Home / รักโบราณ / ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2 / ตอนที่10. เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

Share

ตอนที่10. เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

last update Last Updated: 2025-05-29 22:12:53

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ตะวันเคลื่อนคล้อยจนทอแสงเป็นสีส้ม เยี่ยนเยว่ฉีทำถุงใส่เครื่องหอมให้มู่เลี่ยงหรงเสร็จพอดีจึงตั้งใจจะไปพบสามีที่ห้องหนังสือ นางลุกขึ้นเดินไปทางตำหนักใหญ่ ระหว่างทางก็เหลือบไปเห็นกล่องใส่ขนมใบหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้ริมสระบัว

ภาพขนมดอกกุ้ยกระจัดกระจายอยู่บนพื้นหญ้า

‘เกิดอันใดขึ้น ทำไมกล่องขนมจึงถูกทิ้งเล่า’

เมื่อครู่ไม่ใช่ถางซือเซียนบอกกับนางว่าจะนำขนมดอกกุ้ยกล่องนี้ไปให้เยี่ยนจิ้นหลิงหรอหรือ แต่เหตุใดถึงมีสภาพเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าสาวน้อยอาจจะเผลอทำกล่องขนมหลุดมือ หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับพี่ชายคนรองของนางกัน

ระหว่างที่เยี่ยนเยว่ฉีกำลังครุ่นคิด มู่เลี่ยงหรงก็ออกมาจากห้องทำงานพอดี เขาก้าวเท้าเข้ามาหาพระชายาของตนทันที แต่พอเห็นนางสนใจสิ่งอื่นอยู่จึงมองตามสายตานั้นไป แล้วก็พบกับกล่องขนมนั่นด้วยเช่นกัน

“เด็กๆ จงเก็บกล่องขนมนั้นขึ้นมา แล้วทำความสะอาดบริเวณนี้เสีย” มู่เลี่ยงหรงออกคำสั่ง ข้ารับใช้ที่อยู่ในบริเวณนั้นรีบทำตามประสงค์ของเขาในทันที

“ช่างเถิด มันไม่ใช่เรื่องของเรา” มู่เลี่ยงหรงเอ่ยเสียงเรียบ

แต่ข้าสงสัยว่าเซียนเอ๋อร์อาจจะมีเรื่องบางอย่างกับพี่รอง” ในที่สุด ด้วยอดไม่ได้ก็พูดสิ่งที่กังวลใจออกมา

“ถ้าจริงดังว่า นั่นก็เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องไปจัดการกันเอง พวกเราไม่ควรไปก้าวก่าย” มู่เลี่ยงหรงแสร้งทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาเช่นเดิม

“แต่...” เยี่ยนเยว่ฉียังไม่ทันได้พูดต่อ มู่เลี่ยงหรงก็หันหนีไปทางอื่น เป็นอันสื่อว่าไม่ยอมให้ภรรยาสาวความต่อไปอีก เมื่อเห็นสามีไม่ยินดีที่จะสนทนาหัวข้อนี้ นางจึงเก็บคำพูดทั้งหมดลงคอ แล้วยืนนิ่งดั่งปกติที่เคยทำ

มู่เลี่ยงหรงรู้ว่าภรรยายังคงคับข้องใจ เพราะตนพอจะเข้าใจอุปนิสัยของเยี่ยนเยว่ฉีแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนเขาย่อมคิดว่านางว่าง่าย แต่จากเหตุการณ์วันเยี่ยมบ้านเดิมนั้น ทำให้อ๋องหนุ่มมั่นใจว่านางเพียงแค่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ สตรีของตนใจเย็นมากพอที่จะรอเวลาอันเหมาะสมแล้วลงมือแก้แค้น ดังนั้นเพื่อขจัดความขุ่นมัวในใจของนาง มู่เลี่ยงหรงจำต้องให้เหตุผลที่ดีกลับไปบ้าง

“อ้ายเฟย หากมีวาสนาอยู่ไกลพันลี้ยังได้พานพบ แต่หากไร้ซึ่งวาสนาต่อให้อยู่ตรงหน้าก็มองมิเห็น”

“เพคะ” เยี่ยนเยว่ฉีตอบแบบขอไปที นางไม่แม้แต่จะมองหน้าสามีเลยด้วยซ้ำ

“เอาเวลาที่เจ้านึกถึงผู้อื่น มาเป็นห่วงข้าดีกว่ากระมัง” มู่เลี่ยงหรงเริ่มทำน้ำเสียงออดอ้อน

เยี่ยนเยว่ฉีเงยหน้าขึ้น นางกวาดสายตามองใบหน้าของมู่เลี่ยงหรงจนทั่ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

“หืม ท่านพี่ไม่สบายที่ใดกัน”

“ตรงนี้” มู่เลี่ยงหรงเลื่อนฝ่ามือไปยังกลางหน้าอกของตนเอง พลางขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังได้รับบาดเจ็บ

“ท่านพี่บาดเจ็บตอนฝึกยุทธ์หรือ ให้คนไปตามหมอหลวงดีหรือไม่”

 เยี่ยนเยว่ฉีเลิกแง่งอน นางปราดเขาไปใกล้พลางเอามือวางทาบทับบนหลังมือของเขาอย่างแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าตนเองจะยิ่งทำให้เขาบาดเจ็บมากขึ้นไปอีก

“ไม่ต้อง ความจริงโรคนี้รักษาหายง่ายมาก”

“ต้องทำเช่นไร หรือว่าท่านพี่มียารักษา ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดหรือ ข้าจะรีบให้คนไปนำมาให้”

“ก็อ้ายเฟยอย่างไรเล่าที่เป็นยารักษาชั้นดี” มู่เลี่ยงหรงไม่พูดเปล่า มือของเขาเริ่มป่ายปัดดั่งหนวดปลาหมึก เมื่อเห็นว่านางทำท่าจะหนีก็ตวัดกอดร่างหอมกรุ่นเอาไว้จนแน่น หนำซ้ำยังก้มลงมาจุมพิตแก้มสีชมพูของนางเสียฟอดใหญ่ “อืม รู้สึกว่ายังเจ็บอยู่เลย สงสัยต้องขออีกที”

“อย่านะ! ท่านพี่สำรวมด้วย ไม่อายผู้อื่นบ้างหรือไร” เยี่ยนเยว่ฉีร้องห้าม พลางเหลียวซ้ายแลขวา

มู่เลี่ยงหรงกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ เพียงเท่านั้นนางกำนัลและข้ารับใช้ทั้งหมดต่างเร้นกายหายไปทันที ยามนี้ริมสระบัวเหลือเขากับเยี่ยนเยว่ฉีเพียงสองต่อสอง

“ครานี้คงเริ่มรักษาได้แล้วกระมัง”

“คนบ้าอำนาจ” นางพึมพำเบา ๆ

มู่เลี่ยงหรงกลั้วหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้มลงจุมพิตริมฝีปากที่เอ่ยตำหนิตนเมื่อครู่อย่างช้าๆ รสริมฝีปากของเขาหวานดุจน้ำผึ้งก็มิปาน หญิงสาวจึงยอมรับการออดอ้อนนี้อย่างเต็มใจ

ครั้นเห็นภรรยาโอนอ่อนลงแล้ว เขาจึงถอนจุมพิต แล้วกระซิบชิดริมฝีปากนาง “อ้ายเฟย จุมพิตของเจ้าวิเศษยิ่งนัก”

“ท่านพี่หายเจ็บแล้วหรือ”

“อืม”

“เช่นนั้นเรากลับไปกินข้าวกันเถิด ข้าหิวแล้ว” เยี่ยนเยว่ฉีหน้าแดงระเรื่อ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะอายไปหมดแล้ว

มู่เลี่ยงหรงพยักหน้าตอบรับ แล้วประคองร่างอรชรไว้อย่างใส่ใจ ทั้งสองเดินเคียงคู่กันไปสู่เรือนจันทราด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

หลายทิวาราตรีผ่านพ้น เหตุการณ์ในจวนฉินอ๋องยังคงดำเนินไปตามปกติ มู่เลี่ยงหรงออกไปประชุมเช้าเป็นประจำทุกวัน หากมีเรื่องอันใดเร่งด่วน ฮ่องเต้จะทรงรั้งพระอนุชาไว้เพื่อปรึกษาหารือเสมอ ส่วนเยี่ยนเยว่ฉีเริ่มคุ้นชินกับตำหนักจันทราและเส้นทางต่างๆ ภายในจวน รวมไปถึงท่าทีการแสดงออกของบรรดาข้ารับใช้กับนางกำนัล แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สตรีที่เติบโตมากจากเมืองชายแดนรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ก็คือคำสรรพนามเรียกขานต่างๆ ยามนี้นางเป็นถึงพระชายาเอกฉินอ๋องจำต้องรักษากิริยามารยาทเอาไว้ตลอดเวลาอีกด้วย

หลังจากแต่งงานมาเจ็ดวัน ก็ไม่มีราตรีใดที่ฉินอ๋องจะไม่มาอยู่กับนาง พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้เยี่ยนเยว่ฉีพอใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ตอนนี้ตนจะไม่พร้อมปรนนิบัติสามี แต่มู่เลี่ยงหรงไม่เคยทำท่าไม่พอใจ เขาอดทนอดกลั้นไม่รบเร้าเอาแต่ใจ ยามร่วมเตียงก็เพียงตระกองกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน จุมพิตอย่างลึกซึ้งแล้วหลับไปพร้อมกัน

ในที่สุดอุปสรรคสุดท้ายก็หมดไปตามกาลเวลา หากมู่เลี่ยงหรงรับรู้ย่อมต้องใช้สิทธิของสามีเพื่อร่วมหอกับภรรยาอย่างแน่นอน

เยี่ยนเยว่ฉีรู้สึกตื่นเต้นระคนหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย แม้มารดาจะสั่งสอนสิ่งต่างๆ ที่ควรปฏิบัติยามปรนนิบัติบุรุษบนเตียงแล้วก็ตาม แต่การรู้เพียงทฤษฎีนั้นมิอาจทำให้นางหายวิตกกังวลได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่10. เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

    เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ตะวันเคลื่อนคล้อยจนทอแสงเป็นสีส้ม เยี่ยนเยว่ฉีทำถุงใส่เครื่องหอมให้มู่เลี่ยงหรงเสร็จพอดีจึงตั้งใจจะไปพบสามีที่ห้องหนังสือ นางลุกขึ้นเดินไปทางตำหนักใหญ่ ระหว่างทางก็เหลือบไปเห็นกล่องใส่ขนมใบหนึ่งถูกทิ้งเอาไว้ริมสระบัวภาพขนมดอกกุ้ยกระจัดกระจายอยู่บนพื้นหญ้า‘เกิดอันใดขึ้น ทำไมกล่องขนมจึงถูกทิ้งเล่า’เมื่อครู่ไม่ใช่ถางซือเซียนบอกกับนางว่าจะนำขนมดอกกุ้ยกล่องนี้ไปให้เยี่ยนจิ้นหลิงหรอหรือ แต่เหตุใดถึงมีสภาพเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าสาวน้อยอาจจะเผลอทำกล่องขนมหลุดมือ หรือเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับพี่ชายคนรองของนางกันระหว่างที่เยี่ยนเยว่ฉีกำลังครุ่นคิด มู่เลี่ยงหรงก็ออกมาจากห้องทำงานพอดี เขาก้าวเท้าเข้ามาหาพระชายาของตนทันที แต่พอเห็นนางสนใจสิ่งอื่นอยู่จึงมองตามสายตานั้นไป แล้วก็พบกับกล่องขนมนั่นด้วยเช่นกัน“เด็กๆ จงเก็บกล่องขนมนั้นขึ้นมา แล้วทำความสะอาดบริเวณนี้เสีย” มู่เลี่ยงหรงออกคำสั่ง ข้ารับใช้ที่อยู่ในบริเวณนั้นรีบทำตามประสงค์ของเขาในทันที“ช่างเถิด มันไม่ใช่เรื่องของเรา” มู่เลี่ยงหรงเอ่ยเสียงเรียบแต่ข้าสงสัยว่าเซียนเอ๋อร์อาจจะมีเรื่องบางอย่างกับพี่รอง” ในที่สุด

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่9 รับคำ

    “เพคะ” ถางซือเซียนรับคำ แล้ววางกล่องขนมใบใหญ่ไว้บนโต๊ะทำงานของมู่เลี่ยงหรง จากนั้นนางก็เดินจากไปเมื่อออกมาที่หน้าประตู นางหันไปบอกพี่ชายให้เข้าไปพบมู่เลี่ยงหรงได้ นางปรายสายตามองบุรุษผมสีเงินชั่วขณะหนึ่ง แต่เขาก็ยังเสมองไปทางอื่นอยู่ดี ถางซือเซียนถอนหายใจ นางส่งตะกร้าให้เสี่ยวลี่ แล้วสาวเท้าไปตามทางเดินสู่เรือนพักของเฉิงจื่อหรูลมวสันต์พัดผ่านเหล่าบุปผานานาพันธุ์กระจายกลิ่นอันสดชื่นฟุ้งไปทั่วทั้งจวน ตำหนักจันทราถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ฉินอ๋องสร้างสะพานเชื่อมระหว่างตำหนักเพื่อความสะดวก อีกทั้งยังขุดสระบัวขนาดใหญ่พร้อมปลูกศาลาเอาไว้ให้พระชายาเอกนั่งเล่นพักผ่อน สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงความรักและใส่ใจสตรีของตนได้เป็นอย่างดีเยี่ยนเยว่ฉีเพิ่งแต่งเข้าจวน มู่เลี่ยงหรงยังไม่ต้องการให้นางรับช่วงดูแลเรือนหลังในตอนนี้ อีกทั้งพระชายายังป่วยด้วยโรคลำดับเดือนของสตรี เขาจึงต้องการให้นางพักผ่อนให้มากที่สุดวังอ๋องอันใหญ่โตมีคนมากมายให้ต้องจัดการ เยี่ยนเยว่ฉีจึงคิดใช้โอกาสนี้สังเกตผู้คนไปก่อน เมื่อถึงเวลารับมอบหน้าที่ต่อจากเฉิงจื่อหรู นางจะได้จัดระบบใหม่ทั้งหมดหลังจากตื่นในตอนเช้า พระชายารองทั้งสาม

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่8 เพื่อเป็นการชดเชย

    เมื่อถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง ขาดแคลนกำลังทรัพย์ พวกคนร้ายย่อมระส่ำระสาย นอกจากนี้มู่เลี่ยงหรงสั่งให้ซิ่นเฉิงส่งองครักษ์ฝีมือดีไปลอบสืบข่าวที่จวนเอี้ยนอ๋อง หากสิ่งที่เขาคาดเอาไว้ไม่ผิด อีกไม่นานย่อมต้องมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่นั่นอย่างแน่นอนเพื่อเป็นการชดเชยที่ก่อนหน้านี้เพียงพอนกับเจ้าจิ้งจอกบังอาจเห็นเขาเป็นตัวตลก ถึงแม้พระเชษฐาจะเป็นต้นคิด แต่เขาจะทำอันใดโอรสสวรรค์ได้ เช่นนั้นก็คงมีแต่ต้องให้ทั้งสองทำคุณไถ่โทษเสียแล้ว ส่วนถางซือเซียนหลังจากถูกเยี่ยนจิ้นหลิงช่วยเอาไว้ตอนงานชมงิ้ว นางก็เริ่มมีท่าทีที่แปลกไป หากนางฟ้าน้อยใจอ่อนกับเจ้าจิ้งจอกง่ายๆ เขาคงไม่ได้ชมความครึกครื้น เช่นนั้นคงต้องหาวิธีให้ความสัมพันธ์นี้สะดุดลงเสียก่อนล่วงเข้ายามซื่อ[1] อัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายกับถางซือเซียนก็เดินทางมาถึงจวนฉินอ๋อง ทั้งคู่คิดว่ามู่เลี่ยงหรงเพียงชวนพวกเขาพี่น้องมาสังสรรค์ กินอาหารกลางวันร่วมกันดังเช่นที่ผ่านมา หารู้ไม่ว่าอ๋องหนุ่มต้องการเอาเรื่องสหายตัวดีอยู่สองพี่น้องตระกูลถางเดินมาตามระเบียงสู่ห้องหนังสือ พวกเขาประหลาดใจเมื่อพบเยี่ยนจิ้นหลิงยืนอยู่หน้าห้องอยู่ก่อนแล้ว ถางซือเซียนสาวเท้าเดินไปหาเขาพ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่7 มากกว่าผู้ใด

    “พี่รอง...เยว่ฉีรักท่านมากกว่าผู้ใด ก่อนทำอันใดลงไปย่อมต้องคิดถึงความปลอดภัยของศีรษะท่าน ส่วนใต้เท้าถาง ก็มีน้ำหนักในใจของท่านอ๋องอยู่มาก เขาคงไม่เป็นอะไรเช่นกัน ส่วนถางซือเซียนนั้น...น้องสาวไม่แน่ใจว่าท่านอ๋องจะเรียกนางมาด้วยเหตุใด”“เขาต้องการจะให้ข้าวิตกกังวลอย่างไรเล่า พรุ่งนี้ข้าคงต้องตามกลับไปด้วย”“นี่พี่รองจริงจังอย่างนั้นหรือ น้องสาวคิดว่าพี่รองแค่ทำเจ้าชู้ไปตามปกติเท่านั้น จึงไม่เคยสังเกต” เยี่ยนเยว่ฉีขมวดคิ้ว ปกติพี่ชายคนนี้มักมีสตรีเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ แต่เขาไม่เคยจริงจัง และไม่มีผู้ใดจะทำให้จิ้งจอกเป็นกังวลได้“...” เยี่ยนจิ้นหลิงเม้มริมฝีปาก“ว่าอย่างไรเล่า นางคือคนที่ท่านหมายตา หรือว่าเป็นแค่เครื่องมือ”“น้องเล็ก เจ้าถามเหมือนเป็นห่วงนาง”“ถางซือเซียนเป็นเพียงหญิงสาวไร้เดียงสา หากท่านพี่จะหลอกลวงนางเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ข้าก็อยากจะขอให้ท่านทบทวนดูใหม่”“ใช่ นางบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แล้วอย่างไรเล่า”“หากท่านไม่บริสุทธิ์ใจก็ควรปล่อยนางไป”“เจ้าไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงเรื่องของข้า” เยี่ยนจิ้นหลิงโบกพัดตัดบท“พี่รอง ท่านอย่าได้ล้อเล่นกับหัวใจผู้อื่นให้มากนัก”“ฉีเอ๋อร์ หากข

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่6 ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้เลย

    “ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้เลย” มู่เลี่ยงหรงตกใจมาก เพราะสามหัวหน้าห้องเครื่องของวังหลวงเป็นหน้าที่สำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ทำอาหารโดยตรงเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นราชองครักษ์ใกล้ชิดผู้คอยควบคุมความปลอดภัยของอาหารที่จะถูกส่งไปให้ฮ่องเต้“เอ๋...ท่านอัครเสนาบดีไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ท่านพี่ฟังหรือ”“เกี่ยวอะไรกับซือเซิน”“ก็ท่านตาของข้าเป็นสหายกับเซวียนผิงโหวบิดาเขา เมื่อปีก่อนใต้เท้าถางยังไปเยี่ยมท่านแม่แทนท่านโหวกับท่านตาที่เมืองหานจีอยู่เลย”มู่เลี่ยงหรงโกรธถางซือเซินไม่น้อย แท้จริงแล้วพวกเขาสนิทชิดเชื้อกันถึงเพียงนี้ แต่เจ้าเพียงพอนตัวดีกลับเผยความจริงเพียงเสี้ยวเดียวเหมือนไม่เห็นเขาในสายตา“ครอบครัวของพวกเจ้าคงสนิทกันมากสินะ”“แน่นอนสิเพคะ จะว่าไปท่านอ๋องก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าใต้เท้าถางถือเป็นศิษย์พี่ของพี่รองด้วย”“อืม ซือเซินคงเห็นว่าไม่สำคัญจนต้องเล่ากระมัง” มู่เลี่ยงหรงรักษาท่าทีสงบเอาไว้ ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อน ทั้งที่ถางซือเซินสารภาพมาแล้วกึ่งหนึ่ง เพราะต้องการจะดูปฏิกิริยาของจิ้งจอกสีเงิน‘น้องเล็ก เจ้าต้องการสิ่งใดกัน’เยี่ยนจิ้นหลิงอยากจะห้ามน้องสาวก็ไม่ทันการณ์เสียแล้

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่5 ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว

    “ทุกคนตามสบาย วันนี้ข้ามาในฐานะบุตรเขย ท่านพ่อตากับท่านแม่ยายไม่ต้องมากพิธี” มู่เลี่ยงหรงตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ“ท่านอ๋องพาพระชายากลับมาก่อนเวลา อาหารกลางวันจึงยังไม่เรียบร้อย ท่านตามพวกผู้ชายไปสนทนากันก่อน ส่วนหม่อมฉันขอพาหวางเฟยไปพูดคุยตามประสาแม่ลูกนะเพคะ” ไป๋หลันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“ย่อมได้” อ๋องหนุ่มพยักหน้าตอบรับไป๋หลันจึงจูงมือฉินหวางเฟยไปอีกทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว นางมีเรื่องมากมายอยากจะถามไถ่ ด้วยแท้จริงเป็นห่วงบุตรสาวที่ต้องดูแลจวนอ๋องอันใหญ่โต คงจะลำบากมากทีเดียว ส่วนพวกผู้ชายก็เชิญฉินอ๋องไปยังห้องรับรองซึ่งอยู่ไม่ไกลบรรยากาศไม่ค่อยอึมครึมแล้ว หลังจากมู่เลี่ยงหรงแกล้งเมามายพ่ายแพ้ในงานเลี้ยงแต่งงาน เยี่ยนหยางเจวี๋ยก็ดูจะพออกพอใจ ผู้เป็นอ๋องหวังว่าวันนี้พ่อตาจะไม่ทดสอบอะไรเขาอีกบุรุษทั้งสี่สนทนากันอย่างออกรส แม่ทัพใหญ่รู้สึกทึ่งบุตรเขยอยู่ไม่น้อย ฉินอ๋องมีความรู้กว้างขวาง แม้แต่เรื่องรบทัพจับศึกก็เชี่ยวชาญ ต่างจากที่ตนคิดเอาไว้อย่างมาก เขานึกว่าอ๋องผู้นี้คงดีแต่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปวันๆ ที่ได้ตำแหน่งสำคัญมาก็คงอาศัยพระบารมีของฮ่องเต้ แต่ดูเหมือนตนจะมองผิด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status