ทันอยู่บ้าง เพราะในหัวมีคำมงคลมากมายลอยวนอยู่ในนั้น แต่ก็ยังหาชื่อที่ความหมายดี และถูกใจตนเองไม่ได้

ทว่าคนที่รอฟังคำตอบมิได้มีใจอยากคอยเขาประดิษฐ์คำสักเท่าใด

“หากเจ้ายังนึกไม่ออก ข้าก็ยินดีจะตั้งให้” หลินเสี่ยวหรานยิ้มกล่าว ท่าทางเต็มอกเต็มใจ

ฉู่ชิงเฟิงหันไปสบตาของหลินเสี่ยวหรานที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ กอปรกับเขายังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าควรใช้ชื่อปลอมอย่างไรดี “เช่นนั้นรบกวนคุณหนูหลิน ตั้งชื่อเรียกให้ข้าด้วย”

“ข้าคิดว่า ชื่อ ‘อาเปา’ น่าจะเหมาะสมกับเจ้าที่สุด”

“อาเปา งั้นรึ”

“แก้มของเจ้าทำให้ข้านึกถึงซาลาเปาไส้หมูของร้านลุงฟู่ในตลาด แป้งฟูนุ่ม ไส้หมูที่อยู่ข้างในก็อร่อย” หลินเสี่ยวหรานยิ้มจนตาหยี ไม่คิดปิดบังที่มาของชื่อที่ตนเองคิด เพราะทุกครั้งที่เจอหน้ากลมๆ แก้มยุ้ยๆ ของเขาทีไร นางก็อยากกินซาลาเปาร้านนั้นตลอดเลย

แต่ฉู่ชิงเฟิงกลับยิ้มไม่ออก คุณหนูหลินผู้นี้ก็คงเหมือนน้องสาวของนางที่ตัดสินเขาจากรูปร่างหน้าตากระมัง

“ทำไมเจ้าทำหน้าอย่างนั้นเล่า” หลินเสี่ยวหรานสังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าอวบอิ่มของเขา “หรือว่าเจ้าไม่ชอบกินซาลาเปา”

“ที่คุณหนูหลินตั้งชื่อนี้ให้ข้า แค่เพราะว่าชอบกินซาลาเปามากเท่านั้นรึ”

หลินเสี่ยวหรานพยักหน้า ตอบกลับโดยแทบไม่ต้องคิด “ถูกต้องแล้ว ข้าชอบกินซาลาเปาร้านนั้นมาก อีกอย่างชื่อนี้ก็ใช้เรียกแค่ชั่วคราว ข้าเลยคิดว่าตั้งให้เรียกง่ายจำง่ายน่าจะดีที่สุด”

ฉู่ชิงเฟิงพยายามหาร่องรอยความเย้ยหยันในดวงตานาง ทว่ามันกลับดูสุกใสไร้สิ่งเคลือบแฝง หรือว่าเขาจะเข้าใจเจตนานางผิดไป

หลินเสี่ยวหรานเห็นเขาทำสีหน้าไม่ดี เลยเข้าใจไปว่าอีกฝ่ายคงไม่ชอบชื่อนี้ “ความจริงผู้อื่นก็แค่มีใจอยากช่วยตั้งชื่อให้เท่านั้นเอง แต่ถ้าเจ้าไม่ชอบ ข้าก็มิได้บังคับนะ”

ฉู่ชิงเฟิงมองใบหน้างามสะคราญพลางครุ่นคิด หากจะว่ากันตามจริง หลินเสี่ยวหรานอาจเป็นคนเพียงคนเดียวที่พูดความรู้สึกเวลาที่นางมองเขาออกมาตรงๆ อย่างน้อยนางก็ไม่ได้เสแสร้ง และก็ไม่ได้คิดดูถูกเหยียดหยามอะไร แล้วแบบนี้เขายังจะปฏิเสธความหวังดีของนางไปไย

“เอาเป็นว่าตกลง ข้าจะใช้ชื่อที่คุณหนูหลินตั้งให้ก็แล้วกัน”

“ดี เช่นนั้นตกลงตามนี้” หลินเสี่ยวหรานเอียงศีรษะ พลางปรบมือชอบใจด้วยท่าทางน่ารัก “ต่อไปนี้ขอให้ทุกคนเรียกเขาว่าอาเปานะ”

“ขอรับ/เจ้าค่ะคุณหนู” ลุงชุน อาโต๋ว ลี่มามา และหลินอ้ายรับคำเป็นเสียงเดียวกัน

 “เอาล่ะๆ ในเมื่อเจ้ามีชื่อแล้ว เช่นนั้นก็มาเข้าเรื่องกันเถอะอาเปา” หลินเสี่ยวหรานเก็บรอยยิ้ม ทำให้ใบหน้างามสะคราญพลันดูจริงจังขึ้นมา

ฉู่ชิงเฟิงเห็นเช่นนั้นก็เหยียดหลังตั้งตรง ท่าทางตั้งใจฟังเต็มที่ “เชิญคุณหนูหลินว่ามาเถิด ไม่ต้องเกรงใจ”

“งั้นข้าขอพูดแบบเปิดประตูเห็นภูเขา[1]เลยแล้วกันนะ เดิมข้าตั้งใจว่าหากเจ้าฟื้นแล้ว ก็จะส่งข่าวให้ครอบครัวของเจ้ามารับกลับไป ทว่าเพราะเจ้าจำอะไรไม่ได้ ข้าจึงจำเป็นต้องดูแลรักษาไปก่อน ถึงแม้จะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของเจ้าเลยก็ตาม” หลินเสี่ยวหรานหยุดมองหน้าฉู่ชิงเฟิงแวบหนึ่ง เห็นเขาดูสงบนิ่งคล้ายพร้อมรับได้ทุกอย่าง นางจึงค่อยพูดต่อ “แต่ในเมื่อเจ้าหายดีแล้ว และข้าเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน หากยังปล่อยให้เจ้าอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไปเฉยๆ เกรงว่าหากท่านพ่อรู้เรื่องนี้เข้าจะไม่พอใจเอาได้”

“หรือคุณหนูหลินต้องการให้ข้าจากไป” ฉู่ชิงเฟิงเพียงขมวดคิ้ว และมิได้มีท่าทีตกใจเท่าใดนัก หลินเสี่ยวหรานเห็นแล้วก็แปลกใจอยู่บ้างที่ชายอ้วนท่าทางไม่ได้ความสามารถเก็บสีหน้าอาการได้ดีขนาดนี้

“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว ในเมื่อเจ้าจำอะไรไม่ได้สักอย่าง อีกทั้งยังไม่มีเงินติดตัว หากข้าให้เจ้าจากไปทั้งแบบนี้ก็คงไม่สบายใจเช่นกัน”

“แล้วข้าต้องทำเช่นไรหรือ หากยังต้องการอาศัยที่นี่ต่อไปก่อน” ฉู่ชิงเฟิงถามเข้าประเด็น ไม่คิดอ้อมค้อม

“ในเมื่อไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าความจำของเจ้าจะกลับมาเมื่อใด ท่านหมอเลยให้เจ้าไปฝังเข็มเพื่อรักษา แต่ค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย หากเจ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อจริงๆ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้าคงต้องให้เจ้าไปทำงานกับอาโต๋ว” หลินเสี่ยวหรานถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดเหมือนหนักใจเต็มประดา “ถ้าไม่อยากทำ ข้าก็ไม่บังคับหรอกนะ แต่ว่าเจ้าจะต้องออกไปจากที่นี่ภายในสามวัน”

ฉู่ชิงเฟิงไม่ได้ตกใจกับข้อเสนอ เพราะดูจากสถานการณ์ เกรงว่าคุณหนูใหญ่สกุลหลินอาจจะไม่ใช่บุตรสาวที่บิดาโปรดปรานสักเท่าใด นางถึงได้ถูกส่งมาอยู่เสียไกลลิบลับในบ้านหลังเล็กๆ กับบ่าวติดตามแค่สี่คนแบบนี้ และการที่เขามาอยู่ที่นี่ ก็คงเป็นการเพิ่มภาระ และความเสี่ยงให้นาง

‘เอาเถอะ บ้านหลังเล็กแค่นี้ จะมีอะไรให้ทำหนักหนากัน’

“ได้ ข้าขอรับข้อเสนอของคุณหนูหลิน”

“ไม่ต้องรีบตอบก็ได้นะอาเปา”

“ข้าตอบรับข้อเสนอ เพราะคิดดีแล้ว ในเมื่อข้าจำอะไรไม่ได้ ทั้งยังไม่มีอะไรตอบแทนคุณหนูหลิน นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ข้าพอจะทำได้ในตอนนี้”

“ถ้าเจ้าเต็มใจ เช่นนั้นก็ไปเริ่มงานกับอาโต๋วตั้งแต่พรุ่งนี้เลยแล้วกันนะ”

“ได้ ตกลงตามนี้” ฉู่ชิงเฟิงรับคำหนักแน่น จนบ่าวทุกคนที่อยู่ที่นั่นรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่แฝงมาในน้ำเสียง แล้วบังเกิดความรู้สึกเชื่อถือคนแปลกหน้าอย่างเขาขึ้นมาพร้อมกันอย่างประหลาด

กระทั่งหลินเสี่ยวหรานยังรู้พอใจ ใบหน้างดงามจึงกลับมามีรอยยิ้มอีกครา “เอาล่ะ หมดเรื่องแล้ว เจ้าก็ไปพักผ่อนให้เต็มที่เถิดอาเปา พรุ่งนี้จะได้มีแรงช่วยอาโต๋วทำงาน”

ฉู่ชิงเฟิงมิได้อิดออด เขากล่าวอำลาหลินเสี่ยวหราน แล้วเดินกลับไปยังห้องพักอย่างสบายใจ โดยไม่มิได้รู้ถึงชะตากรรมของตนเองนับจากนี้  

[1] เปิดประตูเห็นภูเขา หมายถึง พูดหรือแสดงออกแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่76 จบ

    เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “เพราะอย่างนั้น ข้าเลยไม่เห็นจำเป็นต้องโอ้อวดความสามารถอะไรเลย หลายครั้งที่ข้าช่วยเสนอความคิดต่างๆ กับเสด็จพ่อ และช่วยให้จิ้นอ๋องทำผลงาน ให้เขาได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ข้าแค่เห็นว่าได้ช่วยให้คนสองคนที่ข้ารักและเคารพได้สมปรารถนา ได้เติบโตในเส้นทางของพวกเขาก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ข้ามีความสุขมากนะเมื่อได้เห็นพวกเขามีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศอะไรให้ใครรู้เลย”หลินเสี่ยวหรานฟังแล้วใจอ่อนยวบ ความคิดของฉู่ชิงเฟิงนั้นสูงส่งและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่นางคิดไว้มากนัก นางรู้สึกละอายใจที่เคยมองเขาเพียงผิวเผิน“เข้าใจแล้วเพคะ” นางพึมพำ ก่อนจะถามคำถามต่อไป “แล้ววรยุทธ์เล่าเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องมีวรยุทธ์ แต่หม่อมฉันคิดว่าแค่พอป้องกันตัวได้เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าท่านจะเก่งกาจราวเทพสงคราม จนสามารถปราบโจรป่าได้ราบคาบในพริบตา”“เทพสงครามอะไรกันเล่าหรานเอ๋อร์” ฉู่ชิงเฟิงส่ายหน้า เขาปฏิเสธคำชมนั้นอย่างรวดเร็ว “ที่ต้องฝึกวรยุทธ์ก็เพราะถูกบังคับให้ฝึกน่ะสิ ข้าไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะมันเหนื่อยจะตายไป”เขาบ่นอุบอิบ “ที่พอจะดีหน่อยก็คือเรื่องยิงธนูนั่นแหละ เพราะแค่ยื

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่75 คืนจันทร์ฉาย

    หลังจากเหตุการณ์ปราบโจรป่าครั้งใหญ่ที่จบลงไปอย่างน่าตื่นตะลึง หลินเสี่ยวหรานยังคงรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักๆ ถ่วงอยู่ในอก ภาพของฉู่ชิงเฟิงที่พลิ้วไหวกระบี่ดุจเทพสงคราม และเงาร่างของหลานเหมยที่ปลิดชีพศัตรูอย่างเลือดเย็นวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของนางตลอดเวลา มันเป็นภาพที่แตกต่างจาก ‘ท่านอ๋องว่างงานผู้ใจดี’ ที่นางรู้จักมาโดยสิ้นเชิงความรู้สึกเหมือนถูกปิดบัง คล้ายเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าเกาะกินใจนาง ทำให้นางไม่สามารถร่าเริงได้เหมือนเคยบรรยากาศในจวนดูเหมือนจะปกติ แต่ความอึดอัดบางอย่างลอยอบอวลอยู่ระหว่างโซ่วอ๋องกับพระชายา หลินเสี่ยวหรานพยายามทำตัวปกติ ทว่าความเงียบที่เข้าปกคลุมระหว่างพวกเขามักจะหนักอึ้งอยู่เสมอฉู่ชิงเฟิงสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระชายาของเขามาตลอดหลายวัน ดวงตาคมกริบของเขาฉายแววกังวล“หรานเอ๋อร์ วันนี้อากาศดีนัก ข้าเห็นว่าเจ้าดูไม่ค่อยสบายใจ ไยเราไม่ออกไปเดินเล่นในตลาดสักหน่อยเล่า เผื่อจะช่วยให้ใจเจ้าผ่อนคลายขึ้นบ้าง”หลินเสี่ยวหรานวางผ้าปักในมือลงช้าๆ พลางเงยหน้ามองเขา “เพคะท่านอ๋อง” นางตอบรับเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงเจือความห่างเหิน แม้ในใจจะรู้สึกว่าการไปเดินตลาดอาจไม่ได้ช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่74 ถอนหายใจ

    เขาเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาฉู่ชิงเฟิง ทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทันที “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน... หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉัน... หม่อมฉันไม่เคยคิดเลยว่าท่านอ๋องจะ... ทรงเก่งกาจถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบ้านเมือง หรือวรยุทธ์ ท่านคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกระหม่อมเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอสารภาพว่าตลอดมากระหม่อมอิจฉาท่าน ไม่ยอมรับในความสามารถของท่าน แต่บัดนี้... กระหม่อมยอมรับแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ท่านคือผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อย่างแท้จริง หลี่เจิ้นขอถวายชีวิตรับใช้ท่านอ๋องตลอดไป และจะเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านอ๋องแต่เพียงผู้เดียวพ่ะย่ะค่ะ”น้ำเสียงของหลี่เจิ้นสั่นเครือด้วยความรู้สึกผิดและสำนึกอย่างแท้จริง แววตาที่มองฉู่ชิงเฟิงเปี่ยมไปด้วยความเคารพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับเขาได้พบกับเทพเจ้าที่พร้อมจะยอมอุทิศตนเองให้ฉู่ชิงเฟิงมองหลี่เจิ้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ และยื่นมือไปประคองเขาให้ลุกขึ้น “ลุกขึ้นเถิดท่านรองเจ้าเมือง เพียงท่านเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เปิ่นหวางทำเพื่อแคว้นก็พอแล้ว เรื่องที่ผ่านมาเปิ่นหวางไม่เคยติดใจ” แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ภายในใจของฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงชัยช

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่73 หัวใจแทบหยุดเต้น!

    ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด ฉู่ชิงเฟิงพลันสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากเงามืดอีกครั้ง คราวนี้มันรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า ราวกับพายุที่พร้อมจะพัดทำลายทุกสิ่ง เขาเหลือบมองไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ละสายตาจากศัตรูเบื้องหน้า“หลานเหมย...” เสียงของฉู่ชิงเฟิงต่ำลง แต่หนักแน่นเด็ดขาด “ไประบายโทสะของเจ้าได้”สิ้นคำสั่งนั้นเอง ร่างหนึ่งก็พลันปรากฏกายขึ้นจากเงามืด ราวกับภูตผีที่โผล่พ้นจากนรกานต์ นางสวมชุดองค์รักษ์สีดำสนิท ปกปิดทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั่งใบหน้าก็ถูกผ้าคลุมสีดำทมึนบดบังไว้จนมิดชิด เห็นเพียงประกายเย็นเยียบและดุดันที่ลอดผ่านช่องแคบของผ้าคลุมเท่านั้น รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างของนางเข้มข้นจนบรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือก เสียงกรีดร้องของโจรที่ดังระงมอยู่แล้ว กลับทวีความน่าหวาดกลัวขึ้นเมื่อเงาร่างสีดำนั้นเริ่มเคลื่อนไหว การโจมตีของนางรวดเร็ว ไร้ความปรานี และเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว ราวกับยมทูตที่มาทวงวิญญาณทันใดนั้นเอง นางก็เริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายที่เคยสงบนิ่งบัดนี้กลับบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรงขัง นางพุ่งเข้าใส่กลุ่มโจรที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เสียง

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่72 สุราดีไม่ดื่ม อยากดื่มสุราพิษ!

    “เรียนท่านอ๋อง... พระชายาและท่านรองเจ้าเมือง... ถูกจับตัวไปพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเขาขาดห้วง ร่างของเฉาเหมยในอ้อมแขนซีดเผือดไร้ชีวิตชีวา พิษกำลังแล่นเข้าสู่หัวใจทันทีที่เห็นสภาพของเฉาเหมยที่ถูกนำกลับมาในสภาพปางตาย ฉู่ชิงเฟิงพลันสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นธนูพิษที่ปักอยู่บนแขนของนาง ดวงตาคมกริบฉายแววเป็นห่วงปนโทสะ“ใครก็ได้! ไปตามหมอหลวงมาดูอาการเฉาเหมยเดี๋ยวนี้” ฉู่ชิงเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ในขณะที่หมอหลวงกำลังเดินทางมาอย่างเร่งด่วนในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ฉู่ชิงเฟิงก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงจนน่าสะพรึง มันแผ่ออกมาจากเงามืดในมุมหนึ่งของห้องโถง แม้จะไร้ซึ่งเสียงและตัวตนที่มองเห็น แต่จิตสังหารนั้นก็เข้มข้นจนทำให้เส้นผมบนแขนของเขาลุกชัน เขารู้ดีว่าความรู้สึกนี้มาจากใคร หลานเหมยคงเดือดดาลอย่างถึงที่สุดที่ได้เห็นสภาพปางตายของผู้เป็นน้องสาว จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นไม่ใช่แค่ความโกรธแค้น แต่มันคือคำประกาศกร้าวว่า ‘จะไม่มีใครรอด’ และผู้ที่บังอาจทำร้ายน้องสาวของนางจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างสาสมจากนั้นองครักษ์ผู้รอดชีวิตก็ยื่นจดหมายที่กำแน่นในมือให้ฉู่ชิงเฟิง เขาหยิบมาคลี่ออกอ่าน แววตา

  • ท่านอ๋องว่างงานกับพระชายาจำเป็น   ตอนที่71 โซ่วอ๋องผู้อัญเชิญเทพปีศาจ

    หนึ่งปีแห่งความรุ่งเรืองของแคว้นหลิงหลงได้ผ่านไป ภายใต้การบริหารของฉู่ชิงเฟิงและเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดี เมืองชิงหลิวและหัวเมืองน้อยใหญ่ต่างเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนใช้ชีวิตอย่างผาสุกแต่เหรียญย่อมมีสองด้าน...ความร่ำรวยดึงดูดสายตาของเหล่าโจรป่าผู้หิวโหย ภัยร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขาเริ่มคุกคามเส้นทางการค้าและการสัญจรของชาวบ้าน สร้างความปั่นป่วนไปทั่วแคว้นภายในจวนเจ้าเมือง “กราบทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ! แม้แคว้นเราจะมั่งคั่งขึ้น แต่ปัญหาโจรป่ากลับหนักหนาสาหัสขึ้นพ่ะย่ะค่ะ พวกมันกล้าดียิ่งขึ้น ดักปล้นขบวนสินค้าและชาวบ้านตามเส้นทางสำคัญๆ ทำให้การค้าชะงักงันพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพซ่งยืนกรานสีหน้าเคร่งเครียดฉู่ชิงเฟิงขมวดคิ้ว “แล้วกองทัพเล่า ท่านแม่ทัพมีกำลังไม่เพียงพอหรืออย่างไร”แม่ทัพซ่งถอนหายใจหนัก “กำลังพลมีจำกัดพ่ะย่ะค่ะ ทหารหลวงหนึ่งพันนายต้องกระจายกำลังดูแลสี่หัวเมือง อีกทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์หลายอย่างก็เริ่มชำรุดทรุดโทรม เพราะสงบศึกมานานหลายปี ทหารเองก็ขาดการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงพ่ะย่ะค่ะ”“ปัญหาใหญ่จริงๆ นั่นแหละท่านแม่ทัพ เปิ่นหวางเข้าใจดี” ฉู่ชิงเฟิงหันไปมองเหวินจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status